逐节对照
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - ก่อนที่พระเยซูจะส่งสาวกเหล่านี้ทั้งสิบสองคนออกไป พระองค์สั่งพวกเขาว่า “อย่าไปในเขตแดนของบรรดาคนนอก และอย่าเข้าไปในเมืองของชาวสะมาเรีย
- 新标点和合本 - 耶稣差这十二个人去,吩咐他们说:“外邦人的路,你们不要走;撒玛利亚人的城,你们不要进;
- 和合本2010(上帝版-简体) - 耶稣差遣这十二个人出去,吩咐他们说:“外邦人的路,你们不要走;撒玛利亚人的城,你们不要进;
- 和合本2010(神版-简体) - 耶稣差遣这十二个人出去,吩咐他们说:“外邦人的路,你们不要走;撒玛利亚人的城,你们不要进;
- 当代译本 - 耶稣差遣这十二个人出去,嘱咐他们:“外族人的地方不要去,撒玛利亚人的城镇也不要进,
- 圣经新译本 - 耶稣差遣这十二个人出去,并且嘱咐他们:“外族人的路,你们不要走,撒玛利亚人的城,你们也不要进;
- 中文标准译本 - 耶稣差派这十二使徒出去,吩咐他们说:“外邦人的路,你们不要走;撒马利亚人的城,你们不要进;
- 现代标点和合本 - 耶稣差这十二个人去,吩咐他们说:“外邦人的路你们不要走,撒马利亚人的城你们不要进,
- 和合本(拼音版) - 耶稣差这十二个人去,吩咐他们说:“外邦人的路,你们不要走;撒玛利亚人的城,你们不要进。
- New International Version - These twelve Jesus sent out with the following instructions: “Do not go among the Gentiles or enter any town of the Samaritans.
- New International Reader's Version - Jesus sent these 12 out with the following orders. “Do not go among the Gentiles,” he said. “Do not enter any town of the Samaritans.
- English Standard Version - These twelve Jesus sent out, instructing them, “Go nowhere among the Gentiles and enter no town of the Samaritans,
- New Living Translation - Jesus sent out the twelve apostles with these instructions: “Don’t go to the Gentiles or the Samaritans,
- The Message - Jesus sent his twelve harvest hands out with this charge: “Don’t begin by traveling to some far-off place to convert unbelievers. And don’t try to be dramatic by tackling some public enemy. Go to the lost, confused people right here in the neighborhood. Tell them that the kingdom is here. Bring health to the sick. Raise the dead. Touch the untouchables. Kick out the demons. You have been treated generously, so live generously.
- Christian Standard Bible - Jesus sent out these twelve after giving them instructions: “Don’t take the road that leads to the Gentiles, and don’t enter any Samaritan town.
- New American Standard Bible - These twelve Jesus sent out after instructing them, saying, “Do not go on a road to Gentiles, and do not enter a city of Samaritans;
- New King James Version - These twelve Jesus sent out and commanded them, saying: “Do not go into the way of the Gentiles, and do not enter a city of the Samaritans.
- Amplified Bible - Jesus sent out these twelve, instructing them: “Do not go among the Gentiles, and do not go into a city of the Samaritans;
- American Standard Version - These twelve Jesus sent forth, and charged them, saying, Go not into any way of the Gentiles, and enter not into any city of the Samaritans:
- King James Version - These twelve Jesus sent forth, and commanded them, saying, Go not into the way of the Gentiles, and into any city of the Samaritans enter ye not:
- New English Translation - Jesus sent out these twelve, instructing them as follows: “Do not go to Gentile regions and do not enter any Samaritan town.
- World English Bible - Jesus sent these twelve out, and commanded them, saying, “Don’t go among the Gentiles, and don’t enter into any city of the Samaritans.
