逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - “ช่วยทูลถามองค์พระผู้เป็นเจ้าให้เราด้วย เพราะกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ แห่งบาบิโลนยกทัพมาโจมตีเรา บางทีองค์พระผู้เป็นเจ้าอาจจะทำการอัศจรรย์เพื่อพวกเราเหมือนในอดีต เนบูคัดเนสซาร์จะได้ถอนทัพกลับไป”
- 新标点和合本 - “请你为我们求问耶和华;因为巴比伦王尼布甲尼撒来攻击我们,或者耶和华照他一切奇妙的作为待我们,使巴比伦王离开我们上去。”
- 和合本2010(上帝版-简体) - “请你为我们求问耶和华,因为巴比伦王尼布甲尼撒前来攻击我们;或者耶和华照他一切奇妙的作为待我们,使巴比伦王离开我们而去。”
- 和合本2010(神版-简体) - “请你为我们求问耶和华,因为巴比伦王尼布甲尼撒前来攻击我们;或者耶和华照他一切奇妙的作为待我们,使巴比伦王离开我们而去。”
- 当代译本 - “请你为我们求问耶和华,因为巴比伦王尼布甲尼撒来攻打我们,或许耶和华会像以往一样为我们行神迹,使敌人撤军。”
- 圣经新译本 - “请你替我们求问耶和华,因为巴比伦王尼布甲尼撒来攻击我们;也许耶和华会为我们行奇事,使尼布甲尼撒离开我们回去。”
- 现代标点和合本 - “请你为我们求问耶和华,因为巴比伦王尼布甲尼撒来攻击我们,或者耶和华照他一切奇妙的作为待我们,使巴比伦王离开我们上去。”
- 和合本(拼音版) - “请你为我们求问耶和华,因为巴比伦王尼布甲尼撒来攻击我们,或者耶和华照他一切奇妙的作为待我们,使巴比伦王离开我们上去。”
- New International Version - “Inquire now of the Lord for us because Nebuchadnezzar king of Babylon is attacking us. Perhaps the Lord will perform wonders for us as in times past so that he will withdraw from us.”
- New International Reader's Version - “Ask the Lord to help us. Nebuchadnezzar king of Babylon is attacking us. In the past the Lord did wonderful things for us. Maybe he’ll do them again. Then Nebuchadnezzar will pull his armies back from us.”
- English Standard Version - “Inquire of the Lord for us, for Nebuchadnezzar king of Babylon is making war against us. Perhaps the Lord will deal with us according to all his wonderful deeds and will make him withdraw from us.”
- New Living Translation - “Please speak to the Lord for us and ask him to help us. King Nebuchadnezzar of Babylon is attacking Judah. Perhaps the Lord will be gracious and do a mighty miracle as he has done in the past. Perhaps he will force Nebuchadnezzar to withdraw his armies.”
- Christian Standard Bible - “Inquire of the Lord on our behalf, since King Nebuchadnezzar of Babylon is making war against us. Perhaps the Lord will perform for us something like all his past wondrous works so that Nebuchadnezzar will withdraw from us.”
- New American Standard Bible - “Please inquire of the Lord in our behalf, because Nebuchadnezzar king of Babylon is making war against us; perhaps the Lord will deal with us in accordance with all His wonderful acts, so that the enemy will withdraw from us.”
- New King James Version - “Please inquire of the Lord for us, for Nebuchadnezzar king of Babylon makes war against us. Perhaps the Lord will deal with us according to all His wonderful works, that the king may go away from us.”
- Amplified Bible - “Please inquire of the Lord for us, because Nebuchadnezzar king of Babylon is making war against us. Perhaps the Lord will deal [favorably] with us according to all His wonderful works and force him to withdraw from us.”
- American Standard Version - Inquire, I pray thee, of Jehovah for us; for Nebuchadrezzar king of Babylon maketh war against us: peradventure Jehovah will deal with us according to all his wondrous works, that he may go up from us.
- King James Version - Enquire, I pray thee, of the Lord for us; for Nebuchadrezzar king of Babylon maketh war against us; if so be that the Lord will deal with us according to all his wondrous works, that he may go up from us.
- New English Translation - “Please ask the Lord to come and help us, because King Nebuchadnezzar of Babylon is attacking us. Maybe the Lord will perform one of his miracles as in times past and make him stop attacking us and leave.”
- World English Bible - “Please inquire of Yahweh for us; for Nebuchadnezzar king of Babylon makes war against us. Perhaps Yahweh will deal with us according to all his wondrous works, that he may withdraw from us.”
- 新標點和合本 - 「請你為我們求問耶和華;因為巴比倫王尼布甲尼撒來攻擊我們,或者耶和華照他一切奇妙的作為待我們,使巴比倫王離開我們上去。」
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 「請你為我們求問耶和華,因為巴比倫王尼布甲尼撒前來攻擊我們;或者耶和華照他一切奇妙的作為待我們,使巴比倫王離開我們而去。」
- 和合本2010(神版-繁體) - 「請你為我們求問耶和華,因為巴比倫王尼布甲尼撒前來攻擊我們;或者耶和華照他一切奇妙的作為待我們,使巴比倫王離開我們而去。」
- 當代譯本 - 「請你為我們求問耶和華,因為巴比倫王尼布甲尼撒來攻打我們,或許耶和華會像以往一樣為我們行神蹟,使敵人撤軍。」
- 聖經新譯本 - “請你替我們求問耶和華,因為巴比倫王尼布甲尼撒來攻擊我們;也許耶和華會為我們行奇事,使尼布甲尼撒離開我們回去。”
- 呂振中譯本 - 『請為我們求問永恆主,因為 巴比倫 王 尼布甲尼撒 來攻擊我們;或者永恆主照他一切奇妙的作為來待我們,使 巴比倫 王撤圍離開我們而上去、也不一定。』那時有話語出於永恆主,而傳與 耶利米 。
- 現代標點和合本 - 「請你為我們求問耶和華,因為巴比倫王尼布甲尼撒來攻擊我們,或者耶和華照他一切奇妙的作為待我們,使巴比倫王離開我們上去。」
- 文理和合譯本 - 巴比倫王尼布甲尼撒將與我戰、求爾為我詢於耶和華、或耶和華依其奇行待我、使彼離我而去、
- 文理委辦譯本 - 巴比倫王尼布甲尼撒攻我、爾為我禱耶和華、庶幾耶和華仍顯異跡、俾不攻予、時耶利米奉耶和華命、
- Nueva Versión Internacional - «Consulta ahora al Señor por nosotros, porque Nabucodonosor, rey de Babilonia, nos está atacando. Tal vez el Señor haga uno de sus milagros, y lo obligue a retirarse».
- 현대인의 성경 - “바빌로니아의 느부갓네살왕이 우리를 공격해 오는데 당신은 우리를 위해서 여호와께 물어 보시오. 어쩌면 여호와께서 옛날처럼 우리를 도와 기적을 베푸셔서 느부갓네살왕이 물러가도록 하실지도 모릅니다.”
- Новый Русский Перевод - «Попроси о нас Господа, потому что на нас напал Навуходоносор, царь Вавилона . Может, Господь сотворит для нас чудо, как в былые времена, и Навуходоносор отойдет от нас».
- Восточный перевод - «Попроси о нас Вечного, потому что на нас напал Навуходоносор , царь Вавилона. Может, Вечный сотворит для нас чудо, как в былые времена, и Навуходоносор отойдёт от нас».
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - «Попроси о нас Вечного, потому что на нас напал Навуходоносор , царь Вавилона. Может, Вечный сотворит для нас чудо, как в былые времена, и Навуходоносор отойдёт от нас».
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - «Попроси о нас Вечного, потому что на нас напал Навуходоносор , царь Вавилона. Может, Вечный сотворит для нас чудо, как в былые времена, и Навуходоносор отойдёт от нас».
- La Bible du Semeur 2015 - Veuille consulter l’Eternel pour nous, car Nabuchodonosor , roi de Babylone, nous attaque . Peut-être l’Eternel fera-t-il encore pour nous un de ses grands prodiges , pour le faire partir.
- Nova Versão Internacional - “Consulte agora o Senhor por nós porque Nabucodonosor, rei da Babilônia, está nos atacando. Talvez o Senhor faça por nós uma de suas maravilhas e, assim, ele se retire de nós”.
- Kinh Thánh Hiện Đại - “Xin ông cầu hỏi Chúa Hằng Hữu giúp chúng tôi và cầu xin Chúa cứu giúp chúng tôi. Vua Nê-bu-cát-nết-sa, nước Ba-by-lôn, đang tấn công vào Giu-đa. Biết đâu, Chúa Hằng Hữu sẽ khoan dung và ban những phép lạ quyền năng như Ngài từng làm trong quá khứ. Có thể Ngài sẽ khiến Nê-bu-cát-nết-sa rút quân về.”
