逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - กษัตริย์ก็เป็นทุกข์ แต่ขัดไม่ได้เพราะได้ปฏิญาณไว้และเห็นแก่หน้าแขกเหรื่อ จึงบัญชาให้เป็นไปตามที่นางขอ
- 新标点和合本 - 王便忧愁,但因他所起的誓,又因同席的人,就吩咐给她;
- 和合本2010(上帝版-简体) - 王就忧愁,然而因他所发的誓,又因同席的人,就下令给她;
- 和合本2010(神版-简体) - 王就忧愁,然而因他所发的誓,又因同席的人,就下令给她;
- 当代译本 - 希律感到为难,但既然在众宾客面前起了誓,只好下令给她。
- 圣经新译本 - 王就忧愁,但因为誓言和在座的宾客,就下令给她。
- 中文标准译本 - 王就忧忧愁愁,但因所起的誓,又因一同坐席的人,就下令给她。
- 现代标点和合本 - 王便忧愁,但因他所起的誓,又因同席的人,就吩咐给她。
- 和合本(拼音版) - 王便忧愁,但因他所起的誓,又因同席的人,就吩咐给她。
- New International Version - The king was distressed, but because of his oaths and his dinner guests, he ordered that her request be granted
- New International Reader's Version - The king was very upset. But he thought of his promise and his dinner guests. So he told one of his men to give her what she asked for.
- English Standard Version - And the king was sorry, but because of his oaths and his guests he commanded it to be given.
- New Living Translation - Then the king regretted what he had said; but because of the vow he had made in front of his guests, he issued the necessary orders.
- Christian Standard Bible - Although the king regretted it, he commanded that it be granted because of his oaths and his guests.
- New American Standard Bible - And although he was grieved, the king commanded it to be given because of his oaths and his dinner guests.
- New King James Version - And the king was sorry; nevertheless, because of the oaths and because of those who sat with him, he commanded it to be given to her.
- Amplified Bible - The king was distressed, but because of his oaths, and because of his dinner guests, he ordered it to be given her.
- American Standard Version - And the king was grieved; but for the sake of his oaths, and of them that sat at meat with him, he commanded it to be given;
- King James Version - And the king was sorry: nevertheless for the oath's sake, and them which sat with him at meat, he commanded it to be given her.
- New English Translation - Although it grieved the king, because of his oath and the dinner guests he commanded it to be given.
- World English Bible - The king was grieved, but for the sake of his oaths, and of those who sat at the table with him, he commanded it to be given,
- 新標點和合本 - 王便憂愁,但因他所起的誓,又因同席的人,就吩咐給她;
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 王就憂愁,然而因他所發的誓,又因同席的人,就下令給她;
- 和合本2010(神版-繁體) - 王就憂愁,然而因他所發的誓,又因同席的人,就下令給她;
- 當代譯本 - 希律感到為難,但既然在眾賓客面前起了誓,只好下令給她。
- 聖經新譯本 - 王就憂愁,但因為誓言和在座的賓客,就下令給她。
- 呂振中譯本 - 王很憂愁,只因有了起誓的話和一同坐席的人,就發命令要給;
- 中文標準譯本 - 王就憂憂愁愁,但因所起的誓,又因一同坐席的人,就下令給她。
- 現代標點和合本 - 王便憂愁,但因他所起的誓,又因同席的人,就吩咐給她。
- 文理和合譯本 - 王憂、然以誓故、又以同筵者在、乃命予之、
- 文理委辦譯本 - 王憂、然既誓、又以同席者在、乃命賜之、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 王憂、奈已發誓、又因同席者在、乃命予之、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 王愀然不樂、然礙於所誓、及在席諸賓、乃准其所請、
- Nueva Versión Internacional - El rey se entristeció, pero, a causa de sus juramentos y en atención a los invitados, ordenó que se le concediera la petición,
- 현대인의 성경 - 왕은 몹시 괴로웠으나 자기가 한 맹세와 잔치 자리에 앉아 있는 손님들 때문에 그녀의 요구를 들어주라고 명령하고
- Новый Русский Перевод - Царь опечалился, но, так как он поклялся перед возлежавшим за столом гостями, то велел исполнить ее желание.
- Восточный перевод - Царь опечалился, но так как он поклялся перед возлежавшими за столом гостями, то велел исполнить её желание.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Царь опечалился, но так как он поклялся перед возлежавшими за столом гостями, то велел исполнить её желание.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Царь опечалился, но так как он поклялся перед возлежавшими за столом гостями, то велел исполнить её желание.
