逐节对照
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - จงจำเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา เพราะเราเป็นพระเจ้า และไม่มีผู้อื่นอีก เราเป็นพระเจ้า และไม่มีผู้ใดที่เป็นเหมือนเรา
- 新标点和合本 - 你们要追念上古的事。 因为我是 神,并无别神; 我是 神,再没有能比我的。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 要追念上古的事, 因为我是上帝,并无别的; 我是上帝,没有能与我相比的。
- 和合本2010(神版-简体) - 要追念上古的事, 因为我是 神,并无别的; 我是 神,没有能与我相比的。
- 当代译本 - 你们要记住古时发生的事, 因为我是独一无二的上帝, 我是上帝,没有谁能与我相比。
- 圣经新译本 - 你们当记念上古以前的事, 因为我是 神,再没有别的神; 我是 神,没有神像我。
- 中文标准译本 - 你们当记念亘古以来的往事, 因为我是神,别无其二; 我是神,没有谁像我。
- 现代标点和合本 - 你们要追念上古的事, 因为我是神,并无别神。 我是神,再没有能比我的。
- 和合本(拼音版) - 你们要追念上古的事, 因为我是上帝,并无别神; 我是上帝,再没有能比我的。
- New International Version - Remember the former things, those of long ago; I am God, and there is no other; I am God, and there is none like me.
- New International Reader's Version - “Remember what happened in the past. Think about what took place long ago. I am God. There is no other God. I am God. There is no one like me.
- English Standard Version - remember the former things of old; for I am God, and there is no other; I am God, and there is none like me,
- New Living Translation - Remember the things I have done in the past. For I alone am God! I am God, and there is none like me.
- Christian Standard Bible - Remember what happened long ago, for I am God, and there is no other; I am God, and no one is like me.
- New American Standard Bible - Remember the former things long past, For I am God, and there is no other; I am God, and there is no one like Me,
- New King James Version - Remember the former things of old, For I am God, and there is no other; I am God, and there is none like Me,
- Amplified Bible - Remember [carefully] the former things [which I did] from ages past; For I am God, and there is no one else; I am God, and there is no one like Me,
- American Standard Version - Remember the former things of old: for I am God, and there is none else; I am God, and there is none like me;
- King James Version - Remember the former things of old: for I am God, and there is none else; I am God, and there is none like me,
- New English Translation - Remember what I accomplished in antiquity! Truly I am God, I have no peer; I am God, and there is none like me,
- World English Bible - Remember the former things of old: for I am God, and there is no other. I am God, and there is none like me.
- 新標點和合本 - 你們要追念上古的事。 因為我是神,並無別神; 我是神,再沒有能比我的。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 要追念上古的事, 因為我是上帝,並無別的; 我是上帝,沒有能與我相比的。
- 和合本2010(神版-繁體) - 要追念上古的事, 因為我是 神,並無別的; 我是 神,沒有能與我相比的。
- 當代譯本 - 你們要記住古時發生的事, 因為我是獨一無二的上帝, 我是上帝,沒有誰能與我相比。
- 聖經新譯本 - 你們當記念上古以前的事, 因為我是 神,再沒有別的神; 我是 神,沒有神像我。
- 呂振中譯本 - 你們要追念古時以來的往事; 因為只有我是上帝,再沒有 別的神 ; 我是 上帝,沒有誰像我一樣:
- 中文標準譯本 - 你們當記念亙古以來的往事, 因為我是神,別無其二; 我是神,沒有誰像我。
- 現代標點和合本 - 你們要追念上古的事, 因為我是神,並無別神。 我是神,再沒有能比我的。
- 文理和合譯本 - 古昔之事、爾其追溯、我乃上帝、我外無他、我乃上帝、無能比擬、
- 文理委辦譯本 - 古昔之事、爾可追溯、我乃上帝、無能比儗、我外無他、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 當追念古昔之事、我乃天主、我之外無他、我乃天主、無可比擬、
- Nueva Versión Internacional - Recuerden las cosas pasadas, aquellas de antaño; yo soy Dios, y no hay ningún otro, yo soy Dios, y no hay nadie igual a mí.
- 현대인의 성경 - 너희는 오래 전에 있었던 옛일을 기억하라. 나는 하나님이다. 나 외에는 다른 신이 없고 나와 같은 자도 없다.
- Новый Русский Перевод - Вспомните прежние дела, бывшие издревле; Я – Бог, и другого нет, Я – Бог, и нет Мне равного.
- Восточный перевод - Вспомните прежние дела, бывшие издревле; Я – Бог, и другого нет, Я – Бог, и нет Мне равного.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Вспомните прежние дела, бывшие издревле; Я – Бог, и другого нет, Я – Бог, и нет Мне равного.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Вспомните прежние дела, бывшие издревле; Я – Бог, и другого нет, Я – Бог, и нет Мне равного.
- La Bible du Semeur 2015 - Rappelez-vous ╵les événements du passé, ╵survenus il y a bien longtemps, car c’est moi qui suis Dieu, il n’y en a pas d’autre. Oui, moi seul, je suis Dieu, et il n’existe rien ╵qui me soit comparable.
