逐节对照
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - เราพูดกับเจ้าเมื่อเวลาที่เจ้าอยู่อย่างสุขสบาย แต่เจ้ากลับพูดว่า ‘ข้าพเจ้าไม่ฟัง’ นั่นก็เป็นวิถีทางของเจ้าตั้งแต่ครั้งยังเยาว์ ที่เจ้าไม่ได้เชื่อฟังเรา
- 新标点和合本 - 你兴盛的时候,我对你说话; 你却说:‘我不听。’ 你自幼年以来总是这样, 不听从我的话。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 你兴盛的时候,我对你说话; 你却说:“我不听。” 你从年轻时就是这样, 不肯听我的话。
- 和合本2010(神版-简体) - 你兴盛的时候,我对你说话; 你却说:“我不听。” 你从年轻时就是这样, 不肯听我的话。
- 当代译本 - 在你们兴盛的时候, 我曾警告过你们, 你们却不听。 你们从小就叛逆, 不听我的话。
- 圣经新译本 - 你安定的时候,我曾警告过你, 你却说:‘我不听!’ 从你幼年以来,你就是这样, 不听从我的话。
- 现代标点和合本 - 你兴盛的时候,我对你说话, 你却说:“我不听!” 你自幼年以来总是这样, 不听从我的话。
- 和合本(拼音版) - 你兴盛的时候,我对你说话, 你却说:‘我不听。’ 你自幼年以来总是这样, 不听从我的话。
- New International Version - I warned you when you felt secure, but you said, ‘I will not listen!’ This has been your way from your youth; you have not obeyed me.
- New International Reader's Version - When you felt secure, I warned you. But you said, ‘I won’t listen!’ You have acted like that ever since you were young. You have not obeyed me.
- English Standard Version - I spoke to you in your prosperity, but you said, ‘I will not listen.’ This has been your way from your youth, that you have not obeyed my voice.
- New Living Translation - I warned you when you were prosperous, but you replied, ‘Don’t bother me.’ You have been that way since childhood— you simply will not obey me!
- Christian Standard Bible - I spoke to you when you were secure. You said, “I will not listen.” This has been your way since youth; indeed, you have never listened to me.
- New American Standard Bible - I spoke to you in your prosperity; But you said, ‘I will not listen!’ This has been your way from your youth, That you have not obeyed My voice.
- New King James Version - I spoke to you in your prosperity, But you said, ‘I will not hear.’ This has been your manner from your youth, That you did not obey My voice.
- Amplified Bible - I spoke to you in your [times of] prosperity, But you said, ‘I will not listen!’ This has been your attitude and practice from your youth; You have not obeyed My voice.
- American Standard Version - I spake unto thee in thy prosperity; but thou saidst, I will not hear. This hath been thy manner from thy youth, that thou obeyedst not my voice.
- King James Version - I spake unto thee in thy prosperity; but thou saidst, I will not hear. This hath been thy manner from thy youth, that thou obeyedst not my voice.
- New English Translation - While you were feeling secure I gave you warning. But you said, “I refuse to listen to you.” That is the way you have acted from your earliest history onward. Indeed, you have never paid attention to me.
- World English Bible - I spoke to you in your prosperity; but you said, ‘I will not listen.’ This has been your way from your youth, that you didn’t obey my voice.
- 新標點和合本 - 你興盛的時候,我對你說話; 你卻說:我不聽。 你自幼年以來總是這樣, 不聽從我的話。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 你興盛的時候,我對你說話; 你卻說:「我不聽。」 你從年輕時就是這樣, 不肯聽我的話。
- 和合本2010(神版-繁體) - 你興盛的時候,我對你說話; 你卻說:「我不聽。」 你從年輕時就是這樣, 不肯聽我的話。
- 當代譯本 - 在你們興盛的時候, 我曾警告過你們, 你們卻不聽。 你們從小就叛逆, 不聽我的話。
- 聖經新譯本 - 你安定的時候,我曾警告過你, 你卻說:‘我不聽!’ 從你幼年以來,你就是這樣, 不聽從我的話。
- 呂振中譯本 - 你優游興盛時、我對你說過話, 你卻說:「我不聽。」 從你幼年以來你的行徑總是這樣: 不聽從我的聲音。
- 現代標點和合本 - 你興盛的時候,我對你說話, 你卻說:「我不聽!」 你自幼年以來總是這樣, 不聽從我的話。
- 文理和合譯本 - 爾興盛時、我與爾言、惟爾曰、我不聽、爾自幼時、所為若是、不從我言、
- 文理委辦譯本 - 平康之時、我曾語爾、惟爾不聽、自肇造邦國、以迄於今、爾不從我言、所為若是。
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 爾平康之時、我曾諭爾、乃爾云、我不願聽、自爾幼年以來、爾不聽我言、此爾故習、
- Nueva Versión Internacional - Yo te hablé cuando te iba bien, pero tú dijiste: “¡No escucharé!” Así te has comportado desde tu juventud: ¡nunca me has obedecido!
- 현대인의 성경 - 너희가 안전할 때에 내가 너희에게 경고하였으나 너희는 ‘내가 듣지 않겠습니다’ 하였다. 너희는 어렸을 때부터 나에게 순종하지 않는 것이 습관화되어 있었다.
- Новый Русский Перевод - Я предупреждал тебя, когда ты благоденствовал, но ты сказал: «Я не стану слушать!» Таков твой путь с самой юности, ты Меня не слушал.
- Восточный перевод - Я предупреждал тебя, когда ты благоденствовал, но ты сказал: «Я не стану слушать!» Так ты поступал с самой юности; ты Меня не слушал.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Я предупреждал тебя, когда ты благоденствовал, но ты сказал: «Я не стану слушать!» Так ты поступал с самой юности; ты Меня не слушал.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Я предупреждал тебя, когда ты благоденствовал, но ты сказал: «Я не стану слушать!» Так ты поступал с самой юности; ты Меня не слушал.
- La Bible du Semeur 2015 - Je t’avais avertie ╵au temps de ta prospérité mais tu as déclaré : ╵« Je n’écouterai pas. » C’est ainsi que tu t’es conduite ╵dès ta prime jeunesse : et tu ne m’as pas écouté !
- リビングバイブル - おまえに勢いがあった時、わたしは警告したが、 おまえは『干渉しないでください』と言った。 おまえは子どものころから、 わたしのことばを聞いたためしがない。
- Nova Versão Internacional - Eu a adverti quando você se sentia segura, mas você não quis ouvir-me. Esse foi sempre o seu procedimento, pois desde a sua juventude você não me obedece.
- Hoffnung für alle - Ich habe dich gewarnt, als du noch in Sicherheit lebtest, aber du hast dich geweigert, auf mich zu hören. Von Anfang an war es deine Art, meine Worte zu missachten.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Ta đã cảnh cáo ngươi trong thời bình an, nhưng ngươi nói: ‘Đừng làm phiền tôi.’ Từ tuổi thanh xuân, tính ngươi vẫn thế— chẳng bao giờ chịu vâng lời Ta!
