逐节对照
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - พระเยซูกล่าวกับพวกเขาว่า “สิ่งที่เราได้บอกเจ้าไว้ขณะที่เรายังอยู่กับเจ้าก็คือ ทุกสิ่งที่เขียนไว้เกี่ยวกับเราในหมวดกฎบัญญัติของโมเสส หมวดผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า และหมวดสดุดี จะเกิดขึ้นสำเร็จตามนั้น”
- 新标点和合本 - 耶稣对他们说:“这就是我从前与你们同在之时所告诉你们的话说:摩西的律法、先知的书,和诗篇上所记的,凡指着我的话都必须应验。”
- 和合本2010(上帝版-简体) - 耶稣对他们说:“这就是我从前和你们同在时所告诉你们的话:摩西的律法、先知的书,和《诗篇》上所记一切指着我的话都必须应验。”
- 和合本2010(神版-简体) - 耶稣对他们说:“这就是我从前和你们同在时所告诉你们的话:摩西的律法、先知的书,和《诗篇》上所记一切指着我的话都必须应验。”
- 当代译本 - 耶稣对他们说:“我跟你们在一起的时候曾经说过,摩西的律法书、先知的书以及诗篇里有关我的记载都要应验。”
- 圣经新译本 - 主对他们说:“这就是我从前与你们同在的时候,对你们说过的话:摩西的律法、先知书和诗篇上所记关于我的一切事,都必定应验。”
- 中文标准译本 - 耶稣对他们说:“这就是我还与你们在一起的时候,对你们说过的话:摩西的律法、先知书和诗篇上所记的有关我的一切事,都必须应验。”
- 现代标点和合本 - 耶稣对他们说:“这就是我从前与你们同在之时所告诉你们的话说:摩西的律法、先知的书和诗篇上所记的,凡指着我的话都必须应验。”
- 和合本(拼音版) - 耶稣对他们说:“这就是我从前与你们同在之时所告诉你们的话说:摩西的律法、先知的书和诗篇上所记的,凡指着我的话,都必须应验。”
- New International Version - He said to them, “This is what I told you while I was still with you: Everything must be fulfilled that is written about me in the Law of Moses, the Prophets and the Psalms.”
- New International Reader's Version - Jesus said to them, “This is what I told you while I was still with you. Everything written about me in the Law of Moses, the Prophets and the Psalms must come true.”
- English Standard Version - Then he said to them, “These are my words that I spoke to you while I was still with you, that everything written about me in the Law of Moses and the Prophets and the Psalms must be fulfilled.”
- New Living Translation - Then he said, “When I was with you before, I told you that everything written about me in the law of Moses and the prophets and in the Psalms must be fulfilled.”
- The Message - Then he said, “Everything I told you while I was with you comes to this: All the things written about me in the Law of Moses, in the Prophets, and in the Psalms have to be fulfilled.”
- Christian Standard Bible - He told them, “These are my words that I spoke to you while I was still with you — that everything written about me in the Law of Moses, the Prophets, and the Psalms must be fulfilled.”
- New American Standard Bible - Now He said to them, “These are My words which I spoke to you while I was still with you, that all the things that are written about Me in the Law of Moses and the Prophets and the Psalms must be fulfilled.”
- New King James Version - Then He said to them, “These are the words which I spoke to you while I was still with you, that all things must be fulfilled which were written in the Law of Moses and the Prophets and the Psalms concerning Me.”
- Amplified Bible - Then He said to them, “This is what I told you while I was still with you, everything which has been written about Me in the Law of Moses and the [writings of the] Prophets and the Psalms must be fulfilled.”
- American Standard Version - And he said unto them, These are my words which I spake unto you, while I was yet with you, that all things must needs be fulfilled, which are written in the law of Moses, and the prophets, and the psalms, concerning me.
- King James Version - And he said unto them, These are the words which I spake unto you, while I was yet with you, that all things must be fulfilled, which were written in the law of Moses, and in the prophets, and in the psalms, concerning me.
- New English Translation - Then he said to them, “These are my words that I spoke to you while I was still with you, that everything written about me in the law of Moses and the prophets and the psalms must be fulfilled.”
- World English Bible - He said to them, “This is what I told you, while I was still with you, that all things which are written in the law of Moses, the prophets, and the psalms, concerning me must be fulfilled.”
- 新標點和合本 - 耶穌對他們說:「這就是我從前與你們同在之時所告訴你們的話說:摩西的律法、先知的書,和詩篇上所記的,凡指着我的話都必須應驗。」
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 耶穌對他們說:「這就是我從前和你們同在時所告訴你們的話:摩西的律法、先知的書,和《詩篇》上所記一切指着我的話都必須應驗。」
- 和合本2010(神版-繁體) - 耶穌對他們說:「這就是我從前和你們同在時所告訴你們的話:摩西的律法、先知的書,和《詩篇》上所記一切指着我的話都必須應驗。」
- 當代譯本 - 耶穌對他們說:「我跟你們在一起的時候曾經說過,摩西的律法書、先知的書以及詩篇裡有關我的記載都要應驗。」
- 聖經新譯本 - 主對他們說:“這就是我從前與你們同在的時候,對你們說過的話:摩西的律法、先知書和詩篇上所記關於我的一切事,都必定應驗。”
- 呂振中譯本 - 耶穌又對他們說:『我這些話、我從前還和你們同在時所對你們講的話、就是:凡 摩西 《律法書》和《神言人的書》跟《詩篇》上所記的關於我的話、都必須得應驗。』
- 中文標準譯本 - 耶穌對他們說:「這就是我還與你們在一起的時候,對你們說過的話:摩西的律法、先知書和詩篇上所記的有關我的一切事,都必須應驗。」
- 現代標點和合本 - 耶穌對他們說:「這就是我從前與你們同在之時所告訴你們的話說:摩西的律法、先知的書和詩篇上所記的,凡指著我的話都必須應驗。」
- 文理和合譯本 - 謂之曰、此乃我素偕爾時、所語爾者、云、凡摩西律、先知書、及詩篇所載指我者、悉必應也、
- 文理委辦譯本 - 曰、摩西例、先知書、及詩篇、所載指我者、皆應、我素偕爾、曾言之矣、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 曰、昔我偕爾時、曾告爾云、凡 摩西 律法、先知書、及詩篇所載指我之言、皆必應、今果應矣、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 耶穌又謂諸徒曰:『曩日與爾同處、予曾明言、 摩西 律先知書與聖詠中所載予事、悉當應驗。』
- Nueva Versión Internacional - —Cuando todavía estaba yo con ustedes, les decía que tenía que cumplirse todo lo que está escrito acerca de mí en la ley de Moisés, en los profetas y en los salmos.
- 현대인의 성경 - 그러고서 예수님은 그들에게 “내가 너희와 함께 있을 때 모세의 율법책과 예언서와 시편에 나에 대하여 기록된 모든 것이 이루어져야 한다고 너희에게 말한 것이 바로 이것이다” 하시고
- Новый Русский Перевод - – Об этом Я и говорил вам, когда был еще с вами, – сказал Он. – Все записанное обо Мне в Законе Моисея, у Пророков и в Псалмах должно исполниться.
- Восточный перевод - – Об этом Я и говорил вам, когда был ещё с вами, – сказал Он. – Всё записанное обо Мне в Таурате , в Книге Пророков и в Забуре должно исполниться.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - – Об этом Я и говорил вам, когда был ещё с вами, – сказал Он. – Всё записанное обо Мне в Таурате , в Книге Пророков и в Забуре должно исполниться.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - – Об этом Я и говорил вам, когда был ещё с вами, – сказал Он. – Всё записанное обо Мне в Тавроте , в Книге Пророков и в Забуре должно исполниться.
- La Bible du Semeur 2015 - Puis il leur dit : Voici ce que je vous ai dit quand j’étais encore avec vous : « Il faut que s’accomplisse tout ce qui est écrit de moi dans la Loi de Moïse, dans les prophètes, et dans les Psaumes. »
- リビングバイブル - イエスは言われました。「以前、いっしょにいた時、モーセや預言者の書いたこと、それに聖書の詩篇にあることは、必ずそのとおりになると話して聞かせたはずです。忘れてしまったのですか。」
- Nestle Aland 28 - Εἶπεν δὲ πρὸς αὐτούς· οὗτοι οἱ λόγοι μου οὓς ἐλάλησα πρὸς ὑμᾶς ἔτι ὢν σὺν ὑμῖν, ὅτι δεῖ πληρωθῆναι πάντα τὰ γεγραμμένα ἐν τῷ νόμῳ Μωϋσέως καὶ τοῖς προφήταις καὶ ψαλμοῖς περὶ ἐμοῦ.
- unfoldingWord® Greek New Testament - εἶπεν δὲ πρὸς αὐτούς, οὗτοι οἱ λόγοι μου, οὓς ἐλάλησα πρὸς ὑμᾶς ἔτι ὢν σὺν ὑμῖν, ὅτι δεῖ πληρωθῆναι πάντα τὰ γεγραμμένα ἐν τῷ νόμῳ Μωϋσέως, καὶ τοῖς προφήταις, καὶ ψαλμοῖς, περὶ ἐμοῦ.
- Nova Versão Internacional - E disse-lhes: “Foi isso que eu falei enquanto ainda estava com vocês: Era necessário que se cumprisse tudo o que a meu respeito está escrito na Lei de Moisés, nos Profetas e nos Salmos”.
- Hoffnung für alle - Dann sagte er zu ihnen: »Erinnert euch an das, was ich euch angekündigt habe, als ich noch mit euch zusammen war: ›Alles muss sich erfüllen, was bei Mose, bei den Propheten und in den Psalmen über mich steht.‹«
- Kinh Thánh Hiện Đại - Chúa nhắc nhở: “Trước đây, khi còn ở với các con, Ta đã từng nói mọi lời Môi-se, các tiên tri, và các Thi Thiên viết về Ta đều phải được ứng nghiệm.”
