逐节对照
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - ความโง่ของมนุษย์ทำลายวิถีทางของตนเอง และใจของเขาเกรี้ยวกราดต่อพระผู้เป็นเจ้า
- 新标点和合本 - 人的愚昧倾败他的道; 他的心也抱怨耶和华。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 人因愚昧自毁前途, 他的心却埋怨耶和华。
- 和合本2010(神版-简体) - 人因愚昧自毁前途, 他的心却埋怨耶和华。
- 当代译本 - 人因愚昧而自毁前程, 他的心却抱怨耶和华。
- 圣经新译本 - 人的愚妄毁灭自己的道路; 他的心却恼怒耶和华。
- 中文标准译本 - 人的愚妄倾覆自己的道路, 他的心却对耶和华恼怒。
- 现代标点和合本 - 人的愚昧倾败他的道, 他的心也抱怨耶和华。
- 和合本(拼音版) - 人的愚昧倾败他的道, 他的心也抱怨耶和华。
- New International Version - A person’s own folly leads to their ruin, yet their heart rages against the Lord.
- New International Reader's Version - A person’s own foolish acts destroy their life. But their heart is angry with the Lord.
- English Standard Version - When a man’s folly brings his way to ruin, his heart rages against the Lord.
- New Living Translation - People ruin their lives by their own foolishness and then are angry at the Lord.
- The Message - People ruin their lives by their own stupidity, so why does God always get blamed?
- Christian Standard Bible - A person’s own foolishness leads him astray, yet his heart rages against the Lord.
- New American Standard Bible - The foolishness of a person ruins his way, And his heart rages against the Lord.
- New King James Version - The foolishness of a man twists his way, And his heart frets against the Lord.
- Amplified Bible - The foolishness of man undermines his way [ruining whatever he undertakes]; Then his heart is resentful and rages against the Lord [for, being a fool, he blames the Lord instead of himself].
- American Standard Version - The foolishness of man subverteth his way; And his heart fretteth against Jehovah.
- King James Version - The foolishness of man perverteth his way: and his heart fretteth against the Lord.
- New English Translation - A person’s folly subverts his way, and his heart rages against the Lord.
- World English Bible - The foolishness of man subverts his way; his heart rages against Yahweh.
- 新標點和合本 - 人的愚昧傾敗他的道; 他的心也抱怨耶和華。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 人因愚昧自毀前途, 他的心卻埋怨耶和華。
- 和合本2010(神版-繁體) - 人因愚昧自毀前途, 他的心卻埋怨耶和華。
- 當代譯本 - 人因愚昧而自毀前程, 他的心卻抱怨耶和華。
- 聖經新譯本 - 人的愚妄毀滅自己的道路; 他的心卻惱怒耶和華。
- 呂振中譯本 - 人的愚妄使他所行的敗倒, 他的心就向永恆主生氣。
- 中文標準譯本 - 人的愚妄傾覆自己的道路, 他的心卻對耶和華惱怒。
- 現代標點和合本 - 人的愚昧傾敗他的道, 他的心也抱怨耶和華。
- 文理和合譯本 - 人因愚而敗其途、其心遂怨耶和華、
- 文理委辦譯本 - 愚人失足、遂怨耶和華。
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 人愚而道不通、心遂怨主、
- Nueva Versión Internacional - La necedad del hombre le hace perder el rumbo, y para colmo su corazón se irrita contra el Señor.
- 현대인의 성경 - 사람은 자기가 미련해서 앞길을 망치고서도 마음으로는 하나님을 원망한다.
- Новый Русский Перевод - Человек своей же глупостью губит себе жизнь, а сердце его злится на Господа.
- Восточный перевод - Человек своей же глупостью губит себе жизнь, а сердце его злится на Вечного.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Человек своей же глупостью губит себе жизнь, а сердце его злится на Вечного.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Человек своей же глупостью губит себе жизнь, а сердце его злится на Вечного.
- La Bible du Semeur 2015 - La sottise d’un homme cause son naufrage, alors il s’en prend à l’Eternel.
- リビングバイブル - 人は自分の不注意でチャンスを逃しては、 それを主のせいにします。
- Nova Versão Internacional - É a insensatez do homem que arruína a sua vida, mas o seu coração se ira contra o Senhor.
- Hoffnung für alle - Manch einer ruiniert sich durch eigene Dummheit, ereifert sich dann aber über den Herrn!
