逐节对照
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - แต่ใครสามารถทนต่อวันนั้นได้เมื่อพระองค์มา และใครจะสามารถทนเมื่อพระองค์ปรากฏ เพราะพระองค์เป็นเหมือนเปลวไฟสำหรับหลอมเหล็ก และเหมือนผงซักฟอกของผู้ซักเสื้อผ้า
- 新标点和合本 - 他来的日子,谁能当得起呢?他显现的时候,谁能立得住呢?因为他如炼金之人的火,如漂布之人的碱。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 他来的日子,谁能当得起呢?他显现的时候,谁能立得住呢?因为他如炼金匠的火,如漂洗者的碱。
- 和合本2010(神版-简体) - 他来的日子,谁能当得起呢?他显现的时候,谁能立得住呢?因为他如炼金匠的火,如漂洗者的碱。
- 当代译本 - 然而,祂来临的日子,谁能承受得起?祂出现的时候,谁能站立得住?因为祂像炼金之火,又像漂白衣的碱。
- 圣经新译本 - 可是,他来的日子,谁能当得起呢?他显现的时候,谁能站立得住呢?因为他像炼金之人的火,又像漂布之人的碱。
- 中文标准译本 - 不过他来的日子,谁能承受得起呢?他显现的时候,谁能站立得住呢?因为他像炼金之人的火,又像漂布之人的碱。
- 现代标点和合本 - “他来的日子,谁能当得起呢?他显现的时候,谁能立得住呢?因为他如炼金之人的火,如漂布之人的碱。
- 和合本(拼音版) - 他来的日子,谁能当得起呢?他显现的时候,谁能立得住呢?因为他如炼金之人的火,如漂布之人的碱。
- New International Version - But who can endure the day of his coming? Who can stand when he appears? For he will be like a refiner’s fire or a launderer’s soap.
- New International Reader's Version - But who can live through the day when he comes? Who will be left standing when he appears? He will be like a fire that makes things pure. He will be like soap that makes things clean.
- English Standard Version - But who can endure the day of his coming, and who can stand when he appears? For he is like a refiner’s fire and like fullers’ soap.
- New Living Translation - “But who will be able to endure it when he comes? Who will be able to stand and face him when he appears? For he will be like a blazing fire that refines metal, or like a strong soap that bleaches clothes.
- The Message - But who will be able to stand up to that coming? Who can survive his appearance? He’ll be like white-hot fire from the smelter’s furnace. He’ll be like the strongest lye soap at the laundry. He’ll take his place as a refiner of silver, as a cleanser of dirty clothes. He’ll scrub the Levite priests clean, refine them like gold and silver, until they’re fit for God, fit to present offerings of righteousness. Then, and only then, will Judah and Jerusalem be fit and pleasing to God, as they used to be in the years long ago. * * *
- Christian Standard Bible - But who can endure the day of his coming? And who will be able to stand when he appears? For he will be like a refiner’s fire and like launderer’s bleach.
- New American Standard Bible - “But who can endure the day of His coming? And who can stand when He appears? For He is like a refiner’s fire, and like launderer’s soap.
- New King James Version - “But who can endure the day of His coming? And who can stand when He appears? For He is like a refiner’s fire And like launderers’ soap.
- Amplified Bible - “But who can endure the day of His coming? And who can stand when He appears? For He is like a refiner’s fire and like launderer’s soap [which removes impurities and uncleanness].
- American Standard Version - But who can abide the day of his coming? and who shall stand when he appeareth? for he is like a refiner’s fire, and like fullers’ soap:
- King James Version - But who may abide the day of his coming? and who shall stand when he appeareth? for he is like a refiner's fire, and like fullers' soap:
- New English Translation - Who can endure the day of his coming? Who can keep standing when he appears? For he will be like a refiner’s fire, like a launderer’s soap.
- World English Bible - “But who can endure the day of his coming? And who will stand when he appears? For he is like a refiner’s fire, and like launderers’ soap;
- 新標點和合本 - 他來的日子,誰能當得起呢?他顯現的時候,誰能立得住呢?因為他如煉金之人的火,如漂布之人的鹼。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 他來的日子,誰能當得起呢?他顯現的時候,誰能立得住呢?因為他如煉金匠的火,如漂洗者的鹼。
- 和合本2010(神版-繁體) - 他來的日子,誰能當得起呢?他顯現的時候,誰能立得住呢?因為他如煉金匠的火,如漂洗者的鹼。
- 當代譯本 - 然而,祂來臨的日子,誰能承受得起?祂出現的時候,誰能站立得住?因為祂像煉金之火,又像漂白衣的鹼。
- 聖經新譯本 - 可是,他來的日子,誰能當得起呢?他顯現的時候,誰能站立得住呢?因為他像煉金之人的火,又像漂布之人的鹼。
- 呂振中譯本 - 但他來的日子誰能當得起呢?他顯現時、誰能站得住呢? 『因為他像煉 金 之人的火,像漂布之人的鹼。
- 中文標準譯本 - 不過他來的日子,誰能承受得起呢?他顯現的時候,誰能站立得住呢?因為他像煉金之人的火,又像漂布之人的鹼。
- 現代標點和合本 - 「他來的日子,誰能當得起呢?他顯現的時候,誰能立得住呢?因為他如煉金之人的火,如漂布之人的鹼。
- 文理和合譯本 - 彼至之日、誰能當之、彼顯之時、誰能立乎、蓋彼若煆金之火、如漂布之鹼、
- 文理委辦譯本 - 彼既涖臨、顯著斯土、誰能恆立、彼若鍜金之火、浣布之鹻、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 誰能當其涖臨之日、誰能立在其顯現之時、 或作彼涖臨之日孰能當之彼顯現之時孰能恆立 彼若鍊金之火、漂布之鹼、 彼若鍊金之火漂布之鹼原文作彼若鍊金者之火漂布者之鹼
- Nueva Versión Internacional - Pero ¿quién podrá soportar el día de su venida? ¿Quién podrá mantenerse en pie cuando él aparezca? Porque será como fuego de fundidor o lejía de lavandero.
