逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - เช่นนี้แล้วเราจะว่าอย่างไร? คนต่างชาติที่ไม่ได้ขวนขวายหาความชอบธรรมกลับได้ความชอบธรรม คือความชอบธรรมโดยความเชื่อ
- 新标点和合本 - 这样,我们可说什么呢?那本来不追求义的外邦人反得了义,就是因信而得的义。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 这样,我们要怎么说呢?那不追求义的外邦人却获得了义,就是因信而获得的义。
- 和合本2010(神版-简体) - 这样,我们要怎么说呢?那不追求义的外邦人却获得了义,就是因信而获得的义。
- 当代译本 - 这样看来,我们该怎么说呢?本来不追求义的外族人却得到了义,就是因信而得的义。
- 圣经新译本 - 既是这样,我们还有什么可说的呢?那不追求义的外族人却得了义,就是因信而得的义。
- 中文标准译本 - 那么,我们要怎么说呢?那原来没有追求义的外邦人,却得到了义,就是因信而得的义;
- 现代标点和合本 - 这样,我们可说什么呢?那本来不追求义的外邦人反得了义,就是因信而得的义;
- 和合本(拼音版) - 这样,我们可说什么呢?那本来不追求义的外邦人反得了义,就是因信而得的义;
- New International Version - What then shall we say? That the Gentiles, who did not pursue righteousness, have obtained it, a righteousness that is by faith;
- New International Reader's Version - What should we say then? Gentiles did not look for a way to be right with God. But they found it by having faith.
- English Standard Version - What shall we say, then? That Gentiles who did not pursue righteousness have attained it, that is, a righteousness that is by faith;
- New Living Translation - What does all this mean? Even though the Gentiles were not trying to follow God’s standards, they were made right with God. And it was by faith that this took place.
- Christian Standard Bible - What should we say then? Gentiles, who did not pursue righteousness, have obtained righteousness — namely the righteousness that comes from faith.
- New American Standard Bible - What shall we say then? That Gentiles, who did not pursue righteousness, attained righteousness, but the righteousness that is by faith;
- New King James Version - What shall we say then? That Gentiles, who did not pursue righteousness, have attained to righteousness, even the righteousness of faith;
- Amplified Bible - What shall we say then? That Gentiles, who did not pursue righteousness [who did not seek salvation and a right relationship with God, nevertheless] obtained righteousness, that is, the righteousness which is produced by faith;
- American Standard Version - What shall we say then? That the Gentiles, who followed not after righteousness, attained to righteousness, even the righteousness which is of faith:
- King James Version - What shall we say then? That the Gentiles, which followed not after righteousness, have attained to righteousness, even the righteousness which is of faith.
- New English Translation - What shall we say then? – that the Gentiles who did not pursue righteousness obtained it, that is, a righteousness that is by faith,
- World English Bible - What shall we say then? That the Gentiles, who didn’t follow after righteousness, attained to righteousness, even the righteousness which is of faith;
- 新標點和合本 - 這樣,我們可說甚麼呢?那本來不追求義的外邦人反得了義,就是因信而得的義。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 這樣,我們要怎麼說呢?那不追求義的外邦人卻獲得了義,就是因信而獲得的義。
- 和合本2010(神版-繁體) - 這樣,我們要怎麼說呢?那不追求義的外邦人卻獲得了義,就是因信而獲得的義。
- 當代譯本 - 這樣看來,我們該怎麼說呢?本來不追求義的外族人卻得到了義,就是因信而得的義。
- 聖經新譯本 - 既是這樣,我們還有甚麼可說的呢?那不追求義的外族人卻得了義,就是因信而得的義。
- 呂振中譯本 - 這樣,我們可怎麼說呢?那不追求義的外國人倒追着了義、那本着信的義;
- 中文標準譯本 - 那麼,我們要怎麼說呢?那原來沒有追求義的外邦人,卻得到了義,就是因信而得的義;
- 現代標點和合本 - 這樣,我們可說什麼呢?那本來不追求義的外邦人反得了義,就是因信而得的義;
- 文理和合譯本 - 然則將何言耶、異邦人未趨義而得義、即由信之義也、
- 文理委辦譯本 - 是何以言之、異邦人不求稱義、而得稱義者、乃以信主而稱義、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 是則何言、異邦人不尋義而得義、即由信之義、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 於此吾人尚有何說?異邦之人、未曾求義、竟因信而得義矣。
- Nueva Versión Internacional - ¿Qué concluiremos? Pues que los gentiles, que no buscaban la justicia, la han alcanzado. Me refiero a la justicia que es por la fe.
