逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - พระเยซูตรัสตอบว่า “มีคำเขียนไว้ว่า ‘มนุษย์ไม่อาจดำรงชีวิตด้วยอาหารเพียงอย่างเดียวแต่ดำรงชีวิตด้วยทุกถ้อยคำจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า’ ”
- 新标点和合本 - 耶稣却回答说:“经上记着说: ‘人活着,不是单靠食物, 乃是靠 神口里所出的一切话。’”
- 和合本2010(上帝版-简体) - 耶稣却回答说:“经上记着: ‘人活着,不是单靠食物, 乃是靠上帝口里所出的一切话。’”
- 和合本2010(神版-简体) - 耶稣却回答说:“经上记着: ‘人活着,不是单靠食物, 乃是靠 神口里所出的一切话。’”
- 当代译本 - 耶稣回答说:“圣经上说,‘人活着不是单靠食物,而是靠上帝口中的每一句话。’ ”
- 圣经新译本 - 耶稣回答:“经上记着: ‘人活着,不是单靠食物, 更要靠 神口里所出的一切话。’”
- 中文标准译本 - 耶稣回答说:“经上记着: ‘人活着不是单靠食物, 而是靠神口里所出的每一句话。’ ”
- 现代标点和合本 - 耶稣却回答说:“经上记着说: ‘人活着不是单靠食物, 乃是靠神口里所出的一切话。’”
- 和合本(拼音版) - 耶稣却回答说:“经上记着说: “‘人活着,不是单靠食物, 乃是靠上帝口里所出的一切话。’ ”
- New International Version - Jesus answered, “It is written: ‘Man shall not live on bread alone, but on every word that comes from the mouth of God.’ ”
- New International Reader's Version - Jesus answered, “It is written, ‘Man must not live only on bread. He must also live on every word that comes from the mouth of God.’ ” ( Deuteronomy 8:3 )
- English Standard Version - But he answered, “It is written, “‘Man shall not live by bread alone, but by every word that comes from the mouth of God.’”
- New Living Translation - But Jesus told him, “No! The Scriptures say, ‘People do not live by bread alone, but by every word that comes from the mouth of God.’ ”
- The Message - Jesus answered by quoting Deuteronomy: “It takes more than bread to stay alive. It takes a steady stream of words from God’s mouth.”
- Christian Standard Bible - He answered, “It is written: Man must not live on bread alone but on every word that comes from the mouth of God.”
- New American Standard Bible - But He answered and said, “It is written: ‘Man shall not live on bread alone, but on every word that comes out of the mouth of God.’ ”
- New King James Version - But He answered and said, “It is written, ‘Man shall not live by bread alone, but by every word that proceeds from the mouth of God.’ ”
- Amplified Bible - But Jesus replied, “It is written and forever remains written, ‘Man shall not live by bread alone, but by every word that comes out of the mouth of God.’ ”
- American Standard Version - But he answered and said, It is written, Man shall not live by bread alone, but by every word that proceedeth out of the mouth of God.
- King James Version - But he answered and said, It is written, Man shall not live by bread alone, but by every word that proceedeth out of the mouth of God.
- New English Translation - But he answered, “It is written, ‘Man does not live by bread alone, but by every word that comes from the mouth of God.’”
- World English Bible - But he answered, “It is written, ‘Man shall not live by bread alone, but by every word that proceeds out of the mouth of God.’”