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “นี่คือสิ่งที่เราบอกไว้เมื่อยังอยู่กับท่านทั้งหลาย คือทุกสิ่งต้องสำเร็จตามที่เขียนไว้เกี่ยวกับเราในหนังสือบัญญัติของโมเสส หนังสือผู้เผยพระวจนะ และในหนังสือสดุดี”
交叉引用
- อาโมส 9:11 - ในวันนั้น เราจะฟื้นฟูกระโจมของดาวิด ที่ล้มลงขึ้นใหม่ เราจะซ่อมแซมส่วนที่แตกหัก บูรณะสิ่งที่ปรักหักพัง และสร้างขึ้นใหม่อย่างที่เคยเป็น
- ปฐมกาล 3:15 - เราจะทำให้เจ้าและหญิงผู้นั้นเป็นคู่อริกัน แม้เชื้อสายของเจ้าและเชื้อสายของนางก็เช่นกัน เขาจะทำให้หัวของเจ้าฟกช้ำ และเจ้าจะฉกส้นเท้าของเขา”
- มัทธิว 26:56 - สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นก็เพื่อเป็นไปตามพระคัมภีร์ในหมวดผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า” เหล่าสาวกก็ละทิ้งพระองค์ไว้และพากันหนีไป
- ยอห์น 17:11 - ข้าพเจ้าไม่ได้อยู่ในโลกต่อไปแล้ว แต่พวกเขาเองยังคงอยู่ในโลก ข้าพเจ้ามาหาพระองค์ พระบิดาผู้บริสุทธิ์ ขอพระองค์โปรดพิทักษ์รักษาเขาไว้ในพระนามของพระองค์ พระนามซึ่งพระองค์ได้มอบให้แก่ข้าพเจ้า เพื่อให้พวกเขาได้เป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนกับที่พระองค์และข้าพเจ้าได้เป็นหนึ่งเดียวกัน
- ยอห์น 17:12 - ขณะที่ข้าพเจ้ายังอยู่กับพวกเขา ข้าพเจ้าได้คุ้มครองพวกเขาด้วยพระนามของพระองค์ พระนามซึ่งพระองค์ได้มอบให้แก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้พิทักษ์รักษาเขาไว้ ไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดสูญหายไป นอกจากบุตรแห่งความพินาศ เพื่อจะได้เป็นไปตามที่พระคัมภีร์ระบุไว้
- ยอห์น 17:13 - บัดนี้ข้าพเจ้ามาหาพระองค์ ที่ข้าพเจ้าพูดถึงสิ่งเหล่านี้ขณะที่ยังอยู่ในโลก ก็เพื่อว่าเขาจะได้รับความชื่นชมยินดีของข้าพเจ้าอย่างเต็มเปี่ยมในจิตใจ
- 1 โครินธ์ 15:3 - สิ่งที่ข้าพเจ้าได้รับนั้น ข้าพเจ้าได้มอบให้แก่ท่าน อันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด คือพระคริสต์ได้สิ้นชีวิตเพื่อบาปของเรา ตามที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์
- 1 โครินธ์ 15:4 - พระองค์ถูกฝัง ได้ฟื้นคืนชีวิตในวันที่สาม ตามที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์
- กิจการของอัครทูต 13:29 - เมื่อคนเหล่านั้นได้กระทำทุกอย่างต่อพระองค์ ตามที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์แล้ว พวกเขาจึงนำร่างของพระองค์ลงจากไม้กางเขน และวางไว้ในถ้ำเก็บศพ
- กิจการของอัครทูต 13:30 - แต่พระเจ้าให้พระองค์ฟื้นคืนชีวิตจากความตาย
- กิจการของอัครทูต 13:31 - กลุ่มชนที่เดินทางไปกับพระองค์จากแคว้นกาลิลีถึงเมืองเยรูซาเล็ม ได้เห็นพระองค์เป็นเวลาหลายวัน และขณะนี้ต่างก็เป็นบรรดาพยานของพระองค์แก่ชนชาติของเรา
- ลูกา 21:22 - เพราะว่านี่เป็นเวลาลงโทษ เพื่อจะได้ให้สิ่งทั้งปวงบรรลุผลตามที่มีบันทึกไว้
- มัทธิว 26:54 - ถ้าเช่นนั้นแล้วจะเป็นไปตามพระคัมภีร์ได้อย่างไร เรื่องจะต้องเป็นไปเช่นนี้”
- เยเรมีย์ 33:14 - พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ “ดูเถิด จะถึงวันเมื่อเราจะทำตามคำสัญญาที่ได้ให้ไว้กับพงศ์พันธุ์อิสราเอลและยูดาห์
- ลูกา 18:31 - พระเยซูพาสาวกทั้งสิบสองมา และกล่าวกับพวกเขาว่า “เรากำลังจะขึ้นไปยังเมืองเยรูซาเล็ม ทุกสิ่งที่ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าบันทึกไว้เกี่ยวกับบุตรมนุษย์ก็จะบรรลุผล
- ลูกา 18:32 - ท่านจะถูกมอบตัวให้แก่บรรดาคนนอก ซึ่งเขาจะล้อเลียน ดูหมิ่น ถ่มน้ำลายรด โบยและประหารท่าน
- ลูกา 18:33 - ในวันที่สามท่านจะฟื้นคืนชีวิต”
- ลูกา 18:34 - พวกสาวกไม่เข้าใจคำพูดซึ่งเร้นความนัยไว้ เขาไม่รู้แม้กระทั่งว่าพระองค์กล่าวถึงเรื่องอะไร
- เศคาริยาห์ 14:4 - ในวันนั้น เท้าของพระองค์จะยืนบนภูเขามะกอก ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของเยรูซาเล็ม และภูเขามะกอกจะถูกแยกออกเป็นสองส่วนจากทิศตะวันออกถึงทิศตะวันตก ทำให้เกิดหุบเขากว้างใหญ่ โดยครึ่งหนึ่งของภูเขาเคลื่อนไปทางทิศเหนือ และอีกครึ่งหนึ่งเคลื่อนไปทางทิศใต้
- มัทธิว 20:18 - “ดูเถิด พวกเรากำลังจะขึ้นไปยังเมืองเยรูซาเล็ม บุตรมนุษย์จะถูกมอบตัวให้แก่พวกมหาปุโรหิตและอาจารย์ฝ่ายกฎบัญญัติ และพวกเขาจะกล่าวโทษให้ท่านถึงแก่ความตาย
- มัทธิว 20:19 - และจะมอบตัวท่านให้บรรดาคนนอกล้อเลียน โบยและตรึงบนไม้กางเขน แล้วในวันที่สามจะฟื้นคืนชีวิต”
- ลูกา 22:37 - มีบันทึกไว้ว่า ‘พระองค์ถูกนับอยู่ในพวกคนล่วงละเมิด’ และเราขอบอกเจ้าว่าสิ่งที่กล่าวไว้จะต้องเป็นไปตามนั้น ใช่แล้ว สิ่งใดที่ได้มีบันทึกไว้เกี่ยวกับเรากำลังจะสำเร็จลุล่วงอย่างบริบูรณ์”
- ยอห์น 16:16 - อีกเพียงประเดี๋ยวหนึ่งพวกเจ้าก็จะไม่เห็นเราอีก และอีกเพียงประเดี๋ยวหนึ่งพวกเจ้าก็จะได้เห็นเราอีก”
- ยอห์น 16:17 - สาวกบางคนของพระองค์พูดโต้ตอบกันว่า “สิ่งที่พระองค์กำลังบอกพวกเราคืออะไร ‘เพียงประเดี๋ยวหนึ่งพวกเจ้าจะไม่เห็นเรา และอีกประเดี๋ยวหนึ่งพวกเจ้าก็จะได้เห็นเราอีก’ และ ‘เพราะเราไปหาพระบิดา’”
- เลวีนิติ 16:2 - และพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า “จงบอกอาโรนพี่ของเจ้าว่า อย่าเข้ามาในอภิสุทธิสถานที่อยู่ข้างหลังม่านกั้น ณ เบื้องหน้าฝาหีบแห่งการชดใช้บาปซึ่งอยู่บนหีบพันธสัญญาเวลาใดๆ ตามใจชอบ เขาจะได้ไม่ต้องตาย เพราะเราจะปรากฏอยู่ในเมฆเหนือฝาหีบแห่งการชดใช้บาป
- เลวีนิติ 16:3 - อาโรนจะเข้ามาในสถานที่บริสุทธิ์ได้ด้วยวิธีนี้เท่านั้นคือ มาพร้อมกับโคหนุ่มเป็นเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป และแกะตัวผู้เป็นสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวาย
- เลวีนิติ 16:4 - เขาต้องสวมเสื้อผ้าป่านคลุมยาวบริสุทธิ์ทับเสื้อชั้นในผ้าป่าน ใช้ผ้าป่านคาดเอว และสวมผ้าป่านโพกศีรษะ นี่แหละเป็นเครื่องแต่งกายอันบริสุทธิ์ เขาต้องอาบน้ำก่อน แล้วจึงสวมเครื่องแต่งกาย
- เลวีนิติ 16:5 - และเขาต้องเอาแพะตัวผู้ 2 ตัวจากชาวอิสราเอลทั้งมวลเป็นเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป โดยที่แกะตัวผู้ 1 ตัวจะเป็นสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวาย
- เลวีนิติ 16:6 - อาโรนเองต้องถวายโคหนุ่มตัวนั้นเป็นเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาปสำหรับตนเอง และทำพิธีชดใช้บาปสำหรับตนเองและครอบครัว
- เลวีนิติ 16:7 - และเขาต้องเอาแพะ 2 ตัวมาไว้ ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าที่ทางเข้ากระโจมที่นัดหมาย
- เลวีนิติ 16:8 - และอาโรนจะต้องจับฉลากสำหรับแพะ 2 ตัว ฉลากหนึ่งสำหรับพระผู้เป็นเจ้า อีกฉลากหนึ่งให้เป็นแพะรับบาป
- เลวีนิติ 16:9 - อาโรนต้องมอบแพะตัวที่จับฉลากได้ เป็นเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาปแด่พระผู้เป็นเจ้า
- เลวีนิติ 16:10 - แต่ตัวที่จับฉลากได้เป็นแพะรับบาปนั้น ต้องมอบตัวแพะทั้งเป็น ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า สำหรับทำพิธีชดใช้บาป โดยปล่อยให้ไปยังถิ่นทุรกันดารเป็นแพะรับบาป
- เลวีนิติ 16:11 - อาโรนต้องมอบโคตัวเดียวกันนั้นให้เป็นเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาปสำหรับตนเอง และจะทำพิธีชดใช้บาปสำหรับตนเองและครอบครัวของเขา แล้วเขาก็จะฆ่าโคให้เป็นเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาปสำหรับตนเอง
- เลวีนิติ 16:12 - แล้วเขาจะต้องยกกระถางเครื่องหอมซึ่งบรรจุถ่านลุกโพลงลงมาจากแท่นบูชาที่อยู่ ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า พร้อมด้วยเครื่องหอมตำละเอียดสองกำมือ เขาจะต้องยกสองสิ่งนี้เข้าไปที่ข้างหลังม่านกั้น
- เลวีนิติ 16:13 - แล้วจึงโปรยเครื่องหอมบนไฟ ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า และควันเครื่องหอมจะอบอวลอยู่ที่ฝาหีบแห่งการชดใช้บาป แล้วเขาจะได้ไม่ต้องตาย
- เลวีนิติ 16:14 - แล้วเขาจะใช้นิ้วมือจุ่มเลือดโคประพรมที่ด้านหน้าฝาหีบแห่งการชดใช้บาป และใช้นิ้วประพรมที่หน้าฝาหีบแห่งการชดใช้บาปด้วยเลือด 7 ครั้ง
- เลวีนิติ 16:15 - เขาต้องฆ่าแพะที่เป็นเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาปสำหรับประชาชน แล้วนำเลือดเข้าไปที่ข้างหลังม่านกั้น ใช้เลือดแพะเหมือนกับที่ใช้เลือดโคคือ ประพรมที่หน้าฝาหีบแห่งการชดใช้บาปและด้านหน้าของฝา
- เลวีนิติ 16:16 - เขาต้องทำพิธีลบล้างมลทินให้กับอภิสุทธิสถานเพราะความเป็นมลทินของชาวอิสราเอล และเพราะการล่วงละเมิดในเรื่องเกี่ยวกับบาปทุกชนิดของพวกเขา เขาจะกระทำเพื่อกระโจมที่นัดหมาย ซึ่งอยู่กับพวกเขาในท่ามกลางมลทินของพวกเขาด้วย
- เลวีนิติ 16:17 - เมื่อเขาเข้าไปข้างในทำพิธีชดใช้บาปในอภิสุทธิสถาน จะไม่มีผู้ใดอยู่ในกระโจมที่นัดหมายจนกว่าเขาจะออกมา และได้ทำพิธีชดใช้บาปสำหรับตนเอง สำหรับครอบครัวของเขาและทุกคนในที่ประชุมของอิสราเอลแล้ว
