逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - “เราจะเอ่ยถึงราหับ และบาบิโลน ในหมู่ผู้ที่รู้จักเรา จะเอ่ยถึงฟีลิสเตียและไทระพร้อมกับคูช และจะกล่าวว่า ‘คนนี้ เกิดในศิโยน’ ”
- 新标点和合本 - 我要提起拉哈伯和巴比伦人, 是在认识我之中的; 看哪,非利士和推罗并古实人, 个个生在那里。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 我要提起拉哈伯 和巴比伦人, 是在认识我之中的; 看哪,非利士、推罗和古实人, 个个生在那里。
- 和合本2010(神版-简体) - 我要提起拉哈伯 和巴比伦人, 是在认识我之中的; 看哪,非利士、推罗和古实人, 个个生在那里。
- 当代译本 - “我要把埃及人 、巴比伦人、非利士人、泰尔人和古实人列为认识我的民族, 视他们为生在锡安的人。”
- 圣经新译本 - “在认识我的人中,我提到拉哈伯和巴比伦, 看哪!还有非利士、推罗和古实,我说: ‘这一个是生在那里的。’”
- 中文标准译本 - “在认识我的人中, 我要提起拉哈伯 和巴比伦; 看哪,还有非利士、提尔与库实, 我说:‘这一个出生在那里!’”
- 现代标点和合本 - 我要提起拉哈伯和巴比伦人, 是在认识我之中的; 看哪,非利士和推罗并古实人, 个个生在那里。
- 和合本(拼音版) - 我要提起拉哈伯和巴比伦人, 是在认识我之中的。 看哪,非利士和推罗并古实人, 个个生在那里。
- New International Version - “I will record Rahab and Babylon among those who acknowledge me— Philistia too, and Tyre, along with Cush — and will say, ‘This one was born in Zion.’ ”
- New International Reader's Version - He says, “I will include Egypt and Babylon in a list of nations who recognize me as king. I will also include Philistia and Tyre, along with Cush. I will say about them, ‘They were born in Zion.’ ”
- English Standard Version - Among those who know me I mention Rahab and Babylon; behold, Philistia and Tyre, with Cush — “This one was born there,” they say.
- New Living Translation - I will count Egypt and Babylon among those who know me— also Philistia and Tyre, and even distant Ethiopia. They have all become citizens of Jerusalem!
- The Message - I name them off, those among whom I’m famous: Egypt and Babylon, also Philistia, even Tyre, along with Cush. Word’s getting around; they point them out: “This one was born again here!”
- Christian Standard Bible - “I will make a record of those who know me: Rahab, Babylon, Philistia, Tyre, and Cush — each one was born there.”
- New American Standard Bible - “I shall mention Rahab and Babylon among those who know Me; Behold, Philistia and Tyre with Cush: ‘This one was born there.’ ”
- New King James Version - “I will make mention of Rahab and Babylon to those who know Me; Behold, O Philistia and Tyre, with Ethiopia: ‘This one was born there.’ ”
- Amplified Bible - “I will mention Rahab (Egypt) and Babylon among those who know Me— Behold, Philistia and Tyre with Ethiopia (Cush)— ‘This one was born there.’ ”
- American Standard Version - I will make mention of Rahab and Babylon as among them that know me: Behold, Philistia, and Tyre, with Ethiopia: This one was born there.
- King James Version - I will make mention of Rahab and Babylon to them that know me: behold Philistia, and Tyre, with Ethiopia; this man was born there.
- New English Translation - I mention Rahab and Babylon to my followers. Here are Philistia and Tyre, along with Ethiopia. It is said of them, “This one was born there.”
- World English Bible - I will record Rahab and Babylon among those who acknowledge me. Behold, Philistia, Tyre, and also Ethiopia: “This one was born there.”
- 新標點和合本 - 我要提起拉哈伯和巴比倫人, 是在認識我之中的; 看哪,非利士和泰爾並古實人, 個個生在那裏。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 我要提起拉哈伯 和巴比倫人, 是在認識我之中的; 看哪,非利士、推羅和古實人, 個個生在那裏。
- 和合本2010(神版-繁體) - 我要提起拉哈伯 和巴比倫人, 是在認識我之中的; 看哪,非利士、推羅和古實人, 個個生在那裏。
- 當代譯本 - 「我要把埃及人 、巴比倫人、非利士人、泰爾人和古實人列為認識我的民族, 視他們為生在錫安的人。」
- 聖經新譯本 - “在認識我的人中,我提到拉哈伯和巴比倫, 看哪!還有非利士、推羅和古實,我說: ‘這一個是生在那裡的。’”
- 呂振中譯本 - 在認識我的人中間我要提起 有 拉哈伯 和 巴比倫 人; 你看,有 非利士 和 推羅 同 古實 人呢: 『這一個是生於那裏的。』
- 中文標準譯本 - 「在認識我的人中, 我要提起拉哈伯 和巴比倫; 看哪,還有非利士、提爾與庫實, 我說:『這一個出生在那裡!』」
- 現代標點和合本 - 我要提起拉哈伯和巴比倫人, 是在認識我之中的; 看哪,非利士和推羅並古實人, 個個生在那裡。
- 文理和合譯本 - 我必言及拉哈伯 巴比倫、在識我者之中、非利士推羅古實、各有其人生於郇兮、
- 文理委辦譯本 - 其命維何、曰、喇合巴比倫之人、將宗事乎我兮、非利士、推羅、古實之人、將為郇之赤子兮、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 主云 拉哈伯 與 巴比倫 人、我謂其必歸於認識我之人、 非利士 人、 推羅 人、並 古實 人、皆可以為生在 郇 城者、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 拉哈 西比 。為予素識。 菲璃 諦羅 。乃至 古實 。莫不歸化。視同己出。
- Nueva Versión Internacional - «Entre los que me reconocen puedo contar a Rahab y a Babilonia, a Filistea y a Tiro, lo mismo que a Cus. Se dice: “Este nació en Sión”».
- 현대인의 성경 - “내가 나를 아는 자 중에 이집트와 바빌로니아를 포함시킬 것이며 블레셋, 두로, 에티오피아 사람들도 ‘시온에서 났다’ 하리라.”
- Новый Русский Перевод - Насытилась душа моя страданиями, и жизнь моя приблизилась к миру мертвых.
- Восточный перевод - Насытилась душа моя страданиями, и жизнь моя приблизилась к миру мёртвых.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Насытилась душа моя страданиями, и жизнь моя приблизилась к миру мёртвых.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Насытилась душа моя страданиями, и жизнь моя приблизилась к миру мёртвых.
- La Bible du Semeur 2015 - « Parmi tous ceux qui me connaissent, je ferai mention de Rahav, l’Egypte ╵aussi bien que de Babylone, j’inscris la Philistie, ╵et Tyr, et l’Ethiopie, comme étant nés ici . »
- リビングバイブル - 友人たちと話していると、エジプトやバビロン、 ペリシテやツロ、さらに、はるかエチオピヤの名前が 話題にのぼりました。 それらの国の生まれだと誇らしげに語る者がいました。
- Nova Versão Internacional - “Entre os que me reconhecem incluirei Raabe e Babilônia, além da Filístia, de Tiro, e também da Etiópia , como se tivessem nascido em Sião .”
- Hoffnung für alle - »In Ägypten und Babylon gibt es Menschen, die mich kennen und ehren, und auch bei den Philistern, in Tyrus und Äthiopien findet man Bürger meiner Stadt.«
- Kinh Thánh Hiện Đại - Ta sẽ nói đến Ra-háp và Ba-by-lôn là những nơi biết Ta— Phi-li-tin, Ty-rơ, và ngay cả Ê-thi-ô-pi xa xôi. Tất cả họ sẽ trở nên công dân của Giê-ru-sa-lem!