- 현대인의 성경 - 그러나 그가 오시는 날에 누가 견뎌낼 수 있겠느냐? 그가 나타나실 때에 누가 설 수 있겠느냐? 그는 용광로의 불과 같고 표백하는 잿물과 같을 것이다.
- Новый Русский Перевод - Но кто выдержит день Его прихода? Кто устоит, когда Он явится? Он будет как расплавляющий огонь и как очищающий щелок.
- Восточный перевод - Но кто выдержит день Его прихода? Кто устоит, когда Он явится? Он будет как расплавляющий огонь и как очищающий щёлок.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Но кто выдержит день Его прихода? Кто устоит, когда Он явится? Он будет как расплавляющий огонь и как очищающий щёлок.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Но кто выдержит день Его прихода? Кто устоит, когда Он явится? Он будет как расплавляющий огонь и как очищающий щёлок.
- La Bible du Semeur 2015 - Mais qui supportera le jour de sa venue ? Ou qui tiendra quand il apparaîtra ? Car il sera semblable au brasier du fondeur, au savon des blanchisseurs.
- リビングバイブル - 「だが彼が現れる時、 だれが生きていられるだろう。 彼が来ることに、だれが耐ええよう。 彼は燃えさかる火のようであり、 真っ黒に汚れた上着を、 真っ白にすることができるからだ。
- Nova Versão Internacional - Mas quem suportará o dia da sua vinda? Quem ficará em pé quando ele aparecer? Porque ele será como o fogo do ourives e como o sabão do lavandeiro.
- Hoffnung für alle - Doch wer kann mein Kommen ertragen? Wer kann an diesem Tag vor mir bestehen? Ich werde für euch wie Feuer im Schmelzofen sein und wie scharfe Lauge im Waschtrog.
- Kinh Thánh Hiện Đại - “Nhưng ai chịu đựng được ngày Ngài đến? Ai có thể đứng nổi khi Ngài hiện ra? Vì Ngài giống như lửa của thợ luyện kim, như xà phòng của thợ giặt.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - แต่ใครเล่าจะทนอยู่ได้ในวันที่พระองค์เสด็จมา? ใครเล่าจะยืนอยู่ได้เมื่อพระองค์ทรงปรากฏ? เพราะพระองค์จะทรงเป็นเหมือนไฟถลุง เหมือนสบู่ของช่างฟอก
交叉引用
- วิวรณ์ 19:8 - เธอได้รับผ้าป่านเนื้อดีสีขาวและบริสุทธิ์ เพื่อสวมใส่” ด้วยว่าผ้าป่านเนื้อดีเป็นสัญลักษณ์แห่งการกระทำอันชอบธรรมของบรรดาผู้บริสุทธิ์ของพระเจ้า
- ลูกา 7:23 - ผู้ใดที่ยังคงความเชื่อในเรา ผู้นั้นย่อมเป็นสุข”
- เอเสเคียล 22:14 - เจ้าจะยังกล้าหาญต่อไปได้อีกหรือ หรือว่ากำลังของเจ้าจะแข็งแกร่งได้ในเวลาที่เราจะกระทำต่อเจ้า เราคือพระผู้เป็นเจ้า เราได้กล่าวดังนี้ และเราจะกระทำตามนั้น
- ยอห์น 15:22 - ถ้าเราไม่ได้พูดกับพวกเขา พวกเขาก็จะไม่มีบาป แต่บัดนี้เขาเหล่านั้นไม่มีข้ออ้างในเรื่องบาปของเขา
- ยอห์น 15:23 - ผู้ที่เกลียดชังเรา ก็เกลียดชังพระบิดาของเราด้วย
- ยอห์น 15:24 - ถ้าเราไม่ได้กระทำสิ่งต่างๆ ซึ่งไม่มีใครเคยทำในหมู่เขา พวกเขาก็จะไม่มีบาป แต่บัดนี้เขาเหล่านั้นได้เห็นและเกลียดชังทั้งเราและพระบิดาของเรา
- วิวรณ์ 7:14 - ข้าพเจ้าก็ตอบว่า “นายท่าน ท่านก็ทราบอยู่แล้ว” และท่านพูดกับข้าพเจ้าว่า “เขาเหล่านี้เป็นคนที่รอดจากความทุกข์ยากลำบากอันใหญ่หลวง และได้ชำระล้างเสื้อคลุมของเขาด้วยโลหิตของลูกแกะจนขาวสะอาด
