逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - ทั้งๆ ที่เห็นทั้งหมดนี้แล้ว พวกเขาก็ยังคงทำบาปต่อไป ทั้งๆที่เห็นการอัศจรรย์ต่างๆ ของพระองค์ พวกเขาก็ยังไม่เชื่อ
- 新标点和合本 - 虽是这样,他们仍旧犯罪, 不信他奇妙的作为。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 虽是这样,他们仍旧犯罪, 不信他奇妙的作为。
- 和合本2010(神版-简体) - 虽是这样,他们仍旧犯罪, 不信他奇妙的作为。
- 当代译本 - 即使如此, 他们依旧犯罪, 不相信上帝奇妙的作为。
- 圣经新译本 - 虽然经历了这一切,他们仍然犯罪; 尽管 看见这些奇事,他们仍不相信。
- 中文标准译本 - 即使如此,他们还是犯罪, 不相信他的奇妙作为。
- 现代标点和合本 - 虽是这样,他们仍旧犯罪, 不信他奇妙的作为。
- 和合本(拼音版) - 虽是这样,他们仍旧犯罪, 不信他奇妙的作为。
- New International Version - In spite of all this, they kept on sinning; in spite of his wonders, they did not believe.
- New International Reader's Version - But even after all that, they kept on sinning. Even after the wonderful things he had done, they still didn’t believe.
- English Standard Version - In spite of all this, they still sinned; despite his wonders, they did not believe.
- New Living Translation - But in spite of this, the people kept sinning. Despite his wonders, they refused to trust him.
- The Message - And—can you believe it?—they kept right on sinning; all those wonders and they still wouldn’t believe! So their lives wasted away to nothing— nothing to show for their lives but a ghost town. When he cut them down, they came running for help; they turned and pled for mercy. They gave witness that God was their rock, that High God was their redeemer, But they didn’t mean a word of it; they lied through their teeth the whole time. They could not have cared less about him, wanted nothing to do with his Covenant.
- Christian Standard Bible - Despite all this, they kept sinning and did not believe his wondrous works.
- New American Standard Bible - In spite of all this they still sinned And did not believe in His wonderful works.
- New King James Version - In spite of this they still sinned, And did not believe in His wondrous works.
- Amplified Bible - In spite of all this they still sinned, For they did not believe in His wonderful and extraordinary works.
- American Standard Version - For all this they sinned still, And believed not in his wondrous works.
- King James Version - For all this they sinned still, and believed not for his wondrous works.
- New English Translation - Despite all this, they continued to sin, and did not trust him to do amazing things.
- World English Bible - For all this they still sinned, and didn’t believe in his wondrous works.
- 新標點和合本 - 雖是這樣,他們仍舊犯罪, 不信他奇妙的作為。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 雖是這樣,他們仍舊犯罪, 不信他奇妙的作為。
- 和合本2010(神版-繁體) - 雖是這樣,他們仍舊犯罪, 不信他奇妙的作為。
- 當代譯本 - 即使如此, 他們依舊犯罪, 不相信上帝奇妙的作為。
- 聖經新譯本 - 雖然經歷了這一切,他們仍然犯罪; 儘管 看見這些奇事,他們仍不相信。
- 呂振中譯本 - 雖經過了這一切,他們仍然犯罪, 不信上帝奇妙的作為。
- 中文標準譯本 - 即使如此,他們還是犯罪, 不相信他的奇妙作為。
- 現代標點和合本 - 雖是這樣,他們仍舊犯罪, 不信他奇妙的作為。
- 文理和合譯本 - 民猶干罪、不信其奇行兮、
- 文理委辦譯本 - 民猶犯罪、不信異跡、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 雖然如此、民仍犯罪、不信主之奇跡、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 作惡如故。尚不知警。
- Nueva Versión Internacional - A pesar de todo, siguieron pecando y no creyeron en sus maravillas.
- 현대인의 성경 - 그런데도 그들이 계속 죄를 짓고 기적을 보고도 그를 신뢰하지 않았으므로
- La Bible du Semeur 2015 - Malgré cela, ils ont péché encore, ils n’ont pas eu foi, malgré ses prodiges .
- リビングバイブル - それでもなお、人々は罪を犯し続け、 神の奇跡を信じようとはしませんでした。
- Nova Versão Internacional - A despeito disso tudo, continuaram pecando; não creram nos seus prodígios.
