Brand Logo
  • 圣经
  • 资源
  • 计划
  • 联系我们
  • APP下载
  • 圣经
  • 搜索
  • 原文研究
  • 逐节对照
我的
跟随系统浅色深色简体中文香港繁體台灣繁體English
奉献
46:19 TNCV
逐节对照
  • พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - บุตรของราเชลภรรยาของยาโคบได้แก่ โยเซฟและเบนยามิน
  • 新标点和合本 - 雅各之妻拉结的儿子是约瑟和便雅悯。
  • 和合本2010(上帝版-简体) - 雅各之妻拉结的儿子是约瑟和便雅悯。
  • 和合本2010(神版-简体) - 雅各之妻拉结的儿子是约瑟和便雅悯。
  • 当代译本 - 雅各的妻子拉结生的儿子是约瑟和便雅悯。
  • 圣经新译本 - 雅各的妻子拉结,生了约瑟和便雅悯。
  • 中文标准译本 - 雅各的妻子拉结的儿子约瑟、便雅悯;
  • 现代标点和合本 - 雅各之妻拉结的儿子是约瑟和便雅悯。
  • 和合本(拼音版) - 雅各之妻拉结的儿子是约瑟和便雅悯。
  • New International Version - The sons of Jacob’s wife Rachel: Joseph and Benjamin.
  • New International Reader's Version - The sons of Jacob’s wife Rachel were Joseph and Benjamin.
  • English Standard Version - The sons of Rachel, Jacob’s wife: Joseph and Benjamin.
  • New Living Translation - The sons of Jacob’s wife Rachel were Joseph and Benjamin.
  • The Message - The sons of Jacob’s wife Rachel were Joseph and Benjamin. Joseph was the father of two sons, Manasseh and Ephraim, from his marriage to Asenath daughter of Potiphera, priest of On. They were born to him in Egypt. Benjamin’s sons were Bela, Beker, Ashbel, Gera, Naaman, Ehi, Rosh, Muppim, Huppim, and Ard.
  • Christian Standard Bible - The sons of Jacob’s wife Rachel: Joseph and Benjamin.
  • New American Standard Bible - The sons of Jacob’s wife Rachel: Joseph and Benjamin.
  • New King James Version - The sons of Rachel, Jacob’s wife, were Joseph and Benjamin.
  • Amplified Bible - The sons of Rachel, Jacob’s wife: Joseph and Benjamin.
  • American Standard Version - The sons of Rachel Jacob’s wife: Joseph and Benjamin.
  • King James Version - The sons of Rachel Jacob's wife; Joseph, and Benjamin.
  • New English Translation - The sons of Rachel the wife of Jacob: Joseph and Benjamin.
  • World English Bible - The sons of Rachel, Jacob’s wife: Joseph and Benjamin.
  • 新標點和合本 - 雅各之妻拉結的兒子是約瑟和便雅憫。
  • 和合本2010(上帝版-繁體) - 雅各之妻拉結的兒子是約瑟和便雅憫。
  • 和合本2010(神版-繁體) - 雅各之妻拉結的兒子是約瑟和便雅憫。
  • 當代譯本 - 雅各的妻子拉結生的兒子是約瑟和便雅憫。
  • 聖經新譯本 - 雅各的妻子拉結,生了約瑟和便雅憫。
  • 呂振中譯本 - 雅各 的妻子 拉結 的兒子是 約瑟 和 便雅憫 ;
  • 中文標準譯本 - 雅各的妻子拉結的兒子約瑟、便雅憫;
  • 現代標點和合本 - 雅各之妻拉結的兒子是約瑟和便雅憫。
  • 文理和合譯本 - 雅各妻拉結之子、約瑟、便雅憫、
  • 文理委辦譯本 - 雅各之妻拉結生約瑟、便雅憫。
  • 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 雅各 妻 拉結 之子 約瑟 、 便雅憫 、
  • Nueva Versión Internacional - Los hijos de Raquel, la esposa de Jacob: José y Benjamín.