- 新標點和合本 - 耶穌差這十二個人去,吩咐他們說:「外邦人的路,你們不要走;撒馬利亞人的城,你們不要進;
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 耶穌差遣這十二個人出去,吩咐他們說:「外邦人的路,你們不要走;撒瑪利亞人的城,你們不要進;
- 和合本2010(神版-繁體) - 耶穌差遣這十二個人出去,吩咐他們說:「外邦人的路,你們不要走;撒瑪利亞人的城,你們不要進;
- 當代譯本 - 耶穌差遣這十二個人出去,囑咐他們:「外族人的地方不要去,撒瑪利亞人的城鎮也不要進,
- 聖經新譯本 - 耶穌差遣這十二個人出去,並且囑咐他們:“外族人的路,你們不要走,撒瑪利亞人的城,你們也不要進;
- 呂振中譯本 - 耶穌差遣這十二個人,囑咐他們說: 『外國人的路、你們不要走; 撒瑪利亞 人的城、你們不要進;
- 中文標準譯本 - 耶穌差派這十二使徒出去,吩咐他們說:「外邦人的路,你們不要走;撒馬利亞人的城,你們不要進;
- 現代標點和合本 - 耶穌差這十二個人去,吩咐他們說:「外邦人的路你們不要走,撒馬利亞人的城你們不要進,
- 文理和合譯本 - 耶穌遣此十二人、命之曰、異邦之途勿由、撒瑪利亞之邑勿入、
- 文理委辦譯本 - 耶穌遣十二人、命之曰、異邦之塗勿由、撒馬利亞邑勿入、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 耶穌遣此十二者、命之曰、毋往異邦人之路、毋入 撒瑪利亞 之邑、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 耶穌遣十二子而諭之曰:『勿往異邦、勿入 色馬里 城邑、
- Nueva Versión Internacional - Jesús envió a estos doce con las siguientes instrucciones: «No vayan entre los gentiles ni entren en ningún pueblo de los samaritanos.
- 현대인의 성경 - 예수님은 이 열두 사람을 보내시며 이렇게 명령하셨다. “너희는 이방인들이나 사마리아 사람들에게 가지 말고
- Новый Русский Перевод - Этих двенадцать Иисус послал, дав такие повеления: – Не ходите к язычникам и не заходите ни в какой из самарянских городов.
- Восточный перевод - Этих двенадцать Иса послал, дав такие повеления: – Не ходите к язычникам и не заходите ни в какой из самарянских городов.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Этих двенадцать Иса послал, дав такие повеления: – Не ходите к язычникам и не заходите ни в какой из самарянских городов.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Этих двенадцать Исо послал, дав такие повеления: – Не ходите к язычникам и не заходите ни в какой из сомарянских городов.
- La Bible du Semeur 2015 - Ce sont ces douze hommes que Jésus envoya, après leur avoir fait les recommandations suivantes : N’allez pas dans les contrées étrangères et n’entrez pas dans les villes de la Samarie.
- リビングバイブル - イエスは、次のような指示を与え、弟子たちを派遣されました。「外国人やサマリヤ人のところに行ってはいけません。
- Nestle Aland 28 - Τούτους τοὺς δώδεκα ἀπέστειλεν ὁ Ἰησοῦς παραγγείλας αὐτοῖς λέγων· εἰς ὁδὸν ἐθνῶν μὴ ἀπέλθητε καὶ εἰς πόλιν Σαμαριτῶν μὴ εἰσέλθητε·
- unfoldingWord® Greek New Testament - τούτους τοὺς δώδεκα ἀπέστειλεν ὁ Ἰησοῦς παραγγείλας αὐτοῖς λέγων, εἰς ὁδὸν ἐθνῶν μὴ ἀπέλθητε, καὶ εἰς πόλιν Σαμαρειτῶν μὴ εἰσέλθητε;
- Nova Versão Internacional - Jesus enviou os doze com as seguintes instruções: “Não se dirijam aos gentios , nem entrem em cidade alguma dos samaritanos.