- Hoffnung für alle - Dennoch sündigten sie weiter und vertrauten ihm nicht, obwohl er all diese Wunder vollbracht hatte.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Thế mà họ vẫn cứ phạm tội. Hoài nghi các phép lạ Ngài.
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - แม้กระนั้นพวกเขายังจะทำบาปอีก แม้พระองค์ได้ทำให้เห็นสิ่งอัศจรรย์ต่างๆ แล้ว พวกเขาก็ยังไม่เชื่อ
交叉引用
- เอเสเคียล 20:13 - “ ‘ถึงอย่างนั้นชนชาติอิสราเอลก็กบฏต่อเราในถิ่นกันดาร พวกเขาไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายของเรา แต่ละคนทิ้งบทบัญญัติของเรา แม้ว่าผู้ที่ประพฤติตามจะดำรงชีวิตอยู่โดยบทบัญญัตินั้น พวกเขาทำให้สะบาโตของเรามัวหมองที่สุด ฉะนั้นเราจึงลั่นวาจาว่าจะระบายโทสะลงเหนือพวกเขา และทำลายล้างพวกเขาในถิ่นกันดาร
- กันดารวิถี 25:1 - ขณะอิสราเอลตั้งค่ายอยู่ที่ชิทธีม พวกผู้ชายเริ่มทำผิดทางเพศกับหญิงชาวโมอับ
- กันดารวิถี 25:2 - ผู้เชื้อเชิญพวกเขาไปร่วมเซ่นสังเวยแก่พระของพวกนาง พวกเขาก็ร่วมงานเลี้ยงและกราบไหว้พระเหล่านั้น
- กันดารวิถี 25:3 - อิสราเอลหันไปร่วมนมัสการพระบาอัลแห่งเปโอร์ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระพิโรธอิสราเอลยิ่งนัก
- กันดารวิถี 25:4 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงนำตัวบรรดาผู้นำของประชาชนเหล่านั้นมาประหาร แล้วแขวนไว้กลางแดดระอุต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อพระพิโรธอันรุนแรงขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะหันเหไปจากอิสราเอล”
- กันดารวิถี 25:5 - ดังนั้นโมเสสจึงสั่งเหล่าตุลาการของอิสราเอลว่า “พวกท่านแต่ละคนจะต้องประหารคนของพวกท่านที่ได้ร่วมนมัสการพระบาอัลแห่งเปโอร์”
- กันดารวิถี 25:6 - ขณะนั้นชายอิสราเอลคนหนึ่งพาหญิงชาวมีเดียนเข้ามาในค่ายพักต่อหน้าต่อตาโมเสสและชุมนุมประชากรอิสราเอลทั้งหมดซึ่งยืนร่ำไห้อยู่ตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ
- กันดารวิถี 25:7 - เมื่อฟีเนหัสบุตรเอเลอาซาร์บุตรของปุโรหิตอาโรนเห็นเช่นนี้ ก็ละจากชุมนุมประชากรและจับทวน
- กันดารวิถี 25:8 - ติดตามชายผู้นั้นเข้าไปในเต็นท์ แล้วพุ่งทวนทะลุร่างของคนทั้งสอง ภัยพิบัติที่เกิดแก่ชนอิสราเอลก็สงบลง
- กันดารวิถี 25:9 - แต่ก็มีผู้เสียชีวิตเพราะภัยพิบัติไปแล้วถึง 24,000 คน
- กันดารวิถี 25:10 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า
- กันดารวิถี 25:11 - “ฟีเนหัสบุตรเอเลอาซาร์ หลานชายปุโรหิตอาโรน เป็นผู้หันโทสะของเราไปจากชนอิสราเอล เพราะเขาเจ็บแค้นแทนเรา เพื่อปกป้องเกียรติของเรา เราจึงหยุดทำลายล้างอิสราเอลตามที่ตั้งใจไว้
- กันดารวิถี 25:12 - ฉะนั้นจงบอกเขาว่าเราได้ตั้งพันธสัญญาแห่งสันติภาพกับเขา
- กันดารวิถี 25:13 - เขากับลูกหลานจะได้ถือพันธสัญญาครองความเป็นปุโรหิตตลอดไป เนื่องจากเขามีใจกระตือรือร้นเพื่อเกียรติของพระเจ้าของเขา และได้ลบบาปให้ชนอิสราเอล”