- ลูกา 2:34 - หลังจากสิเมโอนอวยพรทั้งสองแล้วก็ได้กล่าวกับมารีย์มารดาของพระองค์ว่า “ดูเถิด เด็กผู้นี้ได้รับมอบหมายให้เป็นเหตุของการล้มลงและลุกขึ้นของคนจำนวนมากในอิสราเอล และเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่ผู้คนจะต่อต้าน
- ลูกา 11:37 - เมื่อพระเยซูกล่าวจบแล้ว ฟาริสีผู้หนึ่งก็ได้เชิญพระองค์ไปรับประทานอาหารกับเขา เมื่อไปถึงก็เอนกายลงรับประทาน
- ลูกา 11:38 - ฟาริสีรู้สึกประหลาดใจเมื่อสังเกตเห็นว่าพระเยซูไม่ได้ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร
- ลูกา 11:39 - พระเยซูเจ้ากล่าวว่า “เอาล่ะ พวกท่านฟาริสีทำความสะอาดถ้วยชามภายนอก แต่ภายในกลับเต็มด้วยความโลภและความชั่วร้าย
- ลูกา 11:40 - เจ้าคนเขลา คนที่สร้างภายนอกไม่ได้สร้างภายในด้วยหรือ
- ลูกา 11:41 - จงให้ทานสงเคราะห์ที่เกิดจากใจและทุกสิ่งก็จะสะอาดสำหรับท่าน
- ลูกา 11:42 - วิบัติจงเกิดแก่พวกฟาริสี แม้ว่าท่านให้หนึ่งในสิบของสะระแหน่ ขมิ้นและสมุนไพรชนิดอื่นๆ ทุกชนิดแด่พระเจ้า แต่กลับเพิกเฉยต่อความเป็นธรรมและความรักของพระเจ้า สิ่งเหล่านี้ท่านควรกระทำอยู่ก่อนแล้วโดยไม่ละเลยจำนวนหนึ่งในสิบด้วย
- ลูกา 11:43 - วิบัติจงเกิดแก่พวกฟาริสี เพราะท่านชอบที่นั่งสำหรับคนสำคัญที่สุดในศาลาที่ประชุม และชอบให้คนทักทายแสดงความเคารพในย่านตลาด
- ลูกา 11:44 - วิบัติจงเกิดแก่ท่าน เพราะท่านเป็นเสมือนหลุมฝังศพที่ไม่มีเครื่องหมายระบุไว้ คนเดินเหยียบไปก็มิอาจทราบได้”
- ลูกา 11:45 - คนหนึ่งในจำนวนผู้เชี่ยวชาญฝ่ายกฎบัญญัติพูดกับพระองค์ว่า “อาจารย์ ท่านพูดเช่นนี้ท่านก็ดูถูกพวกเราด้วย”
- ลูกา 11:46 - พระเยซูตอบว่า “และท่านที่เชี่ยวชาญฝ่ายกฎบัญญัติ วิบัติก็จงเกิดแก่ท่าน เพราะท่านให้ผู้คนแบกหามภาระหนัก โดยที่พวกท่านไม่ยอมแม้แต่จะยกนิ้วขึ้นช่วยเขาเลย
- ลูกา 11:47 - วิบัติจงเกิดแก่ท่าน เพราะท่านสร้างถ้ำเก็บศพให้พวกผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า และบรรพบุรุษของท่านนั่นแหละที่ฆ่าพวกเขา
- มัทธิว 23:13 - วิบัติจงเกิดแก่ท่าน พวกอาจารย์ฝ่ายกฎบัญญัติและฟาริสี ท่านเป็นคนหน้าไหว้หลังหลอก เพราะท่านได้ปิดอาณาจักรแห่งสวรรค์ไม่ให้คนเข้า ท่านเองไม่ได้เข้าไปและยังขัดขวางไม่ให้ผู้อื่นล่วงเข้าไปเสียด้วย [
- มัทธิว 23:14 - วิบัติจงเกิดแก่ท่าน พวกอาจารย์ฝ่ายกฎบัญญัติและฟาริสี ท่านเป็นคนหน้าไหว้หลังหลอก ท่านริบบ้านเรือนของพวกหญิงม่าย และแสร้งอธิษฐานเสียยืดยาวเพื่อให้คนเห็น ฉะนั้นท่านจะถูกกล่าวโทษอย่างหนัก]
- มัทธิว 23:15 - วิบัติจงเกิดแก่ท่าน พวกอาจารย์ฝ่ายกฎบัญญัติและฟาริสี ท่านเป็นคนหน้าไหว้หลังหลอก เพราะท่านเดินทางทั้งทางบกและทางน้ำเพื่อจะทำให้คนหนึ่งเชื่อในศาสนายิว เมื่อเขาหันมาเชื่อแล้วท่านก็ทำให้เขาลงนรกยิ่งกว่าท่านเองถึง 2 เท่า
- มัทธิว 23:16 - วิบัติจงเกิดแก่ท่าน พวกผู้นำทางที่มีแต่ความมืดบอด ท่านพูดว่า ‘ใครก็ตามที่อ้างถึงพระวิหารเวลาสาบาน เขาก็ไม่ต้องทำตามคำสาบาน แต่ใครก็ตามที่อ้างถึงทองของพระวิหารเวลาสาบาน ผู้นั้นผูกมัดกับคำสาบานแล้ว’
- มัทธิว 23:17 - พวกท่านช่างโง่เขลามืดบอด อะไรสำคัญกว่ากัน ทองหรือพระวิหารซึ่งทำให้ทองบริสุทธิ์
- มัทธิว 23:18 - และท่านพูดว่า ‘ใครก็ตามที่อ้างถึงแท่นบูชาเวลาสาบาน เขาก็ไม่ต้องทำตามคำสาบาน แต่ใครก็ตามที่อ้างถึงของบูชาบนแท่นนั้น เขาผูกมัดกับคำสาบานแล้ว’
