Brand Logo
  • 圣经
  • 资源
  • 计划
  • 联系我们
  • APP下载
  • 圣经
  • 搜索
  • 原文研究
  • 逐节对照
我的
跟随系统浅色深色简体中文香港繁體台灣繁體English
奉献
68:30 TNCV
逐节对照
  • พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - ขอทรงลงโทษสัตว์ร้ายในพงอ้อ ขอทรงลงโทษฝูงโคถึกในหมู่ลูกวัวแห่งชนชาติทั้งหลาย ขอทรงกระทำให้พวกเขาสยบและนำเงินแท่งมา ขอทรงกระทำให้ชนชาติต่างๆ ที่ใฝ่สงครามกระจัดกระจายไป
  • 新标点和合本 - 求你叱喝芦苇中的野兽和群公牛, 并列邦中的牛犊。 把银块踹在脚下;  神已经赶散好争战的列邦。
  • 和合本2010(上帝版-简体) - 求你斥责芦苇中的野兽和公牛群, 并万民中的牛犊。 直到他们带着银块来朝贡 ; 上帝已经赶散好战的万民 。
  • 和合本2010(神版-简体) - 求你斥责芦苇中的野兽和公牛群, 并万民中的牛犊。 直到他们带着银块来朝贡 ;  神已经赶散好战的万民 。
  • 当代译本 - 求你斥责那芦苇中的野兽, 斥责成群的公牛和列邦的牛犊, 使他们俯首献上贡银。 求你驱散好战的列邦。
  • 圣经新译本 - 求你斥责芦苇中的野兽、 成群的公牛和万民中的牛犊, 并且把 贪爱银块的人践踏在脚下; 求你赶散那些喜爱战争的民族。
  • 中文标准译本 - 求你斥责芦苇中的野兽, 斥责壮牛群以及万民中的牛犊; 把贪爱银块的人践踏在脚下 , 驱散那喜好战斗的民众。
  • 现代标点和合本 - 求你叱喝芦苇中的野兽和群公牛, 并列邦中的牛犊, 把银块踹在脚下; 神已经赶散好争战的列邦。
  • 和合本(拼音版) - 求你叱喝芦苇中的野兽和群公牛, 并列邦中的牛犊; 把银块踹在脚下, 上帝已经赶散好争战的列邦。
  • New International Version - Rebuke the beast among the reeds, the herd of bulls among the calves of the nations. Humbled, may the beast bring bars of silver. Scatter the nations who delight in war.
  • New International Reader's Version - Give a strong warning to Egypt, that beast among the tall grass. It is like a herd of bulls among the calves. May that beast bow down before you with gifts of silver. Scatter the nations who like to make war.
  • English Standard Version - Rebuke the beasts that dwell among the reeds, the herd of bulls with the calves of the peoples. Trample underfoot those who lust after tribute; scatter the peoples who delight in war.
  • New Living Translation - Rebuke these enemy nations— these wild animals lurking in the reeds, this herd of bulls among the weaker calves. Make them bring bars of silver in humble tribute. Scatter the nations that delight in war.
  • Christian Standard Bible - Rebuke the beast in the reeds, the herd of bulls with the calves of the peoples. Trample underfoot those with bars of silver. Scatter the peoples who take pleasure in war.
  • New American Standard Bible - Rebuke the animals in the reeds, The herd of bulls with the calves of the peoples, Trampling the pieces of silver; He has scattered the peoples who delight in war.
  • New King James Version - Rebuke the beasts of the reeds, The herd of bulls with the calves of the peoples, Till everyone submits himself with pieces of silver. Scatter the peoples who delight in war.
  • Amplified Bible - Rebuke the beasts [living] among the reeds [in Egypt], The herd of bulls (the leaders) with the calves of the peoples; Trampling underfoot the pieces of silver; He has scattered the peoples who delight in war.
  • American Standard Version - Rebuke the wild beast of the reeds, The multitude of the bulls, with the calves of the peoples, Trampling under foot the pieces of silver: He hath scattered the peoples that delight in war.
  • King James Version - Rebuke the company of spearmen, the multitude of the bulls, with the calves of the people, till every one submit himself with pieces of silver: scatter thou the people that delight in war.
  • New English Translation - Sound your battle cry against the wild beast of the reeds, and the nations that assemble like a herd of calves led by bulls! They humble themselves and offer gold and silver as tribute. God scatters the nations that like to do battle.
  • World English Bible - Rebuke the wild animal of the reeds, the multitude of the bulls, with the calves of the peoples. Being humbled, may it bring bars of silver. Scatter the nations that delight in war.
  • 新標點和合本 - 求你叱喝蘆葦中的野獸和羣公牛, 並列邦中的牛犢。 把銀塊踹在腳下; 神已經趕散好爭戰的列邦。
  • 和合本2010(上帝版-繁體) - 求你斥責蘆葦中的野獸和公牛羣, 並萬民中的牛犢。 直到他們帶着銀塊來朝貢 ; 上帝已經趕散好戰的萬民 。
  • 和合本2010(神版-繁體) - 求你斥責蘆葦中的野獸和公牛羣, 並萬民中的牛犢。 直到他們帶着銀塊來朝貢 ;  神已經趕散好戰的萬民 。
  • 當代譯本 - 求你斥責那蘆葦中的野獸, 斥責成群的公牛和列邦的牛犢, 使他們俯首獻上貢銀。 求你驅散好戰的列邦。
  • 聖經新譯本 - 求你斥責蘆葦中的野獸、 成群的公牛和萬民中的牛犢, 並且把 貪愛銀塊的人踐踏在腳下; 求你趕散那些喜愛戰爭的民族。
  • 呂振中譯本 - 求你叱責蘆荻中的野獸、 雄壯的公牛羣、別族之民的領主 ; 將貪婪銀子的踹於腳下 ; 趕散喜好接戰的別族之民 。
  • 中文標準譯本 - 求你斥責蘆葦中的野獸, 斥責壯牛群以及萬民中的牛犢; 把貪愛銀塊的人踐踏在腳下 , 驅散那喜好戰鬥的民眾。
  • 現代標點和合本 - 求你叱喝蘆葦中的野獸和群公牛, 並列邦中的牛犢, 把銀塊踹在腳下; 神已經趕散好爭戰的列邦。
  • 文理和合譯本 - 其叱葦中之獸、牡牛之羣、民眾之犢、踐其銀於足下、驅散好鬥之民兮、
  • 文理委辦譯本 - 好鬥之人、如牛如犢、如葦間之獸、爾制伏之、爾離散之、俾輸金以歸附兮。
  • 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 願主叱喝葦叢之野獸、與群牡牛、及似牛犢之異邦人、使之皆攜銀叩伏、喜爭鬥之列國、天主均已擊散、
  • 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 以爾駐蹕。於我 瑟琳 。萬王賓貢。莫敢不勤。
  • Nueva Versión Internacional - Reprende a esa bestia de los juncos, a esa manada de toros bravos entre naciones que parecen becerros. Haz que, humillada, te lleve barras de plata; dispersa a las naciones belicosas.
  • 현대인의 성경 - 갈밭의 들짐승과 같은 이집트를 꾸짖으시고 송아지를 거느린 수소떼와 같은 온 세계 민족을 꾸짖어 그들이 은을 바치며 복종할 때까지 낮추소서. 전쟁을 즐기는 모든 민족을 흩으소서.
  • Новый Русский Перевод - Я же угнетен и страдаю. Спасение Твое, Боже, пусть возвысит меня!
  • Восточный перевод - Я же угнетён и страдаю. Спасение Твоё, Всевышний, пусть возвысит меня!
  • Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Я же угнетён и страдаю. Спасение Твоё, Аллах, пусть возвысит меня!
  • Восточный перевод, версия для Таджикистана - Я же угнетён и страдаю. Спасение Твоё, Всевышний, пусть возвысит меня!
  • La Bible du Semeur 2015 - depuis ton sanctuaire ╵qui domine Jérusalem ! Des rois t’y apporteront leurs présents.
  • リビングバイブル - ああ神よ、敵をしかりつけ、 進んで税を持って来るようにしてください。 争い事を好む連中を追い散らしてください。
  • Nova Versão Internacional - Repreende a fera entre os juncos, a manada de touros entre os bezerros das nações. Humilhados, tragam barras de prata. Espalha as nações que têm prazer na guerra.
  • Hoffnung für alle - Dein Tempel ragt hoch über Jerusalem. Dorthin bringen dir Könige ihren Tribut.
  • Kinh Thánh Hiện Đại - Xin quở trách đội quân các nước— là những thú dữ trong lau sậy, và đàn bò rừng giữa bò con của các dân tộc. Xin hạ nhục bọn người dâng bạc. Xin đánh tan các đoàn dân hiếu chiến.
  • พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - ห้าม​พวก​สัตว์​ป่า​ที่​อาศัย​อยู่​ใน​ดง​อ้อ ห้าม​ฝูง​กระทิง​ที่​อยู่​ท่าม​กลาง​กระทิง​น้อย​ของ​บรรดา​ชน​ชาติ พวก​ที่​ใคร่​จะ​ได้​เครื่อง​บรรณาการ ก็​ขอ​ให้​ถูก​ทำ​ให้​ถ่อม​ลง และ​ขอ​ให้​บรรดา​ชน​ชาติ​ที่​ชอบ​การ​สงคราม​กระเจิด​กระเจิง​ไป
交叉引用
  • เยเรมีย์ 51:32 - ท่าข้ามแม่น้ำถูกยึด เครื่องกีดขวางถูกเผา และเหล่าทหารก็ตกใจกลัว”
  • เยเรมีย์ 51:33 - พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า “ธิดาแห่งบาบิโลน เหมือนลานนวดข้าว เมื่อถึงเวลาก็ถูกเหยียบย่ำ ไม่ช้าก็จะถึงเวลาเก็บเกี่ยวบาบิโลน”
  • 2พงศาวดาร 14:1 - และอาบียาห์ทรงล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษและถูกฝังไว้ในเมืองดาวิด แล้วอาสาโอรสของพระองค์ขึ้นครองราชย์แทน ในรัชกาลของพระองค์แผ่นดินสงบสุขอยู่สิบปี ( 1พกษ.15:11-12 )
  • 2พงศาวดาร 14:2 - อาสาทรงทำสิ่งที่ดีงามและถูกต้องในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์พระเจ้าของพระองค์
  • 2พงศาวดาร 14:3 - ทรงรื้อแท่นบูชาของชนต่างด้าวและสถานบูชาบนที่สูงทั้งหลาย ทรงทุบหินศักดิ์สิทธิ์และโค่นเสาเจ้าแม่อาเชราห์ ทิ้ง
  • 2พงศาวดาร 14:4 - พระองค์ทรงบัญชาชนยูดาห์ให้แสวงหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขา และเชื่อฟังบทบัญญัติและพระบัญชาของพระเจ้า
  • 2พงศาวดาร 14:5 - พระองค์ทรงรื้อสถานบูชาบนที่สูงทั้งหลายกับแท่นเผาเครื่องหอมออกจากทุกเมืองของยูดาห์ ราชอาณาจักรสงบสุขภายใต้การปกครองของพระองค์
  • 2พงศาวดาร 14:6 - พระองค์ได้ทรงสร้างเมืองป้อมปราการต่างๆ ของยูดาห์เพราะแผ่นดินสงบสุข ไม่มีข้าศึกมาสู้รบในช่วงนั้น เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานการพักสงบแก่พระองค์
  • 2พงศาวดาร 14:7 - อาสาตรัสกับชนยูดาห์ว่า “ให้เราสร้างเมืองเหล่านี้ ก่อกำแพงรอบ มีหอคอย ประตู และดาล ดินแดนยังเป็นของเรา เพราะเราแสวงหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา พระองค์จึงทรงให้เรามีความสงบสุขรอบด้าน” พวกเขาก็ลงมือทำและเจริญรุ่งเรือง
  • 2พงศาวดาร 14:8 - กองทัพของอาสามีกำลังจากยูดาห์ 300,000 คนถือโล่ใหญ่กับหอก และจากเบนยามิน 280,000 คนถือโล่เล็กกับธนู คนเหล่านี้ล้วนเป็นนักรบแกล้วกล้า
  • 2พงศาวดาร 14:9 - เศราห์ชาวคูชยกทัพใหญ่มหึมา และมีรถม้าศึกสามร้อยคัน รุกมาถึงเมืองมาเรชาห์
  • 2พงศาวดาร 14:10 - อาสาออกมาประจันหน้า ตั้งแนวรบที่หุบเขาเศฟาธาห์ใกล้มาเรชาห์
  • 2พงศาวดาร 14:11 - อาสาทูลพระยาห์เวห์พระเจ้าของพระองค์ว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่มีใครอื่นเสมอเหมือนพระองค์ที่จะช่วยผู้ไร้กำลังต่อกรกับผู้มีอำนาจ ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอทรงช่วยเพราะข้าพระองค์ทั้งหลายพึ่งในพระองค์ และข้าพระองค์ทั้งหลายมาต่อสู้กองทัพมหึมานี้ในพระนามของพระองค์ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของเหล่าข้าพระองค์ ขออย่าให้มนุษย์ชนะพระองค์เลย”
  • 2พงศาวดาร 14:12 - องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปราบชาวคูชต่อหน้าอาสากับยูดาห์ ชาวคูชถอยหนีไป
  • 2พงศาวดาร 14:13 - และอาสากับกองทัพรุกไล่พวกเขาไปไกลถึงเกราร์ ชาวคูชล้มตายมากมายจนไม่อาจฟื้นตัวได้อีก พวกเขาแหลกลาญไปต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้ากับกองกำลังของพระองค์ ชนยูดาห์นำของเชลยจำนวนมากกลับมา
  • 2พงศาวดาร 14:14 - พวกเขาทำลายล้างหมู่บ้านทั้งปวงรอบเกราร์เพราะความกลัวขององค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่เหนือพวกนั้น พวกเขาริบข้าวของทั่วหมู่บ้านเหล่านั้น เนื่องจากมีของเชลยมากมายที่นั่น
  • 2พงศาวดาร 14:15 - พวกเขายังโจมตีค่ายของคนเลี้ยงสัตว์ และกวาดต้อนแกะ แพะ อูฐ กลับมายังกรุงเยรูซาเล็มด้วย
  • โยบ 40:21 - มันนอนลงใต้กอบัว กำบังตัวกลางพงอ้อในแอ่งน้ำ
  • สดุดี 120:7 - ข้าพเจ้าเป็นคนใฝ่สันติ แต่พอข้าพเจ้าเอ่ยปาก พวกเขาก็มุ่งทำศึกสงคราม
  • สดุดี 18:44 - ทันทีที่ได้ยินถึงข้าพระองค์ พวกเขาก็เชื่อฟังข้าพระองค์ คนต่างชาติมาสยบต่อข้าพระองค์
  • 2พงศาวดาร 20:1 - ต่อมาชาวโมอับ ชาวอัมโมน และชาวเมอูนีบางคน ยกทัพจะมารบกับเยโฮชาฟัท
  • 2พงศาวดาร 20:2 - มีผู้มาทูลเยโฮชาฟัทว่า “กองทัพใหญ่กำลังเข้ามารบกับฝ่าพระบาท โดยเคลื่อนทัพมาจากเอโดม อีกฟากหนึ่งของทะเล และบัดนี้มาถึงฮาซาโซนทามาร์ (คือ เอนเกดี) แล้ว”
  • 2พงศาวดาร 20:3 - เยโฮชาฟัททรงตื่นตระหนกและมุ่งแสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงประกาศให้ถืออดอาหารทั่วยูดาห์
  • 2พงศาวดาร 20:4 - ชนยูดาห์มารวมกันเพื่อแสวงหาความช่วยเหลือจากองค์พระผู้เป็นเจ้า พวกเขามาจากทุกเมืองในยูดาห์เพื่อแสวงหาพระองค์
  • 2พงศาวดาร 20:5 - เยโฮชาฟัททรงยืนขึ้นท่ามกลางชุมนุมประชากรของยูดาห์และของเยรูซาเล็มในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า ตรงหน้าลานใหม่
  • 2พงศาวดาร 20:6 - และทรงอธิษฐานว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลาย พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ประทับในสวรรค์ไม่ใช่หรือ? พระองค์ทรงปกครองเหนือมวลอาณาจักรของชนชาติต่างๆ ฤทธิ์อำนาจและแสนยานุภาพอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ ไม่มีผู้ใดอาจต่อต้านพระองค์ได้
  • 2พงศาวดาร 20:7 - ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย พระองค์ทรงขับไล่ชนชาติต่างๆ ในดินแดนนี้ออกไปต่อหน้าอิสราเอลประชากรของพระองค์ และประทานดินแดนนี้ให้แก่วงศ์วานอับราฮัมสหายของพระองค์ตลอดไปไม่ใช่หรือ?