- 新標點和合本 - 耶穌卻回答說:「經上記着說: 人活着,不是單靠食物, 乃是靠神口裏所出的一切話。」
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 耶穌卻回答說:「經上記着: 『人活着,不是單靠食物, 乃是靠上帝口裏所出的一切話。』」
- 和合本2010(神版-繁體) - 耶穌卻回答說:「經上記着: 『人活着,不是單靠食物, 乃是靠 神口裏所出的一切話。』」
- 當代譯本 - 耶穌回答說:「聖經上說,『人活著不是單靠食物,而是靠上帝口中的每一句話。』 」
- 聖經新譯本 - 耶穌回答:“經上記著: ‘人活著,不是單靠食物, 更要靠 神口裡所出的一切話。’”
- 呂振中譯本 - 耶穌回答說:『有記着說: 「人活着、不是單要靠着餅, 乃是靠上帝口裏所出的一切話。」』
- 中文標準譯本 - 耶穌回答說:「經上記著: 『人活著不是單靠食物, 而是靠神口裡所出的每一句話。』 」
- 現代標點和合本 - 耶穌卻回答說:「經上記著說: 『人活著不是單靠食物, 乃是靠神口裡所出的一切話。』」
- 文理和合譯本 - 曰、記有之、人之生不第恃食、惟恃上帝所出之言、
- 文理委辦譯本 - 耶穌曰、記有之、人得生、不惟餅、惟上帝所命、○
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 耶穌曰、經載云、人得生、不第恃餅、亦恃凡天主口所出之言、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 耶穌曰:『經云、人生非專恃飲食、惟恃天主口中所發諸命。』
- Nueva Versión Internacional - Jesús le respondió: —Escrito está: “No solo de pan vive el hombre, sino de toda palabra que sale de la boca de Dios”.
- 현대인의 성경 - 그러나 예수님은 마귀에게 이렇게 말씀하셨다. “성경에는 ‘사람이 빵으로만 살 것이 아니라 하나님의 모든 말씀으로 살아야 한다’ 라고 쓰여 있다.”
- Новый Русский Перевод - Но Иисус ответил: – Написано: «Не одним хлебом живет человек, но и каждым словом, исходящим из уст Божьих» .
- Восточный перевод - Но Иса ответил: – Написано: «Не одним хлебом живёт человек, но и каждым словом, исходящим из уст Всевышнего» .
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Но Иса ответил: – Написано: «Не одним хлебом живёт человек, но и каждым словом, исходящим из уст Аллаха» .
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Но Исо ответил: – Написано: «Не одним хлебом живёт человек, но и каждым словом, исходящим из уст Всевышнего» .
- La Bible du Semeur 2015 - Jésus répondit : Il est écrit : L’homme ne vivra pas seulement de pain, mais aussi de toute parole que Dieu prononce .
- リビングバイブル - しかしイエスは、お答えになりました。「いいえ。聖書には、『人はただパンだけで生きるのではなく、神の口から出る一つ一つのことばによる』(申命8・3)と書いてある。わたしたちは、神のすべてのことばに従うべきなのです。」
- Nestle Aland 28 - ὁ δὲ ἀποκριθεὶς εἶπεν· γέγραπται· οὐκ ἐπ’ ἄρτῳ μόνῳ ζήσεται ὁ ἄνθρωπος, ἀλλ’ ἐπὶ παντὶ ῥήματι ἐκπορευομένῳ διὰ στόματος θεοῦ.
- unfoldingWord® Greek New Testament - ὁ δὲ ἀποκριθεὶς εἶπεν, γέγραπται, οὐκ ἐπ’ ἄρτῳ μόνῳ ζήσεται ὁ ἄνθρωπος, ἀλλ’ ἐπὶ παντὶ ῥήματι ἐκπορευομένῳ διὰ στόματος Θεοῦ.
- Nova Versão Internacional - Jesus respondeu: “Está escrito: ‘Nem só de pão viverá o homem, mas de toda palavra que procede da boca de Deus’ ”.
