逐节对照
- Thai KJV - ฝ่ายพระเยซูทรงออกจากพระวิหาร แล้วพวกสาวกของพระองค์มาชี้ตึกทั้งหลายของพระวิหารให้พระองค์ทอดพระเนตร
- 新标点和合本 - 耶稣出了圣殿,正走的时候,门徒进前来,把殿宇指给他看。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 耶稣出了圣殿,正离开的时候,门徒前来,把圣殿的建筑指给他看。
- 和合本2010(神版-简体) - 耶稣出了圣殿,正离开的时候,门徒前来,把圣殿的建筑指给他看。
- 当代译本 - 耶稣离开圣殿,正往外走的时候,门徒上前把圣殿建筑指给祂看。
- 圣经新译本 - 耶稣出了圣殿,往前走的时候,门徒前来把圣殿的建筑指给他看。
- 中文标准译本 - 耶稣从圣殿出来,往前走的时候,他的门徒们上前来,把圣殿的建筑指给他看。
- 现代标点和合本 - 耶稣出了圣殿,正走的时候,门徒进前来,把殿宇指给他看。
- 和合本(拼音版) - 耶稣出了圣殿,正走的时候,门徒进前来,把殿宇指给他看。
- New International Version - Jesus left the temple and was walking away when his disciples came up to him to call his attention to its buildings.
- New International Reader's Version - Jesus left the temple. He was walking away when his disciples came up to him. They wanted to call his attention to the temple buildings.
- English Standard Version - Jesus left the temple and was going away, when his disciples came to point out to him the buildings of the temple.
- New Living Translation - As Jesus was leaving the Temple grounds, his disciples pointed out to him the various Temple buildings.
- The Message - Jesus then left the Temple. As he walked away, his disciples pointed out how very impressive the Temple architecture was. Jesus said, “You’re not impressed by all this sheer size, are you? The truth of the matter is that there’s not a stone in that building that is not going to end up in a pile of rubble.”
- Christian Standard Bible - As Jesus left and was going out of the temple, his disciples came up and called his attention to its buildings.
- New American Standard Bible - Jesus left the temple area and was going on His way when His disciples came up to point out the temple buildings to Him.
- New King James Version - Then Jesus went out and departed from the temple, and His disciples came up to show Him the buildings of the temple.
- Amplified Bible - Jesus left the temple area and was going on His way when His disciples came up to Him to call His attention to the [magnificent and massive] buildings of the temple.
- American Standard Version - And Jesus went out from the temple, and was going on his way; and his disciples came to him to show him the buildings of the temple.
- King James Version - And Jesus went out, and departed from the temple: and his disciples came to him for to shew him the buildings of the temple.
- New English Translation - Now as Jesus was going out of the temple courts and walking away, his disciples came to show him the temple buildings.
- World English Bible - Jesus went out from the temple, and was going on his way. His disciples came to him to show him the buildings of the temple.
- 新標點和合本 - 耶穌出了聖殿,正走的時候,門徒進前來,把殿宇指給他看。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 耶穌出了聖殿,正離開的時候,門徒前來,把聖殿的建築指給他看。
- 和合本2010(神版-繁體) - 耶穌出了聖殿,正離開的時候,門徒前來,把聖殿的建築指給他看。
- 當代譯本 - 耶穌離開聖殿,正往外走的時候,門徒上前把聖殿建築指給祂看。
- 聖經新譯本 - 耶穌出了聖殿,往前走的時候,門徒前來把聖殿的建築指給他看。
- 呂振中譯本 - 耶穌從殿裏出來,正走路的時候,門徒上前來,把殿的建築指給他看。
- 中文標準譯本 - 耶穌從聖殿出來,往前走的時候,他的門徒們上前來,把聖殿的建築指給他看。
- 現代標點和合本 - 耶穌出了聖殿,正走的時候,門徒進前來,把殿宇指給他看。
- 文理和合譯本 - 耶穌出殿、途間門徒就焉、以殿宇示之、
- 文理委辦譯本 - 耶穌出殿、門徒就焉、以殿宇指與耶穌觀之、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 耶穌出聖殿行時、門徒就焉、以殿宇指與耶穌觀之、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 耶穌甫出殿、門徒就之於途、欲其一眺殿宇、
- Nueva Versión Internacional - Jesús salió del templo y, mientras caminaba, se le acercaron sus discípulos y le mostraron los edificios del templo.