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - “ช่วยพูดกับพระผู้เป็นเจ้าให้พวกเราด้วยเถิด เนื่องจากเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลนกำลังโจมตีพวกเรา พระผู้เป็นเจ้าอาจจะแสดงสิ่งมหัศจรรย์เพื่อพวกเรา และจะทำให้เขาถอยทัพกลับไป”
交叉引用
- 2พงศ์กษัตริย์ 3:11 - แต่เยโฮชาฟัทตรัสถามว่า “ที่นี่ไม่มีผู้เผยพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าเลยหรือ เราจะได้ขอให้ช่วยทูลถามองค์พระผู้เป็นเจ้า?” นายทหารคนหนึ่งของกษัตริย์อิสราเอลทูลว่า “เอลีชาบุตรชาฟัทอยู่ที่นี่ เขาเคยเป็นผู้ช่วยของเอลียาห์ ”
- 2พงศ์กษัตริย์ 3:12 - เยโฮชาฟัทตรัสว่า “เราจะรู้พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าจากเขาผู้นี้” ฉะนั้นกษัตริย์อิสราเอล กษัตริย์เยโฮชาฟัท และกษัตริย์เอโดมจึงไปพบเอลีชา
- 2พงศ์กษัตริย์ 3:13 - เอลีชากล่าวกับกษัตริย์อิสราเอลว่า “เรามีอะไรเกี่ยวข้องกันหรือ? ไปหาผู้เผยพระวจนะของบิดามารดาท่านสิ” แต่กษัตริย์อิสราเอลตรัสว่า “ไม่ได้ เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้านี่แหละทรงเรียกเราทั้งสามกษัตริย์มาเพื่อมอบไว้ในมือของโมอับ”
- 2พงศ์กษัตริย์ 3:14 - เอลีชาตอบว่า “พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ซึ่งเรารับใช้ทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่กษัตริย์เยโฮชาฟัทแห่งยูดาห์ เราจะไม่มองหน้าท่านฉันนั้น ไม่ใส่ใจด้วยซ้ำว่าท่านอยู่ที่นี่
- เยเรมีย์ 32:17 - “ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพระองค์ได้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกด้วยฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่และด้วยพระกรที่เหยียดออก ไม่มีสิ่งใดยากเกินไปสำหรับพระองค์
- เยเรมีย์ 38:14 - ต่อมากษัตริย์เศเดคียาห์ให้คนไปนำตัวผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์มาเข้าเฝ้าตรงประตูที่สามของพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า กษัตริย์ตรัสว่า “เราอยากถามอะไรเจ้า อย่าปิดบังสิ่งใดจากเราเลย”
- เยเรมีย์ 38:15 - เยเรมีย์ทูลว่า “หากข้าพระบาทตอบฝ่าพระบาท ฝ่าพระบาทจะไม่ฆ่าข้าพระบาทหรือ? ถึงแม้ข้าพระบาทให้คำปรึกษาหารือ ฝ่าพระบาทก็จะไม่ฟังข้าพระบาท”
- เยเรมีย์ 38:16 - แต่กษัตริย์เศเดคียาห์ก็สาบานเป็นการลับกับเยเรมีย์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ประทานลมหายใจแก่พวกเรานั้นทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด เราจะไม่ฆ่าเจ้าหรือมอบตัวเจ้าแก่ผู้หมายเอาชีวิตของเจ้าเลยฉันนั้น”
- เยเรมีย์ 38:17 - เยเรมีย์จึงทูลเศเดคียาห์ว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า ‘หากเจ้ายอมแพ้ทหารของกษัตริย์บาบิโลน ทั้งเจ้ากับครอบครัวจะรอดชีวิตและกรุงนี้จะไม่ถูกเผา
- เยเรมีย์ 38:18 - แต่หากเจ้าไม่ยอมแพ้ทหารของกษัตริย์บาบิโลน กรุงนี้จะถูกมอบแก่ชาวบาบิโลนและพวกเขาจะเผามันทิ้ง ตัวเจ้าเองก็จะไม่รอดจากเงื้อมมือของพวกเขา’”
- เยเรมีย์ 38:19 - เศเดคียาห์ตรัสกับเยเรมีย์ว่า “เรากลัวชาวยิวซึ่งเอาใจออกห่างและไปเข้ากับพวกบาบิโลน ชาวบาบิโลนอาจมอบเราไว้ในมือของคนเหล่านั้น และเขาจะปฏิบัติต่อเราอย่างทารุณ”
- เยเรมีย์ 38:20 - เยเรมีย์ตอบว่า “เขาจะไม่มอบฝ่าพระบาทหรอก จงเชื่อฟังองค์พระผู้เป็นเจ้าโดยทำตามที่ข้าพระบาททูล แล้วจะเป็นผลดีแก่ฝ่าพระบาทและฝ่าพระบาทจะรอดชีวิต
- เยเรมีย์ 38:21 - แต่หากฝ่าพระบาทไม่ยอมแพ้ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสำแดงแก่ข้าพระบาทไว้แล้วดังนี้
- เยเรมีย์ 38:22 - ผู้หญิงทุกคนที่อยู่ในวังของกษัตริย์ยูดาห์จะถูกนำตัวออกมาให้เจ้านายของกษัตริย์บาบิโลน ผู้หญิงเหล่านั้นจะกล่าวแก่ฝ่าพระบาทว่า “ ‘เหล่าสหายที่ฝ่าพระบาทไว้เนื้อเชื่อใจ ก็ลวงฝ่าพระบาทให้หลงและเอาชนะฝ่าพระบาท เมื่อพระบาทจมลงในโคลน เหล่าสหายก็ทิ้งฝ่าพระบาทไปหมด’
- เยเรมีย์ 38:23 - “ส่วนมเหสีและโอรสธิดาทั้งปวงของฝ่าพระบาทจะถูกนำออกมาให้ชาวบาบิโลน ฝ่าพระบาทเองจะหนีไม่พ้นเงื้อมมือของพวกเขา แต่จะถูกกษัตริย์บาบิโลนคุมตัวไว้และกรุงนี้จะถูกเผา ”
- เยเรมีย์ 38:24 - เศเดคียาห์จึงตรัสกับเยเรมีย์ว่า “อย่าแพร่งพรายสิ่งที่เราพูดกันนี้เป็นอันขาด มิฉะนั้นเจ้าอาจต้องตาย
- เยเรมีย์ 38:25 - ถ้าพวกข้าราชการได้ยินว่าเราได้พูดกับท่านและพวกเขามาหาและกล่าวกับท่านว่า ‘จงบอกเราว่าเจ้าพูดอะไรกับกษัตริย์และพระองค์ตรัสอะไรกับเจ้า อย่าปิดบังอะไรเราเลย มิฉะนั้นเราจะฆ่าเจ้า’
- เยเรมีย์ 38:26 - จงบอกแต่เพียงว่า ‘เราอ้อนวอนกษัตริย์ไม่ให้ส่งเรากลับไปตายที่บ้านของโยนาธาน’ ”
- เยเรมีย์ 38:27 - แล้วบรรดาข้าราชบริพารก็มาไต่ถามเยเรมีย์จริงๆ และเขาก็บอกคนเหล่านั้นตามที่กษัตริย์ตรัสสั่งไว้ทุกอย่าง คนเหล่านั้นจึงไม่ได้พูดอะไรกับเขาอีก เพราะไม่มีใครได้ยินถ้อยคำที่เขากับกษัตริย์สนทนากัน
- อิสยาห์ 59:1 - แน่ทีเดียว พระกรขององค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้สั้นเกินกว่าจะช่วยให้รอด ทั้งพระกรรณของพระองค์ก็ไม่ได้ตึงเกินกว่าจะได้ยิน
- อิสยาห์ 59:2 - แต่ความชั่วช้าของเจ้าต่างหาก ที่ได้แยกเจ้าออกจากพระเจ้าของเจ้า บาปของเจ้าทำให้พระองค์ทรงซ่อนพระพักตร์จากเจ้า พระองค์จึงไม่สดับฟัง
- อพยพ 14:1 - แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสสั่งโมเสสว่า
- อพยพ 14:2 - “จงบอกชนอิสราเอลให้วกไปตั้งค่ายใกล้ปีหะหิโรท ซึ่งอยู่ระหว่างมิกดลกับทะเลแดง ให้พวกเขาตั้งค่ายริมทะเลตรงข้ามบาอัลเซโฟน
- อพยพ 14:3 - ฟาโรห์จะคิดว่า ‘ชาวอิสราเอลนั้นเร่ร่อนไปทั่วดินแดนด้วยความสับสน ติดกับอยู่ในทะเลทราย’
- อพยพ 14:4 - เราจะทำให้ฟาโรห์ใจแข็งกระด้าง เขาจะไล่ตามพวกเจ้า เพื่อเราจะได้รับเกียรติโดยทางฟาโรห์กับกองทัพทั้งสิ้นของเขา และชาวอียิปต์ทั้งหลายจะได้รู้ว่าเราคือองค์พระผู้เป็นเจ้า” ดังนั้นชาวอิสราเอลจึงตั้งค่ายพักแรมตามคำสั่ง
- อพยพ 14:5 - เมื่อกษัตริย์อียิปต์ทรงทราบว่าชาวอิสราเอลหนีไปแล้ว ฟาโรห์กับเหล่าข้าราชการก็เปลี่ยนใจ แล้วฟาโรห์ตรัสว่า “เราทำอะไรลงไป? ทำไมเราปล่อยชาวอิสราเอลไปและสูญเสียแรงงานของพวกเขา!”