- La Bible du Semeur 2015 - Cette demande attrista le roi. Mais à cause de son serment et de ses invités, il donna l’ordre de la lui accorder.
- リビングバイブル - 王は後悔しましたが、自分が誓ったことでもあり、また並み居る客の手前もあって、引っ込みがつきません。しかたなく、それを彼女に与えるように命令しました。
- Nestle Aland 28 - καὶ λυπηθεὶς ὁ βασιλεὺς διὰ τοὺς ὅρκους καὶ τοὺς συνανακειμένους ἐκέλευσεν δοθῆναι,
- unfoldingWord® Greek New Testament - καὶ ἐλυπήθη ὁ βασιλεὺς διὰ τοὺς ὅρκους καὶ τοὺς συνανακειμένους, ἐκέλευσεν δοθῆναι.
- Nova Versão Internacional - O rei ficou aflito, mas, por causa do juramento e dos convidados, ordenou que lhe fosse dado o que ela pedia
- Hoffnung für alle - Der König war bestürzt. Aber weil er sein Versprechen gegeben hatte – noch dazu vor allen Gästen –, willigte er ein und befahl,
- Kinh Thánh Hiện Đại - Hê-rốt tỏ vẻ buồn phiền, nhưng đã lỡ thề, vua không thể rút lời trước mặt quan khách, đành ra lệnh làm theo ý cô gái.
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - แม้เฮโรดจะเศร้าใจ แต่เป็นเพราะคำมั่นสัญญาของท่านและแขกในงาน ท่านจึงสั่งให้นำมาให้
交叉引用
- ลูกา 13:32 - พระองค์ตรัสว่า “ไปบอกเจ้าสุนัขจิ้งจอกนั้นว่า ‘เราจะขับผีและรักษาโรคให้ผู้คนในวันนี้และวันพรุ่งนี้ และในวันที่สามเราจะบรรลุเป้าหมายของเรา’
- 1ซามูเอล 28:10 - ซาอูลสาบานแก่นางโดยอ้างองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด เจ้าจะไม่ถูกลงโทษเพราะเรื่องนี้ฉันนั้น”
- 1ซามูเอล 25:32 - ดาวิดตอบอาบีกายิลว่า “ขอถวายสรรเสริญแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลผู้ทรงส่งเจ้ามาพบเราในวันนี้
- 1ซามูเอล 25:33 - ขอพระเจ้าอวยพรเจ้าสำหรับการตัดสินใจที่ดีของเจ้าและที่เจ้าช่วยป้องกันเราไม่ให้ฆ่าคนในวันนี้ ไม่ต้องแก้แค้นให้มือเปื้อนเลือด
- 1ซามูเอล 25:34 - มิฉะนั้นพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลผู้ทรงป้องกันไม่ให้เราทำอันตรายเจ้า ทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด หากเจ้าไม่ได้มาพบเราอย่างรวดเร็ว คนของนาบาลคงไม่มีชีวิตเหลือรอดแม้แต่คนเดียวในเช้าวันพรุ่งนี้ฉันนั้น”
- 2พงศ์กษัตริย์ 6:31 - กษัตริย์ตรัสว่า “ขอให้พระเจ้าทรงจัดการกับเราอย่างหนักที่สุด หากในวันนี้หัวของเอลีชาบุตรชาฟัทยังไม่หลุดจากบ่า!”
- 2พงศ์กษัตริย์ 6:32 - ฝ่ายเอลีชากำลังนั่งสนทนากับบรรดาผู้อาวุโสอยู่ในบ้าน เมื่อกษัตริย์ทรงใช้คนไปตามตัวเขา ก่อนที่คนนั้นจะมาถึง เอลีชากล่าวกับผู้อาวุโสเหล่านั้นว่า “พวกท่านไม่เห็นหรือว่าฆาตกรนั้นส่งคนมาตัดหัวเราแล้ว? ดูเถิด เมื่อเขามาถึง จงปิดประตู และไล่เขาออกไป นั่นไม่ใช่เสียงฝีเท้าของนายของเขาที่ตามมาข้างหลังหรือ?”
