逐节对照
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - แม้ว่าเราให้พวกเขากระจัดกระจายไปในท่ามกลางบรรดาชนชาติ ซึ่งอยู่ไกลแสนไกล แต่พวกเขาก็จะยังจำเราได้ ทั้งตัวเขาและบรรดาลูกๆ จะคงชีวิตอยู่ได้ และพวกเขาจะกลับมา
- 新标点和合本 - 我虽然(或译:必)播散他们在列国中, 他们必在远方记念我。 他们与儿女都必存活,且得归回。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 我要将他们分散在列国中, 他们必在远方记得我; 他们与儿女都必存活, 他们要归回。
- 和合本2010(神版-简体) - 我要将他们分散在列国中, 他们必在远方记得我; 他们与儿女都必存活, 他们要归回。
- 当代译本 - 虽然我把他们分散到列国, 他们必在远方想起我, 他们及其子女必得以幸存, 并且回到故土。
- 圣经新译本 - 虽然我把他们散播在万民中, 他们仍要在远方记念我; 他们与他们的子孙都要存活,并且归回。
- 中文标准译本 - 我虽然把他们播散在万民中, 他们却要在远方记念我; 他们与他们的儿女都必存活,并要回归。
- 现代标点和合本 - 我虽然 播散他们在列国中, 他们必在远方记念我。 他们与儿女都必存活,且得归回。
- 和合本(拼音版) - 我虽然 播散他们在列国中, 他们必在远方记念我。 他们与儿女都必存活,且得归回。
- New International Version - Though I scatter them among the peoples, yet in distant lands they will remember me. They and their children will survive, and they will return.
- New International Reader's Version - I have scattered them among the nations. But in lands far away they will remember me. They and their children will be kept alive. And they will return.
- English Standard Version - Though I scattered them among the nations, yet in far countries they shall remember me, and with their children they shall live and return.
- New Living Translation - Though I have scattered them like seeds among the nations, they will still remember me in distant lands. They and their children will survive and return again to Israel.
- Christian Standard Bible - Though I sow them among the nations, they will remember me in the distant lands; they and their children will live and return.
- New American Standard Bible - When I scatter them among the peoples, They will remember Me in distant countries, And they with their children will live and come back.
- New King James Version - “I will sow them among the peoples, And they shall remember Me in far countries; They shall live, together with their children, And they shall return.
- Amplified Bible - When I scatter them among the nations, They will remember Me in far countries, And with their children they will live and come back [to Me and the land I gave them].
- American Standard Version - And I will sow them among the peoples; and they shall remember me in far countries; and they shall live with their children, and shall return.
- King James Version - And I will sow them among the people: and they shall remember me in far countries; and they shall live with their children, and turn again.
- New English Translation - Though I scatter them among the nations, they will remember in far-off places – they and their children will sprout forth and return.
- World English Bible - I will sow them among the peoples; and they will remember me in far countries; and they will live with their children, and will return.
- 新標點和合本 - 我雖然(或譯:必)播散他們在列國中, 他們必在遠方記念我。 他們與兒女都必存活,且得歸回。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 我要將他們分散在列國中, 他們必在遠方記得我; 他們與兒女都必存活, 他們要歸回。
- 和合本2010(神版-繁體) - 我要將他們分散在列國中, 他們必在遠方記得我; 他們與兒女都必存活, 他們要歸回。
- 當代譯本 - 雖然我把他們分散到列國, 他們必在遠方想起我, 他們及其子女必得以倖存, 並且回到故土。
- 聖經新譯本 - 雖然我把他們散播在萬民中, 他們仍要在遠方記念我; 他們與他們的子孫都要存活,並且歸回。
- 呂振中譯本 - 我雖 播散他們在列族之民中, 他們在遠方還是要懷念着我; 他們跟兒女都必活着, 並且回來。
- 中文標準譯本 - 我雖然把他們播散在萬民中, 他們卻要在遠方記念我; 他們與他們的兒女都必存活,並要回歸。
- 現代標點和合本 - 我雖然 播散他們在列國中, 他們必在遠方記念我。 他們與兒女都必存活,且得歸回。
- 文理和合譯本 - 我將播之於列邦、彼在遠方、必記憶我、偕其子女得生而還、
- 文理委辦譯本 - 彼雖流離於列邦、必在遠方念我、率其子女、勢若復生、而歸斯土、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 我曾散之於列邦、彼在遠方、亦必念我、彼偕子女、皆生存而歸 故土、
- Nueva Versión Internacional - Aunque los dispersé entre los pueblos, en tierras remotas se acordarán de mí. Aunque vivieron allí con sus hijos, regresarán a su tierra.
- 현대인의 성경 - 내가 비록 그들을 온 세계에 흩어 버렸으나 그들은 멀리서도 나를 기억할 것이다. 그리고 그들과 그 자녀들이 생존하였다가 돌아올 것이다.
- Новый Русский Перевод - Пусть Я рассеял их среди народов – они Меня вспомнят и в дальних странах. Они и их дети выживут и возвратятся.