  • 현대인의 성경 - 야곱의 아내 라헬은 요셉과 베냐민 두 아들을 낳았는데
  • Новый Русский Перевод - Сыновья жены Иакова Рахили: Иосиф и Вениамин.
  • Восточный перевод - Сыновья жены Якуба Рахили: Юсуф и Вениамин.
  • Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Сыновья жены Якуба Рахили: Юсуф и Вениамин.
  • Восточный перевод, версия для Таджикистана - Сыновья жены Якуба Рахили: Юсуф и Вениамин.
  • La Bible du Semeur 2015 - Les fils de Rachel, femme de Jacob : Joseph et Benjamin.
  • リビングバイブル - この一族には、ヤコブとラケルに生まれた息子と孫、合わせて十四名も含まれます。ヨセフとベニヤミン。エジプトで生まれたヨセフの息子はマナセとエフライム〔母親はヘリオポリスの祭司ポティ・フェラの娘アセナテ〕。ベニヤミンの息子はベラ、ベケル、アシュベル、ゲラ、ナアマン、エヒ、ロシュ、ムピム、フピム、アルデ。
  • Nova Versão Internacional - Estes foram os filhos de Raquel, mulher de Jacó: José e Benjamim.
  • Hoffnung für alle - Nachkommen von Jakob und seiner Frau Rahel: Josef und seine Söhne Manasse und Ephraim. Sie wurden ihm in Ägypten von Asenat geboren. Asenat war die Tochter Potiferas, des Priesters von On. Benjamin und seine Söhne Bela, Becher, Aschbel, Gera, Naaman, Ehi, Rosch, Muppim, Huppim und Ard. Zusammen ergibt das 14 Nachkommen von Jakob und Rahel.
  • Kinh Thánh Hiện Đại - Các con trai của Ra-chên (vợ Gia-cốp) là Giô-sép và Bên-gia-min.
  • พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - ราเชล​ภรรยา​ยาโคบ​มี​บุตร​ชื่อ โยเซฟ และ​เบนยามิน
交叉引用
  • กันดารวิถี 26:38 - วงศ์วานของเบนยามินแยกตามตระกูล ได้แก่ ตระกูลเบลาจากเบลา ตระกูลอัชเบลจากอัชเบล ตระกูลอาหิรัมจากอาหิรัม
  • กันดารวิถี 26:39 - ตระกูลชูฟาม จากชูฟาม และตระกูลหุฟามจากหุฟาม
  • กันดารวิถี 26:40 - วงศ์วานของเบลาทางอาร์ดและนาอามาน ได้แก่ ตระกูลอาร์ดจากอาร์ด และตระกูลนาอามานจากนาอามาน
  • กันดารวิถี 26:41 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของเบนยามิน นับได้ 45,600 คน
  • ปฐมกาล 37:1 - ยาโคบตั้งถิ่นฐานในดินแดนที่บิดาของเขาเคยพักอยู่ คือดินแดนคานาอัน
  • ปฐมกาล 37:2 - นี่คือเรื่องราวเชื้อสายของยาโคบ ขณะที่โยเซฟอายุสิบเจ็ดปี เขาไปเลี้ยงสัตว์กับพวกพี่ชายต่างมารดา บุตรของนางบิลฮาห์และนางศิลปาห์ผู้เป็นภรรยาของบิดา โยเซฟเอาความผิดของพี่ชายมาเล่าให้บิดาฟัง