- เลวีนิติ 16:18 - หลังจากนั้นเขาจะออกไปยังแท่นบูชาซึ่งอยู่ ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า และทำพิธีลบล้างมลทิน และจะใช้เลือดโคและเลือดแพะป้ายเชิงงอนที่แท่นบูชาโดยรอบ
- เลวีนิติ 16:19 - เขาต้องใช้นิ้วประพรมแท่นด้วยเลือด 7 ครั้งเพื่อชำระให้สะอาดและบริสุทธิ์จากมลทินของชาวอิสราเอล
- มาระโก 8:31 - พระเยซูเริ่มสั่งสอนพวกเขาว่าบุตรมนุษย์ต้องทนทุกข์ทรมานหลายประการ และพวกผู้ใหญ่ บรรดามหาปุโรหิต และอาจารย์ฝ่ายกฎบัญญัติจะไม่ยอมรับ และพระองค์จะถูกประหารชีวิต แต่หลังจากนั้น 3 วันก็จะฟื้นคืนชีวิตอีก
- มาระโก 8:32 - พระองค์กล่าวให้ฟังอย่างชัดเจน และเปโตรก็พูดทัดทานพระองค์เป็นการส่วนตัว
- มาลาคี 4:2 - แต่สำหรับพวกเจ้าที่เกรงกลัวนามของเรา ดวงอาทิตย์แห่งความชอบธรรมจะขึ้นพร้อมด้วยปีกซึ่งรักษาให้หายขาด พวกเจ้าจะออกไปและโลดเต้นอย่างลูกโคที่ถูกปล่อยให้ออกไปจากคอก
- มาลาคี 4:3 - และพวกเจ้าจะเหยียบย่ำคนชั่วร้าย เพราะพวกเขาจะเป็นดั่งเถ้าใต้เท้าของพวกเจ้าในวันที่เรากระทำสิ่งเหล่านี้” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนั้น
- มาลาคี 4:4 - “จงระลึกถึงกฎบัญญัติของโมเสสผู้รับใช้ของเรา กฎเกณฑ์ และคำบัญชาที่เรามอบให้แก่เขาที่โฮเรบสำหรับอิสราเอลทั้งปวง
- มาลาคี 4:5 - ดูเถิด เราจะส่งเอลียาห์ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า ก่อนที่วันอันยิ่งใหญ่และน่าหวาดหวั่นของพระผู้เป็นเจ้าจะมาถึง
- มาลาคี 4:6 - และเขาจะทำให้บิดาทั้งหลายเปิดใจเข้าหาบรรดาบุตรของพวกเขา และทำให้บุตรทั้งหลายเปิดใจเข้าหาบรรดาบิดาของพวกเขา มิฉะนั้นเราจะมาและทำให้แผ่นดินพินาศด้วยคำสาปแช่ง”
- โยเอล 2:28 - และสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนั้นคือ เราจะหลั่งวิญญาณของเราสู่มนุษย์ทั้งหลาย บุตรชายบุตรหญิงของเจ้าจะเผยคำกล่าวของพระเจ้า ผู้เฒ่าจะฝันเห็น และคนหนุ่มจะเห็นภาพนิมิตต่างๆ
- โยเอล 2:29 - แม้แต่บรรดาผู้รับใช้ชายและหญิง เราก็จะหลั่งวิญญาณของเราสู่พวกเขาในวันนั้น
- โยเอล 2:30 - และเราจะแสดงสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆ ในท้องฟ้าและบนแผ่นดินโลก เลือด ไฟ และกลุ่มควัน
- โยเอล 2:31 - ดวงอาทิตย์จะกลายเป็นความมืด ดวงจันทร์จะกลายเป็นเลือดก่อนการกลับมาของพระผู้เป็นเจ้า ในวันอันยิ่งใหญ่และน่าหวาดหวั่น
- โยเอล 2:32 - และสิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ ทุกคนที่ร้องเรียกพระนามของพระผู้เป็นเจ้าจะรอดพ้น ด้วยว่าที่ภูเขาศิโยนและในเยรูซาเล็มจะมีบรรดาผู้ที่หนีรอด และในบรรดาผู้ที่รอดชีวิตจะเป็นบรรดาผู้ที่พระผู้เป็นเจ้าเรียก อย่างที่พระผู้เป็นเจ้าได้กล่าวแล้ว
- ยอห์น 3:14 - โมเสสชูงูขึ้นในถิ่นทุรกันดารฉันใด บุตรมนุษย์ต้องถูกชูขึ้นฉันนั้น
- ปฐมกาล 49:10 - คทาจะไม่หลุดไปจากยูดาห์ และไม้อาชญาสิทธิ์จะไม่ขยับพ้นระหว่างสองเท้าของเขาอย่างไร ชิโลห์ก็จะมาอย่างนั้น และบรรดาชนชาติจะปฏิบัติตามคำสั่งของเขา
- มาลาคี 3:1 - “ดูเถิด เราใช้ผู้ส่งข่าวของเราไป และเขาจะเตรียมทางล่วงหน้าเรา และพระผู้เป็นเจ้าผู้ที่พวกเจ้าแสวงหาจะมายังพระวิหารของพระองค์ในทันใด และ ดูเถิด ผู้ส่งข่าวแห่งพันธสัญญาซึ่งพวกเจ้าชื่นชอบกำลังมา” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนั้น
- มาลาคี 3:2 - แต่ใครสามารถทนต่อวันนั้นได้เมื่อพระองค์มา และใครจะสามารถทนเมื่อพระองค์ปรากฏ เพราะพระองค์เป็นเหมือนเปลวไฟสำหรับหลอมเหล็ก และเหมือนผงซักฟอกของผู้ซักเสื้อผ้า
- มาลาคี 3:3 - พระองค์จะนั่งราวกับผู้หลอมเหล็กและผู้ทำให้เงินบริสุทธิ์ และพระองค์จะทำให้บรรดาบุตรของเลวีบริสุทธิ์ และหลอมพวกเขาเหมือนทองคำและเงิน และพวกเขาจะนำของถวายในความชอบธรรมมามอบแด่พระผู้เป็นเจ้า
- มาระโก 9:31 - พระองค์กำลังสั่งสอนเหล่าสาวกและบอกว่า “บุตรมนุษย์จะถูกมอบไว้ในมือของมนุษย์และพวกเขาจะฆ่าท่านเสีย เมื่อท่านถูกฆ่าแล้ว 3 วันต่อมาท่านจะฟื้นคืนชีวิตอีก”
- ยอห์น 16:4 - แต่เราบอกพวกเจ้าเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ เพื่อว่าเมื่อถึงเวลานั้นแล้วเจ้าจะจำได้ว่าเราบอกไว้แล้ว แม้ว่าไม่ได้บอกแต่แรกเพราะเรายังอยู่กับเจ้า
- ยอห์น 16:5 - บัดนี้เรากำลังจะไปหาพระองค์ผู้ส่งเรามา แต่ไม่มีพวกเจ้าสักคนเลยที่ถามเราว่า ‘จะไปไหน’
- ยอห์น 5:39 - ท่านค้นหาในพระคัมภีร์เพราะคิดว่าจะมีชีวิตอันเป็นนิรันดร์ในนั้น แต่พระคัมภีร์นั้นเองที่ยืนยันถึงเรา
- กิจการของอัครทูต 17:2 - เปาโลเข้าไปในศาลาที่ประชุมตามเคย และท่านใช้วันสะบาโตถึง 3 สัปดาห์ อภิปรายกับผู้คนโดยให้เหตุผลจากพระคัมภีร์
- กิจการของอัครทูต 17:3 - และได้อธิบายทั้งยังพิสูจน์ว่า พระคริสต์ต้องทนทุกข์ทรมานและฟื้นคืนชีวิตจากความตาย ท่านกล่าวว่า “พระเยซูที่ข้าพเจ้าประกาศแก่ท่านอยู่นี้คือพระคริสต์”
- ยอห์น 19:24 - เขาเหล่านั้นจึงพูดโต้ตอบกันว่า “อย่าฉีกเสื้อตัวนั้นเลย แต่มาจับฉลากกันและดูว่าใครจะได้ไป” ซึ่งเป็นไปตามพระคัมภีร์ที่ว่า “พวกเขาแบ่งปันเสื้อตัวนอกของข้าพเจ้าในหมู่พวกเขา แล้วเขาจับฉลากเอาเสื้อตัวในของข้าพเจ้าไป” พวกทหารก็ได้ทำตามนั้น
- ยอห์น 19:25 - บรรดาผู้ที่ยืนอยู่ข้างไม้กางเขนของพระเยซูมี มารดากับน้าสาวของพระองค์ มารีย์ภรรยาของเคลโอปัส และมารีย์ชาวมักดาลา
- ยอห์น 19:26 - เมื่อพระเยซูมองเห็นมารดาของพระองค์และสาวกที่พระองค์รักยืนอยู่ใกล้ๆ จึงกล่าวกับมารดาของพระองค์ว่า “หญิงเอ๋ย ดูเถิด บุตรของท่าน”
- ยอห์น 19:27 - แล้วพระองค์กล่าวกับสาวกคนนั้นว่า “ดูเถิด มารดาของเจ้า” ครั้นแล้วสาวกผู้นั้นก็รับมารดาของพระองค์เข้ามาอยู่ในบ้านของตน
- ยอห์น 19:28 - หลังจากนั้น พระเยซูทราบว่าทุกสิ่งเสร็จบริบูรณ์แล้ว เพื่อเป็นไปตามที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์ พระองค์กล่าวว่า “เรากระหายน้ำ”
- ยอห์น 19:29 - มีโถใส่เหล้าองุ่นเปรี้ยวตั้งอยู่ที่นั่น เขาเหล่านั้นจึงเอาฟองน้ำชุบเหล้าองุ่นเปรี้ยวติดไว้ที่ปลายไม้หุสบ ยื่นให้ถึงปากของพระองค์
- ยอห์น 19:30 - เมื่อพระเยซูรับเหล้าองุ่นเปรี้ยวแล้ว พระองค์กล่าวว่า “เสร็จสิ้นแล้ว” จากนั้นพระองค์ก็ก้มศีรษะลงสิ้นชีวิต
- ยอห์น 19:31 - วันนั้นเป็นวันจัดเตรียม ชาวยิวจึงขอให้ปีลาตหักขาของผู้ที่ถูกตรึงและเอาตัวไป เพื่อไม่ให้ร่างค้างอยู่บนไม้กางเขนในวันสะบาโต (ในเมื่อเฉพาะวันสะบาโตวันนั้นสำคัญเป็นพิเศษ)
- ยอห์น 19:32 - ดังนั้นเหล่าทหารจึงมาหักขาของชายคนแรกที่ถูกตรึงอยู่กับพระองค์ แล้วก็หักขาของชายอีกคน
- ยอห์น 19:33 - แต่เมื่อพวกเขามาถึงพระเยซูก็พบว่าพระองค์สิ้นชีวิตแล้ว จึงไม่หักขาของพระองค์
- ยอห์น 19:34 - แต่ทหารคนหนึ่งใช้หอกแทงสีข้างของพระองค์ โลหิตกับน้ำก็ไหลออกมาทันที
- ยอห์น 19:35 - ชายคนที่เห็นก็ได้ยืนยัน และคำยืนยันของเขาเป็นความจริง เขารู้ว่าเขาบอกความจริงเพื่อว่าพวกท่านจะได้เชื่อเช่นกัน
- ยอห์น 19:36 - สิ่งนี้เกิดขึ้นก็เพื่อจะได้เป็นไปตามพระคัมภีร์ที่ว่า “กระดูกของพระองค์จะไม่หักสักชิ้นเดียว”
- ยอห์น 19:37 - และมีอีกตอนที่พระคัมภีร์ระบุว่า “พวกเขาจะมองดูองค์ผู้ที่พวกเขาได้แทง”
- มาระโก 10:33 - พระองค์กล่าวว่า “ดูเถิด พวกเรากำลังจะขึ้นไปยังเมืองเยรูซาเล็ม และบุตรมนุษย์จะถูกมอบตัวให้แก่พวกมหาปุโรหิตและอาจารย์ฝ่ายกฎบัญญัติ และพวกเขาจะกล่าวโทษให้ท่านถึงแก่ความตาย และจะมอบท่านให้แก่บรรดาคนนอก
- มาระโก 10:34 - พวกเขาจะล้อเลียนและถ่มน้ำลายรดท่าน จะโบยและประหารท่าน 3 วันหลังจากนั้นท่านจะฟื้นคืนชีวิต”
- ฮักกัย 2:7 - และเราจะทำให้ประชาชาติทั้งปวงได้รับผลกระทบ และสมบัติของประชาชาติทั้งปวงจะเข้ามา และเราจะให้ตำหนักนี้เต็มด้วยความสง่างาม” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนั้น
- ฮักกัย 2:8 - “เงินเป็นของเรา และทองคำก็เป็นของเรา” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาประกาศดังนั้น
- ฮักกัย 2:9 - “ความสง่างามของตำหนักในครั้งนี้จะยิ่งใหญ่กว่าความสง่างามในครั้งแรก” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนั้น “และเราจะให้ความสงบสุขแก่ที่แห่งนี้” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาประกาศดังนั้น
- กิจการของอัครทูต 3:18 - แต่เหตุการณ์ที่พระเจ้าได้ประกาศไว้ล่วงหน้า โดยใช้ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าทุกท่านว่า พระคริสต์ของพระองค์จะทนทุกข์ทรมานนั้น พระองค์โปรดให้เป็นไปตามนั้นแล้ว
- มัทธิว 17:22 - ขณะที่พวกเขาชุมนุมกันอยู่ที่แคว้นกาลิลี พระเยซูกล่าวว่า “บุตรมนุษย์จะถูกมอบไว้ในมือของมนุษย์
- มัทธิว 17:23 - พวกเขาจะฆ่าท่านเสีย และท่านจะฟื้นคืนชีวิตในวันที่สาม” แล้วเหล่าสาวกก็เศร้าใจยิ่งนัก