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - “เราจะประกาศว่า ราหับ และบาบิโลนอยู่ในกลุ่มผู้ที่รู้จักเรา แม้แต่ฟีลิสเตีย ไทระ และคูชด้วย แล้วจะพูดว่า ‘คนนี้เกิดที่นั่น’”
交叉引用
- 1ซามูเอล 17:8 - โกลิอัทยืนร้องท้าทหารอิสราเอลว่า “พวกเจ้าจะมาตั้งแถวสู้รบกันทำไม? ข้าก็เป็นฟีลิสเตีย ส่วนพวกเจ้าก็เป็นบริวารของซาอูลไม่ใช่หรือ? จงเลือกคนหนึ่งลงมาสู้กับข้า
- สดุดี 137:8 - โอ ธิดาแห่งบาบิโลน เจ้าจะพินาศย่อยยับ ความสุขมีแก่ผู้ที่คืนสนองเจ้า อย่างสาสมกับที่เจ้าได้ทำกับเรา
- สดุดี 137:9 - แก่ผู้ที่จับลูกเล็กเด็กแดงของเจ้า แล้วฟาดลงกับก้อนหิน
- ดาเนียล 4:30 - พระองค์ตรัสว่า “เราได้สร้างบาบิโลนอันยิ่งใหญ่ไพศาลนี้ขึ้นเป็นราชวังด้วยฤทธิ์อำนาจอันเกรียงไกรของเราและเพื่อเกียรติบารมีของเราไม่ใช่หรือ?”
- อิสยาห์ 51:9 - จงตื่นเถิด! พระกรขององค์พระผู้เป็นเจ้า ตื่นเถิด! จงสวมพละกำลัง จงตื่นขึ้น เหมือนในอดีตที่ผ่านมา เหมือนในชั่วอายุเก่าก่อน ไม่ใช่พระองค์หรือที่ฟันราหับออกเป็นชิ้นๆ และแทงสัตว์ร้ายตัวนั้นทะลุ?
- อิสยาห์ 13:1 - พระดำรัสเกี่ยวกับบาบิโลนซึ่งอิสยาห์บุตรอาโมศได้รับ
- อิสยาห์ 13:2 - จงชูธงขึ้นเหนือยอดเขาหัวโล้น จงร้องเรียกพวกเขา จงส่งสัญญาณให้พวกเขา เข้ามาทางประตูของบรรดาเจ้านาย
- อิสยาห์ 13:3 - เราได้ออกคำสั่งแก่วิสุทธิชนของเรา เราเรียกชุมนุมเหล่านักรบผู้ปีติยินดีในชัยชนะของเรา ให้เป็นผู้ลบล้างโทสะของเรา
- อิสยาห์ 13:4 - ฟังสิ เสียงอึกทึกบนภูเขา ดั่งเสียงมหาชนล้นหลาม! ฟังสิ เสียงครึกโครมในหมู่อาณาจักร ดั่งเสียงชุมนุมประชาชาติ! พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ ทรงกรีธาทัพมาเพื่อทำศึก
- อิสยาห์ 13:5 - พวกเขามาจากดินแดนไกลโพ้น จากสุดขอบฟ้า คือองค์พระผู้เป็นเจ้าและอาวุธแห่งพระพิโรธของพระองค์ เพื่อทำลายดินแดนทั้งหมด
- อิสยาห์ 13:6 - จงร้องไห้เถิด เพราะวันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว วันนั้นจะมาถึงดั่งหายนะจากองค์ทรงฤทธิ์
- อิสยาห์ 13:7 - ด้วยเหตุนี้แขนทุกแขนจะอ่อนปวกเปียก หัวใจทุกดวงจะระทดท้อ
- อิสยาห์ 13:8 - ความหวาดกลัวจะจู่โจมพวกเขา ความปวดร้าวและทุกข์ทรมานจะเกาะกุมพวกเขา พวกเขาจะทุรนทุรายดั่งผู้หญิงเจ็บท้องใกล้คลอด พวกเขาจะมองตากัน ใบหน้าแดงก่ำ
- อิสยาห์ 13:9 - ดูเถิด วันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้าใกล้เข้ามา เป็นวันหฤโหด มาพร้อมกับความกริ้วและพระพิโรธอันรุนแรง เพื่อทำให้ดินแดนนั้นเริศร้าง และทำลายคนบาปทั้งปวงซึ่งอยู่ที่นั่น
- อิสยาห์ 13:10 - เหล่าดวงดาวบนท้องฟ้าและหมู่ดาว จะไม่ฉายแสง ดวงอาทิตย์ที่กำลังขึ้นจะถูกดับ และดวงจันทร์จะไม่ทอแสง
- อิสยาห์ 13:11 - เราจะลงโทษโลกเพราะความชั่วร้าย ลงโทษคนชั่วเพราะบาปของพวกเขา เราจะยุติความเย่อหยิ่งของคนทะนง และจะทำให้ความอหังการของคนอำมหิตต่ำลง
- อิสยาห์ 13:12 - เราจะทำให้มนุษย์หายากยิ่งกว่าทองคำบริสุทธิ์ หายากยิ่งกว่าทองคำของเมืองโอฟีร์
- อิสยาห์ 13:13 - ดังนั้นเราจะทำให้ฟ้าสวรรค์สั่นสะท้าน และโลกจะกระเด็นจากที่ตั้งของมัน โดยพระพิโรธของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ ในวันแห่งพระพิโรธอันรุนแรงของพระองค์
- อิสยาห์ 13:14 - แต่ละคนจะหันกลับไปหาพี่น้องร่วมชาติ จะหนีกลับไปบ้านเกิดเมืองนอน ดั่งละมั่งที่ถูกล่า ดั่งแกะที่ไม่มีคนเลี้ยง
- อิสยาห์ 13:15 - ใครที่ถูกจับเป็นเชลยจะถูกแทงทะลุ ทุกคนที่ถูกจับได้จะล้มตายด้วยดาบ
- อิสยาห์ 13:16 - ลูกเล็กเด็กแดงของพวกเขาจะถูกจับฟาดจนแหลกเป็นชิ้นๆ ต่อหน้าต่อตา บ้านของพวกเขาจะถูกปล้น และภรรยาจะถูกข่มขืน
- อิสยาห์ 13:17 - ดูเถิด เราจะเร่งเร้าชาวมีเดีย ผู้ไม่แยแสเงินและไม่ใส่ใจทอง มาต่อสู้กับพวกเขา
- อิสยาห์ 13:18 - ธนูของเขาจะสังหารพวกคนหนุ่ม เขาจะไม่ปรานีเด็กอ่อน หรือเวทนาสงสารผู้เยาว์
- อิสยาห์ 13:19 - บาบิโลน มณีแห่งอาณาจักรทั้งหลาย ศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจของชาวบาบิโลน จะถูกพระเจ้าล้มล้าง เหมือนเมืองโสโดมและโกโมราห์
- อิสยาห์ 13:20 - ตลอดทุกชั่วอายุจะไม่มีใครมาตั้งรกรากอีกต่อไป ไม่มีใครมาอาศัยตลอดทุกชั่วอายุ ไม่มีชาวอาหรับมาตั้งเต็นท์ ไม่มีคนเลี้ยงแกะพาฝูงแกะมาพักอีก
- อิสยาห์ 13:21 - แต่สัตว์ป่าแห่งถิ่นทะเลทรายจะนอนอยู่ที่นั่น บ้านเรือนทั้งหลายจะเต็มไปด้วยหมาใน นกเค้าแมวจะอาศัยอยู่ที่นั่น ที่นั่นแพะป่าจะโลดเต้นไปมา
- อิสยาห์ 13:22 - บรรดาหมาป่าไฮยีน่าจะเห่าหอนอยู่ในป้อมปราการ เหล่าหมาในอยู่ในปราสาทราชวังอันโอ่อ่าของเมืองนั้น กำหนดเวลาของมันใกล้เข้ามาแล้ว และไม่มีการยืดเวลาออกไปอีก
- 2พงศ์กษัตริย์ 20:17 - เวลานั้นจะมาถึงอย่างแน่นอน เมื่อทุกอย่างในวังของเจ้าและทุกสิ่งที่บรรพบุรุษของเจ้าได้สะสมไว้จวบจนบัดนี้จะถูกกวาดไปยังบาบิโลน จะไม่มีอะไรเหลือเลย องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้
- 2พงศ์กษัตริย์ 20:18 - และวงศ์วานของเจ้าบางคน เลือดเนื้อเชื้อไขของเจ้าเองจะถูกกวาดต้อนไป ต้องกลายเป็นขันทีอยู่ในวังของกษัตริย์บาบิโลน”
- อิสยาห์ 14:4 - เจ้าจะเย้ยหยันกษัตริย์บาบิโลนดังนี้ว่า ผู้กดขี่ข่มเหงมาถึงจุดจบได้อย่างไรหนอ! ความเกรี้ยวกราดของเขาสิ้นสุดลงได้อย่างไร!
