逐节对照
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - ตลอดวันเวลาที่พระเยซูมีชีวิตเป็นมนุษย์ พระองค์ได้อธิษฐาน และอ้อนวอนเสียงดัง และหลั่งน้ำตาต่อพระองค์ผู้สามารถช่วยให้พระองค์พ้นจากความตาย ซึ่งพระเจ้าได้สดับรับฟังเพราะพระเยซูยอมเชื่อฟัง
- 新标点和合本 - 基督在肉体的时候,既大声哀哭,流泪祷告,恳求那能救他免死的主,就因他的虔诚蒙了应允。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 基督在他肉身的日子,曾大声哀哭,流泪祷告,恳求那能救他免死的上帝,就因他的虔诚蒙了应允。
- 和合本2010(神版-简体) - 基督在他肉身的日子,曾大声哀哭,流泪祷告,恳求那能救他免死的 神,就因他的虔诚蒙了应允。
- 当代译本 - 基督在世为人的时候,曾经声泪俱下地祈求能救祂脱离死亡的上帝。祂因为敬虔而蒙了应允。
- 圣经新译本 - 基督在世的时候,曾经流泪大声祷告恳求那位能救他脱离死亡的 神;因着他的敬虔,就蒙了应允。
- 中文标准译本 - 基督在他肉身的日子里,曾经用强烈的呼号和泪水,向能救他脱离死亡的那一位献上了祈祷和恳求,就因着他的虔诚蒙了垂听。
- 现代标点和合本 - 基督在肉体的时候既大声哀哭,流泪祷告,恳求那能救他免死的主,就因他的虔诚蒙了应允。
- 和合本(拼音版) - 基督在肉体的时候既大声哀哭,流泪祷告,恳求那能救他免死的主,就因他的虔诚蒙了应允。
- New International Version - During the days of Jesus’ life on earth, he offered up prayers and petitions with fervent cries and tears to the one who could save him from death, and he was heard because of his reverent submission.
- New International Reader's Version - Jesus prayed while he lived on earth. He made his appeal with sincere cries and tears. He prayed to the God who could save him from death. God answered Jesus because he truly honored God.
- English Standard Version - In the days of his flesh, Jesus offered up prayers and supplications, with loud cries and tears, to him who was able to save him from death, and he was heard because of his reverence.
- New Living Translation - While Jesus was here on earth, he offered prayers and pleadings, with a loud cry and tears, to the one who could rescue him from death. And God heard his prayers because of his deep reverence for God.
- The Message - While he lived on earth, anticipating death, Jesus cried out in pain and wept in sorrow as he offered up priestly prayers to God. Because he honored God, God answered him. Though he was God’s Son, he learned trusting-obedience by what he suffered, just as we do. Then, having arrived at the full stature of his maturity and having been announced by God as high priest in the order of Melchizedek, he became the source of eternal salvation to all who believingly obey him.
- Christian Standard Bible - During his earthly life, he offered prayers and appeals with loud cries and tears to the one who was able to save him from death, and he was heard because of his reverence.
- New American Standard Bible - In the days of His humanity, He offered up both prayers and pleas with loud crying and tears to the One able to save Him from death, and He was heard because of His devout behavior.
- New King James Version - who, in the days of His flesh, when He had offered up prayers and supplications, with vehement cries and tears to Him who was able to save Him from death, and was heard because of His godly fear,
- Amplified Bible - In the days of His earthly life, Jesus offered up both [specific] petitions and [urgent] supplications [for that which He needed] with fervent crying and tears to the One who was [always] able to save Him from death, and He was heard because of His reverent submission toward God [His sinlessness and His unfailing determination to do the Father’s will].
- American Standard Version - Who in the days of his flesh, having offered up prayers and supplications with strong crying and tears unto him that was able to save him from death, and having been heard for his godly fear,
- King James Version - Who in the days of his flesh, when he had offered up prayers and supplications with strong crying and tears unto him that was able to save him from death, and was heard in that he feared;
- New English Translation - During his earthly life Christ offered both requests and supplications, with loud cries and tears, to the one who was able to save him from death and he was heard because of his devotion.