- Восточный перевод - Пусть Я рассеял их среди народов – они Меня вспомнят и в дальних странах. Они и их дети выживут и возвратятся.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Пусть Я рассеял их среди народов – они Меня вспомнят и в дальних странах. Они и их дети выживут и возвратятся.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Пусть Я рассеял их среди народов – они Меня вспомнят и в дальних странах. Они и их дети выживут и возвратятся.
- La Bible du Semeur 2015 - Je les ai dispersés ╵au sein de peuples étrangers, dans des pays lointains ; ╵là ils se souviendront de moi. Ils subsisteront avec leurs enfants, ils reviendront.
- リビングバイブル - わたしは彼らを種のように諸国にまき散らしたが、 それでも彼らはわたしを思い出し、 神のもとへ帰って来る。 子どもたちをみな連れて、 イスラエルのわが家へ帰って来る。
- Nova Versão Internacional - Embora eu os espalhe por entre os povos de terras distantes, eles se lembrarão de mim. Criarão seus filhos e voltarão.
- Hoffnung für alle - Wie man Samen aussät, so habe ich sie unter die Völker zerstreut. Doch wenn sie sich in den fernen Ländern wieder an mich erinnern, werden sie und ihre Kinder am Leben bleiben; ja, sie dürfen nach Israel heimkehren.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Dù Ta đã rải họ ra khắp các nước xa xôi, nhưng họ sẽ nhớ đến Ta. Họ sẽ trở về, đem theo tất cả con cái mình.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - แม้ว่าเราทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปในหมู่ชนชาติต่างๆ แต่ในแดนไกลโพ้นพวกเขาจะระลึกถึงเรา พวกเขากับลูกหลานจะอยู่รอด และพวกเขาจะกลับมา
交叉引用
- มีคาห์ 5:7 - แล้วผู้ที่มีชีวิตเหลืออยู่ของยาโคบ จะอยู่ในท่ามกลางชนชาติจำนวนมาก จะเป็นดั่งน้ำค้างจากพระผู้เป็นเจ้า ดั่งละอองฝนบนใบหญ้า ซึ่งไม่หวังพึ่งใคร หรือรอคอยบรรดาบุตรของมนุษย์
- กิจการของอัครทูต 13:1 - ในคริสตจักรเมืองอันทิโอก มีกลุ่มผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าและพวกอาจารย์ คือบาร์นาบัส สิเมโอนที่มีอีกชื่อหนึ่งว่านิเกอร์ ลูสิอัสชาวเมืองไซรีน มานาเอน (ซึ่งเติบโตคู่มากับเฮโรดผู้ปกครองแคว้น) และเซาโล
- กิจการของอัครทูต 13:2 - ขณะที่คนเหล่านี้กำลังนมัสการพระผู้เป็นเจ้าและอดอาหารอยู่ พระวิญญาณบริสุทธิ์กล่าวว่า “จงแต่งตั้งบาร์นาบัสและเซาโลเพื่อปฏิบัติงานที่เราได้เรียกตัวไว้ใช้”
- กิจการของอัครทูต 13:3 - หลังจากที่ทั้งกลุ่มอดอาหารและอธิษฐานเสร็จสิ้นแล้ว ก็วางมือบนตัวบาร์นาบัสและเซาโล แล้วจึงให้ทั้งสองออกเดินทางไป
- กิจการของอัครทูต 13:4 - พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ดลใจให้ท่านทั้งสองลงไปยังเมืองเซลูเคีย และแล่นเรือจากที่นั่นไปยังเกาะไซปรัส
- กิจการของอัครทูต 13:5 - เมื่อมาถึงเมืองซาลามิส ก็ได้ประกาศคำกล่าวของพระเจ้าตามศาลาที่ประชุมของชาวยิว โดยมียอห์นเป็นผู้ช่วย