- อิสยาห์ 14:5 - องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงหักไม้เรียวของคนชั่วร้าย ทรงหักคทาของผู้ครอบครอง
- อิสยาห์ 14:6 - ซึ่งกระหน่ำตีชาติต่างๆ อย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยแรงโทสะ และปราบนานาประเทศ ด้วยการจู่โจมอย่างอำมหิต
- กิจการของอัครทูต 8:27 - ดังนั้นฟีลิปก็ออกเดินทางไป ในระหว่างทางเขาพบขันทีชาวเอธิโอเปีย เป็นขุนนางคนสำคัญดูแลคลังทรัพย์ของพระนางคานดาสีราชินีแห่งเอธิโอเปีย ขันทีผู้นี้ได้มานมัสการที่เยรูซาเล็ม
- อิสยาห์ 19:11 - เจ้าหน้าที่ของโศอันล้วนแล้วแต่โง่เขลา ที่ปรึกษาชาญฉลาดของฟาโรห์ให้คำแนะนำเหลวไหล เจ้าบังอาจพูดกับฟาโรห์ได้อย่างไรว่า “ข้าพระบาทเป็นคนหนึ่งในหมู่ปราชญ์ เป็นสานุศิษย์ของมวลกษัตริย์โบราณ”?
- เยเรมีย์ 25:9 - องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “เราก็จะเรียกชนชาติทั้งปวงจากทางเหนือ และกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนผู้รับใช้ของเรามาชุมนุมกัน เราจะนำพวกเขามาต่อสู้ดินแดนและชาวถิ่นนี้ ตลอดจนชนชาติต่างๆ ที่รายรอบอยู่ ทั้งหมดนี้ เราจะทำลายล้าง พวกเจ้าให้หมดสิ้น ทำให้เจ้าเป็นเป้าของความสยดสยองและการดูหมิ่นและเป็นความหายนะตลอดกาล
- วิวรณ์ 17:5 - มีสมญานามเขียนไว้ที่หน้าผากของนางว่า ความลี้ลับ บาบิโลนมหานคร มารดาแห่งหญิงโสเภณี และสิ่งน่าสะอิดสะเอียนทั้งหลายของโลก
- อิสยาห์ 23:1 - พระดำรัสเกี่ยวกับเมืองไทระมีดังนี้ว่า จงร่ำไห้เถิด เหล่านาวาแห่งทารชิช! เพราะไทระล่มจมแล้ว ไม่เหลือบ้านเรือนและท่าเรืออีก มีข่าวจากดินแดนไซปรัส มาถึงพวกเขา
- อิสยาห์ 23:2 - จงนิ่งเถิด ชาวเกาะ และพวกพ่อค้าแห่งไซดอน ผู้มั่งคั่งจากเรือเดินทะเล
- อิสยาห์ 23:3 - เมล็ดข้าวจากชิโหร์ เดินทางข้ามมหาสมุทรมา ผลผลิตแห่งแม่น้ำไนล์ เป็นรายได้ของไทระ ซึ่งกลายเป็นตลาดของประชาชาติ
- อิสยาห์ 23:4 - จงอับอายเถิด ไซดอนเอ๋ย และเจ้าผู้เป็นที่มั่นแห่งท้องทะเล เพราะทะเลกล่าวว่า “เราไม่เคยเจ็บท้องและไม่เคยคลอด อีกทั้งไม่เคยเลี้ยงดูลูกชายลูกสาว”
- อิสยาห์ 23:5 - เมื่ออียิปต์ได้ยินข่าวจากไทระ พวกเขาจะทุกข์โศกยิ่งนัก
- อิสยาห์ 23:6 - จงข้ามไปทารชิชเถิด ชาวเกาะเอ๋ย จงร่ำไห้
- อิสยาห์ 23:7 - นี่หรือนครแห่งความสนุกสนานบันเทิง? นครเก่าแก่ ซึ่งเท้าพามันไป ตั้งรกรากยังแดนไกล
- อิสยาห์ 23:8 - ใครหนอวางแผนเล่นงานไทระ ผู้ซึ่งให้มงกุฎ ผู้ซึ่งพ่อค้าได้เป็นเจ้านาย ผู้ซึ่งนายวาณิชเลื่องชื่อในโลก?
- อิสยาห์ 23:9 - คือพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์นั่นเอง ทรงดำริไว้ที่จะทำให้ความภาคภูมิแห่งศักดิ์ศรีทั้งปวงตกต่ำลง และทำให้บรรดาผู้ที่มีชื่อเสียงของโลกเจียมเนื้อเจียมตัว
- อิสยาห์ 23:10 - จงพรวน ที่ดินของเจ้าเหมือนอย่างที่ดินริมแม่น้ำไนล์ ธิดาแห่งทารชิช เอ๋ย เพราะเจ้าไม่มีท่าเรืออีกแล้ว
- อิสยาห์ 23:11 - องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงยื่นพระหัตถ์ออกเหนือท้องทะเล ทรงเขย่าอาณาจักรทั้งหลาย พระองค์ทรงมีประกาศิต ให้ทลายป้อมปราการต่างๆ ของฟีนิเซีย
- อิสยาห์ 23:12 - พระองค์ตรัสว่า “ไม่มีความสนุกสนานบันเทิงอีกต่อไปแล้ว โอ ธิดาพรหมจารีแห่งไซดอน ซึ่งบัดนี้แหลกลาญ! “ขึ้นไปสิ ข้ามไปไซปรัส สิ แม้แต่ที่นั่นเจ้าก็ไม่ได้พักสงบ”
- อิสยาห์ 23:13 - จงมองดูดินแดนของชาวบาบิโลน ชนชาติซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่มีใครสนใจแล้ว! ชาวอัสซีเรียได้ทำ ให้มันกลายเป็นที่สิงสถิตของสัตว์ป่า พวกเขาก่อเชิงเทิน ทลายป้อมปราการ และทำให้มันกลายเป็นซากปรักหักพัง
- อิสยาห์ 23:14 - จงคร่ำครวญเถิด เหล่านาวาแห่งทารชิชเอ๋ย ป้อมปราการของเจ้าถูกทำลายแล้ว!