- 2พงศ์กษัตริย์ 6:33 - เอลีชาพูดยังไม่ทันขาดคำ ผู้สื่อสารก็มาถึงและกษัตริย์ก็เสด็จมาด้วย พระองค์ตรัสว่า “ความเดือดร้อนนี้มาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า แล้วจะให้เรารอคอยองค์พระผู้เป็นเจ้าต่อไปอีกหรือ?”
- ยอห์น 19:12 - นับแต่นั้นปีลาตก็หาทางปล่อยพระเยซูแต่พวกยิวตะโกนไม่หยุดว่า “ถ้าท่านปล่อยชายคนนี้ท่านก็ไม่ใช่มิตรของซีซาร์ ใครที่อ้างตัวเป็นกษัตริย์ก็เป็นปฏิปักษ์กับซีซาร์”
- ยอห์น 19:13 - เมื่อปีลาตได้ยินเช่นนั้นก็นำตัวพระเยซูออกมาและนั่งบนบัลลังก์พิพากษาในบริเวณที่เรียกกันว่า ลานศิลา (ภาษาอารเมคเรียกว่า กับบาธา)
- ยอห์น 19:14 - วันนั้นเป็นวันเตรียมของสัปดาห์ปัสกา เป็นเวลาราวเที่ยงวัน ปีลาตกล่าวกับพวกยิวว่า “นี่คือกษัตริย์ของพวกท่าน”
- ยอห์น 19:15 - แต่พวกเขาร้องตะโกนว่า “เอาตัวเขาไป! เอาตัวเขาไป! ตรึงเขาที่ไม้กางเขน!” ปีลาตถามว่า “จะให้เราตรึงกษัตริย์ของท่านที่ไม้กางเขนหรือ?” พวกหัวหน้าปุโรหิตตอบว่า “นอกจากซีซาร์แล้วเราไม่มีกษัตริย์”
- ยอห์น 19:16 - ในที่สุดปีลาตก็มอบพระเยซูให้พวกเขาไปตรึงที่ไม้กางเขน ( มธ.27:33-44 ; มก.15:22-32 ; ลก.23:33-43 ) ดังนั้นพวกทหารจึงคุมตัวพระเยซูไป
- ผู้วินิจฉัย 11:30 - เยฟธาห์ได้ถวายปฏิญาณต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “หากพระองค์ทรงมอบชาวอัมโมนไว้ในมือของข้าพระองค์แล้ว
- ผู้วินิจฉัย 11:31 - อะไรก็ตามที่ออกจากประตูบ้านของข้าพระองค์มาต้อนรับข้าพระองค์ เมื่อข้าพระองค์กลับไปพร้อมกับชัยชนะเหนือชาวอัมโมน สิ่งนั้นจะเป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์จะถวายเป็นเครื่องเผาบูชา”
- 1ซามูเอล 14:39 - องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงกอบกู้อิสราเอลทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด แม้ผู้ทำผิดจะเป็นโยนาธานลูกของเราเอง เขาก็จะต้องตายฉันนั้น” แต่ไม่มีผู้ใดยอมกราบทูลอะไร
- 1ซามูเอล 14:40 - ซาอูลจึงตรัสกับชนอิสราเอลทั้งปวงว่า “โยนาธานกับเราจะยืนอยู่ตรงนี้ ส่วนพวกท่านยืนอยู่ตรงนั้น” พวกเขาทูลว่า “ขอทรงทำตามที่ทรงเห็นว่าดีที่สุด”
- 1ซามูเอล 14:41 - แล้วซาอูลจึงทูลอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลว่า “ขอโปรดประทานคำตอบที่ถูกต้อง” ผลการทอดสลากปรากฏว่าโยนาธานและซาอูลเป็นผู้ผิด ส่วนประชากรพ้นผิด
- 1ซามูเอล 14:42 - ซาอูลจึงตรัสว่า “บัดนี้จงทอดสลากระหว่างเรากับโยนาธานบุตรของเรา” และสลากตกแก่โยนาธาน
- 1ซามูเอล 14:43 - ซาอูลตรัสกับโยนาธานว่า “บอกมาซิว่าเจ้าทำอะไรลงไป” โยนาธานจึงทูลว่า “ลูกเพียงแต่ชิมน้ำผึ้งนิดเดียว แค่ติดปลายไม้เท่านั้น และบัดนี้ลูกจะต้องตายหรือ?”