- 현대인의 성경 - 예수님이 성전에서 나가실 때 제자들이 와서 예수님께 성전 건물을 보 이려고 하자
- Новый Русский Перевод - Когда Иисус выходил из храма, к Нему подошли ученики, которые хотели показать Ему здания храма.
- Восточный перевод - Когда Иса, выйдя из храма, уже уходил, к Нему подошли ученики, которые хотели обратить Его внимание на здания храма.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Когда Иса, выйдя из храма, уже уходил, к Нему подошли ученики, которые хотели обратить Его внимание на здания храма.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Когда Исо, выйдя из храма, уже уходил, к Нему подошли ученики, которые хотели обратить Его внимание на здания храма.
- La Bible du Semeur 2015 - Là-dessus, Jésus quitta la cour du Temple. Tandis qu’il s’éloignait, ses disciples s’approchèrent pour lui faire remarquer l’architecture du Temple.
- リビングバイブル - イエスが神殿の庭から出ようとしておられると、弟子たちが近寄って来て、「この神殿は、たいそうりっぱですね」と言いました。
- Nestle Aland 28 - Καὶ ἐξελθὼν ὁ Ἰησοῦς ἀπὸ τοῦ ἱεροῦ ἐπορεύετο, καὶ προσῆλθον οἱ μαθηταὶ αὐτοῦ ἐπιδεῖξαι αὐτῷ τὰς οἰκοδομὰς τοῦ ἱεροῦ.
- unfoldingWord® Greek New Testament - καὶ ἐξελθὼν ὁ Ἰησοῦς ἀπὸ τοῦ ἱεροῦ, ἐπορεύετο καὶ προσῆλθον οἱ μαθηταὶ αὐτοῦ, ἐπιδεῖξαι αὐτῷ τὰς οἰκοδομὰς τοῦ ἱεροῦ.
- Nova Versão Internacional - Jesus saiu do templo e, enquanto caminhava, seus discípulos aproximaram-se dele para lhe mostrar as construções do templo.
- Hoffnung für alle - Jesus verließ den Tempel und wandte sich zum Gehen. Da kamen seine Jünger und wollten ihm die riesigen Ausmaße der Tempelanlage zeigen.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Chúa Giê-xu bước ra khỏi Đền Thờ, các môn đệ lại gần, xin Ngài xem các công trình kiến trúc Đền Thờ.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - ขณะพระเยซูทรงดำเนินออกจากพระวิหาร เหล่าสาวกเข้ามาหาพระองค์ ชวนให้พระองค์ชมอาคารต่างๆ ในบริเวณพระวิหาร
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - แล้วพระเยซูก็ออกไปจากพระวิหาร ขณะที่กำลังเดินไปอยู่นั้น เหล่าสาวกของพระองค์ได้ชี้ตึกในบริเวณพระวิหารให้พระองค์ดู
交叉引用
- เอเสเคียล 11:22 - แล้วเหล่าเครูบก็กางปีกออก วงล้อก็อยู่ข้างๆ และสง่าราศีของพระเจ้าของอิสราเอลก็อยู่เหนือสิ่งเหล่านั้น
