逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - แม้ว่าเราทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปในหมู่ชนชาติต่างๆ แต่ในแดนไกลโพ้นพวกเขาจะระลึกถึงเรา พวกเขากับลูกหลานจะอยู่รอด และพวกเขาจะกลับมา
- 新标点和合本 - 我虽然(或译:必)播散他们在列国中, 他们必在远方记念我。 他们与儿女都必存活,且得归回。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 我要将他们分散在列国中, 他们必在远方记得我; 他们与儿女都必存活, 他们要归回。
- 和合本2010(神版-简体) - 我要将他们分散在列国中, 他们必在远方记得我; 他们与儿女都必存活, 他们要归回。
- 当代译本 - 虽然我把他们分散到列国, 他们必在远方想起我, 他们及其子女必得以幸存, 并且回到故土。
- 圣经新译本 - 虽然我把他们散播在万民中, 他们仍要在远方记念我; 他们与他们的子孙都要存活,并且归回。
- 中文标准译本 - 我虽然把他们播散在万民中, 他们却要在远方记念我; 他们与他们的儿女都必存活,并要回归。
- 现代标点和合本 - 我虽然 播散他们在列国中, 他们必在远方记念我。 他们与儿女都必存活,且得归回。
- 和合本(拼音版) - 我虽然 播散他们在列国中, 他们必在远方记念我。 他们与儿女都必存活,且得归回。
- New International Version - Though I scatter them among the peoples, yet in distant lands they will remember me. They and their children will survive, and they will return.
- New International Reader's Version - I have scattered them among the nations. But in lands far away they will remember me. They and their children will be kept alive. And they will return.
- English Standard Version - Though I scattered them among the nations, yet in far countries they shall remember me, and with their children they shall live and return.
- New Living Translation - Though I have scattered them like seeds among the nations, they will still remember me in distant lands. They and their children will survive and return again to Israel.
- Christian Standard Bible - Though I sow them among the nations, they will remember me in the distant lands; they and their children will live and return.
- New American Standard Bible - When I scatter them among the peoples, They will remember Me in distant countries, And they with their children will live and come back.
- New King James Version - “I will sow them among the peoples, And they shall remember Me in far countries; They shall live, together with their children, And they shall return.
- Amplified Bible - When I scatter them among the nations, They will remember Me in far countries, And with their children they will live and come back [to Me and the land I gave them].
- American Standard Version - And I will sow them among the peoples; and they shall remember me in far countries; and they shall live with their children, and shall return.
- King James Version - And I will sow them among the people: and they shall remember me in far countries; and they shall live with their children, and turn again.
- New English Translation - Though I scatter them among the nations, they will remember in far-off places – they and their children will sprout forth and return.
- World English Bible - I will sow them among the peoples; and they will remember me in far countries; and they will live with their children, and will return.
- 新標點和合本 - 我雖然(或譯:必)播散他們在列國中, 他們必在遠方記念我。 他們與兒女都必存活,且得歸回。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 我要將他們分散在列國中, 他們必在遠方記得我; 他們與兒女都必存活, 他們要歸回。
- 和合本2010(神版-繁體) - 我要將他們分散在列國中, 他們必在遠方記得我; 他們與兒女都必存活, 他們要歸回。
- 當代譯本 - 雖然我把他們分散到列國, 他們必在遠方想起我, 他們及其子女必得以倖存, 並且回到故土。
- 聖經新譯本 - 雖然我把他們散播在萬民中, 他們仍要在遠方記念我; 他們與他們的子孫都要存活,並且歸回。
- 呂振中譯本 - 我雖 播散他們在列族之民中, 他們在遠方還是要懷念着我; 他們跟兒女都必活着, 並且回來。
- 中文標準譯本 - 我雖然把他們播散在萬民中, 他們卻要在遠方記念我; 他們與他們的兒女都必存活,並要回歸。
- 現代標點和合本 - 我雖然 播散他們在列國中, 他們必在遠方記念我。 他們與兒女都必存活,且得歸回。
- 文理和合譯本 - 我將播之於列邦、彼在遠方、必記憶我、偕其子女得生而還、
- 文理委辦譯本 - 彼雖流離於列邦、必在遠方念我、率其子女、勢若復生、而歸斯土、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 我曾散之於列邦、彼在遠方、亦必念我、彼偕子女、皆生存而歸 故土、
- Nueva Versión Internacional - Aunque los dispersé entre los pueblos, en tierras remotas se acordarán de mí. Aunque vivieron allí con sus hijos, regresarán a su tierra.
- 현대인의 성경 - 내가 비록 그들을 온 세계에 흩어 버렸으나 그들은 멀리서도 나를 기억할 것이다. 그리고 그들과 그 자녀들이 생존하였다가 돌아올 것이다.