- กันดารวิถี 25:14 - ชาวอิสราเอลคนที่ถูกประหารพร้อมหญิงชาวมีเดียนนั้นคือศิมรีบุตรของสาลู เขาเป็นผู้นำคนหนึ่งของตระกูลสิเมโอน
- กันดารวิถี 25:15 - หญิงคนนั้นชื่อคสบี บุตรสาวศูร์ซึ่งเป็นผู้นำคนหนึ่งของชาวมีเดียน
- กันดารวิถี 25:16 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า
- กันดารวิถี 25:17 - “จงตั้งตนเป็นศัตรูกับชาวมีเดียนและประหารพวกเขา
- กันดารวิถี 25:18 - เพราะพวกเขาทำตัวเป็นศัตรูโดยหลอกลวงพวกเจ้าถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่เปโอร์ และเรื่องคสบีบุตรสาวผู้นำแห่งมีเดียน หญิงผู้ถูกประหารในคราวภัยพิบัติอันเนื่องมาจากเปโอร์”
- กันดารวิถี 21:1 - เมื่อกษัตริย์แห่งอาราดชาวคานาอันผู้อาศัยอยู่ในเนเกบได้ยินข่าวว่าอิสราเอลเคลื่อนเข้ามาตามเส้นทางสู่อาธาริม เขาก็มาโจมตีอิสราเอลและจับบางคนไปเป็นเชลย
- กันดารวิถี 21:2 - อิสราเอลจึงถวายปฏิญาณต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “หากพระองค์ทรงช่วยให้พวกเรารบชนะคนเหล่านี้ พวกเราจะทำลายล้าง เมืองต่างๆ ของพวกเขาให้ราบเป็นหน้ากลอง”
- กันดารวิถี 21:3 - องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสดับฟังคำทูลขอของอิสราเอล และทรงมอบชาวคานาอันไว้ในมือของพวกเขา พวกเขาทำลายล้างคนเหล่านั้นกับเมืองต่างๆ จนหมดสิ้น ที่แห่งนั้นจึงได้ชื่อว่า โฮรมาห์
- กันดารวิถี 21:4 - พวกเขาเดินทางจากภูเขาโฮร์ไปตามทางที่จะไปทะเลแดงเพื่ออ้อมดินแดนเอโดม แต่ประชากรยิ่งรู้สึกท้อแท้มากขึ้น
- กันดารวิถี 21:5 - พากันบ่นว่าพระเจ้าและโมเสสว่า “ทำไมท่านถึงได้พาเราออกจากอียิปต์มาตายในถิ่นกันดารนี้? ไม่มีขนมปัง! ไม่มีน้ำ! เราเกลียดมานาที่แสนจะน่าเบื่อ!”
- กันดารวิถี 21:6 - แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าจึงส่งงูพิษมาในหมู่พวกเขา ชนอิสราเอลหลายคนถูกงูกัดตาย
- ยอห์น 12:37 - แม้พระเยซูได้กระทำหมายสำคัญทั้งปวงนี้ต่อหน้าพวกเขา พวกเขาก็ยังไม่เชื่อพระองค์
- สดุดี 78:11 - เขาลืมสิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำ ลืมการอัศจรรย์ต่างๆ ที่ได้ทรงสำแดงแก่เขา
- ลูกา 16:31 - “อับราฮัมกล่าวกับเขาว่า ‘ถ้าพวกเขาไม่ฟังโมเสสกับเหล่าผู้เผยพระวจนะ ต่อให้ใครเป็นขึ้นจากตาย เขาก็จะไม่ยอมเชื่อ’ ”
- กันดารวิถี 16:1 - โคราห์บุตรอิสฮาร์ ผู้เป็นบุตรของโคฮาท ผู้เป็นบุตรของเลวี และชายเผ่ารูเบนคือดาธานกับอาบีรัมบุตรเอลีอับ และโอนบุตรเปเลท มีใจเหิมเกริม
- กันดารวิถี 16:2 - และลุกฮือขึ้นต่อต้านโมเสส มีผู้นำที่มีชื่อเสียง 250 คนซึ่งเคยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภามาเข้าพวกด้วย
- กันดารวิถี 16:3 - พวกเขารวมตัวกันต่อต้านโมเสสกับอาโรน และกล่าวกับเขาทั้งสองว่า “ท่านทำเกินไปแล้ว! ชุมชนทั้งหมดล้วนบริสุทธิ์และองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตอยู่กับพวกเขา ทำไมท่านจึงตั้งตัวอยู่เหนือชุมนุมประชากรขององค์พระผู้เป็นเจ้า?”