- リビングバイブル - わたしがはっきり何度も、 将来何が起こるか告げてきたことを 忘れてはならない。 わたしだけが神であり、 わたしのような者はいない。
- Nova Versão Internacional - Lembrem-se das coisas passadas, das coisas muito antigas! Eu sou Deus, e não há nenhum outro; eu sou Deus, e não há nenhum como eu.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Hãy nhớ lại những điều Ta đã làm trong quá khứ. Vì Ta là Đức Chúa Trời! Ta là Đức Chúa Trời, và không ai giống như Ta.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - จงจดจำสิ่งต่างๆ แต่เดิมเมื่อนานมาแล้ว เราเป็นพระเจ้า ไม่มีพระอื่นใด เราเป็นพระเจ้า ไม่มีผู้ใดเสมอเหมือน
交叉引用
- อิสยาห์ 45:14 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ว่า “ความมั่งคั่งของอียิปต์ สินค้าของคูช และชาวเส-บาผู้มีร่างสูงใหญ่ จะมาหาเจ้า และจะอยู่ในอาณัติของเจ้า พวกเขาจะตามเจ้าไป และจะถูกล่ามโซ่มา และก้มกราบเจ้า พวกเขาจะขอร้องเจ้าว่า ‘พระเจ้าสถิตกับท่านอย่างแน่นอน และไม่มีผู้อื่นอีก ไม่มีพระเจ้าใดนอกจากพระองค์’”
- อิสยาห์ 45:5 - เราคือพระผู้เป็นเจ้า และไม่มีผู้อื่นอีก นอกจากเราแล้ว ไม่มีพระเจ้า เราเตรียมเจ้าให้พร้อม แม้ว่าเจ้าจะไม่เคยรู้จักเราก็ตาม
- อิสยาห์ 45:6 - เพื่อว่า นับจากทิศที่ดวงอาทิตย์ขึ้น จรดทิศที่ดวงอาทิตย์ตก พวกเขาจะได้รู้ว่า ไม่มีผู้ใดอีกนอกจากเราเท่านั้น เราคือพระผู้เป็นเจ้า และไม่มีผู้อื่นอีก
- เนหะมีย์ 9:7 - พระองค์คือพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าผู้เลือกอับราม และนำท่านออกไปจากเมืองเออร์ของชาวเคลเดีย และตั้งชื่อท่านว่า อับราฮัม
- เนหะมีย์ 9:8 - พระองค์พบว่าท่านมีใจภักดี ณ เบื้องหน้าพระองค์ และทำพันธสัญญากับท่าน เพื่อมอบดินแดนของชาวคานาอัน ชาวฮิต ชาวอาโมร์ ชาวเปริส ชาวเยบุส และชาวเกอร์กาช ให้แก่ผู้สืบเชื้อสายของท่าน และพระองค์ได้รักษาคำสัญญา เพราะพระองค์มีความชอบธรรม
- เนหะมีย์ 9:9 - และพระองค์เห็นความทุกข์ทรมานของบรรพบุรุษของเราในอียิปต์ และได้ยินเสียงร้องของพวกเขาที่ทะเลแดง
- เนหะมีย์ 9:10 - และแสดงปรากฏการณ์และสิ่งมหัศจรรย์ต่อต้านฟาโรห์และบรรดาผู้รับใช้ และประชาชนทั้งปวงในแผ่นดินของเขา เพราะพระองค์ทราบว่า พวกเขาประพฤติด้วยความยโสต่อบรรพบุรุษของเรา และพระองค์ทำให้พระนามของพระองค์เป็นที่เลื่องลือ อย่างที่เป็นมาจนถึงทุกวันนี้
- เนหะมีย์ 9:11 - และพระองค์ทำให้ทะเลแยกออกจากกันต่อหน้าพวกเขา เพื่อให้พวกเขาผ่านน้ำทะเลไปได้บนพื้นดินแห้ง และพระองค์เหวี่ยงพวกที่ตามล่าให้จมลงในน้ำลึก ดั่งก้อนหินที่จมดิ่งลงในกระแสน้ำอันแรงกล้า
- เนหะมีย์ 9:12 - พระองค์นำพวกเขาในตอนกลางวันในรูปลักษณ์ของเมฆก้อนมหึมาดั่งเสาหลัก และในตอนกลางคืนในรูปลักษณ์ของเพลิงไฟขนาดมหึมาดั่งเสาหลัก เพื่อส่องสว่างนำพวกเขาให้เดินตามทางที่ควรจะไป
- เนหะมีย์ 9:13 - พระองค์ลงมาบนภูเขาซีนาย และกล่าวแก่พวกเขาจากท้องฟ้า และให้การตัดสินที่ถูกต้อง กฎบัญญัติที่แท้ กฎเกณฑ์และพระบัญญัติที่ดีแก่พวกเขา
- เนหะมีย์ 9:14 - และพระองค์ให้พวกเขาทราบถึงวันสะบาโตอันบริสุทธิ์ของพระองค์ และบัญชาพวกเขาในเรื่องพระบัญญัติ กฎเกณฑ์ และกฎบัญญัติ ผ่านทางโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์
- เนหะมีย์ 9:15 - เมื่อพวกเขาหิว พระองค์ก็ให้อาหารตกลงมาจากฟ้าแก่พวกเขา เมื่อพวกเขากระหาย พระองค์ก็ให้น้ำไหลออกมาจากหิน และพระองค์บัญชาพวกเขาให้เข้าไปยึดครองแผ่นดินที่พระองค์ได้ปฏิญาณว่าจะมอบให้แก่พวกเขา
- เนหะมีย์ 9:16 - แต่พวกเขาและบรรพบุรุษของเราต่างยโสและดื้อด้าน และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์
- เนหะมีย์ 9:17 - พวกเขาไม่ยอมฟัง และไม่ระลึกถึงสิ่งอัศจรรย์ที่พระองค์กระทำในหมู่พวกเขา แต่หัวดื้อและแต่งตั้งหัวหน้าเพื่อให้นำพวกเขากลับไปเป็นทาสในอียิปต์ แต่พระองค์เป็นพระเจ้าพร้อมจะยกโทษ พระองค์มีพระคุณและความสงสาร ไม่โกรธง่าย เปี่ยมด้วยความรักอันมั่นคง และไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขา
- เนหะมีย์ 9:18 - แม้เวลาที่พวกเขาได้หล่อรูปลูกโคทองคำ และพูดว่า ‘นี่คือพระเจ้าของพวกเจ้า ผู้นำเจ้าออกมาจากอียิปต์’ และก็ได้พูดหมิ่นประมาทพระองค์อย่างร้ายแรง