- 현대인의 성경 - 그렇다면 우리가 무슨 말을 해야 되겠습니까? 하나님을 찾지 않던 이방인들은 믿음으로 의롭다는 인정을 받았는데
- Новый Русский Перевод - Что же нам теперь сказать? Язычники, которые и не стремились к праведности, получили праведность благодаря своей вере.
- Восточный перевод - Что же нам теперь сказать? Народы, которые и не стремились к праведности, получили праведность благодаря своей вере.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Что же нам теперь сказать? Народы, которые и не стремились к праведности, получили праведность благодаря своей вере.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Что же нам теперь сказать? Народы, которые и не стремились к праведности, получили праведность благодаря своей вере.
- La Bible du Semeur 2015 - Que dire maintenant ? Voici ce que nous disons : les païens qui ne cherchaient pas à être déclarés justes par Dieu ont saisi cette justice, mais il s’agit de la justice qui est reçue par la foi.
- リビングバイブル - では、どういうことになるでしょう。信仰によって与えられる神の救いを求めなかった外国人は、救いの機会を得ました。まさに、信仰による救いです。神は、信仰によって無罪とされる機会をお与えになりました。
- Nestle Aland 28 - Τί οὖν ἐροῦμεν; ὅτι ἔθνη τὰ μὴ διώκοντα δικαιοσύνην κατέλαβεν δικαιοσύνην, δικαιοσύνην δὲ τὴν ἐκ πίστεως,
- unfoldingWord® Greek New Testament - τί οὖν ἐροῦμεν? ὅτι ἔθνη τὰ μὴ διώκοντα δικαιοσύνην, κατέλαβεν δικαιοσύνην, δικαιοσύνην δὲ τὴν ἐκ πίστεως;
- Nova Versão Internacional - Que diremos, então? Os gentios, que não buscavam justiça, a obtiveram, uma justiça que vem da fé;
- Hoffnung für alle - Was will ich nun damit sagen? Menschen aller Völker, die sich nicht darum bemüht haben, bei Gott Anerkennung zu finden, wurden von ihm angenommen, und zwar durch ihren Glauben an Jesus Christus.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Vậy, chúng ta sẽ nói thế nào? Ngay cả khi các Dân Ngoại không theo được tiêu chuẩn của Đức Chúa Trời, nhưng họ đạt được công chính của Đức Chúa Trời. Và bởi đức tin đó họ đạt được công chính.
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - แล้วเราจะว่าอย่างไร แม้ว่าพวกคนนอกไม่ได้มุ่งหาความชอบธรรม แต่ก็ยังได้รับความชอบธรรมโดยความเชื่อ
交叉引用
- โรม 9:31 - แต่ชนอิสราเอลที่ขวนขวายหาบทบัญญัติแห่งความชอบธรรมกลับไม่ได้รับ
- กาลาเทีย 3:24 - ดังนั้นบทบัญญัติได้รับมอบหมายหน้าที่ให้นำเรามาถึงพระคริสต์ เพื่อเราจะได้ถูกนับเป็นผู้ชอบธรรมโดยความเชื่อ
- โรม 3:5 - แต่จะว่าอย่างไรถ้าความอธรรมของเราทำให้ความชอบธรรมของพระเจ้าโดดเด่นชัดเจนยิ่งขึ้น? จะว่าพระเจ้าไม่ยุติธรรมหรือที่ทรงให้พระพิโรธลงมาเหนือเรา? (นี่ข้าพเจ้าโต้แย้งแบบมนุษย์)