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - เราได้เตือนเจ้าตั้งแต่ครั้งที่เจ้ายังรู้สึกมั่นคงปลอดภัย แต่เจ้าตอบว่า ‘ข้าพระองค์จะไม่ฟัง!’ เจ้าเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก คือไม่ยอมเชื่อฟังเรา
交叉引用
- เนหะมีย์ 9:16 - แต่พวกเขาและบรรพบุรุษของเราต่างยโสและดื้อด้าน และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์
- เนหะมีย์ 9:17 - พวกเขาไม่ยอมฟัง และไม่ระลึกถึงสิ่งอัศจรรย์ที่พระองค์กระทำในหมู่พวกเขา แต่หัวดื้อและแต่งตั้งหัวหน้าเพื่อให้นำพวกเขากลับไปเป็นทาสในอียิปต์ แต่พระองค์เป็นพระเจ้าพร้อมจะยกโทษ พระองค์มีพระคุณและความสงสาร ไม่โกรธง่าย เปี่ยมด้วยความรักอันมั่นคง และไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขา
- เนหะมีย์ 9:18 - แม้เวลาที่พวกเขาได้หล่อรูปลูกโคทองคำ และพูดว่า ‘นี่คือพระเจ้าของพวกเจ้า ผู้นำเจ้าออกมาจากอียิปต์’ และก็ได้พูดหมิ่นประมาทพระองค์อย่างร้ายแรง
- เนหะมีย์ 9:19 - พระองค์มีความเมตตายิ่งนัก และไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขาในถิ่นทุรกันดาร เมฆก้อนมหึมาดั่งเสาหลักนำทางล่วงหน้าพวกเขาในตอนกลางวันไม่ได้ห่างไปจากพวกเขา เพลิงไฟขนาดมหึมาดั่งเสาหลักในตอนกลางคืน เพื่อส่องความสว่างช่วยให้พวกเขาเดินตามทางที่ควรจะไป
- เนหะมีย์ 9:20 - พระองค์ประทานพระวิญญาณประเสริฐของพระองค์เพื่อสอนพวกเขา และไม่ขยักมานาของพระองค์จากปากของพวกเขา และให้น้ำแก่พวกเขาเมื่อกระหาย
- เนหะมีย์ 9:21 - พระองค์ช่วยพวกเขาให้อยู่รอดในถิ่นทุรกันดาร พวกเขาไม่ขาดเหลือสิ่งใด เสื้อผ้าที่พวกเขาสวมใส่ไม่ฉีกขาด และเท้าก็ไม่บวม
- เนหะมีย์ 9:22 - พระองค์มอบบรรดาอาณาจักรและประชาชาติให้แก่พวกเขา และพระองค์จัดเขตที่ดินอันแสนไกลให้ด้วย พวกเขาจึงยึดแผ่นดินของสิโหนกษัตริย์แห่งเฮชโบน และแผ่นดินของโอกกษัตริย์แห่งบาชาน
- เนหะมีย์ 9:23 - พระองค์เพิ่มบุตรหลานมากมายราวกับดวงดาวบนท้องฟ้าให้แก่พวกเขา พระองค์นำพวกเขาไปในแผ่นดินที่พระองค์ได้บอกแก่บรรพบุรุษ เพื่อให้เข้าไปยึดครอง
- เนหะมีย์ 9:24 - ดังนั้นบรรดาผู้สืบเชื้อสายจึงเข้าไปยึดครองแผ่นดิน และพระองค์ทำให้บรรดาผู้อยู่อาศัยในแผ่นดินคานาอันพ่ายแพ้ต่อหน้าเขาทั้งปวง และมอบไว้ในมือของพวกเขา รวมทั้งบรรดากษัตริย์และประชาชนของแผ่นดิน และกระทำต่อคนเหล่านั้นตามที่ต้องการ
- เนหะมีย์ 9:25 - พวกเขายึดเมืองต่างๆ ที่คุ้มกันไว้อย่างแข็งแกร่ง และแผ่นดินอันอุดม และยึดบ้านเรือนซึ่งมีข้าวของเครื่องใช้พร้อม บ่อก็ขุดไว้แล้ว สวนองุ่น สวนมะกอก และต้นไม้ชนิดมีผลจำนวนมาก ดังนั้น พวกเขารับประทานอย่างอิ่มหนำ ได้สุขสำราญกับความประเสริฐเลิศล้ำของพระองค์
- เนหะมีย์ 9:26 - แม้กระนั้น พวกเขาก็ยังดื้อดึงและขัดขืนต่อพระองค์ และหันหลังให้กฎบัญญัติของพระองค์ และฆ่าบรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระองค์ ซึ่งได้เตือนพวกเขาให้หันกลับเข้าหาพระองค์ และพวกเขาพูดหมิ่นประมาทมาก
- เนหะมีย์ 9:27 - ฉะนั้นพระองค์มอบพวกเขาไว้ในมือของพวกศัตรูซึ่งกดขี่ข่มเหง และในเวลาที่พวกเขาทนทุกข์ พวกเขาก็ร่ำร้องต่อพระองค์ และพระองค์ได้ยินจากฟ้าสวรรค์ และเนื่องจากความเมตตาเป็นล้นพ้นของพระองค์ พระองค์มอบบรรดาผู้ช่วยให้พ้นภัยแก่พวกเขาให้พ้นจากมือของพวกศัตรู
- เนหะมีย์ 9:28 - แต่หลังจากที่บรรพบุรุษมีโอกาสได้พักชั่วครู่ พวกเขาก็กระทำสิ่งชั่วร้ายต่อหน้าพระองค์อีก พระองค์ปล่อยพวกเขาไว้ในมือของพวกศัตรู จนต้องตกอยู่ใต้การปกครองของเหล่าศัตรูด้วย เมื่อพวกเขาหันมาและร้องต่อพระองค์ พระองค์ได้ยินจากสวรรค์ และเนื่องจากความเมตตาของพระองค์ พระองค์ก็ช่วยพวกเขาให้หลุดพ้นไปได้หลายครั้ง
- เนหะมีย์ 9:29 - พระองค์เตือนพวกเขาเพื่อให้กลับมาปฏิบัติตามกฎบัญญัติของพระองค์ แต่พวกเขาก็ยังยโส และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์ แต่กลับทำผิดต่อคำบัญชาของพระองค์ ถ้าผู้ใดกระทำตาม ผู้นั้นก็จะมีชีวิต และพวกเขาหันหลังให้พระองค์ และดื้อด้านไม่ยอมเชื่อฟัง
- เนหะมีย์ 9:30 - เป็นเวลาหลายปีที่พระองค์ทนต่อพวกเขา และเตือนพวกเขาผ่านทางบรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าด้วยพระวิญญาณของพระองค์ แต่พวกเขาก็ยังไม่เงี่ยหูฟัง ฉะนั้นพระองค์จึงมอบพวกเขาไว้ในมือของประชาชาติในแผ่นดิน