- ลูกา 24:46 - และพระองค์กล่าวว่า “นี่คือสิ่งที่บันทึกไว้ พระคริสต์จะทนทุกข์ทรมานและฟื้นคืนชีวิตจากความตายในวันที่สาม
- อิสยาห์ 50:2 - เมื่อเรามา ทำไมจึงไม่มีใครอยู่ที่นั่น เมื่อเราเรียก ทำไมจึงไม่มีใครตอบ มือของเราสั้นหรือ จึงไถ่คืนไม่ได้ หรือเราไม่มีอานุภาพที่จะช่วยให้รอดหรือ ดูเถิด เมื่อเราบอกห้าม เราทำให้ทะเลแห้งลง เราทำให้แม่น้ำเป็นถิ่นทุรกันดาร ปลาในแหล่งน้ำเน่าเหม็นเพราะขาดน้ำ และตายเพราะน้ำแห้ง
- อิสยาห์ 50:3 - เราปกฟ้าสวรรค์ด้วยความมืด และคลุมด้วยผ้ากระสอบ”
- อิสยาห์ 50:4 - พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่โปรดให้ข้าพเจ้ามีลิ้น อย่างบรรดาผู้ได้รับการฝึกสอน ข้าพเจ้าจึงรู้จักพูดเพื่อช่วยผู้ที่ตรากตรำ ให้ยืนหยัดอยู่ได้ ทุกเช้าพระองค์ปลุกข้าพเจ้า ให้เรียนรู้อย่างบรรดาผู้ได้รับการฝึกสอน
- อิสยาห์ 50:5 - พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ได้ทำให้ข้าพเจ้าเรียนรู้ และข้าพเจ้าไม่ดึงดัน ข้าพเจ้าไม่หันหลังกลับไป
- อิสยาห์ 50:6 - ข้าพเจ้าหันหลังให้กับพวกที่ตบตี หันหน้าให้กับบรรดาผู้ที่กระชากหนวดเครา ข้าพเจ้าไม่ซ่อนหน้า เมื่อถูกดูหมิ่นและถูกถ่มน้ำลายรด
- สดุดี 2:1 - ทำไมบรรดาประชาชาติจึงมีความเคียดแค้น และบรรดาชนชาติวางแผนอันไร้ประโยชน์
- สดุดี 2:2 - บรรดากษัตริย์ในโลกพร้อมที่จะต่อสู้ และชนชั้นระดับปกครองมาร่วมกันต่อต้านพระผู้เป็นเจ้า และต่อต้านองค์ผู้ได้รับการเจิมไว้แล้วของพระองค์ โดยกล่าวว่า
- สดุดี 2:3 - “เรามาทำให้โซ่ขาดสะบั้นลง และเหวี่ยงตรวนให้หลุดพ้นจากพวกเราเถิด”
- สดุดี 2:4 - องค์ผู้พำนักอยู่ในสวรรค์หัวเราะ พระผู้เป็นเจ้าเย้ยหยันพวกเขา
- สดุดี 2:5 - ครั้นแล้วพระองค์จะกล่าวด้วยความกริ้ว และทำให้พวกเขาสะพรึงกลัวต่อการลงโทษของพระองค์ว่า
- สดุดี 2:6 - “เราได้แต่งตั้งกษัตริย์ของเราไว้ ที่ศิโยน ซึ่งเป็นภูเขาอันบริสุทธิ์ของเรา”
- สดุดี 2:7 - ข้าพเจ้าจะประกาศกฎเกณฑ์ของพระผู้เป็นเจ้า พระองค์กล่าวกับข้าพเจ้าว่า “เจ้าเป็นบุตรของเรา วันนี้เราประกาศว่า เราเป็นบิดาของเจ้า
- สดุดี 2:8 - จงขอจากเรา และเราจะมอบบรรดาประชาชาติให้แก่เจ้าเป็นมรดก และทุกมุมโลกจะเป็นของเจ้า
- สดุดี 2:9 - เจ้าจะทำลายพวกเขาด้วยคทาเหล็ก และเขาจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เหมือนกับภาชนะดินเผา”
- สดุดี 2:10 - มาบัดนี้ กษัตริย์ทั้งหลาย จงฉลาดเถิด ชนชั้นระดับปกครองของโลกจงรับคำเตือนเถิด
- สดุดี 2:11 - จงรับใช้พระผู้เป็นเจ้าด้วยความเกรงกลัว และน้อมใจชื่นชมยินดีในพระองค์
- สดุดี 2:12 - จงจูบแสดงความนอบน้อมต่อพระบุตร มิฉะนั้น พระองค์จะกริ้ว และเจ้าจะตายเสียกลางถนน เพราะว่าความกริ้วของพระองค์ผุดขึ้นอย่างรวดเร็ว คนมีความสุขคือทุกคนที่แสวงหาพระองค์เป็นที่พึ่ง
- ฮีบรู 7:1 - เมลคีเซเดคผู้นี้คือกษัตริย์แห่งเมืองซาเล็ม และเป็นปุโรหิตของพระเจ้าผู้สูงสุด ท่านได้พบและอวยพรอับราฮัมซึ่งกำลังกลับมาจากการรบกับกษัตริย์ทั้งปวงที่พ่ายแพ้ไป
- กันดารวิถี 35:25 - และมวลชนจะต้องคุ้มครองคนที่ถูกกล่าวหาว่าฆ่าคน ให้พ้นจากผู้ตามล่าล้างแค้น และมวลชนจะให้เขากลับไปยังเมืองลี้ภัยที่เขาหลบหนีไปอยู่ และเขาจะอาศัยอยู่ที่นั่นจนกว่าหัวหน้ามหาปุโรหิตที่ได้รับการเจิมด้วยน้ำมันบริสุทธิ์จะเสียชีวิตก่อน
- อิสยาห์ 49:1 - โอ หมู่เกาะต่างๆ เอ๋ย จงฟังข้าพเจ้า และเอาใจใส่ บรรดาชนชาติที่อยู่ห่างไกลเอ๋ย พระผู้เป็นเจ้าเรียกข้าพเจ้าตั้งแต่อยู่ในครรภ์ พระองค์ตั้งชื่อข้าพเจ้าตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาข้าพเจ้า
- อิสยาห์ 49:2 - พระองค์ทำให้ปากข้าพเจ้าเหมือนดาบคม พระองค์ซ่อนข้าพเจ้าไว้ในร่มเงาของมือพระองค์ พระองค์ทำให้ข้าพเจ้าเป็นลูกศรคม พระองค์ซ่อนข้าพเจ้าไว้ในแล่งศรของพระองค์
- อิสยาห์ 49:3 - พระองค์กล่าวกับข้าพเจ้าว่า “อิสราเอลเอ๋ย เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา เราจะแสดงให้เห็นบารมีในตัวเจ้า”
- อิสยาห์ 49:4 - แต่ข้าพเจ้าพูดว่า “ข้าพเจ้าได้ตรากตรำโดยไร้ประโยชน์ ข้าพเจ้าได้ใช้กำลังโดยเปล่าและไร้ค่า แต่ค่าตอบแทนของข้าพเจ้าอยู่ที่พระผู้เป็นเจ้าอย่างแน่นอน และรางวัลของข้าพเจ้าอยู่ที่พระเจ้าของข้าพเจ้า”
- อิสยาห์ 49:5 - แต่บัดนี้พระผู้เป็นเจ้ากล่าว คือองค์ผู้สร้างข้าพเจ้า ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ เพื่อให้เป็นผู้รับใช้ของพระองค์ เพื่อนำยาโคบกลับมาหาพระองค์ คือพาอิสราเอลมาหาพระองค์ (เพราะข้าพเจ้าได้รับการยกย่องในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า และพระเจ้าของข้าพเจ้าเป็นกำลังของข้าพเจ้า)
- อิสยาห์ 49:6 - พระองค์กล่าวดังนี้ว่า “ดูว่าจะน้อยเกินไปที่จะให้เจ้าเป็นเพียงผู้รับใช้ของเรา เพื่อจะตั้งเผ่าพันธุ์ของยาโคบขึ้น และพาพวกอิสราเอลที่เราได้รักษาไว้เพื่อให้กลับมา แต่เราจะทำให้เจ้าเป็นแสงสว่างแก่บรรดาประชาชาติ เพื่อเจ้าจะได้นำความรอดพ้นจากเราไปยังทุกมุมโลก”
- อิสยาห์ 49:7 - พระผู้เป็นเจ้า ผู้ไถ่และองค์ผู้บริสุทธิ์ของอิสราเอลกล่าวกับ ผู้ที่ถูกประชาชาติดูหมิ่นและชิงชัง และกับผู้รับใช้ของบรรดาผู้ปกครองดังนี้ว่า “บรรดากษัตริย์จะเห็นเจ้าและจะลุกขึ้นยืน พวกผู้นำจะน้อมตัวลง เพราะพระผู้เป็นเจ้าผู้สัตย์จริง องค์ผู้บริสุทธิ์ของอิสราเอลได้เลือกเจ้า”
- อิสยาห์ 49:8 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ว่า “เมื่อถึงเวลาที่เราจะโปรดปราน เราก็ตอบเจ้า และเมื่อถึงวันช่วยให้รอดพ้น เราก็ช่วยเจ้า เราจะรับเจ้าไว้ เพื่อเป็นพันธสัญญาแก่ชนชาติ เพื่อฟื้นฟูแผ่นดิน เพื่อมอบสิทธิที่ดินที่ถูกทิ้งร้างไว้
- โฮเชยา 1:7 - แต่เราจะมีเมตตาต่อพงศ์พันธุ์ยูดาห์ และเราจะช่วยพวกเขาให้รอดปลอดภัย แต่มิใช่ด้วยคันธนู ดาบหรือสงคราม หรือด้วยม้าและทหารม้า แต่โดยพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเขา”
- โฮเชยา 1:8 - เมื่อนางหย่านมโลรุหะมาห์แล้ว นางก็ตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชาย
- โฮเชยา 1:9 - และพระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ “จงตั้งชื่อเขาว่า โลอัมมี เพราะเจ้าไม่ใช่ชนชาติของเรา และเราไม่ใช่พระเจ้าของพวกเจ้า
- โฮเชยา 1:10 - ถึงกระนั้นจำนวนลูกหลานของอิสราเอลจะมากมายเปรียบได้กับเม็ดทรายบนชายฝั่งทะเล ซึ่งนับไม่ถ้วน และในสถานที่ซึ่งพวกเขาถูกกล่าวถึงว่า ‘เจ้าไม่ใช่ชนชาติของเรา’ พวกเขาจะได้รับเรียกว่า ‘บรรดาบุตรของพระเจ้าผู้ดำรงอยู่’
- โฮเชยา 1:11 - บรรดาบุตรของยูดาห์และบรรดาบุตรของอิสราเอลจะถูกรวบรวมเข้าด้วยกัน และพวกเขาจะแต่งตั้งผู้นำคนหนึ่ง พวกเขาทุกคนจะขึ้นไปจากแผ่นดิน เพราะวันของยิสเรเอลจะเป็นวันที่ยิ่งใหญ่
- กิจการของอัครทูต 7:37 - นี่คือโมเสสผู้ที่บอกชาวอิสราเอลว่า ‘พระเจ้าจะกำหนดผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าผู้หนึ่งดังเช่นเราจากหมู่พี่น้องของท่านเอง’
- สดุดี 16:9 - ฉะนั้น ใจของข้าพเจ้าแสนจะโสมนัส และจิตวิญญาณของข้าพเจ้าจึงชื่นชมยินดี ร่างกายของข้าพเจ้าก็จะอยู่ได้อย่างปลอดภัย
- สดุดี 16:10 - เพราะพระองค์จะไม่ละทิ้งข้าพเจ้าไว้ในแดนคนตาย และจะไม่ปล่อยให้องค์ผู้บริสุทธิ์ของพระองค์เปื่อยเน่าไป
- สดุดี 16:11 - พระองค์ได้ให้ข้าพเจ้าทราบถึงวิถีทางแห่งชีวิต และจะโปรดให้ข้าพเจ้าปิติอย่างมากล้น ณ เบื้องหน้าพระองค์ และยินดีชั่วนิรันดร์กาล ณ เบื้องขวาของพระองค์
- เยเรมีย์ 23:5 - พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ว่า “ดูเถิด จะถึงวันที่เราจะกำหนดอังกูร ผู้หนึ่งซึ่งกอปรด้วยความชอบธรรมให้แก่ดาวิด และท่านจะครองราชย์อย่างกษัตริย์และดำเนินการด้วยการไตร่ตรองจากสติปัญญา และจะปฏิบัติด้วยความเป็นธรรมและความชอบธรรมในแผ่นดิน
- โฮเชยา 3:5 - หลังจากนั้น พงศ์พันธุ์อิสราเอลจะกลับมาและแสวงหาพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเขา และดาวิดกษัตริย์ของพวกเขา และพวกเขาจะตัวสั่นเทาเมื่อมาหาพระผู้เป็นเจ้า และมารับพระพรจากพระองค์ในช่วงเวลาแห่งวาระสุดท้าย
- กันดารวิถี 21:8 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า “จงหล่องูพิษตัวหนึ่งและติดไว้บนเสา เมื่อผู้ใดถูกงูกัด และมองดูงูที่อยู่บนเสา เขาก็จะมีชีวิตอยู่”
- ปฐมกาล 14:18 - เมลคีเซเดคกษัตริย์เมืองซาเล็ม เป็นปุโรหิตของพระเจ้าผู้สูงสุด ได้นำขนมปังและเหล้าองุ่นมาให้
- ดาเนียล 2:44 - ในสมัยของบรรดากษัตริย์เหล่านั้น พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์จะตั้งอาณาจักรหนึ่งขึ้นมา ซึ่งจะไม่มีวันถูกทำลาย ไม่มีวันที่จะถูกชนชาติอื่นยึดไป แต่กลับจะทำให้อาณาจักรเหล่านี้แตกหักเป็นเสี่ยงๆ และจบสิ้นลง ส่วนอาณาจักรนั้นจะยืนยงชั่วนิรันดร์กาล
- อิสยาห์ 42:1 - ดูเถิด ผู้รับใช้ของเรา ผู้ที่เราค้ำจุน ผู้ที่เราเลือก ซึ่งเป็นผู้ที่จิตวิญญาณของเราชื่นชม เราได้มอบวิญญาณของเราไว้ให้ท่าน ท่านจะให้ความยุติธรรมแก่บรรดาประชาชาติ