- กิจการของอัครทูต 13:6 - ทั้ง 3 คนเดินทางไปทั่วเกาะจนถึงเมืองปาโฟส และได้พบกับบาร์เยซูชาวยิวผู้ใช้เวทมนตร์คาถา และยังเป็นผู้เผยคำกล่าวเท็จด้วย
- กิจการของอัครทูต 13:7 - เขาอยู่กับเสอร์จีอัสเปาโลซึ่งเป็นผู้ว่าราชการแคว้นที่ฉลาดรอบรู้ ผู้ว่าราชการจึงให้คนไปตามบาร์นาบัสและเซาโลมาพบ เพราะต้องการจะฟังคำกล่าวของพระเจ้า
- กิจการของอัครทูต 13:8 - แต่เอลีมาส (ชื่อของบาร์เยซูในภาษากรีก) ผู้ใช้เวทมนตร์คาถาได้คัดค้านบาร์นาบัสและเซาโล โดยพยายามจะหันเหความเชื่อของผู้ว่าราชการแคว้น
- กิจการของอัครทูต 13:9 - แล้วเซาโลหรือที่มีอีกชื่อหนึ่งว่า เปาโล ซึ่งเปี่ยมล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ จ้องมาที่เอลีมาสและพูดว่า
- กิจการของอัครทูต 13:10 - “เจ้าเต็มด้วยความหลอกลวงจอมปลอม บุตรของพญามาร เจ้าเป็นศัตรูของความดี เจ้ายังจะไม่หยุดบิดเบือนหนทางของพระผู้เป็นเจ้าอีกหรือ
- กิจการของอัครทูต 13:11 - บัดนี้พระผู้เป็นเจ้ากำลังจะลงโทษเจ้า เจ้าจะตาบอดและมองไม่เห็นดวงอาทิตย์ไปชั่วระยะหนึ่ง” ในทันใดนั้นดวงตาของเอลีมาสก็มืดมัวไป จนต้องคลำหาให้คนจูงมือไป
- กิจการของอัครทูต 13:12 - เมื่อผู้ว่าราชการแคว้นผู้นั้นเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก็เชื่อ เพราะอัศจรรย์ใจกับการสอนเรื่องของพระผู้เป็นเจ้า
- กิจการของอัครทูต 13:13 - เปาโลและเพื่อนร่วมทางแล่นเรือจากเมืองปาโฟสไปยังเมืองเปอร์กา ในแคว้นปัมฟีเลีย ซึ่งเป็นเมืองที่ยอห์นได้แยกจากท่านทั้งสอง เพื่อกลับไปยังเมืองเยรูซาเล็ม
- กิจการของอัครทูต 13:14 - แล้วเปาโลกับบาร์นาบัสก็เดินทางจากเมืองเปอร์กา ถึงเมืองอันทิโอกในแคว้นปิสิเดีย ในวันสะบาโตก็เข้าไปนั่งในศาลาที่ประชุม
- กิจการของอัครทูต 13:15 - หลังจากที่ได้อ่านจากหมวดกฎบัญญัติและหมวดผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าแล้ว บรรดาผู้อยู่ในระดับปกครองศาลาที่ประชุมได้ใช้ให้คนมาบอกว่า “พี่น้องเอ๋ย ถ้าท่านมีเรื่องชื่นชูจิตใจผู้คนก็กรุณาพูดเถิด”
- กิจการของอัครทูต 13:16 - เปาโลยืนขึ้นโบกมือและพูดว่า “ชาวอิสราเอลและบรรดาคนนอกผู้นมัสการพระเจ้า จงฟังข้าพเจ้าเถิด
- กิจการของอัครทูต 13:17 - พระเจ้าของชนชาติอิสราเอลได้เลือกบรรพบุรุษของเรา พระองค์ทำให้พวกเขาเจริญยิ่งขึ้นขณะที่อยู่ในประเทศอียิปต์ และด้วยอานุภาพอันยิ่งใหญ่ พระองค์นำพวกเขาออกไปจากประเทศนั้น
- กิจการของอัครทูต 13:18 - พระองค์อดกลั้นต่อความประพฤติของพวกเขาในถิ่นทุรกันดารเป็นเวลาประมาณ 40 ปี
- กิจการของอัครทูต 13:19 - เมื่อพระองค์ได้ทำลาย 7 ชาติในดินแดนคานาอันแล้ว จึงมอบดินแดนนั้นให้เป็นมรดกแก่ชนชาติของพระองค์
- กิจการของอัครทูต 13:20 - สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ใช้เวลาประมาณ 450 ปี หลังจากนั้นพระเจ้าได้มอบบรรดาผู้วินิจฉัยแก่พวกเขา จนกระทั่งถึงซามูเอลผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า
- กิจการของอัครทูต 13:21 - ครั้นแล้วประชาชนได้เรียกร้องให้มีการแต่งตั้งกษัตริย์ พระองค์จึงมอบกษัตริย์ซาอูลบุตรคีชจากเผ่าเบนยามิน ให้ปกครองคนเหล่านั้น 40 ปี