- กันดารวิถี 16:4 - เมื่อโมเสสได้ยินเช่นนี้ก็หมอบกราบซบหน้าลง
- กันดารวิถี 16:5 - แล้วเขากล่าวกับโคราห์และพรรคพวกว่า “พรุ่งนี้เช้าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงแสดงให้เห็นว่าใครเป็นคนของพระองค์ ใครเป็นผู้บริสุทธิ์ และพระองค์จะทรงให้ผู้นั้นเข้ามาใกล้พระองค์ ผู้ที่พระองค์ทรงเลือก พระองค์จะทรงให้เข้าใกล้ชิดพระองค์
- กันดารวิถี 16:6 - โคราห์และพรรคพวกของท่านทุกคนจงทำอย่างนี้
- กันดารวิถี 16:7 - พรุ่งนี้จงเอากระถางไฟมาจุด แล้วใส่เครื่องหอมต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเลือกจะเป็นผู้บริสุทธิ์ ลูกหลานเลวีเอ๋ยท่านทำเกินไปแล้ว!”
- กันดารวิถี 16:8 - โมเสสกล่าวกับโคราห์ด้วยว่า “ฟังเถิด คนเลวีเอ๋ย!
- กันดารวิถี 16:9 - ยังไม่พอหรือที่พระเจ้าแห่งอิสราเอลทรงเลือกท่านจากชุมนุมประชากรอิสราเอลให้เข้ามาใกล้พระองค์ มาปฏิบัติหน้าที่ในพลับพลาขององค์พระผู้เป็นเจ้าและได้ยืนอยู่ต่อหน้าชุมชนอิสราเอลเพื่อปรนนิบัติพวกเขา
- กันดารวิถี 16:10 - พระเจ้าได้ทรงนำท่านกับพี่น้องทุกคนในเผ่าเลวีมาใกล้พระองค์ แต่นี่ท่านจะเรียกร้องเอาตำแหน่งปุโรหิตด้วย
- กันดารวิถี 16:11 - ที่ท่านกับพวกรวมตัวกันมาอย่างนี้ เป็นการต่อต้านองค์พระผู้เป็นเจ้าอาโรนเป็นใครเล่าที่ท่านจะมาบ่นว่าเขา?”
- กันดารวิถี 16:12 - แล้วโมเสสจึงเรียกดาธานและอาบีรัมบุตรเอลีอับมาพบ แต่คนทั้งสองพูดว่า “เราจะไม่ไป!
- กันดารวิถี 16:13 - ที่ท่านพาเราออกมาจากดินแดนอันอุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้ง เพื่อมาฆ่าในถิ่นกันดารนี้ยังไม่พอหรือ? และบัดนี้ยังอยากเป็นเจ้าเป็นนายเหนือพวกเราอีกหรือ?
- กันดารวิถี 16:14 - มิหนำซ้ำท่านก็ไม่ได้พาเราเข้าสู่ดินแดนอันอุดมด้วยน้ำนมน้ำผึ้ง หรือยกไร่นา สวนองุ่นให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเราเลย คิดจะตบตา คนพวกนี้หรือ? เราจะไม่ไป!”