- อพยพ 14:6 - ดังนั้นฟาโรห์จึงเสด็จขึ้นรถม้าศึกและนำกองทัพไปด้วย
- อพยพ 14:7 - พระองค์ทรงนำรถม้าศึกที่ดีที่สุดหกร้อยคันและรถม้าศึกอื่นๆ ทั้งปวงของอียิปต์พร้อมทั้งนายทหารบัญชาการ
- อพยพ 14:8 - องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกระทำให้ฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์มีใจแข็งกระด้าง ฟาโรห์จึงไล่ตามชนอิสราเอลซึ่งยกขบวนออกมาอย่างกล้าหาญ
- อพยพ 14:9 - กองทัพอียิปต์ได้แก่ กองม้า รถม้าศึก และพลม้า และทหารของฟาโรห์ทั้งสิ้นออกติดตามชาวอิสราเอลมาทันพวกเขาซึ่งตั้งค่ายริมทะเล ใกล้ปีหะหิโรท ตรงข้ามกับบาอัลเซโฟน
- อพยพ 14:10 - เมื่อชนอิสราเอลมองเห็นกองทัพอียิปต์เข้ามาใกล้ก็ตกใจกลัวยิ่งนักและร้องทูลองค์พระผู้เป็นเจ้า
- อพยพ 14:11 - พวกเขากล่าวกับโมเสสว่า “ที่อียิปต์ไม่มีหลุมฝังศพพวกเราหรือ? ท่านจึงพาเรามาตายในถิ่นกันดารนี้ ทำไมหนอท่านจึงนำเราออกมาจากอียิปต์?
- อพยพ 14:12 - เราบอกท่านตั้งแต่อยู่ที่อียิปต์แล้วไม่ใช่หรือว่า ‘อย่ามายุ่งกับพวกเรา ปล่อยให้เรารับใช้ชาวอียิปต์’? ปล่อยให้เรารับใช้ชาวอียิปต์ก็ยังดีกว่าเอาชีวิตมาทิ้งในถิ่นกันดารนี้!”
- อพยพ 14:13 - โมเสสตอบประชากรว่า “อย่ากลัวเลย จงหนักแน่นเข้าไว้ ท่านจะได้เห็นการช่วยกู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงนำมาให้ท่านในวันนี้ ท่านจะไม่ได้เห็นชาวอียิปต์ที่ท่านเห็นอยู่ในเวลานี้อีกเลย
- อพยพ 14:14 - องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงสู้รบแทนพวกท่านเอง ท่านเพียงแต่นิ่งไว้เถิด”
- อพยพ 14:15 - แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสสั่งโมเสสว่า “เจ้ามัวร้องขอเราอยู่ทำไม? จงสั่งให้ชนอิสราเอลเคลื่อนไปข้างหน้าเถิด
- 2พงศาวดาร 14:9 - เศราห์ชาวคูชยกทัพใหญ่มหึมา และมีรถม้าศึกสามร้อยคัน รุกมาถึงเมืองมาเรชาห์
- 2พงศาวดาร 14:10 - อาสาออกมาประจันหน้า ตั้งแนวรบที่หุบเขาเศฟาธาห์ใกล้มาเรชาห์
- 2พงศาวดาร 14:11 - อาสาทูลพระยาห์เวห์พระเจ้าของพระองค์ว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่มีใครอื่นเสมอเหมือนพระองค์ที่จะช่วยผู้ไร้กำลังต่อกรกับผู้มีอำนาจ ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอทรงช่วยเพราะข้าพระองค์ทั้งหลายพึ่งในพระองค์ และข้าพระองค์ทั้งหลายมาต่อสู้กองทัพมหึมานี้ในพระนามของพระองค์ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของเหล่าข้าพระองค์ ขออย่าให้มนุษย์ชนะพระองค์เลย”
- 2พงศาวดาร 14:12 - องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปราบชาวคูชต่อหน้าอาสากับยูดาห์ ชาวคูชถอยหนีไป
- 2พงศาวดาร 14:13 - และอาสากับกองทัพรุกไล่พวกเขาไปไกลถึงเกราร์ ชาวคูชล้มตายมากมายจนไม่อาจฟื้นตัวได้อีก พวกเขาแหลกลาญไปต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้ากับกองกำลังของพระองค์ ชนยูดาห์นำของเชลยจำนวนมากกลับมา
- สดุดี 136:1 - จงขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะพระองค์ทรงแสนดี ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์
- สดุดี 136:2 - จงขอบพระคุณพระเจ้าผู้ทรงอยู่เหนือพระทั้งปวง ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์
- สดุดี 136:3 - จงขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้าจอมเจ้านาย ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์
- สดุดี 136:4 - จงขอบพระคุณพระองค์ผู้ทรงกระทำการอัศจรรย์อันยิ่งใหญ่แต่ผู้เดียว ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์
- สดุดี 136:5 - ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์โดยความเข้าใจ ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์
- สดุดี 136:6 - ผู้ทรงคลี่ผืนแผ่นดินเหนือห้วงน้ำ ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์
- สดุดี 136:7 - ผู้ทรงสร้างดวงสว่างมหึมา ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์
- สดุดี 136:8 - ทรงให้ดวงอาทิตย์ครองกลางวัน ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์
- สดุดี 136:9 - ทรงให้ดวงจันทร์และดวงดาวครองกลางคืน ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์
- สดุดี 136:10 - จงขอบพระคุณพระองค์ผู้ทรงประหารลูกหัวปีของอียิปต์ ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์
- สดุดี 136:11 - และทรงนำอิสราเอลออกมาจากท่ามกลางพวกเขา ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์
- สดุดี 136:12 - ด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์และพระกรที่เหยียดออก ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์
- สดุดี 136:13 - จงขอบพระคุณพระองค์ผู้ทรงแยกทะเลแดง ออกเป็นทาง ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์
- สดุดี 136:14 - และทรงนำอิสราเอลข้ามทะเลไป ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์
- สดุดี 136:15 - แต่ทรงให้ฟาโรห์กับกองทัพจมลงในทะเลแดง ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์
- สดุดี 136:16 - จงขอบพระคุณพระองค์ผู้ทรงนำประชากรของพระองค์ผ่านถิ่นกันดาร ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์
- สดุดี 136:17 - ผู้ทรงโค่นล้มกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์
- สดุดี 136:18 - ทรงประหารบรรดากษัตริย์ผู้เกรียงไกร ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์
- สดุดี 136:19 - คือกษัตริย์สิโหนของชาวอาโมไรต์ ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์
- สดุดี 136:20 - และกษัตริย์โอกแห่งบาชาน ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์
- สดุดี 136:21 - และประทานดินแดนของพวกเขาให้เป็นกรรมสิทธิ์ ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์
- สดุดี 136:22 - เป็นกรรมสิทธิ์ของอิสราเอลผู้รับใช้ของพระองค์ ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์
