逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - ผู้ที่ถูกตักเตือนบ่อยๆ แต่ยังทำคอแข็งไม่ฟัง จะแหลกสลายเกินเยียวยาในชั่วพริบตา
- 新标点和合本 - 人屡次受责罚,仍然硬着颈项; 他必顷刻败坏,无法可治。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 人屡次受责罚,仍然硬着颈项, 他必顷刻被毁,无从医治。
- 和合本2010(神版-简体) - 人屡次受责罚,仍然硬着颈项, 他必顷刻被毁,无从医治。
- 当代译本 - 屡教不改、顽固不化者, 必突然灭亡,无可挽救。
- 圣经新译本 - 人屡次受责备,仍然硬着颈项, 他必突然毁灭,无法挽救。
- 中文标准译本 - 屡次受责,仍然硬着颈项的人, 顷刻之间就会被摧毁,无法挽回。
- 现代标点和合本 - 人屡次受责罚,仍然硬着颈项, 他必顷刻败坏,无法可治。
- 和合本(拼音版) - 人屡次受责罚,仍然硬着颈项, 他必顷刻败坏,无法可治。
- New International Version - Whoever remains stiff-necked after many rebukes will suddenly be destroyed—without remedy.
- New International Reader's Version - Whoever still won’t obey after being warned many times will suddenly be destroyed. Nothing can save them.
- English Standard Version - He who is often reproved, yet stiffens his neck, will suddenly be broken beyond healing.
- New Living Translation - Whoever stubbornly refuses to accept criticism will suddenly be destroyed beyond recovery.
- The Message - For people who hate discipline and only get more stubborn, There’ll come a day when life tumbles in and they break, but by then it’ll be too late to help them.
- Christian Standard Bible - One who becomes stiff-necked, after many reprimands will be shattered instantly — beyond recovery.
- New American Standard Bible - A person often rebuked who becomes obstinate Will suddenly be broken beyond remedy.
- New King James Version - He who is often rebuked, and hardens his neck, Will suddenly be destroyed, and that without remedy.
- Amplified Bible - He who hardens his neck and refuses instruction after being often reproved (corrected, criticized), Will suddenly be broken beyond repair.
- American Standard Version - He that being often reproved hardeneth his neck Shall suddenly be destroyed, and that without remedy.
- King James Version - He, that being often reproved hardeneth his neck, shall suddenly be destroyed, and that without remedy.
- New English Translation - The one who stiffens his neck after numerous rebukes will suddenly be destroyed without remedy.
- World English Bible - He who is often rebuked and stiffens his neck will be destroyed suddenly, with no remedy.
- 新標點和合本 - 人屢次受責罰,仍然硬着頸項; 他必頃刻敗壞,無法可治。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 人屢次受責罰,仍然硬着頸項, 他必頃刻被毀,無從醫治。
- 和合本2010(神版-繁體) - 人屢次受責罰,仍然硬着頸項, 他必頃刻被毀,無從醫治。
- 當代譯本 - 屢教不改、頑固不化者, 必突然滅亡,無可挽救。
- 聖經新譯本 - 人屢次受責備,仍然硬著頸項, 他必突然毀滅,無法挽救。
- 呂振中譯本 - 屢次受責罰、仍然硬着脖子的、 頃刻間必破敗,無法可治。
- 中文標準譯本 - 屢次受責,仍然硬著頸項的人, 頃刻之間就會被摧毀,無法挽回。
- 現代標點和合本 - 人屢次受責罰,仍然硬著頸項, 他必頃刻敗壞,無法可治。
- 文理和合譯本 - 屢受斥責、仍復強項、敗亡必速、無術可治、
- 文理委辦譯本 - 屢受譴責、仍強厥項、必致敗亡、援手無人。
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 人屢受譴責、仍強厥項、必忽敗亡、無法可治之、
- Nueva Versión Internacional - El que es reacio a las reprensiones será destruido de repente y sin remedio.