- อิสยาห์ 42:2 - ท่านจะไม่ร้องเสียงดังหรือเปล่งเสียง หรือให้ผู้คนได้ยินที่ถนน
- อิสยาห์ 42:3 - ไม้อ้อที่หักแล้วท่านจะไม่ทำลาย และไส้ตะเกียงที่ริบหรี่ท่านจะไม่ทำให้ดับ ท่านจะตัดสินด้วยความยุติธรรม
- อิสยาห์ 42:4 - ท่านจะไม่สิ้นกำลังหรือท้อใจ จนกว่าท่านสถาปนาความยุติธรรมบนแผ่นดินโลก และหมู่เกาะต่างๆ รอรับคำแนะนำของท่าน”
- มีคาห์ 5:1 - บัดนี้ จงรวบรวมกำลังของท่านเถิด เมืองแห่งพละกำลังเอ๋ย พวกเราถูกล้อมเมือง พวกเขาใช้ตะบองฟาดหน้า ของผู้ตัดสินความของอิสราเอล
- มีคาห์ 5:2 - “เบธเลเฮม เอฟราธาห์เอ๋ย แม้เจ้าจะด้อยในตระกูลของยูดาห์ แต่ท่านหนึ่งที่จะออกไปจากเจ้าเป็นผู้ปกครองของอิสราเอลเพื่อเรา ท่านมาจากครั้งโบราณกาล จากปฐมกาล”
- มีคาห์ 5:3 - ฉะนั้น ท่านจะละทิ้งพวกเขาไปจนกระทั่งถึงเวลาเมื่อผู้หญิงที่เจ็บครรภ์คลอดบุตร จากนั้นพี่น้องที่เหลืออยู่ของท่าน จะกลับมารวมกับชาวอิสราเอล
- มีคาห์ 5:4 - และท่านจะยืนหยัดและเลี้ยงดูฝูงแกะของท่าน ด้วยอานุภาพของพระผู้เป็นเจ้า ในความยิ่งใหญ่ของพระนามของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน และพวกเขาจะอยู่ด้วยความมั่นคง ด้วยว่า ในเวลานั้นความยิ่งใหญ่ของท่านจะเป็นที่รู้จักไปจนสุดขอบโลก
- ฮีบรู 3:5 - โมเสสมีความภักดีดังเช่นผู้รับใช้ในทุกสิ่งที่เกี่ยวกับตำหนักของพระเจ้า คือยืนยันในเรื่องต่างๆ ที่พระเจ้าจะกล่าวในเวลาต่อมา
- อิสยาห์ 28:16 - ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ “ดูเถิด เราเป็นผู้ที่วางศิลาก้อนหนึ่งในศิโยน ศิลาที่ได้รับการทดสอบแล้ว ศิลามุมเอกที่มีค่ายิ่งสำหรับฐานรากอันมั่นคง ผู้ที่ไว้วางใจในพระองค์จะไม่หวั่นกลัว
- สดุดี 88:1 - โอ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าแห่งความรอดพ้นของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าร้องขอความช่วยเหลือทุกวี่วัน และปรากฏตัวต่อหน้าพระองค์ทุกค่ำคืน
- สดุดี 88:2 - ให้คำอธิษฐานของข้าพเจ้ามาอยู่ ณ เบื้องหน้าพระองค์ โปรดเงี่ยหูฟังเสียงร้องของข้าพเจ้า
- สดุดี 88:3 - เพราะจิตวิญญาณของข้าพเจ้าท่วมท้นด้วยความทุกข์ และชีวิตข้าพเจ้าอยู่ใกล้แดนคนตาย
- สดุดี 88:4 - ข้าพเจ้าถูกนับอยู่ในพวกที่ลงไปในหลุมลึก เป็นเหมือนชายที่ไร้กำลัง
- สดุดี 88:5 - เหมือนคนที่ถูกทอดทิ้งไว้กับพวกที่ลงไปยังหลุมลึกแห่งแดนคนตาย เหมือนคนถูกแทงที่กำลังนอนอยู่ในหลุมศพ ซึ่งพระองค์ไม่ระลึกถึงอีกแล้ว และถูกตัดขาดจากการดูแลของพระองค์
- สดุดี 88:6 - พระองค์ให้ข้าพเจ้าไปอยู่ที่ก้นหลุมลึก ในที่อันมืดมิด ในห้วงน้ำลึก
- สดุดี 88:7 - ข้าพเจ้ารู้สึกว่าพระองค์โกรธเกรี้ยวข้าพเจ้า ข้าพเจ้าตั้งตัวไม่ติดเนื่องจากความโกรธของพระองค์ที่เป็นดั่งคลื่นหลายลูก เซล่าห์
- สดุดี 88:8 - พระองค์ทำให้บรรดาเพื่อนสนิทห่างเหินไปจากข้าพเจ้า พระองค์ทำให้ข้าพเจ้าเป็นที่น่าขยะแขยงต่อพวกเขา ข้าพเจ้าถูกกักขังและไม่อาจหลบหนีไปได้
- สดุดี 88:9 - นัยน์ตาข้าพเจ้าพร่าไปด้วยความเศร้า โอ พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าร้องเรียกถึงพระองค์ทุกวี่ทุกวัน ข้าพเจ้าชูมือขึ้นถึงพระองค์
- สดุดี 88:10 - พระองค์แสดงสิ่งอัศจรรย์เพื่อคนตายหรือ แล้วพวกเขาลุกขึ้นสรรเสริญพระองค์ได้หรือ เซล่าห์
- สดุดี 88:11 - ความรักอันมั่นคงของพระองค์ถูกประกาศไว้ในหลุมศพหรือ และความสัตย์จริงของพระองค์ในความวิบัติหรือ
- สดุดี 88:12 - สิ่งอัศจรรย์ของพระองค์เป็นที่รู้จักในความมืดมิดหรือ และความชอบธรรมของพระองค์ในดินแดนที่ถูกลืมหรือ
- สดุดี 88:13 - โอ พระผู้เป็นเจ้า สำหรับข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์ ในยามเช้า คำอธิษฐานของข้าพเจ้าอยู่ ณ เบื้องหน้าพระองค์
- สดุดี 88:14 - โอ พระผู้เป็นเจ้า ทำไมพระองค์จึงทอดทิ้งข้าพเจ้า ทำไมพระองค์จึงซ่อนหน้าไปเสียจากข้าพเจ้า
- สดุดี 88:15 - นับแต่ครั้งยังเยาว์ ข้าพเจ้าเป็นทุกข์เจียนตาย ข้าพเจ้ารับโทษอันน่ากลัวจากพระองค์จนสิ้นหวัง
- สดุดี 88:16 - ความโกรธเกรี้ยวอันร้อนแรงของพระองค์โถมเข้าใส่ข้าพเจ้า การกระทำอันน่าสะพรึงกลัวของพระองค์ได้ทำลายข้าพเจ้า
- สดุดี 88:17 - ดั่งมีน้ำอยู่ล้อมรอบตัวข้าพเจ้าตลอดวันเวลา มันท่วมเสียจนมิดหัวข้าพเจ้า
- สดุดี 88:18 - พระองค์ทำให้มิตรสหายและคนรักห่างเหินไปจากข้าพเจ้า เพื่อนสนิทข้าพเจ้าคือความมืด
- ปฐมกาล 22:18 - และประชาชาติทั้งปวงในโลกจะได้รับพรโดยผ่านผู้สืบเชื้อสายของเจ้า เพราะเจ้าเชื่อฟังเรา”
- 1 เปโตร 1:11 - พระวิญญาณของพระคริสต์สถิตกับพวกเขา และพระวิญญาณได้พยากรณ์ถึงการทนทุกข์ทรมานของพระคริสต์ และหลังจากการทรมานนั้นแล้ว พระองค์จะได้รับพระบารมี พวกเขาพยายามสืบหาว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นเมื่อไร และเกิดกับผู้ใด
- อิสยาห์ 61:1 - “พระวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สถิตอยู่เหนือเรา เพราะว่าพระผู้เป็นเจ้าเจิมเรา เพื่อนำข่าวอันประเสริฐมายังผู้ยากไร้ พระองค์ส่งเรามาเพื่อสมานหัวใจที่แตกร้าว เพื่อประกาศกับนักโทษเพื่อให้ได้รับการปลดปล่อย และเปิดคุกให้แก่บรรดาผู้ที่ถูกจองจำ
- อิสยาห์ 61:2 - เพื่อประกาศปีที่โปรดปรานของพระผู้เป็นเจ้า และวันแห่งการแก้แค้นของพระเจ้าของพวกเรา เพื่อให้กำลังใจทุกคนที่เศร้าโศก
- อิสยาห์ 61:3 - เพื่อจัดเตรียมให้กับบรรดาผู้ที่เศร้าโศกในศิโยน เพื่อมอบมงกุฎที่สวยงามแทนขี้เถ้าให้แก่พวกเขา และให้น้ำมันแห่งความยินดีแทนความเศร้าโศก เครื่องประดับแห่งการสรรเสริญแทนจิตวิญญาณที่สิ้นหวัง เพื่อพวกเขาจะได้รับเรียกว่า ต้นโอ๊กแห่งความชอบธรรม ที่พระผู้เป็นเจ้าปลูก เพื่อพระบารมีของพระองค์จะเป็นที่ประจักษ์”
- ดาเนียล 7:13 - ภาพนิมิตที่ข้าพเจ้าเห็นในคืนนั้น ดูเถิด หมู่เมฆบนฟ้าสวรรค์ มีผู้หนึ่งดูเหมือนบุตรมนุษย์ พระองค์เข้าไปหาองค์ผู้ดำรงชีวิตยั่งยืนตลอดกาล โดยมีผู้มารับให้ไปอยู่ ณ เบื้องหน้าพระองค์
- ดาเนียล 9:24 - เวลาที่ถูกกำหนดไว้ให้ประชาชนและเมืองอันบริสุทธิ์ของท่าน เพื่อยุติการล่วงละเมิดและหยุดทำบาป เพื่อชดใช้ความชั่ว เพื่อให้เกิดความชอบธรรมอันเป็นนิรันดร์ เพื่อผนึกภาพนิมิตและคำพยากรณ์ด้วยตราประทับ และเพื่อเจิมบริเวณที่บริสุทธิ์ที่สุดนั้น เป็นระยะเวลา 70 สัปดาห์
- ดาเนียล 9:25 - ฉะนั้น จงทราบและเข้าใจว่า นับจากระยะเวลาที่ออกคำสั่งเพื่อฟื้นฟูและสร้างเยรูซาเล็มขึ้นใหม่ จนกระทั่งถึงการมาของผู้ได้รับการเจิม คือองค์ราชา จะเป็นเวลานาน 7 สัปดาห์และ 62 สัปดาห์ เยรูซาเล็มจะถูกสร้างขึ้นใหม่อีก มีทั้งถนนและคูเมือง แต่จะเป็นช่วงเวลาแห่งความทุกข์ยาก
- ดาเนียล 9:26 - หลังจาก 62 สัปดาห์ ผู้ได้รับการเจิมจะถูกกำจัดไป และจะไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย ประชาชนของผู้นำที่จะมาก็จะทำลายเมืองและสถานที่บริสุทธิ์ จุดจบจะมาพร้อมกับน้ำท่วม จะเกิดสงครามจนถึงจุดจบ ความหายนะถูกกำหนดไว้แล้ว
- ดาเนียล 9:27 - เขาจะมีข้อสัญญาตกลงกับคนจำนวนมากเป็นเวลา 1 สัปดาห์ และครึ่งหลังของสัปดาห์เขาจะทำให้การเผาสัตว์เป็นเครื่องสักการะและการมอบของถวายยุติลง และเขาจะเชิดชูสิ่งที่น่าชังอันเป็นเหตุให้เกิดความวิบัติ และเป็นยอดสูงสุดของพระวิหาร จนกระทั่งผู้ที่ถูกกำหนดคนนั้นจะถึงจุดจบของเขา”
- เอเสเคียล 17:22 - พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า “เราเองจะเด็ดกิ่งเล็กจากยอดต้นซีดาร์และปลูกกิ่งนั้น เราจะหักกิ่งเล็กที่ยังอ่อนจากยอดสุดของต้น และเราเองจะปลูกยอดอ่อนบนภูเขาอันสูงตระหง่าน
- สดุดี 69:1 - โอ พระเจ้า โปรดช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น เพราะน้ำท่วมถึงคอข้าพเจ้าแล้ว
- สดุดี 69:2 - ข้าพเจ้าจมลงในตมลึก และมิอาจใช้เท้ายึดเป็นหลักได้เลย ข้าพเจ้าตกสู่ห้วงน้ำลึก และคลื่นก็ซัดจนมิดศีรษะ
- สดุดี 69:3 - ข้าพเจ้าร้องขอความช่วยเหลือจนอ่อนแรง ลำคอแห้งผาก ข้าพเจ้ารอคอยพระเจ้าจนตาพร่า
- สดุดี 69:4 - พวกที่เกลียดชังข้าพเจ้าอย่างไร้สาเหตุ มีมากกว่าจำนวนเส้นผมบนศีรษะของข้าพเจ้า มีศัตรูจำนวนมากอยากกำจัดข้าพเจ้าโดยไร้สาเหตุ บังคับข้าพเจ้าให้คืนสิ่งที่ข้าพเจ้าไม่ได้ขโมย
- สดุดี 69:5 - โอ พระเจ้า พระองค์ทราบถึงความโง่เขลาของข้าพเจ้า ความผิดต่างๆ ที่ข้าพเจ้าทำไปไม่อาจถูกซ่อนไว้จากพระองค์
- สดุดี 69:6 - พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาผู้ยิ่งใหญ่ อย่าปล่อยให้บรรดาผู้ที่วางใจในพระองค์ต้องอับอายเพราะข้าพเจ้า อย่าปล่อยให้บรรดาผู้ที่แสวงหาพระองค์ถูกเหยียดหยามเพราะข้าพเจ้า โอ พระเจ้าของอิสราเอล
- สดุดี 69:7 - ข้าพเจ้าทนต่อการสบประมาทก็เพื่อพระองค์ ข้าพเจ้าอับอายเป็นที่สุด
- สดุดี 69:8 - ข้าพเจ้าได้กลายเป็นคนแปลกหน้าของพวกพี่น้องข้าพเจ้า และเหมือนคนต่างชาติของพี่น้องท้องเดียวกับข้าพเจ้า