- เนหะมีย์ 9:19 - พระองค์มีความเมตตายิ่งนัก และไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขาในถิ่นทุรกันดาร เมฆก้อนมหึมาดั่งเสาหลักนำทางล่วงหน้าพวกเขาในตอนกลางวันไม่ได้ห่างไปจากพวกเขา เพลิงไฟขนาดมหึมาดั่งเสาหลักในตอนกลางคืน เพื่อส่องความสว่างช่วยให้พวกเขาเดินตามทางที่ควรจะไป
- เนหะมีย์ 9:20 - พระองค์ประทานพระวิญญาณประเสริฐของพระองค์เพื่อสอนพวกเขา และไม่ขยักมานาของพระองค์จากปากของพวกเขา และให้น้ำแก่พวกเขาเมื่อกระหาย
- เนหะมีย์ 9:21 - พระองค์ช่วยพวกเขาให้อยู่รอดในถิ่นทุรกันดาร พวกเขาไม่ขาดเหลือสิ่งใด เสื้อผ้าที่พวกเขาสวมใส่ไม่ฉีกขาด และเท้าก็ไม่บวม
- เนหะมีย์ 9:22 - พระองค์มอบบรรดาอาณาจักรและประชาชาติให้แก่พวกเขา และพระองค์จัดเขตที่ดินอันแสนไกลให้ด้วย พวกเขาจึงยึดแผ่นดินของสิโหนกษัตริย์แห่งเฮชโบน และแผ่นดินของโอกกษัตริย์แห่งบาชาน
- เนหะมีย์ 9:23 - พระองค์เพิ่มบุตรหลานมากมายราวกับดวงดาวบนท้องฟ้าให้แก่พวกเขา พระองค์นำพวกเขาไปในแผ่นดินที่พระองค์ได้บอกแก่บรรพบุรุษ เพื่อให้เข้าไปยึดครอง
- เนหะมีย์ 9:24 - ดังนั้นบรรดาผู้สืบเชื้อสายจึงเข้าไปยึดครองแผ่นดิน และพระองค์ทำให้บรรดาผู้อยู่อาศัยในแผ่นดินคานาอันพ่ายแพ้ต่อหน้าเขาทั้งปวง และมอบไว้ในมือของพวกเขา รวมทั้งบรรดากษัตริย์และประชาชนของแผ่นดิน และกระทำต่อคนเหล่านั้นตามที่ต้องการ
- เนหะมีย์ 9:25 - พวกเขายึดเมืองต่างๆ ที่คุ้มกันไว้อย่างแข็งแกร่ง และแผ่นดินอันอุดม และยึดบ้านเรือนซึ่งมีข้าวของเครื่องใช้พร้อม บ่อก็ขุดไว้แล้ว สวนองุ่น สวนมะกอก และต้นไม้ชนิดมีผลจำนวนมาก ดังนั้น พวกเขารับประทานอย่างอิ่มหนำ ได้สุขสำราญกับความประเสริฐเลิศล้ำของพระองค์
- เนหะมีย์ 9:26 - แม้กระนั้น พวกเขาก็ยังดื้อดึงและขัดขืนต่อพระองค์ และหันหลังให้กฎบัญญัติของพระองค์ และฆ่าบรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระองค์ ซึ่งได้เตือนพวกเขาให้หันกลับเข้าหาพระองค์ และพวกเขาพูดหมิ่นประมาทมาก
- เนหะมีย์ 9:27 - ฉะนั้นพระองค์มอบพวกเขาไว้ในมือของพวกศัตรูซึ่งกดขี่ข่มเหง และในเวลาที่พวกเขาทนทุกข์ พวกเขาก็ร่ำร้องต่อพระองค์ และพระองค์ได้ยินจากฟ้าสวรรค์ และเนื่องจากความเมตตาเป็นล้นพ้นของพระองค์ พระองค์มอบบรรดาผู้ช่วยให้พ้นภัยแก่พวกเขาให้พ้นจากมือของพวกศัตรู
- เนหะมีย์ 9:28 - แต่หลังจากที่บรรพบุรุษมีโอกาสได้พักชั่วครู่ พวกเขาก็กระทำสิ่งชั่วร้ายต่อหน้าพระองค์อีก พระองค์ปล่อยพวกเขาไว้ในมือของพวกศัตรู จนต้องตกอยู่ใต้การปกครองของเหล่าศัตรูด้วย เมื่อพวกเขาหันมาและร้องต่อพระองค์ พระองค์ได้ยินจากสวรรค์ และเนื่องจากความเมตตาของพระองค์ พระองค์ก็ช่วยพวกเขาให้หลุดพ้นไปได้หลายครั้ง
- เนหะมีย์ 9:29 - พระองค์เตือนพวกเขาเพื่อให้กลับมาปฏิบัติตามกฎบัญญัติของพระองค์ แต่พวกเขาก็ยังยโส และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์ แต่กลับทำผิดต่อคำบัญชาของพระองค์ ถ้าผู้ใดกระทำตาม ผู้นั้นก็จะมีชีวิต และพวกเขาหันหลังให้พระองค์ และดื้อด้านไม่ยอมเชื่อฟัง
- เนหะมีย์ 9:30 - เป็นเวลาหลายปีที่พระองค์ทนต่อพวกเขา และเตือนพวกเขาผ่านทางบรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าด้วยพระวิญญาณของพระองค์ แต่พวกเขาก็ยังไม่เงี่ยหูฟัง ฉะนั้นพระองค์จึงมอบพวกเขาไว้ในมือของประชาชาติในแผ่นดิน
- เนหะมีย์ 9:31 - แม้กระนั้น พระองค์ก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาจบชีวิตลง หรือทอดทิ้งพวกเขา เนื่องจากพระองค์มีความเมตตายิ่งนัก พระองค์เป็นพระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยพระคุณและความเมตตา
- เนหะมีย์ 9:32 - ฉะนั้น บัดนี้ พระเจ้าของพวกเรา พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ พร้อมด้วยอานุภาพและน่าเกรงขาม พระองค์รักษาพันธสัญญาและความรักอันมั่นคง ขอพระองค์อย่าเห็นว่าความลำบากทั้งสิ้นที่เกิดขึ้นกับพวกเรา กับบรรดากษัตริย์ เหล่าเจ้านาย ปุโรหิต ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า บรรพบุรุษ และกับชนชาติทั้งปวงของพระองค์ เป็นสิ่งเล็กน้อยเลย นับตั้งแต่สมัยกษัตริย์แห่งอัสซีเรีย มาจนถึงทุกวันนี้