- กิจการของอัครทูต 13:22 - หลังจากที่ได้ปลดกษัตริย์ซาอูลแล้ว พระเจ้าเลือกดาวิดให้เป็นกษัตริย์ของพวกเขา พระองค์อ้างถึงดาวิดว่า ‘เราพบว่าดาวิดบุตรของเจสซีเป็นคนที่เราโปรดปรานยิ่งนัก เขาจะทำทุกสิ่งที่เราบัญชาให้เขาทำ’
- กิจการของอัครทูต 13:23 - จากเชื้อสายของชายผู้นี้ พระเจ้าได้มอบพระเยซูผู้ช่วยให้รอดพ้นแก่ประเทศอิสราเอล ดังที่ได้สัญญาไว้
- กิจการของอัครทูต 13:24 - ก่อนที่พระเยซูจะมา ยอห์นได้ประกาศเรื่องการกลับใจและบัพติศมาให้แก่มวลชนของอิสราเอล
- กิจการของอัครทูต 13:25 - ขณะที่ยอห์นกำลังดำเนินงานของท่านให้เสร็จครบถ้วน ยอห์นก็พูดว่า ‘ท่านคิดว่าข้าพเจ้าคือใคร ข้าพเจ้าไม่ใช่ผู้นั้น แต่ว่าพระองค์กำลังจะมาภายหลังข้าพเจ้า แม้แต่เชือกผูกรองเท้าของพระองค์ ข้าพเจ้าก็มิบังควรที่จะแก้ออก’
- กิจการของอัครทูต 13:26 - พี่น้องเอ๋ย ลูกๆ ของอับราฮัม และบรรดาคนนอกที่เกรงกลัวพระเจ้า คำกล่าวเรื่องการมีชีวิตรอดพ้นนี้ ส่งมาเพื่อพวกเรา
- กิจการของอัครทูต 13:27 - ทั้งๆ ที่ผู้คนในเมืองเยรูซาเล็มและพวกที่อยู่ในระดับปกครองของเขาไม่ยอมรับพระเยซู พวกเขาจึงกล่าวโทษพระองค์ ทำให้เหตุการณ์กลับเป็นไปตามคำป่าวประกาศของบรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าซึ่งเราได้ยินทุกครั้งในวันสะบาโต
- กิจการของอัครทูต 13:28 - แม้ว่าพวกนั้นไม่มีข้อกล่าวหาใดที่จะให้พระองค์ถึงแก่ความตายได้ ก็ยังขอให้ปีลาตสั่งประหารพระองค์เสีย
- กิจการของอัครทูต 13:29 - เมื่อคนเหล่านั้นได้กระทำทุกอย่างต่อพระองค์ ตามที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์แล้ว พวกเขาจึงนำร่างของพระองค์ลงจากไม้กางเขน และวางไว้ในถ้ำเก็บศพ
- กิจการของอัครทูต 13:30 - แต่พระเจ้าให้พระองค์ฟื้นคืนชีวิตจากความตาย
- กิจการของอัครทูต 13:31 - กลุ่มชนที่เดินทางไปกับพระองค์จากแคว้นกาลิลีถึงเมืองเยรูซาเล็ม ได้เห็นพระองค์เป็นเวลาหลายวัน และขณะนี้ต่างก็เป็นบรรดาพยานของพระองค์แก่ชนชาติของเรา
- กิจการของอัครทูต 13:32 - พวกเราประกาศข่าวประเสริฐนี้เพื่อให้ท่านทราบว่า สิ่งที่พระเจ้าได้สัญญาไว้กับบรรพบุรุษของเรานั้น
- กิจการของอัครทูต 13:33 - พระองค์ได้กระทำตามพระสัญญาเพื่อพวกเราซึ่งเป็นลูกหลานของเขาเหล่านั้น โดยให้พระเยซูฟื้นคืนชีวิต ตามที่มีบันทึกในฉบับสดุดีบทที่สอง ว่า ‘เจ้าเป็นบุตรของเรา วันนี้เราประกาศว่าเราเป็นบิดาของเจ้า’
- กิจการของอัครทูต 13:34 - ความจริงที่ว่า พระเจ้าได้ให้พระองค์ฟื้นคืนชีวิตจากความตายโดยไม่เปื่อยเน่านั้น พระองค์กล่าวคำเหล่านี้ว่า ‘เราจะให้พรที่บริสุทธิ์อย่างแน่นอนแก่เจ้า ตามที่ได้สัญญาไว้กับดาวิด’
- กิจการของอัครทูต 13:35 - และตามที่ได้กล่าวไว้อีกครั้งในฉบับสดุดีว่า ‘พระองค์จะไม่ปล่อยให้องค์ผู้บริสุทธิ์ของพระองค์เปื่อยเน่าไป’
- กิจการของอัครทูต 13:36 - ด้วยว่าดาวิดได้รับใช้ตามความประสงค์ของพระเจ้าในสมัยของท่านแล้ว และได้ล่วงลับไป ร่างที่เปื่อยเน่าถูกฝังเคียงข้างบรรพบุรุษของท่าน
- กิจการของอัครทูต 13:37 - แต่ผู้ที่พระเจ้าได้ให้ฟื้นคืนชีวิตแล้วนั้นไม่ได้เปื่อยเน่าไป
- กิจการของอัครทูต 13:38 - ฉะนั้นพี่น้องเอ๋ย ข้าพเจ้าต้องการให้ท่านทราบว่า เป็นเพราะพระเยซู จึงมีการประกาศการยกโทษบาปให้แก่พวกท่าน