- กันดารวิถี 16:15 - โมเสสโกรธมากและกราบทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “ขออย่าทรงรับเครื่องบูชาของพวกเขาเลย ข้าพระองค์ไม่เคยแม้แต่ริบลาของพวกเขามาสักตัวหนึ่งและไม่เคยทำผิดต่อพวกเขาเลย”
- กันดารวิถี 16:16 - โมเสสกล่าวกับโคราห์ว่า “พรุ่งนี้ท่านกับพรรคพวกจงมาเข้าเฝ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าอาโรนก็จะมาด้วย
- กันดารวิถี 16:17 - แต่ละคนจงเอากระถางไฟใส่เครื่องหอมมาคนละหนึ่งกระถาง รวมทั้งหมด 250 กระถาง มาต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าท่านและอาโรนก็จะเอากระถางไฟมาถวายด้วย”
- กันดารวิถี 14:1 - ในคืนนั้นประชาชนทั้งปวงส่งเสียงร้องไห้กันดังระงม
- กันดารวิถี 14:2 - ชุมนุมประชากรทั้งหมดบ่นกับโมเสสและอาโรนว่า “เราน่าจะตายตั้งแต่ยังอยู่ที่อียิปต์! หรือไม่ก็ตายในถิ่นกันดารนี้!
- กันดารวิถี 14:3 - ทำไมองค์พระผู้เป็นเจ้าจึงพาเรามายังดินแดนนี้ เพียงเพื่อให้ตายด้วยคมดาบ? ลูกเมียของเราจะต้องตกเป็นเชลย เราออกจากที่นี่กลับไปอียิปต์ไม่ดีกว่าหรือ?”
- กันดารวิถี 14:4 - แล้วเขาพูดต่อๆ กันว่า “พวกเราควรจะเลือกผู้นำสักคนและกลับไปอียิปต์กัน”
- กันดารวิถี 14:5 - โมเสสและอาโรนจึงหมอบกราบซบหน้าลงกับพื้นต่อหน้าชุมชนอิสราเอลทั้งปวงที่นั่น
- กันดารวิถี 14:6 - โยชูวาบุตรนูนและคาเลบบุตรเยฟุนเนห์ซึ่งออกไปสำรวจดินแดนด้วยจึงฉีกเสื้อผ้าของตน
- กันดารวิถี 14:7 - และกล่าวแก่ชุมนุมประชากรอิสราเอลทั้งปวงว่า “ดินแดนที่เราเข้าไปสำรวจนั้นดีเยี่ยมจริงๆ
- กันดารวิถี 14:8 - หากองค์พระผู้เป็นเจ้าโปรดปรานพวกเรา พระองค์จะทรงนำเราเข้าไปในดินแดนที่อุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้ง และจะยกดินแดนนั้นให้แก่เรา
- กันดารวิถี 14:9 - ขอเพียงแต่เราอย่ากบฏต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าเลย ไม่ต้องกลัวผู้คนในดินแดนนั้น เพราะเราจะกลืนกินพวกเขา สิ่งที่พิทักษ์รักษาเขาก็สูญสิ้นไปแล้ว แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับเรา อย่ากลัวพวกเขาเลย”
- กันดารวิถี 14:10 - แต่ชุมนุมประชากรทั้งปวงคบคิดกันจะเอาก้อนหินขว้างเขาทั้งสอง ขณะนั้นพระเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาปรากฏที่เต็นท์นัดพบต่อหน้าชนอิสราเอลทั้งปวง
- กันดารวิถี 14:11 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “ประชากรเหล่านี้จะสบประมาทเราไปนานเท่าใด? พวกเขาจะไม่ยอมเชื่อถือเราอีกนานเท่าใด? ทั้งๆ ที่เราได้ทำการอัศจรรย์นานัปการในหมู่พวกเขา
- กันดารวิถี 14:12 - เราจะใช้ภัยพิบัติมาทำลายพวกนั้น แต่เราจะทำให้เจ้าเป็นชนชาติที่ยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งกว่าพวกเขา”
- กันดารวิถี 14:13 - โมเสสกราบทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “ชาวอียิปต์จะได้ยินเรื่องนี้! เรื่องที่พระองค์ทรงนำประชากรเหล่านี้ออกมาจากหมู่พวกเขาโดยฤทธิ์อำนาจของพระองค์