- Hoffnung für alle - Aber Jesus wehrte ab: »Es steht in der Heiligen Schrift: ›Der Mensch lebt nicht allein von Brot, sondern von allem, was Gott ihm zusagt!‹ «
- Kinh Thánh Hiện Đại - Nhưng Chúa Giê-xu đáp: “Thánh Kinh chép: ‘Người ta sống không phải chỉ nhờ bánh, nhưng nhờ vâng theo mọi lời Đức Chúa Trời phán dạy.’ ”
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - แต่พระองค์กล่าวตอบว่า “มีบันทึกไว้ว่า ‘มนุษย์มิอาจยังชีพได้ด้วยขนมปังเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ได้ด้วยทุกถ้อยคำที่กล่าวจากปากของพระเจ้า’”
交叉引用
- 1พงศ์กษัตริย์ 17:12 - หญิงนั้นตอบว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด ดิฉันไม่มีขนมปังเลยสักชิ้นฉันนั้น มีเพียงแป้งหยิบมือเดียวในหม้อ กับน้ำมันก้นไห นี่ก็กำลังเก็บฟืนจะเอาไปทำอาหารกินกับลูกชาย จากนั้นก็จะต้องอดตาย”
- 1พงศ์กษัตริย์ 17:13 - เอลียาห์กล่าวกับนางว่า “อย่ากลัวเลย กลับบ้านไปทำตามที่เจ้าว่าเถิด แต่ทำขนมชิ้นเล็กๆ มาให้เราก่อน จากนั้นจึงทำอาหารให้ตัวเจ้ากับลูกชายของเจ้า
- 1พงศ์กษัตริย์ 17:14 - เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า ‘จะมีแป้งไม่ขาดหม้อ น้ำมันไม่ขาดไห จนถึงวันที่องค์พระผู้เป็นเจ้าให้ฝนตกลงมาบนดินแดนนี้’ ”
- 1พงศ์กษัตริย์ 17:15 - หญิงม่ายนั้นจึงไปทำตามที่เอลียาห์สั่ง แล้วก็มีอาหารทุกวันไม่ขาดสำหรับเอลียาห์และนางกับครอบครัว
- 1พงศ์กษัตริย์ 17:16 - เพราะมีแป้งไม่ขาดหม้อ น้ำมันไม่ขาดไห เป็นจริงตามพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ตรัสผ่านทางเอลียาห์
- มาระโก 6:38 - พระองค์ตรัสถามว่า “พวกท่านมีขนมปังกี่ก้อน? ไปดูซิ” เมื่อรู้แล้วพวกเขาจึงกลับมาทูลว่า “มีขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัว”
- มาระโก 6:39 - แล้วพระเยซูตรัสสั่งสาวกให้ไปบอกประชาชนให้นั่งกันเป็นกลุ่มบนพื้นหญ้าเขียวขจี
- มาระโก 6:40 - พวกเขาก็นั่งเป็นกลุ่มๆ กลุ่มละร้อยคนบ้าง ห้าสิบคนบ้าง
- มาระโก 6:41 - พระเยซูทรงรับขนมปังห้าก้อนและปลาสองตัวนั้นมา ทรงเงยพระพักตร์ขึ้นมองฟ้าสวรรค์แล้วขอบพระคุณพระเจ้าและหักขนมปังส่งให้เหล่าสาวก พวกเขาก็แจกจ่ายให้ประชาชน พระองค์ยังทรงแบ่งปลาสองตัวให้คนทั้งปวงโดยทั่วกันด้วย
- มาระโก 6:42 - พวกเขาทุกคนได้กินอิ่มหนำ
- มาระโก 6:43 - เหล่าสาวกเก็บเศษขนมปังและปลาที่เหลือได้สิบสองตะกร้าเต็ม
- มาระโก 6:44 - จำนวนผู้ชายที่รับประทานอาหารนั้นมีห้าพันคน ( มธ.14:22-36 ; ยน.6:15-21 )