- Hoffnung für alle - Diese zwölf Jünger sandte Jesus aus und gab ihnen folgenden Auftrag: »Geht nicht zu den Nichtjuden oder in die Städte der Samariter,
- Kinh Thánh Hiện Đại - Chúa Giê-xu sai mười hai sứ đồ lên đường và căn dặn: “Đừng đi đến các Dân Ngoại hoặc vào các thành của người Sa-ma-ri,
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - พระเยซูทรงส่งทั้งสิบสองคนนี้ออกไปพร้อมกับกำชับว่า “อย่าไปในหมู่คนต่างชาติหรือเข้าไปในเมืองใดของชาวสะมาเรีย
交叉引用
- กิจการของอัครทูต 8:5 - ฟีลิปได้ไปยังเมืองหนึ่งในแคว้นสะมาเรียเพื่อประกาศเรื่องพระคริสต์ที่นั่น
- กิจการของอัครทูต 8:6 - เมื่อฝูงชนได้ยินฟีลิปพูด และเห็นปรากฏการณ์อัศจรรย์ที่ท่านได้กระทำแล้วก็ตั้งใจฟัง
- กิจการของอัครทูต 8:7 - พวกวิญญาณร้ายพากันร้องเสียงดังและออกมาจากร่างของผู้ป่วยหลายคน ผู้ป่วยเป็นอัมพาตและคนง่อยจำนวนมากได้รับการรักษาให้หาย
- กิจการของอัครทูต 8:8 - ผู้คนในเมืองนั้นพากันยินดีอย่างยิ่ง
- กิจการของอัครทูต 8:9 - มีชายคนหนึ่งในเมืองนั้นชื่อซีโมน เขาอวดอ้างตัวว่าเป็นผู้วิเศษ เคยใช้เวทมนตร์คาถาซึ่งทำให้พวกชนชาติสะมาเรียพากันพิศวง
- กิจการของอัครทูต 8:10 - คนทั่วไปทั้งผู้ใหญ่ผู้น้อยพากันสนใจฟังและอุทานว่า “ชายคนนี้เป็นที่รู้จักกันว่า เป็นอานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า”
- กิจการของอัครทูต 8:11 - จึงได้ติดตามเขาไปด้วยอำนาจคาถาอาคมที่น่าพิศวงมานาน
- กิจการของอัครทูต 8:12 - แต่เมื่อพวกเขาเชื่อในข่าวประเสริฐ ขณะที่ฟีลิปประกาศเรื่องอาณาจักรของพระเจ้าและพระนามของพระเยซูคริสต์แล้ว ทั้งชายและหญิงต่างก็รับบัพติศมากัน
- กิจการของอัครทูต 8:13 - ซีโมนเองก็เป็นอีกคนที่เชื่อและรับบัพติศมา เขาได้ติดตามฟีลิปไปทุกแห่งหน เพราะแปลกใจกับปรากฏการณ์อัศจรรย์และฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- กิจการของอัครทูต 8:14 - เมื่อพวกอัครทูตในเมืองเยรูซาเล็มทราบว่า แคว้นสะมาเรียยอมรับคำกล่าวของพระเจ้าแล้ว จึงส่งเปโตรและยอห์นไป
- กิจการของอัครทูต 8:15 - เมื่อทั้งสองไปถึงก็ได้อธิษฐาน เพื่อว่าคนเหล่านั้นจะได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์
- กิจการของอัครทูต 8:16 - เพราะพระวิญญาณบริสุทธิ์ยังมิได้ลงมาสถิตกับพวกเขา เพียงแต่ได้รับบัพติศมาในพระนามของพระเยซูเจ้า
- กิจการของอัครทูต 8:17 - เมื่อเปโตรและยอห์นได้วางมือบนตัวคนเหล่านั้นแล้ว พวกเขาก็ได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์
- กิจการของอัครทูต 8:18 - เมื่อซีโมนเห็นว่าผู้คนได้รับพระวิญญาณจากการที่อัครทูตวางมือบนตัว เขาจึงนำเงินมาให้อัครทูต