- เนหะมีย์ 9:31 - แม้กระนั้น พระองค์ก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาจบชีวิตลง หรือทอดทิ้งพวกเขา เนื่องจากพระองค์มีความเมตตายิ่งนัก พระองค์เป็นพระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยพระคุณและความเมตตา
- เนหะมีย์ 9:32 - ฉะนั้น บัดนี้ พระเจ้าของพวกเรา พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ พร้อมด้วยอานุภาพและน่าเกรงขาม พระองค์รักษาพันธสัญญาและความรักอันมั่นคง ขอพระองค์อย่าเห็นว่าความลำบากทั้งสิ้นที่เกิดขึ้นกับพวกเรา กับบรรดากษัตริย์ เหล่าเจ้านาย ปุโรหิต ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า บรรพบุรุษ และกับชนชาติทั้งปวงของพระองค์ เป็นสิ่งเล็กน้อยเลย นับตั้งแต่สมัยกษัตริย์แห่งอัสซีเรีย มาจนถึงทุกวันนี้
- เนหะมีย์ 9:33 - พระองค์ได้ให้ทุกสิ่งเกิดขึ้นแก่พวกเราด้วยความชอบธรรม เพราะพระองค์รักษาคำมั่นสัญญา ในขณะที่พวกเราได้ประพฤติอย่างชั่วร้าย
- เนหะมีย์ 9:34 - บรรดากษัตริย์ของพวกเรา เหล่าเจ้านาย ปุโรหิต และบรรพบุรุษของพวกเราไม่ได้รักษากฎบัญญัติ และไม่เอาใจใส่ต่อพระบัญญัติและคำสั่งของพระองค์ ซึ่งพระองค์ให้แก่พวกเขา
- เนหะมีย์ 9:35 - แม้พวกเขาจะอยู่ในอาณาจักรของตนเอง มีความสุขท่ามกลางสิ่งดีๆ ที่พระองค์มอบให้ ในแผ่นดินอันกว้างใหญ่และบริบูรณ์ซึ่งพระองค์เตรียมให้ที่ตรงหน้าพวกเขา พวกเขาก็ยังไม่ได้รับใช้พระองค์ หรือหันจากการกระทำที่ชั่วร้าย
- เนหะมีย์ 9:36 - ดูเถิด พวกเราเป็นทาสในวันนี้ ในแผ่นดินที่พระองค์มอบให้แก่บรรพบุรุษของเราเพื่อได้รับผลประโยชน์และสิ่งดีๆ จากแผ่นดิน ดูเถิด พวกเราเป็นทาส
- เนหะมีย์ 9:37 - ผลเก็บเกี่ยวที่ได้รับอย่างอุดมสมบูรณ์ก็ตกถึงมือของกษัตริย์ ผู้ที่พระองค์ประสงค์ให้ปกครองเหนือพวกเรา เนื่องจากบาปของเรา พวกเขาควบคุมทั้งตัวเราและสัตว์เลี้ยงตามใจปรารถนาของพวกเขา พวกเราจึงเป็นทุกข์ยิ่งนัก
- เฉลยธรรมบัญญัติ 32:15 - เยชูรูน อ้วนพีและขัดขืน เจ้าอ้วนใหญ่ขึ้น ตัวหนา และอ้วนท้วน เขาทอดทิ้งพระเจ้าผู้สร้างเขามา และเยาะเย้ยศิลาแห่งความรอดพ้นของเขา
- เฉลยธรรมบัญญัติ 32:16 - พวกเขากระตุ้นให้ความหวงแหนของพระองค์พลุ่งขึ้นด้วยบรรดาเทพเจ้าต่างชาติ เขายั่วโทสะพระองค์ด้วยรูปเคารพที่น่าชัง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 32:17 - พวกเขามอบเครื่องบูชาแก่มารซึ่งไม่ใช่พระเจ้า แต่เป็นเทพเจ้าที่ไม่เคยรู้จัก เป็นบรรดาเทพเจ้าใหม่ๆ ซึ่งบรรพบุรุษของท่านก็ไม่เคยเกรงกลัว
- เฉลยธรรมบัญญัติ 32:18 - ท่านเพิกเฉยต่อศิลาผู้บังเกิดเกล้าของท่าน และท่านลืมพระเจ้าผู้ให้กำเนิดแก่ท่าน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 32:19 - พระผู้เป็นเจ้าเห็นการกระทำเช่นนั้น พระองค์โกรธและปฏิเสธบรรดาบุตรชายบุตรหญิงของพระองค์
- เฉลยธรรมบัญญัติ 32:20 - และพระองค์กล่าวว่า ‘เราจะซ่อนหน้าจากพวกเขา เราจะดูว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเขาในที่สุด เพราะพวกเขาเป็นคนในยุคที่บิดเบือน เป็นบุตรที่ไม่ภักดี
- เฉลยธรรมบัญญัติ 9:7 - จงจำไว้ และอย่าลืมว่าในถิ่นทุรกันดาร ท่านยั่วโทสะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน นับจากวันที่ท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์ จนกระทั่งพวกท่านมาถึงที่แห่งนี้ ท่านก็ได้ขัดขืนพระผู้เป็นเจ้าเรื่อยมา
- 2 พงศาวดาร 36:16 - แต่พวกเขาล้อเลียนบรรดาผู้นำข่าวของพระเจ้าเรื่อยไป ดูหมิ่นคำกล่าวของพระองค์ และเยาะเย้ยบรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระองค์ จนกระทั่งความโกรธกริ้วของพระผู้เป็นเจ้าพลุ่งขึ้นต่อชนชาติของพระองค์ จนแก้ไขไม่ได้
- 2 พงศาวดาร 36:17 - ดังนั้นพระองค์ให้กษัตริย์ของชาวเคลเดีย ขึ้นมาโจมตีพวกเขา ท่านใช้ดาบสังหารพวกชายหนุ่มที่อยู่ในที่พำนัก ท่านไม่มีเมตตาต่อชายหนุ่มหรือหญิงสาว คนชราหรือทุพพลภาพ พระองค์มอบพวกเขาไว้ในมือของท่าน