- Новый Русский Перевод - Пусть Я рассеял их среди народов – они Меня вспомнят и в дальних странах. Они и их дети выживут и возвратятся.
- Восточный перевод - Пусть Я рассеял их среди народов – они Меня вспомнят и в дальних странах. Они и их дети выживут и возвратятся.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Пусть Я рассеял их среди народов – они Меня вспомнят и в дальних странах. Они и их дети выживут и возвратятся.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Пусть Я рассеял их среди народов – они Меня вспомнят и в дальних странах. Они и их дети выживут и возвратятся.
- La Bible du Semeur 2015 - Je les ai dispersés ╵au sein de peuples étrangers, dans des pays lointains ; ╵là ils se souviendront de moi. Ils subsisteront avec leurs enfants, ils reviendront.
- リビングバイブル - わたしは彼らを種のように諸国にまき散らしたが、 それでも彼らはわたしを思い出し、 神のもとへ帰って来る。 子どもたちをみな連れて、 イスラエルのわが家へ帰って来る。
- Nova Versão Internacional - Embora eu os espalhe por entre os povos de terras distantes, eles se lembrarão de mim. Criarão seus filhos e voltarão.
- Hoffnung für alle - Wie man Samen aussät, so habe ich sie unter die Völker zerstreut. Doch wenn sie sich in den fernen Ländern wieder an mich erinnern, werden sie und ihre Kinder am Leben bleiben; ja, sie dürfen nach Israel heimkehren.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Dù Ta đã rải họ ra khắp các nước xa xôi, nhưng họ sẽ nhớ đến Ta. Họ sẽ trở về, đem theo tất cả con cái mình.
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - แม้ว่าเราให้พวกเขากระจัดกระจายไปในท่ามกลางบรรดาชนชาติ ซึ่งอยู่ไกลแสนไกล แต่พวกเขาก็จะยังจำเราได้ ทั้งตัวเขาและบรรดาลูกๆ จะคงชีวิตอยู่ได้ และพวกเขาจะกลับมา
交叉引用
- มีคาห์ 5:7 - คนหยิบมือที่เหลือของยาโคบ จะอยู่ท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย เหมือนน้ำค้างจากองค์พระผู้เป็นเจ้า เหมือนสายฝนโปรยปรายลงบนหญ้า ซึ่งไม่ต้องรอคอย หรือพึ่งพามนุษย์
- กิจการของอัครทูต 13:1 - คริสตจักรที่เมืองอันทิโอกมีผู้เผยพระวจนะและอาจารย์ได้แก่ บารนาบัส สิเมโอนที่เรียกกันว่านิเกอร์ ลูสิอัสชาวไซรีน มานาเอน (ผู้เติบโตมากับเฮโรดผู้ครองแคว้น) และเซาโล
- กิจการของอัครทูต 13:2 - ขณะเขาทั้งหลายกำลังนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าและอดอาหารพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็ตรัสว่า “จงตั้งบารนาบัสกับเซาโลไว้สำหรับเราเพื่องานซึ่งเราได้เรียกให้พวกเขาทำ”
- กิจการของอัครทูต 13:3 - ดังนั้นหลังจากอดอาหารและอธิษฐานแล้วพวกเขาจึงวางมือบนเขาทั้งสองแล้วส่งออกไป
- กิจการของอัครทูต 13:4 - พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงส่งเขาทั้งสองลงมาที่เมืองเซลูเคียและนั่งเรือจากที่นั่นมายังเกาะไซปรัส
- กิจการของอัครทูต 13:5 - เมื่อมาถึงเมืองซาลามิสพวกเขาก็ประกาศพระวจนะของพระเจ้าในธรรมศาลาของพวกยิว ยอห์นก็อยู่เป็นผู้ช่วยของพวกเขาด้วย
- กิจการของอัครทูต 13:6 - พวกเขาเดินทางไปทั่วเกาะจนมาถึงเมืองปาโฟส ที่นั่นพวกเขาพบนักคาถาอาคมชาวยิว ซึ่งเป็นผู้พยากรณ์เท็จชื่อบารเยซู
- กิจการของอัครทูต 13:7 - เขาเป็นคนของผู้ตรวจการเสอร์จีอัสพอลัส ผู้ตรวจการคนนี้เป็นคนเฉลียวฉลาด เขาส่งคนมาตามบารนาบัสกับเซาโลไปพบเพราะต้องการฟังพระวจนะของพระเจ้า
- กิจการของอัครทูต 13:8 - แต่เอลีมาสนักคาถาอาคม (เพราะชื่อของเขาหมายความว่าอย่างนั้น) ขัดขวางและพยายามดึงผู้ตรวจการให้หันเหจากความเชื่อ
- กิจการของอัครทูต 13:9 - แล้วเซาโลผู้มีอีกชื่อหนึ่งว่าเปาโลเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์มองตรงไปที่เอลีมาสและกล่าวว่า
- กิจการของอัครทูต 13:10 - “เจ้าเป็นลูกของมารร้ายเป็นศัตรูต่อทุกสิ่งที่ถูกต้อง! เจ้ามีแต่ความหลอกลวงและเล่ห์เพทุบาย เจ้าจะไม่หยุดบิดเบือนวิถีอันถูกต้องขององค์พระผู้เป็นเจ้าเลยหรือ?