- กิจการของอัครทูต 8:19 - และพูดว่า “ขอให้ข้าพเจ้าได้รับฤทธิ์นี้ด้วย เพื่อว่าเวลาข้าพเจ้าวางมือบนตัวผู้ใด ผู้นั้นก็จะได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์”
- กิจการของอัครทูต 8:20 - เปโตรตอบว่า “ขอให้เงินของเจ้าจงสูญสิ้นไปพร้อมกับเจ้า เพราะถ้าเจ้าคิดว่าจะสามารถซื้อของประทานจากพระเจ้าได้ด้วยเงิน
- กิจการของอัครทูต 8:21 - เจ้าก็ไม่มีส่วนร่วมใดๆ เกี่ยวข้องกับงานนี้ เพราะว่าใจของเจ้าไม่ซื่อต่อพระเจ้า
- กิจการของอัครทูต 8:22 - จงกลับใจจากความชั่วร้ายของเจ้าในเรื่องนี้ และถ้าเป็นไปได้ ก็จงอธิษฐานต่อพระผู้เป็นเจ้าเพื่อความคิดในใจของเจ้าจะได้รับการยกโทษ
- กิจการของอัครทูต 8:23 - เราเห็นว่าเจ้ามีความขมขื่นมากและเป็นทาสของบาป”
- กิจการของอัครทูต 8:24 - แล้วซีโมนตอบว่า “โปรดอธิษฐานต่อพระผู้เป็นเจ้าให้ข้าพเจ้า เพื่อสิ่งที่ท่านกล่าวจะได้ไม่เกิดขึ้นกับข้าพเจ้า”
- กิจการของอัครทูต 8:25 - เมื่อเขาทั้งสองให้คำยืนยันและประกาศคำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้าแล้ว เปโตรและยอห์นก็ประกาศข่าวประเสริฐที่หมู่บ้านหลายแห่งในแคว้นสะมาเรีย ก่อนจะกลับไปยังเมืองเยรูซาเล็ม
- ลูกา 9:52 - และส่งพวกผู้ส่งข่าวล่วงหน้าไปยังหมู่บ้านของชาวสะมาเรีย เพื่อเตรียมสิ่งต่างๆ ให้พร้อม
- ลูกา 9:53 - แต่ผู้คนที่นั่นกลับไม่ยอมรับพระองค์ เพราะเมืองเยรูซาเล็มเป็นจุดหมายปลายทางของพระองค์
- ลูกา 9:54 - เมื่อสาวกของพระองค์คือยากอบและยอห์นเห็นดังนั้นจึงถามว่า “พระองค์ท่าน พระองค์จะโปรดให้พวกเราขอไฟลงมาจากสวรรค์ทำลายเขาเสียไหม”
- ยอห์น 4:39 - ชาวสะมาเรียจำนวนมากในเมืองนั้นเชื่อในพระองค์ เพราะคำพูดของหญิงคนนั้นที่ได้ยืนยันว่า “ท่านได้บอกทุกสิ่งที่ข้าพเจ้าได้กระทำ”
- ยอห์น 4:40 - ดังนั้นเมื่อชาวสะมาเรียมาหาพระองค์ ก็ได้ขอให้พระองค์พักอยู่ด้วย พระองค์จึงอยู่ที่นั่น 2 วัน
- ยอห์น 4:20 - บรรพบุรุษของเราได้นมัสการที่ภูเขานี้ และพวกท่านพูดว่าเมืองเยรูซาเล็มเป็นสถานที่ที่ควรใช้ในการนมัสการ”
- มัทธิว 4:15 - “เขตแดนของเผ่าเศบูลุน และเขตแดนของเผ่านัฟทาลี ตามทางข้างทะเลโพ้นแม่น้ำจอร์แดน คือกาลิลีของบรรดาคนนอก
- 1 เธสะโลนิกา 2:16 - เขาห้ามพวกเราไม่ให้พูดเรื่องที่จะทำให้บรรดาคนนอก ได้รับชีวิตรอดพ้น ผลก็คือพวกเขาสะสมบาปไว้จนท่วมตัว และในที่สุดการลงโทษจากพระเจ้าก็ได้ลงมาสู่พวกเขา
- ลูกา 10:33 - ส่วนชาวสะมาเรียคนหนึ่งเดินทางผ่านมาจนมาใกล้ชายคนนั้น เมื่อเห็นเขาแล้วก็เกิดความสงสาร
- ลูกา 10:1 - หลังจากนั้นพระเยซูเจ้าแต่งตั้งสาวกอื่นอีก 72 คน โดยแบ่งเป็นกลุ่มๆ ละ 2 คน เดินทางล่วงหน้าไปยังทุกๆ เมืองและทุกที่ที่พระองค์จะผ่านไป