- Kinh Thánh Hiện Đại - Đường lối người hư hỏng bởi sự ngu dại mình, nhưng nó lại u mê oán hận Chúa Hằng Hữu.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - ความโง่ของคนทำลายชีวิตตนเอง แต่ใจของเขากลับโกรธโทษองค์พระผู้เป็นเจ้า
交叉引用
- กันดารวิถี 17:12 - ชาวอิสราเอลพูดกับโมเสสว่า “ดูเถิด พวกเราจะตายแน่ เราต้องย่อยยับ เราต้องย่อยยับแน่
- กันดารวิถี 17:13 - ใครก็ตามที่เข้าใกล้ เข้าไปใกล้กระโจมที่พำนักของพระผู้เป็นเจ้าจะต้องตาย พวกเราทุกคนจะตายกันไหม”
- 1 ซามูเอล 13:13 - ซามูเอลพูดว่า “ท่านกระทำสิ่งที่โง่เขลา ท่านไม่ได้รักษาคำบัญชาที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านให้ท่านไว้ หากว่าท่านรักษาคำบัญชา พระองค์ก็จะสถาปนาอาณาจักรของท่านให้ปกครองอิสราเอลไปตลอดกาล
- สดุดี 37:1 - อย่าว้าวุ่นใจเพราะคนชั่ว หรืออิจฉาคนที่ทำสิ่งเลวร้าย
- ปฐมกาล 3:6 - เมื่อหญิงนั้นเห็นว่าผลจากต้นนั้นกินเป็นอาหารได้ แถมยังดูน่ากิน และเป็นต้นที่ชวนให้อยากได้ เพื่อทำให้ตนฉลาดรอบรู้ นางจึงเด็ดผลจากต้นนั้นกิน แล้วนำไปให้สามี และเขาก็กิน
- ปฐมกาล 3:7 - ครั้นแล้วตาของคนทั้งสองก็เห็นความเป็นจริง เห็นว่ากายของตัวเองเปลือยอยู่ จึงนำใบมะเดื่อมากลัดโยงเข้าด้วยกันไว้ที่เอวเพื่อปกปิดร่างของตน
- ปฐมกาล 3:8 - แล้วสองคนได้ยินเสียงย่างเท้าของพระผู้เป็นเจ้า องค์พระเจ้าในสวน ขณะที่สายลมกำลังพัดผ่านในเย็นวันนั้น ชายผู้นั้นกับภรรยาพากันซ่อนตัวในหมู่ต้นไม้ในสวน ไม่ให้พระองค์เห็นตัว
- ปฐมกาล 3:9 - แต่พระผู้เป็นเจ้า องค์พระเจ้าเรียกเขาโดยกล่าวว่า “เจ้าอยู่ไหน”
- ปฐมกาล 3:10 - เขาพูดว่า “ข้าพเจ้าได้ยินเสียงพระองค์ในสวน และข้าพเจ้ากลัว เพราะว่ากายของข้าพเจ้าเปลือย ข้าพเจ้าจึงซ่อนตัวอยู่”
- ปฐมกาล 3:11 - พระองค์กล่าวว่า “ใครบอกเจ้าว่ากายของเจ้าเปลือย เจ้ากินผลไม้จากต้นไม้ที่เราสั่งห้ามใช่ไหม”
- ปฐมกาล 3:12 - ชายนั้นพูดว่า “หญิงที่พระองค์มอบให้เพื่ออยู่กับข้าพเจ้า เอาผลจากต้นไม้มาให้ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็รับประทาน”
- 1 ซามูเอล 15:23 - เพราะว่าการขัดขืนเป็นดั่งบาปของการทำนายอนาคต และความยโสเป็นดั่งความชั่วของการบูชารูปเคารพ เพราะท่านไม่ได้กระทำตามคำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้า พระองค์ไม่ยอมรับท่านเป็นกษัตริย์แล้ว”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 3:9 - ดังนั้น กษัตริย์แห่งอิสราเอลจึงไปกับกษัตริย์แห่งยูดาห์และกษัตริย์แห่งเอโดม หลังจากที่ได้เดินจนรอบเป็นเวลา 7 วันแล้ว น้ำสำหรับกองทัพและสัตว์ที่ไปด้วยก็หมด