- 1ซามูเอล 14:44 - ซาอูลตรัสว่า “โยนาธานเอ๋ย หากเจ้าไม่ถูกลงโทษถึงตาย ก็ขอพระเจ้าทรงจัดการกับเราอย่างสาหัส”
- 1ซามูเอล 14:45 - แต่ทหารทั้งหลายทูลทักท้วงว่า “โยนาธานผู้ได้ทำการกอบกู้ครั้งใหญ่ในอิสราเอลนี้ควรจะตายหรือ? องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด แม้แต่ผมสักเส้นบนศีรษะของเขาก็จะไม่ตกถึงพื้นฉันนั้น เพราะเขาทำศึกในวันนี้โดยพระเจ้าทรงช่วย” เป็นอันว่าเหล่าประชากรได้ช่วยชีวิตโยนาธานไว้และเขาไม่ถูกประหาร
- 1ซามูเอล 14:28 - ทหารคนหนึ่งจึงบอกโยนาธานว่า “ราชบิดาของท่านทรงให้ทหารสาบานไว้อย่างเคร่งครัดว่า ‘ขอแช่งคนที่กินอะไรก่อนพลบค่ำวันนี้!’ ผู้คนจึงอ่อนระโหยโรยแรงกันหมด”
- มัทธิว 14:1 - ครั้งนั้นเฮโรดเจ้าผู้ครองแคว้นได้ยินกิตติศัพท์ของพระเยซู
- กันดารวิถี 30:5 - แต่หากบิดาของนางได้ยินและคัดค้านคำปฏิญาณหรือคำสาบานนั้นก็เป็นโมฆะ องค์พระผู้เป็นเจ้าจะไม่ทรงถือโทษนางเนื่องจากบิดาของนางคัดค้าน
- กันดารวิถี 30:6 - “หากนางแต่งงานหลังจากที่ได้กล่าวปฏิญาณหรือพลั้งปากสาบานโดยไม่ยั้งคิด
- กันดารวิถี 30:7 - และสามีของนางได้ทราบคำปฏิญาณนั้นในภายหลังและไม่ได้ทักท้วงอะไร คำปฏิญาณหรือคำสาบานของนางก็ยังคงมีผลอยู่
- กันดารวิถี 30:8 - แต่หากสามีของนางได้ทราบและคัดค้านคำปฏิญาณหรือวาจาพลั้งปากของนางนั้นก็เป็นโมฆะ และองค์พระผู้เป็นเจ้าจะไม่ทรงถือโทษนาง
- มัทธิว 14:5 - เฮโรดอยากจะฆ่ายอห์น แต่ก็กลัวประชาชนเพราะพวกเขาถือว่ายอห์นคือผู้เผยพระวจนะ
- กิจการของอัครทูต 25:3 - พวกเขาขอร้องเฟสทัสให้เห็นแก่พวกเขาโดยให้ย้ายเปาโลมายังกรุงเยรูซาเล็มเพราะว่าพวกเขาเตรียมซุ่มดักฆ่าเปาโลกลางทาง
- กิจการของอัครทูต 25:4 - เฟสทัสตอบว่า “เปาโลถูกคุมตัวอยู่ที่เมืองซีซารียาและเราเองกำลังจะไปที่นั่นในไม่ช้านี้
- กิจการของอัครทูต 25:5 - ถ้าเขาได้ทำผิดประการใดก็ให้ผู้นำของพวกท่านบางคนไปกับเราและยื่นฟ้องเขาที่นั่น”
- กิจการของอัครทูต 25:6 - หลังจากพักอยู่กับพวกเขาได้แปดหรือสิบวันเฟสทัสก็ไปยังเมืองซีซารียา ในวันรุ่งขึ้นเฟสทัสเปิดศาลพิจารณาคดีและสั่งให้นำตัวเปาโลเข้ามา
- กิจการของอัครทูต 25:7 - เมื่อเปาโลปรากฏตัวพวกยิวที่ลงมาจากกรุงเยรูซาเล็มก็เข้าไปยืนห้อมล้อมและฟ้องร้องเขาด้วยข้อหาร้ายแรงหลายประการซึ่งหาข้อพิสูจน์ไม่ได้
- กิจการของอัครทูต 25:8 - แล้วเปาโลจึงแก้ข้อกล่าวหาว่า “ข้าพเจ้าไม่ได้ทำสิ่งใดผิดต่อบทบัญญัติของยิวหรือต่อพระวิหารหรือต่อซีซาร์”
- กิจการของอัครทูต 25:9 - เฟสทัสอยากเอาใจพวกยิวจึงกล่าวกับเปาโลว่า “เจ้าเต็มใจจะขึ้นไปกรุงเยรูซาเล็มเพื่อสู้คดีตามข้อกล่าวหาเหล่านี้ต่อหน้าเราที่นั่นหรือไม่?”