- อิสยาห์ 23:15 - ครั้งนั้นผู้คนจะลืมไทระไปเจ็ดสิบปี อันเป็นช่วงพระชนม์ชีพของกษัตริย์องค์หนึ่ง แต่ในตอนปลายของช่วงเจ็ดสิบปีนั้น ไทระจะเป็นเหมือนในเนื้อเพลงของหญิงโสเภณีที่ว่า
- อิสยาห์ 23:16 - “โอ หญิงโสเภณีที่ถูกลืม หยิบพิณขึ้นเถิด แล้วเดินไปทั่วเมือง เล่นพิณให้ไพเราะ ร้องเพลงหลายๆ เที่ยว เพื่อคนจะจำเจ้าได้”
- อิสยาห์ 23:17 - ปลายช่วงเจ็ดสิบปี องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงจัดการกับไทระ จะกลับมีคนว่าจ้างไทระราวกับเป็นโสเภณี และจะติดต่อค้าขายกับอาณาจักรทั้งปวงของโลก
- อิสยาห์ 23:18 - แต่ผลกำไรและรายได้ของไทระจะถูกกันไว้เพื่อถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า จะไม่เก็บหรือสะสมไว้เอง แต่จะมอบผลกำไรแก่ผู้ที่ใช้ชีวิตต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า คนเหล่านั้นจะมีอาหารอุดมสมบูรณ์และมีเสื้อผ้าดีๆ
- ดาเนียล 2:47 - กษัตริย์ตรัสกับดาเนียลว่า “พระเจ้าของท่านทรงเป็นพระเจ้าเหนือพระทั้งหลายแน่นอน ทรงเป็นจอมราชันและทรงเป็นผู้เปิดเผยความล้ำลึกทั้งมวล เพราะท่านสามารถเปิดเผยความล้ำลึกนี้ได้”
- ดาเนียล 2:48 - แล้วกษัตริย์ทรงแต่งตั้งดาเนียลให้ดำรงตำแหน่งสูง และประทานบำเหน็จรางวัลมากมาย ทรงตั้งให้ปกครองบาบิโลนทั้งมณฑลและให้ดูแลปราชญ์ทั้งปวงของบาบิโลน
- สดุดี 137:1 - ที่ริมฝั่งแม่น้ำของบาบิโลน เรานั่งลงและร่ำไห้ เมื่อระลึกถึงศิโยน
- เอเสเคียล 27:1 - พระดำรัสจากองค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า
- เอเสเคียล 27:2 - “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงคร่ำครวญเกี่ยวกับเมืองไทระ
- เอเสเคียล 27:3 - จงกล่าวแก่ไทระซึ่งตั้งอยู่ที่ทางออกสู่ทะเล นครวาณิชแห่งชนชาติทั้งหลายตามแผ่นดินชายฝั่งว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า “ ‘ไทระเอ๋ย เจ้ากล่าวว่า “เรางามพร้อม”
- เอเสเคียล 27:4 - เจ้าขยายอาณาจักรออกไปในท้องทะเล เหล่าผู้สร้างเจ้าทำให้เจ้างามสมบูรณ์แบบ
- เอเสเคียล 27:5 - เจ้าเปรียบเหมือนเรือใหญ่ลำหนึ่ง ไม้กระดานทั้งสิ้นของเจ้าได้จากต้นสนแห่งเสนีร์ เขานำไม้สนซีดาร์มาจากเลบานอน เพื่อทำเป็นเสากระโดงให้เจ้า
- เอเสเคียล 27:6 - พวกเขาทำกรรเชียงของเจ้า จากไม้โอ๊กแห่งบาชาน ทำดาดฟ้าเรือของเจ้า ด้วยไม้สนไซเปรสจากชายฝั่งทะเลไซปรัสแล้วฝังด้วยงาช้าง
- เอเสเคียล 27:7 - ใบเรือของเจ้าทำด้วยผ้าลินินปักจากอียิปต์ และใช้เป็นธงของเจ้าด้วย กันสาดของเจ้าเป็นผ้าสีน้ำเงินและสีม่วง จากชายฝั่งแห่งเอลีชาห์
- เอเสเคียล 27:8 - ชาวไซดอนและชาวอารวัดเป็นฝีพายให้เจ้า ไทระเอ๋ย ผู้เชี่ยวชาญการเดินเรือมาเป็นลูกเรือให้เจ้า
- เอเสเคียล 27:9 - ช่างผู้ชำนาญจากเมืองเกบาล อยู่ประจำเรือ มาเป็นช่างประจำคอยดูแลรักษาเรือของเจ้า เรือเดินทะเลทั้งสิ้นพร้อมลูกเรือ มาค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้ากับเจ้า
- เอเสเคียล 27:10 - “ ‘ชาวเปอร์เซีย ชาวลิเดียและชาวพูต เป็นทหารในกองทัพของเจ้า เขาแขวนโล่และหมวกเกราะที่กำแพงของเจ้า ทำให้เจ้าดูงามสง่า
- เอเสเคียล 27:11 - ชาวอารวัดและชาวเฮเลค ประจำการที่กำแพงของเจ้าทุกด้าน ชาวกัมมาด อยู่ในหอรบของเจ้า พวกเขาแขวนโล่ไว้รอบกำแพงของเจ้า ทำให้เจ้าสง่างามสมบูรณ์แบบ
- เอเสเคียล 27:12 - “ ‘ชาวทารชิชไปมาค้าขายกับเจ้า เพราะเจ้ามีสินค้ามากมายหลายชนิด เขานำเงิน เหล็ก ดีบุก และตะกั่วมาแลกกับสินค้าของเจ้า
- เอเสเคียล 27:13 - “ ‘ชาวกรีก ชาวทูบัล และชาวเมเชคค้าขายกับเจ้า เขาเอาทาสและเครื่องทองสัมฤทธิ์มาแลกกับผลิตผลของเจ้า
- เอเสเคียล 27:14 - “ ‘ชาวเบธโทการมาห์ เอาม้า ม้าศึก และล่อมาแลกกับสินค้าของเจ้า
- เอเสเคียล 27:15 - “ ‘ชาวโรดส์ ค้าขายกับเจ้า ดินแดนชายฝั่งทะเลทั้งหลายเป็นลูกค้าของเจ้า พวกเขานำงาช้างและไม้มะเกลือมาเป็นค่าสินค้า
- เอเสเคียล 27:16 - “ ‘ชาวอารัม ติดต่อค้าขายกับเจ้า เพราะเจ้ามีสินค้าหลากชนิด เขานำพลอยขี้นกการเวก ผ้าสีม่วง ผ้าปัก ผ้าลินินเนื้อดี หินปะการัง และทับทิมมาแลกกับสินค้าของเจ้า
- เอเสเคียล 27:17 - “ ‘ชาวยูดาห์และชาวอิสราเอลค้าขายกับเจ้า นำข้าวสาลีจากเมืองมินนิท ขนม น้ำผึ้ง น้ำมัน และขี้ผึ้งมาแลกกับสินค้าของเจ้า
- เอเสเคียล 27:18 - “ ‘ชาวดามัสกัสนำเหล้าองุ่นจากเมืองเฮลโบนและขนแกะจากเมืองศาฮาร์มาค้าขายกับเจ้า เพราะเจ้ามีผลผลิตและสินค้าหลากชนิด
- เอเสเคียล 27:19 - “ ‘ชาวดานและชาวกรีกจากเมืองอุซาลซื้อขายกับเจ้า เขานำเหล็กหล่อ อบเชย และเครื่องเทศมาแลกกับสินค้าของเจ้า
- เอเสเคียล 27:20 - “ ‘ชาวเดดานค้าขายผ้ารองอานม้ากับเจ้า
- เอเสเคียล 27:21 - “ ‘ชาวอาระเบียและเจ้านายทั้งปวงแห่งเคดาร์เป็นลูกค้าของเจ้า พวกเขานำลูกแกะ แกะผู้ และแพะมาแลกเปลี่ยนสินค้าของเจ้า
- เอเสเคียล 27:22 - “ ‘พ่อค้าแห่งเชบาและราอามาห์ค้าขายกับเจ้า เขานำเครื่องเทศชั้นเยี่ยมทุกชนิดและอัญมณีกับทองคำมาแลกสินค้าของเจ้า
- เอเสเคียล 27:23 - “ ‘ชาวฮาราน ชาวคานเนห์ ชาวเอเดน พ่อค้าเชบา ชาวอัสชูร์ และชาวคิลมาดค้าขายกับเจ้า
- เอเสเคียล 27:24 - พวกเขานำเสื้อผ้าสวยงาม ผ้าสีน้ำเงิน ผ้าปัก พรมหลากสีทำด้วยเกลียวเชือกมัดอย่างแน่นหนามาค้าขายในตลาดของเจ้า