  • 2พงศาวดาร 20:8 - เราทั้งหลายได้อาศัยอยู่ที่นี่และได้สร้างสถานนมัสการเพื่อพระนามของพระองค์ และกล่าวว่า
  • 2พงศาวดาร 20:9 - ‘หากมีภัยพิบัติตกมาถึง ไม่ว่าจะเป็นสงคราม ภัยพิบัติ หรือการกันดารอาหาร ข้าพระองค์ทั้งหลายจะมาเข้าเฝ้าพระองค์ที่หน้าพระวิหารแห่งพระนามของพระองค์ และจะร้องทูลพระองค์ในยามทุกข์ลำเค็ญ แล้วพระองค์จะทรงสดับฟังและช่วยเหลือข้าพระองค์ทั้งหลายให้พ้นภัย’
  • 2พงศาวดาร 20:10 - “แต่บัดนี้มีคนมาจากอัมโมน โมอับ และภูเขาเสอีร์ ซึ่งเมื่อครั้งอิสราเอลออกจากอียิปต์ พระองค์ไม่ทรงอนุญาตให้อิสราเอลบุกรุกดินแดนของพวกเขา อิสราเอลจึงอ้อมมาและไม่ได้ทำลายล้างพวกเขา
  • 2พงศาวดาร 20:11 - แต่บัดนี้ดูเถิด พวกเขากลับตอบแทนด้วยการขับไล่พวกข้าพระองค์ออกจากดินแดนซึ่งพระองค์ประทานให้เป็นกรรมสิทธิ์
  • 2พงศาวดาร 20:12 - ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย พระองค์จะไม่ทรงลงโทษเขาหรือ? เพราะว่าข้าพระองค์ทั้งหลายไม่มีกำลังอำนาจจะรับมือกับกองทัพใหญ่ที่มาโจมตีนี้ ข้าพระองค์ทั้งหลายไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ได้แต่หวังพึ่งพระองค์”
  • 2พงศาวดาร 20:13 - ผู้ชายยูดาห์ทั้งปวงกับภรรยาและลูกเล็กเด็กแดงมายืนอยู่ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า
  • 2พงศาวดาร 20:14 - แล้วพระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จลงมาเหนือชายคนหนึ่งในกลุ่มชนนั้นคือ ยาฮาซีเอลบุตรเศคาริยาห์ ผู้เป็นบุตรของเบไนยาห์ ผู้เป็นบุตรของเยอีเอล ผู้เป็นบุตรของมัททานิยาห์เผ่าเลวี วงศ์วานของอาสาฟ
  • 2พงศาวดาร 20:15 - ยาฮาซีเอลกล่าวว่า “ฟังเถิด ข้าแต่กษัตริย์เยโฮชาฟัทและทุกคนที่อาศัยอยู่ในยูดาห์และกรุงเยรูซาเล็ม! องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับท่านว่า ‘อย่ากลัวเลย ไม่ต้องท้อแท้เพราะกองทัพใหญ่นี้ เพราะการศึกครั้งนี้ไม่ใช่ของเจ้า แต่เป็นของพระเจ้า
  • 2พงศาวดาร 20:16 - พรุ่งนี้จงออกไปรบกับเขา เขาจะปีนขึ้นมาทางช่องแคบศิส และเจ้าจะประจันหน้ากับเขาที่ท้ายหุบเขาในถิ่นกันดารเยรูเอล
  • 2พงศาวดาร 20:17 - เจ้าจะไม่ต้องรบในสงครามครั้งนี้ จงเข้าประจำที่ ยืนนิ่งๆ ดูการช่วยกอบกู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะประทานแก่ท่าน ยูดาห์และเยรูซาเล็มเอ๋ย อย่ากลัวหรือท้อแท้ใจไปเลย พรุ่งนี้จงออกไปเผชิญหน้ากับพวกเขา และองค์พระผู้เป็นเจ้าจะสถิตกับเจ้า’ ”
  • 2พงศาวดาร 20:18 - เยโฮชาฟัททรงซบหน้าลงกับพื้น และชาวยูดาห์กับชาวเยรูซาเล็มทั้งปวงก็หมอบกราบลงนมัสการต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า
  • 2พงศาวดาร 20:19 - แล้วมีคนเลวีบางคนจากตระกูลโคฮาทและตระกูลโคราห์ยืนขึ้นเปล่งเสียงก้องกังวานสรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล
  • 2พงศาวดาร 20:20 - เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เมื่อพวกเขาพร้อมที่จะเคลื่อนทัพไปยังถิ่นกันดารเทโคอา เยโฮชาฟัททรงยืนขึ้นและตรัสว่า “ฟังข้าพเจ้าเถิด พี่น้องประชาชนยูดาห์และเยรูซาเล็ม! จงเชื่อในพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านแล้วท่านจะได้รับการเชิดชู จงเชื่อบรรดาผู้เผยพระวจนะของพระองค์ แล้วท่านจะประสบความสำเร็จ”
  • 2พงศาวดาร 20:21 - หลังจากที่ทรงหารือกับประชาชนแล้ว เยโฮชาฟัทก็ทรงแต่งตั้งผู้ร้องเพลงถวายองค์พระผู้เป็นเจ้าและสรรเสริญพระองค์ใน ความบริสุทธิ์สูงส่งของพระองค์ขณะเดินนำหน้ากองทัพไปว่า “จงขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์”
  • 2พงศาวดาร 20:22 - เมื่อพวกเขาเริ่มร้องเพลงและสรรเสริญ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงวางกำลังซุ่มโจมตีชาวอัมโมน ชาวโมอับ และชาวภูเขาเสอีร์ที่มารุกรานยูดาห์ แล้วพวกเขาก็พ่ายแพ้
  • 2พงศาวดาร 20:23 - ชาวอัมโมนกับชาวโมอับหันไปเล่นงานพันธมิตรจากภูเขาเสอีร์ ทำลายล้างพวกเขาหมดสิ้น เสร็จแล้วก็หันมาห้ำหั่นกันเอง
  • 2พงศาวดาร 20:24 - เมื่อทัพยูดาห์มาถึงท้ายหุบเขาเหนือถิ่นกันดารและมองดูกองทัพใหญ่ ก็เห็นแต่ศพเกลื่อนกลาดอยู่ตามพื้น ไม่มีใครหนีรอดไปได้เลย
  • 2พงศาวดาร 20:25 - เยโฮชาฟัทกับพวกจึงออกไปริบข้าวของ ได้เครื่องมือ เครื่องแต่งกาย และของมีค่าจำนวนมหาศาล จนต้องใช้เวลาถึงสามวันจึงขนมาหมด
  • 2พงศาวดาร 20:26 - ในวันที่สี่พวกเขามาชุมนุมกันที่หุบเขาเบราคาห์และสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า หุบเขานี้จึงได้ชื่อว่าเบราคาห์ ตราบจนทุกวันนี้
  • 2พงศาวดาร 20:27 - จากนั้นชนยูดาห์และเยรูซาเล็มทั้งหมดกลับมายังกรุงเยรูซาเล็มโดยมีเยโฮชาฟัทเป็นผู้นำ ทุกคนรื่นเริงยินดีเพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงโปรดให้เขาเปรมปรีดิ์เหนือศัตรู
  • 2พงศาวดาร 20:28 - พวกเขาเข้าสู่เยรูซาเล็มและไปยังพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าโดยมีวงพิณใหญ่ พิณเขาคู่ และแตรบรรเลง
  • 2พงศาวดาร 20:29 - เมื่ออาณาจักรของชนชาติทั้งปวงได้ยินถึงการที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสู้รบกับศัตรูของอิสราเอล พวกเขาก็เกรงกลัวพระเจ้า
  • 2พงศาวดาร 20:30 - และอาณาจักรของเยโฮชาฟัทจึงสงบสุข เพราะพระเจ้าของพระองค์ประทานการพักสงบทุกด้าน ( 1พกษ.22:41-50 )
  • 2พงศาวดาร 20:31 - เยโฮชาฟัทขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งยูดาห์เมื่อพระชนมายุ 35 พรรษา และทรงครองราชย์ในกรุงเยรูซาเล็ม 25 ปี ราชมารดาคืออาซูบาห์ธิดาของชิลหิ
  • 2พงศาวดาร 20:32 - พระองค์ทรงดำเนินตามแบบอย่างของอาสาราชบิดาโดยไม่หันเห ทรงทำสิ่งที่ถูกต้องในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า
  • 2พงศาวดาร 20:33 - แต่ไม่ได้ทรงทำลายสถานบูชาบนที่สูงทั้งหลาย และเหล่าประชากรยังไม่ได้ปักใจยึดพระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขา
  • 2พงศาวดาร 20:34 - เหตุการณ์อื่นๆ ในรัชกาลเยโฮชาฟัทตั้งแต่ต้นจนจบมีบันทึกไว้ในจดหมายเหตุของเยฮูบุตรฮานานี ซึ่งบันทึกอยู่ในจดหมายเหตุกษัตริย์แห่งอิสราเอล
  • 2พงศาวดาร 20:35 - ต่อมากษัตริย์เยโฮชาฟัทแห่งยูดาห์ทรงเป็นพันธมิตรกับกษัตริย์อาหัสยาห์แห่งอิสราเอลผู้ได้ชื่อว่าชั่วร้ายยิ่งนัก
  • 2พงศาวดาร 20:36 - ทั้งสองพระองค์ร่วมกันต่อเรือที่เอซีโอนเกเบอร์เพื่อเป็นกองเรือพาณิชย์
  • 2พงศาวดาร 20:37 - ครั้งนั้นเอลีเยเซอร์บุตรโดดาวาหุแห่งมาเรชาห์พยากรณ์เกี่ยวกับเยโฮชาฟัทว่า “เพราะท่านผูกมิตรกับอาหัสยาห์ องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงทำลายกิจการของท่าน” แล้วกองเรือก็อับปางตั้งแต่ยังไม่ได้ออกทำการค้า
  • โรม 7:22 - เพราะในส่วนลึกข้าพเจ้าชื่นชมในบทบัญญัติของพระเจ้า
  • อิสยาห์ 37:1 - เมื่อกษัตริย์เฮเซคียาห์ทรงได้ยินเช่นนั้นก็ทรงฉีกฉลองพระองค์ สวมผ้ากระสอบ แล้วเสด็จเข้าสู่พระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า
  • อิสยาห์ 37:2 - พระองค์ทรงใช้เจ้ากรมวังเอลียาคิม ราชเลขาเชบนา และบรรดาปุโรหิตอาวุโสให้ไปพบผู้เผยพระวจนะอิสยาห์บุตรอาโมศ ทุกคนล้วนสวมชุดผ้ากระสอบ
  • อิสยาห์ 37:3 - พวกเขากล่าวกับอิสยาห์ว่า “เฮเซคียาห์ตรัสดังนี้ว่า วันนี้เป็นวันแห่งความทุกข์ระทม การประณามหยามเหยียด และความอับอาย เหมือนเมื่อทารกพร้อมจะเกิด แต่ผู้เป็นแม่ไม่มีแรงจะเบ่งออกมา
  • อิสยาห์ 37:4 - บางทีพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงได้ยินถ้อยคำของแม่ทัพ ซึ่งกษัตริย์อัสซีเรียเจ้านายของเขาใช้ให้มาหมิ่นประมาทพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ และพระองค์จะทรงลงโทษเขาเนื่องด้วยถ้อยคำที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงได้ยินนั้น ดังนั้นขอโปรดอธิษฐานเผื่อพวกเราที่เหลืออยู่เพียงหยิบมือนี้ด้วยเถิด”