- สดุดี 136:23 - จงขอบพระคุณพระองค์ผู้ทรงระลึกถึงเราซึ่งอยู่ในฐานะอันต่ำต้อย ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์
- สดุดี 136:24 - และทรงช่วยเราให้พ้นจากบรรดาศัตรู ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์
- สดุดี 136:25 - พระองค์ผู้ประทานอาหารแก่ทุกชีวิต ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์
- สดุดี 136:26 - จงขอบพระคุณพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์
- 1ซามูเอล 17:45 - ดาวิดพูดว่า “ท่านถือดาบ ถือหอก และหอกซัดมาสู้กับเรา ส่วนเราจะสู้กับท่านในพระนามพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าของกองทัพอิสราเอลซึ่งท่านลบหลู่
- 1ซามูเอล 17:46 - วันนี้องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงมอบท่านแก่เรา เราจะฆ่าและตัดหัวท่าน วันนี้เราจะเอาซากศพของกองทัพฟีลิสเตียให้นกกาและสัตว์ป่ากิน แล้วทั้งโลกจะได้รู้ว่ามีพระเจ้าในอิสราเอล
- 1ซามูเอล 17:47 - คนทั้งปวงที่ชุมนุมกันอยู่ที่นี่จะได้รู้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงช่วยให้รอดด้วยดาบหรือหอก การศึกครั้งนี้เป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์จะทรงมอบเจ้าทุกคนไว้ในมือของพวกเรา”
- 1ซามูเอล 17:48 - ขณะที่โกลิอัทเข้ามาใกล้เพื่อต่อสู้ ดาวิดก็วิ่งเข้าไปประจันหน้า
- 1ซามูเอล 17:49 - เอามือล้วงลงไปในย่ามหยิบก้อนหินออกมาคล้องเข้ากับสลิง แล้วเหวี่ยงก้อนหินอัดเข้าที่หน้าผากของโกลิอัท ก้อนหินฝังจมเข้าไป โกลิอัทล้มคว่ำลงกับพื้น
- 1ซามูเอล 17:50 - เป็นอันว่าดาวิดพิชิตชาวฟีลิสเตียคนนั้นด้วยสลิงและก้อนหิน แม้ไม่มีดาบแต่ก็ล้มเขาได้และฆ่าเขาเสีย
- 1ซามูเอล 10:22 - คนเหล่านั้นจึงทูลถามองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “เขามาถึงที่นี่แล้วหรือยัง?” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “มาแล้ว เขาซ่อนตัวอยู่ในกองสัมภาระ”
- ผู้วินิจฉัย 4:1 - หลังจากเอฮูดสิ้นชีวิตแล้ว ชนอิสราเอลทำสิ่งที่ชั่วในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้าอีก
- ผู้วินิจฉัย 4:2 - องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงขายพวกเขาให้กษัตริย์ยาบินแห่งคานาอันผู้ปกครองในฮาโซร์ แม่ทัพของกษัตริย์ยาบินคือสิเสราซึ่งอาศัยอยู่ที่ฮาโรเชธฮาโกยิม
- ผู้วินิจฉัย 4:3 - อิสราเอลได้ร้องทูลขอให้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยพวกเขาเพราะว่ากษัตริย์ยาบินมีรถรบเหล็กเก้าร้อยคัน และได้กดขี่ข่มเหงอิสราเอลอย่างโหดร้ายอยู่ถึงยี่สิบปี
- ผู้วินิจฉัย 4:4 - ผู้นำ ของอิสราเอลในครั้งนั้นคือ ผู้เผยพระวจนะหญิงเดโบราห์ภรรยาของลัปปิโดท
- ผู้วินิจฉัย 4:5 - นางเปิดศาลตัดสินอยู่ใต้ต้นอินทผลัมแห่งเดโบราห์ ซึ่งอยู่ระหว่างรามาห์กับเบธเอลในแดนเทือกเขาแห่งเอฟราอิม ชาวอิสราเอลพากันมาให้นางตัดสินข้อพิพาท
- สดุดี 46:8 - มาเถิด มาดูพระราชกิจขององค์พระผู้เป็นเจ้า ดูความเริศร้างที่พระองค์ทรงนำมาสู่โลก
- สดุดี 46:9 - พระองค์ทรงกระทำให้สงครามยุติทั่วโลก ทรงหักคันธนู และทำให้หอกหักสะบั้น พระองค์ทรงเผาโล่
- สดุดี 46:10 - “จงนิ่งสงบและรู้ว่าเราเป็นพระเจ้า เราจะได้รับการยกย่องท่ามกลางประชาชาติ เราจะได้รับการยกย่องในโลก”
- สดุดี 46:11 - พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์สถิตกับเรา พระเจ้าของยาโคบทรงเป็นป้อมปราการของเรา เสลาห์
- 1ซามูเอล 14:6 - โยนาธานกล่าวกับมหาดเล็กหนุ่มผู้เชิญอาวุธของเขาว่า “มาเถิด ให้เราไปยังกองทหารรักษาการณ์ด้านนอกของพวกที่ไม่เข้าสุหนัตเหล่านั้น บางทีองค์พระผู้เป็นเจ้าอาจจะทรงกระทำการเพื่อเรา ไม่มีสิ่งใดขัดขวางไม่ให้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วย ไม่ว่าคนจะมากหรือน้อย”
- 1ซามูเอล 14:7 - ผู้เชิญอาวุธทูลว่า “ขอจงทำตามที่ท่านเห็นชอบเถิด ข้าพเจ้าสนับสนุนท่านเต็มที่”
- 1ซามูเอล 14:8 - โยนาธานกล่าวว่า “ถ้าเช่นนั้นมาเถิด เราจะข้ามไปหาพวกนั้นและให้เขาเห็นเรา
- 1ซามูเอล 14:9 - ถ้าเขาพูดว่า ‘หยุดอยู่ตรงนั้น เดี๋ยวเราจะไปหาพวกเจ้า’ เราก็จะหยุดอยู่ ไม่บุกเข้าไป
- 1ซามูเอล 14:10 - แต่ถ้าเขาพูดว่า ‘ขึ้นมาสิ’ เราก็จะปีนขึ้นไป เพราะนั่นจะเป็นหมายสำคัญแก่เราว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบพวกเขาไว้ในมือของเราแล้ว”
- 1ซามูเอล 14:11 - ดังนั้นทั้งสองจึงแสดงตัวให้กองรักษาการณ์ฟีลิสเตียเห็น ชาวฟีลิสเตียก็ตะโกนว่า “ดูแน่ะ! พวกฮีบรูคลานออกมาจากรูที่ซ่อนตัวแล้ว”
- 1ซามูเอล 14:12 - พวกเขาก็ตะโกนบอกโยนาธานและผู้ติดตามว่า “ขึ้นมาสิ จะสอนบทเรียนให้” โยนาธานร้องบอกผู้เชิญอาวุธว่า “ปีนตามหลังเรามาเลย องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบพวกเขาไว้ในมือของอิสราเอลแล้ว”
- 1ซามูเอล 14:13 - โยนาธานปีนขึ้นไป ผู้เชิญอาวุธปีนตามหลัง ชาวฟีลิสเตียล้มตายต่อหน้าโยนาธาน และผู้เชิญอาวุธของโยนาธานฆ่าฟันตามหลังมา
- 1ซามูเอล 14:14 - ในการบุกโจมตีครั้งแรกนี้ โยนาธานกับผู้เชิญอาวุธฆ่าคนตายไปยี่สิบคนในเนื้อที่ราวหนึ่งไร่
- เอเสเคียล 14:3 - “บุตรมนุษย์เอ๋ย คนเหล่านี้เทิดทูนรูปเคารพอยู่ในใจ และวางสิ่งชั่วร้ายซึ่งทำให้สะดุดไว้ตรงหน้าตน ควรหรือที่เราจะยอมให้เขามาสอบถามอะไรจากเรา?
- เอเสเคียล 14:4 - ดังนั้นจงพูดและจงบอกพวกเขาเถิดว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่าเมื่อชาวอิสราเอลคนใดเทิดทูนรูปเคารพต่างๆ ไว้ในใจ และวางสิ่งชั่วร้ายซึ่งทำให้สะดุดไว้ตรงหน้าแล้วยังมาหาผู้เผยพระวจนะ เราผู้เป็นพระยาห์เวห์จะตอบเขาเองเกี่ยวกับการกราบไหว้รูปเคารพต่างๆ มากมายของเขา
- เอเสเคียล 14:5 - เราจะทำเช่นนั้นเพื่อยึดจิตใจประชากรอิสราเอลที่ทอดทิ้งเราและหันไปหารูปเคารพนั้นกลับคืนมา’
- เอเสเคียล 14:6 - “ฉะนั้นจงกล่าวแก่พงศ์พันธุ์อิสราเอลว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า จงกลับใจใหม่! จงหันจากรูปเคารพต่างๆ และเลิกการกระทำทุกอย่างที่น่าเกลียดชัง!
