逐节对照
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - เมื่อพวกฟาริสีทราบว่าพระองค์ไล่ต้อนจนพวกสะดูสีนิ่งอึ้ง จึงได้ประชุมกัน
- 新标点和合本 - 法利赛人听见耶稣堵住了撒都该人的口,他们就聚集。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 法利赛人听见耶稣堵住了撒都该人的口,他们就聚集在一起。
- 和合本2010(神版-简体) - 法利赛人听见耶稣堵住了撒都该人的口,他们就聚集在一起。
- 当代译本 - 法利赛人听见耶稣使撒都该人无言以对,就聚集在一起。
- 圣经新译本 - 法利赛人听见耶稣使撒都该人无话可说,就聚集在一起。
- 中文标准译本 - 法利赛人听说耶稣使撒都该人哑口无言,就聚集在一起。
- 现代标点和合本 - 法利赛人听见耶稣堵住了撒都该人的口,他们就聚集。
- 和合本(拼音版) - 法利赛人听见耶稣堵住了撒都该人的口,他们就聚集。
- New International Version - Hearing that Jesus had silenced the Sadducees, the Pharisees got together.
- New International Reader's Version - The Pharisees heard that the Sadducees weren’t able to answer Jesus. So the Pharisees got together.
- English Standard Version - But when the Pharisees heard that he had silenced the Sadducees, they gathered together.
- New Living Translation - But when the Pharisees heard that he had silenced the Sadducees with his reply, they met together to question him again.
- The Message - When the Pharisees heard how he had bested the Sadducees, they gathered their forces for an assault. One of their religion scholars spoke for them, posing a question they hoped would show him up: “Teacher, which command in God’s Law is the most important?”
- Christian Standard Bible - When the Pharisees heard that he had silenced the Sadducees, they came together.
- New American Standard Bible - But when the Pharisees heard that Jesus had silenced the Sadducees, they gathered together.
- New King James Version - But when the Pharisees heard that He had silenced the Sadducees, they gathered together.
- Amplified Bible - Now when the Pharisees heard that He had silenced (muzzled) the Sadducees, they gathered together.
- American Standard Version - But the Pharisees, when they heard that he had put the Sadducees to silence, gathered themselves together.
- King James Version - But when the Pharisees had heard that he had put the Sadducees to silence, they were gathered together.
- New English Translation - Now when the Pharisees heard that he had silenced the Sadducees, they assembled together.
- World English Bible - But the Pharisees, when they heard that he had silenced the Sadducees, gathered themselves together.
- 新標點和合本 - 法利賽人聽見耶穌堵住了撒都該人的口,他們就聚集。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 法利賽人聽見耶穌堵住了撒都該人的口,他們就聚集在一起。
- 和合本2010(神版-繁體) - 法利賽人聽見耶穌堵住了撒都該人的口,他們就聚集在一起。
- 當代譯本 - 法利賽人聽見耶穌使撒都該人無言以對,就聚集在一起。
- 聖經新譯本 - 法利賽人聽見耶穌使撒都該人無話可說,就聚集在一起。
- 呂振中譯本 - 但是法利賽人聽見耶穌籠住了撒都該人的口,就聚集在一處;
- 中文標準譯本 - 法利賽人聽說耶穌使撒都該人啞口無言,就聚集在一起。
- 現代標點和合本 - 法利賽人聽見耶穌堵住了撒都該人的口,他們就聚集。
- 文理和合譯本 - 法利賽人聞耶穌使撒都該人語塞、遂集、
- 文理委辦譯本 - 𠵽唎㘔人聞耶穌使[口撒]吐𡀲人無辭以對、遂集、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 法利賽人聞耶穌駁撒度該人、使之無辭以對、 原文作塞撒度該人之口 遂集、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 法利塞 人聞耶穌致 撒杜責 人語塞、亦會集其黨。
- Nueva Versión Internacional - Los fariseos se reunieron al oír que Jesús había hecho callar a los saduceos.
- 현대인의 성경 - 바리새파 사람들은 예수님이 사두개파 사람들의 말문을 막으셨다는 말을 듣고 다 함께 모였다.
- Новый Русский Перевод - Фарисеи же, услышав, как Иисус заставил замолчать саддукеев, собрались вокруг Него.
- Восточный перевод - Блюстители же Закона, услышав, как Иса заставил замолчать саддукеев, собрались вокруг Него.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Блюстители же Закона, услышав, как Иса заставил замолчать саддукеев, собрались вокруг Него.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Блюстители же Закона, услышав, как Исо заставил замолчать саддукеев, собрались вокруг Него.
- La Bible du Semeur 2015 - En apprenant que Jésus avait réduit au silence les sadducéens, les pharisiens se réunirent.