- 2 พงศ์กษัตริย์ 3:10 - กษัตริย์แห่งอิสราเอลจึงพูดว่า “โอ พระผู้เป็นเจ้าได้เรียกกษัตริย์ทั้งสามนี้มา เพื่อมอบไว้ในมือของโมอับ”
- สุภาษิต 11:3 - สัจจะของผู้มีความชอบธรรมจะนำทางพวกเขา แต่การบิดเบือนของผู้ไม่ซื่อตรงจะทำลายเขา
- วิวรณ์ 16:9 - แล้วมนุษย์ก็ถูกความร้อนอันแรงกล้าแผดเผา พวกเขาพูดหมิ่นประมาทพระนามของพระเจ้าผู้มีอานุภาพเหนือภัยพิบัติเหล่านี้ แต่พวกเขาก็ไม่ยอมกลับใจและไม่สรรเสริญพระบารมีของพระองค์
- วิวรณ์ 16:10 - ทูตสวรรค์องค์ที่ห้าก็เทขันของท่านลงบนบัลลังก์ของอสุรกาย ซึ่งทำให้อาณาจักรของมันมืดมิด เหล่ามนุษย์กัดลิ้นของตนเนื่องจากความเจ็บปวด
- วิวรณ์ 16:11 - แล้วก็พูดหมิ่นประมาทพระเจ้าแห่งสวรรค์เพราะความเจ็บปวดและแผลของพวกเขา แต่ก็ไม่กลับใจจากการประพฤติตน
- กิจการของอัครทูต 13:45 - เมื่อชาวยิวเห็นว่ามีผู้คนจำนวนมากก็เกิดความริษยาขึ้น จึงพูดจาดูแคลนและคัดค้านคำพูดของเปาโล
- กิจการของอัครทูต 13:46 - เปาโลและบาร์นาบัสก็ตอบคนเหล่านั้นด้วยใจกล้าหาญว่า “จำเป็นที่เราจะพูดถึงคำกล่าวของพระเจ้ากับพวกท่านก่อน เมื่อท่านไม่รับและไม่คิดว่าพวกท่านเองสมควรที่จะได้รับชีวิตอันเป็นนิรันดร์ เราจึงได้เบนเข็มมายังบรรดาคนนอก
- 2 พงศาวดาร 16:9 - เพราะว่าพระผู้เป็นเจ้าเฝ้าจับตามองไปทั่วแผ่นดินโลก เพื่อเสริมกำลังแก่บรรดาผู้ที่มุ่งมั่นต่อพระองค์ แต่ท่านกลับทำตัวอย่างคนเขลา จากนี้ไปท่านจะต้องเผชิญกับสงคราม”
- 2 พงศาวดาร 16:10 - อาสาจึงโกรธผู้รู้ และสั่งให้จำจองเขา เรื่องนี้ทำให้ท่านโกรธมาก และในเวลาเดียวกันอาสาก็กดขี่ข่มเหงประชาชนบางคนอย่างทารุณด้วย
- ปฐมกาล 4:5 - แต่พระองค์กลับไม่พอใจคาอินกับของถวาย ฉะนั้นคาอินจึงเดือดดาลมาก และหน้าตาก็หม่นหมอง
- ปฐมกาล 4:6 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับคาอินว่า “ทำไมเจ้าจึงเดือดดาล ทำไมหน้าตาของเจ้าจึงหม่นหมองเช่นนั้น
- ปฐมกาล 4:7 - ถ้าเจ้าทำดี แล้วเราจะไม่รับเจ้าเช่นนั้นหรือ แต่ถ้าเจ้าทำไม่ดี บาปก็กำลังรอตะครุบเจ้าอยู่ที่ประตู มันต้องการตัวเจ้า เจ้าจะต้องเอาชนะมันให้ได้”
- ปฐมกาล 4:8 - คาอินพูดกับอาเบลน้องชายของตนว่า “เราออกไปที่ทุ่งกันเถิด” เมื่อเขาทั้งสองอยู่ในทุ่ง คาอินโถมตัวเข้าใส่อาเบลน้องชายของตน และฆ่าเขาเสีย
- ปฐมกาล 4:9 - แล้วพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับคาอินว่า “อาเบลน้องชายของเจ้าอยู่ไหน” เขาตอบว่า “ข้าพเจ้าไม่ทราบ ข้าพเจ้ามีหน้าที่ดูแลน้องหรือ”
- ปฐมกาล 4:10 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า “เจ้าทำอะไรลงไป เลือดของน้องชายเจ้ากำลังฟ้องร้องขึ้นมาจากพื้นดิน