- ฮักกัย 2:16 - เมื่อผู้หนึ่งผู้ใดมายังกองข้าวโดยหวังว่าจะได้ข้าวยี่สิบถัง กลับมีเพียงสิบถัง เมื่อผู้ใดมายังบ่อเก็บเหล้าองุ่นโดยหวังว่าจะตักได้ห้าสิบถัง ก็มีเพียงยี่สิบถัง
- ฮักกัย 2:17 - เราทำลายสิ่งทั้งปวงที่เจ้าลงแรงทำขึ้นโดยตัวทำลาย เชื้อรา และลูกเห็บ ถึงกระนั้นเจ้าก็ไม่ยอมกลับมาหาเรา’ องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
- ฮักกัย 2:18 - ‘นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ตั้งแต่วันที่ยี่สิบสี่เดือนที่เก้านี้ จงตรึกตรองถึงวันที่วางฐานรากของพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า จงใคร่ครวญว่า
- ฮักกัย 2:19 - มีเมล็ดพืชใดๆ เหลืออยู่ในยุ้งฉางบ้าง? จวบจนบัดนี้เถาองุ่น มะเดื่อ ทับทิม และต้นมะกอกไม่ได้ผลิผลเลย “ ‘นับตั้งแต่วันนี้ไปเราจะอวยพรเจ้า’ ”
- อพยพ 23:15 - “จงฉลองเทศกาลขนมปังไม่ใส่เชื้อ จงกินขนมปังไม่ใส่เชื้อตลอดเจ็ดวันตามที่เราได้สั่งพวกเจ้าไว้แล้ว จงทำอย่างนี้ตามเวลาที่กำหนดไว้ในเดือนอาบีบ เพราะในเดือนนั้นเจ้าได้ออกจากอียิปต์ “อย่าให้ผู้ใดเข้าเฝ้าเรามือเปล่า
- 2พงศ์กษัตริย์ 4:42 - ชายคนหนึ่งจากบาอัลชาลิชาห์นำขนมปังข้าวบาร์เลย์ยี่สิบก้อนทำจากเมล็ดข้าวผลแรกของการเก็บเกี่ยว พร้อมด้วยรวงข้าวใหม่มามอบให้คนของพระเจ้า เอลีชาจึงสั่งว่า “จงนำไปเลี้ยงคนทั้งหลาย”
- 2พงศ์กษัตริย์ 4:43 - คนรับใช้ถามว่า “ของแค่นี้จะเลี้ยงคนนับร้อยได้อย่างไร?” แต่เอลีชาตอบว่า “ไปเถิด เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ‘พวกเขาจะได้กินและยังมีเหลืออีก’ ”
- 2พงศ์กษัตริย์ 4:44 - เขาก็เอาขนมปังมากินกันและมีเหลือด้วยตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสไว้
- มัทธิว 14:16 - พระเยซูตรัสตอบว่า “พวกเขาไม่จำเป็นต้องไป พวกท่านจงเลี้ยงพวกเขาเถิด”
- มัทธิว 14:17 - เหล่าสาวกทูลว่า “ที่นี่เรามีเพียงขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัว”
- มัทธิว 14:18 - พระองค์ตรัสว่า “เอามาให้เราที่นี่”
- มัทธิว 14:19 - แล้วทรงให้คนทั้งหลายนั่งลงบนหญ้า ทรงรับขนมปังห้าก้อนและปลาสองตัวนั้นมา เงยพระพักตร์ขึ้นมองฟ้าสวรรค์ ขอบพระคุณพระเจ้า และหักขนมปังส่งให้เหล่าสาวก เหล่าสาวกก็แจกจ่ายให้แก่ประชาชน
- มัทธิว 14:20 - พวกเขาทุกคนได้กินอิ่มหนำ และเหล่าสาวกเก็บเศษที่เหลือได้สิบสองตะกร้าเต็ม
- มัทธิว 14:21 - จำนวนคนที่รับประทานอาหารนั้นมีผู้ชายประมาณห้าพันคนไม่นับผู้หญิงและเด็ก ( มก.6:45-56 ; ยน.6:15-21 )
- มาระโก 8:4 - เหล่าสาวกทูลว่า “แต่ในที่ห่างไกลแบบนี้จะหาขนมปังที่ไหนมาพอเลี้ยงพวกเขา?”