  • อิสยาห์ 37:5 - เมื่อข้าราชบริพารของกษัตริย์เฮเซคียาห์มาพบอิสยาห์
  • อิสยาห์ 37:6 - อิสยาห์ก็กล่าวกับพวกเขาว่า “จงไปบอกนายของท่านว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า อย่ากลัวสิ่งที่ได้ยิน คือถ้อยคำซึ่งลูกน้องของกษัตริย์อัสซีเรียได้หมิ่นประมาทเรา
  • อิสยาห์ 37:7 - จงฟังเถิด! เรากำลังจะบันดาลวิญญาณอย่างหนึ่งในตัวเขา เพื่อเมื่อเขาได้ยินรายงานบางอย่าง เขาจะกลับไปยังประเทศของตน และเราจะให้เขาตายด้วยดาบที่นั่น’ ”
  • อิสยาห์ 37:8 - ฝ่ายแม่ทัพอัสซีเรียได้ข่าวว่ากษัตริย์ของตนเสด็จออกจากลาคีชแล้ว ก็ถอนทัพไป และพบพระองค์กำลังรบอยู่กับเมืองลิบนาห์
  • อิสยาห์ 37:9 - แล้วเซนนาเคอริบได้รับรายงานว่าทีรหะคาห์กษัตริย์ชาวคูช แห่งอียิปต์ยกทัพจะมาสู้รบกับพระองค์ เมื่อได้ยินดังนั้นพระองค์จึงทรงส่งคนกลับมาแจ้งแก่เฮเซคียาห์ว่า
  • อิสยาห์ 37:10 - “จงไปบอกกษัตริย์เฮเซคียาห์แห่งยูดาห์ดังนี้ว่า อย่ายอมให้พระเจ้าซึ่งเจ้าพึ่งพานั้นหลอกลวงเจ้าเมื่อพระองค์ตรัสว่า ‘เยรูซาเล็มจะไม่ตกอยู่ในมือกษัตริย์อัสซีเรีย’
  • อิสยาห์ 37:11 - เจ้าก็รู้ดีว่าบรรดากษัตริย์อัสซีเรียได้ทำอะไรแก่ประเทศทั้งปวงบ้าง กษัตริย์เหล่านั้นได้ทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างราบคาบ แล้วเจ้าจะได้รับการช่วยกู้หรือ?
  • อิสยาห์ 37:12 - บรรดาพระของชนชาติต่างๆ ที่บรรพบุรุษของเราได้ทำลายล้างไปนั้นได้ช่วยกอบกู้พวกเขาไว้หรือ อย่างพระทั้งหลายของโกซาน ฮาราน เรเซฟ และชาวเอเดนในเทลอัสสาร์?
  • อิสยาห์ 37:13 - ไหนล่ะกษัตริย์ฮามัท กษัตริย์อารปัด กษัตริย์เสฟารวาอิม เฮนา และอิฟวาห์?” ( 2พกษ.19:14-19 )
  • อิสยาห์ 37:14 - เมื่อเฮเซคียาห์ทรงรับสาส์นฉบับนี้และอ่านจบ ก็เสด็จไปยังพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าและทรงคลี่สาส์นนั้นออกต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า
  • อิสยาห์ 37:15 - แล้วเฮเซคียาห์ทรงอธิษฐานต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า
  • อิสยาห์ 37:16 - “ข้าแต่พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้ประทับอยู่บนพระที่นั่งระหว่างเครูบ พระองค์ผู้เดียวทรงเป็นพระเจ้าเหนือมวลอาณาจักรของโลก พระองค์ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก
  • อิสยาห์ 37:17 - ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงเงี่ยพระกรรณสดับฟัง ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงทอดพระเนตรและสดับฟังถ้อยคำทั้งสิ้นซึ่งเซนนาเคอริบส่งมาสบประมาทพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่
  • อิสยาห์ 37:18 - “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า เป็นความจริงที่ว่าบรรดากษัตริย์อัสซีเรียได้ทำลายล้างชนชาติทั้งปวงนี้ และแผ่นดินของพวกเขา
  • อิสยาห์ 37:19 - และได้เผาทำลายพระของพวกเขาทิ้งเพราะพระเหล่านั้นไม่ใช่พระเจ้า เป็นเพียงแต่ไม้และหินที่ทำขึ้นด้วยมือมนุษย์
  • อิสยาห์ 37:20 - บัดนี้ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอทรงช่วยข้าพระองค์ทั้งหลายให้พ้นจากเงื้อมมือของเขา เพื่อมวลอาณาจักรในโลกนี้จะได้รู้ว่า พระยาห์เวห์พระองค์แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้นทรงเป็นพระเจ้า ” ( 2พกษ.19:20-37 ; 2พศด.32:20-21 )
  • อิสยาห์ 37:21 - จากนั้นอิสยาห์บุตรอาโมศจึงให้นำความมาทูลเฮเซคียาห์ว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า เพราะเจ้าได้อธิษฐานเรื่องกษัตริย์เซนนาเคอริบแห่งอัสซีเรียต่อเรา
  • อิสยาห์ 37:22 - องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสถึงเขาดังนี้ว่า “ธิดาพรหมจารีแห่งศิโยน ดูหมิ่นและเยาะเย้ยเจ้า ธิดาแห่งเยรูซาเล็ม ส่ายหน้าเมื่อเจ้าเตลิดหนี
  • อิสยาห์ 37:23 - ใครนะที่เจ้าเย้ยหยันและลบหลู่? เจ้าขึ้นเสียง และทำตาหยิ่งยโสใส่ใคร? ก็องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลน่ะสิ!
  • อิสยาห์ 37:24 - เจ้าใช้ผู้สื่อสารของเจ้า มากล่าววาจาลบหลู่องค์พระผู้เป็นเจ้า และเจ้าได้กล่าวว่า ‘ด้วยรถม้าศึกมากมายของข้า ข้าได้ขึ้นไปถึงบรรดายอดเขาสูง สู่สุดยอดแห่งเลบานอน ข้าได้โค่นบรรดาสนซีดาร์ที่สูงที่สุด และต้นสนที่ดีเยี่ยมที่สุด ข้าได้ขึ้นไปถึงยอดที่สูงที่สุด คือป่าอันอุดมสมบูรณ์ที่สุด
  • อิสยาห์ 37:25 - ข้าได้ขุดบ่อน้ำหลายบ่อในต่างแดน และดื่มน้ำที่นั่น ด้วยส้นเท้าของข้า ลำธารทั้งหลายของอียิปต์ก็แห้งเหือด’
  • อิสยาห์ 37:26 - “เจ้าไม่เคยได้ยินเลยหรือ? เราได้บัญชาไว้ตั้งนานมาแล้ว เราได้วางแผนไว้ตั้งแต่อดีต และบัดนี้เราก็ทำให้เป็นไปตามนั้น คือให้เจ้าพิชิตเมืองป้อมปราการทั้งหลาย ทำให้กลายเป็นกองหิน
  • อิสยาห์ 37:27 - ชาวเมืองเหล่านั้นหมดอำนาจ ถดถอยและอับอาย พวกเขาเหมือนพืชในทุ่งนา เหมือนหน่ออ่อนเขียวสด เหมือนหญ้างอกขึ้นบนหลังคา ถูกแดดแผดเผา ก่อนจะโตขึ้นมา
  • อิสยาห์ 37:28 - “แต่เรารู้จักเจ้าดี ไม่ว่าความเป็นมาหรือความเป็นไปของเจ้า และรู้ที่เจ้าฉุนเฉียวใส่เรา
  • อิสยาห์ 37:29 - เพราะเจ้าเกรี้ยวกราดใส่เรา และเพราะวาจาโอหังของเจ้าเข้าหูเรา เราจะเอาเบ็ดเกี่ยวจมูกของเจ้า และเอาบังเหียนใส่ปากของเจ้า และเราจะทำให้เจ้าหันกลับไป ตามเส้นทางที่เจ้ามา
  • อิสยาห์ 37:30 - “เฮเซคียาห์เอ๋ย นี่จะเป็นหมายสำคัญแก่เจ้าคือ “ปีนี้เจ้าจะกินพืชพันธุ์ที่งอกขึ้นเอง และปีที่สองก็จะกินพืชพันธุ์ที่ออกผลตามมา แต่ในปีที่สาม จงหว่านและเก็บเกี่ยว จงทำสวนองุ่นและกินผลของมัน
  • อิสยาห์ 37:31 - ประชากรยูดาห์ที่เหลืออยู่เพียงหยิบมือนั้น จะหยั่งรากและเกิดผลอีกครั้งหนึ่ง
  • อิสยาห์ 37:32 - เพราะจะมีคนที่เหลือรอดอยู่หยิบมือหนึ่งมาจากเยรูซาเล็ม และผู้รอดชีวิตกลุ่มหนึ่งจะมาจากภูเขาศิโยน ความกระตือรือร้นของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ จะกระทำให้สำเร็จตามนี้
  • อิสยาห์ 37:33 - “ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสถึงกษัตริย์อัสซีเรียดังนี้ว่า “เขาจะไม่ได้เข้ามาในเมืองนี้ หรือยิงธนูที่นี่ เขาจะไม่มาถือโล่อยู่หน้าเมือง หรือสร้างเชิงเทินล้อมโจมตีมัน
  • อิสยาห์ 37:34 - เขามาทางไหนก็จะกลับไปทางนั้น เขาจะไม่ได้เข้ามาในเมืองนี้” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
  • อิสยาห์ 37:35 - “เราจะปกป้องและช่วยเมืองนี้ไว้ เพื่อเห็นแก่เราเองและเห็นแก่ดาวิดผู้รับใช้ของเรา!”
  • อิสยาห์ 37:36 - แล้วทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็ออกไปประหารคนในค่ายของอัสซีเรีย 185,000 คน วันรุ่งขึ้นเมื่อผู้คนตื่นขึ้น ก็เห็นซากศพเกลื่อนกลาด!
  • อิสยาห์ 37:37 - กษัตริย์เซนนาเคอริบแห่งอัสซีเรียจึงทรงให้รื้อค่ายและถอนทัพกลับไปยังเมืองนีนะเวห์และประทับอยู่ที่นั่น
  • อิสยาห์ 37:38 - วันหนึ่งขณะที่ทรงนมัสการอยู่ในวิหารของพระนิสรอคของพระองค์ อัดรัมเมเลคและชาเรเซอร์โอรสของพระองค์เองได้ปลงพระชนม์พระองค์ด้วยดาบ แล้วหนีไปยังดินแดนอารารัต และเอสารฮัดโดนโอรสอีกองค์หนึ่งของพระองค์ขึ้นครองราชย์แทน
  • อิสยาห์ 34:7 - วัวป่า ลูกวัว และวัวกระทิง จะล้มลงพร้อมพวกเขา แผ่นดินโลกจะนองเลือด ผงธุลีจะชุ่มด้วยไขมัน
  • ยากอบ 4:1 - อะไรคือต้นเหตุของการต่อสู้และการทะเลาะวิวาทในหมู่พวกท่าน? สิ่งเหล่านี้มาจากตัณหาซึ่งขับเคี่ยวกันภายในท่านไม่ใช่หรือ?