- เนหะมีย์ 9:33 - พระองค์ได้ให้ทุกสิ่งเกิดขึ้นแก่พวกเราด้วยความชอบธรรม เพราะพระองค์รักษาคำมั่นสัญญา ในขณะที่พวกเราได้ประพฤติอย่างชั่วร้าย
- เนหะมีย์ 9:34 - บรรดากษัตริย์ของพวกเรา เหล่าเจ้านาย ปุโรหิต และบรรพบุรุษของพวกเราไม่ได้รักษากฎบัญญัติ และไม่เอาใจใส่ต่อพระบัญญัติและคำสั่งของพระองค์ ซึ่งพระองค์ให้แก่พวกเขา
- เนหะมีย์ 9:35 - แม้พวกเขาจะอยู่ในอาณาจักรของตนเอง มีความสุขท่ามกลางสิ่งดีๆ ที่พระองค์มอบให้ ในแผ่นดินอันกว้างใหญ่และบริบูรณ์ซึ่งพระองค์เตรียมให้ที่ตรงหน้าพวกเขา พวกเขาก็ยังไม่ได้รับใช้พระองค์ หรือหันจากการกระทำที่ชั่วร้าย
- เนหะมีย์ 9:36 - ดูเถิด พวกเราเป็นทาสในวันนี้ ในแผ่นดินที่พระองค์มอบให้แก่บรรพบุรุษของเราเพื่อได้รับผลประโยชน์และสิ่งดีๆ จากแผ่นดิน ดูเถิด พวกเราเป็นทาส
- เนหะมีย์ 9:37 - ผลเก็บเกี่ยวที่ได้รับอย่างอุดมสมบูรณ์ก็ตกถึงมือของกษัตริย์ ผู้ที่พระองค์ประสงค์ให้ปกครองเหนือพวกเรา เนื่องจากบาปของเรา พวกเขาควบคุมทั้งตัวเราและสัตว์เลี้ยงตามใจปรารถนาของพวกเขา พวกเราจึงเป็นทุกข์ยิ่งนัก
- อิสยาห์ 46:5 - เจ้าจะเปรียบเราหรือนับว่าเราเสมอเหมือนผู้ใด เจ้าเห็นว่าเราเป็นเหมือนผู้ใดที่เจ้าจะเอาไปเปรียบเทียบ
- อิสยาห์ 45:18 - พระผู้เป็นเจ้า องค์ผู้สร้างฟ้าสวรรค์ พระองค์เป็นพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียว ผู้ปั้นแผ่นดินโลกให้เป็นรูปเป็นร่าง พระองค์สร้างมันขึ้นมา พระองค์ไม่ได้บันดาลให้โลกว่างเปล่า พระองค์สร้างมันขึ้นมาเพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัย พระองค์กล่าวดังนี้ว่า “เราคือพระผู้เป็นเจ้า และไม่มีผู้อื่นอีก
- เยเรมีย์ 23:7 - พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ว่า “ดูเถิด จะถึงเวลาที่จะไม่มีใครพูดว่า ‘ตราบที่พระผู้เป็นเจ้าผู้นำชาวอิสราเอลออกจากแผ่นดินอียิปต์มีชีวิตอยู่ฉันใด’
- เยเรมีย์ 23:8 - แต่จะเป็นที่พูดกันว่า ‘ตราบที่พระผู้เป็นเจ้าผู้นำเชื้อสายของพงศ์พันธุ์อิสราเอลออกจากดินแดนทางเหนือ และจากดินแดนทั้งปวงที่พระองค์เคยขับไล่ออกไป มีชีวิตอยู่ฉันใด’ พวกเขาจึงจะกลับมาอยู่ในแผ่นดินของพวกเขาเอง”
- สดุดี 105:1 - จงขอบคุณพระผู้เป็นเจ้า ร้องเรียกพระนามของพระองค์ ให้สิ่งที่พระองค์กระทำเป็นที่รู้จักในบรรดาชนชาติ
- สดุดี 105:2 - จงร้องเพลงถวายแด่พระองค์ จงร้องเพลงสรรเสริญถวายแด่พระองค์ จงประกาศการกระทำอันมหัศจรรย์ทั้งสิ้นของพระองค์
- สดุดี 105:3 - สรรเสริญพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์ด้วยความภาคภูมิ ให้บรรดาผู้แสวงหาพระผู้เป็นเจ้ามีใจยินดีเถิด
- สดุดี 105:4 - จงแสวงหาพระผู้เป็นเจ้าและพละกำลังของพระองค์ จงเข้าเฝ้าพระองค์เสมอ
- สดุดี 105:5 - จงระลึกถึงสิ่งมหัศจรรย์ที่พระองค์ได้กระทำ สิ่งอัศจรรย์และการพิพากษาลงโทษที่พระองค์กล่าว
- สดุดี 105:6 - โอ บรรดาผู้สืบเชื้อสายของอับราฮัมผู้รับใช้ของพระองค์ บรรดาบุตรของยาโคบ คนที่พระองค์เลือก
- สดุดี 105:7 - พระองค์คือพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเรา การพิพากษาลงโทษของพระองค์มีอยู่ทั่วทั้งแผ่นดินโลก
- สดุดี 105:8 - พระองค์ระลึกถึงพันธสัญญาของพระองค์ตลอดกาล ระลึกถึงคำบัญชาของพระองค์นานนับพันชั่วอายุคน
- สดุดี 105:9 - พันธสัญญาซึ่งพระองค์ทำไว้กับอับราฮัม และสัญญาที่พระองค์ได้ปฏิญาณไว้กับอิสอัค
- สดุดี 105:10 - ซึ่งพระองค์ยืนยันว่าเป็นกฎเกณฑ์แก่ยาโคบ เป็นพันธสัญญาอันเป็นนิรันดร์แก่อิสราเอล
- สดุดี 105:11 - โดยกล่าวว่า “เราจะยกดินแดนคานาอันให้แก่เจ้า เป็นส่วนแบ่งที่เจ้าจะได้รับเป็นมรดก”
- สดุดี 105:12 - ในเวลาที่พวกเขามีจำนวนน้อย เป็นกลุ่มเล็กๆ และอาศัยอยู่ที่นั่นเพียงชั่วคราว
- สดุดี 105:13 - ระหกระเหินจากประชาชาติหนึ่งไปยังอีกประชาชาติหนึ่ง และจากอาณาจักรหนึ่งไปยังอีกชนชาติหนึ่ง
- สดุดี 105:14 - พระองค์ไม่ยอมให้ใครมาบีบบังคับพวกเขา พระองค์เตือนบรรดากษัตริย์เพื่อเห็นแก่พวกเขา
- สดุดี 105:15 - โดยกล่าวว่า “อย่าแตะต้องบรรดาผู้ที่เราเจิมไว้ อย่าทำร้ายบรรดาผู้เผยคำกล่าวของเรา”