- กันดารวิถี 14:14 - และเขาจะเล่าเรื่องนี้ให้ผู้คนแถบนี้ฟัง ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพวกเขาได้ยินแล้วว่าพระองค์สถิตอยู่กับประชากรเหล่านี้ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพวกเขาได้เห็นพระพักตร์ของพระองค์ และทราบว่าเมฆของพระองค์อยู่เหนือพวกเขา พระองค์ทรงนำหน้าพวกเขาไปด้วยเสาเมฆในเวลากลางวันและเสาเพลิงในเวลากลางคืน
- กันดารวิถี 14:15 - หากพระองค์ทรงประหารประชากรทั้งหมดในคราวเดียวกัน ประชาชาติทั้งหลายที่ได้ยินเรื่องนี้จะพูดกันว่า
- กันดารวิถี 14:16 - ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่สามารถนำคนเหล่านี้ไปยังดินแดนที่ทรงสัญญา โดยคำปฏิญาณว่าจะมอบให้ จึงทรงประหารเขาในถิ่นกันดาร’
- กันดารวิถี 14:17 - “บัดนี้ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสำแดงอานุภาพดังที่ได้ทรงประกาศไว้ว่า
- กันดารวิถี 14:18 - ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกริ้วช้า บริบูรณ์ด้วยความรักมั่นคง ทรงอภัยบาปและการกบฏ แต่พระองค์จะไม่ทรงละเว้นโทษผู้ที่ทำผิด พระองค์จะทรงลงโทษลูกหลานของเขาเพราะบาปของบรรพบุรุษถึงสามสี่ชั่วอายุคน’
- กันดารวิถี 14:19 - โดยเห็นแก่ความรักอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ขอทรงอภัยโทษบาปของประชากรเหล่านี้ดังที่ได้ทรงอภัยให้เสมอมาตั้งแต่ข้าพระองค์ทั้งหลายออกจากอียิปต์มาจวบจนบัดนี้”
- กันดารวิถี 14:20 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสตอบว่า “เราได้อภัยโทษให้พวกเขาตามที่เจ้าขอร้องแล้ว
- กันดารวิถี 14:21 - แต่เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด ทั่วพิภพโลกจะเต็มไปด้วยเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้าฉันนั้น
- กันดารวิถี 14:22 - ทุกคนที่ได้เห็นเกียรติสิริของเราและเห็นหมายสำคัญที่เราได้ทำทั้งในอียิปต์และในถิ่นกันดารแล้วยังไม่ยอมเชื่อฟังเรา แต่ลองดีกับเรานับสิบครั้ง
- กันดารวิถี 14:23 - ในบรรดาคนเหล่านี้จะไม่มีสักคนเดียวที่จะได้เห็นดินแดนที่เราสัญญาโดยปฏิญาณว่าจะยกให้บรรพบุรุษของเขา จะไม่มีใครที่ดูหมิ่นเรา แล้วจะได้เห็นดินแดนนี้
- กันดารวิถี 14:24 - ส่วนคาเลบผู้รับใช้ของเรามีจิตใจแตกต่างออกไป และติดตามเราอย่างสุดใจ เราจะพาเขาเข้าไปยังดินแดนที่เขาได้สำรวจมา และวงศ์วานของเขาจะได้ครอบครองดินแดนนั้น
- กันดารวิถี 14:25 - เนื่องจากชาวอามาเลข และชาวคานาอันอาศัยอยู่ในหุบเขา พรุ่งนี้เจ้าจะต้องออกเดินทางกลับไปยังถิ่นกันดาร ตามทางถึงทะเลแดง”
- กันดารวิถี 14:26 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสและอาโรนว่า
- กันดารวิถี 14:27 - “ชุมชนที่ชั่วร้ายเหล่านี้จะบ่นว่าเราอีกนานเท่าใด? เราได้ยินคำพร่ำบ่นของคนอิสราเอลเหล่านี้แล้ว
- กันดารวิถี 14:28 - ดังนั้นจงบอกพวกเขาว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ว่า เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด เราจะทำกับเจ้าอย่างที่เจ้าได้พูดไว้ฉันนั้น