- เอเสเคียล 14:7 - “ ‘เมื่อชาวอิสราเอลหรือชาวต่างชาติที่มาอาศัยอยู่ในอิสราเอลคนใดแยกตัวจากเรา และเทิดทูนรูปเคารพไว้ในใจ ทั้งวางสิ่งชั่วร้ายซึ่งทำให้สะดุดไว้ตรงหน้า แล้วไปหาผู้เผยพระวจนะเพื่อสอบถามอะไรจากเรา เราผู้เป็นพระยาห์เวห์จะตอบเขาเอง
- เยเรมีย์ 52:3 - เนื่องด้วยพระพิโรธขององค์พระผู้เป็นเจ้า เหตุการณ์ทั้งหมดนี้จึงเกิดขึ้นกับกรุงเยรูซาเล็มและยูดาห์ และในที่สุดพระองค์ทรงเหวี่ยงพวกเขาพ้นจากพระพักตร์ของพระองค์ ครั้งนั้นเศเดคียาห์ทรงกบฏต่อกษัตริย์บาบิโลน
- เยเรมีย์ 52:4 - ฉะนั้นกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนทรงกรีธาทัพหลวงมารบกับกรุงเยรูซาเล็มในวันที่สิบเดือนที่สิบของปีที่เก้าแห่งรัชกาลกษัตริย์เศเดคียาห์ พวกเขาตั้งค่ายอยู่นอกเมือง แล้วสร้างเชิงเทินล้อมเมืองไว้
- เยเรมีย์ 52:5 - กรุงเยรูซาเล็มถูกล้อมอยู่จนถึงปีที่สิบเอ็ดแห่งรัชกาลเศเดคียาห์
- เยเรมีย์ 52:6 - เมื่อถึงวันที่เก้าของเดือนที่สี่ กรุงนี้ก็กันดารอาหารอย่างหนักจนไม่มีอาหารรับประทานเลย
- 2พงศาวดาร 32:21 - และองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงส่งทูตองค์หนึ่งมาทำลายล้างนักรบ ผู้นำ และนายทหารทั้งปวงในค่ายของกษัตริย์อัสซีเรียจนหมดสิ้น เซนนาเคอริบจึงถอยทัพกลับดินแดนของพระองค์ไปด้วยความอัปยศอดสู และเมื่อพระองค์เสด็จเข้าไปในวิหารของเทพเจ้าของพระองค์ ก็ถูกโอรสบางองค์ปลงพระชนม์ด้วยดาบ
- 2พงศ์กษัตริย์ 22:13 - “จงไปทูลถามองค์พระผู้เป็นเจ้าให้เราและเหล่าประชากรทั่วทั้งยูดาห์เกี่ยวกับสิ่งที่บันทึกไว้ในหนังสือที่ได้พบนี้ พระพิโรธขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่เผาผลาญเรานั้นร้ายแรงนัก เพราะบรรพบุรุษของเราไม่ได้ปฏิบัติตามถ้อยคำในหนังสือนี้เลย ซึ่งมีบันทึกเกี่ยวโยงมาถึงเราทั้งหลาย”
- 2พงศ์กษัตริย์ 22:14 - ปุโรหิตฮิลคียาห์ อาหิคัมบุตรชาฟาน อัคโบร์บุตรมีคายาห์ ราชเลขาชาฟาน และมหาดเล็กอาสายาห์ จึงไปพบผู้เผยพระวจนะหญิงฮุลดาห์ซึ่งอาศัยอยู่ที่เยรูซาเล็มแขวงสอง นางเป็นภรรยาของชัลลูมบุตรทิกวาห์ผู้เป็นบุตรของฮารฮัสผู้ดูแลเครื่องทรง
- โยชูวา 10:1 - เมื่อกษัตริย์อาโดนีเซเดคแห่งเยรูซาเล็มได้ยินเรื่องราวที่โยชูวาเข้ายึดและทำลายล้างเมืองอัยให้หมดสิ้นและฆ่ากษัตริย์ของเมืองนั้น เช่นเดียวกับที่ได้ทำลายเมืองเยรีโคและกษัตริย์ของเมืองนั้น และเรื่องที่ชาวเมืองกิเบโอนได้ทำสัญญาไมตรีกับอิสราเอลและอาศัยอยู่ใกล้พวกเขาแล้ว
- โยชูวา 10:2 - เขากับประชาชนของเขาก็หวั่นวิตกยิ่งนัก เพราะกิเบโอนเป็นเมืองสำคัญเท่ากับนครหลวงทั้งหลาย และใหญ่กว่าเมืองอัย ชายทั้งปวงก็ล้วนแต่เป็นนักรบแกล้วกล้า
- โยชูวา 10:3 - ดังนั้นกษัตริย์อาโดนีเซเดคแห่งเยรูซาเล็ม จึงส่งคนไปพบกษัตริย์อื่นๆ คือ กษัตริย์โฮฮัมแห่งเฮโบรน กษัตริย์ปิรามแห่งยารมูท กษัตริย์ยาเฟียแห่งลาคีช และกษัตริย์เดบีร์แห่งเอกโลน และขอร้องว่า
- โยชูวา 10:4 - “โปรดมาช่วยเราโจมตีกิเบโอน เพราะพวกเขาได้ไปทำสัญญาไมตรีกับโยชูวาและชนอิสราเอล”
- โยชูวา 10:5 - กษัตริย์ทั้งห้าของชาวอาโมไรต์คือ กษัตริย์แห่งเยรูซาเล็ม เฮโบรน ยารมูท ลาคีช และเอกโลน จึงรวมกำลังกัน และเคลื่อนทัพออกมาบุกโจมตีกิเบโอน
- โยชูวา 10:6 - ชาวกิเบโอนจึงส่งข่าวมาถึงโยชูวาที่ค่ายพักในกิลกาลว่า “ขออย่าทอดทิ้งผู้รับใช้ของท่าน โปรดมาช่วยพวกเราโดยเร็ว โปรดช่วยพวกเราด้วย เพราะกษัตริย์ทั้งปวงของชาวอาโมไรต์จากแถบเทือกเขาได้รวมกำลังกันมาโจมตีเราแล้ว”
- โยชูวา 10:7 - โยชูวากับกองกำลังทั้งหมดรวมทั้งนักรบชั้นยอดทั้งปวงจึงยกทัพออกจากกิลกาลไปช่วยกิเบโอน
- โยชูวา 10:8 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโยชูวาว่า “อย่ากลัวพวกเขาเลย เรามอบคนเหล่านี้ไว้ในมือของเจ้าแล้ว จะไม่มีใครยืนหยัดต่อสู้เจ้าได้”
- โยชูวา 10:9 - โยชูวากับพวกเดินทางตลอดคืนจากกิลกาล เข้าจู่โจมกองทัพของศัตรู โดยที่ฝ่ายนั้นไม่ทันรู้ตัว
- โยชูวา 10:10 - องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกระทำให้พวกเขาแตกตื่นต่อหน้าอิสราเอล ซึ่งได้รับชัยชนะยิ่งใหญ่ที่กิเบโอน อิสราเอลตามฆ่าพวกเขาตลอดทางขึ้นไปเบธโฮโรนถึงอาเซคาห์และมักเคดาห์
- โยชูวา 10:11 - ขณะที่ศัตรูวิ่งหนีมาตามทางจากเบธโฮโรนไปยังอาเซคาห์ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำลายพวกเขาด้วยลูกเห็บขนาดใหญ่จากท้องฟ้า คนตายเพราะลูกเห็บมากยิ่งกว่าด้วยคมดาบของชาวอิสราเอล
- 2พงศ์กษัตริย์ 1:3 - แต่ทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับเอลียาห์ชาวทิชบีว่า “จงไปพบผู้สื่อสารของกษัตริย์สะมาเรียนั้นและถามพวกเขาว่า ‘ในอิสราเอลไม่มีพระเจ้าหรือ ทำไมพวกเจ้าจึงต้องไปปรึกษาบาอัลเซบูบเทพเจ้าแห่งเอโครน?’
- 1ซามูเอล 7:10 - ขณะที่ซามูเอลกำลังถวายเครื่องเผาบูชาอยู่นั้นเอง ชาวฟีลิสเตียก็มาถึงเพื่อเปิดฉากรบกับอิสราเอล แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงต่อสู้ชาวฟีลิสเตียโดยให้ฟ้าผ่าดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้พวกเขาตื่นตกใจและแตกทัพถอยร่นไปต่อหน้าชาวอิสราเอล
- 1ซามูเอล 7:11 - ชาวอิสราเอลเร่งรุดออกจากเมืองมิสปาห์ตามล่าสังหารชาวฟีลิสเตียไปตลอดทางจนถึงเบธคาร์
- 1ซามูเอล 7:12 - ซามูเอลจึงนำหินมาก้อนหนึ่ง ตั้งไว้ระหว่างมิสปาห์และเชนและขนานนามว่าเอเบนเอเซอร์ ตามที่เขากล่าวว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยเหลือเราถึงเพียงนี้”
- 2พงศาวดาร 20:1 - ต่อมาชาวโมอับ ชาวอัมโมน และชาวเมอูนีบางคน ยกทัพจะมารบกับเยโฮชาฟัท
- 2พงศาวดาร 20:2 - มีผู้มาทูลเยโฮชาฟัทว่า “กองทัพใหญ่กำลังเข้ามารบกับฝ่าพระบาท โดยเคลื่อนทัพมาจากเอโดม อีกฟากหนึ่งของทะเล และบัดนี้มาถึงฮาซาโซนทามาร์ (คือ เอนเกดี) แล้ว”
- 2พงศาวดาร 20:3 - เยโฮชาฟัททรงตื่นตระหนกและมุ่งแสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงประกาศให้ถืออดอาหารทั่วยูดาห์
- 2พงศาวดาร 20:4 - ชนยูดาห์มารวมกันเพื่อแสวงหาความช่วยเหลือจากองค์พระผู้เป็นเจ้า พวกเขามาจากทุกเมืองในยูดาห์เพื่อแสวงหาพระองค์
- 2พงศาวดาร 20:5 - เยโฮชาฟัททรงยืนขึ้นท่ามกลางชุมนุมประชากรของยูดาห์และของเยรูซาเล็มในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า ตรงหน้าลานใหม่
- 2พงศาวดาร 20:6 - และทรงอธิษฐานว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลาย พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ประทับในสวรรค์ไม่ใช่หรือ? พระองค์ทรงปกครองเหนือมวลอาณาจักรของชนชาติต่างๆ ฤทธิ์อำนาจและแสนยานุภาพอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ ไม่มีผู้ใดอาจต่อต้านพระองค์ได้
- 2พงศาวดาร 20:7 - ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย พระองค์ทรงขับไล่ชนชาติต่างๆ ในดินแดนนี้ออกไปต่อหน้าอิสราเอลประชากรของพระองค์ และประทานดินแดนนี้ให้แก่วงศ์วานอับราฮัมสหายของพระองค์ตลอดไปไม่ใช่หรือ?