- เอสเธอร์ 8:17 - ในทุกแคว้นและทุกเมืองที่คำบัญชาของกษัตริย์และกฤษฎีกาของท่านไปถึง ที่นั่นก็มีความยินดีและร่าเริงใจในหมู่ชาวยิว มีงานเลี้ยงและเฉลิมฉลองกัน ผู้คนจำนวนมากจากบรรดาชนชาติของแผ่นดินประกาศตนว่าเป็นชนชาติยิว เนื่องจากว่า ชาวยิวทำให้พวกเขาหวาดกลัว
- กิจการของอัครทูต 3:25 - และพวกท่านซึ่งเป็นผู้สืบตระกูลของผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า รวมทั้งพันธสัญญาที่พระเจ้าได้ให้ไว้กับบรรพบุรุษของท่าน พระองค์กล่าวกับอับราฮัมว่า ‘มนุษย์ทั้งปวงในโลกจะได้รับพรโดยผ่านผู้สืบเชื้อสายของเจ้า’
- กิจการของอัครทูต 3:26 - เมื่อพระเจ้ากำหนดผู้รับใช้ของพระองค์ขึ้นแล้ว ก็ได้ส่งพระองค์มายังพวกท่านก่อน เพื่อให้พรแก่ท่าน โดยที่ให้ท่านทุกคนเว้นเสียจากการกระทำความชั่ว”
- โรม 11:11 - ฉะนั้น ข้าพเจ้าถามอีกว่า พวกเขาสะดุดจนล้มคะมำลงหรือ ไม่มีทางจะเป็นเช่นนั้น แต่เป็นเพราะการกระทำผิดของพวกเขาเอง ความรอดพ้นจึงได้มายังบรรดาคนนอก เพื่อกระตุ้นให้พวกเขาอิจฉา
- โรม 11:12 - แต่ถ้าการกระทำผิดของพวกเขาเป็นเหตุให้โลกได้รับพระพรยิ่งใหญ่ และการสูญเสียของพวกเขาเป็นเหตุให้บรรดาคนนอกได้รับพระพรยิ่ง แล้วพระพรจะทวียิ่งขึ้นเพียงไร เมื่อรวบรวมพวกเขาได้จนครบบริบูรณ์
- โรม 11:13 - แต่ข้าพเจ้ากำลังพูดกับท่านผู้เป็นบรรดาคนนอก ตราบที่ข้าพเจ้าเป็นอัครทูตมายังบรรดาคนนอก ข้าพเจ้านับว่างานรับใช้ของข้าพเจ้าสำคัญมาก
- โรม 11:14 - เผื่อว่าข้าพเจ้าอาจจะกระตุ้นให้พี่น้องร่วมชาติกับข้าพเจ้าเกิดอิจฉาขึ้นมา และจะได้ช่วยพวกเขาบางคนให้รอดพ้นได้
- โรม 11:15 - ถ้าการที่พระเจ้าไม่ยอมรับพวกเขา เป็นเหตุให้โลกคืนดีกับพระเจ้าได้ แล้วจะเป็นอย่างไร เมื่อพระเจ้ายอมรับพวกเขา ก็จะเป็นอย่างคนตายที่ได้ชีวิตกลับคืนมา
- โรม 11:16 - และถ้าแป้งนวดส่วนที่มอบให้เป็นผลแรกบริสุทธิ์ ทั้งก้อนก็บริสุทธิ์ด้วย และถ้ารากบริสุทธิ์ กิ่งก้านก็บริสุทธิ์ด้วย
- โรม 11:17 - แต่ถ้าบางกิ่งถูกหัก และท่านที่เป็นต้นมะกอกป่าถูกต่อกิ่งเข้ากับต้น และได้รับน้ำเลี้ยงจากรากอันสมบูรณ์จากต้นมะกอกนั้น
- อาโมส 9:9 - “เพราะเราจะบัญชา และฝัดร่อนพงศ์พันธุ์อิสราเอล ในท่ามกลางประชาชาติทั้งปวง เหมือนเขย่าด้วยตะแกรง แต่ไม่มีหินสักก้อนที่จะลอดหลุด และตกลงบนพื้นดินได้
- กิจการของอัครทูต 11:19 - ส่วนพวกที่หนีกระจัดกระจายไปเพราะถูกกดขี่ข่มเหงเนื่องมาจากสเทเฟน ก็ได้หนีไปถึงแคว้นฟีนิเซีย เกาะไซปรัสและเมืองอันทิโอก เขาเหล่านั้นพากันประกาศคำกล่าวแก่ชาวยิวเท่านั้น
- กิจการของอัครทูต 11:20 - อย่างไรก็ตาม บางคนที่มาจากเกาะไซปรัสและเมืองไซรีนได้ไปยังเมืองอันทิโอก เพื่อบอกข่าวประเสริฐเกี่ยวกับพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้ากับชาวกรีกด้วย
- กิจการของอัครทูต 11:21 - มือของพระผู้เป็นเจ้าสถิตกับพวกเขา ผู้คนจำนวนมากเชื่อและหันเข้าหาพระผู้เป็นเจ้า
- กิจการของอัครทูต 8:4 - ผู้ที่ได้กระจัดกระจายกันออกไปก็ประกาศคำกล่าวทุกแห่งหน