- ปฐมกาล 4:11 - และบัดนี้เจ้าได้ถูกสาปแช่งจากแผ่นดินที่ซึมซับรับเอาเลือดของน้องชายเจ้า ที่หลั่งออกมาเพราะมือของเจ้าเอง
- ปฐมกาล 4:12 - เวลาเจ้าทำไร่พรวนดิน พืชผลจะไม่ให้ผลแก่เจ้าอีกต่อไป เจ้าจะหลบหนีและซัดเซพเนจรไปในโลก”
- ปฐมกาล 4:13 - คาอินพูดกับพระผู้เป็นเจ้าว่า “โทษของข้าพเจ้าสาหัสเกินที่ข้าพเจ้าจะรับได้
- ปฐมกาล 4:14 - ดูเถิด วันนี้พระองค์ขับไล่ข้าพเจ้าออกจากแผ่นดิน ข้าพเจ้าก็ต้องไปให้พ้นหน้าพระองค์ ข้าพเจ้าจะหลบหนีและซัดเซพเนจรไปในโลก ใครก็ตามที่พบข้าพเจ้าจะฆ่าข้าพเจ้าเสีย”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 6:33 - ขณะที่ท่านกำลังพูดอยู่ ผู้ส่งสาสน์มาถึงท่านและพูดว่า “เราจะรอรับความช่วยเหลือจากพระผู้เป็นเจ้าต่อไปทำไม ในเมื่อความทุกข์ร้อนนี้มาจากพระองค์”
- 1 ซามูเอล 22:13 - ซาอูลกล่าวกับเขาว่า “ทำไมท่านจึงคิดกบฏต่อเรา ทั้งตัวท่านและลูกของเจสซี ท่านให้ขนมปังและดาบ และได้ถามพระเจ้าให้เขา เขาจึงแข็งข้อกับเรา รอที่จะฆ่าเราอย่างที่เป็นอยู่ในวันนี้”
- 1 ซามูเอล 22:14 - อาหิเมเลคตอบกษัตริย์ว่า “แล้วใครในหมู่บริวารของท่านที่สัตย์ซื่อเหมือนดาวิดบุตรเขยของกษัตริย์ เขาเป็นหัวหน้าทหารรักษาพระองค์และมีเกียรติในวังของท่าน
- 1 ซามูเอล 22:15 - วันนี้เป็นวันแรกหรือที่ข้าพเจ้าถามพระเจ้าให้ดาวิด เปล่าเลย อย่าให้กษัตริย์กล่าวหาข้ารับใช้หรือญาติผู้ใดในตระกูลของข้าพเจ้า เพราะว่าข้ารับใช้ของท่านไม่ทราบสิ่งใดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตาม”
- 1 ซามูเอล 22:16 - กษัตริย์กล่าวว่า “อาหิเมเลค ท่านจะต้องตายแน่ ทั้งตัวท่านและทั้งตระกูลของท่าน”
- 1 ซามูเอล 22:17 - และกษัตริย์กล่าวกับทหารคุ้มกันที่ยืนอยู่ใกล้ท่านว่า “หันไปฆ่าพวกปุโรหิตของพระผู้เป็นเจ้าเสีย เพราะเขาร่วมมือกับดาวิด ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาหนีไป และไม่ยอมบอกให้เรารู้” แต่พวกบริวารของกษัตริย์ไม่ยอมยื่นมือประหารบรรดาปุโรหิตของพระผู้เป็นเจ้า
- 1 ซามูเอล 22:18 - กษัตริย์จึงกล่าวกับโดเอกว่า “เจ้าจงหันไปฆ่าพวกปุโรหิต” แล้วโดเอกชาวเอโดมก็หันไปฆ่าบรรดาปุโรหิต และในวันนั้นเขาฆ่าคน 85 คนที่สวมชุดคลุมผ้าป่าน
- 1 ซามูเอล 22:19 - ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เด็กและทารก โค ลา และแกะถูกฆ่าตายหมดที่เมืองโนบ อันเป็นเมืองปุโรหิต
- 1 ซามูเอล 22:20 - แต่อาบียาธาร์บุตรคนหนึ่งของอาหิเมเลคบุตรอาหิทูบหลบหนีตามดาวิดไปได้
- 1 ซามูเอล 22:21 - อาบียาธาร์บอกดาวิดว่าซาอูลได้ฆ่าบรรดาปุโรหิตของพระผู้เป็นเจ้า
- 1 ซามูเอล 22:22 - ดาวิดบอกอาบียาธาร์ว่า “เรารู้ในวันนั้นเมื่อโดเอกชาวเอโดมอยู่ที่นั่น เขาจะต้องบอกซาอูลแน่นอน เรารับผิดชอบกับความตายของทุกคนในตระกูลของท่าน