- 2พงศาวดาร 20:8 - เราทั้งหลายได้อาศัยอยู่ที่นี่และได้สร้างสถานนมัสการเพื่อพระนามของพระองค์ และกล่าวว่า
- 2พงศาวดาร 20:9 - ‘หากมีภัยพิบัติตกมาถึง ไม่ว่าจะเป็นสงคราม ภัยพิบัติ หรือการกันดารอาหาร ข้าพระองค์ทั้งหลายจะมาเข้าเฝ้าพระองค์ที่หน้าพระวิหารแห่งพระนามของพระองค์ และจะร้องทูลพระองค์ในยามทุกข์ลำเค็ญ แล้วพระองค์จะทรงสดับฟังและช่วยเหลือข้าพระองค์ทั้งหลายให้พ้นภัย’
- 2พงศาวดาร 20:10 - “แต่บัดนี้มีคนมาจากอัมโมน โมอับ และภูเขาเสอีร์ ซึ่งเมื่อครั้งอิสราเอลออกจากอียิปต์ พระองค์ไม่ทรงอนุญาตให้อิสราเอลบุกรุกดินแดนของพวกเขา อิสราเอลจึงอ้อมมาและไม่ได้ทำลายล้างพวกเขา
- 2พงศาวดาร 20:11 - แต่บัดนี้ดูเถิด พวกเขากลับตอบแทนด้วยการขับไล่พวกข้าพระองค์ออกจากดินแดนซึ่งพระองค์ประทานให้เป็นกรรมสิทธิ์
- 2พงศาวดาร 20:12 - ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย พระองค์จะไม่ทรงลงโทษเขาหรือ? เพราะว่าข้าพระองค์ทั้งหลายไม่มีกำลังอำนาจจะรับมือกับกองทัพใหญ่ที่มาโจมตีนี้ ข้าพระองค์ทั้งหลายไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ได้แต่หวังพึ่งพระองค์”
- 2พงศาวดาร 20:13 - ผู้ชายยูดาห์ทั้งปวงกับภรรยาและลูกเล็กเด็กแดงมายืนอยู่ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า
- 2พงศาวดาร 20:14 - แล้วพระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จลงมาเหนือชายคนหนึ่งในกลุ่มชนนั้นคือ ยาฮาซีเอลบุตรเศคาริยาห์ ผู้เป็นบุตรของเบไนยาห์ ผู้เป็นบุตรของเยอีเอล ผู้เป็นบุตรของมัททานิยาห์เผ่าเลวี วงศ์วานของอาสาฟ
- 2พงศาวดาร 20:15 - ยาฮาซีเอลกล่าวว่า “ฟังเถิด ข้าแต่กษัตริย์เยโฮชาฟัทและทุกคนที่อาศัยอยู่ในยูดาห์และกรุงเยรูซาเล็ม! องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับท่านว่า ‘อย่ากลัวเลย ไม่ต้องท้อแท้เพราะกองทัพใหญ่นี้ เพราะการศึกครั้งนี้ไม่ใช่ของเจ้า แต่เป็นของพระเจ้า
- 2พงศาวดาร 20:16 - พรุ่งนี้จงออกไปรบกับเขา เขาจะปีนขึ้นมาทางช่องแคบศิส และเจ้าจะประจันหน้ากับเขาที่ท้ายหุบเขาในถิ่นกันดารเยรูเอล
- 2พงศาวดาร 20:17 - เจ้าจะไม่ต้องรบในสงครามครั้งนี้ จงเข้าประจำที่ ยืนนิ่งๆ ดูการช่วยกอบกู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะประทานแก่ท่าน ยูดาห์และเยรูซาเล็มเอ๋ย อย่ากลัวหรือท้อแท้ใจไปเลย พรุ่งนี้จงออกไปเผชิญหน้ากับพวกเขา และองค์พระผู้เป็นเจ้าจะสถิตกับเจ้า’ ”
- 2พงศาวดาร 20:18 - เยโฮชาฟัททรงซบหน้าลงกับพื้น และชาวยูดาห์กับชาวเยรูซาเล็มทั้งปวงก็หมอบกราบลงนมัสการต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า
- 2พงศาวดาร 20:19 - แล้วมีคนเลวีบางคนจากตระกูลโคฮาทและตระกูลโคราห์ยืนขึ้นเปล่งเสียงก้องกังวานสรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล
- 2พงศาวดาร 20:20 - เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เมื่อพวกเขาพร้อมที่จะเคลื่อนทัพไปยังถิ่นกันดารเทโคอา เยโฮชาฟัททรงยืนขึ้นและตรัสว่า “ฟังข้าพเจ้าเถิด พี่น้องประชาชนยูดาห์และเยรูซาเล็ม! จงเชื่อในพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านแล้วท่านจะได้รับการเชิดชู จงเชื่อบรรดาผู้เผยพระวจนะของพระองค์ แล้วท่านจะประสบความสำเร็จ”
- 2พงศาวดาร 20:21 - หลังจากที่ทรงหารือกับประชาชนแล้ว เยโฮชาฟัทก็ทรงแต่งตั้งผู้ร้องเพลงถวายองค์พระผู้เป็นเจ้าและสรรเสริญพระองค์ใน ความบริสุทธิ์สูงส่งของพระองค์ขณะเดินนำหน้ากองทัพไปว่า “จงขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์”
- 2พงศาวดาร 20:22 - เมื่อพวกเขาเริ่มร้องเพลงและสรรเสริญ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงวางกำลังซุ่มโจมตีชาวอัมโมน ชาวโมอับ และชาวภูเขาเสอีร์ที่มารุกรานยูดาห์ แล้วพวกเขาก็พ่ายแพ้
- 2พงศาวดาร 20:23 - ชาวอัมโมนกับชาวโมอับหันไปเล่นงานพันธมิตรจากภูเขาเสอีร์ ทำลายล้างพวกเขาหมดสิ้น เสร็จแล้วก็หันมาห้ำหั่นกันเอง
- 2พงศาวดาร 20:24 - เมื่อทัพยูดาห์มาถึงท้ายหุบเขาเหนือถิ่นกันดารและมองดูกองทัพใหญ่ ก็เห็นแต่ศพเกลื่อนกลาดอยู่ตามพื้น ไม่มีใครหนีรอดไปได้เลย
- 2พงศาวดาร 20:25 - เยโฮชาฟัทกับพวกจึงออกไปริบข้าวของ ได้เครื่องมือ เครื่องแต่งกาย และของมีค่าจำนวนมหาศาล จนต้องใช้เวลาถึงสามวันจึงขนมาหมด
- 2พงศาวดาร 20:26 - ในวันที่สี่พวกเขามาชุมนุมกันที่หุบเขาเบราคาห์และสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า หุบเขานี้จึงได้ชื่อว่าเบราคาห์ ตราบจนทุกวันนี้
- 2พงศาวดาร 20:27 - จากนั้นชนยูดาห์และเยรูซาเล็มทั้งหมดกลับมายังกรุงเยรูซาเล็มโดยมีเยโฮชาฟัทเป็นผู้นำ ทุกคนรื่นเริงยินดีเพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงโปรดให้เขาเปรมปรีดิ์เหนือศัตรู
- 2พงศาวดาร 20:28 - พวกเขาเข้าสู่เยรูซาเล็มและไปยังพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าโดยมีวงพิณใหญ่ พิณเขาคู่ และแตรบรรเลง
- 2พงศาวดาร 20:29 - เมื่ออาณาจักรของชนชาติทั้งปวงได้ยินถึงการที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสู้รบกับศัตรูของอิสราเอล พวกเขาก็เกรงกลัวพระเจ้า
- 2พงศาวดาร 20:30 - และอาณาจักรของเยโฮชาฟัทจึงสงบสุข เพราะพระเจ้าของพระองค์ประทานการพักสงบทุกด้าน ( 1พกษ.22:41-50 )
- สดุดี 48:4 - เมื่อบรรดากษัตริย์รวมกำลังกัน เมื่อพวกเขารุดหน้าไปด้วยกัน
- สดุดี 48:5 - พวกเขาอัศจรรย์ใจเมื่อเห็นนครนั้น พวกเขาพากันหนีไปด้วยความกลัว
- สดุดี 48:6 - พวกเขาหวาดหวั่นขวัญผวา เจ็บปวดดั่งผู้หญิงที่กำลังคลอดบุตร
- สดุดี 48:7 - พระองค์ทรงทำลายพวกเขาให้เป็นเหมือนเรือแห่งทารชิช ซึ่งแตกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยลมตะวันออก
- สดุดี 48:8 - เราได้ยินมาอย่างไร เราก็ได้เห็นอย่างนั้นว่า ในนครของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ ในนครของพระเจ้าของเรา พระเจ้าทรงทำให้นครนั้นมั่นคง นิรันดร์ เสลาห์
- เยเรมีย์ 39:1 - ในเดือนที่สิบปีที่เก้าของรัชกาลกษัตริย์เศเดคียาห์แห่งยูดาห์ กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนยกทัพหลวงมาสู้รบและล้อมกรุงเยรูซาเล็มไว้
- เยเรมีย์ 39:2 - กำแพงเมืองถูกพังลงในวันที่เก้า เดือนที่สี่ ปีที่สิบเอ็ดของรัชกาลเศเดคียาห์
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:3 - กษัตริย์อิสราเอลตรัสกับข้าราชบริพารว่า “พวกเจ้าก็รู้ไม่ใช่หรือว่าราโมทกิเลอาดเป็นของเรา แต่เราก็ไม่ทำอะไรเพื่อชิงคืนจากกษัตริย์อารัมเลย?”