- 1ซามูเอล 25:22 - หากถึงรุ่งเช้าแล้ว เรายังไว้ชีวิตผู้ชายที่เป็นคนของนาบาลแม้แต่คนเดียว ขอพระเจ้าทรงจัดการกับเรา อย่างสาหัสสากรรจ์!”
- ปัญญาจารย์ 5:2 - อย่าปากไว อย่าใจร้อนผลีผลาม พลั้งปากพล่อยๆ ต่อหน้าพระเจ้า พระเจ้าประทับในฟ้าสวรรค์ ส่วนท่านอยู่บนโลก ฉะนั้นจงพูดแต่น้อยคำ
- มาระโก 6:26 - กษัตริย์เฮโรดเป็นทุกข์ยิ่งนักแต่ก็ขัดไม่ได้เพราะได้ปฏิญาณไว้และเพราะเห็นแก่หน้าแขกเหรื่อ
- ผู้วินิจฉัย 21:1 - ชาวอิสราเอลได้กล่าวปฏิญาณที่มิสปาห์ว่า “จะไม่มีใครสักคนในพวกเรายอมยกบุตรสาวของตนให้แก่ชาวเบนยามิน”
- กิจการของอัครทูต 24:23 - เฟลิกส์สั่งนายร้อยให้คุมตัวเปาโลไว้แต่ผ่อนผันให้มีอิสระบางประการและอนุญาตให้เพื่อนฝูงดูแลช่วยเหลือเขาในสิ่งที่จำเป็น
- กิจการของอัครทูต 24:24 - หลังจากนั้นหลายวันเฟลิกส์มาพร้อมกับดรูสิลลาภรรยาของเขาซึ่งเป็นชาวยิว เขาได้เรียกตัวเปาโลมาพบและฟังเปาโลพูดถึงความเชื่อในพระเยซูคริสต์
- กิจการของอัครทูต 24:25 - ขณะเปาโลบรรยายถึงความชอบธรรม การควบคุมตน และการพิพากษาที่จะมาถึง เฟลิกส์ก็กลัวและกล่าวว่า “พอแค่นี้ก่อน! ท่านไปได้ ไว้มีโอกาสเราจะเรียกท่านมาอีก”
- กิจการของอัครทูต 24:26 - ขณะเดียวกันเฟลิกส์ก็หวังว่าเปาโลจะให้สินบนจึงเรียกตัวเขามาสนทนาบ่อยๆ
- กิจการของอัครทูต 24:27 - สองปีผ่านไปปอรสิอัส เฟสทัสมารับตำแหน่งแทนเฟลิกส์ แต่เฟลิกส์อยากเอาใจพวกยิวจึงทิ้งเปาโลไว้ในคุก
- มัทธิว 27:17 - เมื่อประชาชนมารวมตัวกันแล้วปีลาตจึงถามว่า “พวกท่านต้องการให้เราปล่อยคนไหน เยซูบารับบัสหรือเยซูที่เรียกกันว่าพระคริสต์?”
- มัทธิว 27:18 - เพราะปีลาตรู้ว่าพวกเขาจับพระเยซูมาด้วยความอิจฉา
- มัทธิว 27:19 - ขณะปีลาตนั่งอยู่บนบัลลังก์พิพากษา ภรรยาของท่านส่งคนมาเรียนท่านว่า “อย่าไปเกี่ยวข้องกับผู้บริสุทธิ์คนนี้เลยเนื่องจากวันนี้ดิฉันฝันร้ายไม่สบายใจมากเพราะท่านผู้นี้”
- มัทธิว 27:20 - แต่พวกหัวหน้าปุโรหิตและเหล่าผู้อาวุโสยุยงประชาชนว่าให้พวกเขาขอปีลาตให้ปล่อยบารับบัสและให้ประหารพระเยซู
- มัทธิว 27:21 - ผู้ว่าการถามว่า “ท่านต้องการให้ปล่อยคนไหนในสองคนนี้?” พวกเขาตอบว่า “บารับบัส”
- มัทธิว 27:22 - ปีลาตถามว่า “แล้วจะให้เราทำอย่างไรกับเยซูที่เรียกกันว่าพระคริสต์?” พวกนั้นทั้งหมดพากันร้องว่า “ตรึงเขาที่ไม้กางเขน!”