  • 2ซามูเอล 8:1 - ต่อมาดาวิดทรงพิชิตชาวฟีลิสเตียอย่างราบคาบ พระองค์ยึดเมืองเมเธกอัมมาห์จากฟีลิสเตีย
  • 2ซามูเอล 8:2 - ดาวิดยังได้ทรงพิชิตชาวโมอับ จับเชลยนอนเรียงแถวบนพื้นแล้ววัดด้วยสายวัด ทุกๆ สองช่วงของสายวัดเชลยที่นอนอยู่ในสองช่วงนั้นจะถูกประหาร และจะไว้ชีวิตเชลยที่อยู่ในช่วงที่สาม ชาวโมอับจึงขึ้นแก่ดาวิดและต้องส่งเครื่องบรรณาการ
  • 2ซามูเอล 8:3 - ยิ่งกว่านั้นดาวิดยังทรงสู้รบกับกษัตริย์ฮาดัดเอเซอร์ราชโอรสของกษัตริย์เรโหบแห่งโศบาห์ เมื่อฮาดัดเอเซอร์เสด็จไปกู้อำนาจคืนในแถบแม่น้ำยูเฟรติส
  • 2ซามูเอล 8:4 - ดาวิดทรงยึดรถม้าศึกหนึ่งพันคัน พลรถรบเจ็ดพันคน และทหารราบสองหมื่นคน ทรงตัดเอ็นขาม้าศึกทั้งหมด ยกเว้นม้าสำหรับเทียมรถหนึ่งร้อยตัว
  • 2ซามูเอล 8:5 - เมื่อชาวอารัมจากเมืองดามัสกัสมาช่วยกษัตริย์ฮาดัดเอเซอร์แห่งเมืองโศบาห์ ดาวิดทรงสังหารพวกเขาไป 22,000 คน
  • 2ซามูเอล 8:6 - ทรงวางกำลังทหารไว้ในอาณาจักรอารัมแห่งดามัสกัส และชาวอารัมก็ขึ้นกับดาวิด และต้องส่งบรรณาการมาถวาย องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานชัยชนะแก่ดาวิดไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน
  • 2ซามูเอล 8:7 - ดาวิดทรงนำโล่ทองคำของบรรดานายทหารของฮาดัดเอเซอร์มายังกรุงเยรูซาเล็ม
  • 2ซามูเอล 8:8 - กษัตริย์ดาวิดยังได้นำทองสัมฤทธิ์จำนวนมหาศาลจากเมืองเทบาห์ และจากเมืองเบโรธัยของฮาดัดเอเซอร์มาด้วย
  • 2ซามูเอล 8:9 - เมื่อกษัตริย์โทอู แห่งเมืองฮามัทได้ข่าวว่าดาวิดทรงรบชนะทั้งกองทัพของฮาดัดเอเซอร์
  • 2ซามูเอล 8:10 - ก็ส่งโยรัม ราชโอรสมาถวายคำนับกษัตริย์ดาวิดและร่วมยินดีในชัยชนะเหนือฮาดัดเอเซอร์ เพราะฮาดัดเอเซอร์และโทอูเป็นศัตรูขับเคี่ยวกันมา โยรัมนำเครื่องเงิน เครื่องทอง และเครื่องทองสัมฤทธิ์มาถวายด้วย
  • 2ซามูเอล 8:11 - กษัตริย์ดาวิดทรงถวายสิ่งเหล่านี้แด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเช่นเดียวกับเงินและทองซึ่งริบจากชนชาติต่างๆ ที่ดาวิดพิชิตคือ
  • 2ซามูเอล 8:12 - เอโดม โมอับ อัมโมน ฟีลิสเตีย และอามาเลข ตลอดจนของเชลยที่ริบมาจากฮาดัดเอเซอร์ราชโอรสของกษัตริย์เรโหบแห่งโศบาห์
  • 2ซามูเอล 8:13 - และหลังจากที่ดาวิดทรงประหารชาวเอโดม ที่หุบเขาเกลือไป 18,000 คน ชื่อเสียงของเขาก็โด่งดัง
  • 2ซามูเอล 8:14 - ดาวิดทรงวางกำลังทหารไว้ในเอโดม และชาวเอโดมทั้งปวงก็ยอมสวามิภักดิ์ต่อเขา องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานชัยชนะแก่ดาวิดไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน ( 1พศด.18:14-17 )
  • 2ซามูเอล 8:15 - ดาวิดทรงปกครองทั่วแดนอิสราเอล ทรงทำสิ่งที่ถูกต้องเที่ยงธรรมเพื่อปวงประชากรของพระองค์
  • 2ซามูเอล 8:16 - โยอาบบุตรนางเศรุยาห์เป็นแม่ทัพ เยโฮชาฟัทบุตรอาหิลูดเป็นอาลักษณ์หลวง
  • 2ซามูเอล 8:17 - ศาโดกบุตรอาหิทูบและอาหิเมเลคบุตรอาบียาธาร์เป็นปุโรหิต เสไรอาห์เป็นราชเลขา
  • 2ซามูเอล 8:18 - เบไนยาห์บุตรเยโฮยาดาดูแลพวกเคเรธีและคนเปเลท และบรรดาโอรสของดาวิดเป็นราชมนตรี
  • 2ซามูเอล 10:1 - ต่อมากษัตริย์นาหาชแห่งอัมโมนสิ้นพระชนม์ และฮานูนราชโอรสขึ้นครองราชย์แทน
  • 2ซามูเอล 10:2 - ดาวิดทรงรำพึงว่า “เราจะแสดงความกรุณาต่อฮานูนบุตรนาหาชเหมือนที่บิดาของเขาเคยแสดงความกรุณาต่อเรา” ดาวิดจึงทรงส่งทูตไปแสดงความเสียใจต่อฮานูนที่สูญเสียราชบิดา แต่เมื่อคนของดาวิดมายังดินแดนอัมโมน
  • 2ซามูเอล 10:3 - พวกขุนนางของฮานูนทูลกษัตริย์ของตนว่า “ฝ่าพระบาททรงคิดว่าดาวิดให้เกียรติแก่ราชบิดาของฝ่าพระบาทโดยส่งคนเหล่านี้มาแสดงความเห็นใจต่อฝ่าพระบาทหรือ? ดาวิดส่งพวกเขามาสอดแนมดูลาดเลาก่อนเข้าโจมตีไม่ใช่หรือ?”
  • 2ซามูเอล 10:4 - ดังนั้นฮานูนจึงจับคนของดาวิดโกนเคราออกครึ่งหนึ่ง และตัดเสื้อผ้าตรงสะโพกออกแล้วปล่อยไป
  • 2ซามูเอล 10:5 - เมื่อดาวิดทรงทราบก็ส่งผู้สื่อสารไปพบคนเหล่านั้นเพราะพวกเขารู้สึกอับอายขายหน้าอย่างมาก กษัตริย์ตรัสว่า “จงพักอยู่ที่เยรีโคจนกว่าเคราจะขึ้นดังเดิมแล้วค่อยกลับมา”
  • 2ซามูเอล 10:6 - ถึงตอนนี้ชาวอัมโมนตระหนักดีว่าได้ยั่วยุดาวิดอย่างร้ายแรงเพียงใด พวกเขาจึงจ้างทหารราบชาวอารัมจากเบธเรโหบและโศบาห์ 20,000 คน จากกษัตริย์เมืองมาอาคาห์ 1,000 คน และจากเมืองโทบ 12,000 คน
  • 2ซามูเอล 10:7 - เมื่อดาวิดทรงทราบเช่นนั้น ก็ส่งโยอาบและกองทัพอิสราเอลทั้งหมดไป
  • 2ซามูเอล 10:8 - คนอัมโมนออกมาตั้งแนวรบที่ทางเข้าประตูเมือง ขณะที่ชาวอารัมจากโศบาห์ เรโหบ โทบ และมาอาคาห์อยู่ในที่โล่งนอกเมือง
  • 2ซามูเอล 10:9 - โยอาบเห็นว่ากองกำลังของศัตรูตั้งแนวรบอยู่ทั้งข้างหน้าและข้างหลัง ก็จัดกำลังทหารฝีมือดีที่สุดของอิสราเอลส่วนหนึ่งไปรับมือชาวอารัม
  • 2ซามูเอล 10:10 - โยอาบให้ทหารส่วนที่เหลืออยู่ภายใต้การบัญชาการของอาบีชัยน้องชายของเขา และจัดทัพเคลื่อนออกไปรับมือกับชาวอัมโมน
  • 2ซามูเอล 10:11 - โยอาบกล่าวว่า “ถ้าพวกอารัมแข็งแกร่งเกินกำลังของเรา เจ้าจงมาช่วยเรา แต่ถ้าพวกอัมโมนแข็งแกร่งเกินกำลังของเจ้า เราจะไปช่วยเจ้า
  • 2ซามูเอล 10:12 - จงเข้มแข็งและให้เราต่อสู้อย่างกล้าหาญ เพื่อพี่น้องร่วมชาติของเราและเพื่อนครแห่งพระเจ้าของเรา องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงกระทำตามที่ทรงเห็นชอบ”
  • 2ซามูเอล 10:13 - แล้วโยอาบกับกองทหารก็บุกเข้าโจมตี ชาวอารัมก็ถอยหนี
  • 2ซามูเอล 10:14 - เมื่อชาวอัมโมนเห็นชาวอารัมล่าถอย พวกเขาก็ถอยหนีจากอาบีชัยเข้าไปในเมือง โยอาบจึงกลับจากการสู้รบกับชาวอัมโมนและมายังกรุงเยรูซาเล็ม
  • 2ซามูเอล 10:15 - หลังจากชาวอารัมเห็นว่าถูกอิสราเอลรุกไล่ก็รวมกำลังกันอีก
  • 2ซามูเอล 10:16 - ฮาดัดเอเซอร์นำคนอารัมจากอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำยูเฟรติสมาสมทบ พวกเขามายังเฮลาม มีโชบัคแม่ทัพของฮาดัดเอเซอร์เป็นผู้บัญชาการ
  • 2ซามูเอล 10:17 - เมื่อดาวิดทรงทราบข่าว พระองค์ทรงระดมพลอิสราเอลทั้งหมดและข้ามแม่น้ำจอร์แดนมายังเฮลาม ชาวอารัมตั้งแนวรบประจันหน้ากับดาวิดและสู้รบกัน
  • 2ซามูเอล 10:18 - แต่พวกเขาพ่ายหนีต่อหน้าอิสราเอล และดาวิดทรงสังหารพลรถรบของพวกเขาเจ็ดร้อยคนกับทหารราบ อีกสี่หมื่นคน และทรงสังหารโชบัคแม่ทัพของพวกเขาตายที่นั่น
  • 2ซามูเอล 10:19 - เมื่อบรรดากษัตริย์ซึ่งขึ้นกับฮาดัดเอเซอร์ เห็นว่าพวกเขาพ่ายแพ้อิสราเอล ก็ขอสงบศึกและยอมเป็นเมืองขึ้นของอิสราเอล ชาวอารัมจึงไม่กล้ามาช่วยชาวอัมโมนสู้รบอีกเลย
  • เยเรมีย์ 50:11 - “เพราะเจ้าผู้ปล้นกรรมสิทธิ์ของเรา กระหยิ่มลิงโลด เพราะเจ้าร่าเริงอย่างวัวสาวย่ำนวดเมล็ดข้าว และส่งเสียงร้องอย่างม้าตัวผู้
  • เอเสเคียล 29:3 - ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า “ ‘ฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์ เราเป็นศัตรูกับเจ้า เจ้าผู้เป็นสัตว์ร้ายมหึมาซึ่งกบดานอยู่ในสายน้ำของเจ้า เจ้ากล่าวว่า “แม่น้ำไนล์เป็นของข้า ข้าสร้างมันขึ้นมาเพื่อตัวข้าเอง”
  • สดุดี 89:10 - พระองค์ทรงบดขยี้ราหับดั่งผู้ที่ถูกฆ่า และทรงทำให้ศัตรูของพระองค์กระเจิด กระเจิงไปด้วยพระหัตถ์อันเข้มแข็ง
  • สดุดี 22:12 - เหล่ากระทิงห้อมล้อมข้าพระองค์ ฝูงโคถึกแห่งบาชานรุมล้อมข้าพระองค์
  • สดุดี 22:13 - พวกเขาอ้าปากกว้างเข้าใส่ข้าพระองค์ ดั่งสิงโตคำรามและกัดฉีกเหยื่อ
  • สดุดี 2:12 - จงก้มกราบพระบุตรนั้น มิฉะนั้นพระองค์จะทรงพระพิโรธ และท่านกับหนทางต่างๆ ของท่านจะถูกทำลาย เพราะว่าพระพิโรธของพระองค์จะพลุ่งขึ้นในพริบตา ความสุขมีแก่ทุกคนที่เข้ามาลี้ภัยในพระองค์
逐节对照交叉引用
  • พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - ขอทรงลงโทษสัตว์ร้ายในพงอ้อ ขอทรงลงโทษฝูงโคถึกในหมู่ลูกวัวแห่งชนชาติทั้งหลาย ขอทรงกระทำให้พวกเขาสยบและนำเงินแท่งมา ขอทรงกระทำให้ชนชาติต่างๆ ที่ใฝ่สงครามกระจัดกระจายไป
  • 新标点和合本 - 求你叱喝芦苇中的野兽和群公牛, 并列邦中的牛犊。 把银块踹在脚下;  神已经赶散好争战的列邦。
  • 和合本2010(上帝版-简体) - 求你斥责芦苇中的野兽和公牛群, 并万民中的牛犊。 直到他们带着银块来朝贡 ; 上帝已经赶散好战的万民 。
  • 和合本2010(神版-简体) - 求你斥责芦苇中的野兽和公牛群, 并万民中的牛犊。 直到他们带着银块来朝贡 ;  神已经赶散好战的万民 。
  • 当代译本 - 求你斥责那芦苇中的野兽, 斥责成群的公牛和列邦的牛犊, 使他们俯首献上贡银。 求你驱散好战的列邦。
  • 圣经新译本 - 求你斥责芦苇中的野兽、 成群的公牛和万民中的牛犊, 并且把 贪爱银块的人践踏在脚下; 求你赶散那些喜爱战争的民族。
  • 中文标准译本 - 求你斥责芦苇中的野兽, 斥责壮牛群以及万民中的牛犊; 把贪爱银块的人践踏在脚下 , 驱散那喜好战斗的民众。
  • 现代标点和合本 - 求你叱喝芦苇中的野兽和群公牛, 并列邦中的牛犊, 把银块踹在脚下; 神已经赶散好争战的列邦。
  • 和合本(拼音版) - 求你叱喝芦苇中的野兽和群公牛, 并列邦中的牛犊; 把银块踹在脚下, 上帝已经赶散好争战的列邦。
  • New International Version - Rebuke the beast among the reeds, the herd of bulls among the calves of the nations. Humbled, may the beast bring bars of silver. Scatter the nations who delight in war.