- มัทธิว 23:19 - พวกท่านช่างมืดบอดเสียจริง อะไรสำคัญกว่ากัน ของบูชาหรือแท่นซึ่งทำให้ของบูชาบริสุทธิ์
- มัทธิว 23:20 - ฉะนั้นคนที่สาบานโดยอ้างถึงแท่นบูชา ก็อ้างถึงแท่นบูชาและทุกสิ่งที่อยู่บนแท่นด้วย
- มัทธิว 23:21 - และคนที่สาบานโดยอ้างถึงพระวิหาร ก็อ้างถึงพระวิหารและพระองค์ผู้สถิตในนั้นด้วย
- มัทธิว 23:22 - และคนที่สาบานโดยอ้างถึงสวรรค์ ก็อ้างถึงบัลลังก์ของพระเจ้าและพระองค์ผู้สถิตบนนั้นด้วย
- มัทธิว 23:23 - วิบัติจงเกิดแก่ท่าน พวกอาจารย์ฝ่ายกฎบัญญัติและฟาริสี ท่านเป็นคนหน้าไหว้หลังหลอก เพราะท่านให้หนึ่งในสิบของสะระแหน่ ผักชี และยี่หร่า แต่กลับเพิกเฉยต่อกฎบัญญัติที่สำคัญกว่าคือ ความเป็นธรรม ความเมตตา และความเชื่อ สิ่งเหล่านี้ท่านควรกระทำอยู่ก่อนแล้วโดยไม่ละเลยจำนวนหนึ่งในสิบด้วย
- มัทธิว 23:24 - พวกผู้นำทางที่มีแต่ความมืดบอด พวกท่านกรองตัวริ้นออกและกลืนตัวอูฐลงไป
- มัทธิว 23:25 - วิบัติจงเกิดแก่ท่าน พวกอาจารย์ฝ่ายกฎบัญญัติและฟาริสี ท่านเป็นคนหน้าไหว้หลังหลอก เพราะท่านทำความสะอาดถ้วยชามภายนอก แต่ภายในกลับเต็มด้วยความโลภและกิเลส
- มัทธิว 23:26 - ท่านฟาริสีก็เต็มด้วยความมืดบอดเสียจริง จงล้างภายในถ้วยชามก่อน เพื่อภายนอกจะได้สะอาดด้วย
- มัทธิว 23:27 - วิบัติจงเกิดแก่ท่าน พวกอาจารย์ฝ่ายกฎบัญญัติและฟาริสี ท่านเป็นคนหน้าไหว้หลังหลอก เพราะท่านเป็นเหมือนถ้ำเก็บศพฉาบด้วยปูนขาวซึ่งภายนอกดูสวยงาม แต่ภายในเต็มไปด้วยกระดูกของคนตายและสิ่งที่เป็นมลทินทั้งปวง
- มัทธิว 23:28 - ภายนอกดูเหมือนว่าท่านมีความชอบธรรมในสายตามนุษย์ แต่ภายในท่านเต็มด้วยความหลอกลวงและความชั่วช้า
- มัทธิว 23:29 - วิบัติจงเกิดแก่ท่าน พวกอาจารย์ฝ่ายกฎบัญญัติและฟาริสี ท่านเป็นคนหน้าไหว้หลังหลอก เพราะท่านสร้างถ้ำเก็บศพให้พวกผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า และประดับประดาหลุมฝังศพของคนมีความชอบธรรม
- มัทธิว 23:30 - ท่านพูดว่า ‘ถ้าพวกเราได้มีชีวิตอยู่ในสมัยบรรพบุรุษของเรา เราก็จะไม่มีส่วนร่วมในการนองเลือดของพวกผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าแล้ว’
- มัทธิว 23:31 - ดังนั้น ท่านได้ยืนยันว่าท่านเป็นบรรดาบุตรของพวกที่ฆ่าผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า
- มัทธิว 23:32 - ฉะนั้นท่านก็กระทำต่อให้ครบขั้นตอนของบรรพบุรุษของท่านเถิด
- มัทธิว 23:33 - ท่านเป็นพวกงู พวกชาติอสรพิษ ท่านจะพ้นจากโทษแห่งนรกได้อย่างไร
- มัทธิว 23:34 - ฉะนั้นเรากำลังส่งพวกผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า พวกผู้มีปัญญา และเหล่าอาจารย์ มายังท่าน ท่านจะฆ่าและตรึงพวกเขาบางคนบนไม้กางเขน สำหรับบางคน ท่านก็จะเฆี่ยนเขาในศาลาที่ประชุมของท่าน และข่มเหงไปทั่วทุกเมือง
- มัทธิว 23:35 - ผลที่ตามมาก็คือโลหิตที่หลั่งออกจากบรรดาผู้มีความชอบธรรมลงสู่พื้นนั้นจะตกอยู่กับท่าน นับตั้งแต่โลหิตของอาเบล ผู้มีความชอบธรรม จนถึงโลหิตของเศคาริยาห์ บุตรของเบเรคิยาห์ที่ท่านได้ฆ่าในระหว่างพระวิหารของพระผู้เป็นเจ้าและแท่นบูชา
- มัทธิว 25:10 - ขณะที่คนโง่เขลาไปซื้อน้ำมัน เจ้าบ่าวก็มา บรรดาคนที่พร้อมแล้วก็เข้าไปในงานเลี้ยงสมรสกับท่าน และประตูก็ปิด