- 현대인의 성경 - 자주 책망을 받으면서도 여전히 고집을 피우는 사람은 예기치 않은 패망을 당하고 구제가 불가능한 사람이 되고 말 것이다.
- Новый Русский Перевод - Тот, кто коснеет в упрямстве после многих упреков, будет внезапно погублен – без исцеления.
- Восточный перевод - Тот, кто коснеет в упрямстве после многих упрёков, будет внезапно погублен – без исцеления.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Тот, кто коснеет в упрямстве после многих упрёков, будет внезапно погублен – без исцеления.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Тот, кто коснеет в упрямстве после многих упрёков, будет внезапно погублен – без исцеления.
- La Bible du Semeur 2015 - Qui se raidit contre les reproches sera brisé soudainement et ne s’en remettra pas.
- リビングバイブル - 何度しかられても言うことを聞かない者は、 突然倒れて二度と立ち直れません。
- Nova Versão Internacional - Quem insiste no erro depois de muita repreensão, será destruído, sem aviso e irremediavelmente.
- Hoffnung für alle - Wer oft ermahnt wird und trotzdem eigensinnig bleibt, der findet plötzlich ein schreckliches Ende – ohne jede Hoffnung auf Rettung!
- Kinh Thánh Hiện Đại - Người cứng lòng cứng cổ trước lời răn dạy sẽ suy sụp thình lình không phương chữa chạy.
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - คนที่ถูกตักเตือนหลายครั้ง แล้วยังหัวรั้น จะถูกทำลายในพริบตาเดียวโดยไม่อาจแก้ไขได้
交叉引用
- เยเรมีย์ 26:3 - บางทีพวกเขาอาจจะรับฟังและหันจากทางชั่วของตน แล้วเราจะอดใจไว้ไม่นำภัยพิบัติมายังเขาตามที่เราคิดเพราะความชั่วที่พวกเขาได้ทำ
- เยเรมีย์ 26:4 - จงบอกพวกเขาว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า หากเจ้าไม่ฟังคำของเราและปฏิบัติตามบทบัญญัติของเราซึ่งเราตั้งไว้ต่อหน้าเจ้า
- เยเรมีย์ 26:5 - และหากเจ้าไม่ยอมฟังคำผู้รับใช้ของเราคือเหล่าผู้เผยพระวจนะซึ่งเราได้ส่งมาเตือนเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า (แม้ว่าเจ้าไม่ฟัง)
- เยเรมีย์ 17:23 - แต่คนเหล่านั้นไม่ฟัง ไม่ใส่ใจ พวกเขาดื้อดึงหัวแข็ง ไม่ยอมใส่ใจและรับฟังคำตักเตือน
- อิสยาห์ 48:4 - เพราะเรารู้ว่าเจ้าดื้อด้านหัวแข็งเพียงไร เอ็นคอของเจ้าเป็นเหล็ก หน้าผากของเจ้าคือทองสัมฤทธิ์
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:20 - แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ‘ใครจะหลอกล่ออาหับให้ไปโจมตีราโมทกิเลอาดและตายที่นั่น?’ “มีผู้ทูลเสนอต่างๆ นานา
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:21 - ในที่สุดมีวิญญาณดวงหนึ่งก้าวออกมายืนต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าและกราบทูลว่า ‘ข้าพระองค์จะหลอกล่อเขา’
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:22 - “องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสถามว่า ‘ทำอย่างไร?’ “วิญญาณนั้นทูลว่า ‘ข้าพระองค์จะไปเป็นวิญญาณมุสาในปากของผู้เผยพระวจนะทุกคนของอาหับ’ “พระองค์จึงตรัสว่า ‘เจ้าจะหลอกล่อเขาสำเร็จ ไปทำตามนั้นเถิด’
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:23 - “ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงใส่วิญญาณมุสาในปากผู้เผยพระวจนะเหล่านี้ของฝ่าพระบาท องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมีประกาศิตให้ฝ่าพระบาทถึงแก่หายนะแล้ว”
- 1เธสะโลนิกา 5:3 - ขณะที่ผู้คนกำลังพูดกันว่า “สงบสุขและปลอดภัย” ขณะนั้นหายนะก็จะมาถึงพวกเขาในฉับพลันเหมือนการเจ็บท้องจะคลอดที่เกิดขึ้นกับหญิงมีครรภ์ และคนเหล่านั้นจะหนีไม่พ้น
- มัทธิว 26:21 - ระหว่างรับประทานอาหารกันอยู่นั้นพระองค์ตรัสว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่าคนหนึ่งในพวกท่านจะทรยศเรา”
- มัทธิว 26:22 - เหล่าสาวกเสียใจมากต่างทูลพระองค์ว่า “พระองค์เจ้าข้า ไม่ใช่ข้าพระองค์แน่ใช่ไหม?”