- World English Bible - He, in the days of his flesh, having offered up prayers and petitions with strong crying and tears to him who was able to save him from death, and having been heard for his godly fear,
- 新標點和合本 - 基督在肉體的時候,既大聲哀哭,流淚禱告,懇求那能救他免死的主,就因他的虔誠蒙了應允。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 基督在他肉身的日子,曾大聲哀哭,流淚禱告,懇求那能救他免死的上帝,就因他的虔誠蒙了應允。
- 和合本2010(神版-繁體) - 基督在他肉身的日子,曾大聲哀哭,流淚禱告,懇求那能救他免死的 神,就因他的虔誠蒙了應允。
- 當代譯本 - 基督在世為人的時候,曾經聲淚俱下地祈求能救祂脫離死亡的上帝。祂因為敬虔而蒙了應允。
- 聖經新譯本 - 基督在世的時候,曾經流淚大聲禱告懇求那位能救他脫離死亡的 神;因著他的敬虔,就蒙了應允。
- 呂振中譯本 - 基督 在他肉身的日子、既用壯烈的哭號和眼淚、向那能救他脫死的獻祈求和懇請,就因了虔敬而蒙垂聽;
- 中文標準譯本 - 基督在他肉身的日子裡,曾經用強烈的呼號和淚水,向能救他脫離死亡的那一位獻上了祈禱和懇求,就因著他的虔誠蒙了垂聽。
- 現代標點和合本 - 基督在肉體的時候既大聲哀哭,流淚禱告,懇求那能救他免死的主,就因他的虔誠蒙了應允。
- 文理和合譯本 - 彼在世時、大呼涕泣、獻其祈禱籲懇於能救之出死者、且因其寅畏而得升聞、
- 文理委辦譯本 - 夫基督在世時、大聲疾呼、繼之號泣祈禱、以求能免其死者、升聞於上、釋己憂懼、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 基督在世為人之時、 原文作基督在肉體之時 大聲號泣、祈禱籲懇能救其免死者、遂蒙應允、解其憂懼、 遂蒙應允解其憂懼或作因有敬畏之心即蒙允聽
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 基督在世之日、大聲疾呼涕淚漣如、哀求全能者拯之出死、卒以其克懷寅畏、而蒙垂聽。
- Nueva Versión Internacional - En los días de su vida mortal, Jesús ofreció oraciones y súplicas con fuerte clamor y lágrimas al que podía salvarlo de la muerte, y fue escuchado por su reverente sumisión.
- 현대인의 성경 - 예수님은 세상에 계실 때 자기를 죽음에서 구원해 주실 분에게 크게 부르짖으며 눈물로 기도와 소원을 올렸고 경건한 복종으로 하나님의 응답을 받으셨습니다.
- Новый Русский Перевод - Во время Своей земной жизни Иисус громко, с воплем и со слезами молился Тому, Кто мог избавить Его от смерти, и Он был услышан за Свое благоговение.
- Восточный перевод - Во время Своей земной жизни Иса громко, с воплем и со слезами молился Тому, Кто мог избавить Его от смерти, и Он был услышан за Своё благоговение перед Всевышним.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Во время Своей земной жизни Иса громко, с воплем и со слезами молился Тому, Кто мог избавить Его от смерти, и Он был услышан за Своё благоговение перед Аллахом.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Во время Своей земной жизни Исо громко, с воплем и со слезами молился Тому, Кто мог избавить Его от смерти, и Он был услышан за Своё благоговение перед Всевышним.
- La Bible du Semeur 2015 - Ainsi, au cours de sa vie sur terre, Jésus, avec de grands cris et des larmes, a présenté des prières et des supplications à celui qui pouvait le sauver de la mort, et il a été exaucé, à cause de sa soumission à Dieu .
- リビングバイブル - キリストはこの地上におられた時、死から救うことのできるただひとりの方に、うめきと涙とをもって祈られました。この祈りは、どんな場合にも神に従おうとする、キリストの謙遜で切なる願いのゆえに聞き入れられたのです。
- Nestle Aland 28 - ὃς ἐν ταῖς ἡμέραις τῆς σαρκὸς αὐτοῦ δεήσεις τε καὶ ἱκετηρίας πρὸς τὸν δυνάμενον σῴζειν αὐτὸν ἐκ θανάτου μετὰ κραυγῆς ἰσχυρᾶς καὶ δακρύων προσενέγκας καὶ εἰσακουσθεὶς ἀπὸ τῆς εὐλαβείας,
- unfoldingWord® Greek New Testament - ὃς ἐν ταῖς ἡμέραις τῆς σαρκὸς αὐτοῦ, δεήσεις τε καὶ ἱκετηρίας, πρὸς τὸν δυνάμενον σῴζειν αὐτὸν ἐκ θανάτου, μετὰ κραυγῆς ἰσχυρᾶς καὶ δακρύων προσενέγκας, καὶ εἰσακουσθεὶς ἀπὸ τῆς εὐλαβείας.
- Nova Versão Internacional - Durante os seus dias de vida na terra, Jesus ofereceu orações e súplicas, em alta voz e com lágrimas, àquele que o podia salvar da morte, sendo ouvido por causa da sua reverente submissão.