  • New International Reader's Version - Give a strong warning to Egypt, that beast among the tall grass. It is like a herd of bulls among the calves. May that beast bow down before you with gifts of silver. Scatter the nations who like to make war.
  • English Standard Version - Rebuke the beasts that dwell among the reeds, the herd of bulls with the calves of the peoples. Trample underfoot those who lust after tribute; scatter the peoples who delight in war.
  • New Living Translation - Rebuke these enemy nations— these wild animals lurking in the reeds, this herd of bulls among the weaker calves. Make them bring bars of silver in humble tribute. Scatter the nations that delight in war.
  • Christian Standard Bible - Rebuke the beast in the reeds, the herd of bulls with the calves of the peoples. Trample underfoot those with bars of silver. Scatter the peoples who take pleasure in war.
  • New American Standard Bible - Rebuke the animals in the reeds, The herd of bulls with the calves of the peoples, Trampling the pieces of silver; He has scattered the peoples who delight in war.
  • New King James Version - Rebuke the beasts of the reeds, The herd of bulls with the calves of the peoples, Till everyone submits himself with pieces of silver. Scatter the peoples who delight in war.
  • Amplified Bible - Rebuke the beasts [living] among the reeds [in Egypt], The herd of bulls (the leaders) with the calves of the peoples; Trampling underfoot the pieces of silver; He has scattered the peoples who delight in war.
  • American Standard Version - Rebuke the wild beast of the reeds, The multitude of the bulls, with the calves of the peoples, Trampling under foot the pieces of silver: He hath scattered the peoples that delight in war.
  • King James Version - Rebuke the company of spearmen, the multitude of the bulls, with the calves of the people, till every one submit himself with pieces of silver: scatter thou the people that delight in war.
  • New English Translation - Sound your battle cry against the wild beast of the reeds, and the nations that assemble like a herd of calves led by bulls! They humble themselves and offer gold and silver as tribute. God scatters the nations that like to do battle.
  • World English Bible - Rebuke the wild animal of the reeds, the multitude of the bulls, with the calves of the peoples. Being humbled, may it bring bars of silver. Scatter the nations that delight in war.
  • 新標點和合本 - 求你叱喝蘆葦中的野獸和羣公牛, 並列邦中的牛犢。 把銀塊踹在腳下; 神已經趕散好爭戰的列邦。
  • 和合本2010(上帝版-繁體) - 求你斥責蘆葦中的野獸和公牛羣, 並萬民中的牛犢。 直到他們帶着銀塊來朝貢 ; 上帝已經趕散好戰的萬民 。
  • 和合本2010(神版-繁體) - 求你斥責蘆葦中的野獸和公牛羣, 並萬民中的牛犢。 直到他們帶着銀塊來朝貢 ;  神已經趕散好戰的萬民 。
  • 當代譯本 - 求你斥責那蘆葦中的野獸, 斥責成群的公牛和列邦的牛犢, 使他們俯首獻上貢銀。 求你驅散好戰的列邦。
  • 聖經新譯本 - 求你斥責蘆葦中的野獸、 成群的公牛和萬民中的牛犢, 並且把 貪愛銀塊的人踐踏在腳下; 求你趕散那些喜愛戰爭的民族。
  • 呂振中譯本 - 求你叱責蘆荻中的野獸、 雄壯的公牛羣、別族之民的領主 ; 將貪婪銀子的踹於腳下 ; 趕散喜好接戰的別族之民 。
  • 中文標準譯本 - 求你斥責蘆葦中的野獸, 斥責壯牛群以及萬民中的牛犢; 把貪愛銀塊的人踐踏在腳下 , 驅散那喜好戰鬥的民眾。
  • 現代標點和合本 - 求你叱喝蘆葦中的野獸和群公牛, 並列邦中的牛犢, 把銀塊踹在腳下; 神已經趕散好爭戰的列邦。
  • 文理和合譯本 - 其叱葦中之獸、牡牛之羣、民眾之犢、踐其銀於足下、驅散好鬥之民兮、
  • 文理委辦譯本 - 好鬥之人、如牛如犢、如葦間之獸、爾制伏之、爾離散之、俾輸金以歸附兮。
  • 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 願主叱喝葦叢之野獸、與群牡牛、及似牛犢之異邦人、使之皆攜銀叩伏、喜爭鬥之列國、天主均已擊散、
  • 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 以爾駐蹕。於我 瑟琳 。萬王賓貢。莫敢不勤。
  • Nueva Versión Internacional - Reprende a esa bestia de los juncos, a esa manada de toros bravos entre naciones que parecen becerros. Haz que, humillada, te lleve barras de plata; dispersa a las naciones belicosas.
  • 현대인의 성경 - 갈밭의 들짐승과 같은 이집트를 꾸짖으시고 송아지를 거느린 수소떼와 같은 온 세계 민족을 꾸짖어 그들이 은을 바치며 복종할 때까지 낮추소서. 전쟁을 즐기는 모든 민족을 흩으소서.
  • Новый Русский Перевод - Я же угнетен и страдаю. Спасение Твое, Боже, пусть возвысит меня!
  • Восточный перевод - Я же угнетён и страдаю. Спасение Твоё, Всевышний, пусть возвысит меня!
  • Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Я же угнетён и страдаю. Спасение Твоё, Аллах, пусть возвысит меня!
  • Восточный перевод, версия для Таджикистана - Я же угнетён и страдаю. Спасение Твоё, Всевышний, пусть возвысит меня!
  • La Bible du Semeur 2015 - depuis ton sanctuaire ╵qui domine Jérusalem ! Des rois t’y apporteront leurs présents.
  • リビングバイブル - ああ神よ、敵をしかりつけ、 進んで税を持って来るようにしてください。 争い事を好む連中を追い散らしてください。
  • Nova Versão Internacional - Repreende a fera entre os juncos, a manada de touros entre os bezerros das nações. Humilhados, tragam barras de prata. Espalha as nações que têm prazer na guerra.
  • Hoffnung für alle - Dein Tempel ragt hoch über Jerusalem. Dorthin bringen dir Könige ihren Tribut.
  • Kinh Thánh Hiện Đại - Xin quở trách đội quân các nước— là những thú dữ trong lau sậy, và đàn bò rừng giữa bò con của các dân tộc. Xin hạ nhục bọn người dâng bạc. Xin đánh tan các đoàn dân hiếu chiến.
  • พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - ห้าม​พวก​สัตว์​ป่า​ที่​อาศัย​อยู่​ใน​ดง​อ้อ ห้าม​ฝูง​กระทิง​ที่​อยู่​ท่าม​กลาง​กระทิง​น้อย​ของ​บรรดา​ชน​ชาติ พวก​ที่​ใคร่​จะ​ได้​เครื่อง​บรรณาการ ก็​ขอ​ให้​ถูก​ทำ​ให้​ถ่อม​ลง และ​ขอ​ให้​บรรดา​ชน​ชาติ​ที่​ชอบ​การ​สงคราม​กระเจิด​กระเจิง​ไป
  • เยเรมีย์ 51:32 - ท่าข้ามแม่น้ำถูกยึด เครื่องกีดขวางถูกเผา และเหล่าทหารก็ตกใจกลัว”
  • เยเรมีย์ 51:33 - พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า “ธิดาแห่งบาบิโลน เหมือนลานนวดข้าว เมื่อถึงเวลาก็ถูกเหยียบย่ำ ไม่ช้าก็จะถึงเวลาเก็บเกี่ยวบาบิโลน”
  • 2พงศาวดาร 14:1 - และอาบียาห์ทรงล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษและถูกฝังไว้ในเมืองดาวิด แล้วอาสาโอรสของพระองค์ขึ้นครองราชย์แทน ในรัชกาลของพระองค์แผ่นดินสงบสุขอยู่สิบปี ( 1พกษ.15:11-12 )
  • 2พงศาวดาร 14:2 - อาสาทรงทำสิ่งที่ดีงามและถูกต้องในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์พระเจ้าของพระองค์
  • 2พงศาวดาร 14:3 - ทรงรื้อแท่นบูชาของชนต่างด้าวและสถานบูชาบนที่สูงทั้งหลาย ทรงทุบหินศักดิ์สิทธิ์และโค่นเสาเจ้าแม่อาเชราห์ ทิ้ง
  • 2พงศาวดาร 14:4 - พระองค์ทรงบัญชาชนยูดาห์ให้แสวงหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขา และเชื่อฟังบทบัญญัติและพระบัญชาของพระเจ้า
  • 2พงศาวดาร 14:5 - พระองค์ทรงรื้อสถานบูชาบนที่สูงทั้งหลายกับแท่นเผาเครื่องหอมออกจากทุกเมืองของยูดาห์ ราชอาณาจักรสงบสุขภายใต้การปกครองของพระองค์
  • 2พงศาวดาร 14:6 - พระองค์ได้ทรงสร้างเมืองป้อมปราการต่างๆ ของยูดาห์เพราะแผ่นดินสงบสุข ไม่มีข้าศึกมาสู้รบในช่วงนั้น เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานการพักสงบแก่พระองค์
  • 2พงศาวดาร 14:7 - อาสาตรัสกับชนยูดาห์ว่า “ให้เราสร้างเมืองเหล่านี้ ก่อกำแพงรอบ มีหอคอย ประตู และดาล ดินแดนยังเป็นของเรา เพราะเราแสวงหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา พระองค์จึงทรงให้เรามีความสงบสุขรอบด้าน” พวกเขาก็ลงมือทำและเจริญรุ่งเรือง
  • 2พงศาวดาร 14:8 - กองทัพของอาสามีกำลังจากยูดาห์ 300,000 คนถือโล่ใหญ่กับหอก และจากเบนยามิน 280,000 คนถือโล่เล็กกับธนู คนเหล่านี้ล้วนเป็นนักรบแกล้วกล้า
  • 2พงศาวดาร 14:9 - เศราห์ชาวคูชยกทัพใหญ่มหึมา และมีรถม้าศึกสามร้อยคัน รุกมาถึงเมืองมาเรชาห์
  • 2พงศาวดาร 14:10 - อาสาออกมาประจันหน้า ตั้งแนวรบที่หุบเขาเศฟาธาห์ใกล้มาเรชาห์
  • 2พงศาวดาร 14:11 - อาสาทูลพระยาห์เวห์พระเจ้าของพระองค์ว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่มีใครอื่นเสมอเหมือนพระองค์ที่จะช่วยผู้ไร้กำลังต่อกรกับผู้มีอำนาจ ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอทรงช่วยเพราะข้าพระองค์ทั้งหลายพึ่งในพระองค์ และข้าพระองค์ทั้งหลายมาต่อสู้กองทัพมหึมานี้ในพระนามของพระองค์ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของเหล่าข้าพระองค์ ขออย่าให้มนุษย์ชนะพระองค์เลย”
  • 2พงศาวดาร 14:12 - องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปราบชาวคูชต่อหน้าอาสากับยูดาห์ ชาวคูชถอยหนีไป
  • 2พงศาวดาร 14:13 - และอาสากับกองทัพรุกไล่พวกเขาไปไกลถึงเกราร์ ชาวคูชล้มตายมากมายจนไม่อาจฟื้นตัวได้อีก พวกเขาแหลกลาญไปต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้ากับกองกำลังของพระองค์ ชนยูดาห์นำของเชลยจำนวนมากกลับมา
  • 2พงศาวดาร 14:14 - พวกเขาทำลายล้างหมู่บ้านทั้งปวงรอบเกราร์เพราะความกลัวขององค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่เหนือพวกนั้น พวกเขาริบข้าวของทั่วหมู่บ้านเหล่านั้น เนื่องจากมีของเชลยมากมายที่นั่น
  • 2พงศาวดาร 14:15 - พวกเขายังโจมตีค่ายของคนเลี้ยงสัตว์ และกวาดต้อนแกะ แพะ อูฐ กลับมายังกรุงเยรูซาเล็มด้วย
  • โยบ 40:21 - มันนอนลงใต้กอบัว กำบังตัวกลางพงอ้อในแอ่งน้ำ
  • สดุดี 120:7 - ข้าพเจ้าเป็นคนใฝ่สันติ แต่พอข้าพเจ้าเอ่ยปาก พวกเขาก็มุ่งทำศึกสงคราม
  • สดุดี 18:44 - ทันทีที่ได้ยินถึงข้าพระองค์ พวกเขาก็เชื่อฟังข้าพระองค์ คนต่างชาติมาสยบต่อข้าพระองค์
  • 2พงศาวดาร 20:1 - ต่อมาชาวโมอับ ชาวอัมโมน และชาวเมอูนีบางคน ยกทัพจะมารบกับเยโฮชาฟัท
  • 2พงศาวดาร 20:2 - มีผู้มาทูลเยโฮชาฟัทว่า “กองทัพใหญ่กำลังเข้ามารบกับฝ่าพระบาท โดยเคลื่อนทัพมาจากเอโดม อีกฟากหนึ่งของทะเล และบัดนี้มาถึงฮาซาโซนทามาร์ (คือ เอนเกดี) แล้ว”
  • 2พงศาวดาร 20:3 - เยโฮชาฟัททรงตื่นตระหนกและมุ่งแสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงประกาศให้ถืออดอาหารทั่วยูดาห์
  • 2พงศาวดาร 20:4 - ชนยูดาห์มารวมกันเพื่อแสวงหาความช่วยเหลือจากองค์พระผู้เป็นเจ้า พวกเขามาจากทุกเมืองในยูดาห์เพื่อแสวงหาพระองค์
  • 2พงศาวดาร 20:5 - เยโฮชาฟัททรงยืนขึ้นท่ามกลางชุมนุมประชากรของยูดาห์และของเยรูซาเล็มในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า ตรงหน้าลานใหม่
  • 2พงศาวดาร 20:6 - และทรงอธิษฐานว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลาย พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ประทับในสวรรค์ไม่ใช่หรือ? พระองค์ทรงปกครองเหนือมวลอาณาจักรของชนชาติต่างๆ ฤทธิ์อำนาจและแสนยานุภาพอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ ไม่มีผู้ใดอาจต่อต้านพระองค์ได้
  • 2พงศาวดาร 20:7 - ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย พระองค์ทรงขับไล่ชนชาติต่างๆ ในดินแดนนี้ออกไปต่อหน้าอิสราเอลประชากรของพระองค์ และประทานดินแดนนี้ให้แก่วงศ์วานอับราฮัมสหายของพระองค์ตลอดไปไม่ใช่หรือ?