- มัทธิว 26:23 - พระเยซูตรัสตอบว่า “ผู้ที่หยิบอาหารจุ่มในชามเดียวกับเราคือผู้ที่จะทรยศเรา
- มัทธิว 26:24 - บุตรมนุษย์จะไปตามที่เขียนไว้ แต่วิบัติแก่ผู้นั้นที่ทรยศบุตรมนุษย์! ถ้าเขาไม่ได้เกิดมาเลยยังจะดีกับตัวเขามากกว่า”
- มัทธิว 26:25 - แล้วยูดาสผู้ที่จะทรยศต่อพระองค์ทูลว่า “รับบี ไม่ใช่ข้าพระองค์แน่ใช่ไหม?” พระเยซูตรัสตอบว่า “คือท่านเอง” ( มก.14:22-25 ; ลก.22:17-20 ; 1คร.11:23-25 )
- 2พงศาวดาร 25:16 - ขณะที่ผู้เผยพระวจนะกำลังพูดอยู่ กษัตริย์ตรัสโต้ตอบว่า “เราได้แต่งตั้งเจ้าให้เป็นที่ปรึกษาของกษัตริย์ตั้งแต่เมื่อใด? เงียบนะ! จะให้เราฆ่าเจ้าทำไม?” ผู้เผยพระวจนะจึงหยุดแต่กล่าวว่า “ข้าพเจ้าทราบว่าพระเจ้าตกลงพระทัยจะทำลายท่านแล้วเพราะท่านทำอย่างนี้ และไม่รับฟังคำแนะนำของข้าพเจ้า”
- เยเรมีย์ 25:3 - ตลอด 23 ปีตั้งแต่ปีที่สิบสามแห่งรัชกาลโยสิยาห์โอรสของกษัตริย์อาโมนแห่งยูดาห์จนถึงวันนี้ ได้มีพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าเรื่อยๆ และข้าพเจ้าก็ถ่ายทอดให้พวกท่านฟังครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ท่านก็ไม่ยอมฟัง
- เยเรมีย์ 25:4 - และถึงแม้องค์พระผู้เป็นเจ้าส่งบรรดาผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของพระองค์มาหาพวกท่านครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พวกท่านก็ไม่ยอมฟัง ไม่ยอมใส่ใจ
- เยเรมีย์ 25:5 - พวกเขากล่าวว่า “พวกเจ้าแต่ละคน จงหันกลับจากวิถีและความประพฤติชั่วร้ายเถิด แล้วเจ้าจะอยู่ในดินแดนซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้ายกให้เจ้าและบรรพบุรุษของเจ้าตลอดไปได้
- ยอห์น 13:10 - พระเยซูจึงตรัสตอบว่า “ผู้ที่อาบน้ำแล้วล้างแต่เท้าก็พอเพราะทั้งกายสะอาดอยู่แล้ว ท่านทั้งหลายก็สะอาดถึงแม้ว่าไม่ทุกคน”
- ยอห์น 13:11 - เพราะพระองค์ทรงทราบว่าใครจะทรยศพระองค์จึงตรัสว่าไม่ใช่ทุกคนที่สะอาด
- เศคาริยาห์ 1:3 - ฉะนั้นจงบอกเหล่าประชากรดังนี้ว่า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า ‘จงกลับมาหาเรา’ พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศว่า ‘แล้วเราจะกลับมาหาพวกเจ้า’ พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสดังนั้น
- เศคาริยาห์ 1:4 - อย่าเป็นเหมือนบรรพบุรุษของพวกเจ้า ซึ่งบรรดาผู้เผยพระวจนะแต่ก่อนเคยประกาศดังนี้ว่า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า ‘จงหันจากวิถีและความประพฤติอันชั่วช้าของพวกเจ้า’ แต่พวกเขาไม่ได้ฟังหรือใส่ใจเราเลย องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
- เศคาริยาห์ 1:5 - บัดนี้บรรพบุรุษของพวกเจ้าไปไหนเสียแล้ว? และบรรดาผู้เผยพระวจนะมีชีวิตยืนยงตลอดกาลหรือ?