- Hoffnung für alle - Als Jesus unter uns Menschen lebte, schrie er unter Tränen zu Gott, der ihn allein vom Tod retten konnte. Und Gott erhörte sein Gebet, weil Jesus den Vater ehrte und ihm gehorsam war.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Chúa Cứu Thế khi sắp hy sinh đã nài xin Đức Chúa Trời, khóc lóc kêu cầu Đấng có quyền cứu Ngài khỏi chết. Vì lòng tôn kính nhiệt thành nên Ngài được Đức Chúa Trời nhậm lời.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - ในระหว่างที่พระเยซูทรงอยู่ในโลก พระองค์ได้ถวายคำอธิษฐานและคำร้องทูลอ้อนวอนด้วยเสียงอันดังและด้วยน้ำตาไหลต่อพระเจ้าผู้ทรงสามารถช่วยพระองค์จากความตาย และพระเจ้าทรงสดับเพราะพระเยซูทรงยอมเชื่อฟังพระเจ้าด้วยความยำเกรง
交叉引用
- 1 ทิโมธี 3:16 - ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า ความลึกลับซับซ้อนในทางของพระเจ้ายิ่งใหญ่คือ พระองค์ได้ปรากฏเป็นมนุษย์ พระวิญญาณเห็นว่าพระองค์มีความชอบธรรม เหล่าทูตสวรรค์ได้เห็นพระองค์แล้ว และบรรดาประชาชาติได้ยินการประกาศเกี่ยวกับพระองค์ คนทั่วโลกเชื่อในพระองค์ และพระองค์ถูกรับขึ้นสู่พระบารมี
- ฮีบรู 13:20 - ขอพระเจ้าแห่งสันติสุข ผู้โปรดให้พระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา คือผู้เลี้ยงดูฝูงแกะที่ยิ่งใหญ่ และฟื้นขึ้นจากความตายโดยโลหิตแห่งพันธสัญญาอันเป็นนิรันดร์
- มัทธิว 26:52 - พระเยซูกล่าวกับเขาว่า “เก็บดาบเสีย เพราะทุกคนที่ใช้ดาบจะตายเพราะดาบ
- มัทธิว 26:53 - เจ้าคิดหรือว่าเราจะร้องขอพระบิดาของเราให้ช่วยไม่ได้ พระองค์จะส่งทูตสวรรค์มาเป็นจำนวนมากกว่า 12 เลเกโอน ให้เราได้ทันที
- อิสยาห์ 49:8 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ว่า “เมื่อถึงเวลาที่เราจะโปรดปราน เราก็ตอบเจ้า และเมื่อถึงวันช่วยให้รอดพ้น เราก็ช่วยเจ้า เราจะรับเจ้าไว้ เพื่อเป็นพันธสัญญาแก่ชนชาติ เพื่อฟื้นฟูแผ่นดิน เพื่อมอบสิทธิที่ดินที่ถูกทิ้งร้างไว้
- สดุดี 18:19 - พระองค์ช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากบ่วงอันตราย พระองค์ช่วยเหลือข้าพเจ้าไว้ก็เพราะพระองค์พอใจในตัวข้าพเจ้า
- สดุดี 18:20 - พระผู้เป็นเจ้ากระทำต่อข้าพเจ้าตามความชอบธรรมของข้าพเจ้า พระองค์ให้รางวัลข้าพเจ้าตามความสะอาดของมือข้าพเจ้า
- โรม 8:3 - สิ่งใดก็ตามที่กฎบัญญัติกระทำไม่ได้ เพราะฝ่ายเนื้อหนังทำให้กฎบัญญัติอ่อนกำลัง พระเจ้ากระทำได้โดยส่งพระบุตรของพระองค์เองมา มีลักษณะของมนุษย์ดั่งคนบาปทั่วไป และเป็นเครื่องสักการะชดใช้บาปของเรา พระองค์จึงกล่าวโทษบาปที่ควบคุมฝ่ายเนื้อหนังของเรา
- เลวีนิติ 2:2 - นำมาให้บรรดาปุโรหิตผู้เป็นบุตรของอาโรน ปุโรหิตจะหยิบแป้งชั้นเยี่ยมหนึ่งกำมือพร้อมน้ำมัน และกำยานทั้งหมดเผาเพื่อเป็นส่วนอนุสรณ์ที่แท่นบูชา และถวายด้วยไฟ ส่งกลิ่นหอมเป็นที่พอใจของพระผู้เป็นเจ้า