- เอเสเคียล 20:21 - แต่บรรดาบุตรหลานขัดขืนเรา พวกเขาไม่ได้ดำเนินชีวิตตามกฎเกณฑ์ของเรา และไม่ระมัดระวังเชื่อฟังคำบัญชาของเรา ถ้าผู้ใดกระทำตาม เขาจะมีชีวิตอยู่ แต่พวกเขากลับดูหมิ่นวันสะบาโตของเรา เราจึงกล่าวว่า เราจะกระหน่ำการลงโทษของเราลงบนพวกเขา และเราจะให้ความกริ้วของเราลงที่พวกเขาในถิ่นทุรกันดาร
- เอเสเคียล 20:13 - แต่พงศ์พันธุ์อิสราเอลขัดขืนเราในถิ่นทุรกันดาร พวกเขาไม่ได้ดำเนินชีวิตตามกฎเกณฑ์ของเรา และไม่ยอมรับคำบัญชาของเรา ซึ่งถ้าผู้ใดกระทำตาม เขาจะมีชีวิตอยู่ พวกเขาดูหมิ่นวันสะบาโตของเรายิ่งนัก เราจึงกล่าวว่า เราจะกระหน่ำการลงโทษของเราลงบนพวกเขาในถิ่นทุรกันดารให้พินาศเสีย
- เยเรมีย์ 2:31 - โอ พวกเจ้าที่อยู่ในยุคนี้เอ๋ย จงฟังคำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้า อิสราเอลเห็นว่า เราเป็นเหมือนถิ่นทุรกันดาร หรือเป็นแผ่นดินอันมืดทึบอย่างนั้นหรือ เหตุใดชนชาติของเราจึงพูดว่า ‘พวกเรามีอิสระ พวกเราจะไม่มาหาพระองค์อีก’
- เยเรมีย์ 36:21 - กษัตริย์สั่งเยฮูดีให้นำหนังสือม้วนมา เขาจึงไปเอามาจากห้องของเอลีชามาเลขา และเยฮูดีอ่านให้กษัตริย์และผู้นำทั้งปวงที่ยืนอยู่ใกล้กษัตริย์ฟัง
- เยเรมีย์ 36:22 - ขณะนั้นเป็นเดือนที่เก้า กษัตริย์กำลังนั่งอยู่ในวังฤดูหนาว ซึ่งมีเตาผิงไฟก่ออยู่เบื้องหน้าท่าน
- เยเรมีย์ 36:23 - เมื่อเยฮูดีอ่านได้ 3-4 ตอน กษัตริย์ก็จะใช้มีดตัดออก และโยนทิ้งในเตาผิงไฟ จนกระทั่งหนังสือทั้งม้วนถูกเผาไฟในเตาผิงหมด
- เยเรมีย์ 36:24 - ถึงกระนั้น กษัตริย์และบรรดาผู้รับใช้ของท่านที่ทราบเรื่องก็ไม่เกิดความกลัวหรือฉีกเสื้อของตนให้ขาด
- เยเรมีย์ 36:25 - แม้ว่าเอลนาธาน เดไลยาห์ และเกมาริยาห์พยายามห้ามกษัตริย์ไม่ให้เผาหนังสือม้วน ท่านก็ยังไม่ฟัง
- เยเรมีย์ 36:26 - และกษัตริย์ออกคำสั่งให้เยราเมเอลบุตรของกษัตริย์ เสไรยาห์บุตรอัสรีเอล และเชเลมิยาห์บุตรของอับเดเอล จับกุมบารุคเลขาและเยเรมีย์ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า แต่พระผู้เป็นเจ้าได้ซ่อนตัวคนทั้งสองแล้ว
- สดุดี 106:6 - พวกเราได้ทำบาปเหมือนๆ กับบรรพบุรุษของเรา เรากระทำผิดไปแล้ว เรากระทำความชั่ว
- สดุดี 106:7 - บรรพบุรุษของพวกเราในอียิปต์ ไม่ได้คำนึงถึงสิ่งมหัศจรรย์ของพระองค์ พวกเขาไม่นึกถึงความรักมั่นคงอันอุดมของพระองค์ แต่กลับฝ่าฝืนที่ริมฝั่งทะเลที่ทะเลแดง
- สดุดี 106:8 - แม้กระนั้น พระองค์ยังช่วยพวกเขาให้รอดพ้นเพื่อพระนามของพระองค์ เพื่อให้อานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระองค์เป็นที่ประจักษ์
- สดุดี 106:9 - พระองค์ออกคำสั่งกับทะเลแดง และทะเลก็แห้งเหือดลง ครั้นแล้วพระองค์นำพวกเขาไปทางทะเลลึกราวกับไปทางถิ่นทุรกันดาร
- สดุดี 106:10 - พระองค์ช่วยพวกเขาให้พ้นจากเงื้อมมือของศัตรู และช่วยพวกเขาให้รอดพ้นจากอำนาจของข้าศึก
- สดุดี 106:11 - และกระแสน้ำก็ท่วมเหล่าปรปักษ์ โดยไม่มีใครรอดพ้นไปได้สักคน
- สดุดี 106:12 - แล้วพวกเขาก็เชื่อในคำพูดของพระองค์ และร้องเพลงสรรเสริญพระองค์
- สดุดี 106:13 - ไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาก็ลืมสิ่งที่พระองค์กระทำ และไม่รอฟังคำปรึกษาของพระองค์
- สดุดี 106:14 - พวกเขาเกิดความอยากยิ่งนักขณะที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร และลองดีกับพระเจ้าในที่ร้างอันแร้นแค้น
- สดุดี 106:15 - พระองค์ให้สิ่งที่พวกเขาขอ แต่ก็ให้โรคระบาดอันร้ายแรงเกิดขึ้นกับพวกเขาด้วย
- สดุดี 106:16 - พวกเขาอิจฉาโมเสสในค่ายที่พัก และอิจฉาอาโรนคนบริสุทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า
- สดุดี 106:17 - แผ่นดินแยกออกจากกันและกลืนดาธาน และฝังอะบีรามกับพรรคพวกจนมิด
- สดุดี 106:18 - ไฟเผาผลาญคนทั้งกลุ่ม เปลวไฟเผาไหม้คนชั่วเหล่านั้น
- สดุดี 106:19 - พวกเขาปั้นรูปลูกโคขึ้นที่โฮเรบ และบูชารูปเคารพที่ได้หลอมไว้
- สดุดี 106:20 - พวกเขาเอาพระบารมีของพระเจ้า แลกกับรูปปั้นของโคที่กินหญ้า
- สดุดี 106:21 - พวกเขาลืมพระเจ้าผู้ช่วยให้รอดพ้นของเขา ผู้กระทำสิ่งอันยิ่งใหญ่ในอียิปต์
- สดุดี 106:22 - สิ่งมหัศจรรย์ในดินแดนของฮาม สิ่งอันน่าเกรงขามที่ทะเลแดง
- สดุดี 106:23 - แล้วพระองค์กล่าวว่า พระองค์จะทำลายพวกเขา แต่โมเสสผู้ที่พระองค์เลือกไว้ ไปยืนทัดทานพระองค์ เพื่อให้พระองค์หันจากความเกรี้ยวโกรธและไม่ทำลายพวกเขา