- โรม 4:9 - ความสุขนี้มีแก่ผู้ที่ได้เข้าสุหนัตเท่านั้นหรือ? หรือมีแก่ผู้ที่ไม่ได้เข้าสุหนัตด้วย? เราได้กล่าวแล้วว่าพระเจ้าทรงถือว่าความเชื่อของอับราฮัมเป็นความชอบธรรมของเขา
- โรม 4:22 - นี่คือเหตุผลที่ “พระองค์ทรงถือว่าเป็นความชอบธรรมของเขา”
- สุภาษิต 21:21 - ผู้ที่ติดตามความชอบธรรมและความรัก ย่อมพบชีวิต ความเจริญรุ่งเรือง และเกียรติ
- อิสยาห์ 65:1 - “เราสำแดงตนเองแก่บรรดาผู้ที่ไม่ได้เรียกหาเรา บรรดาผู้ที่ไม่ได้แสวงหาเราก็พบเรา ชนชาติที่ไม่ได้ร้องเรียกนามของเรา เราก็กล่าวกับเขาว่า ‘เราอยู่ที่นี่ เราอยู่ที่นี่’
- อิสยาห์ 65:2 - ตลอดวันเราได้ยื่นมือออก ให้แก่ชนชาติที่ดื้อด้าน ซึ่งดำเนินตามวิถีทางอันไม่ดีไม่งาม ทำตามความคิดจินตนาการของตัวเอง
- เอเฟซัส 4:17 - ฉะนั้นข้าพเจ้าขอบอกและยืนยันกับท่านในองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า แต่นี้ไปท่านอย่าดำเนินชีวิตแบบคนต่างชาติอีกเลย ซึ่งคิดแต่สิ่งไร้สาระ
- เอเฟซัส 4:18 - ความเข้าใจของเขามืดมัวไปและเขาแยกห่างจากชีวิตฝ่ายพระเจ้า เนื่องด้วยความไม่รู้อันเนื่องมาจากจิตใจที่แข็งกระด้างของเขา
- เอเฟซัส 4:19 - เขาปราศจากความยั้งคิดใดๆ ปล่อยตัวตามกามราคะ ลุ่มหลงมัวเมาในความโสมมทุกแบบด้วยตัณหาไม่สิ้นสุด
- 1เปโตร 4:3 - เพราะในอดีตท่านได้ใช้เวลาไปมากพอแล้วในการทำสิ่งที่คนไม่รู้จักพระเจ้าเลือกที่จะทำกันคือ หมกมุ่นในการเสเพล ราคะตัณหา การเมามาย การมั่วสุมเสพสุรากามารมณ์และการกราบไหว้รูปเคารพอันน่าชิงชัง
- โรม 5:1 - เหตุฉะนั้นเมื่อเราได้ถูกนับเป็นผู้ชอบธรรมโดยความเชื่อแล้ว เราจึง มีสันติสุขกับพระเจ้าโดยทางองค์พระเยซูคริสต์เจ้าของเรา
- อิสยาห์ 51:1 - “จงฟังเราเถิด บรรดาผู้ขวนขวายหาความชอบธรรม และผู้แสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้า จงมองดูศิลาที่เจ้าถูกสกัดออกมา ดูเหมืองหินที่เจ้าถูกขุดออกมา
- สุภาษิต 15:9 - องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงชิงชังวิถีทางของคนชั่ว แต่ทรงรักผู้ที่ติดตามความชอบธรรม
- โรม 4:13 - ไม่ใช่โดยบทบัญญัติ แต่โดยความชอบธรรมอันเนื่องมาจากความเชื่อ อับราฮัมและพงศ์พันธุ์ของเขาจึงได้รับพระสัญญาให้เป็นทายาทที่จะได้รับโลกนี้เป็นมรดก
- 1ทิโมธี 6:11 - ส่วนท่านผู้เป็นคนของพระเจ้า จงหลีกหนีจากสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดและใฝ่หาความชอบธรรม ใฝ่หาทางพระเจ้า ความเชื่อ ความรัก ความอดทนและความสุภาพอ่อนโยน
- โรม 10:10 - เพราะท่านเชื่อด้วยใจ จึงทรงให้ท่านเป็นผู้ชอบธรรม และเพราะท่านยอมรับด้วยปาก จึงทรงให้ท่านรอด
- โรม 3:21 - แต่บัดนี้ความชอบธรรมจากพระเจ้าซึ่งอยู่นอกเหนือบทบัญญัตินั้นเป็นที่ประจักษ์แล้ว เป็นความชอบธรรมซึ่งหนังสือบทบัญญัติและหนังสือผู้เผยพระวจนะได้เป็นพยานถึง