- สดุดี 88:1 - โอ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าแห่งความรอดพ้นของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าร้องขอความช่วยเหลือทุกวี่วัน และปรากฏตัวต่อหน้าพระองค์ทุกค่ำคืน
- ยอห์น 11:42 - และข้าพเจ้าทราบว่าพระองค์ฟังข้าพเจ้าเสมอ แต่เป็นเพราะผู้คนที่กำลังยืนอยู่รอบตัวข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงได้กล่าวเช่นนี้เพื่อว่าพวกเขาจะได้เชื่อว่า พระองค์ได้ส่งข้าพเจ้ามา”
- อิสยาห์ 53:3 - พระองค์ถูกผู้คนดูหมิ่นและทอดทิ้ง บุรุษแห่งความเศร้าโศก และคุ้นเคยกับความทุกข์ และเป็นผู้ที่มีแต่คนหนีหน้าไป พระองค์ถูกดูหมิ่น และพวกเราไม่ได้เชิดชูพระองค์
- สดุดี 22:1 - พระเจ้าของข้าพเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า ทำไมพระองค์จึงทอดทิ้งข้าพเจ้า ทำไมพระองค์จึงอยู่ห่างไกลเกินที่จะช่วยข้าพเจ้า ไม่ได้ยินแม้แต่คำคร่ำครวญของข้าพเจ้า
- สดุดี 22:2 - โอ พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าร้องไห้ในเวลากลางวัน แต่พระองค์ไม่ตอบ และในช่วงเวลากลางคืนข้าพเจ้าก็หาได้พักไม่
- สดุดี 22:3 - แต่พระองค์ยังคงความเป็นผู้บริสุทธิ์ เป็นที่สรรเสริญของอิสราเอล
- สดุดี 22:4 - บรรพบุรุษของเราไว้วางใจในพระองค์ ท่านเหล่านั้นไว้วางใจ และพระองค์ช่วยให้รอดพ้น
- สดุดี 22:5 - ท่านร้องถึงพระองค์ และได้รับความรอดพ้น ท่านไว้วางใจในพระองค์ และไม่ได้รับความอับอาย
- สดุดี 22:6 - แต่ข้าพเจ้าเป็นหนอนตัวหนึ่งซึ่งไม่ใช่มนุษย์ ถูกผู้คนดูหมิ่นและรังเกียจ
- สดุดี 22:7 - ทุกคนที่เห็นข้าพเจ้าก็ล้อเลียน พวกเขาเยาะเย้ยข้าพเจ้า พลางสั่นหัวกันไปมา พูดว่า
- สดุดี 22:8 - “ปล่อยให้เป็นเรื่องของพระผู้เป็นเจ้าเถิด ให้พระองค์ช่วยเขาให้รอดพ้น ปล่อยให้พระองค์ช่วยผู้ที่พระองค์ยินดี”
- สดุดี 22:9 - พระองค์เป็นผู้ที่นำข้าพเจ้าออกมาจากครรภ์ พระองค์ให้ความปลอดภัยแก่ข้าพเจ้าในอ้อมอกแม่
- สดุดี 22:10 - นับแต่เกิดมา ข้าพเจ้าถูกมอบให้กับพระองค์ พระองค์เป็นพระเจ้าของข้าพเจ้ามาโดยตลอด ตั้งแต่วันที่ออกจากครรภ์มารดา
- สดุดี 22:11 - อย่าอยู่ห่างไกลจากข้าพเจ้า เพราะว่าความลำบากอยู่ใกล้ และไม่มีใครคอยช่วย
- สดุดี 22:12 - มีศัตรูประดุจโคหนุ่มจำนวนมากล้อมอยู่รอบกายข้าพเจ้า โคหนุ่มของบาชาน พวกนี้มีกำลังมหาศาลตีวงเข้าล้อมข้าพเจ้า
- สดุดี 22:13 - พวกมันอ้าปากกว้างเข้าใส่ข้าพเจ้าประดุจสิงโตคำราม และเขมือบอย่างตะกละตะกราม
- สดุดี 22:14 - เรี่ยวแรงข้าพเจ้าถูกสูบออกไปจนหมดสิ้น และกระดูกทุกท่อนหลุดจากข้อต่อ หัวใจข้าพเจ้าเป็นดั่งขี้ผึ้ง ที่หลอมละลายอยู่ในทรวงอก
- สดุดี 22:15 - ปากคอข้าพเจ้าแห้งผากดั่งเศษกระเบื้องดินเผา ลิ้นผนึกกับขากรรไกร พระองค์วางตัวข้าพเจ้าลงบนผงธุลีแห่งความตาย
- สดุดี 22:16 - พวกสุนัขอยู่ล้อมรอบข้าพเจ้า กลุ่มคนชั่วรายล้อมข้าพเจ้าไว้ พวกเขาตรึงมือและเท้าข้าพเจ้า