- เอเสเคียล 27:25 - “ ‘บรรดาเรือแห่งทารชิช เป็นพาหนะบรรทุกสินค้าของเจ้า เจ้ามีสินค้าเก็บไว้เต็มคลังของเจ้า ที่ใจกลางทะเล
- เอเสเคียล 27:26 - พลกรรเชียงพาเจ้าออกไป กลางทะเลใหญ่ แต่ลมตะวันออกจะซัดเจ้าให้อับปาง ที่ใจกลางทะเล
- เอเสเคียล 27:27 - ทรัพย์สมบัติ สินค้า ผลผลิต นักเดินเรือ กะลาสี ช่างประจำเรือ นายวาณิช ทหารทั้งปวงของเจ้า ตลอดจนทุกคนที่อยู่ในเรือ จะจมดิ่งลงสู่ใจกลางทะเล ในวันที่เรือของเจ้าอับปาง
- เอเสเคียล 27:28 - ชายฝั่งทะเลจะสั่นสะท้าน เมื่อลูกเรือของเจ้าส่งเสียงร้อง
- เยเรมีย์ 50:1 - พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งตรัสผ่านผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์เกี่ยวกับบาบิโลนและดินแดนของชาวบาบิโลน ความว่า
- เยเรมีย์ 50:2 - “จงป่าวร้องและประกาศในหมู่ประชาชาติ จงชูธงขึ้นประกาศออกไป อย่าปิดบังเลย แต่จงกล่าวว่า ‘บาบิโลนจะถูกยึด เบลจะอับอายขายหน้า มาร์ดุคจะหวาดหวั่นขวัญผวา เทวรูปของบาบิโลนจะอัปยศอดสู และอกสั่นขวัญแขวน’
- เยเรมีย์ 50:3 - ชนชาติหนึ่งจากทางเหนือจะมาโจมตีบาบิโลน ทำให้ดินแดนนั้นถูกทิ้งร้าง ไม่มีใครอาศัยอยู่ ทั้งคนและสัตว์จะหนีเตลิดไปหมด”
- เยเรมีย์ 50:4 - องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “ในเวลานั้น ชนอิสราเอลและยูดาห์ จะร่วมกันแสวงหาพระยาห์เวห์ พระเจ้าของพวกเขาด้วยน้ำตานองหน้า
- เยเรมีย์ 50:5 - พวกเขาจะถามทาง และมุ่งหน้ามายังศิโยน พวกเขาจะเข้ามาผูกพันกับองค์พระผู้เป็นเจ้า โดยพันธสัญญานิรันดร์ ซึ่งจะไม่ถูกลืมเลือน
- เยเรมีย์ 50:6 - “ประชากรของเราเป็นแกะหลงทาง คนเลี้ยงของพวกเขาได้พาพวกเขาให้หลงเตลิดไป และเป็นเหตุให้พวกเขาร่อนเร่อยู่บนภูเขา พวกเขาซัดเซพเนจรไปเหนือภูเขาและเนินเขา และลืมถิ่นที่พำนักของตน
- เยเรมีย์ 50:7 - ผู้ใดพบพวกเขาก็ขย้ำกิน ศัตรูของพวกเขากล่าวว่า ‘เราไม่ผิด เพราะพวกเขาทำบาปต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นทุ่งหญ้าที่แท้จริงของพวกเขา องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นความหวังของบรรพบุรุษของพวกเขา’
- เยเรมีย์ 50:8 - “จงหนีจากบาบิโลน จงออกจากดินแดนของชาวบาบิโลนเถิด และจงเป็นเหมือนแพะนำฝูง
- เยเรมีย์ 50:9 - เพราะเราจะเร่งเร้ากองทัพพันธมิตรของชนชาติใหญ่ๆ จากทางเหนือ มาสู้รบกับบาบิโลน พวกเขาจะเข้าประจำที่ต่อสู้กับมัน บาบิโลนจะถูกยึดโดยคนจากทางเหนือ ลูกศรของพวกเขาเหมือนนักรบชำนาญศึก ออกรบคราใดไม่เคยกลับไปมือเปล่า
- เยเรมีย์ 50:10 - ดังนั้นบาบิโลนจะถูกปล้น และโจรทุกคนได้ของมากมาย” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
- เยเรมีย์ 50:11 - “เพราะเจ้าผู้ปล้นกรรมสิทธิ์ของเรา กระหยิ่มลิงโลด เพราะเจ้าร่าเริงอย่างวัวสาวย่ำนวดเมล็ดข้าว และส่งเสียงร้องอย่างม้าตัวผู้
- เยเรมีย์ 50:12 - มารดาของเจ้าจะอับอายขายหน้ายิ่งนัก ผู้ให้กำเนิดเจ้าจะอัปยศอดสู กลายเป็นผู้ต่ำต้อยที่สุดในหมู่ประชาชาติ เป็นถิ่นกันดาร เป็นทะเลทรายอันแห้งผาก
- เยเรมีย์ 50:13 - เนื่องด้วยพระพิโรธขององค์พระผู้เป็นเจ้า บาบิโลนจะกลายเป็นถิ่นร้างไม่มีคนอยู่อาศัย ทุกคนที่ผ่านไปมาจะตะลึงและเย้ยหยัน เนื่องจากบาดแผลทั้งหมดของมัน
- เยเรมีย์ 50:14 - “พวกเจ้าผู้โก่งธนู จงเข้าประจำที่ล้อมรอบบาบิโลน ระดมยิงมัน! ไม่ต้องออมลูกศร เพราะมันได้ทำบาปต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า
- เยเรมีย์ 50:15 - จงโห่ร้องเข้าใส่บาบิโลนทุกด้าน! มันยอมแพ้ หอคอยต่างๆ พังทลาย กำแพงพังลง เพราะนี่เป็นการแก้แค้นขององค์พระผู้เป็นเจ้า จงแก้แค้นบาบิโลน จงทำกับบาบิโลนเหมือนที่มันเคยทำแก่ชาติอื่นๆ
- เยเรมีย์ 50:16 - จงตัดผู้หว่าน และผู้เก็บเกี่ยวซึ่งถือเคียวออกจากบาบิโลน ให้ทุกคนกลับไปหาพี่น้องร่วมชาติของตน ให้ทุกคนหนีไปยังบ้านเกิดเมืองนอน เพราะดาบของผู้กดขี่ข่มเหง
- เยเรมีย์ 50:17 - “อิสราเอลเป็นฝูงแกะที่กระจัดกระจาย ซึ่งสิงโตได้ไล่หนีกระเจิง รายแรกที่ขย้ำเขา คือกษัตริย์อัสซีเรีย ล่าสุดผู้ที่บดขยี้กระดูกของเขา คือกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน”
- เยเรมีย์ 50:18 - ฉะนั้นพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า “เราจะลงโทษกษัตริย์บาบิโลนและดินแดนของเขา เหมือนที่เราได้ลงโทษกษัตริย์อัสซีเรีย
- เยเรมีย์ 50:19 - ส่วนอิสราเอล เราจะนำพวกเขากลับคืนสู่ทุ่งหญ้าของเขาเอง พวกเขาจะกินหญ้าบนภูเขาคารเมลและบาชาน พวกเขาจะอิ่มเอม บนภูเขาเอฟราอิมและในกิเลอาด”
- เยเรมีย์ 50:20 - องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “ในครั้งนั้น จะมีการเสาะหาความผิดของอิสราเอล แต่ไม่พบเลย และจะมีการเสาะหาบาปทั้งหลายของยูดาห์ แต่ไม่พบเลย เพราะเราจะอภัยโทษชนหยิบมือที่เหลือซึ่งเราไว้ชีวิต
- เยเรมีย์ 50:21 - “จงโจมตีดินแดนเมราธาอิม และผู้คนในเปโขด ตามล่า ฆ่าทิ้ง และทำลายล้าง ให้หมด” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น “จงทำทุกสิ่งตามที่เราสั่งไว้
- เยเรมีย์ 50:22 - มีเสียงโห่ร้องออกศึกในดินแดน เสียงหายนะใหญ่หลวง!