  • 2พงศาวดาร 20:8 - เราทั้งหลายได้อาศัยอยู่ที่นี่และได้สร้างสถานนมัสการเพื่อพระนามของพระองค์ และกล่าวว่า
  • 2พงศาวดาร 20:9 - ‘หากมีภัยพิบัติตกมาถึง ไม่ว่าจะเป็นสงคราม ภัยพิบัติ หรือการกันดารอาหาร ข้าพระองค์ทั้งหลายจะมาเข้าเฝ้าพระองค์ที่หน้าพระวิหารแห่งพระนามของพระองค์ และจะร้องทูลพระองค์ในยามทุกข์ลำเค็ญ แล้วพระองค์จะทรงสดับฟังและช่วยเหลือข้าพระองค์ทั้งหลายให้พ้นภัย’
  • 2พงศาวดาร 20:10 - “แต่บัดนี้มีคนมาจากอัมโมน โมอับ และภูเขาเสอีร์ ซึ่งเมื่อครั้งอิสราเอลออกจากอียิปต์ พระองค์ไม่ทรงอนุญาตให้อิสราเอลบุกรุกดินแดนของพวกเขา อิสราเอลจึงอ้อมมาและไม่ได้ทำลายล้างพวกเขา
  • 2พงศาวดาร 20:11 - แต่บัดนี้ดูเถิด พวกเขากลับตอบแทนด้วยการขับไล่พวกข้าพระองค์ออกจากดินแดนซึ่งพระองค์ประทานให้เป็นกรรมสิทธิ์
  • 2พงศาวดาร 20:12 - ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย พระองค์จะไม่ทรงลงโทษเขาหรือ? เพราะว่าข้าพระองค์ทั้งหลายไม่มีกำลังอำนาจจะรับมือกับกองทัพใหญ่ที่มาโจมตีนี้ ข้าพระองค์ทั้งหลายไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ได้แต่หวังพึ่งพระองค์”
  • 2พงศาวดาร 20:13 - ผู้ชายยูดาห์ทั้งปวงกับภรรยาและลูกเล็กเด็กแดงมายืนอยู่ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า
  • 2พงศาวดาร 20:14 - แล้วพระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จลงมาเหนือชายคนหนึ่งในกลุ่มชนนั้นคือ ยาฮาซีเอลบุตรเศคาริยาห์ ผู้เป็นบุตรของเบไนยาห์ ผู้เป็นบุตรของเยอีเอล ผู้เป็นบุตรของมัททานิยาห์เผ่าเลวี วงศ์วานของอาสาฟ
  • 2พงศาวดาร 20:15 - ยาฮาซีเอลกล่าวว่า “ฟังเถิด ข้าแต่กษัตริย์เยโฮชาฟัทและทุกคนที่อาศัยอยู่ในยูดาห์และกรุงเยรูซาเล็ม! องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับท่านว่า ‘อย่ากลัวเลย ไม่ต้องท้อแท้เพราะกองทัพใหญ่นี้ เพราะการศึกครั้งนี้ไม่ใช่ของเจ้า แต่เป็นของพระเจ้า
  • 2พงศาวดาร 20:16 - พรุ่งนี้จงออกไปรบกับเขา เขาจะปีนขึ้นมาทางช่องแคบศิส และเจ้าจะประจันหน้ากับเขาที่ท้ายหุบเขาในถิ่นกันดารเยรูเอล
  • 2พงศาวดาร 20:17 - เจ้าจะไม่ต้องรบในสงครามครั้งนี้ จงเข้าประจำที่ ยืนนิ่งๆ ดูการช่วยกอบกู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะประทานแก่ท่าน ยูดาห์และเยรูซาเล็มเอ๋ย อย่ากลัวหรือท้อแท้ใจไปเลย พรุ่งนี้จงออกไปเผชิญหน้ากับพวกเขา และองค์พระผู้เป็นเจ้าจะสถิตกับเจ้า’ ”
  • 2พงศาวดาร 20:18 - เยโฮชาฟัททรงซบหน้าลงกับพื้น และชาวยูดาห์กับชาวเยรูซาเล็มทั้งปวงก็หมอบกราบลงนมัสการต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า
  • 2พงศาวดาร 20:19 - แล้วมีคนเลวีบางคนจากตระกูลโคฮาทและตระกูลโคราห์ยืนขึ้นเปล่งเสียงก้องกังวานสรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล
  • 2พงศาวดาร 20:20 - เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เมื่อพวกเขาพร้อมที่จะเคลื่อนทัพไปยังถิ่นกันดารเทโคอา เยโฮชาฟัททรงยืนขึ้นและตรัสว่า “ฟังข้าพเจ้าเถิด พี่น้องประชาชนยูดาห์และเยรูซาเล็ม! จงเชื่อในพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านแล้วท่านจะได้รับการเชิดชู จงเชื่อบรรดาผู้เผยพระวจนะของพระองค์ แล้วท่านจะประสบความสำเร็จ”
  • 2พงศาวดาร 20:21 - หลังจากที่ทรงหารือกับประชาชนแล้ว เยโฮชาฟัทก็ทรงแต่งตั้งผู้ร้องเพลงถวายองค์พระผู้เป็นเจ้าและสรรเสริญพระองค์ใน ความบริสุทธิ์สูงส่งของพระองค์ขณะเดินนำหน้ากองทัพไปว่า “จงขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์”
  • 2พงศาวดาร 20:22 - เมื่อพวกเขาเริ่มร้องเพลงและสรรเสริญ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงวางกำลังซุ่มโจมตีชาวอัมโมน ชาวโมอับ และชาวภูเขาเสอีร์ที่มารุกรานยูดาห์ แล้วพวกเขาก็พ่ายแพ้
  • 2พงศาวดาร 20:23 - ชาวอัมโมนกับชาวโมอับหันไปเล่นงานพันธมิตรจากภูเขาเสอีร์ ทำลายล้างพวกเขาหมดสิ้น เสร็จแล้วก็หันมาห้ำหั่นกันเอง
  • 2พงศาวดาร 20:24 - เมื่อทัพยูดาห์มาถึงท้ายหุบเขาเหนือถิ่นกันดารและมองดูกองทัพใหญ่ ก็เห็นแต่ศพเกลื่อนกลาดอยู่ตามพื้น ไม่มีใครหนีรอดไปได้เลย
  • 2พงศาวดาร 20:25 - เยโฮชาฟัทกับพวกจึงออกไปริบข้าวของ ได้เครื่องมือ เครื่องแต่งกาย และของมีค่าจำนวนมหาศาล จนต้องใช้เวลาถึงสามวันจึงขนมาหมด
  • 2พงศาวดาร 20:26 - ในวันที่สี่พวกเขามาชุมนุมกันที่หุบเขาเบราคาห์และสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า หุบเขานี้จึงได้ชื่อว่าเบราคาห์ ตราบจนทุกวันนี้
  • 2พงศาวดาร 20:27 - จากนั้นชนยูดาห์และเยรูซาเล็มทั้งหมดกลับมายังกรุงเยรูซาเล็มโดยมีเยโฮชาฟัทเป็นผู้นำ ทุกคนรื่นเริงยินดีเพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงโปรดให้เขาเปรมปรีดิ์เหนือศัตรู
  • 2พงศาวดาร 20:28 - พวกเขาเข้าสู่เยรูซาเล็มและไปยังพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าโดยมีวงพิณใหญ่ พิณเขาคู่ และแตรบรรเลง
  • 2พงศาวดาร 20:29 - เมื่ออาณาจักรของชนชาติทั้งปวงได้ยินถึงการที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสู้รบกับศัตรูของอิสราเอล พวกเขาก็เกรงกลัวพระเจ้า
  • 2พงศาวดาร 20:30 - และอาณาจักรของเยโฮชาฟัทจึงสงบสุข เพราะพระเจ้าของพระองค์ประทานการพักสงบทุกด้าน ( 1พกษ.22:41-50 )
  • 2พงศาวดาร 20:31 - เยโฮชาฟัทขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งยูดาห์เมื่อพระชนมายุ 35 พรรษา และทรงครองราชย์ในกรุงเยรูซาเล็ม 25 ปี ราชมารดาคืออาซูบาห์ธิดาของชิลหิ
  • 2พงศาวดาร 20:32 - พระองค์ทรงดำเนินตามแบบอย่างของอาสาราชบิดาโดยไม่หันเห ทรงทำสิ่งที่ถูกต้องในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า
  • 2พงศาวดาร 20:33 - แต่ไม่ได้ทรงทำลายสถานบูชาบนที่สูงทั้งหลาย และเหล่าประชากรยังไม่ได้ปักใจยึดพระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขา
  • 2พงศาวดาร 20:34 - เหตุการณ์อื่นๆ ในรัชกาลเยโฮชาฟัทตั้งแต่ต้นจนจบมีบันทึกไว้ในจดหมายเหตุของเยฮูบุตรฮานานี ซึ่งบันทึกอยู่ในจดหมายเหตุกษัตริย์แห่งอิสราเอล
  • 2พงศาวดาร 20:35 - ต่อมากษัตริย์เยโฮชาฟัทแห่งยูดาห์ทรงเป็นพันธมิตรกับกษัตริย์อาหัสยาห์แห่งอิสราเอลผู้ได้ชื่อว่าชั่วร้ายยิ่งนัก
  • 2พงศาวดาร 20:36 - ทั้งสองพระองค์ร่วมกันต่อเรือที่เอซีโอนเกเบอร์เพื่อเป็นกองเรือพาณิชย์
  • 2พงศาวดาร 20:37 - ครั้งนั้นเอลีเยเซอร์บุตรโดดาวาหุแห่งมาเรชาห์พยากรณ์เกี่ยวกับเยโฮชาฟัทว่า “เพราะท่านผูกมิตรกับอาหัสยาห์ องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงทำลายกิจการของท่าน” แล้วกองเรือก็อับปางตั้งแต่ยังไม่ได้ออกทำการค้า
  • โรม 7:22 - เพราะในส่วนลึกข้าพเจ้าชื่นชมในบทบัญญัติของพระเจ้า
  • อิสยาห์ 37:1 - เมื่อกษัตริย์เฮเซคียาห์ทรงได้ยินเช่นนั้นก็ทรงฉีกฉลองพระองค์ สวมผ้ากระสอบ แล้วเสด็จเข้าสู่พระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า
  • อิสยาห์ 37:2 - พระองค์ทรงใช้เจ้ากรมวังเอลียาคิม ราชเลขาเชบนา และบรรดาปุโรหิตอาวุโสให้ไปพบผู้เผยพระวจนะอิสยาห์บุตรอาโมศ ทุกคนล้วนสวมชุดผ้ากระสอบ
  • อิสยาห์ 37:3 - พวกเขากล่าวกับอิสยาห์ว่า “เฮเซคียาห์ตรัสดังนี้ว่า วันนี้เป็นวันแห่งความทุกข์ระทม การประณามหยามเหยียด และความอับอาย เหมือนเมื่อทารกพร้อมจะเกิด แต่ผู้เป็นแม่ไม่มีแรงจะเบ่งออกมา
  • อิสยาห์ 37:4 - บางทีพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงได้ยินถ้อยคำของแม่ทัพ ซึ่งกษัตริย์อัสซีเรียเจ้านายของเขาใช้ให้มาหมิ่นประมาทพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ และพระองค์จะทรงลงโทษเขาเนื่องด้วยถ้อยคำที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงได้ยินนั้น ดังนั้นขอโปรดอธิษฐานเผื่อพวกเราที่เหลืออยู่เพียงหยิบมือนี้ด้วยเถิด”