- เอเสเคียล 11:23 - สง่าราศีของพระเยโฮวาห์ขึ้นไปจากกลางนคร ไปสถิตอยู่บนภูเขาซึ่งอยู่ทางด้านตะวันออกของนครนั้น
- เอเสเคียล 10:17 - เมื่อเหล่าเครูบหยุดนิ่ง เหล่าวงล้อก็หยุดนิ่ง เมื่อเหล่าเครูบเหาะขึ้น เหล่าวงล้อก็เหาะขึ้นไปด้วย เพราะว่าวิญญาณของสิ่งที่มีชีวิตอยู่นั้นอยู่ในวงล้อ
- เอเสเคียล 10:18 - แล้วสง่าราศีของพระเยโฮวาห์ได้ไปจากธรณีประตูพระนิเวศ สถิตเหนือเหล่าเครูบ
- เอเสเคียล 10:19 - เมื่อเหล่าเครูบออกไปก็กางปีกออกบินขึ้นไปจากพิภพท่ามกลางสายตาของข้าพเจ้า วงล้อก็ตามข้างไปด้วย และไปยืนอยู่ที่ทางเข้าประตูด้านตะวันออกของพระนิเวศแห่งพระเยโฮวาห์ และสง่าราศีของพระเจ้าของอิสราเอลก็อยู่เหนือเครูบเหล่านั้น
- โฮเชยา 9:12 - ถึงแม้ว่าเขาจะเลี้ยงลูกไว้ได้จนโต เราก็จะพรากเขาไปเสียจนไม่เหลือสักคนเดียว เออ วิบัติแก่เขา เมื่อเราพรากจากเขาไป
- มัทธิว 21:23 - เมื่อพระองค์เสด็จเข้าไปในพระวิหารในเวลาที่ทรงสั่งสอนอยู่ พวกปุโรหิตใหญ่และพวกผู้ใหญ่ของประชาชนมาหาพระองค์ทูลถามว่า “ท่านมีสิทธิอันใดจึงได้ทำเช่นนี้ ใครให้สิทธินี้แก่ท่าน”
- เอเสเคียล 8:6 - และพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้ายิ่งกว่านั้นอีกว่า “บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย เจ้าไม่เห็นหรือว่าเขาทำอะไร คือการกระทำอันน่าสะอิดสะเอียนที่ยิ่งใหญ่ซึ่งวงศ์วานอิสราเอลกระทำกันอยู่ที่นี่ ซึ่งจะทำให้เราออกไปให้ไกลจากสถานบริสุทธิ์ของเรา แต่เจ้าจงหันกลับมาอีกแล้วจะได้เห็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนที่ยิ่งใหญ่กว่านี้อีก”
- เยเรมีย์ 6:8 - โอ กรุงเยรูซาเล็มเอ๋ย จงรับคำสั่งสอนเถิด เกรงว่าจิตใจเราจะพรากจากเจ้าไปเสีย เกรงว่าเราจะกระทำให้เจ้าเป็นที่รกร้าง เป็นแผ่นดินที่ปราศจากคนอาศัย”
- ยอห์น 2:20 - พวกยิวจึงทูลว่า “พระวิหารนี้เขาสร้างถึงสี่สิบหกปีจึงสำเร็จ และท่านจะยกขึ้นใหม่ในสามวันหรือ”
- ลูกา 21:5 - เมื่อบางคนพูดชมพระวิหารว่าได้ตกแต่งไว้ด้วยศิลางามและเครื่องถวาย พระองค์จึงตรัสว่า
- ลูกา 21:6 - “สิ่งเหล่านี้ที่ท่านทั้งหลายเห็น วันหนึ่งศิลาที่ซ้อนทับกันอยู่ที่นี่ซึ่งจะไม่ถูกทำลายลงก็หามิได้”
- ลูกา 21:7 - เขาทั้งหลายทูลถามพระองค์ว่า “พระอาจารย์เจ้าข้า เหตุการณ์เหล่านี้จะบังเกิดขึ้นเมื่อไร สิ่งไรเป็นหมายสำคัญว่าการณ์ทั้งปวงนี้จวนจะบังเกิดขึ้น”