- กิจการของอัครทูต 13:11 - บัดนี้พระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะจัดการกับเจ้า เจ้าจะตาบอดมองไม่เห็นแสงตะวันตลอดช่วงหนึ่ง” ทันใดนั้นความมืดมัวเกิดแก่เอลีมาสและเขาต้องคลำหาคนให้จูงมือไป
- กิจการของอัครทูต 13:12 - เมื่อผู้ตรวจการเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เชื่อเพราะอัศจรรย์ใจในคำสอนเกี่ยวกับองค์พระผู้เป็นเจ้า
- กิจการของอัครทูต 13:13 - เปาโลกับพวกนั่งเรือจากเมืองปาโฟสไปยังเมืองเปอร์กาในแคว้นปัมฟีเลีย ที่นั่นยอห์นจากพวกเขากลับไปยังกรุงเยรูซาเล็ม
- กิจการของอัครทูต 13:14 - จากเมืองเปอร์กาพวกเขาเดินทางต่อมายังเมืองอันทิโอกในแคว้นปิสิเดีย ในวันสะบาโตก็เข้ามานั่งในธรรมศาลา
- กิจการของอัครทูต 13:15 - หลังจากอ่านหนังสือบทบัญญัติและหนังสือผู้เผยพระวจนะแล้วเหล่านายธรรมศาลาก็ให้คนมาบอกพวกเขาว่า “พี่น้องเอ๋ย หากมีอะไรจะให้กำลังใจแก่ที่ประชุมก็เชิญกล่าวเถิด”
- กิจการของอัครทูต 13:16 - เปาโลยืนขึ้นโบกมือและกล่าวว่า “ชนอิสราเอลและท่านชาวต่างชาติผู้นมัสการพระเจ้าโปรดฟังข้าพเจ้า!
- กิจการของอัครทูต 13:17 - พระเจ้าของชนชาติอิสราเอลทรงเลือกสรรบรรพบุรุษของเรา ทรงให้เหล่าประชากรเจริญรุ่งเรืองขณะอยู่ในอียิปต์ ทรงนำพวกเขาออกมาจากประเทศนั้นด้วยฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่
- กิจการของอัครทูต 13:18 - พระองค์ทรงอดทนต่อความประพฤติของเหล่าบรรพบุรุษ เป็นเวลาสี่สิบปีในถิ่นกันดาร
- กิจการของอัครทูต 13:19 - ทรงโค่นล้มเจ็ดประชาชาติในคานาอัน และประทานดินแดนของพวกเขาให้เป็นกรรมสิทธิ์ของประชากรของพระองค์
- กิจการของอัครทูต 13:20 - เหตุการณ์ทั้งหมดนี้อยู่ในช่วง 450 ปี “หลังจากนั้นพระเจ้าได้ประทานเหล่าผู้วินิจฉัยให้เขาจนถึงสมัยของผู้เผยพระวจนะซามูเอล
- กิจการของอัครทูต 13:21 - จากนั้นเหล่าประชากรขอมีกษัตริย์และพระองค์ประทานซาอูลบุตรของคีชแห่งตระกูลเบนยามินซึ่งปกครองอยู่สี่สิบปี
- กิจการของอัครทูต 13:22 - หลังจากพระเจ้าทรงปลดซาอูลพระองค์ก็ทรงตั้งดาวิดขึ้นเป็นกษัตริย์และทรงเป็นพยานเกี่ยวกับดาวิดว่า ‘เราพบว่าดาวิดบุตรเจสซีเป็นผู้ที่เราชอบใจยิ่งนัก เขาจะทำทุกสิ่งที่เราต้องการให้เขาทำ’
- กิจการของอัครทูต 13:23 - “จากวงศ์วานของดาวิดนี้เองพระเจ้าทรงนำพระเยซูพระผู้ช่วยให้รอดตามที่ทรงสัญญาไว้มาสู่อิสราเอล
- กิจการของอัครทูต 13:24 - ก่อนพระเยซูเสด็จมายอห์นประกาศเรื่องการกลับใจใหม่และการรับบัพติศมาแก่ปวงชนอิสราเอล
- กิจการของอัครทูต 13:25 - เมื่อยอห์นทำงานของตนใกล้จะเสร็จแล้วเขากล่าวว่า ‘พวกท่านคิดว่าข้าพเจ้าเป็นใคร? ข้าพเจ้าไม่ใช่ผู้ที่พวกท่านกำลังมองหาอยู่ แต่มีผู้หนึ่งกำลังจะมาภายหลังข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่คู่ควรแม้แต่จะถอดฉลองพระบาทของพระองค์’