- โรม 3:22 - ความชอบธรรมจากพระเจ้านี้ผ่านมาทางความเชื่อในพระเยซูคริสต์ไปถึงคนทั้งปวงที่เชื่อ ไม่มีข้อแตกต่างกัน
- กาลาเทีย 5:5 - แต่โดยความเชื่อเราจดจ่อรอคอยที่จะได้รับความชอบธรรมผ่านทางพระวิญญาณตามที่เรามุ่งหวังไว้
- เอเฟซัส 2:12 - จงระลึกว่าครั้งนั้นท่านแยกจากพระคริสต์ ไม่ได้เป็นพลเมืองอิสราเอลและเป็นคนต่างด้าวอยู่นอกพันธสัญญาที่ทรงสัญญาไว้ ไม่มีความหวังและอยู่ในโลกโดยปราศจากพระเจ้า
- โรม 1:17 - เพราะในข่าวประเสริฐนั้น ความ ชอบธรรมจากพระเจ้าก็ได้รับการเปิดเผย เป็นความชอบธรรมซึ่งเริ่มต้นด้วยความเชื่อและนำไปสู่ความเชื่อ ตามที่มีเขียนไว้แล้วว่า “คนชอบธรรมจะดำรงชีวิตโดยความเชื่อ”
- โรม 1:18 - พระเจ้าทรงสำแดงพระพิโรธจากสวรรค์ต่อบรรดาความอธรรมและความชั่วร้ายทั้งปวงของมนุษย์ ผู้ใช้ความชั่วร้ายของตนปิดกั้นความจริง
- โรม 1:19 - เนื่องจากสิ่งที่อาจจะรู้ได้เกี่ยวกับพระเจ้าก็ปรากฏชัดแก่พวกเขา ด้วยว่าพระเจ้าทรงกระทำให้สิ่งเหล่านี้ปรากฏชัดแก่พวกเขา
- โรม 1:20 - เพราะตั้งแต่ทรงสร้างโลก เราก็เห็นและเข้าใจสภาวะที่เราไม่อาจมองเห็นได้ของพระเจ้า คือฤทธานุภาพนิรันดร์และเทวสภาพของพระองค์อย่างชัดเจนจากสิ่งที่ทรงสร้าง ดังนั้นมนุษย์จึงไม่มีข้อแก้ตัวเลย
- โรม 1:21 - เพราะแม้ว่าพวกเขารู้จักพระเจ้า พวกเขาก็ไม่ได้ถวายพระเกียรติสิริแด่พระองค์ให้สมกับที่ทรงเป็นพระเจ้า ทั้งไม่ได้ขอบพระคุณพระองค์ แต่กลับคิดในสิ่งที่ไร้สาระ และจิตใจอันโง่เขลาของพวกเขาก็มืดมัวไป
- โรม 1:22 - แม้เขาอ้างว่าตนมีปัญญา เขาก็กลับกลายเป็นคนโง่
- โรม 1:23 - และเอาพระเกียรติสิริของพระเจ้าผู้เป็นอมตะไปแลกกับรูปเคารพ ซึ่งสร้างขึ้นตามแบบของมนุษย์ที่ต้องตาย สัตว์ปีก สัตว์ เลื้อยคลานและสัตว์ต่างๆ
- โรม 1:24 - ฉะนั้นพระเจ้าจึงทรงปล่อยเขาให้ทำบาปทางเพศตามตัณหาชั่วในใจของเขา ทำสิ่งที่น่าอัปยศทางกายต่อกัน
- โรม 1:25 - เขาเอาความจริงของพระเจ้ามาแลกกับความเท็จ นมัสการและปรนนิบัติสิ่งที่ทรงสร้างแทนพระเจ้าผู้ทรงสร้าง ผู้ทรงเป็นที่สรรเสริญตลอดนิรันดร์ อาเมน
- โรม 1:26 - เพราะเหตุนี้พระเจ้าจึงทรงปล่อยเขาไว้ในกิเลสตัณหาอันน่าอับอาย แม้กระทั่งพวกผู้หญิงของเขาก็เปลี่ยนจากการมีความสัมพันธ์ตามธรรมชาติให้ผิดธรรมชาติไป
- โรม 1:27 - เช่นเดียวกันพวกผู้ชายก็เลิกมีความสัมพันธ์ตามธรรมชาติกับผู้หญิง หันมาเร่าร้อนด้วยไฟราคะต่อกัน ผู้ชายกับผู้ชายด้วยกันประกอบกิจอันน่าอดสู เขาจึงได้รับโทษทัณฑ์อันสมควรกับความวิปริตของตน
- โรม 1:28 - ยิ่งกว่านั้นเนื่องจากเขาไม่เห็นคุณค่าของการรู้จักพระเจ้า พระองค์จึงทรงปล่อยเขาให้มีจิตใจเสื่อมทราม ให้ทำสิ่งที่ไม่สมควร
- โรม 1:29 - พวกเขาจึงเต็มไปด้วยความเลว ความชั่วร้าย ความโลภโมโทสันและความเสื่อมทรามสารพัดชนิด พวกเขามีแต่ความอิจฉาริษยา การเข่นฆ่า การแก่งแย่งชิงดี การล่อลวงและการคิดร้าย พวกเขาชอบนินทา