- สดุดี 22:17 - ข้าพเจ้านับจำนวนกระดูกของข้าพเจ้าได้ทุกท่อน ผู้คนพินิจดูข้าพเจ้า และสมน้ำหน้า
- สดุดี 22:18 - พวกเขาแบ่งปันเสื้อตัวนอกของข้าพเจ้าในหมู่พวกเขา แล้วเขาจับฉลากเอาเสื้อตัวในของข้าพเจ้าไป
- สดุดี 22:19 - โอ พระผู้เป็นเจ้า ขอพระองค์อย่าออกห่างไปไกลเลย ผู้ช่วยเหลือของข้าพเจ้า โปรดรีบมาช่วยข้าพเจ้าด้วยเถิด
- สดุดี 22:20 - ช่วยชีวิตของข้าพเจ้าให้พ้นจากคมดาบ ชีวิตอันมีค่าของข้าพเจ้าให้พ้นจากเงื้อมมือสุนัข
- สดุดี 22:21 - ช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากปากสิงโตด้วยเถิด พระองค์ได้ช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากเขากระทิง
- สดุดี 69:13 - แต่สำหรับข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าอธิษฐานต่อพระองค์ โอ พระผู้เป็นเจ้า ขึ้นอยู่กับกาลเวลาของพระองค์โดยแท้ โปรดตอบข้าพเจ้า เพราะความช่วยเหลืออันแท้จริงของพระองค์ ตามความรักอันมั่นคงของพระองค์ที่มีอยู่อย่างเอนกอนันต์
- สดุดี 69:14 - โปรดช่วยข้าพเจ้าไม่ให้จมลงในตม ให้รอดพ้นจากพวกที่เกลียดชังข้าพเจ้า และจากห้วงน้ำลึก
- สดุดี 69:15 - อย่าปล่อยให้คลื่นซัดมิดศีรษะข้าพเจ้า อย่าให้ห้วงน้ำลึกกลืนข้าพเจ้า และอย่าให้ปากหลุมปิดและกักข้าพเจ้าไว้
- สดุดี 69:16 - โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดตอบข้าพเจ้าด้วย เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์ประเสริฐนัก และพระองค์มีความเมตตาอย่างยิ่ง โปรดหันมาทางข้าพเจ้าด้วย
- สดุดี 40:1 - ข้าพเจ้ารอคอยพระผู้เป็นเจ้าด้วยความอดทน พระองค์เงี่ยหูฟังข้าพเจ้าและสดับเสียงร้องของข้าพเจ้า
- สดุดี 40:2 - พระองค์ฉุดข้าพเจ้าขึ้นจากหลุมแห่งความพินาศ ออกจากตม และให้ข้าพเจ้ายืนบนหินที่มีความปลอดภัย
- สดุดี 40:3 - พระองค์มอบเพลงใหม่ให้ข้าพเจ้าร้อง เป็นเพลงแห่งการสรรเสริญแด่พระเจ้าของเรา ผู้คนจำนวนมากจะเห็นและเกิดความกลัว และจะให้ความไว้วางใจในพระผู้เป็นเจ้า
- เลวีนิติ 4:4 - เขาต้องนำโคตัวนั้นมาไว้ ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าที่ทางเข้ากระโจมที่นัดหมาย ให้เขาวางมือบนหัวโค และฆ่ามัน ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า
- เลวีนิติ 4:5 - ให้ปุโรหิตที่ได้รับการเจิมแล้วนำเลือดโคเข้าไปในกระโจมที่นัดหมาย
- เลวีนิติ 4:6 - ปุโรหิตจะจุ่มนิ้วในเลือดและประพรมที่หน้าม่านกั้น ของสถานที่บริสุทธิ์ 7 ครั้ง ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า
- เลวีนิติ 4:7 - และปุโรหิตจะป้ายเลือดที่เชิงงอนทั้งสี่ของแท่นเผาเครื่องหอม ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าในกระโจมที่นัดหมาย ให้เขาเทเลือดโคที่เหลือลงที่ฐานแท่นบูชาที่ใช้เผาสัตว์เพื่อเป็นของถวายซึ่งอยู่ทางเข้ากระโจมที่นัดหมาย
- เลวีนิติ 4:8 - ให้เขาเอาไขมันทั้งหมดจากโคหนุ่มนั้นที่เป็นเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป ไขมันหุ้มเครื่องในและติดกับเครื่องใน