- ลูกา 21:8 - พระองค์จึงตรัสว่า “ระวังให้ดี อย่าให้ผู้ใดล่อลวงท่านให้หลง ด้วยว่าจะมีหลายคนมาต่างอ้างนามของเราและว่า ‘เราเป็นพระคริสต์’ และว่า ‘เวลานั้นใกล้เข้ามาแล้ว’ ท่านทั้งหลายอย่าตามเขาไปเลย
- ลูกา 21:9 - เมื่อท่านทั้งหลายจะได้ยินถึงการสงครามและการจลาจล อย่าตกใจกลัว เพราะว่าสิ่งเหล่านั้นจำต้องเกิดขึ้นก่อน แต่ที่สุดปลายยังจะไม่มาทันที”
- ลูกา 21:10 - แล้วพระองค์ตรัสแก่เขาว่า “‘ประชาชาติจะลุกขึ้นต่อสู้ประชาชาติ ราชอาณาจักรต่อสู้ราชอาณาจักร’
- ลูกา 21:11 - ทั้งจะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ในที่ต่างๆ และจะเกิดกันดารอาหารและโรคระบาดอย่างร้ายแรง และจะมีความวิบัติอันน่ากลัว และหมายสำคัญใหญ่ๆจากฟ้าสวรรค์
- ลูกา 21:12 - แต่ก่อนเหตุการณ์เหล่านั้นเขาจะจับท่านไว้ และจะข่มเหงท่านและมอบท่านไว้ในธรรมศาลาและในคุก และพาท่านไปต่อหน้ากษัตริย์และเจ้าเมืองเพราะเหตุนามของเรา
- ลูกา 21:13 - การนั้นจะเกิดแก่ท่านเพื่อท่านจะได้เป็นพยาน
- ลูกา 21:14 - เหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายต้องปลงใจไว้ว่า จะไม่คิดนึกก่อนว่าจะแก้ตัวอย่างไร
- ลูกา 21:15 - ด้วยว่าเราจะให้ปากและปัญญาแก่ท่าน ซึ่งศัตรูทั้งหลายของท่านจะต่อต้านและคัดค้านไม่ได้
- ลูกา 21:16 - แม้แต่บิดามารดาญาติพี่น้องและมิตรสหายจะทรยศท่าน และพวกเขาจะฆ่าบางคนในพวกท่านเสีย
- ลูกา 21:17 - คนทั้งปวงจะเกลียดชังท่านเพราะเหตุนามของเรา
- ลูกา 21:18 - แต่ผมของท่านสักเส้นหนึ่งจะเสียไปก็หามิได้
- ลูกา 21:19 - ท่านจะได้ชีวิตรอดโดยความอดทนของท่าน
- ลูกา 21:20 - เมื่อท่านเห็นกองทัพทั้งหลายมาตั้งล้อมรอบกรุงเยรูซาเล็ม เมื่อนั้นจงรู้ว่าวิบัติของกรุงนั้นก็ใกล้เข้ามาแล้ว
- ลูกา 21:21 - เวลานั้นให้ผู้ที่อยู่ในแคว้นยูเดียหนีไปยังภูเขาและผู้ที่อยู่ในกรุงให้ออกไป และผู้ที่อยู่บ้านนอกอย่าให้เข้ามาในกรุง
- ลูกา 21:22 - เพราะว่าเวลานั้นเป็นวันแห่งการแก้แค้นเพื่อจะให้สิ่งสารพัดที่เขียนไว้นั้นสำเร็จ
- ลูกา 21:23 - แต่ในวันเหล่านั้นวิบัติแก่หญิงที่มีครรภ์หรือมีลูกอ่อนกินนมอยู่ เพราะว่าจะมีความทุกข์ร้อนใหญ่หลวงบนแผ่นดิน และจะทรงพระพิโรธแก่พลเมืองนี้
- ลูกา 21:24 - เขาจะล้มลงด้วยคมดาบ และต้องถูกกวาดเอาไปเป็นเชลยทั่วทุกประชาชาติ และคนต่างชาติจะเหยียบย่ำกรุงเยรูซาเล็ม จนกว่าเวลากำหนดของคนต่างชาตินั้นจะครบถ้วน
- ลูกา 21:25 - จะมีหมายสำคัญที่ดวงอาทิตย์ ที่ดวงจันทร์ และที่ดวงดาวทั้งปวง และบนแผ่นดินก็จะมีความทุกข์ร้อนตามชาติต่างๆ ซึ่งมีความฉงนสนเท่ห์เพราะเสียงกึกก้องของทะเลและคลื่น