- ยอห์น 8:55 - พวกท่านกลับไม่รู้จักพระองค์เลย ในขณะที่เรารู้จักพระองค์ หากเราพูดว่าไม่รู้จักพระองค์ เราก็จะเป็นคนพูดเท็จเหมือนกับท่าน เรารู้จักพระองค์และรักษาคำกล่าวของพระองค์
- มัทธิว 3:7 - เมื่อยอห์นเห็นฟาริสี และสะดูสี จำนวนมากมารับบัพติศมา จึงพูดกับพวกเขาว่า “พวกชาติอสรพิษ ใครเตือนให้ท่านหนีจากการลงโทษที่จะมาถึง
- มัทธิว 3:8 - ฉะนั้นจงประพฤติตนเพื่อพิสูจน์ว่าท่านกลับใจจากการทำบาป
- มัทธิว 3:9 - และอย่าคิดว่าท่านพูดต่อกันไปได้ว่า ‘เรามีอับราฮัมเป็นบิดาของเรา’ ข้าพเจ้าขอบอกท่านว่า พระเจ้าสามารถทำให้หินพวกนี้กลายเป็นลูกๆ ของอับราฮัมก็ได้
- มัทธิว 3:10 - มีขวานจ่อไว้ที่รากต้นไม้แล้ว หากว่าต้นไม้ต้นใดก็ตามไม่สามารถให้ผลงามได้ ก็จะถูกโค่นลงและถูกโยนลงในกองไฟ
- มัทธิว 3:11 - ข้าพเจ้าให้บัพติศมาแก่ท่านด้วยน้ำเป็นการแสดงถึงการกลับใจของท่าน แต่พระองค์ผู้กำลังมาหลังจากข้าพเจ้ามีอานุภาพยิ่งกว่าข้าพเจ้า แม้แต่รองเท้าของพระองค์ ข้าพเจ้าก็มิบังควรที่จะถือ พระองค์จะให้บัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และไฟ
- มัทธิว 3:12 - พลั่วสำหรับแยกแกลบอยู่ในมือของพระองค์ เพื่อปรับลานของพระองค์ให้เรียบ และเพื่อแยกเก็บข้าวสาลีของพระองค์ไว้ในยุ้ง แต่พระองค์จะเผาแกลบด้วยไฟซึ่งลุกโชติช่วงอยู่ตลอดเวลา”
- ยอห์น 9:39 - พระเยซูกล่าวว่า “เรามายังโลกนี้เพื่อการกล่าวโทษ สำหรับบรรดาคนที่มองไม่เห็นกลับมองเห็น และบรรดาคนที่มองเห็นกลับตาบอด”
- ยอห์น 9:40 - พวกฟาริสีที่อยู่กับพระองค์ได้ยินดังนั้น จึงพูดกับพระองค์ว่า “พวกเราตาบอดด้วยหรือ”
- ยอห์น 9:41 - พระเยซูกล่าวว่า “ถ้าพวกท่านตาบอด ท่านก็จะไม่มีบาป แต่ในเมื่อท่านพูดว่า ‘พวกเรามองเห็น’ บาปของท่านก็ยังดำรงอยู่
- มาระโก 9:3 - เสื้อผ้าของพระองค์ก็ทอแสงสกาว ขาวบริสุทธิ์ชนิดที่ไม่มีช่างฟอกคนใดในโลกสามารถฟอกให้ขาวได้
- วิวรณ์ 1:5 - และจากพระเยซูคริสต์พยานผู้รักษาคำมั่นสัญญา พระองค์เป็นผู้แรกที่ได้ฟื้นคืนชีวิตจากความตาย และเป็นผู้ที่ปกครองกษัตริย์ทั้งปวงบนแผ่นดินโลก แด่พระองค์ผู้ที่รักเรา และปลดปล่อยเราให้พ้นจากบาปทั้งปวงของเราด้วยโลหิตของพระองค์
- วิวรณ์ 1:6 - และพระองค์ได้แต่งตั้งเราไว้ให้เป็นอาณาจักรแห่งปุโรหิตทั้งหลาย เพื่อรับใช้พระเจ้าผู้เป็นพระบิดาของพระองค์ ขอพระบารมีและอานุภาพจงมีแด่พระองค์ชั่วนิรันดร์กาลเถิด อาเมน
- วิวรณ์ 1:7 - ดูเถิด พระองค์กำลังมาพร้อมกับหมู่เมฆ และนัยน์ตาทุกดวงจะเห็นพระองค์ แม้กระทั่งคนเหล่านั้นซึ่งเป็นผู้แทงพระองค์ และทุกเผ่าพันธุ์ในโลกจะครวญคร่ำร่ำไห้เพราะสำนึกผิดต่อพระองค์ แล้วก็จะเป็นไปตามนั้น อาเมน
- มัทธิว 21:31 - สองคนนี้คนไหนกระทำตามความประสงค์ของบิดาของเขา” พวกเขาตอบว่า “คนแรก” พระเยซูกล่าวว่า “เราขอบอกความจริงกับท่านว่า บรรดาคนเก็บภาษีและหญิงแพศยาจะเข้าสู่อาณาจักรของพระเจ้าก่อนพวกท่านเสียอีก
- มัทธิว 21:32 - เพราะยอห์นมาชี้ให้พวกท่านเห็นทางแห่งความชอบธรรม และท่านก็ไม่เชื่อเขา แต่บรรดาคนเก็บภาษีและหญิงแพศยาได้เชื่อเขา แม้ต่อมา ทั้งๆ ที่ท่านได้เห็นแล้ว แต่ก็ไม่ได้กลับใจและเชื่อเขา
- มัทธิว 21:33 - จงฟังคำอุปมาอีกเรื่องหนึ่ง มีเจ้าของสวนคนหนึ่งปลูกสวนองุ่นไว้ ซึ่งมีกำแพงที่สร้างล้อมไว้โดยรอบ และขุดบ่อเก็บเครื่องสกัดเหล้าองุ่น เขาสร้างหอคอยไว้และให้พวกชาวสวนเช่า แล้วก็เดินทางไปต่างประเทศ