- ดาเนียล 3:1 - กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์บัญชาให้หล่อรูปเคารพทองคำ ซึ่งสูง 60 ศอก และกว้าง 6 ศอก และให้ตั้งไว้ที่ที่ราบดูรา ในแคว้นบาบิโลน
- ดาเนียล 3:2 - และกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์เรียกประชุมผู้ปกครองแคว้น เจ้าหน้าที่ชั้นสูง ผู้ว่าราชการ ที่ปรึกษา ผู้ดูแลกองคลัง ผู้ตัดสินความ เจ้าหน้าที่บังคับคดี และบรรดาเจ้าหน้าที่ของแคว้นต่างๆ เพื่อมางานถวายรูปเคารพที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ตั้งขึ้น
- ดาเนียล 3:3 - ครั้นแล้ว ผู้ปกครองแคว้น เจ้าหน้าที่ชั้นสูง ผู้ว่าราชการ ที่ปรึกษา ผู้ดูแลกองคลัง ผู้ตัดสินความ เจ้าหน้าที่บังคับคดี และบรรดาเจ้าหน้าที่ของแคว้นต่างๆ จึงมาร่วมประชุมในงานถวายรูปเคารพที่กษัตริย์ได้ตั้งขึ้น และพวกเขาก็ยืนที่เบื้องหน้ารูปเคารพนั้น
- ดาเนียล 3:4 - ผู้ประกาศออกเสียงดังประกาศว่า “โอ ทุกชนชาติ ทุกประชาชาติ และทุกภาษาเอ๋ย ท่านได้รับคำบัญชาดังนี้คือ
- ดาเนียล 3:5 - เมื่อท่านได้ยินเสียงแตรงอน ปี่ พิณเล็ก เครื่องสายรูปสามเหลี่ยม พิณสิบสาย ปี่สกอต และเสียงดนตรีทุกชนิด พวกท่านจะต้องหมอบลงนมัสการรูปเคารพทองคำที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ตั้งขึ้น
- ดาเนียล 3:6 - และใครก็ตามที่ไม่หมอบลงนมัสการ ก็จะถูกโยนในเตาเผาที่มีไฟลุกโพลง”
- เยเรมีย์ 31:27 - พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ “ดูเถิด จะถึงเวลาที่เราจะหว่านพงศ์พันธุ์อิสราเอลและยูดาห์ด้วยเชื้อสายของมนุษย์และสัตว์
- กิจการของอัครทูต 8:1 - เซาโลซึ่งอยู่ที่นั่นก็เห็นชอบด้วยกับการตายของสเทเฟน ในวันนั้นได้มีการกดขี่ข่มเหงคริสตจักรในเมืองเยรูซาเล็มครั้งใหญ่ ผู้ที่เชื่อทุกคนจึงกระจัดกระจายไปทั่วแคว้นยูเดียและแคว้นสะมาเรีย เว้นแต่พวกอัครทูตเท่านั้น
- อิสยาห์ 65:9 - เราจะโปรดให้มีผู้ที่เกิดจากเชื้อสายของยาโคบ ให้ผู้เกิดจากยูดาห์รับภูเขาของเราเป็นมรดก บรรดาผู้ที่เราเลือกจะเป็นเจ้าของภูเขา และบรรดาผู้รับใช้ของเราจะอาศัยอยู่ที่นั่น
- เนหะมีย์ 1:9 - แต่ถ้าพวกเจ้ากลับมาหาเรา รักษาคำบัญญัติของเรา และปฏิบัติตาม ถึงแม้ว่าพวกที่ถูกเนรเทศไปไกลสุดฟากฟ้าก็ตาม เราก็จะรวบรวมพวกเขากลับมายังที่ซึ่งเราได้เลือกไว้ เพื่อยกย่องนามของเราที่นั่น’
- เฉลยธรรมบัญญัติ 30:1 - เราให้ท่านเลือกระหว่างพระพรและคำสาปแช่ง เมื่อสิ่งเหล่านี้ที่เราพูดถึงบังเกิดขึ้นกับท่าน และขณะที่ท่านอยู่ท่ามกลางประชาชาติทั้งปวงซึ่งพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านทำให้ท่านกระจัดกระจายไปอาศัยอยู่ ท่านก็จะระลึกขึ้นได้ถึงสิ่งที่เราให้ท่านเลือก
- เฉลยธรรมบัญญัติ 30:2 - แล้วท่านกับลูกหลานของท่านกลับไปหาพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน และเชื่อฟังในทุกสิ่งที่เราบัญชาท่านในวันนี้อย่างสุดดวงใจและสุดดวงจิตของท่าน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 30:3 - และพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านจะให้ความอุดมสมบูรณ์ของท่านคืนสู่สภาพเดิม และมีเมตตาต่อท่าน พระองค์จะรวบรวมพวกท่านจากชนชาติทั้งปวงเพื่อให้มาอยู่ร่วมกันอีก หลังจากที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านทำให้ท่านกระจัดกระจายกันออกไปแล้ว