- มัทธิว 27:23 - ปีลาตถามว่า “ทำไม? เขาทำผิดอะไร?” แต่ทุกคนร้องตะโกนดังขึ้นอีกว่า “ตรึงเขาที่ไม้กางเขน!”
- มัทธิว 27:24 - เมื่อปีลาตเห็นว่าไม่ได้การมีแต่จะลุกฮือขึ้น เขาจึงเอาน้ำล้างมือต่อหน้าฝูงชนและกล่าวว่า “เราไม่มีความผิดเรื่องการตายของชายผู้นี้ เป็นความรับผิดชอบของพวกท่าน!”
- มัทธิว 27:25 - คนทั้งปวงตอบว่า “ให้เลือดของเขาตกอยู่กับเราและลูกหลานของเราเถิด!”
- มัทธิว 27:26 - แล้วปีลาตจึงปล่อยบารับบัสให้พวกเขา แต่ให้คนโบยตีพระเยซูและมอบตัวให้ไปตรึงที่ไม้กางเขน ( มก.15:16-20 )
- มาระโก 6:20 - เพราะเฮโรดยำเกรงยอห์นและคอยปกป้องเขาเพราะรู้ว่าเขาเป็นผู้ชอบธรรมและบริสุทธิ์ เมื่อเฮโรดได้ฟังยอห์นพูดก็งุนงงสงสัยยิ่งนัก แต่ก็ยังอยากฟัง
- มาระโก 6:14 - กษัตริย์เฮโรดได้ยินเรื่องของพระเยซูเพราะชื่อเสียงของพระองค์เลื่องลือไปทั่ว บางคนพูดว่า พระเยซูคือยอห์นผู้ให้บัพติศมาซึ่งเป็นขึ้นจากตาย ดังนั้นเขาจึงมีฤทธิ์อำนาจทำการอัศจรรย์ต่างๆ ได้
- 1ซามูเอล 14:24 - ในวันนั้นพลอิสราเอลต้องทุกข์ทรมานมากเพราะซาอูลได้ให้ประชาชนสาบานว่า “ขอแช่งคนที่บังอาจกินอะไรก่อนพลบค่ำวันนี้ จนกว่าเราจะได้แก้แค้นศัตรู!” ฉะนั้นจึงไม่มีทหารคนใดกินอาหาร
- ผู้วินิจฉัย 21:7 - เราจะหาภรรยาให้คนที่เหลืออยู่ได้อย่างไร ในเมื่อเราเองได้ปฏิญาณโดยอ้างองค์พระผู้เป็นเจ้าว่าจะไม่ยกลูกสาวของเราให้เขา?”
- ผู้วินิจฉัย 21:8 - แล้วพวกเขาก็ถามกันว่า “มีเผ่าใดในอิสราเอลที่ไม่ได้มาร่วมชุมนุมต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าที่มิสปาห์?” พวกเขาพบว่าไม่มีคนจากยาเบชกิเลอาดมาร่วมค่ายชุมนุมเลยสักคนเดียว
- ผู้วินิจฉัย 21:9 - เพราะเมื่อขานนับประชากร ไม่มีสักคนจากยาเบชกิเลอาดมาที่นั่น
- ผู้วินิจฉัย 21:10 - ที่ประชุมจึงส่งนักรบ 12,000 คนให้ไปฆ่าฟันชาวยาเบชกิเลอาดทุกคนรวมทั้งผู้หญิงและเด็ก
- ผู้วินิจฉัย 21:11 - พวกเขากล่าวกับเหล่านักรบว่า “สิ่งที่เจ้าทั้งหลายต้องทำคือ จงฆ่าผู้ชายทุกคนและผู้หญิงทุกคนที่ไม่ใช่สาวพรหมจารี”
- ผู้วินิจฉัย 21:12 - พวกเขาพบว่าในหมู่ชาวถิ่นยาเบชกิเลอาดมีสาวพรหมจารี 400 คน จึงนำตัวมายังค่ายพักที่ชิโลห์ในคานาอัน
- ผู้วินิจฉัย 21:13 - จากนั้นประชากรทั้งหมดก็ส่งทูตสันติภาพไปพบคนเบนยามินที่ศิลาแห่งริมโมน
- ผู้วินิจฉัย 21:14 - คนเบนยามินจึงกลับมาและได้รับหญิงสาวชาวยาเบชกิเลอาดที่รอดชีวิตนั้น แต่มีหญิงสาวไม่เพียงพอกับจำนวนคนของเขา
- ผู้วินิจฉัย 21:15 - เหล่าประชากรโศกเศร้าเสียใจกับเบนยามิน เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงทำให้เกิดช่องว่างในเผ่าของอิสราเอล
- ผู้วินิจฉัย 21:16 - บรรดาผู้อาวุโสของเหล่าประชากรหารือกันว่า “เราจะทำอย่างไรดีจึงจะหาภรรยาให้กับชายเบนยามินที่เหลือ เนื่องจากผู้หญิงเบนยามินตายหมดแล้ว?