- มัทธิว 21:34 - เมื่อถึงเวลาเก็บพืชผล เขาใช้บรรดาคนรับใช้ของเขาไปหาพวกคนเช่าสวน เพื่อรับส่วนปันผลของเขา
- มัทธิว 21:35 - พวกคนเช่าสวนจับตัวพวกผู้รับใช้ไว้ ทุบตีเสียคนหนึ่ง ฆ่าอีกคนหนึ่งและเอาหินขว้างอีกคนหนึ่ง
- มัทธิว 21:36 - เจ้าของสวนส่งพวกผู้รับใช้อีกกลุ่มไป ซึ่งมากคนกว่าครั้งแรก พวกคนเช่าสวนก็กระทำต่อเขาเหล่านั้นเหมือนครั้งแรก
- มัทธิว 21:37 - หลังจากนั้นเขาจึงส่งลูกชายของเขาไปหาคนเช่าสวนโดยคิดว่า ‘พวกเขาจะนับถือลูกของเราคนนั้น’
- มัทธิว 21:38 - แต่เมื่อพวกคนเช่าสวนเห็นลูกคนนั้นก็พูดกันว่า ‘คนนี้เป็นทายาท มาช่วยกันฆ่าเขาเถิด มรดกจะได้ตกเป็นของเรา’
- มัทธิว 21:39 - เขาทั้งหลายจึงจับตัวลูกคนนั้นโยนออกไปจากสวนองุ่นแล้วฆ่าเสีย
- มัทธิว 21:40 - ฉะนั้นเมื่อเจ้าของสวนองุ่นมา เขาจะทำอย่างไรกับพวกคนเช่าสวน”
- มัทธิว 21:41 - พวกเขาตอบว่า “เขาจะฆ่าคนชั่วร้ายเหล่านั้นอย่างแน่นอน และจะให้คนสวนอื่นเช่าสวนเสีย จะได้แบ่งปันผลให้แก่เขาเมื่อถึงเวลา”
- มัทธิว 21:42 - พระเยซูกล่าวว่า “ท่านไม่เคยอ่านในพระคัมภีร์หรือว่า ‘ศิลาที่พวกช่างก่อสร้างทิ้ง ได้กลายเป็นศิลามุมเอก พระผู้เป็นเจ้าได้กระทำการนี้ และเป็นสิ่งวิเศษยิ่งในสายตาของเรา’
- มัทธิว 21:43 - ฉะนั้น เราขอบอกท่านว่า อาณาจักรของพระเจ้าจะต้องถูกยึดไปจากท่าน และยกให้แก่ชนชาติหนึ่งที่จะผลิตผลได้ตามควร
- มัทธิว 21:44 - คนที่ล้มลงบนศิลานี้จะแตกหักกระจายเป็นชิ้นๆ หากแต่ศิลานั้นล้มทับผู้ใดแล้ว ผู้นั้นจะแหลกเป็นผุยผงไป”
- วิวรณ์ 2:23 - เราจะฆ่าพวกลูกๆ ของนางให้ตาย และคริสตจักรทุกแห่งจะได้รู้ว่า เราเป็นผู้หยั่งรู้ถึงความคิดและจิตใจ และเราจะสนองตอบพวกเจ้าแต่ละคนตามการกระทำของตน
- กิจการของอัครทูต 7:52 - มีผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าท่านใดบ้าง ที่บรรพบุรุษของท่านไม่ได้กดขี่ข่มเหง เขาฆ่าแม้แต่บรรดาผู้พยากรณ์ถึงการมาขององค์ผู้มีความชอบธรรม และบัดนี้ท่านได้ทรยศและฆ่าพระองค์เสีย
- กิจการของอัครทูต 7:53 - พวกท่านได้รับกฎบัญญัติที่ทูตสวรรค์นำมาให้ แต่กลับไม่เชื่อฟัง”
- กิจการของอัครทูต 7:54 - เมื่อคนเหล่านั้นได้ยินก็รู้สึกโกรธมาก ต่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเข้าใส่สเทเฟน
- ลูกา 21:36 - จงระวังอยู่เสมอ จงอธิษฐานเพื่อให้เจ้าได้หนีพ้นจากสิ่งเหล่านี้ที่กำลังจะเกิดขึ้น และเจ้าจะสามารถยืนต่อหน้าบุตรมนุษย์ได้”
- อาโมส 5:18 - วิบัติแก่พวกท่านที่รอคอย วันที่พระผู้เป็นเจ้าจะมา ทำไมพวกท่านจึงรอคอยวันที่พระผู้เป็นเจ้าจะมา วันนั้นจะเป็นวันแห่งความมืดมน ไม่ใช่ความสว่าง
- อาโมส 5:19 - วันนั้นจะเป็นเหมือนกับคนที่หนีจากสิงโต แต่จะไปปะกับหมี จะเป็นเหมือนกับวันที่เขาถึงบ้าน และเอามือพิงกำแพง แล้วก็ถูกงูกัด
- อาโมส 5:20 - วันที่พระผู้เป็นเจ้าจะมาจะเป็นวันแห่งความมืดมน ไม่ใช่ความสว่างมิใช่หรือ มืดมนจนไม่มีแม้แต่วี่แววของความสว่างเลย
- ลูกา 3:17 - พลั่วสำหรับแยกแกลบอยู่ในมือของพระองค์ เพื่อปรับลานของพระองค์ให้เรียบ และเพื่อแยกเก็บข้าวสาลีไว้ในยุ้งของพระองค์ แต่พระองค์จะเผาแกลบด้วยไฟซึ่งลุกโชติช่วงอยู่ตลอดเวลา”