- เศคาริยาห์ 1:6 - แต่ถ้อยคำและกฎหมายซึ่งเราสั่งเหล่าผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของเราก็เป็นจริงกับบรรพบุรุษของพวกเจ้าไม่ใช่หรือ? “แล้วเขาเหล่านั้นก็สำนึกผิดและกล่าวว่า ‘พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ทรงทำกับเราอย่างสาสมกับวิถีและความประพฤติของเราตามที่พระองค์ทรงตัดสินพระทัยไว้แล้ว’ ”
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:34 - แต่มีคนหนึ่งยิงธนูสุ่มไปถูกกษัตริย์อิสราเอลตรงช่วงรอยต่อของเสื้อเกราะ พระองค์จึงตรัสกับพลขับว่า “จงกลับรถพาเราออกจากสนามรบ เราบาดเจ็บแล้ว”
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:35 - สงครามดำเนินไปอย่างดุเดือดตลอดทั้งวัน กษัตริย์ทรงประคองตัวไว้ในรถม้าศึกให้ประจันหน้ากับชาวอารัม พระโลหิตจากบาดแผลไหลนองพื้นรถ ครั้นตกเย็นก็สิ้นพระชนม์
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:36 - ขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังลับไป มีเสียงร้องบอกไปทั่วกองทัพว่า “ทุกคนกลับบ้านเมืองของตนเถิด!”
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:37 - ดังนั้นกษัตริย์อาหับก็สิ้นพระชนม์ และพระศพถูกนำกลับมาฝังไว้ที่สะมาเรีย
- อิสยาห์ 30:13 - บาปนี้จะเป็นดั่งกำแพงสูงสำหรับเจ้า ซึ่งแตกกะเทาะออก แล้วก็ล้มครืนทันทีในชั่วพริบตา
- อิสยาห์ 30:14 - มันแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเหมือนเครื่องปั้นดินเผา ที่ถูกทุบละเอียดอย่างไม่ปรานี จนหาเศษสักชิ้นที่พอจะไปช้อนถ่านจากเตา หรือรองน้ำนิดหนึ่งจากบ่อก็ไม่ได้เลย”
- กิจการของอัครทูต 1:18 - (ยูดาสนำเงินรางวัลที่ได้จากความชั่วช้าของตนไปซื้อที่ดิน ที่นั่นเขาล้มลงศีรษะกระแทกพื้น ลำตัวแตกไส้พุงทะลักออกมาหมด
- 1พงศ์กษัตริย์ 20:42 - ผู้เผยพระวจนะจึงทูลกษัตริย์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ‘เนื่องจากเจ้าไว้ชีวิตผู้ที่เรากำหนดให้ตาย ฉะนั้นเจ้าจะต้องตายแทนเขา และประชาชนของเจ้าจะต้องพินาศแทนประชาชนของเขา’ ”
- 1พงศ์กษัตริย์ 17:1 - ครั้งนั้นเอลียาห์ชาวทิชบีในกิเลอาดกล่าวกับอาหับว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลซึ่งข้าพเจ้าปรนนิบัติรับใช้อยู่นั้นทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด จะไม่มีน้ำค้างหรือฝนในสองสามปีข้างหน้าจนกว่าข้าพเจ้าจะบอกให้มีฉันนั้น”
- ยอห์น 6:70 - แล้วพระเยซูจึงตรัสตอบว่า “เราได้เลือกพวกท่านทั้งสิบสองคนไม่ใช่หรือ? ถึงกระนั้นคนหนึ่งในพวกท่านคือมารร้าย!”