- เลวีนิติ 4:9 - ไตมีไขมันติดทั้งสองข้างซึ่งอยู่ใกล้เอว และตับชิ้นยาวซึ่งเขาจะตัดมาพร้อมกับไต
- เลวีนิติ 4:10 - เหมือนกับไขมันที่ตัดมาจากโคที่ใช้เป็นเครื่องสักการะที่เป็นของถวายเพื่อสามัคคีธรรม และปุโรหิตจะเผาสิ่งเหล่านี้บนแท่นบูชาที่ใช้เผาสัตว์เพื่อเป็นของถวาย
- เลวีนิติ 4:11 - ส่วนหนังและเนื้อโคหนุ่ม หัวและขา เครื่องในและไส้
- เลวีนิติ 4:12 - คือทุกส่วนที่เหลือจากโคทั้งตัว ให้เขาเอามันออกไปนอกค่ายยังที่สะอาดของพิธีกรรม ซึ่งเป็นที่สำหรับทิ้งขี้เถ้า แล้วเผาที่กองไฟ ทิ้งขี้เถ้าไว้ที่ไหนก็เผาตรงนั้น
- เลวีนิติ 4:13 - ถ้ามวลชนชาวอิสราเอลทั้งกลุ่มกระทำบาปโดยไม่มีเจตนา แม้ว่าที่ประชุมไม่ทราบเรื่องว่าเขากระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่พระผู้เป็นเจ้าบัญชาไม่ให้ทำ และนับว่ามีความผิด
- เลวีนิติ 4:14 - เมื่อพวกเขารู้ตัวว่ากระทำบาป ที่ประชุมจะต้องถวายโคหนุ่มเป็นเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาปโดยนำมาหน้ากระโจมที่นัดหมาย
- ยอห์น 1:14 - คำกล่าวนั้นได้มาเกิดเป็นมนุษย์และพำนักอยู่ท่ามกลางเรา พวกเราได้เห็นพระบารมีของพระองค์ อันเป็นพระบารมีของพระบุตรองค์เดียวผู้มาจากพระบิดา บริบูรณ์ด้วยพระคุณและความจริง
- กาลาเทีย 4:4 - แต่เมื่อครบกำหนดเวลาแล้ว พระเจ้าได้ส่งพระบุตรของพระองค์มา เกิดจากผู้หญิง และเกิดภายใต้กฎบัญญัติ
- อิสยาห์ 53:11 - เมื่อจิตวิญญาณของพระองค์ทนทุกข์แล้ว พระองค์จะเห็นผลที่ได้รับและจะพอใจ ผู้รับใช้ของเราเป็นผู้มีความชอบธรรม พระองค์จะทำให้คนจำนวนมากพ้นผิดโดยความเข้าใจอันลึกซึ้งของพระองค์ และจะแบกรับบาปของพวกเขา
- ฮีบรู 2:14 - ในเมื่อบุตรทั้งหลายมีคุณสมบัติที่เป็นเลือดเนื้อ พระองค์เองมีส่วนร่วมในคุณสมบัติเช่นเดียวกัน เพื่อพระองค์จะได้ทำลายผู้มีอำนาจแห่งความตายคือพญามาร ด้วยการสิ้นชีวิตของพระองค์
- ยอห์น 17:4 - ข้าพเจ้าได้ให้พระบารมีแด่พระองค์ในโลก ด้วยเหตุว่าข้าพเจ้าได้ทำงานที่พระองค์ได้ให้ข้าพเจ้าทำเสร็จบริบูรณ์แล้ว
- ยอห์น 17:5 - พระบิดา บัดนี้ขอพระองค์โปรดให้ข้าพเจ้าได้รับพระบารมีร่วมกับพระองค์ ซึ่งเป็นพระบารมีที่ข้าพเจ้าเคยมีร่วมกับพระองค์ ก่อนที่โลกนี้จะมีมาด้วยเถิด
- มัทธิว 26:28 - เพราะนี่เป็นโลหิตแห่งพันธสัญญาของเราซึ่งหลั่งออกให้แก่คนจำนวนมาก เพื่อเป็นการยกโทษบาป
- มัทธิว 26:29 - เราขอบอกเจ้าว่า เราจะไม่ดื่มน้ำจากผลของเถาองุ่นอีก จนจะถึงวันนั้น คือวันที่เราจะดื่มกันใหม่กับพวกเจ้าในอาณาจักรของพระบิดาของเรา”
- มัทธิว 26:30 - หลังจากที่ได้ร้องเพลงสรรเสริญกันแล้วก็พากันออกไปยังภูเขามะกอก
- มัทธิว 26:31 - พระเยซูกล่าวกับพวกเขาว่า “พวกเจ้าทุกคนจะละทิ้งเราในคืนนี้ เพราะมีบันทึกไว้ว่า ‘เราจะฟาดฟันผู้เลี้ยงดูฝูงแกะ และบรรดาแกะในฝูงจะกระจัดกระจายไป’