- มาระโก 8:5 - พระเยซูตรัสถามว่า “พวกท่านมีขนมปังกี่ก้อน?” เขาทูลว่า “เจ็ดก้อน”
- มาระโก 8:6 - พระองค์ทรงบอกฝูงชนให้นั่งลงที่พื้น เมื่อทรงรับขนมปังเจ็ดก้อนและขอบพระคุณพระเจ้าแล้ว พระองค์ก็ทรงหักขนมปังส่งให้เหล่าสาวกแจกประชาชน
- มาระโก 8:7 - พวกเขามีปลาเล็กๆ สองสามตัวด้วย พระองค์ก็ทรงขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับปลาเหล่านี้และทรงให้เหล่าสาวกนำไปแจกเช่นกัน
- มาระโก 8:8 - ประชาชนได้รับประทานจนอิ่มหนำ หลังจากนั้นเหล่าสาวกเก็บเศษที่เหลือได้เจ็ดตะกร้าเต็ม
- มาระโก 8:9 - มีผู้ชายราวสี่พันคนที่นั่น และเมื่อทรงให้พวกเขากลับไปแล้ว
- ลูกา 4:12 - พระเยซูตรัสตอบว่า “มีกล่าวไว้ว่า ‘อย่าทดลององค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่าน’ ”
- 2พงศ์กษัตริย์ 7:1 - เอลีชากล่าวว่า “จงฟังพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า วันพรุ่งนี้เวลาราวๆ นี้ แป้งประมาณ 7.3 ลิตร หรือข้าวบาร์เลย์ประมาณ 15 ลิตร จะซื้อขายกันด้วยเงินหนัก 1 เชเขล ที่ประตูเมืองสะมาเรีย”
- 2พงศ์กษัตริย์ 7:2 - นายทหารที่ติดตามกษัตริย์กล่าวกับคนของพระเจ้าว่า “ต่อให้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเปิดฟ้าสวรรค์ก็จะเป็นไปได้หรือ?” เอลีชาตอบว่า “เจ้าจะเห็นกับตา แต่เจ้าจะไม่มีโอกาสได้กิน!”
- มาลาคี 3:9 - พวกเจ้าทั้งชาติตกอยู่ใต้คำสาปแช่งเพราะเจ้าโกงเรา”
- มาลาคี 3:10 - พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “จงนำสิบลดมายังคลังพระวิหารให้ครบ เพื่อจะมีอาหารในพระนิเวศของเรา จงลองดูเราในข้อนี้ มีหรือที่เราจะไม่เปิดประตูฟ้าสวรรค์เทพรมาให้เจ้าอย่างเหลือล้นจนไม่มีที่จะเก็บ”
- มาลาคี 3:11 - พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “เราจะป้องกันไม่ให้แมลงมากัดกินพืชพันธุ์ของเจ้า และผลองุ่นในสวนของเจ้าจะไม่ร่วงก่อนสุก
- มัทธิว 4:7 - พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “มีคำเขียนไว้เช่นกันว่า ‘อย่าทดลององค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่าน’ ”
- มัทธิว 4:10 - พระเยซูตรัสว่า “เจ้าซาตาน จงไปให้พ้น! เพราะมีคำเขียนไว้ว่า ‘จงนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่านและปรนนิบัติพระองค์แต่ผู้เดียว’ ”
- อพยพ 16:8 - โมเสสกล่าวอีกว่า “ท่านจะรู้ว่าพระองค์ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าเมื่อพระองค์ประทานเนื้อให้ในเวลาเย็นและประทานอาหารทั้งหมดที่ท่านต้องการในเวลาเช้า เพราะพระองค์ทรงได้ยินท่านบ่นว่าพระองค์แล้ว เราเป็นใครเล่า? ท่านไม่ได้ต่อว่าเรา แต่บ่นว่าองค์พระผู้เป็นเจ้า”
- ยอห์น 6:5 - เมื่อพระเยซูทรงมองไปเห็นคนหมู่ใหญ่มาหาพระองค์ก็ตรัสกับฟีลิปว่า “เราจะไปซื้อหาอาหารที่ไหนมาให้คนเหล่านี้รับประทาน?”