- สดุดี 106:24 - ต่อมาภายหลัง พวกเขาก็ไม่กล้าเข้าไปในแผ่นดินอันน่าอยู่ และไม่เชื่อในสัญญาของพระองค์
- สดุดี 106:25 - พวกเขาต่างบ่นพึมพำอยู่ในกระโจมที่พักของตน และไม่เชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า
- สดุดี 106:26 - ฉะนั้น พระองค์ยกมือขึ้นปฏิญาณกับพวกเขาว่า พระองค์จะปล่อยให้พวกเขาตายในถิ่นทุรกันดาร
- สดุดี 106:27 - และจะทำให้ผู้สืบเชื้อสายของพวกเขากระจัดกระจายไปในบรรดาประชาชาติ ให้กระจัดกระจายไปทั่วแผ่นดิน
- สดุดี 106:28 - พวกเขาเทียมแอกกับเทพเจ้าบาอัลแห่งเปโอร์ และกินของที่นำไปบูชาสิ่งไม่มีชีวิต
- สดุดี 106:29 - การกระทำของพวกเขาถือเป็นการยั่วโทสะ และโรคระบาดเกิดขึ้นท่ามกลางพวกเขา
- สดุดี 106:30 - ครั้นแล้วฟีเนหัสช่วยเป็นคนกลางจัดการเรื่อง และโรคระบาดก็หยุด
- สดุดี 106:31 - เขาถูกนับว่ามีความชอบธรรม ตลอดทุกยุคทุกสมัยจนนิรันดร์กาล
- สดุดี 106:32 - พวกเขาทำให้พระองค์กริ้วที่แหล่งน้ำเมรีบาห์ และเป็นเหตุให้โมเสสเดือดร้อน
- สดุดี 106:33 - พวกเขากดดันจิตวิญญาณของพระองค์ ท่านจึงพูดโดยไม่ได้ตรึกตรอง
- สดุดี 106:34 - พวกเขาไม่ได้ทำลายบรรดาชนชาติ ตามที่พระผู้เป็นเจ้าได้บัญชา
- สดุดี 106:35 - แต่กลับไปใช้ชีวิตร่วมกับบรรดาประชาชาติ และรับวิถีทางของพวกเขามา
- สดุดี 106:36 - อีกทั้งยังได้บูชารูปเคารพของคนเหล่านั้น ซึ่งต่อมาก็คือบ่วงแร้วสำหรับตนเอง
- สดุดี 106:37 - พวกเขายกบุตรชายบุตรหญิงของตนให้เป็น เครื่องสักการะแก่พวกมาร
- สดุดี 106:38 - และฆ่าคนไร้ความผิด เลือดของบุตรชายบุตรหญิงของตน ถูกใช้เป็นเครื่องสักการะให้แก่บรรดารูปเคารพแห่งคานาอัน และแผ่นดินแปดเปื้อนด้วยเลือด
- สดุดี 106:39 - พวกเขาจึงไม่ใช่คนบริสุทธิ์เนื่องจากสิ่งที่ตัวเองกระทำ และความประพฤติของเขาเป็นเช่นของหญิงแพศยา
- สดุดี 106:40 - ฉะนั้น ความโกรธของพระผู้เป็นเจ้าพลุ่งขึ้นต่อชนชาติของพระองค์ และพระองค์ชิงชังผู้สืบมรดกของพระองค์
- สดุดี 106:41 - พระองค์มอบพวกเขาไว้ในมือของบรรดาประชาชาติ ซึ่งเป็นพวกที่เกลียดชังและมีอำนาจเหนือพวกเขา
- สดุดี 106:42 - ศัตรูทำให้พวกเขามีความทุกข์ และพวกเขาถูกบังคับให้อยู่ใต้อำนาจของศัตรู
- สดุดี 106:43 - พระองค์ช่วยพวกเขาให้รอดปลอดภัยหลายครั้ง แต่ก็ยังฝ่าฝืนพระองค์อย่างไม่หยุดยั้ง และถลำลึกลงในบาปมากยิ่งขึ้น
- สดุดี 106:44 - ถึงกระนั้นพระองค์ก็ยังเหลียวแลในยามพวกเขาตกทุกข์ได้ยาก สนใจฟังในยามที่เขาร้องทุกข์
- สดุดี 106:45 - พระองค์ระลึกถึงพันธสัญญาที่มีต่อพวกเขา และเปลี่ยนใจตามความรักอันมั่นคงของพระองค์ที่มีอย่างเอนกอนันต์
- สดุดี 106:46 - พระองค์โปรดให้พวกเขาได้รับความเมตตา จากบรรดาผู้ที่จับไปเป็นเชลย
- สดุดี 106:47 - โอ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา ช่วยพวกเราให้รอดพ้นเถิด และรวบรวมพวกเราจากบรรดาประชาชาติ เพื่อขอบคุณพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์ และสรรเสริญพระองค์อย่างภาคภูมิใจ
- สดุดี 106:48 - สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอล จากนิรันดร์กาลจนถึงนิรันดร์กาล และให้ชนชาติทั้งปวงกล่าวว่า “อาเมน” จงสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า
- ผู้วินิจฉัย 2:11 - ชาวอิสราเอลกระทำสิ่งชั่วร้ายในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า และบูชาเทวรูปบาอัล
- ผู้วินิจฉัย 2:12 - พวกเขาทอดทิ้งพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขา และนำพวกเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ พวกเขาติดตามและก้มกราบบรรดาเทพเจ้า ซึ่งเป็นเทพเจ้าของชนชาติอื่นที่อยู่รอบข้างเขา นับว่าเป็นการยั่วโทสะพระผู้เป็นเจ้า
- ผู้วินิจฉัย 2:13 - พวกเขาทอดทิ้งพระผู้เป็นเจ้า แล้วไปบูชาพวกเทวรูปบาอัลและอัชโทเรท
- ผู้วินิจฉัย 2:14 - อิสราเอลยั่วโทสะพระผู้เป็นเจ้า และพระองค์มอบพวกเขาไว้ในมือของพวกผู้ร้ายที่เข้ามาปล้นสะดม และพระองค์ขายพวกเขาให้แก่บรรดาศัตรูที่อยู่รอบข้างจนเขาไม่สามารถยืนหยัดต่อศัตรูของเขาได้
- ผู้วินิจฉัย 2:15 - เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาออกศึก มือของพระผู้เป็นเจ้าก็ต่อต้านเขาและทำให้พวกเขาพ่ายแพ้ ดั่งที่พระผู้เป็นเจ้าได้เตือนและสัญญาไว้ พวกเขาจึงตกอยู่ในความทุกข์หนักยิ่งนัก