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:4 - อาหับจึงตรัสถามเยโฮชาฟัทว่า “ท่านจะช่วยข้าพเจ้ารบกับราโมทกิเลอาดไหม?” เยโฮชาฟัทตรัสตอบกษัตริย์อิสราเอลว่า “เราสองคนเป็นพวกเดียวกัน คนของข้าพเจ้าก็เหมือนเป็นคนของท่าน ม้าของข้าพเจ้าก็เหมือนเป็นม้าของท่าน”
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:5 - แต่เยโฮชาฟัทตรัสกับกษัตริย์อิสราเอลอีกว่า “เราควรทูลถามองค์พระผู้เป็นเจ้าก่อน”
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:6 - กษัตริย์อิสราเอลจึงทรงเรียกผู้เผยพระวจนะราวสี่ร้อยคนมาเข้าเฝ้า และตรัสถามว่า “เราควรจะไปรบกับราโมทกิเลอาด หรือเราควรจะยับยั้งไว้?” เขาเหล่านั้นทูลว่า “ไปเลยพระเจ้าข้า เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงมอบดินแดนนั้นไว้ในพระหัตถ์ของฝ่าพระบาท”
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:7 - แต่เยโฮชาฟัทตรัสถามว่า “ที่นี่ไม่มีผู้เผยพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้ถามเลยหรือ?”
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:8 - กษัตริย์อิสราเอลตรัสตอบเยโฮชาฟัทว่า “ยังมีอยู่คนหนึ่งซึ่งเราจะทูลถามองค์พระผู้เป็นเจ้าผ่านทางเขาได้ แต่ข้าพเจ้าเกลียดเขา เพราะเขาไม่เคยพยากรณ์เรื่องดีๆ เกี่ยวกับข้าพเจ้าเลย มีแต่เรื่องร้ายๆ เขาคือมีคายาห์บุตรอิมลาห์” เยโฮชาฟัทตรัสว่า “พระองค์อย่าตรัสเช่นนั้นเลย”
- เยเรมีย์ 32:24 - “ดูเถิด เชิงเทินถูกสร้างขึ้นเพื่อเข้ายึดเมือง เนื่องจากสงคราม การกันดารอาหาร และโรคระบาด กรุงนี้จะตกเป็นของชาวบาบิโลนซึ่งกำลังโจมตีเมือง เป็นไปตามที่พระองค์ตรัสไว้ ดังที่ทรงทอดพระเนตรเห็นอยู่ขณะนี้
- สดุดี 105:5 - จงระลึกถึงปาฏิหาริย์ที่พระองค์ทรงกระทำ ถึงการอัศจรรย์และคำพิพากษาที่พระองค์ทรงประกาศ
- สดุดี 105:6 - วงศ์วานอับราฮัมผู้รับใช้ของพระองค์เอ๋ย ลูกหลานของยาโคบที่ทรงเลือกสรรเอ๋ย
- สดุดี 105:7 - พระองค์ทรงเป็นพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา คำพิพากษาของพระองค์อยู่ทั่วพื้นแผ่นดินโลก
- สดุดี 105:8 - พระองค์ทรงระลึกถึงพันธสัญญาของพระองค์ตลอดกาล ทรงระลึกถึงพระดำรัสที่ทรงบัญชาไว้ตลอดพันชั่วอายุคน
- สดุดี 105:9 - พันธสัญญาที่พระองค์ทรงทำกับอับราฮัม คำปฏิญาณที่พระองค์ทรงสัญญากับอิสอัค
- สดุดี 105:10 - พระองค์ทรงยืนยันต่อยาโคบเป็นกฎเกณฑ์ ต่ออิสราเอลเป็นพันธสัญญานิรันดร์
- สดุดี 105:11 - “เราจะยกดินแดนคานาอันให้เจ้า ให้เป็นมรดกของเจ้าทั้งหลาย”
- สดุดี 105:12 - เมื่ออิสราเอลยังมีจำนวนน้อยนัก น้อยเหลือเกิน และเป็นเพียงคนแปลกหน้าในดินแดนนั้น
- สดุดี 105:13 - พวกเขาระเหเร่ร่อนจากชนชาติหนึ่งไปอีกชนชาติหนึ่ง จากอาณาจักรหนึ่งไปอีกอาณาจักรหนึ่ง
- สดุดี 105:14 - พระองค์ไม่ทรงยอมให้ผู้ใดข่มเหงรังแกเขา เพราะเห็นแก่เขา พระองค์ทรงกำราบกษัตริย์ทั้งหลาย
- สดุดี 105:15 - “อย่าแตะต้องบรรดาผู้ที่เราเจิมตั้งไว้ อย่าทำอันตรายใดๆ แก่เหล่าผู้เผยพระวจนะของเรา”
- สดุดี 105:16 - พระองค์ทรงบัญชาให้เกิดการกันดารอาหารในดินแดนนั้น และทำลายเสบียงอาหารทั้งสิ้นของเขา
- สดุดี 105:17 - และพระองค์ทรงส่งชายคนหนึ่งไปล่วงหน้าพวกเขา โยเซฟถูกขายไปเป็นทาส
- สดุดี 105:18 - เท้าของเขาฟกช้ำเพราะถูกตีตรวน คอของเขาถูกค้ำอยู่ในคาเหล็ก
- สดุดี 105:19 - ตราบจนสิ่งที่เขาบอกไว้เป็นจริงขึ้นมา ตราบจนพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าพิสูจน์ว่าเขาพูดจริง
- สดุดี 105:20 - ฟาโรห์ได้ส่งคนมาปล่อยตัวเขา ประมุขของประชาชนปล่อยเขาเป็นอิสระ
- สดุดี 105:21 - ฟาโรห์ได้ตั้งเขาให้เป็นนายเหนือราชสำนัก เป็นผู้ดูแลทุกสิ่งที่พระองค์ทรงครอบครอง
- สดุดี 105:22 - เพื่อชี้แนะเจ้านายทั้งหลายตามใจชอบ และสั่งสอนปัญญาให้กับที่ปรึกษาของกษัตริย์
- สดุดี 105:23 - แล้วอิสราเอลเข้ามาอยู่ในอียิปต์ ยาโคบมาเป็นคนต่างด้าวในดินแดนของฮาม
- สดุดี 105:24 - พระองค์ทรงทำให้ประชากรของพระองค์มีลูกหลานมากมาย พระองค์ทรงทำให้พวกเขามีจำนวนมากเกินไปสำหรับศัตรู
- สดุดี 105:25 - ผู้ซึ่งพระเจ้าทรงเปลี่ยนจิตใจของพวกเขาให้เกลียดประชากรของพระองค์ ให้คบคิดกันต่อสู้กับผู้รับใช้ของพระองค์
- สดุดี 105:26 - พระองค์ทรงส่งโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์มา พร้อมกับอาโรนผู้ซึ่งพระองค์ทรงเลือกสรร
- สดุดี 105:27 - ทั้งสองแสดงหมายสำคัญของพระองค์ท่ามกลางพวกเขา แสดงปาฏิหาริย์ของพระองค์ในดินแดนของฮาม
- สดุดี 105:28 - พระองค์ทรงส่งความมืดมากระทำให้มืดมิดทั่วแดน ไม่ใช่เพราะพวกเขาดึงดันขัดขืนพระดำรัสของพระองค์หรือ?