- リビングバイブル - しかし、パリサイ人たちはそうはいきません。サドカイ人たちが言い負かされたと知ると、彼らは彼らで新しい質問を考え出し、さっそくイエスのところにやって来ました。その中の律法の専門家が、
- Nestle Aland 28 - Οἱ δὲ Φαρισαῖοι ἀκούσαντες ὅτι ἐφίμωσεν τοὺς Σαδδουκαίους συνήχθησαν ἐπὶ τὸ αὐτό,
- unfoldingWord® Greek New Testament - οἱ δὲ Φαρισαῖοι ἀκούσαντες ὅτι ἐφίμωσεν τοὺς Σαδδουκαίους, συνήχθησαν ἐπὶ τὸ αὐτό.
- Nova Versão Internacional - Ao ouvirem dizer que Jesus havia deixado os saduceus sem resposta, os fariseus se reuniram.
- Hoffnung für alle - Als die Pharisäer hörten, wie Jesus die Sadduzäer zum Schweigen gebracht hatte, dachten sie sich eine neue Frage aus, um ihm eine Falle zu stellen. Ein Gesetzeslehrer fragte ihn:
- Kinh Thánh Hiện Đại - Khi các thầy Pha-ri-si nghe tin Chúa khiến cho các thầy Sa-đu-sê cứng họng, họ liền họp nhau tìm cách gài bẫy Ngài.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - เมื่อพวกฟาริสีได้ยินว่าพระเยซูทรงทำให้พวกสะดูสีนิ่งอึ้งไปจึงรวมหัวกัน
交叉引用
- กิจการของอัครทูต 5:24 - เมื่อหัวหน้านายทหารประจำพระวิหารและพวกมหาปุโรหิตได้ยินรายงานนั้นก็งุนงงว่าเกิดอะไรขึ้น
- กิจการของอัครทูต 5:25 - มีใครคนหนึ่งได้มายืนพลางพูดว่า “ดูสิ พวกที่ท่านจับเข้าคุกกำลังยืนสั่งสอนผู้คนอยู่ที่บริเวณพระวิหาร”
- กิจการของอัครทูต 5:26 - นายทหารพร้อมพวกเจ้าหน้าที่จึงพากันไปยังที่นั้น เพื่อนำเหล่าอัครทูตกลับมาโดยไม่ใช้กำลัง ด้วยเกรงจะถูกผู้คนเอาหินขว้างปา
- กิจการของอัครทูต 5:27 - คนที่ไปจับกุมอัครทูตได้นำพวกเขามายืนต่อหน้าศาสนสภา เพื่อให้หัวหน้ามหาปุโรหิตเป็นผู้ซักถาม
- กิจการของอัครทูต 5:28 - หัวหน้ามหาปุโรหิตจึงกล่าวว่า “พวกเราออกคำสั่งอย่างเด็ดขาดไม่ให้ท่านสั่งสอนในนามนี้ แต่พวกท่านยังสั่งสอนผู้คนทั่วทั้งเมืองเยรูซาเล็ม และต้องการให้เรารับผิดชอบกับความตายของชายคนนี้”
- กิจการของอัครทูต 21:28 - พลางตะโกนว่า “ชาวอิสราเอลเอ๋ย มาช่วยกันเถิด ชายคนนี้เป็นคนเสี้ยมสอนคนทั่วทุกแห่งหนให้ต่อต้านคนของเรา รวมทั้งกฎบัญญัติและสถานที่นี้ด้วย ยิ่งกว่านั้นเขาได้พาชาวกรีกเข้ามาในบริเวณพระวิหาร ทำให้ที่บริสุทธิ์เป็นมลทิน”
- กิจการของอัครทูต 21:29 - ก่อนหน้านี้ เขาเหล่านั้นเห็นชาวเอเฟซัสที่ชื่อโตรฟีมัสอยู่ในเมืองกับเปาโล และก็สรุปความว่า เปาโลได้พาเขาเข้าไปในบริเวณพระวิหาร
- กิจการของอัครทูต 21:30 - ทั้งเมืองจึงเกิดโกลาหล ผู้คนวิ่งกรูกันมาจากทุกสารทิศ จับกุมเปาโลแล้วฉุดลากท่านออกไปจากพระวิหาร ประตูก็ปิดทันที
- ยอห์น 11:47 - ดังนั้นพวกมหาปุโรหิตและฟาริสีจึงเรียกประชุมศาสนสภา และกล่าวว่า “พวกเราจะทำอย่างไรกัน ชายผู้นี้แสดงปรากฏการณ์อัศจรรย์มากมาย
- ยอห์น 11:48 - ถ้าพวกเราปล่อยให้เขาดำเนินการต่อไปเช่นนี้ ทุกคนก็จะเชื่อเขา และพวกชาวโรมันจะมายึดเอาบ้านช่องและประเทศชาติของเราไป”