- สดุดี 105:16 - แล้วพระองค์บันดาลให้เกิดทุพภิกขภัยขึ้นในแผ่นดิน ผลผลิตที่เป็นอาหารเสียหายหมด
- สดุดี 105:17 - แต่พระองค์ใช้ชายผู้หนึ่งไปล่วงหน้าพวกเขา คือโยเซฟผู้ถูกขายไปเป็นทาส
- สดุดี 105:18 - มีตรวนเหล็กล่ามอยู่ที่เท้า ปลอกเหล็กสวมอยู่ที่คอ
- สดุดี 105:19 - จนกระทั่งสิ่งที่ท่านพยากรณ์ไว้ได้บังเกิดขึ้นจริง คำของพระผู้เป็นเจ้าได้พิสูจน์ให้เห็นว่าท่านถูกต้อง
- สดุดี 105:20 - กษัตริย์ให้พาตัวท่านมา และปลดปล่อยตัวไป ผู้ปกครองของบรรดาชนชาติได้ปล่อยให้ท่านเป็นอิสระ
- สดุดี 105:21 - กษัตริย์แต่งตั้งให้ท่านเป็นผู้ควบคุมวัง และปกครองสมบัติพัสถานทั้งหลาย
- สดุดี 105:22 - ท่านบัญชาพวกเจ้าหน้าที่ได้ตามใจชอบ และสอนบรรดาผู้อาวุโสให้ใช้สติปัญญา
- สดุดี 105:23 - ครั้นแล้วอิสราเอลก็มาถึงประเทศอียิปต์ ยาโคบตั้งถิ่นฐานในดินแดนของฮาม
- สดุดี 105:24 - แล้วพระผู้เป็นเจ้าทำให้ชนชาติของพระองค์เพิ่มพูนจำนวนลูกหลานมากขึ้น และมีมากเกินกว่าพวกศัตรูของเขา
- สดุดี 105:25 - พระองค์ทำให้จิตใจของชาวอียิปต์เกลียดชังชนชาติของพระองค์ และปฏิบัติต่อผู้รับใช้ของพระองค์ด้วยเล่ห์อุบาย
- สดุดี 105:26 - พระองค์ให้โมเสสผู้รับใช้ของพระองค์ไป และอาโรนผู้ที่พระองค์ได้เลือกไว้
- สดุดี 105:27 - ทั้งสองท่านได้แสดงสิ่งอัศจรรย์ของพระเจ้าท่ามกลางพวกเขา และสิ่งมหัศจรรย์ในดินแดนของฮาม
- สดุดี 105:28 - พระองค์ให้มีความมืดและทำให้ดินแดนมืดมิด แต่พวกเขาขัดคำสั่งของพระองค์
- สดุดี 105:29 - พระองค์ทำให้น้ำที่มีอยู่ของพวกเขากลายเป็นเลือด อันเป็นเหตุให้ปลาตาย
- สดุดี 105:30 - แผ่นดินของพวกเขาเต็มไปด้วยกบ แม้ในห้องพักของเชื้อพระวงศ์
- สดุดี 105:31 - เพียงพระองค์กล่าว แมลงเป็นฝูงๆ ก็พากันบินมา และตัวริ้นแพร่ขยายไปทั่วอาณาเขตของเขาทั้งปวง
- สดุดี 105:32 - พระองค์ทำให้ลูกเห็บตกแทนฝน และสายฟ้าแลบแปลบปลาบไปทั่วแผ่นดินของเขา
- สดุดี 105:33 - พระองค์ทำลายเถาองุ่นและต้นมะเดื่อของพวกเขา และโค่นต้นไม้ในอาณาเขตของเขาลง
- สดุดี 105:34 - เพียงพระองค์กล่าว ฝูงตั๊กแตนก็พากันมา มีตั๊กแตนเล็กมากมายจนนับไม่ถ้วน
- สดุดี 105:35 - พวกมันกัดกินพืชทั้งหมดในแผ่นดินของเขา และกินผลที่ได้จากการเพาะปลูกจนเกลี้ยง
- สดุดี 105:36 - พระองค์ผลาญชีวิตลูกหัวปีทุกคนบนแผ่นดิน ผลแรกแห่งพละกำลังทั้งปวงของพวกเขา
- สดุดี 105:37 - ครั้นแล้วพระองค์ก็นำอิสราเอลไปพร้อมกับเงินและทองคำ ไม่มีสักคนในเผ่าของพระองค์ที่ถูกกีดขวาง
- สดุดี 105:38 - อียิปต์ดีใจเมื่ออิสราเอลไปจากพวกเขา เพราะอิสราเอลทำให้พวกเขาพรั่นพรึง
- สดุดี 105:39 - พระองค์คลี่ก้อนเมฆออกเป็นร่มเงา แสงจากเพลิงเป็นแสงสว่างในยามค่ำ
- สดุดี 105:40 - พวกเขาเรียกร้อง และพระองค์ก็ให้นกกระทา และให้รับประทานอาหารที่ตกลงจากฟ้าจนอิ่มหนำ
- สดุดี 105:41 - พระองค์แยกหิน แล้วน้ำก็พวยพุ่งออกมา ไหลไปรวมเป็นแม่น้ำในที่กันดาร
- สดุดี 105:42 - เพราะพระองค์ระลึกถึงคำสัญญาอันบริสุทธิ์ของพระองค์ และระลึกถึงอับราฮัมผู้รับใช้ของพระองค์
- สดุดี 105:43 - พระองค์จึงพาชนชาติของพระองค์ไปโดยที่พวกเขารื่นเริงเบิกบาน และบรรดาผู้ที่พระองค์เลือกไว้ไปกับเสียงร้องด้วยความยินดี
- สดุดี 105:44 - และพระองค์มอบแผ่นดินของประชาชาติให้กับอิสราเอล และพวกเขาได้ไร่นาจากบรรดาชนชาติมาเป็นของตน
- สดุดี 105:45 - เพื่อชนชาติของพระองค์จะได้รักษากฎเกณฑ์ของพระองค์ และปฏิบัติตามกฎบัญญัติของพระองค์ จงสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า
- อิสยาห์ 45:21 - จงประกาศและเบิกความ ให้พวกเขาปรึกษากัน ใครบอกเรื่องนี้นานมาแล้ว ใครประกาศตั้งแต่กาลโน้น ไม่ใช่พระผู้เป็นเจ้าหรอกหรือ เราเองนั่นแหละ นอกจากเราแล้ว ไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีก พระเจ้าผู้มีความชอบธรรมและเป็นผู้ช่วยให้รอดพ้น ไม่มีใครอีกนอกจากเรา
- อิสยาห์ 45:22 - ทั่วทุกแหล่งหล้าเอ๋ย จงหันเข้าหาเรา และรับความรอดเถิด เพราะเราคือพระเจ้า และไม่มีผู้อื่นอีก
- สดุดี 78:1 - ชนชาติของเราเอ๋ย จงฟังคำสอนของเราเถิด เงี่ยหูฟังคำพูดจากปากของเรา