- กันดารวิถี 14:29 - คือพวกเจ้าจะล้มตายในถิ่นกันดารนี้ คือพวกเจ้าทุกคนที่มีอายุยี่สิบปีขึ้นไปตามที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ และได้บ่นว่าเรา
- กันดารวิถี 14:30 - จะไม่มีสักคนได้เข้าดินแดนที่เราสัญญาว่าจะยกให้เป็นที่อยู่อาศัยของเจ้า ยกเว้นคาเลบบุตรเยฟุนเนห์กับโยชูวาบุตรนูน
- กันดารวิถี 14:31 - ส่วนลูกหลานที่เจ้าทั้งหลายพูดว่าจะตกเป็นเชลยนั้น เราจะพาเข้าไปชื่นชมดินแดนที่พวกเจ้ามองข้าม
- กันดารวิถี 14:32 - ส่วนพวกเจ้าจะล้มตายในถิ่นกันดารนี้
- กันดารวิถี 14:33 - ลูกหลานของเจ้าจะเลี้ยงแกะอยู่ที่นี่เป็นเวลาสี่สิบปี รับความทุกข์ยากเพราะเหตุที่พวกเจ้าไม่ซื่อสัตย์ต่อเรา จวบจนคนสุดท้ายในพวกเจ้าล้มตายลงในถิ่นกันดาร
- กันดารวิถี 14:34 - เจ้าจะรับโทษบาปของตนและรู้ว่าการที่เจ้าทำให้เราต่อสู้กับเจ้านั้นเป็นเช่นไรเป็นเวลาสี่สิบปี หนึ่งปีแทนหนึ่งวันของสี่สิบวันแห่งการสำรวจดินแดน’
- กันดารวิถี 14:35 - เราผู้เป็นพระยาห์เวห์ได้ลั่นวาจาแล้ว และเราจะทำแก่ชุมชนชั่วร้ายทั้งหมด ซึ่งรวมหัวกันต่อต้านเราตามนี้อย่างแน่นอน พวกเขาจะพบจุดจบในถิ่นกันดารนี้ จะตายที่นี่”
- กันดารวิถี 14:36 - ดังนั้นบรรดาผู้ที่โมเสสใช้ไปสำรวจดินแดนและกลับมารายงานในแง่ร้ายเกี่ยวกับดินแดนนั้น ซึ่งทำให้เหล่าประชากรบ่นว่าโมเสส
- กันดารวิถี 14:37 - คนเหล่านั้นซึ่งกระจายข่าวในแง่ร้ายเกี่ยวกับดินแดนนั้นก็ล้มตายลงด้วยโรคภัยต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า
- กันดารวิถี 14:38 - ในบรรดาคนที่ไปสำรวจ มีเพียงโยชูวาบุตรนูนกับคาเลบบุตรเยฟุนเนห์เท่านั้นที่รอดชีวิตอยู่
- กันดารวิถี 14:39 - เมื่อโมเสสแจ้งเรื่องนี้แก่ปวงชนอิสราเอล พวกเขาพากันร่ำไห้ด้วยความเศร้าเสียใจแสนสาหัส
- กันดารวิถี 14:40 - เช้าตรู่วันรุ่งขึ้นพวกเขามุ่งหน้าขึ้นไปยังแถบเทือกเขาสูง และกล่าวว่า “เราทำบาปไปแล้ว เราจะขึ้นไปยังดินแดนที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสัญญาไว้”
- กันดารวิถี 14:41 - แต่โมเสสกล่าวว่า “ทำไมพวกท่านจึงฝ่าฝืนพระบัญชาขององค์พระผู้เป็นเจ้า? งานนี้จะไม่สำเร็จ!
- กันดารวิถี 14:42 - อย่าขึ้นไปเลยเพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้สถิตกับท่าน ท่านจะพ่ายแพ้ศัตรู
- กันดารวิถี 14:43 - เพราะชาวอามาเลขกับชาวคานาอันจะประจันหน้ากับพวกท่านที่นั่น เพราะพวกท่านได้หันหนีจากองค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์จะไม่สถิตกับท่าน ท่านจะล้มตายด้วยคมดาบ”
- กันดารวิถี 14:44 - อย่างไรก็ตามพวกเขาดันทุรังบุกขึ้นไปยังดินแดนเทือกเขา ทั้งๆ ที่โมเสสหรือหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้เคลื่อนไปจากค่ายพัก
- กันดารวิถี 14:45 - แล้วชาวอามาเลขกับชาวคานาอันซึ่งอาศัยอยู่ในแถบเทือกเขานั้น ก็ยกกำลังมาโจมตีพวกเขาและไล่ต้อนพวกเขาไปถึงโฮรมาห์
- สดุดี 78:22 - เพราะพวกเขาไม่ได้เชื่อในพระเจ้า หรือไว้วางใจว่าพระองค์จะทรงช่วยกู้ได้