- มัทธิว 22:3 - ท่านส่งผู้รับใช้ไปเชิญบรรดาแขกมางานเลี้ยงสมรส แต่เขาเหล่านั้นไม่อยากจะมา
- ยอห์น 8:48 - ชาวยิวตอบพระองค์ว่า “พวกเราพูดผิดหรือที่ว่า ท่านเป็นชาวสะมาเรียและมีมารสิงอยู่”
- ลูกา 17:16 - ชายผู้นี้เป็นชาวสะมาเรียซึ่งก็ได้ทรุดตัวลงแทบเท้าพระเยซูเพื่อขอบคุณพระองค์
- ยอห์น 4:5 - ดังนั้นเมื่อได้เดินทางมาถึงเมืองหนึ่งชื่อสิคาร์ในแคว้นสะมาเรียใกล้ๆ ที่ดินซึ่งยาโคบให้แก่โยเซฟผู้เป็นบุตร
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:24 - กษัตริย์แห่งอัสซีเรียให้ประชาชนจากบาบิโลน คูธาห์ อัฟวา ฮามัท และเสฟาร์วาอิม มาอยู่ในเมืองต่างๆ ที่แคว้นสะมาเรียแทนประชาชนอิสราเอล คนเหล่านั้นจึงถือสิทธิ์เป็นเจ้าของทุกสิ่งในแคว้นสะมาเรีย และตั้งรกรากอยู่ที่นั่น
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:25 - ในระยะแรกที่อาศัยอยู่ที่นั่น พวกเขาไม่เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า ฉะนั้นพระผู้เป็นเจ้าส่งสิงโตเข้าไปท่ามกลางพวกเขา และบางคนถูกสิงโตขย้ำตาย
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:26 - กษัตริย์แห่งอัสซีเรียรับทราบมาว่า “บรรดาประชาชาติที่ท่านเนรเทศให้ไปอยู่ในแคว้นสะมาเรียไม่รู้กฎของพระเจ้าของแผ่นดิน พระองค์จึงได้ให้สิงโตเข้าไปท่ามกลางพวกเขา ดูเถิด สิงโตขย้ำพวกเขาตายก็เพราะพวกเขาไม่รู้กฎของพระเจ้าของแผ่นดิน”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:27 - กษัตริย์แห่งอัสซีเรียจึงสั่งว่า “จงส่งปุโรหิตคนหนึ่งที่ถูกเนรเทศมา ให้เขาไปจากสะมาเรีย และกลับไปอาศัยอยู่ที่นั่น เพื่อสอนกฎของพระเจ้าของแผ่นดินแก่ประชาชน”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:28 - ดังนั้นปุโรหิตคนหนึ่งที่พวกเขาเนรเทศก็ไปจากสะมาเรีย และกลับมาอยู่ที่เบธเอล เพื่อสอนประชาชนว่าพวกเขาควรเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้าอย่างไร
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:29 - แต่ประชาชาติแต่ละชาติก็ยังสร้างรูปปั้นเทพเจ้าของตนเอง และตั้งไว้ในวิหารบนภูเขาสูงที่ชาวสะมาเรียได้สร้างไว้ก่อนแล้ว ประชาชาติแต่ละชาติสร้างรูปเคารพในเมืองที่ตนอาศัยอยู่
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:30 - ชาวบาบิโลนสร้างรูปเทพเจ้าสุคคทเบโนท ชาวคูธสร้างรูปเทพเจ้าเนอร์กัล ชาวฮามัทสร้างรูปเทพเจ้าอาชิมา
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:31 - ชาวอัฟวาสร้างรูปเทพเจ้านิบหัสและทาร์ทัก และชาวเสฟาร์วาอิมเผาบุตรของตนเป็นของถวายแก่เทพเจ้าอัดรัมเมเลคและอานัมเมเลค ซึ่งเป็นเทพเจ้าของชาวเสฟาร์วาอิม