- ลูกา 3:9 - มีขวานจ่อไว้ที่รากต้นไม้แล้ว หากว่าต้นไม้ต้นใดก็ตามไม่สามารถให้ผลงามได้ ก็จะถูกโค่นลงและถูกโยนลงในกองไฟ”
- อิสยาห์ 1:18 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ว่า “มาเถิด เรามาพูดด้วยเหตุผลกัน แม้ว่าบาปของพวกเจ้าเป็นเหมือนสีแดงสด มันจะกลับขาวราวกับหิมะ แม้ว่ามันแดงดั่งเลือดนก แต่มันจะเป็นดั่งขนแกะ
- ยอห์น 6:42 - เขาเหล่านั้นพูดว่า “นี่เยซูบุตรของโยเซฟที่เรารู้จักทั้งบิดามารดาไม่ใช่หรือ แล้วขณะนี้พูดได้อย่างไรว่า ‘เราได้ลงมาจากสวรรค์’”
- ยอห์น 6:43 - พระเยซูกล่าวตอบว่า “อย่ามัวแต่บ่นพึมพำกันอยู่ในหมู่ท่านเลย
- ยอห์น 6:44 - ไม่มีผู้ใดที่มาหาเราได้นอกจากพระบิดาผู้ส่งเรามา เป็นผู้นำให้เขามาหาเรา และเราจะให้เขาฟื้นคืนชีวิตในวันสุดท้าย
- เยเรมีย์ 2:22 - แม้ว่าเจ้าจะชำระล้างตัวเจ้าด้วยน้ำด่าง และใช้สบู่มาก แต่ความชั่วที่เป็นรอยเปื้อนของเจ้าก็ยังอยู่เบื้องหน้าเรา” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
- มาลาคี 4:1 - วันนั้นแหละกำลังจะมาถึง มันจะร้อนดั่งเตาอบ ผู้หยิ่งยโสและผู้ชั่วร้ายทั้งปวงจะเป็นฟาง และวันนั้นกำลังจะมาถึงซึ่งจะเผาพวกเขาให้ลุกเป็นไฟ” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนั้น “จะไม่มีรากหรือกิ่งก้านเหลืออยู่
- ลูกา 11:52 - วิบัติจงเกิดแก่ท่านผู้เชี่ยวชาญฝ่ายกฎบัญญัติ เพราะท่านได้เอากุญแจแห่งความรู้ไปเสีย ท่านเองยังไม่ได้เข้าไปและยังขัดขวางไม่ให้ผู้อื่นก้าวเข้าไปเสียด้วย”
- ลูกา 11:53 - เมื่อพระเยซูเดินออกไป พวกฟาริสีและพวกอาจารย์ฝ่ายกฎบัญญัติเริ่มกลุ้มรุมพระองค์ และกระตุ้นให้พระองค์พูดต่อไปอีกหลายเรื่อง
- ลูกา 11:54 - เพื่อคอยเฝ้าจับผิดจากคำพูดของพระองค์
- ยอห์น 8:41 - พวกท่านกำลังทำในสิ่งที่บิดาของท่านได้ทำมาแล้ว” พวกเขาพูดกับพระองค์ว่า “เราไม่ได้เกิดจากการผิดประเวณี เรามีพระบิดาองค์เดียวคือพระเจ้า”
- ยอห์น 8:42 - พระเยซูกล่าวกับพวกเขาว่า “ถ้าพระเจ้าเป็นพระบิดาของท่าน ท่านก็จะรักเรา เพราะเรามาจากพระเจ้า และอยู่ที่นี่แล้ว เราไม่ได้มาด้วยความตั้งใจของเราเอง แต่พระองค์ส่งเรามา
- ยอห์น 8:43 - ทำไมท่านจึงไม่เข้าใจเรื่องที่เราพูด นั่นก็เป็นเพราะว่าท่านไม่ยอมรับฟังคำกล่าวของเรา
- ยอห์น 8:44 - พวกท่านเป็นเช่นบิดาของท่านคือพญามาร ท่านจึงต้องการปฏิบัติตามความต้องการของบิดาของท่าน ซึ่งเป็นฆาตกรมาตั้งแต่ต้นและไม่ยืนอยู่ในความจริง เพราะว่าไม่มีความจริงอยู่ในตัวเอง เมื่อไรก็ตามที่บิดาของท่านพูดเท็จ ก็เพราะพูดจากนิสัยของตนเองคือขี้ปด และเป็นบิดาแห่งความเท็จทั้งปวง
- ยอห์น 8:45 - เมื่อเราพูดความจริง ท่านกลับไม่เชื่อเรา
- ยอห์น 8:46 - มีใครบ้างในพวกท่านที่พิสูจน์ให้เห็นได้ว่าเราทำบาป เมื่อเราพูดความจริง แล้วทำไมท่านจึงไม่เชื่อเรา
- ยอห์น 8:47 - คนของพระเจ้าย่อมฟังคำกล่าวของพระเจ้า พวกท่านไม่ใช่คนของพระเจ้าจึงไม่ได้ยินคำกล่าวนั้น”
- ยอห์น 8:48 - ชาวยิวตอบพระองค์ว่า “พวกเราพูดผิดหรือที่ว่า ท่านเป็นชาวสะมาเรียและมีมารสิงอยู่”
- สดุดี 2:7 - ข้าพเจ้าจะประกาศกฎเกณฑ์ของพระผู้เป็นเจ้า พระองค์กล่าวกับข้าพเจ้าว่า “เจ้าเป็นบุตรของเรา วันนี้เราประกาศว่า เราเป็นบิดาของเจ้า
- โรม 9:31 - ส่วนพวกอิสราเอลมุ่งหาความชอบธรรมตามกฎบัญญัติ แต่ก็ปฏิบัติตามกฎนั้นไม่สำเร็จ