- ลูกา 21:26 - จิตใจมนุษย์ก็จะสลบไสลไปเพราะความกลัว และเพราะสังหรณ์ถึงเหตุการณ์ซึ่งจะบังเกิดในโลก ด้วยว่า ‘บรรดาสิ่งที่มีอำนาจในท้องฟ้าจะสะเทือนสะท้านไป’
- ลูกา 21:27 - เมื่อนั้นเขาจะเห็นบุตรมนุษย์เสด็จมาในเมฆ ทรงฤทธานุภาพและสง่าราศีเป็นอันมาก
- ลูกา 21:28 - เมื่อเหตุการณ์ทั้งปวงนี้เริ่มจะบังเกิดขึ้นนั้น จงยืดตัวและผงกศีรษะขึ้น ด้วยการไถ่ท่านใกล้จะถึงแล้ว”
- ลูกา 21:29 - พระองค์ตรัสคำอุปมาแก่เขาว่า “จงดูต้นมะเดื่อและต้นไม้ทั้งปวงเถิด
- ลูกา 21:30 - เมื่อผลิใบออกแล้ว ท่านทั้งหลายก็เห็นและรู้อยู่เองว่าฤดูร้อนจวนจะถึงแล้ว
- ลูกา 21:31 - เช่นนั้นแหละ เมื่อท่านทั้งหลายเห็นเหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้น ก็ให้รู้ว่าอาณาจักรของพระเจ้าใกล้จะถึงแล้ว
- ลูกา 21:32 - เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า คนในชั่วอายุนี้จะไม่ล่วงลับไปจนกว่าสิ่งทั้งปวงนี้จะสำเร็จ
- ลูกา 21:33 - ฟ้าและดินจะล่วงไป แต่ถ้อยคำของเราจะสูญหายไปหามิได้เลย
- ลูกา 21:34 - แต่จงระวังตัวให้ดี เกลือกว่าในเวลาหนึ่งเวลาใดใจของท่านจะล้นไปด้วยอาการกินและดื่ม และด้วยการเมา และด้วยคิดกังวลถึงชีวิตนี้ แล้วเวลานั้นจะมาถึงท่านโดยไม่ทันรู้ตัว
- ลูกา 21:35 - เพราะว่าวันนั้นจะมาดุจบ่วงแร้วถึงคนทั้งปวงที่อยู่ทั่วพื้นแผ่นดินโลก
- ลูกา 21:36 - เหตุฉะนั้นจงเฝ้าระวังและอธิษฐานอยู่ทุกเวลา เพื่อท่านทั้งหลายสมควรที่จะพ้นเหตุการณ์ทั้งปวงซึ่งจะบังเกิดมานั้น และจะยืนอยู่ต่อหน้าบุตรมนุษย์ได้”
- มัทธิว 23:39 - ด้วยเราว่าแก่เจ้าทั้งหลายว่า เจ้าจะไม่เห็นเราอีกจนกว่าเจ้าจะกล่าวว่า ‘ขอให้พระองค์ผู้เสด็จมาในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระเจริญ’”
- มาระโก 13:1 - เมื่อพระองค์เสด็จออกจากพระวิหาร มีสาวกของพระองค์คนหนึ่งทูลพระองค์ว่า “พระอาจารย์เจ้าข้า ดูเถิด ศิลาและตึกเหล่านี้ใหญ่จริง”
- มาระโก 13:2 - พระองค์จึงตรัสแก่สาวกนั้นว่า “ท่านเห็นตึกใหญ่เหล่านี้หรือ ศิลาที่ซ้อนทับกันอยู่ที่นี่ซึ่งจะไม่ถูกทำลายลงก็หามิได้”
- มาระโก 13:3 - เมื่อพระองค์ประทับบนภูเขามะกอกเทศตรงหน้าพระวิหาร เปโตร ยากอบ ยอห์นและอันดรูว์มากราบทูลถามพระองค์ส่วนตัวว่า
- มาระโก 13:4 - “ขอทรงโปรดให้ข้าพระองค์ทั้งหลายทราบว่า เหตุการณ์เหล่านี้จะบังเกิดขึ้นเมื่อไร สิ่งไรจะเป็นหมายสำคัญว่าการณ์ทั้งปวงนี้จวนจะสำเร็จ”
- มาระโก 13:5 - พระเยซูจึงตั้งต้นตรัสตอบเขาว่า “ระวังให้ดี อย่าให้ผู้ใดล่อลวงท่านให้หลง