- ยอห์น 6:71 - (พระองค์ทรงหมายถึงยูดาสผู้เป็นบุตรของซีโมนอิสคาริโอท ถึงแม้ยูดาสเป็นหนึ่งในสาวกสิบสองคน แต่ภายหลังเขาก็ทรยศพระองค์)
- 2พงศาวดาร 36:13 - ทั้งทรงกบฏต่อกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ผู้ให้พระองค์ปฏิญาณในพระนามพระเจ้า เศเดคียาห์ทรงแข็งขืน ถือทิฐิในใจ และไม่ยอมหันมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล
- 2พงศาวดาร 33:10 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสเตือนมนัสเสห์กับประชากร แต่พวกเขาไม่สนใจ
- 1ซามูเอล 2:34 - “ ‘และเพื่อเป็นหมายสำคัญแก่เจ้า โฮฟนีกับฟีเนหัสบุตรชายทั้งสองของเจ้าจะสิ้นชีวิตในวันเดียวกัน
- 1พงศ์กษัตริย์ 21:20 - อาหับตรัสกับเอลียาห์ว่า “โอ ศัตรูของเรา เจ้าพบเราเข้าอีกแล้วสิ!” เอลียาห์ทูลตอบว่า “ข้าพเจ้ามาพบท่าน เพราะท่านได้ขายตัวเองให้กับการทำสิ่งที่ชั่วในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า
- 1พงศ์กษัตริย์ 21:21 - พระองค์จึงตรัสว่า ‘เราเองจะนำภัยพิบัติมาถึงเจ้า จะไม่ให้มีผู้ชายในวงศ์วานของเจ้าทั้งที่เป็นทาสและเป็นไทในอิสราเอลเหลือชีวิตรอดแม้แต่คนเดียว
- 1พงศ์กษัตริย์ 21:22 - เราจะทำแก่วงศ์วานของเจ้าเหมือนที่ทำแก่วงศ์วานของเยโรโบอัมบุตรเนบัทและวงศ์วานของบาอาชาบุตรอาหิยาห์ เพราะเจ้ายั่วยุให้เราโกรธและชักนำให้อิสราเอลทำบาป’
- 1พงศ์กษัตริย์ 21:23 - “และองค์พระผู้เป็นเจ้ายังตรัสเกี่ยวกับพระนางเยเซเบลว่า ‘สุนัขจะกัดกินเยเซเบลข้างกำแพงของ ยิสเรเอล’
- เนหะมีย์ 9:29 - “พระองค์ทรงเตือนให้พวกเขาหันกลับมายังบทบัญญัติของพระองค์ แต่พวกเขาหยิ่งผยองและไม่เชื่อฟังพระบัญชาของพระองค์ พวกเขาทำบาปต่อข้อปฏิบัติของพระองค์ซึ่งถ้าผู้ใดปฏิบัติตามจะมีชีวิตอยู่ พวกเขาหันหลังให้พระองค์อย่างดื้อรั้นอวดดีและไม่ยอมฟัง
- สุภาษิต 28:18 - คนที่ดำเนินชีวิตอย่างไร้ตำหนิจะได้รับการอุ้มชู แต่คนที่เดินอยู่ในทางคดโกงจะตกลงไปในหลุมลึก
- 1พงศ์กษัตริย์ 18:18 - เอลียาห์ตอบว่า “ไม่ใช่ข้าพเจ้า ท่านกับวงศ์วานของบิดาของท่านต่างหากที่นำความเดือดร้อนมาสู่อิสราเอล ท่านได้ละทิ้งพระบัญชาขององค์พระผู้เป็นเจ้า ไปติดตามพระบาอัล
- 2พงศาวดาร 36:15 - พระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขาได้ส่งทูตของพระองค์มาเตือนพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะพระองค์ทรงสงสารประชากรและที่ประทับของพระองค์