- สดุดี 69:9 - ความปรารถนาอันแรงกล้าในเรื่องพระตำหนักของพระองค์ท่วมท้นใจข้าพเจ้า และการสบประมาทของพวกที่กระทำต่อพระองค์เป็นการสบประมาทข้าพเจ้า
- สดุดี 69:10 - เวลาข้าพเจ้าร้องไห้ ข้าพเจ้าทนทุกข์ด้วยการอดอาหาร และต้องทนต่อการสบประมาท
- สดุดี 69:11 - เวลาข้าพเจ้านุ่งห่มด้วยผ้ากระสอบ ข้าพเจ้าเป็นที่น่าขบขันสำหรับพวกเขา
- สดุดี 69:12 - พวกที่นั่งอยู่ที่ประตูเมืองพูดเรื่องข้าพเจ้า และเอาเรื่องของข้าพเจ้ามาแต่งเป็นเพลงของพวกขี้เมา
- สดุดี 69:13 - แต่สำหรับข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าอธิษฐานต่อพระองค์ โอ พระผู้เป็นเจ้า ขึ้นอยู่กับกาลเวลาของพระองค์โดยแท้ โปรดตอบข้าพเจ้า เพราะความช่วยเหลืออันแท้จริงของพระองค์ ตามความรักอันมั่นคงของพระองค์ที่มีอยู่อย่างเอนกอนันต์
- สดุดี 69:14 - โปรดช่วยข้าพเจ้าไม่ให้จมลงในตม ให้รอดพ้นจากพวกที่เกลียดชังข้าพเจ้า และจากห้วงน้ำลึก
- สดุดี 69:15 - อย่าปล่อยให้คลื่นซัดมิดศีรษะข้าพเจ้า อย่าให้ห้วงน้ำลึกกลืนข้าพเจ้า และอย่าให้ปากหลุมปิดและกักข้าพเจ้าไว้
- สดุดี 69:16 - โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดตอบข้าพเจ้าด้วย เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์ประเสริฐนัก และพระองค์มีความเมตตาอย่างยิ่ง โปรดหันมาทางข้าพเจ้าด้วย
- สดุดี 69:17 - อย่าซ่อนหน้าไปเสียจากผู้รับใช้ของพระองค์ เพราะข้าพเจ้าตกอยู่ในความทุกข์ โปรดรีบตอบข้าพเจ้า
- สดุดี 69:18 - โปรดเข้ามาใกล้ข้าพเจ้าเถิด ไถ่และช่วยข้าพเจ้าให้เป็นอิสระจากศัตรู
- สดุดี 69:19 - พระองค์ทราบว่าข้าพเจ้าถูกสบประมาท อีกทั้งอับอายและถูกเหยียดหยาม พระองค์ทราบว่าศัตรูทั้งปวงของข้าพเจ้าคือใคร
- สดุดี 69:20 - การถูกสบประมาททำให้ข้าพเจ้าเศร้าใจ ข้าพเจ้าจึงสิ้นหวัง ข้าพเจ้าไขว่คว้าหาความเห็นใจแต่ก็ไม่ได้รับ และหามีใครมาปลอบประโลมไม่
- สดุดี 69:21 - และพวกเขาให้ข้าพเจ้ากินของขมเป็นอาหาร และให้เหล้าองุ่นเปรี้ยวเพื่อดับกระหาย
- สดุดี 69:22 - ให้งานเลี้ยงฉลองที่จัดไว้ที่ตรงหน้าพวกเขากลายเป็นบ่วงแร้ว ให้เป็นการคืนสนองแก่เขาและเป็นกับดัก
- สดุดี 69:23 - ให้ตาของเขามืดลงเพื่อจะมองไม่เห็น และทำให้บั้นเอวสั่นสะท้านอยู่เนืองๆ
- สดุดี 69:24 - ขอพระองค์แสดงความขัดเคืองต่อพวกเขา และให้ความกริ้วอันร้อนแรงของพระองค์ตกอยู่กับพวกเขา
- สดุดี 69:25 - ขอให้ค่ายของพวกเขาร้าง และอย่าได้มีผู้ใดอาศัยอยู่ในกระโจมของเขาเลย
- สดุดี 69:26 - พวกเขาข่มเหงผู้ที่พระองค์ได้ลงโทษแล้ว และผู้ที่พระองค์ทำให้บาดเจ็บ พวกเขายังจะทำให้ต้องรับทุกข์ทรมานมากขึ้นอีก
- สดุดี 69:27 - เพิ่มโทษแก่พวกเขาซ้ำแล้วซ้ำอีก และอย่าให้พวกเขาได้รับอภัยโทษจากพระองค์เลย
- สดุดี 69:28 - ให้ชื่อของพวกเขาถูกลบออกจากหนังสือแห่งชีวิต อย่าให้พวกเขามีชื่ออยู่ในบันทึกเดียวกันกับบรรดาผู้มีความชอบธรรม
- สดุดี 69:29 - แต่ข้าพเจ้ามีทุกข์และเจ็บปวด โอ พระเจ้า โปรดช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นและอยู่ในที่ปลอดภัยเถิด
- สดุดี 69:30 - ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระนามของพระเจ้าด้วยบทเพลง และขอบคุณพระองค์โดยให้เห็นว่าพระองค์ยิ่งใหญ่
- สดุดี 69:31 - การกระทำเช่นนี้ย่อมเป็นที่พอใจของพระผู้เป็นเจ้า ยิ่งกว่าการถวายโค หรือโคหนุ่มที่มีเขาและกีบ
- สดุดี 69:32 - ให้ผู้ขัดสนได้เห็นและดีใจเถิด ท่านที่แสวงหาพระเจ้าอย่าท้อใจเลย
- สดุดี 69:33 - ด้วยว่า พระผู้เป็นเจ้ารับฟังผู้ยากไร้ และไม่ทอดทิ้งคนของพระองค์ที่ถูกคุมขัง
- สดุดี 69:34 - ให้สวรรค์และโลกสรรเสริญพระองค์ รวมทั้งทะเลและทุกสิ่งที่แหวกว่ายในทะเล
- สดุดี 69:35 - ด้วยว่า พระเจ้าจะช่วยศิโยนให้รอดพ้น และสร้างเมืองต่างๆ ของยูดาห์ขึ้นใหม่ และบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์จะได้อาศัยอยู่ที่นั่น และครอบครองเมืองเหล่านั้น
- สดุดี 69:36 - บรรดาบุตรของผู้รับใช้ของพระองค์จะได้รับเป็นมรดก และบรรดาผู้รักพระนามของพระองค์จะอาศัยอยู่ที่นั่น
- เศคาริยาห์ 13:7 - โอ ดาบเอ๋ย จงตื่นขึ้นและต่อต้านผู้ดูแลฝูงแกะของเรา ต่อต้านชายผู้ยืนอยู่ใกล้ตัวเรา” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ “จงฟาดฟันผู้เลี้ยงดูฝูงแกะ และบรรดาแกะจะกระจัดกระจายไป เราจะหันมือของเราต่อต้านเด็กๆ”
- สดุดี 118:22 - ศิลาที่พวกช่างก่อสร้างทิ้ง ได้กลายเป็นศิลามุมเอก
- มัทธิว 16:21 - จากนั้นมา พระเยซูเริ่มแสดงให้บรรดาสาวกทราบว่า พระองค์ต้องไปยังเมืองเยรูซาเล็ม จะต้องทนทุกข์ทรมานหลายประการจากพวกผู้ใหญ่ มหาปุโรหิต และจากพวกอาจารย์ฝ่ายกฎบัญญัติ พระองค์จะถูกประหารชีวิต แล้ว 3 วันต่อมาจะฟื้นคืนชีวิต
- อิสยาห์ 9:6 - ด้วยว่า ทารกมาบังเกิดเพื่อพวกเรา คือบุตรชายที่ประทานให้แก่พวกเรา และท่านจะเป็นผู้แบกภาระปกครอง และท่านจะได้รับพระนามว่า ที่ปรึกษาผู้ล้ำเลิศ พระเจ้าผู้มีอานุภาพ พระบิดาแห่งนิรันดร์กาล ราชาแห่งสันติสุข
- สดุดี 40:6 - พระองค์ไม่ต้องการเครื่องสักการะและของถวาย แต่พระองค์ได้ทำให้ข้าพเจ้าได้ยินด้วยหู พระองค์ไม่ได้เรียกร้องต้องการสัตว์ที่เผาเป็นของถวายและเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป
- สดุดี 40:7 - ครั้นแล้วข้าพเจ้ากล่าวว่า “ข้าพเจ้าอยู่ ณ ที่นี้ มีบันทึกไว้เกี่ยวกับข้าพเจ้าในหนังสือม้วน
- สดุดี 40:8 - โอ พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ายินดีกระทำตามความประสงค์ของพระองค์ กฎบัญญัติของพระองค์อยู่ภายในใจของข้าพเจ้า”
- เศคาริยาห์ 11:8 - ข้าพเจ้ากำจัดผู้ดูแลฝูง 3 คนในเดือนเดียว ฝูงแกะเกลียดข้าพเจ้า และข้าพเจ้าเหนื่อยหน่ายพวกเขา
- เศคาริยาห์ 11:9 - ข้าพเจ้าจึงพูดดังนี้ว่า “ข้าพเจ้าจะไม่เป็นผู้ดูแลฝูงของพวกท่าน อะไรจะตายก็ปล่อยให้ตายไป อะไรจะถูกทำให้พินาศก็ปล่อยให้พินาศไป และปล่อยให้พวกที่เหลืออยู่กินเลือดกินเนื้อกันเอง”
- เศคาริยาห์ 11:10 - ข้าพเจ้าหักไม้เท้าที่ชื่อ ชื่นชอบ และพันธสัญญาที่ข้าพเจ้าได้ทำไว้กับประชาชนทั้งปวงกลายเป็นโมฆะ
- เศคาริยาห์ 11:11 - ดังนั้นมันก็กลายเป็นโมฆะไปในวันนั้น และบรรดาผู้รับทุกข์ของฝูงที่กำลังเฝ้ามองข้าพเจ้าทราบว่า พระผู้เป็นเจ้ากล่าวผ่านข้าพเจ้า
- เศคาริยาห์ 11:12 - ข้าพเจ้าบอกพวกเขาดังนี้ว่า “หากว่าเป็นสิ่งดีในสายตาพวกท่าน ก็จ่ายค่าแรงให้แก่ข้าพเจ้า แต่ถ้าไม่เห็นด้วย ท่านก็เก็บค่าแรงไว้เอง” พวกเขาจ่ายเงิน 30 เหรียญให้แก่ข้าพเจ้า
- เศคาริยาห์ 11:13 - แล้วพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าว่า “โยนให้แก่ช่างปั้นหม้อ มันเป็นราคาสูงส่งซึ่งเราถูกตั้งราคาโดยพวกเขา” ข้าพเจ้าจึงเอาเงิน 30 เหรียญไปโยนไว้ในพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า เพื่อให้แก่ช่างปั้นหม้อ
- ลูกา 9:44 - “จงฟังเราให้ดี จวนเวลาแล้วที่บุตรมนุษย์จะถูกมอบไว้ในมือของมนุษย์”
- สดุดี 109:4 - พวกเขาตอบแทนความรักของข้าพเจ้าด้วยการกล่าวหาข้าพเจ้า แต่ข้าพเจ้าก็ยังคงอธิษฐาน
- สดุดี 109:5 - พวกเขาตอบความดีของข้าพเจ้าด้วยความเลว และตอบแทนความรักของข้าพเจ้าด้วยความเกลียดชัง
- สดุดี 109:6 - ให้คนชั่วคนหนึ่งมาคัดค้านเขา ให้ผู้กล่าวหาผู้หนึ่งยืนอยู่เบื้องขวา
- สดุดี 109:7 - เวลาเขาถูกไต่สวน ก็ให้เขาถูกตัดสินเป็นฝ่ายผิด แม้คำอธิษฐานของเขาก็ยังนับว่าเป็นบาป
- สดุดี 109:8 - ขอให้เขาอายุสั้น ขอให้ผู้อื่นมาเป็นผู้นำแทนในตำแหน่งของเขา
- สดุดี 109:9 - ขอให้พวกลูกๆ ของเขากำพร้าพ่อ และให้ภรรยาของเขาเป็นม่าย
- สดุดี 109:10 - ขอให้พวกลูกๆ ของเขาเป็นขอทานที่ต้องซัดเซพเนจรไป ขอให้พวกเขาถูกขับไล่ออกจากที่อยู่อันเสื่อมโทรม
- สดุดี 109:11 - ขอให้เจ้าหนี้ยึดทุกสิ่งที่เขามี ขอให้คนแปลกหน้ายึดเอาผลที่ได้จากแรงงานของเขาไป
- สดุดี 109:12 - ขออย่าให้มีผู้ใดหยิบยื่นความกรุณาให้แก่เขา หรืออย่ามีใครได้สงสารพวกลูกกำพร้าของเขาเลย
- สดุดี 109:13 - ขอให้ผู้สืบเชื้อสายของเขาจงวอดวาย ชื่อสกุลของเขาถูกลบออกในชั่วอายุต่อไป
- สดุดี 109:14 - ขอให้ความชั่วของบรรพบุรุษของเขาตรึงในความทรงจำของพระผู้เป็นเจ้าอย่างไม่เลือนลาง และไม่ยกโทษบาปของมารดาของเขา
- สดุดี 109:15 - ขอให้บาปทั้งปวงเป็นที่ประจักษ์แก่พระผู้เป็นเจ้าเสมอไป ขอให้พระองค์ลบพวกเขาออกไปจากความทรงจำบนแผ่นดินโลก
- สดุดี 109:16 - เพราะเขาไม่เคยคิดถึงความกรุณา รังแต่จะกดขี่ข่มเหงผู้ขัดสน คนยากไร้ และผู้มีใจท้อแท้ จนพวกเขาเหล่านั้นต้องถึงแก่ความตาย
- สดุดี 109:17 - เพราะเขาชอบสาปแช่ง ก็ขอให้เขาถูกแช่งเสียเอง เขาไม่ชอบอวยพรให้ใคร ก็ขอให้พรห่างหายไปจากตัวเขา
- สดุดี 109:18 - เขาแช่งคนจนติดเป็นนิสัย ขอให้การแช่งซึมเข้าตัวเขาเหมือนน้ำ และซึมเข้ากระดูกเหมือนน้ำมัน