- เยเรมีย์ 50:23 - ค้อนซึ่งทุบโลกทั้งโลก ก็แหลกลาญป่นปี้ บาบิโลนถูกทิ้งร้างอย่างสิ้นเชิง ในหมู่ประชาชาติ!
- เยเรมีย์ 50:24 - บาบิโลนเอ๋ย เราวางกับดักเจ้าไว้ และเจ้าก็ติดกับก่อนจะรู้ตัว เจ้าถูกจับได้ เพราะเจ้าต่อสู้ขัดขืนองค์พระผู้เป็นเจ้า
- เยเรมีย์ 50:25 - องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงเปิดคลังสรรพาวุธของพระองค์ และนำอาวุธแห่งพระพิโรธออกมา เพราะพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดทรงมีพระราชกิจที่จะกระทำ ในดินแดนของชาวบาบิโลน
- เยเรมีย์ 50:26 - จงยกกำลังต่อสู้บาบิโลนจากแดนไกล จงทำลายยุ้งฉางของมันเสีย จงกองมันไว้เหมือนกองเมล็ดข้าว จงทำลายล้างมันอย่างสิ้นเชิง และอย่าให้มีใครหลงเหลืออยู่
- เยเรมีย์ 50:27 - จงฆ่าวัวหนุ่มของมันให้หมด ต้อนพวกมันไปโรงเชือด! วิบัติแก่พวกเขา! เพราะถึงเวลาของพวกเขาแล้ว เวลาที่พวกเขาจะถูกลงโทษ
- เยเรมีย์ 50:28 - จงฟังเสียงผู้ลี้ภัยและผู้อพยพจากบาบิโลน ที่ป่าวร้องในศิโยน ว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราได้ทรงแก้แค้นอย่างไร ทรงแก้แค้นให้พระวิหารของพระองค์อย่างไร
- เยเรมีย์ 50:29 - “จงเรียกพลธนูมาต่อสู้กับบาบิโลน บรรดาผู้โก่งคันศร จงมาตั้งค่ายล้อมบาบิโลนไว้ อย่าให้มีใครหนีรอดไปได้ จงตอบแทนมันให้สาสม จงทำกับมันเหมือนที่มันเคยทำไว้ เพราะบาบิโลนได้ลบหลู่พระยาห์เวห์ องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล
- เยเรมีย์ 50:30 - ฉะนั้นชายหนุ่มของบาบิโลนจะล้มลงกลางถนน และทหารทุกคนจะถูกทำให้เงียบเสียงในวันนั้น” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
- เยเรมีย์ 50:31 - “ดูเถิด เราสู้กับเจ้า คนหยิ่งจองหองเอ๋ย” องค์พระผู้เป็นเจ้าพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศดังนั้น “เพราะวันเวลาของเจ้านั้นได้มาถึงแล้ว เวลาที่เจ้าจะถูกลงโทษ
- เยเรมีย์ 50:32 - คนหยิ่งจองหองจะสะดุดล้มลง และจะไม่มีใครช่วยพยุงเขาขึ้นมา เราจะจุดไฟในเมืองต่างๆ ของบาบิโลน ไฟนี้จะเผาผลาญทุกคนที่อยู่รอบเมือง”
- เยเรมีย์ 50:33 - พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “ชาวอิสราเอลถูกกดขี่ข่มเหง และชาวยูดาห์ก็เช่นกัน บรรดาคนที่จับเขาไปเป็นเชลยก็กุมตัวเขาไว้แน่น ไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาไป
- เยเรมีย์ 50:34 - แต่พระผู้ไถ่ของพวกเขานั้นเข้มแข็ง พระนามของพระองค์คือ พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พระองค์จะทรงแก้คดีของเขาอย่างแข็งขัน เพื่อจะทรงนำการพักสงบมาสู่ดินแดนของพวกเขา และนำความวุ่นวายมายังชาวบาบิโลน”
- เยเรมีย์ 50:35 - องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “ให้ดาบฟาดฟันชาวบาบิโลน ฟาดฟันผู้คนในบาบิโลน และให้ดาบฟาดฟันขุนนางและปราชญ์ของบาบิโลน!
- เยเรมีย์ 50:36 - ให้ดาบฟาดฟันผู้เผยพระวจนะเท็จ! พวกเขาจะกลายเป็นคนโง่เขลา ให้ดาบฟาดฟันนักรบ! พวกเขาจะเต็มไปด้วยความอกสั่นขวัญแขวน
- เยเรมีย์ 50:37 - ให้ดาบฟาดฟันเหล่าม้าและรถม้าศึก และฟาดฟันคนต่างชาติทั้งปวงในกองทัพของเขา! พวกเขาจะกลายเป็นเหมือนผู้หญิง ให้ดาบฟาดฟันทรัพย์สมบัติของบาบิโลน! สิ่งเหล่านั้นจะถูกปล้นชิง
- เยเรมีย์ 50:38 - ให้ความแห้งแล้งมาเหนือ ห้วงน้ำทั้งหลายของมัน! พวกมันจะได้เหือดแห้ง เพราะดินแดนนั้นเต็มไปด้วยรูปเคารพ และผู้คนก็คลั่งไคล้ไปกับพระต่างๆ
- เยเรมีย์ 50:39 - “สัตว์ทะเลทรายและสุนัขจิ้งจอกจะอาศัยอยู่ที่นั่น และนกเค้าแมวจะอยู่ที่นั่น จะไม่มีผู้คนอาศัยอยู่อีก ตลอดทุกชั่วอายุ
- เยเรมีย์ 50:40 - ดังที่พระเจ้าได้ล้มล้างเมืองโสโดมและโกโมราห์ พร้อมทั้งเมืองใกล้เคียง” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น “ดังนั้นจะไม่มีใครอยู่ที่นั่น จะไม่มีผู้ใดตั้งถิ่นฐานในเมืองนั้น
- เยเรมีย์ 50:41 - “ดูเถิด กองทัพจะมาจากทางเหนือ ชนชาติยิ่งใหญ่และกษัตริย์หลายองค์ กำลังถูกเร่งเร้าจากทุกมุมโลก
- เยเรมีย์ 50:42 - พวกเขามีทั้งธนูและหอก โหดเหี้ยมและไร้ความเมตตา เสียงควบม้าของพวกเขา เหมือนเสียงทะเลคำราม พวกเขายกกระบวนทัพมาเพื่อโจมตีเจ้า ธิดาแห่งบาบิโลน เอ๋ย
- เยเรมีย์ 50:43 - กษัตริย์บาบิโลนได้ยินรายงานข่าว พระหัตถ์ก็หมดแรง ความทุกข์ร้าวรานจู่โจมจับพระทัย เจ็บปวดรวดร้าวดั่งผู้หญิงที่กำลังคลอดลูก
- เยเรมีย์ 50:44 - เราจะขับไล่บาบิโลนออกจากดินแดน ในชั่วพริบตา ดุจสิงโตออกมาจากพงไพรแห่งจอร์แดนสู่ทุ่งหญ้าอันอุดมสมบูรณ์ ใครคือผู้ที่เราเลือกสรรแต่งตั้งเพื่อการนี้? ผู้ใดเสมอเหมือนเราและใครจะท้าทายเราได้? คนเลี้ยงแกะหน้าไหนจะยืนต้านทานเราได้?”