- 2พงศาวดาร 36:16 - แต่เหล่าประชากรก็เยาะเย้ยบรรดาทูตของพระเจ้า ลบหลู่พระดำรัสของพระองค์ และหมิ่นประมาทผู้เผยพระวจนะทั้งหลาย จนพระพิโรธขององค์พระผู้เป็นเจ้าพลุ่งขึ้นต่อประชากรของพระองค์จนไม่อาจระงับยับยั้งได้อีกต่อไป
- 2พงศาวดาร 36:17 - พระเจ้าทรงนำกษัตริย์ของชาวบาบิโลน มาปราบเขา สังหารชายหนุ่มของเขาในสถานนมัสการ ไม่ไว้ชีวิตแม้กระทั่งเด็ก ผู้หญิงและคนแก่ พระเจ้าทรงมอบพวกเขาทั้งหมดไว้ในมือเนบูคัดเนสซาร์
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:28 - มีคายาห์ประกาศว่า “หากฝ่าพระบาทกลับมาอย่างปลอดภัย ก็แสดงว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ตรัสผ่านทางข้าพเจ้า” แล้วเขากล่าวอีกว่า “ทุกคนจงจำคำพูดของข้าพเจ้าไว้!” ( 2พศด.18:28-34 )
- ยอห์น 13:26 - พระเยซูตรัสตอบว่า “คือคนที่เราจะหยิบขนมปังชิ้นนี้จุ่มแล้วส่งให้” แล้วทรงหยิบขนมปังชิ้นหนึ่งจุ่มและส่งให้แก่ยูดาสบุตรของซีโมนอิสคาริโอท
- เยเรมีย์ 35:13 - “พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า จงไปบอกชาวยูดาห์และเยรูซาเล็มว่า ‘พวกเจ้าไม่ได้เรียนรู้และปฏิบัติตามถ้อยคำของเราหรือ?’ องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า
- เยเรมีย์ 35:14 - ‘โยนาดับบุตรเรคาบสั่งลูกๆ ของตนไว้ไม่ให้ดื่มเหล้าองุ่น และพวกเขาก็ทำตามคำสั่ง พวกเขาไม่ยอมดื่มเหล้าองุ่นจวบจนทุกวันนี้ เพราะทำตามคำสั่งของบรรพบุรุษ ส่วนเราได้พูดกับพวกเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พวกเจ้าก็ไม่ยอมเชื่อฟังเรา
- เยเรมีย์ 35:15 - เราส่งผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของเราคนแล้วคนเล่ามาหาพวกเจ้า ผู้เผยพระวจนะเหล่านั้นกล่าวว่า “เจ้าแต่ละคนต้องหันหนีจากวิถีอันชั่วร้ายและแก้ไขความประพฤติของตน อย่าไปติดตามหรือปรนนิบัติพระต่างๆ แล้วเจ้าจะอาศัยอยู่ในดินแดนซึ่งเรายกให้แก่เจ้ากับบรรพบุรุษของเจ้า” แต่เจ้าก็ไม่ยอมใส่ใจ ไม่ยอมฟังเรา
- เยเรมีย์ 35:16 - ลูกหลานของโยนาดับบุตรเรคาบ ปฏิบัติตามคำสั่งของบรรพบุรุษ แต่ประชากรเหล่านี้ไม่ยอมเชื่อฟังเรา’
- เศคาริยาห์ 7:11 - “แต่พวกเขาก็ไม่ยอมใส่ใจฟัง เขาอุดหูและหันหลังให้เราอย่างดื้อด้าน
- เศคาริยาห์ 7:12 - เขาทำใจให้แข็งกระด้างดั่งหินเหล็กไฟ และไม่ยอมฟังบทบัญญัติหรือถ้อยคำที่พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์มีมาถึงพวกเขาโดยพระวิญญาณของพระองค์ผ่านทางผู้เผยพระวจนะคนก่อนๆ ฉะนั้นพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์จึงทรงพระพิโรธยิ่งนัก