- สดุดี 109:19 - ขอให้เป็นเหมือนเสื้อผ้าที่เขานุ่งห่มรัดแน่น เหมือนเข็มขัดที่คาดตัวเขาไว้อยู่เสมอ
- สดุดี 109:20 - ขอให้พระผู้เป็นเจ้าลงโทษพวกผู้กล่าวหาข้าพเจ้าเช่นนี้ พวกที่พูดว่าร้ายข้าพเจ้านั่นแหละ
- ฮีบรู 9:8 - พระวิญญาณบริสุทธิ์แสดงให้เห็นจากการปฏิบัติตามที่กล่าวมานี้ว่า ทางเข้าไปสู่อภิสุทธิสถานยังไม่เปิด ตราบที่กระโจมด้านนอกยังตั้งอยู่
- อิสยาห์ 11:1 - จะมีอังกูร งอกจากตอของเจสซี และกิ่งก้านที่เกิดจากรากของเขาจะเกิดผล
- อิสยาห์ 11:2 - และพระวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้าจะอยู่กับพระองค์ คือพระวิญญาณแห่งสติปัญญาและความเข้าใจ พระวิญญาณแห่งคำปรึกษาและอานุภาพ พระวิญญาณแห่งความรู้และความเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า
- อิสยาห์ 11:3 - และพระองค์จะมีความสุขใจเมื่อมีความเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะไม่ตัดสินตามที่ตาเห็น และไม่ตัดสินใจตามที่หูได้ยิน
- อิสยาห์ 11:4 - แต่จะตัดสินผู้ยากไร้ด้วยความเป็นธรรม และตัดสินใจให้กับผู้มีใจอ่อนน้อมของแผ่นดินด้วยความยุติธรรม และพระองค์จะลงโทษแผ่นดินด้วยคำพูดจากปากของพระองค์ และพระองค์จะสังหารคนชั่วร้ายด้วยลมหายใจจากริมฝีปากของพระองค์
- อิสยาห์ 11:5 - ความชอบธรรมจะเป็นเข็มขัดคาดเอวพระองค์ และความสัตย์จริงเป็นสายคาดบั้นเอวพระองค์
- อิสยาห์ 11:6 - สุนัขป่าจะอยู่กับลูกแกะ และเสือดาวจะหมอบอยู่กับลูกแพะ ลูกโคตัวผู้กับสิงโตและลูกโคอ้วนพีจะอยู่ด้วยกัน และเด็กน้อยจะเดินนำสัตว์เหล่านี้ไป
- อิสยาห์ 11:7 - แม่โคและหมีจะเล็มหญ้า ลูกๆ ของมันจะนอนอยู่ด้วยกัน สิงโตจะกินฟางอย่างโค
- อิสยาห์ 11:8 - เด็กที่ยังไม่หย่านมจะเล่นอยู่ที่ปากรูของงูเห่า และเด็กที่หย่านมแล้วจะวางมือบนรังของงูพิษ
- อิสยาห์ 11:9 - พวกมันจะไม่ทำร้ายหรือทำให้ ภูเขาอันบริสุทธิ์ของเราพินาศ เพราะแผ่นดินโลกจะบริบูรณ์ด้วยความรู้ในเรื่องพระผู้เป็นเจ้า เหมือนน้ำที่เต็มทะเล
- อิสยาห์ 11:10 - ในวันนั้น รากแห่งเจสซีจะตั้งเด่นดั่งธงชัยสำหรับบรรดาชนชาติ บรรดาประชาชาติจะแสวงหาพระองค์ และที่ซึ่งพระองค์พำนักอยู่จะงามตระการ
- เอเสเคียล 34:23 - และเราจะกำหนดผู้เลี้ยงดูฝูงแกะผู้หนึ่งให้ดูแลพวกเขา คือดาวิดผู้รับใช้ของเรา และท่านจะดูแลพวกเขา ท่านจะดูแลพวกแกะและเป็นผู้เลี้ยงดูฝูงแกะของพวกเขา
- อิสยาห์ 7:14 - ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้าจะเป็นผู้บ่งบอกเป็นเครื่องพิสูจน์ให้ท่านเห็น ดูเถิด พรหมจาริณีผู้หนึ่งจะตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายผู้หนึ่ง และจะตั้งชื่อบุตรว่า อิมมานูเอล
- สดุดี 22:1 - พระเจ้าของข้าพเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า ทำไมพระองค์จึงทอดทิ้งข้าพเจ้า ทำไมพระองค์จึงอยู่ห่างไกลเกินที่จะช่วยข้าพเจ้า ไม่ได้ยินแม้แต่คำคร่ำครวญของข้าพเจ้า
- สดุดี 22:2 - โอ พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าร้องไห้ในเวลากลางวัน แต่พระองค์ไม่ตอบ และในช่วงเวลากลางคืนข้าพเจ้าก็หาได้พักไม่
- สดุดี 22:3 - แต่พระองค์ยังคงความเป็นผู้บริสุทธิ์ เป็นที่สรรเสริญของอิสราเอล
- สดุดี 22:4 - บรรพบุรุษของเราไว้วางใจในพระองค์ ท่านเหล่านั้นไว้วางใจ และพระองค์ช่วยให้รอดพ้น
- สดุดี 22:5 - ท่านร้องถึงพระองค์ และได้รับความรอดพ้น ท่านไว้วางใจในพระองค์ และไม่ได้รับความอับอาย
- สดุดี 22:6 - แต่ข้าพเจ้าเป็นหนอนตัวหนึ่งซึ่งไม่ใช่มนุษย์ ถูกผู้คนดูหมิ่นและรังเกียจ
- สดุดี 22:7 - ทุกคนที่เห็นข้าพเจ้าก็ล้อเลียน พวกเขาเยาะเย้ยข้าพเจ้า พลางสั่นหัวกันไปมา พูดว่า
- สดุดี 22:8 - “ปล่อยให้เป็นเรื่องของพระผู้เป็นเจ้าเถิด ให้พระองค์ช่วยเขาให้รอดพ้น ปล่อยให้พระองค์ช่วยผู้ที่พระองค์ยินดี”
- สดุดี 22:9 - พระองค์เป็นผู้ที่นำข้าพเจ้าออกมาจากครรภ์ พระองค์ให้ความปลอดภัยแก่ข้าพเจ้าในอ้อมอกแม่
- สดุดี 22:10 - นับแต่เกิดมา ข้าพเจ้าถูกมอบให้กับพระองค์ พระองค์เป็นพระเจ้าของข้าพเจ้ามาโดยตลอด ตั้งแต่วันที่ออกจากครรภ์มารดา
- สดุดี 22:11 - อย่าอยู่ห่างไกลจากข้าพเจ้า เพราะว่าความลำบากอยู่ใกล้ และไม่มีใครคอยช่วย
- สดุดี 22:12 - มีศัตรูประดุจโคหนุ่มจำนวนมากล้อมอยู่รอบกายข้าพเจ้า โคหนุ่มของบาชาน พวกนี้มีกำลังมหาศาลตีวงเข้าล้อมข้าพเจ้า
- สดุดี 22:13 - พวกมันอ้าปากกว้างเข้าใส่ข้าพเจ้าประดุจสิงโตคำราม และเขมือบอย่างตะกละตะกราม
- สดุดี 22:14 - เรี่ยวแรงข้าพเจ้าถูกสูบออกไปจนหมดสิ้น และกระดูกทุกท่อนหลุดจากข้อต่อ หัวใจข้าพเจ้าเป็นดั่งขี้ผึ้ง ที่หลอมละลายอยู่ในทรวงอก
- สดุดี 22:15 - ปากคอข้าพเจ้าแห้งผากดั่งเศษกระเบื้องดินเผา ลิ้นผนึกกับขากรรไกร พระองค์วางตัวข้าพเจ้าลงบนผงธุลีแห่งความตาย
- สดุดี 22:16 - พวกสุนัขอยู่ล้อมรอบข้าพเจ้า กลุ่มคนชั่วรายล้อมข้าพเจ้าไว้ พวกเขาตรึงมือและเท้าข้าพเจ้า
- สดุดี 22:17 - ข้าพเจ้านับจำนวนกระดูกของข้าพเจ้าได้ทุกท่อน ผู้คนพินิจดูข้าพเจ้า และสมน้ำหน้า
- สดุดี 22:18 - พวกเขาแบ่งปันเสื้อตัวนอกของข้าพเจ้าในหมู่พวกเขา แล้วเขาจับฉลากเอาเสื้อตัวในของข้าพเจ้าไป
- สดุดี 22:19 - โอ พระผู้เป็นเจ้า ขอพระองค์อย่าออกห่างไปไกลเลย ผู้ช่วยเหลือของข้าพเจ้า โปรดรีบมาช่วยข้าพเจ้าด้วยเถิด
- สดุดี 22:20 - ช่วยชีวิตของข้าพเจ้าให้พ้นจากคมดาบ ชีวิตอันมีค่าของข้าพเจ้าให้พ้นจากเงื้อมมือสุนัข
- สดุดี 22:21 - ช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากปากสิงโตด้วยเถิด พระองค์ได้ช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากเขากระทิง
- สดุดี 22:22 - ข้าพเจ้าจะบอกเล่าถึงพระนามของพระองค์แก่เหล่าพี่น้องของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ในท่ามกลางที่ประชุม
- สดุดี 22:23 - บรรดาท่านที่มีความเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า จงสรรเสริญพระองค์ ผู้สืบตระกูลของยาโคบทุกคน จงถวายเกียรติแด่พระองค์ ผู้สืบตระกูลของอิสราเอล จงยกย่องพระองค์
- สดุดี 22:24 - เพราะว่าพระองค์ไม่ได้ดูหมิ่นหรือชิงชังความทุกข์ของผู้ได้รับทุกข์ทรมาน พระองค์ไม่ได้ซ่อนหน้าจากเขา แต่ได้ยินในยามที่เขาร้องเรียกถึงพระองค์
- สดุดี 22:25 - คำสรรเสริญของข้าพเจ้าในที่ประชุมใหญ่มาจากพระองค์ ข้าพเจ้าจะทำตามคำสัญญาต่อหน้าบรรดาผู้เกรงกลัวพระองค์
- สดุดี 22:26 - คนยากไร้จะมีกินและอิ่มหนำ บรรดาผู้แสวงหาพระผู้เป็นเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ ขอให้พวกท่านมีชีวิตที่สุขสบายอยู่เป็นนิจ
- สดุดี 22:27 - ทั่วแหล่งหล้าจะรำลึกได้ และหันเข้าหาพระผู้เป็นเจ้า แล้วทุกครอบครัวของบรรดาประชาชาติ จะก้มลงกราบพระองค์
- สดุดี 22:28 - ด้วยว่าการปกครองเป็นของพระผู้เป็นเจ้า และพระองค์ปกครองบรรดาประชาชาติ
- สดุดี 22:29 - คนหยิ่งยโสในโลกจะรับประทานและก้มกราบ ณ เบื้องหน้าพระองค์ ทุกคนที่ต้องจบชีวิตกลายเป็นผงธุลีจะคุกเข่าลงต่อหน้าพระองค์ รวมถึงคนที่ไม่อาจรักษาชีวิตของตนไว้ได้
- สดุดี 22:30 - ผู้สืบตระกูลจะรับใช้พระองค์ ผู้คนจะพูดถึงพระผู้เป็นเจ้าในยุคต่อๆ ไป
- สดุดี 22:31 - พวกเขาจะมาและประกาศถึงความชอบธรรมของพระองค์ แก่ผู้คนที่จะเกิดมาภายหลังว่า พระองค์ได้กระทำสิ่งเหล่านี้
- ลูกา 24:6 - พระองค์ไม่อยู่ที่นี่ เพราะได้ฟื้นคืนชีวิตแล้ว จงระลึกถึงสิ่งที่พระองค์กล่าวไว้กับท่านขณะที่ยังอยู่กับท่านในแคว้นกาลิลี
- ลูกา 24:7 - ‘บุตรมนุษย์จะต้องตกอยู่ในมือของพวกคนบาป จะถูกตรึงบนไม้กางเขน และในวันที่สามจะฟื้นคืนชีวิตอีก’”
- กิจการของอัครทูต 3:22 - โมเสสได้กล่าวว่า ‘พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน จะกำหนดผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าผู้หนึ่งดังเช่นเราให้แก่ท่าน และท่านผู้นั้นมาจากหมู่พี่น้องของท่านเอง ฉะนั้นจงฟังทุกสิ่งที่ผู้นั้นบอกไว้
- กิจการของอัครทูต 3:23 - ผู้ใดที่ไม่ฟังท่าน ก็จะถูกตัดขาดจากชนชาติของพระองค์โดยสิ้นเชิง’
- กิจการของอัครทูต 3:24 - จริงทีเดียว เหล่าผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าทุกท่าน นับตั้งแต่ซามูเอลเป็นต้นมาได้พูดและพยากรณ์ไว้ถึงวาระนี้
- ยอห์น 5:46 - ถ้าพวกท่านเชื่อในโมเสสแล้ว ท่านก็จะเชื่อในเรา เพราะโมเสสเคยเขียนไว้เกี่ยวกับเรา
- วิวรณ์ 19:10 - ข้าพเจ้าก็หมอบลงที่แทบเท้าของท่านเพื่อนมัสการท่าน แต่ท่านพูดกับข้าพเจ้าว่า “อย่าทำอย่างนั้น เราเป็นเพื่อนผู้ร่วมรับใช้ด้วยกันกับท่าน และกับพี่น้องของท่านที่ยึดมั่นในคำยืนยันของพระเยซู จงนมัสการพระเจ้า เพราะคำยืนยันของพระเยซูคือวิญญาณแห่งการเผยความ”
- เศคาริยาห์ 9:9 - โอ ธิดาแห่งศิโยนเอ๋ย จงชื่นชมยินดี โอ ธิดาแห่งเยรูซาเล็มเอ๋ย จงร้องตะโกน ดูเถิด กษัตริย์ของเจ้ากำลังมาหาเจ้า ท่านมีความชอบธรรมและความรอดพ้น เป็นผู้ที่อ่อนโยน ขี่ลามา บนลูกลา ลาหนุ่ม