- สดุดี 105:29 - พระองค์ทรงเปลี่ยนน้ำของพวกเขาให้กลายเป็นเลือด ทำให้ปลาตายหมด
- สดุดี 105:30 - ดินแดนของพวกเขาเต็มไปด้วยกบ ซึ่งเข้าไปถึงห้องนอนของบรรดาเจ้านาย
- สดุดี 105:31 - พระองค์ตรัส ฝูงเหลือบและริ้น ก็มาทั่วดินแดนของพวกเขา
- สดุดี 105:32 - พระองค์ทรงเปลี่ยนฝนให้กลายเป็นลูกเห็บ และฟ้าคำรนทั่วดินแดนนั้น
- สดุดี 105:33 - พระองค์ทรงล้มเถาองุ่นและต้นมะเดื่อของพวกเขาลงราบคาบ และโค่นต้นไม้ในดินแดนของพวกเขาระเนระนาด
- สดุดี 105:34 - พระองค์ตรัส ฝูงตั๊กแตนก็มา มืดฟ้ามัวดิน
- สดุดี 105:35 - มันกัดกินทุกอย่างที่เขียวชอุ่มในแผ่นดิน กัดกินผลิตผลทั้งหมดจากพื้นดิน
- สดุดี 105:36 - จากนั้นพระองค์ทรงประหารลูกหัวปีในดินแดนของเขา ซึ่งเป็นผลแรกจากวัยหนุ่มของเขา
- สดุดี 105:37 - พระองค์ทรงนำอิสราเอลออกมาพร้อมกับเงินและทอง ไม่มีใครสักคนในตระกูลต่างๆ ที่อิดออดลังเล
- สดุดี 105:38 - อียิปต์เปรมปรีดิ์เมื่อพวกเขาออกไป เพราะคร้ามกลัวอิสราเอลยิ่งนัก
- สดุดี 105:39 - พระองค์ทรงแผ่เมฆเป็นร่มกำบังให้ และประทานไฟให้แสงสว่างในยามค่ำคืน
- สดุดี 105:40 - พวกเขาร้องขอเนื้อ พระองค์ก็ทรงส่งนกคุ่มมา พระองค์ทรงเลี้ยงพวกเขาให้อิ่มเอมด้วยอาหารจากสวรรค์
- สดุดี 105:41 - พระองค์ทรงเปิดศิลา น้ำก็พุ่งออกมา มันไหลดั่งแม่น้ำในถิ่นกันดาร
- สดุดี 105:42 - เพราะพระองค์ทรงระลึกถึงพระสัญญาอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ประทานแก่อับราฮัมผู้รับใช้ของพระองค์
- สดุดี 105:43 - พระองค์จึงทรงนำประชากรของพระองค์ออกมาด้วยความชื่นบาน นำผู้ที่พระองค์ทรงเลือกสรรออกมาด้วยเสียงโห่ร้องยินดี
- สดุดี 105:44 - พระองค์ประทานดินแดนของชนชาติต่างๆ แก่เขา พวกเขาได้ครอบครองกรรมสิทธิ์ในสิ่งที่คนอื่นลงแรงไว้
- สดุดี 105:45 - ทั้งนี้เพื่อพวกเขาจะได้รักษาข้อบังคับ และทำตามบทบัญญัติของพระองค์ จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด
- 2พงศ์กษัตริย์ 25:1 - ฉะนั้นกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนทรงกรีธาทัพหลวงมารบกับกรุงเยรูซาเล็มในวันที่สิบเดือนที่สิบของปีที่เก้าแห่งรัชกาลกษัตริย์เศเดคียาห์ พระองค์ทรงตั้งค่ายอยู่นอกเมืองแล้วสร้างเชิงเทินล้อมเมืองไว้
- 2พงศ์กษัตริย์ 25:2 - กรุงเยรูซาเล็มถูกล้อมอยู่จนถึงปีที่สิบเอ็ดแห่งรัชกาลเศเดคียาห์
- ผู้วินิจฉัย 20:27 - และชาวอิสราเอลทูลถามองค์พระผู้เป็นเจ้า (ในสมัยนั้นหีบพันธสัญญาของพระเจ้าอยู่ที่เบธเอล
- สดุดี 44:1 - ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ยินมากับหู บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายได้เล่าให้ฟัง ถึงสิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำในสมัยของพวกเขา เมื่อนานมาแล้ว
- สดุดี 44:2 - ด้วยพระหัตถ์ของพระองค์ พระองค์ทรงขับไล่ชนชาติต่างๆ ออกไป และทรงฝังรากบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลาย พระองค์ทรงบดขยี้ชนเผ่าต่างๆ และทรงทำให้เหล่าบรรพบุรุษของข้าพระองค์เจริญรุ่งเรือง
- สดุดี 44:3 - ไม่ใช่ด้วยดาบที่ทำให้พวกเขาพิชิตดินแดนได้ ไม่ใช่ด้วยแขนของพวกเขาที่นำชัยชนะมา แต่ด้วยพระหัตถ์ขวาของพระองค์ ด้วยพระกรของพระองค์ และด้วยความสว่างแห่งพระพักตร์ของพระองค์ เพราะพระองค์ทรงรักพวกเขา
- สดุดี 44:4 - พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ของข้าพระองค์และเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ ผู้ทรงกำหนด ชัยชนะแก่ยาโคบ
- เยเรมีย์ 42:4 - ผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์ตอบว่า “ข้าพเจ้าได้ยินแล้ว ข้าพเจ้าจะอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านตามที่ท่านขอร้องอย่างแน่นอน ข้าพเจ้าจะบอกท่านทุกอย่างตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส จะไม่ปิดบังสิ่งใดจากพวกท่านเลย”
- เยเรมีย์ 42:5 - แล้วพวกเขากล่าวกับเยเรมีย์ว่า “ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพยานที่ซื่อตรงเที่ยงแท้ลงโทษเราเถิด หากเราไม่ยอมประพฤติตามทุกสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงใช้ท่านมาบอกเรา
- เยเรมีย์ 42:6 - ไม่ว่าจะดีหรือร้าย เราก็จะเชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราผู้ซึ่งเราขอให้ท่านไปเข้าเฝ้าเพื่อจะเป็นประโยชน์สุขแก่เราเพราะเราจะเชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา”
- 1ซามูเอล 28:6 - และทูลถามองค์พระผู้เป็นเจ้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ทรงตอบเลย ไม่ว่าทางความฝัน ทางอูริม หรือทางผู้เผยพระวจนะ
- 1พงศ์กษัตริย์ 14:2 - เยโรโบอัมจึงตรัสกับมเหสีว่า “จงปลอมตัว อย่าให้ใครจำได้ว่าเป็นมเหสีของเยโรโบอัม ไปพบผู้เผยพระวจนะอาหิยาห์ที่ชิโลห์ ผู้ที่บอกว่าเราจะได้เป็นกษัตริย์ของชนชาตินี้
- 1พงศ์กษัตริย์ 14:3 - เอาขนมปังสิบก้อน ขนมหวานกับน้ำผึ้งหนึ่งไหไปกำนัลเขาด้วย เขาจะบอกเจ้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับลูกชายของเรา”
- 1ซามูเอล 28:15 - ซามูเอลถามว่า “ทำไมท่านจึงมารบกวนและเรียกเรากลับมาอีก?” ซาอูลตรัสตอบว่า “ข้าพเจ้ากำลังเดือดร้อนมาก ชาวฟีลิสเตียรบกับข้าพเจ้าอยู่ และพระเจ้าทรงละทิ้งข้าพเจ้า พระองค์ไม่ทรงตอบเลย ไม่ว่าทางผู้เผยพระวจนะหรือความฝัน ข้าพเจ้าจึงเรียกท่านมาเพื่อถามว่าควรทำอย่างไร”
- เอเสเคียล 20:1 - ในวันที่สิบเดือนที่ห้าของปีที่เจ็ดผู้อาวุโสของอิสราเอลบางคนมาร้องขอต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าและมานั่งอยู่ตรงหน้าข้าพเจ้า
- เอเสเคียล 20:2 - แล้วพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า
- เอเสเคียล 20:3 - “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงกล่าวแก่บรรดาผู้อาวุโสของอิสราเอลว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เจ้ามาถามเราหรือ? เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด เราจะไม่ยอมให้เจ้ามาถามอะไรเราฉันนั้น พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น’
- เยเรมีย์ 37:7 - “พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า จงไปบอกกษัตริย์ยูดาห์ผู้ซึ่งใช้พวกเจ้ามาถามเรานั้นว่า ‘กองทัพของฟาโรห์ซึ่งยกมาเพื่อสนับสนุนเจ้าจะกลับไปยังอียิปต์ดินแดนของตน
- เยเรมีย์ 37:3 - แต่กษัตริย์เศเดคียาห์ทรงใช้ให้เยฮูคัลบุตรเชเลมิยาห์และปุโรหิตเศฟันยาห์บุตรมาอาเสอาห์มาขอร้องผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์ว่า “โปรดอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราเผื่อพวกเราด้วย”