- มัทธิว 26:32 - แต่หลังจากที่เราได้ฟื้นคืนชีวิตแล้ว เราจะไปล่วงหน้าพวกเจ้ายังแคว้นกาลิลี”
- มัทธิว 26:33 - แต่เปโตรพูดตอบพระองค์ว่า “แม้คนทั้งปวงจะละทิ้งพระองค์ ข้าพเจ้าไม่มีวันทิ้งพระองค์แน่นอน”
- มัทธิว 26:34 - พระเยซูกล่าวกับเขาว่า “เราขอบอกความจริงกับเจ้าว่า ในคืนวันนี้เอง ก่อนไก่จะขัน เจ้าจะปฏิเสธ 3 ครั้งว่าเจ้าไม่รู้จักเรา”
- มัทธิว 26:35 - เปโตรพูดกับพระเยซูว่า “ถึงแม้ข้าพเจ้าจะต้องตายไปด้วยกับพระองค์ ข้าพเจ้าก็จะไม่ปฏิเสธพระองค์” สาวกต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันอย่างนั้นทุกคน
- มัทธิว 26:36 - แล้วพระเยซูกับพวกสาวกมายังที่แห่งหนึ่งซึ่งเรียกว่าเกทเสมนี พระองค์กล่าวกับเหล่าสาวกว่า “จงนั่งลงที่นี่ขณะที่เราไปอธิษฐานที่โน่น”
- มัทธิว 26:37 - พระองค์พาเปโตรและบุตรชายทั้งสองของเศเบดีไปด้วย พระองค์เริ่มเศร้าใจและหนักใจ
- มัทธิว 26:38 - พระองค์กล่าวกับพวกเขาว่า “จิตใจของเราเป็นทุกข์เจียนตาย จงอยู่ตรงนี้ เฝ้าคอยอยู่กับเราเถิด”
- มัทธิว 26:39 - พระองค์เดินเลยพวกเขาไปเล็กน้อยแล้วซบหน้าลงที่พื้นดินอธิษฐานว่า “พระบิดาของข้าพเจ้า ถ้าเป็นไปได้ โปรดให้ถ้วยนี้ผ่านพ้นไปจากข้าพเจ้า ถึงกระนั้น ขออย่าให้เป็นไปตามความประสงค์ของข้าพเจ้า แต่ขอให้เป็นไปตามความประสงค์ของพระองค์เถิด”
- มัทธิว 26:40 - พระเยซูเดินมาหาเหล่าสาวกและพบว่าพวกเขากำลังนอนหลับกัน พระองค์กล่าวกับเปโตรว่า “พวกเจ้าไม่สามารถคอยเฝ้าอยู่กับเราสักชั่วโมงเดียวหรือ
- มัทธิว 26:41 - จงคอยเฝ้าและอธิษฐานเถิดว่า พวกเจ้าจะไม่ตกอยู่ในสิ่งยั่วยุ ฝ่ายวิญญาณมีความตั้งใจดี แต่ฝ่ายเนื้อหนังกลับอ่อนแอ”
- มัทธิว 26:42 - พระองค์เดินจากไปอีกเป็นครั้งที่สอง และอธิษฐานว่า “พระบิดาของข้าพเจ้า หากถ้วยนี้ผ่านข้าพเจ้าไปไม่ได้ นอกจากว่าข้าพเจ้าจะต้องดื่มก่อน ก็ขอให้เป็นไปตามความประสงค์ของพระองค์เถิด”
- มัทธิว 26:43 - แล้วพระเยซูกลับมาอีกก็พบว่าพวกเขานอนหลับกัน เพราะง่วงจนลืมตาไม่ขึ้น
- มัทธิว 26:44 - พระองค์เดินจากพวกเขาไปอีกและอธิษฐานเป็นครั้งที่สาม โดยกล่าวเช่นเดิมอีก
- สดุดี 69:1 - โอ พระเจ้า โปรดช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น เพราะน้ำท่วมถึงคอข้าพเจ้าแล้ว
- ลูกา 23:46 - พระเยซูร้องเสียงดังว่า “พระบิดา ข้าพเจ้าขอฝากวิญญาณของข้าพเจ้าไว้ในมือของพระองค์ด้วย” พระองค์กล่าวจบพร้อมกับหายใจเฮือกสุดท้าย
- ยอห์น 11:35 - พระเยซูร้องไห้
- ฮีบรู 12:28 - ฉะนั้นในเมื่อเรากำลังรับอาณาจักรที่ไม่อาจสั่นคลอนได้ ขอให้เราขอบคุณและนมัสการพระเจ้า ตามที่พระองค์โปรดด้วยความเคารพและยำเกรง
- ลูกา 22:41 - พระองค์เดินเลยพวกเขาไปได้ไกลประมาณขว้างก้อนหินตก และคุกเข่าลงอธิษฐาน
- ลูกา 22:42 - “พระบิดา ถ้าพระองค์ประสงค์ โปรดเอาถ้วยนี้ไปจากข้าพเจ้าเถิด ถึงกระนั้น ขออย่าให้เป็นไปตามความประสงค์ของข้าพเจ้า แต่ขอให้เป็นไปตามความประสงค์ของพระองค์เถิด”