- กิจการของอัครทูต 13:26 - “พี่น้องทั้งหลายผู้เป็นลูกหลานของอับราฮัมและท่านชาวต่างชาติผู้ยำเกรงพระเจ้า พวกเรานี่แหละคือผู้ที่เรื่องราวแห่งความรอดนี้มีมาถึง
- กิจการของอัครทูต 13:27 - ชาวกรุงเยรูซาเล็มกับพวกผู้นำของเขาไม่รู้ว่าพระเยซูทรงเป็นผู้ใด ถึงกระนั้นที่เขาตัดสินลงโทษพระองค์ก็เป็นไปตามคำของผู้เผยพระวจนะซึ่งอ่านกันอยู่ทุกวันสะบาโต
- กิจการของอัครทูต 13:28 - ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่พบมูลเหตุใดที่จะเอาผิดถึงตายก็ยังขอให้ปีลาตประหารพระองค์
- กิจการของอัครทูต 13:29 - เมื่อเขาทั้งหลายได้ทำตามสิ่งทั้งปวงที่มีเขียนไว้เกี่ยวกับพระองค์แล้วก็นำพระศพลงจากต้นไม้ไปวางไว้ในอุโมงค์
- กิจการของอัครทูต 13:30 - แต่พระเจ้าทรงให้พระองค์เป็นขึ้นจากตาย
- กิจการของอัครทูต 13:31 - และบรรดาผู้ที่ได้ตามเสด็จพระองค์จากแคว้นกาลิลีมายังกรุงเยรูซาเล็มได้เห็นพระองค์เป็นเวลาหลายวัน บัดนี้พวกเขาเป็นพยานเรื่องพระองค์แก่ประชาชนของเรา
- กิจการของอัครทูต 13:32 - “พวกเราแจ้งข่าวประเสริฐนี้แก่ท่าน คือสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงสัญญาไว้กับเหล่าบรรพบุรุษของเรา
- กิจการของอัครทูต 13:33 - พระองค์ได้ทรงกระทำให้สำเร็จแล้วเพื่อพวกเราผู้เป็นลูกหลานของคนเหล่านั้นโดยทรงให้พระเยซูเป็นขึ้นตามที่เขียนไว้ในสดุดีบทที่สองว่า “ ‘เจ้าเป็นบุตรของเรา วันนี้เราได้เป็นบิดาของเจ้า ’
- กิจการของอัครทูต 13:34 - ความจริงที่ว่าพระเจ้าทรงให้พระองค์เป็นขึ้นจากตาย ไม่ต้องเน่าเปื่อยเลย ระบุไว้ในข้อความที่ว่า “ ‘เราจะให้พรอันบริสุทธิ์และแน่นอนแก่เจ้าตามที่ได้สัญญาไว้กับดาวิด’
- กิจการของอัครทูต 13:35 - และอีกตอนหนึ่งที่ว่า “ ‘พระองค์จะไม่ทรงปล่อยให้องค์บริสุทธิ์ของพระองค์เน่าเปื่อย’
- กิจการของอัครทูต 13:36 - “เพราะเมื่อดาวิดได้ทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าในชั่วอายุของเขาแล้วเขาก็ล่วงลับไปและถูกฝังไว้กับเหล่าบรรพบุรุษและร่างกายของเขาก็เน่าเปื่อยไป
- กิจการของอัครทูต 13:37 - แต่พระองค์ผู้ซึ่งพระเจ้าทรงให้เป็นขึ้นจากตายนั้นไม่เคยเน่าเปื่อย
- กิจการของอัครทูต 13:38 - “ฉะนั้นพี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าอยากให้ท่านรู้ว่าโดยทางพระเยซูนี้จึงมีการประกาศการอภัยโทษบาปแก่ท่านทั้งหลาย
- เอสเธอร์ 8:17 - เมื่อพระราชโองการมาถึงทุกหัวเมืองทุกมณฑล ชาวยิวทั้งปวงเต็มไปด้วยความชื่นชมยินดีและเปรมปรีดิ์ มีงานเลี้ยงเฉลิมฉลองใหญ่โต มีคนเชื้อชาติอื่นมากมายมาเข้าเป็นพวกยิวเพราะคร้ามกลัวชาวยิวอย่างจับใจ