- สดุดี 78:2 - เราจะเปิดปากของเรากล่าวคำอุปมา เราจะเล่าเรื่องที่ปิดบังไว้แต่ครั้งโบราณกาล
- สดุดี 78:3 - เรื่องที่พวกเราได้ยินและรู้มา เป็นสิ่งที่บรรพบุรุษของเราเล่าขานให้พวกเราฟัง
- สดุดี 78:4 - เราจะไม่ปิดบังพวกลูกหลานของท่านในเรื่องเหล่านี้ แต่จะบอกคนยุคต่อไปให้ทราบถึง การกระทำและอานุภาพของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งควรแก่การสรรเสริญ และสิ่งมหัศจรรย์ที่พระองค์ได้กระทำ
- สดุดี 78:5 - พระองค์มอบคำสั่งแก่ผู้สืบตระกูลของยาโคบ และตั้งกฎบัญญัติในอิสราเอล และพระองค์สั่งบรรพบุรุษของเราให้สอน พวกลูกๆ ของเขา
- สดุดี 78:6 - เพื่อยุคต่อไปที่จะเกิดมาภายหลังจะได้เรียนรู้ไว้ และบอกพวกลูกๆ ของตนต่อๆ กันไป
- สดุดี 78:7 - เพื่อพวกเขาจะได้ตั้งความหวังในพระเจ้า และไม่ลืมสิ่งที่พระเจ้ากระทำ อีกทั้งปฏิบัติตามข้อบัญญัติของพระองค์
- สดุดี 78:8 - พวกเขาไม่ควรเป็นเหมือนบรรพบุรุษของเขาคือ เป็นยุคที่ดื้อรั้นและฝ่าฝืน เป็นยุคที่มีใจโลเล มีจิตวิญญาณที่ไม่ภักดีต่อพระเจ้า
- สดุดี 78:9 - พวกเอฟราอิมที่สะพายคันธนูพร้อมรบ แต่กลับหลังหันในวันสงคราม
- สดุดี 78:10 - พวกเขาไม่ได้ทำตามพันธสัญญาของพระเจ้า และไม่ยอมเชื่อฟังกฎบัญญัติของพระองค์
- สดุดี 78:11 - พวกเขาลืมสิ่งที่พระองค์ได้กระทำ และสิ่งมหัศจรรย์ที่พระองค์ได้แสดงให้พวกเขาเห็นแล้ว
- สดุดี 78:12 - ขณะที่บรรพบุรุษของพวกเขาเฝ้าดู พระเจ้าก็ได้แสดงสิ่งอัศจรรย์ต่างๆ ในดินแดนอียิปต์ ที่ไร่นาของโศอัน
- สดุดี 78:13 - พระองค์แหวกน้ำทะเลออกจากกันเพื่อให้พวกเขาเดินผ่านไป และทำให้น้ำแหวกเป็นสองฟากฝั่งสูงทะมึน
- สดุดี 78:14 - กลางวันพระองค์นำพวกเขาไปใต้เงาเมฆ และอาศัยแสงจากเพลิงไฟตลอดทั้งคืน
- สดุดี 78:15 - พระองค์ทำให้หินในถิ่นทุรกันดารแตกออก เพื่อให้พวกเขามีน้ำดื่มได้มากมายราวกับน้ำจากห้วงน้ำลึก
- สดุดี 78:16 - พระองค์ทำให้ธารน้ำไหลออกจากหิน และทำให้น่านน้ำไหลลงดั่งแม่น้ำ
- สดุดี 78:17 - ถึงกระนั้นพวกเขายังกระทำบาปต่อพระองค์ไว้มาก เขาลองดีกับองค์ผู้สูงสุดในถิ่นทุรกันดาร
- สดุดี 78:18 - พวกเขาตั้งใจลองดีกับพระเจ้า โดยเรียกร้องอาหารที่เขานึกอยาก
- สดุดี 78:19 - พวกเขาพูดเหยียดหยามพระเจ้าว่า “พระเจ้าจะหาสำรับในถิ่นทุรกันดารมาให้ได้ไหม
- สดุดี 78:20 - พระองค์กระทบหินเพื่อให้น้ำพวยพุ่งขึ้น และลำธารไหลล้น พระองค์ให้ขนมปัง หรือจัดหาเนื้อสัตว์เพื่อชนชาติของพระองค์ได้ด้วยหรือ”
- สดุดี 78:21 - ครั้นพระผู้เป็นเจ้าได้ยินก็โกรธเกรี้ยว ความกริ้วของพระองค์ที่มีต่อยาโคบปะทุขึ้นดั่งเพลิง ลุกโชนขึ้นต่ออิสราเอล
- สดุดี 78:22 - เพราะพวกเขาไม่มีความเชื่อในพระเจ้า และไม่วางใจในอานุภาพของพระองค์ที่จะช่วยเขาให้รอดพ้นได้
- สดุดี 78:23 - ถึงกระนั้นพระองค์ยังบัญชาหมู่เมฆเบื้องบน และเปิดประตูท้องฟ้า
- สดุดี 78:24 - แล้วพระองค์โปรดให้มานาโปรยลงมาให้พวกเขารับประทาน พระองค์ให้เมล็ดข้าวแห่งสวรรค์แก่พวกเขา
- สดุดี 78:25 - แต่ละคนได้รับประทานขนมปังของทูตสวรรค์ พระองค์ให้อาหารแก่พวกเขาอย่างอุดมสมบูรณ์
- สดุดี 78:26 - พระองค์ทำให้ลมตะวันออกพัดในฟ้าสวรรค์ และพระองค์นำลมใต้ออกไปด้วยพละกำลังของพระองค์
- สดุดี 78:27 - พระองค์โปรดให้เนื้อสัตว์เทลงมาเพื่อพวกเขามากมายราวกับฝุ่นผง เป็นตัวนกจำนวนมากราวกับเม็ดทรายในทะเล
- สดุดี 78:28 - พระองค์ทำให้เนื้อสัตว์ตกอยู่ท่ามกลางค่ายของพวกเขา รอบๆ บริเวณที่เขาอาศัยอยู่
- สดุดี 78:29 - แล้วพวกเขารับประทานกันจนอิ่มหนำ เพราะพระองค์ให้สิ่งที่พวกเขาอยาก
- สดุดี 78:30 - แต่ยังไม่ทันหายอยาก คือในขณะที่อาหารยังอยู่ในปากพวกเขา
- สดุดี 78:31 - ความกริ้วของพระเจ้าก็พลุ่งขึ้นต่อพวกเขา แล้วพระองค์ฆ่าชายฉกรรจ์ที่สุดของพวกเขา พระองค์ทำให้บรรดาชายหนุ่มที่เก่งกาจของอิสราเอลสิ้นชีวิตลง
- สดุดี 78:32 - แม้กระนั้นพวกเขายังจะทำบาปอีก แม้พระองค์ได้ทำให้เห็นสิ่งอัศจรรย์ต่างๆ แล้ว พวกเขาก็ยังไม่เชื่อ
- สดุดี 78:33 - ดังนั้น พระองค์ทำให้วันเวลาของเขาสิ้นสุดลงดั่งลมหายใจ และปีของเขามีแต่ความพินาศ
- สดุดี 78:34 - ในยามที่พระองค์ฆ่าพวกเขา พวกเขาก็แสวงหาพระองค์ กลับใจและหันเข้าหาพระเจ้าอย่างจริงจัง