- เยเรมีย์ 50:45 - ฉะนั้นจงฟังแผนการที่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะจัดการกับบาบิโลน สิ่งที่พระองค์ทรงดำริไว้สำหรับดินแดนของชาวบาบิโลน ลูกอ่อนในฝูงจะถูกลากไป พระองค์จะทรงทำลายทุ่งหญ้าของพวกเขาจนหมดสิ้น เพราะตัวพวกเขาเอง
- เยเรมีย์ 50:46 - ทั่วโลกจะสั่นสะท้าน เมื่อได้ยินเสียงบาบิโลนล่มสลาย เสียงร้องของชาวบาบิโลนจะดังก้องในหมู่ประชาชาติ
- เอเสเคียล 28:2 - “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงกล่าวแก่ผู้ปกครองเมืองไทระว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า “ ‘ด้วยความหยิ่งผยองในจิตใจ เจ้ากล่าวว่า “ข้าคือเทพเจ้า ข้านั่งเหนือบัลลังก์ของเทพเจ้า ที่ใจกลางห้วงสมุทร” แต่เจ้าเป็นเพียงมนุษย์ ไม่ใช่เทพเจ้า แม้เจ้าจะคิดว่าตนเองเฉลียวฉลาดเสมอเทพเจ้า
- วิวรณ์ 18:2 - ท่านประกาศด้วยเสียงกึกก้องว่า “ล่มแล้ว! บาบิโลนมหานครได้ล่มสลายแล้ว! นครนี้ได้กลายเป็นเรือนปีศาจ และเป็นที่สิงสู่ของวิญญาณชั่ว เป็นที่สิงสู่ของนกทุกชนิดที่เป็นมลทินและน่าชิงชัง
- 2ซามูเอล 21:16 - อิชบีเบโนบวงศ์วานของราฟาเจ้าของหอกทองสัมฤทธิ์หนักประมาณ 3.5 กิโลกรัม คาดดาบเล่มใหม่หมายจะปลงพระชนม์ดาวิด
- 2ซามูเอล 21:17 - แต่อาบีชัยบุตรนางเศรุยาห์ตรงรี่เข้ามาช่วยสังหารชาวฟีลิสเตียคนนั้น จากนั้นทหารของดาวิดประกาศว่า “ฝ่าพระบาทอย่าทรงออกรบอีกเลย เพื่อไม่ให้ดวงประทีปของอิสราเอลต้องดับไป”
- 2ซามูเอล 21:18 - ต่อมาในระหว่างการรบกับชาวฟีลิสเตียที่เมืองโกบ สิบเบคัยชาวหุชาห์ได้สังหารสัฟวงศ์วานของราฟา
- 2ซามูเอล 21:19 - และในการรบกับฟีลิสเตียอีกครั้งหนึ่งที่โกบ เอลฮานันบุตรยาอาเรโอเรกิม ชาวเบธเลเฮม สังหารน้องชายของ โกลิอัท ชาวกัท ผู้ซึ่งถือหอกด้ามใหญ่เหมือนไม้กระพั่นทอผ้า
- 2ซามูเอล 21:20 - ในการรบอีกครั้งที่เมืองกัท คนร่างยักษ์ผู้หนึ่งมีนิ้วมือนิ้วเท้าข้างละ 6 นิ้วรวมเป็น 24 นิ้วซึ่งเป็นวงศ์วานราฟาเช่นกัน
- 2ซามูเอล 21:21 - ได้มาข่มขู่อิสราเอล แต่ถูกโยนาธานบุตรชิเมอาพี่ชายของดาวิดสังหาร
- 2ซามูเอล 21:22 - ดาวิดและทหารปลิดชีพคนทั้งสี่นี้ซึ่งเป็นวงศ์วานของราฟาแห่งเมืองกัท
- 1พงศ์กษัตริย์ 10:1 - เมื่อราชินีแห่งเชบาทรงได้ยินกิตติศัพท์ของโซโลมอนซึ่งถวายพระเกียรติแด่พระนามของพระยาห์เวห์ก็เสด็จมาทดสอบโดยตั้งปัญหายากๆ
- 1พงศ์กษัตริย์ 10:2 - พระนางทรงมาถึงกรุงเยรูซาเล็มพร้อมกับกองคาราวานใหญ่ มีอูฐบรรทุกเครื่องเทศ ทองคำจำนวนมาก และเพชรนิลจินดา พระนางเข้าเฝ้าโซโลมอน และทรงสนทนาทุกเรื่องที่ทรงดำริไว้
- 1พงศ์กษัตริย์ 10:3 - โซโลมอนทรงตอบปัญหาของพระนางได้ทุกข้อ ไม่มีสิ่งใดยากเกินกว่าที่กษัตริย์จะทรงอธิบายแก่พระนาง
- 1พงศ์กษัตริย์ 10:4 - เมื่อราชินีแห่งเชบาทรงเห็นพระสติปัญญาทั้งสิ้นของโซโลมอน และพระราชวังที่ทรงสร้างขึ้น
- 1พงศ์กษัตริย์ 10:5 - อาหารบนโต๊ะเสวย ข้าราชบริพารที่เข้าเฝ้า มหาดเล็กในเครื่องแบบ พนักงานเชิญจอกเสวย และเครื่องเผาบูชามากมายซึ่งถวายที่พระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระนางก็ประหลาดพระทัยเป็นล้นพ้น
- 1พงศ์กษัตริย์ 10:6 - พระนางตรัสกับกษัตริย์ว่า “ที่หม่อมฉันได้ยินได้ฟังมาในประเทศของหม่อมฉันเกี่ยวกับความสำเร็จและพระปรีชาญาณของฝ่าพระบาทล้วนเป็นความจริง
- 1พงศ์กษัตริย์ 10:7 - แต่หม่อมฉันไม่เชื่อมาก่อนเลย จนกระทั่งได้มาเห็นกับตา แท้จริงแล้วสิ่งที่หม่อมฉันได้ยินมาก็ยังไม่ถึงครึ่ง พระปรีชาญาณและความมั่งคั่งของฝ่าพระบาทยิ่งใหญ่กว่าที่เขาร่ำลือกันมากนัก
- 1พงศ์กษัตริย์ 10:8 - ไพร่ฟ้าของฝ่าพระบาทคงมีความสุขยิ่งนัก! ข้าราชบริพารของฝ่าพระบาทคงมีความสุขที่ได้เข้าเฝ้า และสดับฟังพระปัญญาของฝ่าพระบาทอยู่เสมอ!