- กิจการของอัครทูต 3:25 - และท่านทั้งหลายคือทายาทของบรรดาผู้เผยพระวจนะและพันธสัญญาซึ่งพระเจ้าทรงกระทำกับเหล่าบรรพบุรุษของท่าน พระองค์ได้ตรัสกับอับราฮัมว่า ‘ประชาชาติทั่วโลกจะได้รับพรผ่านทางวงศ์วานของเจ้า’
- กิจการของอัครทูต 3:26 - เมื่อพระเจ้าทรงยกผู้รับใช้ของพระองค์ขึ้นมาแล้วก็ทรงส่งพระองค์มายังพวกท่านก่อนเพื่ออวยพรท่านโดยทำให้แต่ละคนหันจากวิถีชั่วของตน”
- โรม 11:11 - ข้าพเจ้าถามอีกว่าพวกเขาสะดุดล้มจนลุกไม่ขึ้นหรือ? ไม่ใช่เลย! แต่เพราะการล่วงละเมิดของเขา ความรอดจึงมาถึงคนต่างชาติเพื่อให้อิสราเอลอิจฉา
- โรม 11:12 - แต่ถ้าการล่วงละเมิดของเขาหมายถึงความไพบูลย์สำหรับโลก และการสูญเสียของเขาหมายถึงความไพบูลย์สำหรับคนต่างชาติแล้ว ความบริบูรณ์ของเขาจะยิ่งนำความไพบูลย์มาให้มากมายเพียงใด!
- โรม 11:13 - ข้าพเจ้ากำลังพูดกับพวกท่านซึ่งเป็นคนต่างชาติ และในฐานะอัครทูตมายังคนต่างชาติ ข้าพเจ้าให้ความสำคัญกับพันธกิจของตน
- โรม 11:14 - โดยหวังว่าข้าพเจ้าอาจจะกระตุ้นพี่น้องร่วมชาติให้เกิดความอิจฉาและช่วยพวกเขาบางคนให้รอดได้
- โรม 11:15 - เพราะถ้าการที่พระเจ้าทรงละทิ้งพวกเขา เป็นเหตุให้โลกกลับคืนดีกับพระองค์แล้ว การที่พระองค์ทรงรับพวกเขากลับมาอีกนั้น จะเป็นอะไรนอกจากการมีชีวิตเป็นขึ้นจากตาย?
- โรม 11:16 - ถ้าแป้งส่วนที่ถวายเป็นผลแรกนั้นบริสุทธิ์ แป้งทั้งก้อนย่อมบริสุทธิ์ ถ้ารากบริสุทธิ์ กิ่งทั้งหลายย่อมบริสุทธิ์ด้วย
- โรม 11:17 - หากบางกิ่งถูกหักออกไป และแม้ท่านจะเป็นหน่อมะกอกป่า ก็ถูกนำมาต่อเข้าท่ามกลางกิ่งอื่นๆ และบัดนี้ได้รับน้ำหล่อเลี้ยงจากรากมะกอก
- อาโมส 9:9 - “เพราะเราจะออกคำสั่ง และเราจะเขย่าพงศ์พันธุ์อิสราเอล ท่ามกลางมวลประชาชาติ เหมือนเขย่ากระด้งฝัดข้าว แต่จะไม่มีสักเมล็ดเดียวตกถึงพื้น
- กิจการของอัครทูต 11:19 - ฝ่ายบรรดาผู้ที่กระจัดกระจายไปเนื่องจากการข่มเหงอันเกี่ยวโยงกับสเทเฟน ก็เดินทางไปไกลถึงเมืองฟีนิเซีย เกาะไซปรัสและเมืองอันทิโอก และเล่าเรื่องราวนั้นแก่พวกยิวเท่านั้น
- กิจการของอัครทูต 11:20 - แต่ก็มีบางคนในพวกเขาที่มาจากเกาะไซปรัสและจากเมืองไซรีนได้ไปที่เมืองอันทิโอกและเล่าข่าวประเสริฐเรื่ององค์พระเยซูเจ้าแก่ชาวกรีกด้วย
- กิจการของอัครทูต 11:21 - พระหัตถ์ของพระเจ้าอยู่กับเขาเหล่านั้น ผู้คนมากมายเชื่อและกลับใจมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้า
- กิจการของอัครทูต 8:4 - บรรดาผู้กระจัดกระจายไปนั้นก็เที่ยวประกาศพระวจนะในทุกแห่งหนที่พวกเขาไป
- ดาเนียล 3:1 - กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ ทรงสร้างเทวรูปทองคำสูงถึง 60 ศอก กว้าง 6 ศอก ตั้งไว้ในที่ราบดูราในมณฑลบาบิโลน
- ดาเนียล 3:2 - แล้วทรงให้เรียกเสนาบดี ข้าหลวงภาค ผู้ว่าการ ราชมนตรี ขุนคลัง ผู้พิพากษา ตุลาการ และเจ้าหน้าที่ของทุกมณฑลมาชุมนุมเพื่อร่วมงานฉลองเทวรูปซึ่งสถาปนาขึ้นนั้น