- สดุดี 78:35 - และจำได้ว่า พระเจ้าเป็นดั่งศิลาของพวกเขา พระเจ้าผู้สูงสุดเป็นผู้ไถ่บาปของพวกเขา
- สดุดี 78:36 - แต่กลับลวงพระองค์ด้วยคำพูดจากปาก และพูดคำเท็จด้วยลิ้นของพวกเขา
- สดุดี 78:37 - ใจของพวกเขาไม่มั่นคงต่อพระองค์ และไม่ภักดีต่อพันธสัญญาของพระองค์
- สดุดี 78:38 - แต่พระองค์ยังคงสงสาร พระองค์ยกโทษความชั่วทั้งปวง และไม่ทำลายพวกเขา บ่อยครั้งพระองค์ยับยั้งความกริ้วไว้ และไม่ปล่อยความกริ้วของพระองค์ให้พลุ่งขึ้น
- สดุดี 78:39 - พระองค์ได้ระลึกว่าพวกเขาเป็นเพียงเนื้อหนัง เป็นลมที่พัดผ่านไป แล้วไม่หวนกลับมาอีก
- สดุดี 78:40 - บ่อยครั้งเพียงไรที่พวกเขาดื้อดึงต่อพระองค์ในถิ่นทุรกันดาร และทำให้พระองค์เศร้าใจในที่ร้างอันแร้นแค้น
- สดุดี 78:41 - พวกเขาลองดีกับพระเจ้าซ้ำแล้วซ้ำอีก และยั่วโทสะองค์ผู้บริสุทธิ์ของอิสราเอล
- สดุดี 78:42 - เขาไม่ได้จำใส่ใจถึงอานุภาพของพระองค์ และวันที่พระองค์ช่วยพวกเขาให้รอดพ้นจากศัตรู
- สดุดี 78:43 - และวันที่พระองค์สร้างปรากฏการณ์ต่างๆ ในประเทศอียิปต์ และสิ่งอัศจรรย์ต่างๆ ที่ไร่นาของโศอัน
- สดุดี 78:44 - พระองค์เปลี่ยนแม่น้ำของพวกเขาให้เป็นเลือด ทำให้น้ำจากลำธารดื่มไม่ได้
- สดุดี 78:45 - พระองค์ส่งฝูงแมลงไปกัดกินพวกเขา รวมทั้งให้ฝูงกบก่อกวนและสร้างความเสียหาย
- สดุดี 78:46 - พระองค์ให้ตัวบุ้งกินพืชผลที่พวกเขาปลูกไว้ และผลผลิตจากแรงงานก็ให้ฝูงตั๊กแตนกัดกิน
- สดุดี 78:47 - พระองค์ให้ลูกเห็บตกทำลายเถาองุ่นของพวกเขา และให้น้ำค้างแข็งเกาะต้นมะเดื่อ
- สดุดี 78:48 - ฝูงโคล้มตายเพราะลูกเห็บ และฝูงแพะแกะตายลงเพราะสายฟ้าแลบ
- สดุดี 78:49 - พระองค์ปลดปล่อยความกริ้วอันร้อนแรงของพระองค์ลงบนพวกเขา ความโกรธเกรี้ยว ความขัดเคือง และความแค้น ซึ่งมาในรูปของกลุ่มทูตสวรรค์แห่งความวิบัติ
- สดุดี 78:50 - พระองค์เปิดทางให้แก่ความกริ้วของพระองค์ และไม่ไว้ชีวิตพวกเขา และกำจัดชีวิตพวกเขาด้วยภัยพิบัติ
- สดุดี 78:51 - พระองค์กำจัดชีวิตลูกชายหัวปีทั้งหมดในอียิปต์ ซึ่งเป็นพละกำลังแรกของพวกเขาที่อยู่ในกระโจมของฮาม
- สดุดี 78:52 - แล้วพระองค์นำหน้าชนชาติของพระองค์เหมือนนำแกะ และนำพวกเขาในถิ่นทุรกันดารเหมือนนำฝูงแกะ
- สดุดี 78:53 - พระองค์นำหน้าพวกเขาไปอย่างปลอดภัย พวกเขาจึงไม่หวาดกลัว แต่ทะเลกลับท่วมมิดศัตรู
- สดุดี 78:54 - ครั้นแล้วพระองค์ก็นำพวกเขาไปยังดินแดนอันบริสุทธิ์ของพระองค์ ไปยังภูเขาซึ่งมือขวาของพระองค์ได้มาด้วยชัยชนะ
- สดุดี 78:55 - พระองค์ขับไล่บรรดาประชาชาติให้ออกไปต่อหน้าพวกเขา พระองค์แบ่งเขตที่ดินให้พวกเขามีกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของ และให้บรรดาเผ่าของอิสราเอลตั้งรกรากในกระโจมที่พักของพวกเขา
- สดุดี 78:56 - แม้กระนั้น พวกเขาก็ยังลองดี และดื้อดึงต่อพระเจ้าผู้สูงสุด และไม่รักษาคำสั่งของพระองค์
- สดุดี 78:57 - แต่หันเหไป และประพฤติตนอย่างคนไร้ความเชื่อ เช่นเดียวกับบรรพบุรุษของพวกเขา ซึ่งเชื่อใจไม่ได้เท่าๆ กับคันธนูคด
- สดุดี 78:58 - พวกเขายั่วโทสะพระองค์ด้วยเรื่องสถานบูชาบนภูเขาสูง และพวกเขาทำให้พระองค์หวงแหนมากด้วยรูปเคารพ
- สดุดี 78:59 - เมื่อพระเจ้าได้ยิน พระองค์โกรธเกรี้ยว และไม่ยอมรับอิสราเอลเลย
- สดุดี 78:60 - พระองค์ทิ้งที่พำนักของพระองค์ให้ร้างไว้ที่ชิโลห์ ซึ่งเป็นกระโจมที่พระองค์พำนักท่ามกลางมนุษย์
- สดุดี 78:61 - และพระองค์มอบพละกำลังของพระองค์ให้แก่การเป็นเชลย และพระบารมีของพระองค์ไว้ในมือของศัตรู
- สดุดี 78:62 - พระองค์ปล่อยให้ชนชาติของพระองค์ถูกกำจัดด้วยคมดาบ และโกรธกริ้วต่อบรรดาผู้สืบมรดกของพระองค์
- สดุดี 78:63 - บรรดาชายหนุ่มเสียชีวิตในสงคราม และหญิงสาวของพวกเขาไม่มีโอกาสแต่งงาน
- สดุดี 78:64 - บรรดาปุโรหิตของพวกเขาล้มตายด้วยคมดาบ และหญิงม่ายไม่มีโอกาสแสดงความเศร้าโศกา
- สดุดี 78:65 - ครั้นแล้วพระผู้เป็นเจ้าตื่นขึ้นดั่งหนึ่งได้ตื่นจากนอน เหมือนกับชายฉกรรจ์ส่งเสียงเอ็ดตะโรเพราะเหล้าองุ่น
- สดุดี 78:66 - พระองค์ขับไล่ข้าศึกกลับไป และทำให้เขาอับอายไปตลอดกาล
- สดุดี 78:67 - พระองค์ปฏิเสธกระโจมที่พักของโยเซฟ พระองค์ไม่ได้เลือกเผ่าเอฟราอิม