- ผู้วินิจฉัย 2:16 - ครั้นแล้วพระผู้เป็นเจ้าจึงกำหนดบรรดาผู้วินิจฉัยขึ้น เพื่อช่วยชาวอิสราเอลให้รอดจากเงื้อมมือของพวกโจร
- ผู้วินิจฉัย 2:17 - แม้กระนั้น พวกเขาก็ยังไม่เชื่อฟังบรรดาผู้วินิจฉัย เพราะได้ติดตามและก้มกราบบรรดาเทพเจ้า เป็นการประพฤติดั่งหญิงแพศยา ต่อจากนั้นไม่นานนัก พวกเขาก็ได้หันเหไปจากวิถีชีวิตของเหล่าบรรพบุรุษที่ได้เชื่อฟังพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งพวกเขาเองไม่กระทำตาม
- ผู้วินิจฉัย 2:18 - เมื่อใดก็ตามที่พระผู้เป็นเจ้ากำหนดบรรดาผู้วินิจฉัยให้พวกเขา พระผู้เป็นเจ้าก็อยู่กับผู้วินิจฉัย และพระองค์ช่วยพวกเขาให้รอดจากมือของศัตรูจนตลอดชีวิตของผู้วินิจฉัย เพราะพระผู้เป็นเจ้าสงสารเวลาพวกเขาคร่ำครวญเมื่อได้รับความทุกข์และถูกบีบบังคับ
- ผู้วินิจฉัย 2:19 - แต่เมื่อใดที่ผู้วินิจฉัยสิ้นชีวิต พวกเขาก็กลับไปเป็นเหมือนเดิมและเสื่อมทรามยิ่งกว่าบรรพบุรุษของตน เขาหันไปเชื่อบรรดาเทพเจ้า บูชาและกราบไหว้สิ่งเหล่านั้น พวกเขาไม่ได้ละเว้นจากการปฏิบัติและยังหัวรั้นในวิถีทางของตน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 9:24 - ตั้งแต่วันที่เรารู้จักพวกท่าน พวกท่านก็ขัดขืนพระผู้เป็นเจ้าเสมอมา
- เฉลยธรรมบัญญัติ 31:27 - เพราะเราทราบว่าพวกท่านชอบขัดขืนและดื้อรั้นเพียงไร ดูเถิด แม้ว่าขณะนี้เรายังมีชีวิตอยู่กับพวกท่าน พวกท่านก็ยังขัดขืนพระผู้เป็นเจ้า หลังจากเราตายไปแล้ว พวกท่านจะกระทำยิ่งกว่าเพียงไร
- เอเสเคียล 20:28 - เพราะเวลาที่เราได้นำพวกเขาเข้าไปในแผ่นดินที่เราปฏิญาณว่าจะมอบให้ และไม่ว่าที่ไหนก็ตามที่พวกเขาเห็นเนินเขาสูงหรือต้นไม้เขียวชอุ่ม พวกเขาก็ถวายเครื่องสักการะและมอบของถวายซึ่งเป็นการยั่วโทสะเรา ด้วยการมอบเครื่องหอมและเทเครื่องดื่มบูชา
- 2 พงศาวดาร 33:10 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวแก่มนัสเสห์และประชาชนของท่าน แต่พวกเขาก็ทำเฉยเมย
- เยเรมีย์ 35:15 - เราได้ให้บรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า ผู้รับใช้ของเราทั้งปวงมาหาพวกเจ้า ให้พวกเขามาหาและพูดกับเจ้าเสมอว่า ‘บัดนี้พวกเจ้าทุกคนจงเลิกกระทำความชั่ว และเปลี่ยนการกระทำของพวกเจ้า อย่าไปติดตามปวงเทพเจ้าและบูชาสิ่งเหล่านั้น แล้วเจ้าจะได้อาศัยอยู่ในแผ่นดินที่เรามอบให้แก่พวกเจ้าและบรรพบุรุษของเจ้า’ แต่พวกเจ้าไม่ฟังและไม่แม้แต่จะเงี่ยหูฟังเรา
- เยเรมีย์ 6:16 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า “จงยืนที่ข้างถนนและมองดู และถามหาทางโบราณ ซึ่งเป็นหนทางที่ดี เจ้าจงเดินในทางนั้น และเจ้าจะพบที่พักพิงของจิตวิญญาณ แต่พวกเขากลับพูดว่า ‘พวกเราจะไม่เดินในทางนั้น’
- เอเสเคียล 20:8 - แต่พวกเขาขัดขืน และไม่ยอมเชื่อฟังเรา ไม่มีใครในหมู่พวกเขาทิ้งสิ่งอันน่ารังเกียจที่พวกเขาเชยชม และไม่ละทิ้งรูปเคารพของอียิปต์’ ดังนั้น เรากล่าวว่า เราจะกระหน่ำการลงโทษของเราลงบนพวกเขา และเราจะให้ความกริ้วของเราลงที่พวกเขาในแผ่นดินอียิปต์
- อิสยาห์ 48:8 - เจ้าไม่เคยได้ยินหรือเคยรู้มาก่อน เจ้าไม่เคยเปิดหูมาตั้งแต่กาลโน้น เรารู้ว่าเจ้าจะก่อปัญหาอย่างแน่นอน และเจ้าได้ชื่อว่า เจ้าขัดขืนมาตั้งแต่ก่อนกำเนิด
- สุภาษิต 30:9 - เพราะข้าพเจ้าเกรงว่าเมื่ออิ่มหนำ แล้วจะปฏิเสธพระองค์ แล้วจะพูดว่า “พระผู้เป็นเจ้าคือใคร” หรือเกรงว่าเมื่อยากไร้แล้วจะไปลักขโมย ซึ่งจะทำให้พระนามของพระเจ้าของข้าพเจ้าเป็นมลทิน
- เอเสเคียล 23:3 - ทั้งสองคนนี้ทำตัวเป็นหญิงใจง่ายในอียิปต์ เขาใจง่ายตั้งแต่วัยสาว อกของนางถูกจับต้องและหน้าอกอันบริสุทธิ์ถูกสัมผัส
- เอเสเคียล 23:4 - หญิงผู้พี่ชื่อโอโฮลาห์ และน้องสาวของนางชื่อโอโฮลีบาห์ ทั้งสองเป็นของเรา และนางทั้งสองให้กำเนิดบุตรชายและบุตรหญิง โอโฮลาห์คือสะมาเรีย และโอโฮลีบาห์คือเยรูซาเล็ม
- เอเสเคียล 23:5 - โอโฮลาห์ทำตนเป็นหญิงใจง่ายขณะที่นางเป็นของเรา และนางต้องตาต้องใจในบรรดาชู้ของนางคือชาวอัสซีเรียผู้เป็นนักรบ
- เอเสเคียล 23:6 - พวกเขาสวมผ้าสีม่วง เป็นบรรดาเจ้าเมืองและผู้บังคับบัญชา ทุกคนล้วนเป็นชายหนุ่มที่พึงปรารถนา และเป็นทหารม้า