- ดาเนียล 3:3 - คนเหล่านั้นก็มาร่วมฉลองและยืนอยู่หน้าเทวรูปที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ทรงสร้างขึ้น
- ดาเนียล 3:4 - แล้วมีเสียงป่าวประกาศว่า “บรรดาพลเมืองทุกชาติทุกภาษา มีพระราชโองการว่า
- ดาเนียล 3:5 - ทันทีที่พวกเจ้าได้ยินเสียงเขาสัตว์ ขลุ่ย พิณ พิณเขาคู่ พิณใหญ่ ปี่ และเสียงดนตรีทุกชนิด จงหมอบกราบลงนมัสการเทวรูปทองคำที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์สร้างขึ้น
- ดาเนียล 3:6 - ผู้ใดก็ตามที่ไม่ยอมหมอบกราบลงนมัสการ จะถูกโยนเข้าไปในเตาไฟลุกโชนทันที”
- เยเรมีย์ 31:27 - องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “เวลานั้นจะมาถึง เมื่อเราจะสร้างพงศ์พันธุ์อิสราเอลและยูดาห์ โดยให้ทั้งมนุษย์และสัตว์มีลูกหลานมากมาย
- กิจการของอัครทูต 8:1 - และเซาโลอยู่ที่นั่นก็เห็นชอบกับการตายของสเทเฟน ครั้งนั้นเกิดการข่มเหงคริสตจักรครั้งใหญ่ที่กรุงเยรูซาเล็ม สาวกทั้งปวงยกเว้นพวกอัครทูตได้กระจัดกระจายไปทั่วแคว้นยูเดียและสะมาเรีย
- อิสยาห์ 65:9 - เราจะนำลูกหลานจากยาโคบและจากยูดาห์ออกมา ผู้ซึ่งจะครอบครองภูเขาต่างๆ ของเรา ประชากรที่เราเลือกสรรจะได้รับมันเป็นมรดก และผู้รับใช้ของเราจะอาศัยอยู่ที่นั่น
- เนหะมีย์ 1:9 - แต่หากเจ้าหันกลับมาหาเราและเชื่อฟังคำสั่งของเรา ถึงแม้เจ้าจะตกเป็นเชลยในแดนไกลสุดขอบฟ้า เราก็จะรวบรวมเจ้าทั้งหลายกลับสู่สถานที่นี้ ซึ่งเราได้เลือกเป็นที่สถาปนานามของเรา’
- เฉลยธรรมบัญญัติ 30:1 - เมื่อพระพรและคำสาปแช่งทั้งปวงที่ข้าพเจ้าได้ประกาศไว้เกิดขึ้น ท่านก็จะคิดได้ในขณะที่ท่านอาศัยอยู่ในชาติต่างๆ ซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงกระจายท่านไป
- เฉลยธรรมบัญญัติ 30:2 - และเมื่อใดที่ท่านและบุตรหลานหันกลับมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และเชื่อฟังพระองค์อย่างสุดจิตสุดใจในทุกสิ่งที่ข้าพเจ้าแจ้งท่านในวันนี้
- เฉลยธรรมบัญญัติ 30:3 - เมื่อนั้นพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านก็จะทรงให้ท่านกลับรุ่งเรืองขึ้นอีกครั้งหนึ่ง พระองค์จะทรงเอ็นดูสงสารท่าน และรวบรวมท่านกลับคืนมาจากชนชาติต่างๆ ซึ่งพระองค์ทรงกระจายท่านไป
- เฉลยธรรมบัญญัติ 30:4 - แม้ท่านจะถูกเนรเทศไปไกลลิบโลก พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านก็จะรวบรวมท่านจากที่นั่นและนำท่านกลับมาอีก
- กิจการของอัครทูต 14:1 - ที่เมืองอิโคนียูมเปาโลกับบารนาบัสเข้าไปในธรรมศาลาของพวกยิวตามปกติ พวกเขาประกาศอย่างเกิดผลจนมีชาวยิวและชาวต่างชาติมากมายมาเชื่อ
- กิจการของอัครทูต 14:2 - แต่พวกยิวที่ไม่ยอมเชื่อก็ปลุกปั่นคนต่างชาติและทำให้พวกเขามีใจคิดร้ายต่อพวกพี่น้อง