- เศคาริยาห์ 7:13 - “พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า ‘เมื่อเราร้องเรียก พวกเขาไม่ฟัง ฉะนั้นเมื่อพวกเขาร้องเรียก เราก็จะไม่ฟัง
- เศคาริยาห์ 7:14 - เราใช้พายุหมุนทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปเป็นคนแปลกถิ่นในหมู่ชนชาติต่างๆ ดินแดนของเขาจะถูกทิ้งร้างอยู่ข้างหลัง ไม่มีใครผ่านไปมา เขาทำให้ดินแดนอันน่าอภิรมย์กลับเริศร้างไปเช่นนี้’ ”
- กิจการของอัครทูต 1:25 - ให้รับพันธกิจแห่งอัครทูตแทนยูดาสผู้ได้ละทิ้งไปสู่ที่ของตน”
- 1ซามูเอล 2:25 - ถ้าทำบาปกับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน พระเจ้า อาจจะไกล่เกลี่ยให้ แต่ถ้าทำบาปต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าใครจะช่วยอ้อนวอนแทนได้?” แต่พวกเขาไม่ฟังคำห้ามปรามของบิดา เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงดำริจะประหารพวกเขาอยู่แล้ว
- ยอห์น 13:18 - “เราไม่ได้หมายถึงทุกคนในพวกท่าน เรารู้จักบรรดาผู้ที่เราเลือกสรร แต่ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามพระคัมภีร์ที่ว่า ‘ผู้ที่รับประทานอาหารร่วมกับเรา ยังได้ทรยศหักหลังเรา ’
- สุภาษิต 1:24 - แต่เนื่องจากเจ้าปฏิเสธเมื่อเราร้องเรียก ไม่มีใครใส่ใจเมื่อเรากวักมือ
- สุภาษิต 1:25 - เพราะเจ้าไม่แยแสคำแนะนำทั้งสิ้นของเรา ไม่ยอมรับคำตักเตือนจากเรา
- สุภาษิต 1:26 - ดังนั้นเราก็จะหัวเราะเยาะเจ้าเมื่อภัยพิบัติโจมตีเจ้า เราจะเยาะเย้ยเจ้าเมื่อความหายนะมาถึงเจ้า
- สุภาษิต 1:27 - เมื่อความหายนะมาถึงเจ้าดั่งพายุ เมื่อความพินาศถาโถมเข้ามาดั่งพายุหมุน เมื่อความเดือดร้อนลำเค็ญท่วมท้นเจ้า
- สุภาษิต 1:28 - “เมื่อนั้นพวกเขาจะร้องเรียกเรา แต่เราจะไม่ตอบ พวกเขาจะเสาะแสวงหาเรา แต่จะไม่พบ
- สุภาษิต 1:29 - เพราะพวกเขาได้ชังความรู้ และเลือกที่จะไม่ยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า
- สุภาษิต 1:30 - เพราะพวกเขาไม่ยอมรับคำแนะนำของเรา ไม่ไยดีต่อคำตักเตือนของเรา
- สุภาษิต 1:31 - พวกเขาจะได้รับผลจากวิถีทางของตัวเอง และเต็มอิ่มกับผลจากแผนร้ายของตน
- สุภาษิต 6:15 - ฉะนั้นหายนะจึงมาถึงพวกเขาอย่างฉับพลัน พวกเขาแหลกสลายเกินเยียวยาในชั่วพริบตา