- ลูกา 22:43 - ทูตสวรรค์องค์หนึ่งจากสวรรค์มาปรากฏแก่พระองค์ และช่วยให้มีกำลังใจดีขึ้น
- ลูกา 22:44 - พระเยซูปวดร้าวทุกข์ใจยิ่งนัก พระองค์จึงได้ตั้งจิตอธิษฐานมากยิ่งขึ้น เหงื่อของพระองค์เป็นดุจโลหิตหยาดหยดลงดิน
- สดุดี 22:24 - เพราะว่าพระองค์ไม่ได้ดูหมิ่นหรือชิงชังความทุกข์ของผู้ได้รับทุกข์ทรมาน พระองค์ไม่ได้ซ่อนหน้าจากเขา แต่ได้ยินในยามที่เขาร้องเรียกถึงพระองค์
- ยอห์น 17:1 - หลังจากที่พระเยซูได้พูดถึงสิ่งเหล่านี้แล้ว ก็เงยหน้าขึ้นสู่สวรรค์และกล่าวว่า “พระบิดา ถึงเวลาแล้ว ขอพระบารมีของพระองค์จงมีแด่พระบุตรของพระองค์เถิด เพื่อพระบุตรจะได้มอบพระบารมีให้แด่พระองค์
- ยอห์น 12:27 - ขณะนี้จิตใจของเราเป็นทุกข์ จะให้เราพูดอย่างไรดี จะให้พูดว่า ‘พระบิดา โปรดช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากช่วงเวลานี้เถิด’ อย่างนั้นหรือ ก็ไม่ได้ เป็นเพราะเหตุนี้เราจึงได้มาเผชิญช่วงเวลานี้อยู่
- ยอห์น 12:28 - พระบิดา ขอพระนามของพระองค์ได้รับพระบารมีเถิด” ในขณะนั้นได้มีเสียงจากสวรรค์ว่า “เราทั้งได้รับบารมีแล้ว และจะได้รับอีก”
- มาระโก 14:32 - พระเยซูและเหล่าสาวกมายังที่แห่งหนึ่งซึ่งเรียกว่าเกทเสมนี พระองค์กล่าวกับเหล่าสาวกของพระองค์ว่า “จงนั่งลงที่นี่ขณะที่เราอธิษฐาน”
- มาระโก 14:33 - พระองค์พาเปโตร ยากอบและยอห์นไปด้วย และพระองค์เจ็บปวดรวดร้าวและหนักใจมาก
- มาระโก 14:34 - พระองค์กล่าวกับพวกเขาว่า “จิตใจของเราเป็นทุกข์เจียนตาย จงอยู่ตรงนี้ และเฝ้าคอยเถิด”
- มาระโก 14:35 - พระองค์เดินเลยพวกเขาไปเล็กน้อยแล้วซบหน้าลงที่พื้นดิน แล้วอธิษฐานว่าถ้าเป็นไปได้ ขอให้เวลานั้นล่วงพ้นไปจากพระองค์
- มาระโก 14:36 - พระเยซูกล่าวว่า “อับบา พระบิดา ทุกสิ่งเป็นไปได้สำหรับพระองค์ โปรดเอาถ้วยนี้ไปจากข้าพเจ้าเถิด ถึงกระนั้น ขออย่าให้เป็นไปตามความประสงค์ของข้าพเจ้า แต่ขอให้เป็นไปตามความประสงค์ของพระองค์เถิด”
- มาระโก 14:37 - พระองค์มาพบว่าพวกเขากำลังนอนหลับกัน จึงกล่าวกับเปโตรว่า “ซีโมน เจ้านอนหลับหรือ เจ้าจะคอยเฝ้าสักชั่วโมงเดียวไม่ได้หรือ
- มาระโก 14:38 - จงคอยเฝ้าและอธิษฐานเถิดว่า พวกเจ้าจะไม่ตกอยู่ในสิ่งยั่วยุ ฝ่ายวิญญาณมีความตั้งใจดี แต่ฝ่ายเนื้อหนังกลับอ่อนแอ”
- มาระโก 14:39 - พระองค์เดินออกไปอธิษฐานอีก กล่าวคำอธิษฐานเหมือนเดิม
- มาระโก 15:34 - ในเวลาบ่าย 3 โมง พระเยซูร้องเสียงดังว่า “เอโลอี เอโลอี ลามา สะบักธานี” แปลได้ความว่า “พระเจ้าของข้าพเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า ทำไมพระองค์จึงทอดทิ้งข้าพเจ้า”
- มัทธิว 27:50 - พระเยซูร้องเสียงดังขึ้นอีกครั้ง และสิ้นชีวิต
- มาระโก 15:37 - พระเยซูร้องเสียงดัง และหายใจเฮือกสุดท้าย
- มัทธิว 27:46 - ประมาณเวลาบ่าย 3 โมง พระเยซูร้องขึ้นเสียงดังว่า “เอลี เอลี ลามา สะบักธานี” คือ “พระเจ้าของข้าพเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า ทำไมพระองค์จึงทอดทิ้งข้าพเจ้า”