- เฉลยธรรมบัญญัติ 30:4 - แม้ถ้าท่านถูกเนรเทศไปอยู่ถึงสุดฟากฟ้า พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านก็ยังจะรวบรวมท่านมาจากที่นั่น และพระองค์จะไปตามตัวท่านมาจากที่นั่น
- กิจการของอัครทูต 14:1 - เปาโลและบาร์นาบัสเข้าไปในศาลาที่ประชุมของชาวยิวที่เมืองอิโคนียูมตามปกติ วิธีการพูดของท่านทั้งสองทำให้ชาวยิวและชาวกรีก จำนวนมากเกิดความเชื่อ
- กิจการของอัครทูต 14:2 - แต่พวกชาวยิวที่ไม่ยอมเชื่อ ก็ก่อกวนให้บรรดาคนนอกไม่พอใจพวกพี่น้อง
- กิจการของอัครทูต 14:3 - เปาโลและบาร์นาบัสจึงพักอยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน และพูดถึงพระผู้เป็นเจ้าด้วยใจกล้าหาญ พระองค์แสดงให้เห็นชัดถึงพระคุณของพระองค์ โดยให้ท่านทั้งสองกระทำสิ่งอัศจรรย์ ด้วยปรากฏการณ์อัศจรรย์และสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆ
- กิจการของอัครทูต 14:4 - ผู้คนในเมืองเกิดการแตกแยกกันเป็นก๊กเป็นเหล่า บ้างก็เข้าข้างชาวยิว บ้างก็เข้าข้างอัครทูตทั้งสอง
- กิจการของอัครทูต 14:5 - บรรดาคนนอกและชาวยิวร่วมกับผู้นำของเขาเตรียมที่จะทำร้าย โดยจะเอาก้อนหินขว้างปาอัครทูต
- กิจการของอัครทูต 14:6 - แต่ท่านทั้งสองทราบเสียก่อน จึงหนีไปที่เมืองลิสตราและเมืองเดอร์บีในแคว้นลิคาโอเนียและแถบใกล้เคียง
- กิจการของอัครทูต 14:7 - และท่านทั้งสองก็ได้ประกาศข่าวประเสริฐที่นั่นต่อไปอีก
- กิจการของอัครทูต 14:8 - ที่เมืองลิสตรามีชายเท้าลีบเป็นง่อยเดินไม่ได้มาแต่เกิด
- กิจการของอัครทูต 14:9 - เขาได้มานั่งฟังเปาโลพูดอยู่ เมื่อจ้องดูชายผู้นั้น เปาโลเห็นว่าเขามีความเชื่อเพียงพอที่จะรับการรักษาให้หายได้
- กิจการของอัครทูต 14:10 - จึงร้องขึ้นว่า “จงลุกขึ้นยืน” ชายง่อยก็กระโดดขึ้นแล้วก็เริ่มเดิน
- กิจการของอัครทูต 14:11 - เมื่อฝูงชนเห็นสิ่งที่เปาโลกระทำจึงพากันร้องตะโกนเป็นภาษาลิคาโอเนียว่า “บรรดาเทพเจ้าได้แปลงเป็นคนลงมาหาพวกเราแล้ว”
- กิจการของอัครทูต 14:12 - เขาทั้งหลายเรียกบาร์นาบัสว่า เทพเจ้าซุส และเรียกเปาโลว่า เทพเจ้าเฮอร์เมส เพราะว่าท่านเป็นผู้นำในการพูด
- กิจการของอัครทูต 14:13 - ปุโรหิตประจำวิหารเทพเจ้าซุสที่ตั้งอยู่นอกเมือง ได้นำโคตัวผู้และพวงมาลัยมาที่ประตูเมืองร่วมกับฝูงชน เพื่อมอบสิ่งนั้นเป็นของสักการะแก่เปาโลและบาร์นาบัส
- กิจการของอัครทูต 14:14 - แต่เมื่ออัครทูตคือบาร์นาบัสกับเปาโลทราบเรื่อง จึงฉีกเสื้อผ้าของตนแล้ววิ่งออกไปยังฝูงชนตะโกนว่า
- กิจการของอัครทูต 14:15 - “ทำไมท่านจึงทำเช่นนี้ พวกเราเป็นเพียงมนุษย์เหมือนกับท่าน พวกเรานำข่าวประเสริฐมายังท่าน เพื่อให้ท่านหันจากสิ่งที่ไร้ประโยชน์เหล่านี้ เพื่อเข้าหาพระเจ้าผู้ดำรงอยู่ พระองค์ได้สร้างฟ้าสวรรค์ แผ่นดินโลก ทะเล และทุกสิ่งซึ่งมีอยู่ในที่เหล่านั้น
- กิจการของอัครทูต 14:16 - ในอดีตพระองค์ปล่อยให้ชนทุกชาติดำเนินไปตามที่ตนเห็นชอบ
- กิจการของอัครทูต 14:17 - แต่พระองค์ยังได้มอบหลักฐานซึ่งเป็นพยานให้เห็นว่า พระองค์มีเมตตาโดยโปรดให้มีฝนจากสวรรค์แก่พวกท่าน และให้พืชผลตามฤดูกาล พระองค์มอบอาหารให้อย่างสมบูรณ์ และให้ใจของพวกท่านมีความชื่นชมยินดี”