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:32 - ประชาชนเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า แต่ก็ยังเลือกบางคนในพวกเขาเองให้เป็นปุโรหิตประจำสถานบูชาบนภูเขาสูง ให้ถวายเครื่องสักการะเพื่อพวกเขาในวิหารบนภูเขาสูง
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:33 - พวกเขาเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า แต่ก็ยังนมัสการปวงเทพเจ้าของตน ทำตามแบบอย่างของบรรดาประชาชาติที่พวกเขาเคยอยู่ด้วยก่อนหน้านี้
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:34 - ทุกวันนี้ พวกเขาก็ปฏิบัติเช่นเคย คือไม่เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้าจริงๆ และไม่รักษากฎเกณฑ์ คำบัญชา กฎบัญญัติ หรือพระบัญญัติ ที่พระผู้เป็นเจ้าบัญชาบรรดาบุตรของยาโคบผู้ที่พระองค์ตั้งชื่อว่า อิสราเอล
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:35 - พระผู้เป็นเจ้าทำพันธสัญญากับพวกเขา และบัญชาว่า “อย่าเกรงกลัวบรรดาเทพเจ้า หรือก้มกราบและบูชา หรือมอบเครื่องสักการะให้แก่สิ่งเหล่านั้น
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:36 - แต่เจ้าจงเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า ผู้นำเจ้าออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ด้วยฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่และพลานุภาพ เจ้าจงก้มกราบพระองค์ และจงมอบเครื่องสักการะแด่พระองค์
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:37 - กฎเกณฑ์ คำบัญชา กฎบัญญัติ และบัญญัติที่เราเขียนให้แก่พวกเจ้า เจ้าก็จงระมัดระวังปฏิบัติตามเสมอ อย่าเกรงกลัวบรรดาเทพเจ้า
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:38 - อย่าลืมพันธสัญญาที่เราได้ทำไว้กับเจ้า อย่าเกรงกลัวบรรดาเทพเจ้า
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:39 - แต่เจ้าจงเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้า และเราจะช่วยเจ้าให้พ้นจากมือของศัตรูทั้งปวง”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:40 - แต่พวกเขาก็ไม่ฟัง และยังคงดื้อดึงปฏิบัติเหมือนเดิม
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:41 - ประชาชาติเหล่านี้เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า และบูชารูปเคารพสลัก ทั้งลูกและหลานของพวกเขาก็กระทำเช่นเดียวกัน เหมือนกับที่บรรพบุรุษปฏิบัติ พวกเขาปฏิบัติเช่นนั้นมาจนถึงทุกวันนี้