  • อิสยาห์ 37:5 - เมื่อข้าราชบริพารของกษัตริย์เฮเซคียาห์มาพบอิสยาห์
  • อิสยาห์ 37:6 - อิสยาห์ก็กล่าวกับพวกเขาว่า “จงไปบอกนายของท่านว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า อย่ากลัวสิ่งที่ได้ยิน คือถ้อยคำซึ่งลูกน้องของกษัตริย์อัสซีเรียได้หมิ่นประมาทเรา
  • อิสยาห์ 37:7 - จงฟังเถิด! เรากำลังจะบันดาลวิญญาณอย่างหนึ่งในตัวเขา เพื่อเมื่อเขาได้ยินรายงานบางอย่าง เขาจะกลับไปยังประเทศของตน และเราจะให้เขาตายด้วยดาบที่นั่น’ ”
  • อิสยาห์ 37:8 - ฝ่ายแม่ทัพอัสซีเรียได้ข่าวว่ากษัตริย์ของตนเสด็จออกจากลาคีชแล้ว ก็ถอนทัพไป และพบพระองค์กำลังรบอยู่กับเมืองลิบนาห์
  • อิสยาห์ 37:9 - แล้วเซนนาเคอริบได้รับรายงานว่าทีรหะคาห์กษัตริย์ชาวคูช แห่งอียิปต์ยกทัพจะมาสู้รบกับพระองค์ เมื่อได้ยินดังนั้นพระองค์จึงทรงส่งคนกลับมาแจ้งแก่เฮเซคียาห์ว่า
  • อิสยาห์ 37:10 - “จงไปบอกกษัตริย์เฮเซคียาห์แห่งยูดาห์ดังนี้ว่า อย่ายอมให้พระเจ้าซึ่งเจ้าพึ่งพานั้นหลอกลวงเจ้าเมื่อพระองค์ตรัสว่า ‘เยรูซาเล็มจะไม่ตกอยู่ในมือกษัตริย์อัสซีเรีย’
  • อิสยาห์ 37:11 - เจ้าก็รู้ดีว่าบรรดากษัตริย์อัสซีเรียได้ทำอะไรแก่ประเทศทั้งปวงบ้าง กษัตริย์เหล่านั้นได้ทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างราบคาบ แล้วเจ้าจะได้รับการช่วยกู้หรือ?
  • อิสยาห์ 37:12 - บรรดาพระของชนชาติต่างๆ ที่บรรพบุรุษของเราได้ทำลายล้างไปนั้นได้ช่วยกอบกู้พวกเขาไว้หรือ อย่างพระทั้งหลายของโกซาน ฮาราน เรเซฟ และชาวเอเดนในเทลอัสสาร์?
  • อิสยาห์ 37:13 - ไหนล่ะกษัตริย์ฮามัท กษัตริย์อารปัด กษัตริย์เสฟารวาอิม เฮนา และอิฟวาห์?” ( 2พกษ.19:14-19 )
  • อิสยาห์ 37:14 - เมื่อเฮเซคียาห์ทรงรับสาส์นฉบับนี้และอ่านจบ ก็เสด็จไปยังพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าและทรงคลี่สาส์นนั้นออกต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า
  • อิสยาห์ 37:15 - แล้วเฮเซคียาห์ทรงอธิษฐานต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า
  • อิสยาห์ 37:16 - “ข้าแต่พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้ประทับอยู่บนพระที่นั่งระหว่างเครูบ พระองค์ผู้เดียวทรงเป็นพระเจ้าเหนือมวลอาณาจักรของโลก พระองค์ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก
  • อิสยาห์ 37:17 - ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงเงี่ยพระกรรณสดับฟัง ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงทอดพระเนตรและสดับฟังถ้อยคำทั้งสิ้นซึ่งเซนนาเคอริบส่งมาสบประมาทพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่
  • อิสยาห์ 37:18 - “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า เป็นความจริงที่ว่าบรรดากษัตริย์อัสซีเรียได้ทำลายล้างชนชาติทั้งปวงนี้ และแผ่นดินของพวกเขา
  • อิสยาห์ 37:19 - และได้เผาทำลายพระของพวกเขาทิ้งเพราะพระเหล่านั้นไม่ใช่พระเจ้า เป็นเพียงแต่ไม้และหินที่ทำขึ้นด้วยมือมนุษย์
  • อิสยาห์ 37:20 - บัดนี้ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอทรงช่วยข้าพระองค์ทั้งหลายให้พ้นจากเงื้อมมือของเขา เพื่อมวลอาณาจักรในโลกนี้จะได้รู้ว่า พระยาห์เวห์พระองค์แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้นทรงเป็นพระเจ้า ” ( 2พกษ.19:20-37 ; 2พศด.32:20-21 )
  • อิสยาห์ 37:21 - จากนั้นอิสยาห์บุตรอาโมศจึงให้นำความมาทูลเฮเซคียาห์ว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า เพราะเจ้าได้อธิษฐานเรื่องกษัตริย์เซนนาเคอริบแห่งอัสซีเรียต่อเรา
  • อิสยาห์ 37:22 - องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสถึงเขาดังนี้ว่า “ธิดาพรหมจารีแห่งศิโยน ดูหมิ่นและเยาะเย้ยเจ้า ธิดาแห่งเยรูซาเล็ม ส่ายหน้าเมื่อเจ้าเตลิดหนี
  • อิสยาห์ 37:23 - ใครนะที่เจ้าเย้ยหยันและลบหลู่? เจ้าขึ้นเสียง และทำตาหยิ่งยโสใส่ใคร? ก็องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลน่ะสิ!
  • อิสยาห์ 37:24 - เจ้าใช้ผู้สื่อสารของเจ้า มากล่าววาจาลบหลู่องค์พระผู้เป็นเจ้า และเจ้าได้กล่าวว่า ‘ด้วยรถม้าศึกมากมายของข้า ข้าได้ขึ้นไปถึงบรรดายอดเขาสูง สู่สุดยอดแห่งเลบานอน ข้าได้โค่นบรรดาสนซีดาร์ที่สูงที่สุด และต้นสนที่ดีเยี่ยมที่สุด ข้าได้ขึ้นไปถึงยอดที่สูงที่สุด คือป่าอันอุดมสมบูรณ์ที่สุด
  • อิสยาห์ 37:25 - ข้าได้ขุดบ่อน้ำหลายบ่อในต่างแดน และดื่มน้ำที่นั่น ด้วยส้นเท้าของข้า ลำธารทั้งหลายของอียิปต์ก็แห้งเหือด’
  • อิสยาห์ 37:26 - “เจ้าไม่เคยได้ยินเลยหรือ? เราได้บัญชาไว้ตั้งนานมาแล้ว เราได้วางแผนไว้ตั้งแต่อดีต และบัดนี้เราก็ทำให้เป็นไปตามนั้น คือให้เจ้าพิชิตเมืองป้อมปราการทั้งหลาย ทำให้กลายเป็นกองหิน
  • อิสยาห์ 37:27 - ชาวเมืองเหล่านั้นหมดอำนาจ ถดถอยและอับอาย พวกเขาเหมือนพืชในทุ่งนา เหมือนหน่ออ่อนเขียวสด เหมือนหญ้างอกขึ้นบนหลังคา ถูกแดดแผดเผา ก่อนจะโตขึ้นมา
  • อิสยาห์ 37:28 - “แต่เรารู้จักเจ้าดี ไม่ว่าความเป็นมาหรือความเป็นไปของเจ้า และรู้ที่เจ้าฉุนเฉียวใส่เรา
  • อิสยาห์ 37:29 - เพราะเจ้าเกรี้ยวกราดใส่เรา และเพราะวาจาโอหังของเจ้าเข้าหูเรา เราจะเอาเบ็ดเกี่ยวจมูกของเจ้า และเอาบังเหียนใส่ปากของเจ้า และเราจะทำให้เจ้าหันกลับไป ตามเส้นทางที่เจ้ามา
  • อิสยาห์ 37:30 - “เฮเซคียาห์เอ๋ย นี่จะเป็นหมายสำคัญแก่เจ้าคือ “ปีนี้เจ้าจะกินพืชพันธุ์ที่งอกขึ้นเอง และปีที่สองก็จะกินพืชพันธุ์ที่ออกผลตามมา แต่ในปีที่สาม จงหว่านและเก็บเกี่ยว จงทำสวนองุ่นและกินผลของมัน
  • อิสยาห์ 37:31 - ประชากรยูดาห์ที่เหลืออยู่เพียงหยิบมือนั้น จะหยั่งรากและเกิดผลอีกครั้งหนึ่ง
  • อิสยาห์ 37:32 - เพราะจะมีคนที่เหลือรอดอยู่หยิบมือหนึ่งมาจากเยรูซาเล็ม และผู้รอดชีวิตกลุ่มหนึ่งจะมาจากภูเขาศิโยน ความกระตือรือร้นของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ จะกระทำให้สำเร็จตามนี้
  • อิสยาห์ 37:33 - “ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสถึงกษัตริย์อัสซีเรียดังนี้ว่า “เขาจะไม่ได้เข้ามาในเมืองนี้ หรือยิงธนูที่นี่ เขาจะไม่มาถือโล่อยู่หน้าเมือง หรือสร้างเชิงเทินล้อมโจมตีมัน
  • อิสยาห์ 37:34 - เขามาทางไหนก็จะกลับไปทางนั้น เขาจะไม่ได้เข้ามาในเมืองนี้” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
  • อิสยาห์ 37:35 - “เราจะปกป้องและช่วยเมืองนี้ไว้ เพื่อเห็นแก่เราเองและเห็นแก่ดาวิดผู้รับใช้ของเรา!”
  • อิสยาห์ 37:36 - แล้วทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็ออกไปประหารคนในค่ายของอัสซีเรีย 185,000 คน วันรุ่งขึ้นเมื่อผู้คนตื่นขึ้น ก็เห็นซากศพเกลื่อนกลาด!
  • อิสยาห์ 37:37 - กษัตริย์เซนนาเคอริบแห่งอัสซีเรียจึงทรงให้รื้อค่ายและถอนทัพกลับไปยังเมืองนีนะเวห์และประทับอยู่ที่นั่น
  • อิสยาห์ 37:38 - วันหนึ่งขณะที่ทรงนมัสการอยู่ในวิหารของพระนิสรอคของพระองค์ อัดรัมเมเลคและชาเรเซอร์โอรสของพระองค์เองได้ปลงพระชนม์พระองค์ด้วยดาบ แล้วหนีไปยังดินแดนอารารัต และเอสารฮัดโดนโอรสอีกองค์หนึ่งของพระองค์ขึ้นครองราชย์แทน
  • อิสยาห์ 34:7 - วัวป่า ลูกวัว และวัวกระทิง จะล้มลงพร้อมพวกเขา แผ่นดินโลกจะนองเลือด ผงธุลีจะชุ่มด้วยไขมัน
  • ยากอบ 4:1 - อะไรคือต้นเหตุของการต่อสู้และการทะเลาะวิวาทในหมู่พวกท่าน? สิ่งเหล่านี้มาจากตัณหาซึ่งขับเคี่ยวกันภายในท่านไม่ใช่หรือ?