- 1พงศ์กษัตริย์ 10:9 - สรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าของฝ่าพระบาทที่ทรงโปรดปรานและตั้งฝ่าพระบาทขึ้นครองราชบัลลังก์แห่งอิสราเอล เนื่องด้วยความรักนิรันดร์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ทรงมีต่ออิสราเอล จึงทรงตั้งฝ่าพระบาทเป็นกษัตริย์เพื่อผดุงความยุติธรรมและความชอบธรรม”
- 1พงศ์กษัตริย์ 10:10 - จากนั้นพระนางถวายเครื่องบรรณาการแด่กษัตริย์เป็นทองคำหนักประมาณ 4 ตัน เครื่องเทศมากมายและอัญมณีล้ำค่า ไม่เคยมีใครนำเครื่องเทศมาถวายมากเท่ากับที่ราชินีแห่งเชบาทรงนำมาถวายแด่กษัตริย์โซโลมอนอีกเลย
- 1พงศ์กษัตริย์ 10:11 - (กองเรือของฮีรามนำทองคำมาจากโอฟีร์ พร้อมด้วยไม้จันทน์ จำนวนมาก และเพชรนิลจินดาล้ำค่า
- 1พงศ์กษัตริย์ 10:12 - โซโลมอนทรงใช้ไม้จันทน์ทำเสาพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าและราชวัง ทำพิณเขาคู่และพิณใหญ่สำหรับเหล่านักดนตรี ไม่เคยเห็นการนำเข้าไม้จันทน์จำนวนมากมายอย่างนั้นมาก่อนเลย)
- 1พงศ์กษัตริย์ 10:13 - กษัตริย์โซโลมอนประทานทุกสิ่งตามที่ราชินีแห่งเชบาทรงประสงค์และทูลขอ นอกเหนือจากของกำนัลที่โซโลมอนประทานจากท้องพระคลัง จากนั้นพระนางและขบวนตามเสด็จก็กลับสู่ประเทศของตน ( 2พศด.1:14-17 ; 9:13-28 )
- 1พงศ์กษัตริย์ 10:14 - ทุกปีโซโลมอนได้รับทองคำหนักประมาณ 23 ตัน
- 1พงศ์กษัตริย์ 10:15 - ยังไม่รวมภาษีอากรจากพ่อค้าวาณิชและเครื่องบรรณาการจากบรรดากษัตริย์อาระเบีย และเหล่าผู้ปกครองของดินแดนนั้น
- 1พงศ์กษัตริย์ 10:16 - กษัตริย์โซโลมอนทรงให้นำทองคำมาตีเป็นโล่ใหญ่ 200 อัน แต่ละอันใช้ทองคำหนักประมาณ 3.5 กิโลกรัม
- 1พงศ์กษัตริย์ 10:17 - และทำเป็นโล่เล็ก 300 อัน แต่ละอันใช้ทองคำหนักประมาณ 1.7 กิโลกรัม พระองค์ทรงเก็บโล่เหล่านี้ไว้ในตำหนักพนาเลบานอน
- 1พงศ์กษัตริย์ 10:18 - แล้วกษัตริย์ยังได้ทรงทำพระที่นั่งขนาดใหญ่ตกแต่งด้วยงาช้างและบุด้วยทองคำบริสุทธิ์
- 1พงศ์กษัตริย์ 10:19 - พระที่นั่งนี้มีบันไดหกขั้น ด้านบนพนักหลังเป็นรูปวงกลม ที่วางพระหัตถ์ทั้งสองข้างมีสิงโตขนาบข้างละตัว
- 1พงศ์กษัตริย์ 10:20 - ที่บันไดแต่ละขั้นมีสิงโตยืนอยู่ข้างละตัว รวมเป็นสิบสองตัว ไม่เคยมีเช่นนี้ในราชอาณาจักรอื่น
- 1พงศ์กษัตริย์ 10:21 - ถ้วยเสวยทุกใบของกษัตริย์โซโลมอนทำด้วยทองคำ และเครื่องใช้ไม้สอยทั้งหมดในตำหนักพนาเลบานอนล้วนทำด้วยทองคำบริสุทธิ์ ไม่มีสิ่งใดทำด้วยเงิน เพราะในสมัยโซโลมอนถือว่าเงินด้อยค่า
- 1พงศ์กษัตริย์ 10:22 - กษัตริย์ทรงมีกองเรือพาณิชย์ ร่วมเดินทะเลกับกองเรือของฮีราม เรือจะบรรทุกทองคำ เงิน งาช้าง ลิง และลิงบาบูนกลับมาทุกสามปี
- 1พงศ์กษัตริย์ 10:23 - กษัตริย์โซโลมอนทรงมั่งคั่งและมีพระปรีชาญาณเหนือกว่ากษัตริย์ใดๆ ทั้งปวงในแผ่นดินโลก
- 1พงศ์กษัตริย์ 10:24 - คนทั่วโลกใคร่จะมาสดับฟังสติปัญญาซึ่งพระเจ้าประทานไว้ในพระทัยของพระองค์
- 1พงศ์กษัตริย์ 10:25 - ปีแล้วปีเล่า ทุกคนที่มาจะนำเครื่องบรรณาการมาถวายได้แก่ เครื่องเงินเครื่องทอง เสื้อผ้าอาภรณ์ อาวุธ เครื่องเทศ ม้า และล่อ
- 1พงศ์กษัตริย์ 10:26 - โซโลมอนทรงสะสมรถม้าศึกและม้า พระองค์ทรงมีรถม้าศึก 1,400 คัน และม้า 12,000 ตัว ซึ่งพระองค์ทรงเก็บบางส่วนไว้ที่หัวเมืองซึ่งใช้เก็บรถม้าศึกและบางส่วนอยู่กับพระองค์ที่กรุงเยรูซาเล็ม
- 1พงศ์กษัตริย์ 10:27 - พระองค์ทรงทำให้เงินในกรุงเยรูซาเล็มมีมากมายเหมือนก้อนหิน และมีไม้สนซีดาร์ดาษดื่นเหมือนต้นมะเดื่อแถบเชิงเขา
- 1พงศ์กษัตริย์ 10:28 - ม้าของโซโลมอนนั้นนำเข้าจากอียิปต์ และจากคูเอ คือพ่อค้าหลวงซื้อมาจากคูเอ
- 1พงศ์กษัตริย์ 10:29 - รถม้าศึกแต่ละคันที่นำเข้าจากอียิปต์มีราคาเท่ากับเงินหนัก 600 เชเขล ม้าราคาตัวละ 150 เชเขล พวกเขายังส่งออกไปขายต่อให้กษัตริย์ทั้งปวงของชาวฮิตไทต์และของชาวอารัมด้วย
- โยบ 9:13 - พระเจ้าไม่ได้ทรงยับยั้งพระพิโรธ แม้แต่กองกำลังของราหับก็กลัวลานอยู่แทบพระบาทพระองค์
- สดุดี 89:10 - พระองค์ทรงบดขยี้ราหับดั่งผู้ที่ถูกฆ่า และทรงทำให้ศัตรูของพระองค์กระเจิด กระเจิงไปด้วยพระหัตถ์อันเข้มแข็ง
- อิสยาห์ 19:23 - ในวันนั้นอียิปต์และอัสซีเรียจะมีทางหลวงเชื่อมต่อกัน ชาวอัสซีเรียกับชาวอียิปต์จะไปมาหาสู่กันและนมัสการร่วมกัน
- อิสยาห์ 19:24 - ในวันนั้นอิสราเอลจะเป็นหนึ่งในสามร่วมกับอียิปต์และอัสซีเรีย จะเป็นพรบนแผ่นดินโลก
- อิสยาห์ 19:25 - พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์จะทรงอวยพรพวกเขาว่า “ขอให้อียิปต์ประชากรของเรา อัสซีเรียผลงานแห่งน้ำมือของเรา และอิสราเอลกรรมสิทธิ์ของเราได้รับพร”
- สดุดี 68:31 - บรรดาทูตจะมาจากอียิปต์ คูช จะยอมจำนนต่อพระเจ้า
- สดุดี 45:12 - ธิดาแห่งเมืองไทระ จะนำเครื่องบรรณาการมาถวาย คนมั่งมีจะแสวงหาความโปรดปรานจากพระนาง