- ยอห์น 11:49 - คายาฟาสซึ่งเป็นหัวหน้ามหาปุโรหิตในเวลานั้นพูดกับพวกเขาว่า “พวกท่านไม่รู้อะไรเสียเลย
- ยอห์น 11:50 - และไม่ได้ระลึกถึงประโยชน์ของตนว่า ให้คนหนึ่งตายแทนคนทั้งปวง ย่อมดีกว่ายอมให้ประเทศชาติพินาศไป”
- กิจการของอัครทูต 19:23 - เวลานั้นได้เกิดความวุ่นวายไม่น้อยในเรื่อง “วิถีทางนั้น”
- กิจการของอัครทูต 19:24 - เนื่องจากเดเมตริอัส ช่างเงินที่ได้ทำวิหารจำลองของเทพเจ้าอาร์เทมิสได้ช่วยให้พวกช่างเงินอื่นๆ มีงานทำกันไม่น้อย
- กิจการของอัครทูต 19:25 - เดเมตริอัสเรียกพวกช่างเงินเหล่านั้นพร้อมกับช่างทั้งหลายที่มีอาชีพแบบเดียวกับเขาให้มาประชุมกัน กล่าวว่า “ท่านทั้งหลายทราบแล้วว่าพวกเราหาเงินได้มากจากอาชีพนี้
- กิจการของอัครทูต 19:26 - และท่านทั้งเห็นและได้ยินว่า เปาโลคนนี้ได้เกลี้ยกล่อมคนจำนวนมากให้ลุ่มหลง ทั้งในเมืองเอเฟซัสและเกือบทั่วทั้งแคว้นเอเชียก็ว่าได้ เปาโลพูดว่าบรรดาเทพเจ้าที่คนทำขึ้นนั้นไม่ใช่พวกเทพเจ้าเลย
- กิจการของอัครทูต 19:27 - นอกจากจะทำให้ชื่อเสียงในอาชีพของพวกเราเสียหายแล้ว วิหารของเทพเจ้าอาร์เทมิสผู้ยิ่งใหญ่จะถูกดูหมิ่น ความยิ่งใหญ่ของนางซึ่งผู้คนนมัสการทั่วทั้งแคว้นเอเชียและทั่วโลกก็จะตกต่ำลงไปด้วย”
- กิจการของอัครทูต 19:28 - เมื่อพวกเขาทั้งหลายได้ยินดังนั้นก็รู้สึกโกรธแค้น พากันร้องตะโกนว่า “ผู้ยิ่งใหญ่คือเทพเจ้าอาร์เทมิสแห่งเมืองเอเฟซัส”
- มัทธิว 12:14 - พวกฟาริสีจึงออกไป และปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรจึงฆ่าพระองค์ได้
- อิสยาห์ 41:5 - หมู่เกาะต่างๆ ได้เห็นแล้ว และเกรงกลัว แดนไกลสุดขอบโลกสั่นสะเทือน พวกเขาได้เข้ามาใกล้ และก็ถึงแล้ว
- อิสยาห์ 41:6 - ทุกคนต่างช่วยเหลือเพื่อนบ้านของตน และพูดต่อกันและกันว่า “จงเข้มแข็งเถิด”
- อิสยาห์ 41:7 - ช่างฝีมือให้กำลังใจช่างทอง และผู้ที่ใช้ค้อนทุบให้เรียบกระตุ้นผู้ที่ตีทั่ง เขาบอกผู้ที่เชื่อมโลหะว่า “งานออกมาดี” พวกเขาตอกตะปูรูปเคารพให้แข็งแรง เพื่อไม่ให้มันขยับเขยื้อน
- มัทธิว 25:3 - เมื่อคนโง่เขลาเอาตะเกียงไป พวกเธอไม่ได้เอาน้ำมันไปด้วย
- มัทธิว 25:4 - ส่วนคนชาญฉลาดเอาน้ำมันใส่โถติดตัวไปกับตะเกียงด้วย
- มัทธิว 25:5 - ขณะที่เจ้าบ่าวยังล่าช้าอยู่ ทุกคนเกิดง่วงเหงาและหลับไป
- มาระโก 12:28 - คนหนึ่งในพวกอาจารย์ฝ่ายกฎบัญญัติมาและได้ยินการโต้เถียงกัน และทราบว่าพระเยซูได้ตอบพวกเขาได้ดีจึงถามพระองค์ว่า “พระบัญญัติข้อใดสำคัญที่สุด”
- มาระโก 12:29 - พระเยซูกล่าวว่า “ข้อที่สำคัญที่สุดคือ ‘จงฟังเถิด อิสราเอลเอ๋ย พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเราเป็นพระผู้เป็นเจ้าแต่เพียงผู้เดียว
- มาระโก 12:30 - และจงรักพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านอย่างสุดดวงใจ สุดดวงจิต สุดความคิด และสุดกำลังของท่าน’
- มาระโก 12:31 - ข้อที่สองคือ ‘จงรักเพื่อนบ้านของเจ้าให้เหมือนรักตนเอง’ ไม่มีพระบัญญัติข้ออื่นใดที่ยิ่งใหญ่กว่า 2 ข้อนี้”