- สดุดี 78:68 - แต่พระองค์เลือกเผ่ายูดาห์ ภูเขาศิโยนซึ่งพระองค์รัก
- สดุดี 78:69 - พระองค์สร้างที่พำนักของพระองค์ไว้อย่างสูงระดับฟ้าสวรรค์ อย่างแผ่นดินโลกที่พระองค์ตั้งไว้ให้ยืนยงตลอดกาล
- สดุดี 78:70 - พระองค์เลือกดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์ และพาท่านออกไปจากคอกแกะ
- สดุดี 78:71 - พระองค์ให้ท่านเลิกดูแลแกะแม่ลูกอ่อน และให้มาเป็นผู้เลี้ยงดูฝูงแกะของยาโคบชนชาติของพระองค์ คือของอิสราเอล ผู้สืบมรดกของพระองค์
- สดุดี 78:72 - ท่านดูแลคนเหล่านั้นด้วยความจริงใจ และนำเขาไปด้วยความชำนาญ
- เฉลยธรรมบัญญัติ 32:7 - จงจำสมัยดึกดำบรรพ์ นึกถึงสมัยที่ผ่านพ้นมานานแล้ว จงถามบิดาของท่าน และเขาจะบอกท่าน ถามพวกอาวุโสของท่าน แล้วพวกเขาจะเล่าให้ท่านทราบ
- อิสยาห์ 65:17 - ดูเถิด เราสร้างฟ้าสวรรค์ใหม่ และแผ่นดินโลกใหม่ และสิ่งต่างๆ ในอดีตจะไม่เป็นที่จดจำ หรือนึกถึงอีก
- ดาเนียล 9:6 - พวกเราไม่ได้เชื่อฟังผู้รับใช้ของพระองค์คือ บรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า ซึ่งท่านเหล่านั้นได้พูดในพระนามของพระองค์ กับบรรดากษัตริย์ของพวกเรา กับบรรดาผู้นำ บรรพบุรุษ และกับประชาชนทั้งปวงของแผ่นดิน
- ดาเนียล 9:7 - โอ พระผู้เป็นเจ้า พระองค์มีความชอบธรรม แต่พวกเรากระทำสิ่งที่น่าอับอายมาจนถึงทุกวันนี้ ปวงชนชาวยูดาห์ ผู้อยู่อาศัยของเยรูซาเล็มและอิสราเอลทั้งปวง ทุกคนที่อยู่ใกล้และไกล พระองค์ได้ทำให้พวกเรากระจัดกระจายออกไปในทุกดินแดน ก็เพราะความไม่ภักดีของพวกเราที่มีต่อพระองค์
- ดาเนียล 9:8 - โอ พระผู้เป็นเจ้า พวกเราและบรรดากษัตริย์ของเรา บรรดาผู้นำและบรรพบุรุษของเราต้องอับอายเพราะพวกเราได้กระทำบาปต่อพระองค์
- ดาเนียล 9:9 - พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรากอปรด้วยความเมตตาและการให้อภัย แม้ว่าพวกเราจะขัดขืนต่อพระองค์
- ดาเนียล 9:10 - และพวกเราไม่ได้เชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเราในการดำเนินตามกฎบัญญัติของพระองค์ ซึ่งพระองค์ได้มอบให้แก่พวกเราผ่านบรรดาผู้รับใช้ คือผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า
- ดาเนียล 9:11 - ชาวอิสราเอลทั้งปวงได้ละเมิดกฎบัญญัติของพระองค์ ฝ่าฝืนและไม่ยอมเชื่อฟังพระองค์ ฉะนั้นคำสาปแช่งและคำปฏิญาณที่เขียนไว้ในกฎบัญญัติของโมเสสผู้รับใช้ของพระเจ้า จึงตกอยู่กับพวกเราเพราะเราได้ทำบาปต่อพระองค์
- ดาเนียล 9:12 - พระองค์ให้ทุกสิ่งเกิดขึ้นตามที่พระองค์กล่าวไว้ว่าจะเกิดขึ้นกับพวกเราและผู้ที่ปกครองพวกเรา ด้วยการนำความวิบัติมาสู่พวกเรา สิ่งที่เกิดขึ้นกับเยรูซาเล็มไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนภายใต้ฟ้าสวรรค์
- ดาเนียล 9:13 - อย่างที่เขียนไว้ในกฎบัญญัติของโมเสส ความวิบัติเช่นนั้นเกิดขึ้นกับพวกเรา แต่พวกเราก็ไม่ได้ทำสิ่งซึ่งเป็นที่พอใจของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา ด้วยการหยุดทำบาป และเอาใจใส่ในความจริงของพระองค์
- ดาเนียล 9:14 - ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้าได้เตรียมและนำความวิบัติมาสู่พวกเรา ด้วยว่าพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเรามีความชอบธรรมในทุกสิ่งที่พระองค์กระทำ และพวกเราไม่ได้เชื่อฟังพระองค์
- ดาเนียล 9:15 - โอ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเรา พระองค์นำชนชาติของพระองค์ออกจากแผ่นดินอียิปต์ด้วยอานุภาพอันยิ่งใหญ่ และทำให้พระนามของพระองค์เป็นที่เลื่องลือ พวกเราได้ทำบาป และประพฤติอย่างชั่วร้ายมาจนถึงทุกวันนี้
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:26 - โอ เยชูรูน ไม่มีผู้ใดเหมือนพระเจ้า พระองค์ล่องผ่านฟ้าสวรรค์มาเพื่อช่วยท่าน และผ่านท้องฟ้ามาในความยิ่งใหญ่ของพระองค์
- อิสยาห์ 42:9 - ดูเถิด เหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมาได้เกิดขึ้นแล้ว และบัดนี้เราประกาศให้รู้ถึงเรื่องใหม่ๆ เราบอกให้พวกเจ้ารู้ ก่อนที่จะเกิดขึ้น”
- สดุดี 111:4 - พระองค์ทำให้สิ่งมหัศจรรย์ของพระองค์เป็นที่กล่าวถึง พระผู้เป็นเจ้ามีพระคุณและเมตตายิ่งนัก