- มาระโก 13:6 - ด้วยว่าจะมีหลายคนมาต่างอ้างนามของเราว่า ‘เราเป็นพระคริสต์’ และจะล่อลวงคนเป็นอันมากให้หลงไป
- มาระโก 13:7 - เมื่อท่านทั้งหลายจะได้ยินถึงการสงครามและข่าวลือเรื่องสงคราม อย่าตื่นตระหนกเลย ด้วยว่าบรรดาสิ่งเหล่านี้จำต้องบังเกิดขึ้น แต่ที่สุดปลายยังไม่มาถึง
- มาระโก 13:8 - เพราะประชาชาติจะลุกขึ้นต่อสู้ประชาชาติ ราชอาณาจักรต่อสู้ราชอาณาจักร ทั้งจะเกิดแผ่นดินไหวในที่ต่างๆ และจะเกิดกันดารอาหารและความทุกข์ยาก เหตุการณ์ทั้งปวงนี้เป็นขั้นแรกแห่งความทุกข์ลำบาก
- มาระโก 13:9 - แต่จงระวังตัวให้ดี เพราะคนเขาจะมอบท่านทั้งหลายไว้กับศาล และจะเฆี่ยนท่านในธรรมศาลา และท่านจะต้องยืนต่อหน้าเจ้าเมืองและกษัตริย์เพราะเห็นแก่เรา เพื่อจะได้เป็นพยานแก่เขา
- มาระโก 13:10 - ข่าวประเสริฐจะต้องประกาศทั่วประชาชาติทั้งปวงก่อน
- มาระโก 13:11 - แต่ว่าเมื่อเขาจะนำท่านมามอบไว้นั้น อย่าเป็นกังวลก่อนว่าจะพูดอะไรดี และอย่าตรึกตรองเลย แต่จงพูดตามซึ่งได้ทรงโปรดให้ท่านพูดในเวลานั้น เพราะว่าผู้ที่พูดนั้นมิใช่ตัวท่านเอง แต่เป็นพระวิญญาณบริสุทธิ์
- มาระโก 13:12 - แม้ว่าพี่ก็จะทรยศน้องให้ถึงความตาย พ่อก็จะมอบลูก และลูกก็จะทรยศต่อพ่อแม่ให้ถึงแก่ความตาย
- มาระโก 13:13 - ท่านจะถูกคนทั้งปวงเกลียดชังเพราะเห็นแก่นามของเรา แต่ผู้ที่ทนได้จนถึงที่สุด ผู้นั้นจะรอด
- มาระโก 13:14 - แต่เมื่อท่านทั้งหลายจะเห็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนซึ่งกระทำให้เกิดการรกร้างว่างเปล่า ที่ดาเนียลศาสดาพยากรณ์ได้กล่าวถึงนั้น ตั้งอยู่ในที่ซึ่งไม่สมควรจะตั้ง” (ให้ผู้อ่านเข้าใจเอาเถิด) “เวลานั้นให้ผู้ที่อยู่ในแคว้นยูเดียหนีไปยังภูเขาทั้งหลาย
- มาระโก 13:15 - ผู้ที่อยู่บนดาดฟ้าหลังคาบ้าน อย่าให้ลงมาเข้าไปเก็บข้าวของใดๆออกจากบ้านของตน
- มาระโก 13:16 - ผู้ที่อยู่ตามทุ่งนา อย่าให้กลับไปเอาเสื้อผ้าของตน
- มาระโก 13:17 - แต่ในวันเหล่านั้น วิบัติจะเกิดขึ้นแก่หญิงที่มีครรภ์ หรือหญิงที่มีลูกอ่อนกินนมอยู่
- มาระโก 13:18 - ท่านทั้งหลายจงอธิษฐานขอเพื่อเหตุการณ์เหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นในฤดูหนาว
- มาระโก 13:19 - ด้วยว่าในคราวนั้นจะเกิดความทุกข์ลำบากอย่างที่ไม่เคยมี ตั้งแต่พระเจ้าทรงสร้างโลกมาจนถึงเวลานี้ และจะไม่มีต่อไปอีกเลย
- มาระโก 13:20 - ถ้าองค์พระผู้เป็นเจ้ามิได้ทรงให้วันเหล่านั้นย่นสั้นเข้า จะไม่มีเนื้อหนังใดๆรอดได้เลย แต่เพราะทรงเห็นแก่ผู้ถูกเลือกสรรซึ่งพระองค์ได้ทรงเลือกไว้ พระองค์จึงทรงให้วันเหล่านั้นย่นสั้นเข้า