- โรม 1:30 - ใส่ร้ายป้ายสี เกลียดชังพระเจ้า หยาบคาย หยิ่งยโสและโอ้อวด พวกเขาคิดหาทางใหม่ๆ ในการทำชั่ว พวกเขาไม่เชื่อฟังบิดามารดาของตน
- โรม 1:31 - พวกเขาเป็นคนไร้สติ ไร้สัตย์ ไร้หัวใจ ไร้ความปรานี
- โรม 1:32 - แม้เขารู้กฎเกณฑ์อันชอบธรรมของพระเจ้าว่าผู้ที่ทำเช่นนั้นสมควรตาย เขาไม่เพียงยังคงทำสิ่งเหล่านี้ต่อไป แต่ยังเห็นชอบกับผู้ที่ทำสิ่งเหล่านี้ด้วย
- 1โครินธ์ 6:9 - ท่านไม่รู้หรือว่าคนชั่วจะไม่มีส่วนในอาณาจักรของพระเจ้า? อย่าหลงผิดเลย ไม่ว่าคนผิดศีลธรรมทางเพศ หรือคนกราบไหว้รูปเคารพ หรือคนคบชู้ หรือผู้ชายขายตัว หรือคนรักร่วมเพศ
- 1โครินธ์ 6:10 - หรือขโมย หรือคนโลภ หรือคนขี้เมา หรือคนชอบนินทาว่าร้าย หรือคนฉ้อฉล จะไม่มีส่วนในอาณาจักรของพระเจ้า
- 1โครินธ์ 6:11 - และพวกท่านบางคนเคยเป็นเช่นนั้น แต่ท่านได้รับการล้าง ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ และได้ถูกนับเป็นผู้ชอบธรรมในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้าและโดยพระวิญญาณของพระเจ้าของเรา
- กาลาเทีย 3:8 - พระคัมภีร์รู้ล่วงหน้าว่าพระเจ้าจะทรงนับว่าคนต่างชาติเป็นผู้ชอบธรรมโดยความเชื่อ และประกาศข่าวประเสริฐล่วงหน้าแก่อับราฮัมว่า “ทุกประชาชาติจะได้รับพรผ่านทางเจ้า”
- โรม 9:14 - เช่นนี้แล้วเราจะว่าอย่างไร? พระเจ้าไม่ยุติธรรมหรือ? ไม่ใช่เลย!
- โรม 10:20 - และอิสยาห์กล้ากล่าวว่า “บรรดาผู้ที่ไม่ได้แสวงหาเราก็พบเรา เราสำแดงตนเองแก่บรรดาผู้ที่ไม่ได้เรียกหาเรา”
- โรม 10:6 - แต่ความชอบธรรมโดยความเชื่อกล่าวว่า “อย่านึกในใจว่า ‘ใครเล่าจะขึ้นไปบนสวรรค์?’ ” (คือเชิญพระคริสต์ลงมา)
- กาลาเทีย 2:16 - ยังรู้ว่าไม่มีใครถูกนับเป็นผู้ชอบธรรมได้โดยการถือรักษาบทบัญญัติ แต่เป็นได้โดยความเชื่อในพระเยซูคริสต์ ฉะนั้นเราเองจึงเชื่อในพระเยซูคริสต์เพื่อจะได้ถูกนับเป็นผู้ชอบธรรมโดยความเชื่อในพระคริสต์ ไม่ใช่โดยการทำตามบทบัญญัติ เพราะว่าไม่มีใครถูกนับเป็นผู้ชอบธรรมได้โดยการทำตามบทบัญญัติเลย
- โรม 4:11 - และเขาได้เข้าสุหนัตเป็นเครื่องหมาย ซึ่งเป็นตราแห่งความชอบธรรมที่เขาได้มาโดยความเชื่อขณะที่เขายังไม่ได้เข้าสุหนัต ด้วยเหตุนี้เขาจึงเป็นบิดาของคนทั้งปวงที่เชื่อแต่ยังไม่ได้เข้าสุหนัต เพื่อพระเจ้าจะทรงถือว่าพวกเขาเหล่านั้นเป็นผู้ชอบธรรมด้วย
- ฟีลิปปี 3:9 - และอยู่ในพระองค์ ตัวข้าพเจ้าเองไม่มีความชอบธรรมที่ได้มาโดยบทบัญญัติ มีแต่ความชอบธรรมที่ได้มาโดยความเชื่อในพระคริสต์ เป็นความชอบธรรมซึ่งมาจากพระเจ้าและได้มาโดยความเชื่อ
- ฮีบรู 11:7 - โดยความเชื่อเมื่อโนอาห์ได้รับคำเตือนถึงเรื่องต่างๆ ที่ยังมองไม่เห็น ด้วยความเกรงกลัวพระเจ้าเขาจึงได้ต่อเรือใหญ่เพื่อช่วยครอบครัวให้รอด โดยความเชื่อของเขา เขาได้ตัดสินโทษโลกและได้กลายเป็นทายาทแห่งความชอบธรรมที่มีมาโดยความเชื่อ