- 1 ซามูเอล 22:23 - อยู่กับเราเถิด อย่ากลัวเลย เพราะว่าคนที่ตามล่าชีวิตเราก็ตามล่าชีวิตท่านด้วย ท่านจะปลอดภัยในความดูแลของเรา”
- อิสยาห์ 8:21 - พวกเขาจะผ่านไปในแผ่นดิน เป็นทุกข์และหิวโหย และเมื่อพวกเขาหิว ความเดือดดาลก็จะพลุ่งขึ้น ขณะที่แหงนหน้าขึ้นพวกเขาก็จะแช่งกษัตริย์และพระเจ้าของพวกเขา
- อิสยาห์ 8:22 - และพวกเขาจะมองดูบนแผ่นดินโลก ดูเถิด ความทุกข์และความมืด ความเจ็บปวดรวดร้าวอันมืดมน และพวกเขาจะถูกผลักไปสู่ความมืดมิด
- กันดารวิถี 16:19 - เมื่อโคราห์เรียกมวลชนมาประชุมกันเพื่อประท้วงท่านทั้งสองที่ทางเข้ากระโจมที่นัดหมาย พระบารมีของพระผู้เป็นเจ้าก็ปรากฏขึ้นแก่มวลชนทั้งปวง
- กันดารวิถี 16:20 - และพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสและอาโรนว่า
- กันดารวิถี 16:21 - “จงแยกตัวออกมาจากมวลชนเหล่านี้ เราจะได้เผาพวกเขาเสียภายในพริบตา”
- กันดารวิถี 16:22 - ทั้งสองจึงซบหน้าลงกับพื้นและพูดว่า “โอ พระเจ้า พระเจ้าของวิญญาณมนุษย์ทั้งปวง ใยพระองค์จะกริ้วโกรธกับมวลชนทั้งปวงในเมื่อมีเพียงคนคนเดียวกระทำบาป”
- กันดารวิถี 16:23 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า
- กันดารวิถี 16:24 - “จงบอกมวลชนว่าให้ออกไปจากบริเวณรอบๆ ที่พักของโคราห์ ดาธาน และอะบีราม”
- กันดารวิถี 16:25 - โมเสสจึงลุกขึ้นไปหาดาธานและอะบีราม บรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของอิสราเอลก็ตามท่านไป
- กันดารวิถี 16:26 - และท่านพูดกับผู้คนทั้งปวงว่า “เราขอให้พวกท่านออกจากกระโจมของคนชั่วร้ายเหล่านี้ และอย่าแตะต้องสิ่งของที่เป็นของเขา มิฉะนั้นท่านจะถูกกำจัดไปพร้อมกับบาปทุกชนิดของพวกเขา”
- กันดารวิถี 16:27 - ดังนั้นเขาทั้งหลายจึงออกไปจากบริเวณรอบๆ ที่พักของโคราห์ ดาธาน และอะบีราม แล้วดาธานกับอะบีรามก็ออกมายืนอยู่ที่ทางเข้ากระโจมกับบรรดาภรรยา บุตร และเด็กเล็กของเขา
- กันดารวิถี 16:28 - แล้วโมเสสพูดว่า “ด้วยเหตุการณ์เช่นนี้พวกท่านจะรู้ว่าพระผู้เป็นเจ้าได้ส่งเรามาเพื่อปฏิบัติงาน และไม่ใช่ความคิดของเราเอง
- กันดารวิถี 16:29 - ถ้าหากคนพวกนี้ตายเหมือนๆ กับที่คนทั่วๆ ไปตายและประสบกับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นเหมือนคนทั่วไป ก็นับว่าพระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ส่งเรามา
- กันดารวิถี 16:30 - แต่ถ้าพระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้ทำให้เรื่องที่เกิดขึ้นต่างไปจากนี้ แผ่นดินจะเปิดปากและกลืนพวกเขาเข้าไปพร้อมกับทุกสิ่งที่เป็นของเขา พวกเขาจะลงไปที่แดนคนตายทั้งเป็น และพวกท่านจะได้รู้ว่าคนเหล่านี้ได้ดูหมิ่นพระผู้เป็นเจ้า”