- กิจการของอัครทูต 14:3 - ฝ่ายเปาโลกับบารนาบัสใช้เวลาอยู่ที่นั่นนานพอสมควร พวกเขาประกาศด้วยใจกล้าเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงยืนยันเรื่องราวแห่งพระคุณของพระองค์โดยให้เขาทั้งสองทำหมายสำคัญและปาฏิหาริย์ต่างๆ
- กิจการของอัครทูต 14:4 - ชาวเมืองนั้นแยกเป็นสองฝ่าย พวกหนึ่งอยู่ฝ่ายพวกยิว อีกพวกอยู่ฝ่ายอัครทูต
- กิจการของอัครทูต 14:5 - คนต่างชาติกับพวกยิวและหัวหน้าของพวกเขาคบคิดกันจะทำร้ายและเอาหินขว้างเปาโลกับบารนาบัส
- กิจการของอัครทูต 14:6 - แต่เขาทั้งสองล่วงรู้แผนการนี้จึงหนีไปยังแคว้นลิคาโอเนีย ที่เมืองลิสตรา เมืองเดอร์บีกับแถบใกล้เคียงโดยรอบ
- กิจการของอัครทูต 14:7 - และได้ประกาศข่าวประเสริฐที่นั่นต่อไป
- กิจการของอัครทูต 14:8 - ที่เมืองลิสตรามีชายขาพิการคนหนึ่งนั่งอยู่ เขาเป็นง่อยมาตั้งแต่เกิด ไม่เคยเดินเลย
- กิจการของอัครทูต 14:9 - คนนั้นนั่งฟังเปาโลพูด เปาโลมองตรงไปที่เขาเห็นว่าเขามีความเชื่อที่จะได้รับการรักษาให้หายได้
- กิจการของอัครทูต 14:10 - จึงร้องว่า “จงลุกขึ้นยืน!” คนนั้นก็กระโดดขึ้นยืนและเริ่มเดินไป
- กิจการของอัครทูต 14:11 - เมื่อฝูงชนเห็นสิ่งที่เปาโลได้ทำก็ร้องตะโกนเป็นภาษาลิคาโอเนียว่า “เหล่าเทพเจ้าได้จำแลงเป็นมนุษย์ลงมาหาพวกเราแล้ว!”
- กิจการของอัครทูต 14:12 - พวกเขาเรียกบารนาบัสว่าเทพเจ้าซุสและเรียกเปาโลว่าเทพเจ้าเฮอร์เมสเพราะส่วนใหญ่เปาโลเป็นผู้พูด
- กิจการของอัครทูต 14:13 - ปุโรหิตของเทพเจ้าซุสซึ่งวิหารอยู่นอกเมืองไปเล็กน้อยได้นำโคและพวงมาลามาที่ประตูเมืองเพราะเขากับฝูงชนประสงค์จะถวายเครื่องบูชาแก่เปาโลกับบารนาบัส
- กิจการของอัครทูต 14:14 - แต่เมื่ออัครทูตบารนาบัสกับเปาโลได้ยินเรื่องนี้ก็ฉีกเสื้อผ้าแล้วถลันเข้าไปกลางฝูงชนและตะโกนว่า
- กิจการของอัครทูต 14:15 - “ท่านทั้งหลาย เหตุใดจึงทำเช่นนี้? เราเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาเช่นเดียวกับพวกท่าน เรานำข่าวประเสริฐมาเพื่อให้ท่านหันจากสิ่งไร้ค่าเหล่านี้มาหาพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์ แผ่นดินโลก ทะเล และสรรพสิ่งในนั้น
- กิจการของอัครทูต 14:16 - ในอดีตพระองค์ทรงปล่อยประชาชาติทั้งปวงไปตามทางของเขา
- กิจการของอัครทูต 14:17 - กระนั้นพระองค์โปรดให้มีพยานหลักฐานถึงพระองค์เอง คือทรงสำแดงพระคุณโดยประทานฝนจากฟ้าสวรรค์และพืชผลตามฤดูกาล พระองค์ประทานอาหารอันอุดมสมบูรณ์แก่ท่านและให้จิตใจของท่านเปี่ยมด้วยความชื่นชมยินดี”
- กิจการของอัครทูต 14:18 - แม้กล่าวเช่นนี้แล้วก็ยังยากที่เขาทั้งสองจะห้ามฝูงชนไม่ให้ถวายเครื่องบูชาแก่พวกเขา
- กิจการของอัครทูต 14:19 - แล้วพวกยิวบางคนมาจากเมืองอันทิโอกและเมืองอิโคนียูมและชักจูงฝูงชนให้มาเป็นพวกตนได้สำเร็จ พวกเขาเอาหินขว้างเปาโลและลากออกนอกเมืองเพราะคิดว่าเขาตายแล้ว