- มาระโก 13:21 - และในเวลานั้น ถ้าผู้ใดจะบอกพวกท่านว่า ‘ดูเถิด พระคริสต์อยู่ที่นี่’ หรือ ‘ดูเถิด อยู่ที่โน่น’ อย่าได้เชื่อเลย
- มาระโก 13:22 - ด้วยว่าจะมีพระคริสต์เทียมเท็จและผู้ทำนายเทียมเท็จเกิดขึ้นหลายคน ทำหมายสำคัญและการมหัศจรรย์เพื่อล่อลวงผู้ที่ถูกเลือกสรรแล้วให้หลง ถ้าเป็นได้
- มาระโก 13:23 - แต่ท่านทั้งหลายจงระวังให้ดี ดูเถิด เราได้บอกสิ่งสารพัดให้แก่ท่านทั้งหลายไว้ก่อนแล้ว
- มาระโก 13:24 - ภายหลังเมื่อคราวลำบากนั้นพ้นไปแล้ว ‘ดวงอาทิตย์จะมืดไป และดวงจันทร์จะไม่ส่องแสง
- มาระโก 13:25 - ดวงดาวทั้งปวงจะตกจากฟ้า และบรรดาสิ่งที่มีอำนาจในท้องฟ้าจะสะเทือนสะท้านไป’
- มาระโก 13:26 - เมื่อนั้นเขาจะเห็น ‘บุตรมนุษย์เสด็จมาบนเมฆ’ ทรงฤทธานุภาพและสง่าราศีเป็นอันมาก
- มาระโก 13:27 - เมื่อนั้นพระองค์จะทรงใช้เหล่าทูตสวรรค์ของพระองค์ ให้รวบรวมคนทั้งปวงที่พระองค์ทรงเลือกสรรไว้แล้วจากลมทั้งสี่ทิศนั้น ตั้งแต่ที่สุดปลายแผ่นดินโลกจนถึงที่สุดขอบฟ้า
- มาระโก 13:28 - บัดนี้ จงเรียนคำอุปมาเรื่องต้นมะเดื่อ เมื่อกิ่งก้านยังอ่อนและแตกใบแล้ว ท่านก็รู้ว่าฤดูร้อนใกล้จะถึงแล้ว
- มาระโก 13:29 - เช่นนั้นแหละ เมื่อท่านทั้งหลายเห็นสิ่งทั้งปวงนี้เกิดขึ้น ก็ให้รู้ว่าเหตุการณ์นั้นมาใกล้จะถึงประตูแล้ว
- มาระโก 13:30 - เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า คนชั่วอายุนี้จะไม่ล่วงลับไปจนกว่าสิ่งทั้งปวงนี้บังเกิดขึ้น
- มาระโก 13:31 - ฟ้าและดินจะล่วงไป แต่ถ้อยคำของเราจะสูญหายไปหามิได้เลย
- มาระโก 13:32 - แต่วันนั้นโมงนั้นไม่มีใครรู้ ถึงบรรดาทูตสวรรค์ในสวรรค์หรือพระบุตรก็ไม่รู้ รู้แต่พระบิดาองค์เดียว
- มาระโก 13:33 - จงเฝ้าระวังและอธิษฐานอยู่ เพราะท่านไม่รู้ว่าเวลาวันนั้นจะมาถึงเมื่อไร
- มาระโก 13:34 - ด้วยว่าบุตรมนุษย์เปรียบเหมือนเจ้าของบ้านคนหนึ่งที่ออกจากบ้านไปทางไกล มอบสิทธิอำนาจให้แก่พวกผู้รับใช้ของเขา และให้รู้การงานของตนว่ามีหน้าที่อะไรและได้สั่งนายประตูให้เฝ้าบ้านอยู่
- มาระโก 13:35 - เหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงเฝ้าระวังอยู่ เพราะท่านไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านจะมาเมื่อไร จะมาเวลาค่ำ หรือเที่ยงคืน หรือเวลาไก่ขัน หรือรุ่งเช้า
- มาระโก 13:36 - กลัวว่าจะมาฉับพลันและจะพบท่านนอนหลับอยู่
- มาระโก 13:37 - ซึ่งเราบอกพวกท่าน เราก็บอกคนทั้งปวงด้วยว่า จงเฝ้าระวังอยู่เถิด”