- กันดารวิถี 16:31 - เมื่อท่านพูดจบ พื้นดินเบื้องล่างก็แยกออก
- กันดารวิถี 16:32 - และแผ่นดินได้ดูดกลืนเขาเหล่านั้นลงไปพร้อมกับครอบครัวและทุกคนที่เป็นของโคราห์อีกทั้งข้าวของทุกอย่างที่เป็นของเขาด้วย
- กันดารวิถี 16:33 - ฉะนั้นเขาเหล่านั้นและทุกสิ่งที่เป็นของเขาถูกดูดลงไปในแดนคนตายทั้งเป็น แล้วแผ่นดินก็พลิกกลบพวกเขา เขาเหล่านั้นได้ตายไปในท่ามกลางมวลชน
- กันดารวิถี 16:34 - แล้วชาวอิสราเอลทุกคนที่อยู่แถวนั้นได้ยินเสียงร้องของเขาเหล่านั้นก็พากันหนี พูดกันว่า “กลัวว่าแผ่นดินจะดูดกลืนพวกเราลงไปด้วย”
- กันดารวิถี 16:35 - เปลวไฟพุ่งออกมาจากพระผู้เป็นเจ้าและไหม้ตัวชาย 250 คนที่กำลังมอบเครื่องหอมอยู่
- กันดารวิถี 16:36 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า
- กันดารวิถี 16:37 - “จงบอกเอเลอาซาร์บุตรของอาโรนปุโรหิตให้เอากระถางไฟออกจากเพลิงไฟและโยนถ่านทิ้งไปให้ไกล เพราะกระถางไฟบริสุทธิ์
- กันดารวิถี 16:38 - ส่วนกระถางของชายเหล่านี้ที่กระทำบาป จนเป็นเหตุให้พวกเขาถึงแก่ความตาย เจ้าจงใช้ค้อนตีให้เป็นแผ่นเพื่อใช้คลุมแท่นบูชา เพราะถูกมอบ ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าแล้วจึงนับว่าบริสุทธิ์ ฉะนั้นสิ่งเหล่านี้จะเป็นหมายสำคัญที่เตือนชาวอิสราเอล”
- กันดารวิถี 16:39 - เอเลอาซาร์ปุโรหิตจึงรวบรวมกระถางไฟทองสัมฤทธิ์ของคนที่ถูกไฟเผาในการถวาย โดยให้คนใช้ค้อนตีกระถางเหล่านั้นให้เป็นแผ่นเพื่อใช้คลุมแท่นบูชา
- กันดารวิถี 16:40 - เพื่อเตือนความจำสำหรับชาวอิสราเอลว่าไม่ควรมีผู้ใดเข้ามาใกล้และเผาเครื่องหอม ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า ยกเว้นผู้สืบเชื้อสายของอาโรน มิฉะนั้นเขาจะเป็นเหมือนโคราห์และพวกของเขา ตามที่พระผู้เป็นเจ้าได้กล่าวแก่เอเลอาซาร์ผ่านโมเสส
- กันดารวิถี 16:41 - วันรุ่งขึ้นมวลชนชาวอิสราเอลทั้งปวงพากันบ่นพึมพำต่อว่าโมเสสและอาโรนว่า “ท่านได้ฆ่าผู้คนของพระผู้เป็นเจ้า”
- 1 พงศ์กษัตริย์ 20:42 - เขากล่าวว่า “พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้คือ ‘เป็นเพราะเจ้าปล่อยให้ชายคนที่เรากำหนดให้พินาศหลุดมือไป เจ้าจะต้องทดแทนชีวิตเขาด้วยชีวิตของเจ้าเอง และทดแทนกองทัพของเขาด้วยประชาชนของเจ้า’”
- 1 พงศ์กษัตริย์ 20:43 - แล้วกษัตริย์ก็กลับวังของท่านที่สะมาเรีย รู้สึกไม่สบายใจและโกรธยิ่งนัก
- สดุดี 37:7 - จงนิ่งเงียบเมื่ออยู่ ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า และรอคอยด้วยความอดทน อย่าว้าวุ่นใจเมื่อคนอื่นประสบความสำเร็จตามวิถีทางของเขา เมื่อเขาทำตามเล่ห์กลของเขา