- โรม 9:32 - เพราะอะไร ก็เพราะพวกเขาไม่ได้มุ่งหาตามความเชื่อ แต่คิดว่าได้มาโดยการปฏิบัติ พวกเขาสะดุดก้อนหินที่ทำให้สะดุดนั้น
- โรม 9:33 - ตามที่มีบันทึกไว้ว่า “ดูเถิด เราวางศิลาก้อนหนึ่งลงในศิโยน ที่เป็นเหตุให้คนสะดุด และเป็นหินที่ทำให้พวกเขาล้มลง และผู้ที่ไว้วางใจในพระองค์จะไม่ได้รับความอับอาย”
- โรม 11:5 - เช่นเดียวกันคือ ในเวลานี้มีผู้ที่มีชีวิตเหลืออยู่จำนวนหนึ่งที่ได้รับเลือกไว้โดยพระคุณ
- โรม 11:6 - แต่ถ้าเป็นไปโดยพระคุณ ก็ไม่ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติ มิฉะนั้นพระคุณก็ไม่ใช่พระคุณ
- โรม 11:7 - ถ้าเช่นนั้นจะเป็นอย่างไร ชนชาติอิสราเอลไม่ได้พบสิ่งที่ตนแสวงหา แต่ผู้ที่พระเจ้าเลือกไว้ กลับเป็นผู้ได้รับสิ่งนั้น ส่วนคนที่เหลือก็ถูกทำให้ใจแข็งกระด้างไป
- โรม 11:8 - ตามที่มีบันทึกไว้ว่า “พระเจ้าได้ให้วิญญาณที่เงื่องหงอย ตาที่มองไม่เห็น และหูที่ไม่ได้ยิน มาจนถึงทุกวันนี้”
- โรม 11:9 - และดาวิดกล่าวว่า “ให้งานเลี้ยงฉลองของพวกเขากลายเป็นบ่วงแร้วและกับดัก เป็นเครื่องกีดขวางให้สะดุด และเป็นการคืนสนองแก่เขา
- โรม 11:10 - ให้ตาของเขามืดลงเพื่อให้มองไม่เห็น และหลังโค้งค่อมตลอดกาล”
- ฮีบรู 10:28 - ผู้ใดที่ไม่ได้เชื่อฟังหมวดกฎบัญญัติของโมเสส เมื่อมีพยานสองหรือสามปากให้คำยืนยัน เขาก็ตายไปโดยปราศจากความเมตตา
- ฮีบรู 10:29 - แล้วท่านคิดว่า คนที่เหยียบย่ำพระบุตรของพระเจ้า และเขานับว่าโลหิตแห่งพันธสัญญาซึ่งชำระให้เขาบริสุทธิ์ไม่ใช่โลหิตที่บริสุทธิ์ และได้ดูหมิ่นพระวิญญาณผู้มีพระคุณ เขาคนนั้นควรได้รับโทษจะได้รับหนักยิ่งกว่าเพียงไร
- ฮีบรู 12:25 - จงระวังว่าท่านจะไม่ปฏิเสธที่จะฟังพระองค์ผู้กำลังพูดอยู่ ถ้าพวกเขาหนีไม่พ้น เพราะปฏิเสธที่จะฟังผู้ที่ได้ตักเตือนเขาในโลกแล้ว พวกเรายิ่งจะหนีไม่พ้น ยิ่งไปกว่านั้นสักเท่าใด ถ้าเราหันหลังให้พระองค์ผู้เตือนจากสวรรค์
- 1 เปโตร 2:7 - ศิลานี้ล้ำค่าสำหรับท่านที่เชื่อ แต่สำหรับผู้ที่ไม่เชื่อ “ศิลาที่พวกช่างก่อสร้างทิ้ง ได้กลายเป็นศิลามุมเอก”
- 1 เปโตร 2:8 - และ “ศิลาก้อนหนึ่งที่เป็นเหตุให้คนสะดุด และเป็นหินที่ทำให้พวกเขาล้มลง” เขาสะดุดก็เพราะไม่เชื่อฟังคำประกาศ ตามที่เขาถูกกำหนดไว้เช่นนั้น
- วิวรณ์ 6:17 - เพราะว่าวันลงโทษอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าและลูกแกะได้มาถึงแล้ว ใครจะสามารถทนได้เล่า”
- 1 โครินธ์ 3:13 - งานนั้นจะปรากฏผลให้เห็น เพราะว่าวันนั้นจะเป็นวันที่เปิดเผย รวมทั้งจะเผยให้เห็นด้วยไฟ และไฟก็จะทดสอบคุณภาพงานของแต่ละคน
- 1 โครินธ์ 3:14 - ถ้าสิ่งที่สร้างไว้คงทนอยู่ได้ ผู้สร้างก็จะได้รับรางวัล
- 1 โครินธ์ 3:15 - ถ้างานของใครมอดไหม้ลงด้วยไฟก็จะไม่ได้รับรางวัล และตัวเขาเองจะรอดได้ในสภาพของคนที่หนีรอดจากไฟเท่านั้น
- อิสยาห์ 4:4 - พระผู้เป็นเจ้าจะชำระล้างมลทินของบรรดาธิดาแห่งศิโยน และทำเลือดที่แปดเปื้อนของเยรูซาเล็มให้สะอาดด้วยพระวิญญาณแห่งการพิพากษาและพระวิญญาณแห่งไฟ
- เศคาริยาห์ 13:9 - และเราจะโยนหนึ่งในสามที่เหลือนี้ลงในกองไฟ และจะหลอมพวกเขาเหมือนคนหลอมเงิน และทดสอบพวกเขาเหมือนทดสอบทองคำ พวกเขาจะเรียกนามของเรา และเราจะตอบพวกเขา เราจะพูดว่า ‘พวกเขาเป็นชนชาติของเรา’ และพวกเขาจะพูดว่า ‘พระผู้เป็นเจ้าเป็นพระเจ้าของข้าพเจ้า’”