- ยอห์น 6:6 - พระองค์ตรัสถามเช่นนี้เพียงเพื่อทดสอบฟีลิป เพราะพระองค์ทรงดำริไว้แล้วว่าจะทำอะไร
- ยอห์น 6:7 - ฟีลิปทูลตอบพระองค์ว่า “เงินค่าแรงแปดเดือน ยังซื้อขนมปังได้ไม่พอให้คนเหล่านี้กินกันคนละคำ!”
- ยอห์น 6:8 - สาวกอีกคนหนึ่งคืออันดรูว์น้องชายของซีโมนเปโตรทูลขึ้นว่า
- ยอห์น 6:9 - “เด็กคนหนึ่งที่นี่มีขนมปังข้าวบาร์เลย์ห้าก้อนกับปลาเล็กๆ สองตัว แต่จะพออะไรกับคนมากมายขนาดนี้?”
- ยอห์น 6:10 - พระเยซูตรัสว่า “ให้ประชาชนนั่งลง” ที่นั่นมีหญ้ามาก พวกผู้ชายจึงนั่งลง พวกเขามีราวห้าพันคน
- ยอห์น 6:11 - แล้วพระเยซูทรงรับขนมปังมา ขอบพระคุณพระเจ้า และแจกจ่ายให้ผู้ที่นั่งอยู่ได้กินกันมากเท่าที่เขาต้องการ พระองค์ทรงหยิบปลามาทำเช่นเดียวกัน
- ยอห์น 6:12 - เมื่อทุกคนอิ่มแล้ว พระองค์ตรัสสั่งเหล่าสาวกว่า “จงเก็บรวบรวมเศษที่เหลือ อย่าให้เสียของ”
- ยอห์น 6:13 - พวกเขาจึงเก็บเศษที่เหลือจากขนมปังข้าวบาร์เลย์ห้าก้อนได้เต็มสิบสองตะกร้า
- ยอห์น 6:14 - หลังจากประชาชนเห็นหมายสำคัญที่พระเยซูได้ทรงกระทำ ก็เริ่มพูดกันว่า “นี่คือผู้เผยพระวจนะนั้นที่จะเข้ามาในโลกอย่างแน่นอน”
- ยอห์น 6:15 - พระเยซูทรงทราบว่าพวกเขาตั้งใจจะมาใช้กำลังบังคับให้พระองค์ขึ้นเป็นกษัตริย์ จึงเสด็จเลี่ยงขึ้นไปบนภูเขาแต่ลำพังอีก ( มธ.14:22-33 ; มก.6:47-51 )
- ลูกา 4:8 - พระเยซูตรัสตอบว่า “มีคำเขียนไว้ว่า ‘จงนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่านและปรนนิบัติพระองค์แต่ผู้เดียว’ ”
- อพยพ 16:15 - ชาวอิสราเอลเห็นเข้าก็ถามกันว่า “อะไรกันนี่?” เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร โมเสสตอบว่า “นี่คืออาหารที่องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานให้แก่พวกเจ้า
- อพยพ 16:35 - ชนอิสราเอลกินมานาเป็นอาหารตลอดสี่สิบปี ตราบจนมาถึงเขตแดนคานาอันซึ่งพวกเขาเข้าไปตั้งรกราก
- เอเฟซัส 6:17 - จงสวมหมวกเกราะแห่งความรอด และถือดาบแห่งพระวิญญาณคือพระวจนะของพระเจ้า