- ผู้วินิจฉัย 21:17 - คนเบนยามินที่เหลืออยู่ต้องมีทายาท เพื่อชนอิสราเอลจะได้ไม่ขาดหายไปหนึ่งเผ่า
- ผู้วินิจฉัย 21:18 - เราจะยกลูกสาวของเราเองให้ก็ไม่ได้ เพราะเราปฏิญาณไว้แล้วว่า ‘ถ้าผู้ใดยกบุตรสาวให้เป็นภรรยาของคนเบนยามินคนนั้นจะถูกสาปแช่ง’
- ผู้วินิจฉัย 21:19 - แต่ดูเถิดมีเทศกาลฉลองประจำปีถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าที่ชิโลห์ ไปทางเหนือของเบธเอล ทางตะวันออกของเส้นทางจากเบธเอลไปยังเชเคม และทางใต้ของเลโบนาห์”
- ผู้วินิจฉัย 21:20 - เขาเหล่านั้นจึงไปบอกชายเบนยามินว่า “จงไปแอบซุ่มอยู่ในสวนองุ่น
- ผู้วินิจฉัย 21:21 - และคอยดูเมื่อหญิงสาวชาวชิโลห์ออกมาเพื่อจะไปร่วมเต้นรำ ก็ฉุดนางไปเป็นภรรยาในดินแดนเบนยามิน
- ผู้วินิจฉัย 21:22 - เมื่อบิดาและพี่น้องของนางมาฟ้องเรา เราก็จะบอกพวกเขาเองว่า ‘โปรดเห็นใจยกลูกสาวให้เขาเถิด เพราะเมื่อเราทำลายยาเบชกิเลอาด เราไม่อาจหาภรรยาให้พวกเขาได้เพียงพอและท่านเองก็ไม่ผิด ในเมื่อท่านไม่ได้ยกลูกสาวให้พวกเขา’”
- ผู้วินิจฉัย 21:23 - ฉะนั้นคนเบนยามินจึงทำตามคำแนะนำ ไปฉุดหญิงสาวที่กำลังเต้นรำไปเป็นภรรยา และกลับไปยังดินแดนกรรมสิทธิ์ของตน แล้วสร้างเมืองขึ้นใหม่ ตั้งรกรากอยู่ที่นั่น
- ดาเนียล 6:14 - เมื่อกษัตริย์ทรงทราบเช่นนี้ก็ทุกข์พระทัยยิ่งนัก ทรงครุ่นคิดหาวิธีช่วยเหลือดาเนียลจนพลบค่ำ
- ดาเนียล 6:15 - คนเหล่านั้นก็รวมกลุ่มกันมาเข้าเฝ้าและทูลว่า “ข้าแต่กษัตริย์ ขอทรงระลึกว่าตามกฎหมายของชาวมีเดียและเปอร์เซีย คำสั่งหรือกฤษฎีกาใดๆ ของกษัตริย์ที่ออกไปจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้เลย”
- ดาเนียล 6:16 - ฉะนั้นกษัตริย์จึงมีพระบัญชา และพวกเขาก็จับดาเนียลโยนลงในถ้ำสิงโต กษัตริย์ตรัสกับดาเนียลว่า “ขอให้พระเจ้าที่เจ้าปรนนิบัติเสมอมานั้นช่วยเหลือเจ้าเถิด!”
- ผู้วินิจฉัย 11:39 - หลังจากนั้นสองเดือน นางก็กลับมาหาบิดา เยฟธาห์ก็ทำกับนางตามที่ปฏิญาณไว้ทั้งๆ ที่นางยังเป็นหญิงพรหมจารี นับแต่นั้นมากลายเป็นขนบประเพณีในอิสราเอล