- กิจการของอัครทูต 14:20 - แต่หลังจากที่เหล่าสาวกเข้ามาห้อมล้อมเขาเปาโลก็ลุกขึ้นและกลับเข้าไปในเมือง วันรุ่งขึ้นเขากับบารนาบัสก็ออกเดินทางไปเมืองเดอร์บี
- กิจการของอัครทูต 14:21 - พวกเขาประกาศข่าวประเสริฐในเมืองนั้นและมีคนมากมายมาเป็นสาวก จากนั้นพวกเขากลับไปยังเมืองลิสตรา เมืองอิโคนียูม และเมืองอันทิโอก
- โรม 11:24 - ในที่สุดถ้าท่านถูกตัดจากต้นซึ่งตามธรรมชาติเป็นมะกอกป่า และนำมาต่อกิ่งเข้ากับต้นมะกอกสวนซึ่งเป็นการขัดกับธรรมชาติ จะง่ายยิ่งกว่านั้นสักเท่าใดที่จะนำกิ่งต่างๆ ตามธรรมชาติมาต่อเข้ากับต้นเดิมของมันเอง!
- กิจการของอัครทูต 2:38 - เปโตรตอบว่า “พวกท่านทุกคนจงกลับใจใหม่และรับบัพติศมาในพระนามของพระเยซูคริสต์เพื่อรับการทรงอภัยโทษบาปของท่าน และพวกท่านจะได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นของประทาน
- กิจการของอัครทูต 2:39 - พระสัญญานั้นมีแก่ท่านทั้งหลายและลูกหลานของพวกท่านตลอดจนคนทั้งปวงที่อยู่ไกล คือคนทั้งปวงที่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของเราจะทรงเรียก”
- เยเรมีย์ 51:50 - พวกเจ้าผู้หนีรอดจากคมดาบ จงไปเสีย อย่ามัวร่ำไรอยู่! ในแดนไกลโพ้น จงระลึกถึงองค์พระผู้เป็นเจ้า และคิดถึงเยรูซาเล็ม”
- อิสยาห์ 65:23 - พวกเขาจะไม่ตรากตรำโดยเปล่าประโยชน์ หรือคลอดลูกมารับเคราะห์กรรม เพราะเขาจะเป็นประชาชาติที่องค์พระผู้เป็นเจ้าอวยพร ทั้งเขาและลูกหลานของเขา
- โฮเชยา 2:23 - เราจะปลูกนางไว้ในดินแดนนั้นเพื่อเรา เราจะแสดงความรักแก่ผู้ที่เราเรียกว่า ‘ไม่เป็นที่รักของเรา ’ เราจะเรียกผู้ที่ ‘ไม่ใช่ประชากรของเรา ’ ว่า ‘เจ้าคือประชากรของเรา’ และพวกเขาจะเรียกเราว่า ‘พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของเรา’ ”
- 1พงศ์กษัตริย์ 8:47 - และถ้าเขากลับใจได้ในแดนเชลย สำนึกผิด ทูลวิงวอนต่อพระองค์ในดินแดนนั้นและทูลว่า ‘ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำบาป ข้าพระองค์ทั้งหลายผิดไปแล้ว และข้าพระองค์ทั้งหลายได้ประพฤติชั่ว’
- 1พงศ์กษัตริย์ 8:48 - และหากเขาหันกลับมาหาพระองค์ด้วยสุดจิตสุดใจในแดนเชลย และอธิษฐานตรงมายังดินแดนแห่งนี้ซึ่งพระองค์ประทานแก่บรรพบุรุษ ตรงมายังนครซึ่งพระองค์ทรงเลือกสรรและยังพระวิหารแห่งนี้ซึ่งข้าพระองค์ได้สร้างขึ้นเพื่อพระนามของพระองค์
- เอเสเคียล 6:9 - ผู้ที่หนีรอดไปได้จะระลึกถึงเราในหมู่ชนชาติที่เขาถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลย ว่าเราชอกช้ำใจเพียงใด เพราะใจใฝ่คบชู้ของพวกเขาซึ่งหันเหไปจากเรา เพราะตาของพวกเขาซึ่งกระสันหารูปเคารพต่างๆ เขาจะเกลียดตัวเองเพราะความชั่วที่ได้ทำลงไปและเพราะความประพฤติอันน่ารังเกียจทั้งสิ้นของตน