- โรม 15:4 - เพราะทุกสิ่งที่เขียนไว้ในอดีตก็เขียนขึ้นเพื่อสอนเรา เพื่อว่าเราจะได้มีความหวังโดยความทรหดอดทนและการให้กำลังใจจากพระคัมภีร์
- ยอห์น 6:63 - พระวิญญาณประทานชีวิต เนื้อหนังไม่สำคัญอะไรเลย ถ้อยคำที่เรากล่าวกับท่านเป็นวิญญาณ และเป็นชีวิต
- ยอห์น 6:31 - บรรพบุรุษของเราได้กินมานาในถิ่นกันดารตามที่มีเขียนไว้ว่า ‘พระองค์ประทานอาหารจากสวรรค์ให้พวกเขารับประทาน’ ”
- ยอห์น 6:32 - พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ไม่ใช่โมเสสที่ให้อาหารจากสวรรค์นั้นแก่ท่าน แต่เป็นพระบิดาของเราที่ประทานอาหารแท้จากสวรรค์แก่ท่าน
- ยอห์น 6:33 - เพราะอาหารจากพระเจ้า คือผู้ที่ลงมาจากสวรรค์และให้ชีวิตแก่โลก”
- ยอห์น 6:34 - พวกเขาทูลว่า “ท่านเจ้าข้า จากนี้ไปโปรดให้อาหารนี้แก่เราเถิด”
- ยอห์น 6:35 - แล้วพระเยซูประกาศว่า “เราเป็นอาหารแห่งชีวิต ผู้ที่มาหาเราจะไม่มีวันหิวโหยและผู้ที่เชื่อในเราจะไม่มีวันกระหายอีกเลย
- ยอห์น 6:36 - แต่ตามที่เราได้บอกท่านไว้แล้ว ท่านได้เห็นเราแต่ก็ยังไม่เชื่อ
- ยอห์น 6:37 - คนทั้งปวงที่พระบิดาประทานแก่เราจะมาหาเรา และผู้ที่มาหาเรา เราก็จะไม่มีวันขับไล่เขาไป
- ยอห์น 6:38 - เพราะเราได้ลงมาจากสวรรค์มิใช่เพื่อทำตามใจของเราเองแต่เพื่อทำตามพระประสงค์ของพระองค์ผู้ทรงส่งเรามา
- ยอห์น 6:39 - และพระประสงค์ของพระองค์ผู้ทรงส่งเรามาคือ ไม่ให้เราสูญเสียคนทั้งปวงที่พระองค์ประทานแก่เราไปแม้สักคนเดียว แต่จะให้คนเหล่านี้เป็นขึ้นมาในวันสุดท้าย
- ยอห์น 6:40 - เพราะพระบิดาของเราทรงประสงค์ให้ทุกคนที่เห็นและเชื่อในพระบุตรมีชีวิตนิรันดร์ และเราจะให้เขาเป็นขึ้นมาในวันสุดท้าย”
- ยอห์น 6:41 - แล้วพวกยิวจึงเริ่มพากันบ่นเกี่ยวกับพระองค์ เพราะพระองค์ตรัสว่า “เราเป็นอาหารที่ลงมาจากสวรรค์”
- ยอห์น 6:42 - พวกเขาพูดว่า “นี่คือเยซูลูกชายของโยเซฟไม่ใช่หรือ? เราก็รู้จักพ่อแม่ของเขา เขาพูดได้อย่างไรว่า ‘เราลงมาจากสวรรค์’?”