- กิจการของอัครทูต 8:1 - เซาโลซึ่งอยู่ที่นั่นก็เห็นชอบด้วยกับการตายของสเทเฟน ในวันนั้นได้มีการกดขี่ข่มเหงคริสตจักรในเมืองเยรูซาเล็มครั้งใหญ่ ผู้ที่เชื่อทุกคนจึงกระจัดกระจายไปทั่วแคว้นยูเดียและแคว้นสะมาเรีย เว้นแต่พวกอัครทูตเท่านั้น
- โรม 15:8 - ข้าพเจ้ากล่าวว่า พระคริสต์ได้มารับใช้พวกที่เข้าสุหนัต เพื่อให้เห็นว่าพระเจ้ามีความสัตย์จริง เพื่อแสดงการรักษาคำมั่นสัญญาของพระองค์ ที่ได้ให้ไว้กับบรรดาบรรพบุรุษ
- โรม 15:9 - เพื่อว่าพวกคนนอกจะได้สรรเสริญพระเจ้า เพราะความเมตตาของพระองค์ ตามที่มีบันทึกไว้ว่า “ฉะนั้นข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ท่ามกลางคนนอก และร้องเพลงสรรเสริญพระนามของพระองค์”
- ยอห์น 20:21 - พระเยซูจึงกล่าวกับพวกเขาอีกว่า “สันติสุขจงอยู่กับพวกเจ้า พระบิดาได้ส่งเรามาเช่นใด เราก็ส่งเจ้าไปเช่นนั้น”
- กิจการของอัครทูต 1:8 - แต่เจ้าจะได้รับฤทธานุภาพ เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์สถิตกับเจ้า และเจ้าจะเป็นบรรดาพยานของเราในเมืองเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย แคว้นสะมาเรีย และสุดขอบโลก”
- ยอห์น 7:35 - ดังนั้นชาวยิวจึงพูดโต้ตอบกันว่า “ชายผู้นี้ตั้งใจจะไปที่ไหนที่พวกเราจะหาไม่พบ จะตั้งใจไปหาพวกเราที่กระจัดกระจายไปอยู่กับชาวกรีก และสั่งสอนชาวกรีกหรือ
- ลูกา 9:2 - และพระองค์ส่งพวกเขาออกไปประกาศเรื่องอาณาจักรของพระเจ้าและรักษาคนป่วย
- กิจการของอัครทูต 22:21 - แล้วพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าว่า ‘จงไปเถิด เราจะส่งเจ้าไปยังบรรดาคนนอกที่อยู่ห่างไกล’”
- กิจการของอัครทูต 22:22 - ฝูงชนฟังเปาโลกล่าวจนถึงเพียงนี้ ก็ตะโกนเสียงลั่นว่า “กำจัดชายคนนี้ให้หายสาบสูญไปจากโลกเสียเถิด เขาไม่สมควรที่จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว”
- กิจการของอัครทูต 22:23 - ขณะที่เขาทั้งหลายกำลังตะโกนไป พร้อมกับเหวี่ยงเสื้อคลุมออกไปจนฝุ่นตลบอยู่นั้น
- ยอห์น 4:22 - พวกเจ้านมัสการอะไรที่เจ้าไม่รู้จัก แต่พวกเรานมัสการสิ่งที่เรารู้จัก เพราะความรอดพ้นมาจากพวกชาวยิว
- ยอห์น 4:23 - แต่จะถึงเวลา ที่จริงบัดนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่พวกนมัสการแท้จะนมัสการพระบิดาด้วยวิญญาณและความจริง เพราะว่าพระบิดาแสวงหาผู้คนเหล่านี้ให้เป็นผู้นมัสการพระองค์
- ยอห์น 4:24 - พระเจ้าเป็นพระวิญญาณ ดังนั้นบรรดาผู้ที่นมัสการพระองค์ ต้องนมัสการด้วยวิญญาณและความจริง”
- ยอห์น 4:9 - หญิงชาวสะมาเรียผู้นั้นพูดกับพระองค์ว่า “เป็นไปได้อย่างไรที่ท่านผู้เป็นชาวยิวจะมาขอน้ำดื่มจากข้าพเจ้า ในเมื่อข้าพเจ้าเป็นหญิงชาวสะมาเรีย” (ด้วยเหตุว่าชาวยิวไม่คบหากับชาวสะมาเรีย)