- กิจการของอัครทูต 14:18 - แม้ท่านจะกล่าวเช่นนั้นแล้ว ก็ยังมิอาจห้ามฝูงชนที่เข้ามาสักการะพวกท่านได้
- กิจการของอัครทูต 14:19 - แล้วก็มีชาวยิวบางคนที่มาจากเมืองอันทิโอกและเมืองอิโคนียูม พวกเขาสามารถชักจูงให้ผู้คนเอาก้อนหินขว้างเปาโล และลากท่านออกไปนอกเมือง เพราะคิดว่าท่านตายแล้ว
- กิจการของอัครทูต 14:20 - แต่หลังจากที่พวกสาวกได้มาห้อมล้อมท่าน ท่านจึงลุกขึ้นกลับเข้าไปในเมืองได้ และวันรุ่งขึ้นจึงไปยังเมืองเดอร์บีกับบาร์นาบัส
- กิจการของอัครทูต 14:21 - เปาโลและบาร์นาบัสประกาศข่าวประเสริฐในเมืองนั้น และมีคนจำนวนมากมาเป็นสาวก แล้วท่านทั้งสองก็กลับไปยังเมืองลิสตรา เมืองอิโคนียูม และเมืองอันทิโอก
- โรม 11:24 - เพราะถ้าท่านถูกตัดออกจากต้นมะกอกป่าที่เป็นต้นไม้ป่า และถูกต่อกิ่งเข้ากับต้นมะกอกบ้านซึ่งผิดธรรมชาติของมันแล้ว พวกกิ่งก้านที่ถูกตัดจากต้นมะกอกบ้านจะต่อเข้ากับต้นเดิมของมันเองได้ง่ายยิ่งกว่าเพียงไร
- กิจการของอัครทูต 2:38 - เปโตรจึงตอบว่า “พวกท่านทุกๆ คนจงกลับใจและรับบัพติศมาในพระนามของพระเยซูคริสต์ เพื่อรับการยกโทษบาปของท่าน แล้วท่านจะได้รับของประทานคือพระวิญญาณบริสุทธิ์
- กิจการของอัครทูต 2:39 - พระสัญญานี้เป็นของท่าน ของลูกๆ และทุกท่านที่อยู่ห่างไกล และทุกท่านที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเราจะเรียกตัว”
- เยเรมีย์ 51:50 - พวกเจ้าที่รอดจากความตายมาได้ จงไปเถิด อย่ายืนนิ่งอยู่ แม้ว่าเจ้าจะอยู่ไกลจากบ้านเกิด แต่ก็จงระลึกถึงพระผู้เป็นเจ้า และนึกถึงเยรูซาเล็ม”
- อิสยาห์ 65:23 - พวกเขาจะไม่ลงแรงโดยไร้ประโยชน์ หรือมีลูกหลานเพื่อความวิบัติ เพราะพวกเขาจะเป็นเชื้อสายของผู้ได้รับพระพรของพระผู้เป็นเจ้า และมีบรรดาผู้สืบเชื้อสายอยู่กับพวกเขาด้วย
- โฮเชยา 2:23 - และเราจะหว่านนางสำหรับเราเองในแผ่นดิน และเราจะมีเมตตาต่อผู้ที่ไม่มีความเมตตา และเราจะพูดกับผู้ที่ไม่ใช่ชนชาติของเราว่า ‘เจ้าเป็นชนชาติของเรา’ และเขาจะพูดว่า ‘พระองค์เป็นพระเจ้าของข้าพเจ้า’”
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:47 - แต่ถ้าพวกเขามีใจสำนึกได้เมื่ออยู่ในดินแดนที่ตนถูกจับไปเป็นเชลย โดยการกลับใจและขอร้องพระองค์จากดินแดนนั้น กล่าวว่า ‘พวกเราได้กระทำบาป ประพฤติผิด และกระทำตัวเลวทราม’
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:48 - ถ้าหากว่าพวกเขากลับใจอย่างสุดดวงใจและสุดดวงจิต ในดินแดนของศัตรูที่จับพวกเขาไปเป็นเชลย และอธิษฐานต่อพระองค์โดยหันมาทางแผ่นดินของพวกเขา ซึ่งพระองค์มอบให้แก่บรรพบุรุษ เมืองที่พระองค์ได้เลือก และพระตำหนักที่ข้าพเจ้าสร้างไว้เพื่อพระนามของพระองค์
- เอเสเคียล 6:9 - แล้วบรรดาผู้ที่หนีรอดไปได้จะระลึกถึงเราในท่ามกลางบรรดาประชาชาติที่จับพวกเขาไปเป็นเชลย เราเสียใจเพียงไรกับการนอกใจของพวกเขา ที่ได้หันหลังให้เรา และสิ่งที่เขามองเห็นทำให้เกิดกิเลสกับรูปเคารพของพวกเขา พวกเขาจะเกลียดตนเองที่ได้กระทำสิ่งชั่วร้ายและประพฤติอย่างน่ารังเกียจทั้งสิ้น