- ยอห์น 6:43 - พระเยซูตรัสตอบว่า “หยุดบ่นกันได้แล้ว
- ยอห์น 6:44 - ไม่มีใครมาหาเราได้ นอกจากพระบิดาผู้ทรงส่งเรามานั้นทรงชักนำเขามาหาเรา และเราจะให้เขาเป็นขึ้นในวันสุดท้าย
- ยอห์น 6:45 - มีเขียนไว้ในหนังสือผู้เผยพระวจนะว่า ‘เขาทั้งหลายจะรับการสอนจากพระเจ้า’ ทุกคนที่ฟังพระบิดาและเรียนรู้จากพระองค์ก็มาหาเรา
- ยอห์น 6:46 - ไม่มีใครได้เห็นพระบิดา เว้นแต่ผู้ซึ่งมาจากพระเจ้าเท่านั้นที่ได้เห็นพระบิดา
- ยอห์น 6:47 - เราบอกความจริงแก่ท่านว่าผู้ที่เชื่อก็มีชีวิตนิรันดร์
- ยอห์น 6:48 - เราเป็นอาหารแห่งชีวิต
- ยอห์น 6:49 - บรรพบุรุษของท่านได้กินมานาในถิ่นกันดาร ถึงกระนั้นพวกเขาก็ตาย
- ยอห์น 6:50 - แต่นี่คืออาหารที่ลงมาจากสวรรค์ซึ่งคนใดได้กินแล้วจะไม่ตาย
- ยอห์น 6:51 - เราเป็นอาหารซึ่งให้ชีวิตที่ลงมาจากสวรรค์ ถ้าผู้ใดได้กินอาหารนี้ ผู้นั้นจะมีชีวิตอยู่ตลอดไป อาหารนี้คือเนื้อ ของเราซึ่งเราจะให้เพื่อโลกนี้จะได้มีชีวิต”
- ยอห์น 6:52 - แล้วชาวยิวจึงเริ่มทุ่มเถียงกันอย่างรุนแรงว่า “ผู้นี้จะเอาเนื้อของเขาให้เรากินได้อย่างไร?”
- ยอห์น 6:53 - พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่าหากท่านไม่กินเนื้อของบุตรมนุษย์และดื่มโลหิตของพระองค์ ท่านก็ไม่มีชีวิตอยู่ภายในตัวท่าน
- ยอห์น 6:54 - ผู้ใดกินเนื้อและดื่มโลหิตของเรา ผู้นั้นก็มีชีวิตนิรันดร์และเราจะให้เขาเป็นขึ้นมาในวันสุดท้าย
- ยอห์น 6:55 - เพราะเนื้อของเราเป็นอาหารแท้และโลหิตของเราเป็นเครื่องดื่มแท้
- ยอห์น 6:56 - ผู้ใดกินเนื้อและดื่มโลหิตของเรา ผู้นั้นก็อยู่ในเราและเราอยู่ในเขา
- ยอห์น 6:57 - พระบิดาผู้ทรงพระชนม์อยู่ทรงส่งเรามา และเรามีชีวิตอยู่เพราะพระบิดาฉันใด ผู้ที่กินเราก็จะมีชีวิตอยู่เพราะเราฉันนั้น
- ยอห์น 6:58 - นี่คืออาหารที่ลงมาจากสวรรค์ บรรพบุรุษของท่านกินมานาและตายไป แต่ผู้ที่กินอาหารนี้จะมีชีวิตอยู่ตลอดไป”
- ยอห์น 6:59 - พระองค์ตรัสสิ่งเหล่านี้ขณะทรงสั่งสอนอยู่ในธรรมศาลาในเมืองคาเปอรนาอุม
- ลูกา 4:4 - พระเยซูตรัสตอบว่า “มีคำเขียนไว้ว่า ‘มนุษย์ไม่อาจดำรงชีวิตด้วยอาหารเพียงอย่างเดียว’ ”
- เฉลยธรรมบัญญัติ 8:3 - พระองค์ทรงทำให้ท่านถ่อมลงโดยให้ท่านหิวโหย แล้วทรงเลี้ยงดูท่านด้วยมานา ซึ่งท่านหรือบรรพบุรุษไม่เคยรู้จักมาก่อน ทั้งนี้เพื่อสอนท่านว่ามนุษย์ไม่อาจดำรงชีวิตด้วยอาหารเพียงอย่างเดียว แต่ดำรงชีวิตด้วยทุกถ้อยคำจากพระโอษฐ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า