- เอเสเคียล 23:7 - นางมอบตนด้วยความใจง่ายให้กับบรรดาผู้ชายที่เลอเลิศของอัสซีเรียทั้งสิ้น และนางเป็นมลทินเพราะนางต้องตาต้องใจในรูปเคารพทั้งหลายของทุกๆ คน
- เอเสเคียล 23:8 - นางไม่เลิกล้มทำตนเป็นหญิงใจง่ายซึ่งได้เริ่มขึ้นในอียิปต์ บรรดาผู้ชายได้นอนกับนางตั้งแต่ครั้งที่นางยังสาว และสัมผัสหน้าอกอันบริสุทธิ์ของนาง และกระทำกลับต่อนางด้วยตัณหาของพวกเขา
- เอเสเคียล 23:9 - ฉะนั้น เรามอบนางไว้ในมือของบรรดาชู้ของนาง ในมือของชาวอัสซีเรียซึ่งนางต้องตาต้องใจด้วย
- เอเสเคียล 23:10 - คนเหล่านั้นเปลื้องกายนาง และจับตัวบุตรชายและบุตรหญิงของนางไป และใช้ดาบฆ่านาง และนางกลายเป็นที่หัวเราะเยาะในหมู่ผู้หญิงหลังจากที่นางถูกตัดสินลงโทษแล้ว
- เอเสเคียล 23:11 - โอโฮลีบาห์น้องของนางเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น นางกลับทำตนเลวยิ่งกว่าพี่สาวของนางในเรื่องตัณหาและการเป็นหญิงใจง่าย
- เอเสเคียล 23:12 - นางต้องตาต้องใจในบรรดาชาวอัสซีเรีย เจ้าเมือง และผู้บังคับบัญชา นักรบที่สวมเกราะป้องกันตัวครบครัน ทหารม้า พวกเขาทุกคนล้วนเป็นชายหนุ่มที่พึงปรารถนา
- เอเสเคียล 23:13 - และเราเห็นว่านางถูกทำให้เป็นมลทิน ทั้งสองคนกระทำตนในวิถีทางเดียวกัน
- เอเสเคียล 23:14 - แต่ความใจง่ายของนางถลำลึกลงยิ่งกว่า นางเห็นรูปพวกผู้ชายที่กำแพง รูปสลักของชาวเคลเดียที่มีโครงร่างเป็นรูปสีแดงสด
- เอเสเคียล 23:15 - มีผ้าคาดเอว ผ้าโพกศีรษะ ทุกคนมีลักษณะเหมือนผู้บังคับการรถศึก คุณลักษณะของชาวบาบิโลนซึ่งมีเคลเดียเป็นถิ่นกำเนิด
- เอเสเคียล 23:16 - เมื่อนางเห็นพวกเขา นางต้องตาต้องใจในพวกเขา และให้บรรดาผู้ส่งข่าวไปหาพวกเขาที่เคลเดีย
- เอเสเคียล 23:17 - และชาวบาบิโลนมาหานางที่เตียงแห่งความรัก และพวกเขาทำให้นางเป็นมลทินด้วยตัณหาของตน และหลังจากที่พวกเขาทำให้นางเป็นมลทินแล้ว นางก็หันไปจากพวกเขาด้วยความขยะแขยง
- เอเสเคียล 23:18 - เมื่อนางกระทำตนเป็นคนใจง่ายต่อไปอย่างเปิดเผยและเปลือยร่างของนาง เราหันไปจากนางด้วยความขยะแขยง เหมือนกับที่เราได้หันไปจากพี่สาวของนางด้วยความขยะแขยง
- เอเสเคียล 23:19 - แม้กระนั้น นางยังกระทำตนเป็นคนใจง่ายมากยิ่งขึ้นในขณะที่นึกถึงวัยสาวของนาง เวลานางทำตัวเป็นหญิงใจง่ายในแผ่นดินอียิปต์
- เอเสเคียล 23:20 - และต้องตาต้องใจในบรรดาชู้ของนางที่นั่น ซึ่งมีเลือดเนื้อเหมือนกับของลา และมีสิ่งไหลออกเหมือนกับของม้า
- เอเสเคียล 23:21 - เจ้าจึงใคร่หาความมักมากในกามของวัยสาวของเจ้าเมื่อชาวอียิปต์สัมผัสหน้าอกของเจ้าและจับต้องอกสาวของเจ้า”
- เอเสเคียล 23:22 - ฉะนั้น โอโฮลีบาห์เอ๋ย พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า “ดูเถิด เราจะทำให้บรรดาชู้ของเจ้าที่เจ้าหันจากไปด้วยความขยะแขยงนั้นมาแข็งข้อกับเจ้า เราจะนำพวกเขามาจากทุกทิศเพื่อบุกรุกเจ้า
- เอเสเคียล 23:23 - ชาวบาบิโลนและชาวเคลเดียทั้งหมด ชาวเปโขด โชอา โคอา และชาวอัสซีเรียทั้งหมด ชายหนุ่มที่พึงปรารถนาทั้งหลาย บรรดาเจ้าเมืองและผู้บังคับการรถศึกทุกคน ผู้บังคับการและบรรดาผู้มีชื่อเสียง พวกเขาทุกคนขี่ม้ามา
- เอเสเคียล 23:24 - พวกเขาจะมาบุกรุกเจ้าจากทางเหนือด้วยรถศึก รถพ่วง และคนอีกจำนวนมาก พวกเขาพร้อมที่จะประจันหน้ากับเจ้าในทุกทิศทุกทาง ด้วยเครื่องป้องกันตัว โล่ และหมวกเหล็ก และเราจะมอบสิทธิในการตัดสินโทษแก่พวกเขา พวกเขาจะตัดสินโทษเจ้าตามมาตรฐานของการตัดสินโทษของพวกเขาเอง
- เอเสเคียล 23:25 - เราจะเบนความกริ้วอันเกิดจากความหวงแหนมาที่ตัวเจ้า เพื่อพวกเขาจะกระทำต่อเจ้าด้วยความฉุนเฉียว พวกเขาจะตัดจมูกและหูของเจ้า และบรรดาผู้ที่รอดชีวิตมาได้จะตายด้วยคมดาบ พวกเขาจะจับตัวบรรดาบุตรชายและบุตรหญิงของเจ้า และบรรดาผู้ที่รอดชีวิตมาได้จะถูกไฟเผา
- เอเสเคียล 23:26 - พวกเขาจะเปลื้องเสื้อผ้าของเจ้า และเอาเครื่องประดับอันสวยงามของเจ้าไป
- เอเสเคียล 23:27 - ความมักมากในกามและความใจง่ายที่เจ้าเริ่มมีขึ้นในแผ่นดินอียิปต์นั้น เราจะทำให้ยุติลง เพื่อเจ้าจะไม่ใส่ใจกับมันหรือคิดถึงอียิปต์อีกต่อไป”
- เอเสเคียล 23:28 - พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า “ดูเถิด เราจะมอบเจ้าไว้ในมือของบรรดาผู้ที่เจ้าเกลียดชัง ในมือของบรรดาผู้ที่เจ้าหันจากไปด้วยความขยะแขยง