- สดุดี 110:1 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับพระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าว่า “จงนั่งทางด้านขวาของเรา จนกว่าเราจะทำให้พวกศัตรูของเจ้าอยู่ใต้เท้าดั่งที่วางเท้าของเจ้า”
- สดุดี 110:2 - พระผู้เป็นเจ้าจะยื่นคทาของท่านอันกอปรด้วยพลานุภาพจากศิโยน จงปกครองท่ามกลางพวกศัตรูของท่าน
- สดุดี 110:3 - ชนชาติของท่านจะขันอาสา ในวันที่ท่านต่อสู้ข้าศึก ท่านจะได้หยาดน้ำค้างแห่งวัยหนุ่มจากรุ่งอรุณ ณ ภูเขาอันบริสุทธิ์
- สดุดี 110:4 - พระผู้เป็นเจ้าได้ปฏิญาณ และจะไม่เปลี่ยนใจว่า “เจ้าเป็นปุโรหิตเป็นนิตย์ ตามแบบอย่างเมลคีเซเดค”
- สดุดี 110:5 - พระผู้เป็นเจ้าอยู่ทางด้านขวาของท่าน พระองค์จะทำให้บรรดากษัตริย์แตกพ่ายไปในวันแห่งการลงโทษของพระองค์
- สดุดี 110:6 - พระองค์จะตัดสินลงโทษบรรดาประชาชาติ กองศพคนไว้เป็นพะเนิน พระองค์จะทำให้คนระดับหัวหน้าพ่ายแพ้ไปทั่วทั้งปฐพีอันไพศาล
- สดุดี 110:7 - ท่านจะดื่มจากลำธารข้างทาง ฉะนั้นท่านจะเงยศีรษะขึ้นด้วยความมีชัย
- อิสยาห์ 40:1 - พระเจ้าของพวกท่านกล่าวว่า “จงให้กำลังใจ ให้กำลังใจชนชาติของเรา
- อิสยาห์ 40:2 - จงพูดกับเยรูซาเล็มด้วยวาจาอันอ่อนหวาน และร้องบอกเมืองนั้นว่า การต่อสู้อย่างหนักของเมืองนั้นจบลงแล้ว และได้รับอภัยโทษบาป พระผู้เป็นเจ้าได้ทำโทษเมืองนั้น เป็นสองเท่าของบาปทั้งปวงที่พวกเขาทำ”
- อิสยาห์ 40:3 - มีเสียงร้องว่า “ในถิ่นทุรกันดาร จงเตรียมทางของพระผู้เป็นเจ้าให้พร้อม จงทำทางในทะเลทรายให้ตรงเพื่อพระเจ้าของเรา
- อิสยาห์ 40:4 - หุบเขาทุกแห่งจะถูกยกให้สูงขึ้น ภูเขาและเนินเขาทุกลูกจะถูกลดให้ต่ำลง พื้นดินที่ไม่สม่ำเสมอจะเป็นทางเรียบ และที่ขรุขระจะเป็นที่ราบ
- อิสยาห์ 40:5 - และพระบารมีของพระผู้เป็นเจ้าจะปรากฏ และมนุษย์ทุกคนจะมองเห็นพร้อมกัน เพราะคำพูดออกจากปากของพระผู้เป็นเจ้า”
- อิสยาห์ 40:6 - มีเสียงกล่าวว่า “จงร้องบอกเถิด” และข้าพเจ้าพูดว่า “ข้าพเจ้าจะร้องอะไร” มนุษย์ทุกคนเป็นเสมือนต้นหญ้า และความงามเป็นเสมือนดอกไม้ในทุ่ง
- อิสยาห์ 40:7 - ต้นหญ้านั้นเหี่ยวแห้งและดอกร่วงโรย เมื่อพระผู้เป็นเจ้าพ่นลมหายใจของพระองค์บนใบหญ้า แน่ทีเดียว คนเป็นเสมือนต้นหญ้า
- อิสยาห์ 40:8 - ต้นหญ้านั้นเหี่ยวแห้งและดอกร่วงโรย แต่คำกล่าวของพระเจ้าของเราจะยั่งยืนอยู่ตลอดกาล
- อิสยาห์ 40:9 - จงขึ้นไปบนภูเขาสูง โอ ผู้นำข่าวประเสริฐมายังศิโยน จงโห่ร้องด้วยเสียงอันดัง โอ ผู้นำข่าวประเสริฐมายังเยรูซาเล็ม จงโห่ร้อง อย่ากลัวเลย จงบอกเมืองต่างๆ ของยูดาห์ว่า “ดูเถิด พระเจ้าของพวกเจ้า”
- อิสยาห์ 40:10 - ดูเถิด พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่มาด้วยอานุภาพ และพระองค์ปกครองด้วยพลานุภาพ ดูเถิด รางวัลของพระองค์อยู่กับพระองค์ และพระองค์จะตอบสนอง
- อิสยาห์ 40:11 - พระองค์จะเฝ้าฝูงแกะของพระองค์เหมือนผู้เลี้ยงดูฝูงแกะ พระองค์จะรวบรวมบรรดาลูกแกะไว้ในอ้อมแขน และอุ้มพวกเขาแนบทรวงอกของพระองค์ และค่อยๆ นำ พวกแม่แกะที่มีลูกอ่อนกินนม
- สดุดี 72:1 - โอ พระเจ้า โปรดมอบความยุติธรรมของพระองค์ให้เป็นคุณสมบัติของกษัตริย์ และความชอบธรรมของพระองค์แก่บุตรของกษัตริย์
- สดุดี 72:2 - ขอให้ท่านตัดสินบรรดาชนชาติของพระองค์ด้วยความชอบธรรม และบรรดาคนยากจนของพระองค์ด้วยความเป็นธรรม
- สดุดี 72:3 - ขอให้ภูเขานำความอุดมสมบูรณ์มายังบรรดาชนชาติ และเนินเขานำความชอบธรรมมา
- สดุดี 72:4 - ให้ท่านปกป้องผู้ตกทุกข์ได้ยากของปวงชน ให้ความปลอดภัยแก่ลูกๆ ของผู้ยากไร้ และให้ผู้บีบบังคับแพ้พ่าย
- สดุดี 72:5 - ขอให้ท่านคงชีวิตอยู่ตราบที่ดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ส่องแสงตลอดทุกยุคทุกสมัย
- สดุดี 72:6 - ขอให้ท่านเป็นดั่งฝนที่พร่างพรมลงบนหญ้าตัดใหม่ เป็นดั่งฝนที่โปรยปรายลงสู่พื้นดิน
- สดุดี 72:7 - ขอให้ความชอบธรรมไพบูลย์ พูนผลชั่วชีวิตของท่าน และให้ความอุดมสมบูรณ์ยืนยงตราบที่ดวงจันทร์ทอแสง
- สดุดี 72:8 - ขอให้ท่านปกครองอาณาเขตจากทะเลแห่งหนึ่งจรดทะเลอีกแห่งหนึ่ง และจากแม่น้ำจรดสุดขอบโลก
- สดุดี 72:9 - ขอให้ศัตรูของท่านก้มลง ณ เบื้องหน้าท่าน และศัตรูของท่านยอมสยบอยู่กับพื้น
- สดุดี 72:10 - ขอให้บรรดากษัตริย์แห่งเมืองทาร์ชิช เมืองแถบชายฝั่งทะเลกับเกาะต่างๆ มอบเครื่องบรรณาการแก่ท่าน ให้บรรดากษัตริย์แห่งเช-บาและเส-บา นำของกำนัลมา
- สดุดี 72:11 - ขอให้บรรดากษัตริย์ทั้งปวงก้มกราบลง ณ เบื้องหน้าท่าน และประชาชาติทั้งปวงรับใช้ท่าน
- สดุดี 72:12 - เพราะท่านช่วยผู้ยากไร้ที่ร้องขอความช่วยเหลือ ช่วยคนยากจนและคนที่ขาดความช่วยเหลือ
- สดุดี 72:13 - ท่านสงสารคนสิ้นไร้ไม้ตอกและคนยากไร้ และช่วยชีวิตบรรดาคนยากไร้
- สดุดี 72:14 - ท่านช่วยชีวิตพวกเขาให้พ้นจากการบีบบังคับและการกระทำอันรุนแรง และชีวิตของพวกเขามีค่าในสายตาของท่าน
- สดุดี 72:15 - ขอให้ท่านมีชีวิตยืนยาว ขอให้ท่านได้รับทองคำจากอาณาจักรเช-บา ขอให้คนอธิษฐานเพื่อท่านเรื่อยไป และได้รับพระพรตลอดวันเวลา
- สดุดี 72:16 - ขอให้มีธัญญาหารอย่างอุดมสมบูรณ์บนแผ่นดิน แม้บนยอดเขาก็มียอดข้าวโบกสะบัด ดั่งพืชผลที่อุดมในเลบานอน และพลเมืองเพิ่มจำนวนขึ้น ดั่งต้นหญ้าบนแผ่นดิน
- สดุดี 72:17 - ขอให้นามของท่านยืนยงชั่วกาลนาน และชื่อเสียงคงอยู่ตลอดไปตราบที่ดวงอาทิตย์คงอยู่ ให้ผู้คนรับพระพรเพราะท่าน ประชาชาติทั้งปวงเรียกท่านว่า ผู้มีความสุข
- สดุดี 72:18 - สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอล พระองค์ผู้เดียวที่กระทำสิ่งมหัศจรรย์
- สดุดี 72:19 - สรรเสริญพระนามอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ตลอดกาล ขอพระบารมีของพระองค์เต็มทั่วแผ่นดินโลก อาเมน และอาเมน
- สดุดี 72:20 - คำอธิษฐานของดาวิด บุตรของเจสซีจบลงเท่านี้
- เศคาริยาห์ 6:12 - และบอกเขาดังนี้ว่า ‘พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวว่า นี่คือบุรุษที่ชื่ออังกูร เขาจะแตกหน่อออกไปจากที่ของเขา และเขาจะสร้างพระวิหารของพระผู้เป็นเจ้า
- เฉลยธรรมบัญญัติ 18:15 - พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านจะกำหนดผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าผู้หนึ่งดังเช่นเราให้แก่ท่าน และท่านผู้นั้นมาจากหมู่พี่น้องของท่านเอง ฉะนั้นจงฟังท่านผู้นั้น
- เฉลยธรรมบัญญัติ 18:16 - ตามที่ท่านต้องการจากพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านที่โฮเรบในวันที่มีประชุมกัน เมื่อท่านกล่าวว่า ‘อย่าให้เราได้ยินเสียงของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเราอีก หรือเห็นเพลิงไฟขนาดใหญ่เช่นนี้อีก เพราะเกรงว่าเราจะถึงกาลวิบัติ’
- เฉลยธรรมบัญญัติ 18:17 - แล้วพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับเราว่า ‘ทุกสิ่งที่พวกเขาพูดมานั้นถูกต้องทีเดียว
- เฉลยธรรมบัญญัติ 18:18 - เราจะกำหนดผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าผู้หนึ่งดังเช่นเจ้าให้แก่พวกเขา และผู้นั้นจะมาจากหมู่พี่น้องของเขาเอง เขาจะพูดสิ่งที่เราบอกให้พูด และจะพูดทุกสิ่งที่เราสั่งให้เขาพูดกับพวกเขา
- เฉลยธรรมบัญญัติ 18:19 - เขาจะพูดในนามของเรา แต่ถ้าใครก็ตามไม่ฟังคำของเรา เราจะลงโทษผู้นั้น
- ฮีบรู 10:1 - กฎบัญญัติเป็นเพียงแค่เงาของบรรดาสิ่งประเสริฐที่จะมาในภายหลัง คือมิใช่ตัวจริง ด้วยเหตุนี้ กฎบัญญัติจึงไม่สามารถทำให้ผู้ที่เข้านมัสการอย่างใกล้ชิดเพียบพร้อมทุกประการได้ โดยการถวายเครื่องสักการะที่ซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างไม่หยุดหย่อนทุกปี
- ลูกา 9:22 - พระองค์กล่าวว่า “บุตรมนุษย์ต้องทนทุกข์ทรมานหลายประการ และพวกผู้ใหญ่ บรรดามหาปุโรหิต และอาจารย์ฝ่ายกฎบัญญัติจะไม่ยอมรับ บุตรมนุษย์จะถูกประหารชีวิตและ 3 วันต่อมาจะฟื้นคืนชีวิต”
- กิจการของอัครทูต 13:33 - พระองค์ได้กระทำตามพระสัญญาเพื่อพวกเราซึ่งเป็นลูกหลานของเขาเหล่านั้น โดยให้พระเยซูฟื้นคืนชีวิต ตามที่มีบันทึกในฉบับสดุดีบทที่สอง ว่า ‘เจ้าเป็นบุตรของเรา วันนี้เราประกาศว่าเราเป็นบิดาของเจ้า’
- เศคาริยาห์ 12:10 - และเราจะหลั่งวิญญาณแห่งพระคุณและคำขอร้องสู่พงศ์พันธุ์ของดาวิดและสู่บรรดาผู้อยู่อาศัยของเยรูซาเล็ม พวกเขาจะมองดูองค์ผู้ที่พวกเขาได้แทง พวกเขาจะครวญคร่ำร่ำไห้ถึงพระองค์ ราวกับผู้ที่ครวญคร่ำร่ำไห้ถึงบุตรคนเดียวของตน และร้องไห้อย่างขมขื่นถึงพระองค์ อย่างผู้ที่ร้องไห้ถึงบุตรหัวปี
- ลูกา 24:26 - จำเป็นไม่ใช่หรือ ที่พระคริสต์จะต้องทนทุกข์ทรมานกับสิ่งเหล่านี้ แล้วจึงเข้าสู่พระบารมีของพระองค์”
- ลูกา 24:27 - พระองค์จึงได้อธิบายให้พวกเขาฟังสิ่งที่พระคัมภีร์ระบุไว้เกี่ยวกับพระองค์โดยทั่ว โดยเริ่มจากฉบับที่โมเสสบันทึกไว้ อีกทั้งฉบับของผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าทุกท่าน