  • 2ซามูเอล 8:1 - ต่อมาดาวิดทรงพิชิตชาวฟีลิสเตียอย่างราบคาบ พระองค์ยึดเมืองเมเธกอัมมาห์จากฟีลิสเตีย
  • 2ซามูเอล 8:2 - ดาวิดยังได้ทรงพิชิตชาวโมอับ จับเชลยนอนเรียงแถวบนพื้นแล้ววัดด้วยสายวัด ทุกๆ สองช่วงของสายวัดเชลยที่นอนอยู่ในสองช่วงนั้นจะถูกประหาร และจะไว้ชีวิตเชลยที่อยู่ในช่วงที่สาม ชาวโมอับจึงขึ้นแก่ดาวิดและต้องส่งเครื่องบรรณาการ
  • 2ซามูเอล 8:3 - ยิ่งกว่านั้นดาวิดยังทรงสู้รบกับกษัตริย์ฮาดัดเอเซอร์ราชโอรสของกษัตริย์เรโหบแห่งโศบาห์ เมื่อฮาดัดเอเซอร์เสด็จไปกู้อำนาจคืนในแถบแม่น้ำยูเฟรติส
  • 2ซามูเอล 8:4 - ดาวิดทรงยึดรถม้าศึกหนึ่งพันคัน พลรถรบเจ็ดพันคน และทหารราบสองหมื่นคน ทรงตัดเอ็นขาม้าศึกทั้งหมด ยกเว้นม้าสำหรับเทียมรถหนึ่งร้อยตัว
  • 2ซามูเอล 8:5 - เมื่อชาวอารัมจากเมืองดามัสกัสมาช่วยกษัตริย์ฮาดัดเอเซอร์แห่งเมืองโศบาห์ ดาวิดทรงสังหารพวกเขาไป 22,000 คน
  • 2ซามูเอล 8:6 - ทรงวางกำลังทหารไว้ในอาณาจักรอารัมแห่งดามัสกัส และชาวอารัมก็ขึ้นกับดาวิด และต้องส่งบรรณาการมาถวาย องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานชัยชนะแก่ดาวิดไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน
  • 2ซามูเอล 8:7 - ดาวิดทรงนำโล่ทองคำของบรรดานายทหารของฮาดัดเอเซอร์มายังกรุงเยรูซาเล็ม
  • 2ซามูเอล 8:8 - กษัตริย์ดาวิดยังได้นำทองสัมฤทธิ์จำนวนมหาศาลจากเมืองเทบาห์ และจากเมืองเบโรธัยของฮาดัดเอเซอร์มาด้วย
  • 2ซามูเอล 8:9 - เมื่อกษัตริย์โทอู แห่งเมืองฮามัทได้ข่าวว่าดาวิดทรงรบชนะทั้งกองทัพของฮาดัดเอเซอร์
  • 2ซามูเอล 8:10 - ก็ส่งโยรัม ราชโอรสมาถวายคำนับกษัตริย์ดาวิดและร่วมยินดีในชัยชนะเหนือฮาดัดเอเซอร์ เพราะฮาดัดเอเซอร์และโทอูเป็นศัตรูขับเคี่ยวกันมา โยรัมนำเครื่องเงิน เครื่องทอง และเครื่องทองสัมฤทธิ์มาถวายด้วย
  • 2ซามูเอล 8:11 - กษัตริย์ดาวิดทรงถวายสิ่งเหล่านี้แด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเช่นเดียวกับเงินและทองซึ่งริบจากชนชาติต่างๆ ที่ดาวิดพิชิตคือ
  • 2ซามูเอล 8:12 - เอโดม โมอับ อัมโมน ฟีลิสเตีย และอามาเลข ตลอดจนของเชลยที่ริบมาจากฮาดัดเอเซอร์ราชโอรสของกษัตริย์เรโหบแห่งโศบาห์
  • 2ซามูเอล 8:13 - และหลังจากที่ดาวิดทรงประหารชาวเอโดม ที่หุบเขาเกลือไป 18,000 คน ชื่อเสียงของเขาก็โด่งดัง
  • 2ซามูเอล 8:14 - ดาวิดทรงวางกำลังทหารไว้ในเอโดม และชาวเอโดมทั้งปวงก็ยอมสวามิภักดิ์ต่อเขา องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานชัยชนะแก่ดาวิดไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน ( 1พศด.18:14-17 )
  • 2ซามูเอล 8:15 - ดาวิดทรงปกครองทั่วแดนอิสราเอล ทรงทำสิ่งที่ถูกต้องเที่ยงธรรมเพื่อปวงประชากรของพระองค์
  • 2ซามูเอล 8:16 - โยอาบบุตรนางเศรุยาห์เป็นแม่ทัพ เยโฮชาฟัทบุตรอาหิลูดเป็นอาลักษณ์หลวง
  • 2ซามูเอล 8:17 - ศาโดกบุตรอาหิทูบและอาหิเมเลคบุตรอาบียาธาร์เป็นปุโรหิต เสไรอาห์เป็นราชเลขา
  • 2ซามูเอล 8:18 - เบไนยาห์บุตรเยโฮยาดาดูแลพวกเคเรธีและคนเปเลท และบรรดาโอรสของดาวิดเป็นราชมนตรี
  • 2ซามูเอล 10:1 - ต่อมากษัตริย์นาหาชแห่งอัมโมนสิ้นพระชนม์ และฮานูนราชโอรสขึ้นครองราชย์แทน
  • 2ซามูเอล 10:2 - ดาวิดทรงรำพึงว่า “เราจะแสดงความกรุณาต่อฮานูนบุตรนาหาชเหมือนที่บิดาของเขาเคยแสดงความกรุณาต่อเรา” ดาวิดจึงทรงส่งทูตไปแสดงความเสียใจต่อฮานูนที่สูญเสียราชบิดา แต่เมื่อคนของดาวิดมายังดินแดนอัมโมน
  • 2ซามูเอล 10:3 - พวกขุนนางของฮานูนทูลกษัตริย์ของตนว่า “ฝ่าพระบาททรงคิดว่าดาวิดให้เกียรติแก่ราชบิดาของฝ่าพระบาทโดยส่งคนเหล่านี้มาแสดงความเห็นใจต่อฝ่าพระบาทหรือ? ดาวิดส่งพวกเขามาสอดแนมดูลาดเลาก่อนเข้าโจมตีไม่ใช่หรือ?”
  • 2ซามูเอล 10:4 - ดังนั้นฮานูนจึงจับคนของดาวิดโกนเคราออกครึ่งหนึ่ง และตัดเสื้อผ้าตรงสะโพกออกแล้วปล่อยไป
  • 2ซามูเอล 10:5 - เมื่อดาวิดทรงทราบก็ส่งผู้สื่อสารไปพบคนเหล่านั้นเพราะพวกเขารู้สึกอับอายขายหน้าอย่างมาก กษัตริย์ตรัสว่า “จงพักอยู่ที่เยรีโคจนกว่าเคราจะขึ้นดังเดิมแล้วค่อยกลับมา”
  • 2ซามูเอล 10:6 - ถึงตอนนี้ชาวอัมโมนตระหนักดีว่าได้ยั่วยุดาวิดอย่างร้ายแรงเพียงใด พวกเขาจึงจ้างทหารราบชาวอารัมจากเบธเรโหบและโศบาห์ 20,000 คน จากกษัตริย์เมืองมาอาคาห์ 1,000 คน และจากเมืองโทบ 12,000 คน
  • 2ซามูเอล 10:7 - เมื่อดาวิดทรงทราบเช่นนั้น ก็ส่งโยอาบและกองทัพอิสราเอลทั้งหมดไป
  • 2ซามูเอล 10:8 - คนอัมโมนออกมาตั้งแนวรบที่ทางเข้าประตูเมือง ขณะที่ชาวอารัมจากโศบาห์ เรโหบ โทบ และมาอาคาห์อยู่ในที่โล่งนอกเมือง
  • 2ซามูเอล 10:9 - โยอาบเห็นว่ากองกำลังของศัตรูตั้งแนวรบอยู่ทั้งข้างหน้าและข้างหลัง ก็จัดกำลังทหารฝีมือดีที่สุดของอิสราเอลส่วนหนึ่งไปรับมือชาวอารัม
  • 2ซามูเอล 10:10 - โยอาบให้ทหารส่วนที่เหลืออยู่ภายใต้การบัญชาการของอาบีชัยน้องชายของเขา และจัดทัพเคลื่อนออกไปรับมือกับชาวอัมโมน
  • 2ซามูเอล 10:11 - โยอาบกล่าวว่า “ถ้าพวกอารัมแข็งแกร่งเกินกำลังของเรา เจ้าจงมาช่วยเรา แต่ถ้าพวกอัมโมนแข็งแกร่งเกินกำลังของเจ้า เราจะไปช่วยเจ้า
  • 2ซามูเอล 10:12 - จงเข้มแข็งและให้เราต่อสู้อย่างกล้าหาญ เพื่อพี่น้องร่วมชาติของเราและเพื่อนครแห่งพระเจ้าของเรา องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงกระทำตามที่ทรงเห็นชอบ”
  • 2ซามูเอล 10:13 - แล้วโยอาบกับกองทหารก็บุกเข้าโจมตี ชาวอารัมก็ถอยหนี
  • 2ซามูเอล 10:14 - เมื่อชาวอัมโมนเห็นชาวอารัมล่าถอย พวกเขาก็ถอยหนีจากอาบีชัยเข้าไปในเมือง โยอาบจึงกลับจากการสู้รบกับชาวอัมโมนและมายังกรุงเยรูซาเล็ม
  • 2ซามูเอล 10:15 - หลังจากชาวอารัมเห็นว่าถูกอิสราเอลรุกไล่ก็รวมกำลังกันอีก
  • 2ซามูเอล 10:16 - ฮาดัดเอเซอร์นำคนอารัมจากอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำยูเฟรติสมาสมทบ พวกเขามายังเฮลาม มีโชบัคแม่ทัพของฮาดัดเอเซอร์เป็นผู้บัญชาการ
  • 2ซามูเอล 10:17 - เมื่อดาวิดทรงทราบข่าว พระองค์ทรงระดมพลอิสราเอลทั้งหมดและข้ามแม่น้ำจอร์แดนมายังเฮลาม ชาวอารัมตั้งแนวรบประจันหน้ากับดาวิดและสู้รบกัน
  • 2ซามูเอล 10:18 - แต่พวกเขาพ่ายหนีต่อหน้าอิสราเอล และดาวิดทรงสังหารพลรถรบของพวกเขาเจ็ดร้อยคนกับทหารราบ อีกสี่หมื่นคน และทรงสังหารโชบัคแม่ทัพของพวกเขาตายที่นั่น
  • 2ซามูเอล 10:19 - เมื่อบรรดากษัตริย์ซึ่งขึ้นกับฮาดัดเอเซอร์ เห็นว่าพวกเขาพ่ายแพ้อิสราเอล ก็ขอสงบศึกและยอมเป็นเมืองขึ้นของอิสราเอล ชาวอารัมจึงไม่กล้ามาช่วยชาวอัมโมนสู้รบอีกเลย
  • เยเรมีย์ 50:11 - “เพราะเจ้าผู้ปล้นกรรมสิทธิ์ของเรา กระหยิ่มลิงโลด เพราะเจ้าร่าเริงอย่างวัวสาวย่ำนวดเมล็ดข้าว และส่งเสียงร้องอย่างม้าตัวผู้
  • เอเสเคียล 29:3 - ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า “ ‘ฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์ เราเป็นศัตรูกับเจ้า เจ้าผู้เป็นสัตว์ร้ายมหึมาซึ่งกบดานอยู่ในสายน้ำของเจ้า เจ้ากล่าวว่า “แม่น้ำไนล์เป็นของข้า ข้าสร้างมันขึ้นมาเพื่อตัวข้าเอง”
  • สดุดี 89:10 - พระองค์ทรงบดขยี้ราหับดั่งผู้ที่ถูกฆ่า และทรงทำให้ศัตรูของพระองค์กระเจิด กระเจิงไปด้วยพระหัตถ์อันเข้มแข็ง
  • สดุดี 22:12 - เหล่ากระทิงห้อมล้อมข้าพระองค์ ฝูงโคถึกแห่งบาชานรุมล้อมข้าพระองค์
  • สดุดี 22:13 - พวกเขาอ้าปากกว้างเข้าใส่ข้าพระองค์ ดั่งสิงโตคำรามและกัดฉีกเหยื่อ
  • สดุดี 2:12 - จงก้มกราบพระบุตรนั้น มิฉะนั้นพระองค์จะทรงพระพิโรธ และท่านกับหนทางต่างๆ ของท่านจะถูกทำลาย เพราะว่าพระพิโรธของพระองค์จะพลุ่งขึ้นในพริบตา ความสุขมีแก่ทุกคนที่เข้ามาลี้ภัยในพระองค์
圣经
资源
计划
奉献