- เอเสเคียล 23:29 - และพวกเขาจะกระทำต่อเจ้าด้วยความเกลียดชัง และเอาผลจากแรงงานทั้งหมดของเจ้าไป และทิ้งให้เจ้าเปลือยเปล่า และความใจง่ายของเจ้าจะถูกเปิดโปง ความมักมากในกามและความใจง่ายของเจ้านั่นแหละ
- เอเสเคียล 23:30 - ที่ทำให้เจ้ามาถึงจุดนี้ เพราะเจ้าทำตัวเป็นคนใจง่ายกับบรรดาประชาชาติและทำตัวเองให้เป็นมลทินเพราะรูปเคารพของพวกเขา
- เอเสเคียล 23:31 - เจ้าเดินตามวิถีทางของพี่สาวของเจ้า ฉะนั้นเราจะยื่นถ้วยที่เขาใช้ดื่มให้กับเจ้า”
- เอเสเคียล 23:32 - พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ “เจ้าจะดื่มจากถ้วยของพี่สาวของเจ้า เป็นถ้วยที่ลึกและใหญ่ เจ้าจะถูกหัวเราะเยาะและล้อเลียน เพราะเป็นถ้วยที่บรรจุได้มาก
- เอเสเคียล 23:33 - เจ้าจะเมาไม่สร่างและเศร้าใจ ถ้วยแห่งความพินาศและความวิบัติ เป็นถ้วยของพี่สาวของเจ้า คือสะมาเรีย
- เอเสเคียล 23:34 - เจ้าจะดื่มจนหยดสุดท้าย ไม่เหลือแม้ก้นตะกอน และจะตีอกชกหัว เพราะเราได้กล่าวแล้ว” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 23:35 - ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ “เพราะเจ้าได้ลืมเราแล้ว และหันหลังให้เรา เจ้าจะต้องรับผิดในเรื่องความมักมากในกามและความใจง่ายของเจ้า”
- เอเสเคียล 23:36 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า “บุตรมนุษย์เอ๋ย เจ้าจะตัดสินโทษโอโฮลาห์และโอโฮลีบาห์ไหม จงบอกพวกนางเรื่องการกระทำอันน่าชังทั้งสิ้นของพวกนาง
- เอเสเคียล 23:37 - เพราะพวกนางผิดประเวณี และมือของนางเปื้อนเลือด พวกนางผิดประเวณีกับรูปเคารพ และบรรดาบุตรที่นางให้กำเนิดซึ่งเป็นของเรา นางถึงกับถวายเป็นอาหารให้แก่รูปเคารพ
- เอเสเคียล 23:38 - และยิ่งกว่านั้น สิ่งที่พวกนางได้กระทำต่อเราคือ พวกนางได้ทำให้ที่พำนักของเราเป็นมลทินในวันเดียวกัน และดูหมิ่นวันสะบาโตของเรา
- เอเสเคียล 23:39 - เพราะเมื่อพวกนางได้ฆ่าบุตรของพวกนางเพื่อถวายแก่รูปเคารพ ในวันเดียวกันพวกนางเข้าไปในที่พำนักของเราและดูหมิ่นที่ของเรา นั่นแหละที่พวกนางทำในตำหนักของเรา
- เยเรมีย์ 7:22 - เพราะในวันที่เรานำพวกเขาออกจากแผ่นดินอียิปต์ เราไม่ได้บอกบรรพบุรุษของเจ้า หรือบัญชาพวกเขาเรื่องสัตว์ที่เผาเป็นของถวายและเครื่องสักการะบูชา
- เยเรมีย์ 7:23 - แต่คำบัญชาที่เราสั่งพวกเขาก็คือ ‘จงเชื่อฟังเรา และเราจะเป็นพระเจ้าของพวกเจ้า และพวกเจ้าจะเป็นชนชาติของเรา และจงดำเนินในทุกวิถีทางที่เราบัญชาเจ้า เพื่อทุกสิ่งจะเป็นไปด้วยดีกับพวกเจ้า’
- เยเรมีย์ 7:24 - แต่พวกเขาไม่ฟังและไม่แม้แต่จะเงี่ยหูฟัง แต่ดำเนินในวิถีทางของพวกเขาเอง และจิตใจอันชั่วร้ายซึ่งมีแต่ความดื้อรั้น พวกเขาเดินถอยหลังแทนที่จะเดินหน้า
- เยเรมีย์ 7:25 - นับตั้งแต่วันที่บรรพบุรุษออกจากแผ่นดินอียิปต์มาจนถึงทุกวันนี้ วันแล้ววันเล่า เราได้ให้บรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าซึ่งเป็นผู้รับใช้ของเราทุกคนมายังพวกเขาอย่างไม่หยุดยั้ง
- เยเรมีย์ 7:26 - แต่พวกเขาก็ยังไม่ยอมฟังเราหรือแม้แต่จะเงี่ยหูฟัง แต่กลับหัวแข็ง พวกเขาประพฤติเลวร้ายยิ่งกว่าบรรพบุรุษของพวกเขาเสียอีก
- เยเรมีย์ 7:27 - ฉะนั้น เจ้าจะไปพูดให้พวกเขาฟัง แต่พวกเขาจะไม่ฟังเจ้า เจ้าจะร้องเรียกพวกเขา แต่เขาจะไม่ตอบเจ้า
- เยเรมีย์ 7:28 - และเจ้าจงพูดกับพวกเขาว่า ‘นี่เป็นประชาชาติที่ไม่เชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเขา และไม่ยอมรับการสั่งสอน เขาไม่มีความจริงอยู่อีกแล้ว มันถูกตัดออกจากริมฝีปากของพวกเขา
- เยเรมีย์ 3:25 - ให้พวกเรานอนลงกับความอับอายของเราเถิด และให้ความอัปยศปกคลุมพวกเรา เพราะพวกเราและบรรพบุรุษของเราได้ทำบาปต่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา ตั้งแต่ครั้งโบราณกาลมาจนถึงบัดนี้ และพวกเราไม่ได้เชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา
- เยเรมีย์ 32:30 - เพราะลูกหลานของอิสราเอลและของยูดาห์ไม่ได้กระทำสิ่งใดนอกจากความชั่วในสายตาของเราตั้งแต่ต้น ลูกหลานของอิสราเอลไม่ได้กระทำสิ่งใดนอกจากการยั่วโทสะเราด้วยความประพฤติของพวกเขาเอง พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น