  • ปฐมกาล 37:3 - อิสราเอลนั้นรักโยเซฟมากกว่าบุตรชายคนอื่นๆ เพราะโยเซฟเกิดเมื่อเขาอายุมากแล้ว เขาให้เสื้อคลุมที่ตกแต่งอย่างงดงาม แก่โยเซฟ
  • ปฐมกาล 37:4 - เมื่อพวกพี่ๆ เห็นว่าพ่อรักโยเซฟมากกว่า พวกเขาจึงเกลียดชังโยเซฟและไม่ยอมพูดดีด้วย
  • ปฐมกาล 37:5 - โยเซฟฝัน และเมื่อเขาเล่าความฝันให้พี่น้องฟัง พวกเขาก็ยิ่งเกลียดโยเซฟมากขึ้น
  • ปฐมกาล 37:6 - โยเซฟกล่าวว่า “มา ฉันจะเล่าความฝันให้ฟัง
  • ปฐมกาล 37:7 - ในฝันนั้น พวกเรากำลังมัดฟ่อนข้าวอยู่ด้วยกันในทุ่งนา ทันใดนั้นฟ่อนข้าวของฉันก็ตั้งขึ้น ส่วนฟ่อนข้าวของพี่ๆ มาห้อมล้อมคำนับฟ่อนข้าวของฉัน”
  • ปฐมกาล 37:8 - พวกพี่ชายจึงพูดว่า “เจ้าคิดจะปกครองพวกเราอย่างนั้นหรือ? เจ้าจะปกครองพวกเราจริงๆ หรือ?” พวกเขาจึงเกลียดชังโยเซฟมากขึ้นเพราะความฝันและเพราะคำพูดของโยเซฟ
  • ปฐมกาล 37:9 - ต่อมาโยเซฟก็ฝันอีกและเล่าให้พี่น้องของเขาฟังว่า “ฟังสิ ฉันฝันอีกแล้ว ฉันฝันเห็นดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ กับดาวสิบเอ็ดดวงมาน้อมคำนับฉัน”
  • ปฐมกาล 37:10 - เมื่อเขาเล่าให้ทั้งพ่อและพี่น้องฟัง พ่อตำหนิเขาว่า “ที่เจ้าฝันนั้นหมายความว่าอย่างไร? แม่ของเจ้า ตัวข้า และพี่น้องของเจ้าจะต้องกราบคำนับเจ้าถึงดินอย่างนั้นหรือ?”
  • ปฐมกาล 37:11 - พวกพี่ชายอิจฉาโยเซฟ แต่บิดาของเขาเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ
  • ปฐมกาล 37:12 - วันหนึ่งพี่ๆ ของโยเซฟต้อนฝูงสัตว์ไปเลี้ยงใกล้เมืองเชเคม
  • ปฐมกาล 37:13 - อิสราเอลเรียกโยเซฟมาสั่งว่า “เจ้าก็รู้แล้วว่าพวกพี่ชายของเจ้าออกไปเลี้ยงสัตว์ใกล้เมืองเชเคม มาเถิด เราจะส่งเจ้าไปหาพวกเขา” เขาตอบว่า “ได้ขอรับ”
  • ปฐมกาล 37:14 - ดังนั้นอิสราเอลจึงกล่าวกับโยเซฟว่า “เจ้าจงไปดูว่าพวกพี่ชายของเจ้าและฝูงสัตว์เป็นอย่างไรกันบ้าง แล้วจงกลับมาบอกพ่อ” แล้วอิสราเอลจึงส่งเขาออกจากหุบเขาเฮโบรน เมื่อโยเซฟมาถึงเมืองเชเคม
  • ปฐมกาล 37:15 - ชายคนหนึ่งสังเกตเห็นเขาวนเวียนอยู่ในท้องทุ่งจึงถามว่า “เจ้ากำลังหาอะไร?”
  • ปฐมกาล 37:16 - เขาตอบว่า “ฉันกำลังหาพวกพี่ชายของฉัน ท่านทราบไหมว่าพวกเขาเลี้ยงสัตว์อยู่ที่ไหน?”
  • ปฐมกาล 37:17 - ชายคนนั้นตอบว่า “พวกเขาไปจากที่นี่แล้ว ข้าได้ยินพวกเขาพูดกันว่า ‘ให้เราไปเมืองโดธานกันเถิด’ ” โยเซฟจึงตามพวกพี่ชายไปและพบพวกเขาใกล้เมืองโดธาน
  • ปฐมกาล 37:18 - แต่พวกเขาเห็นโยเซฟแต่ไกล และก่อนที่โยเซฟจะมาถึง พวกพี่ชายก็คบคิดกันจะฆ่าโยเซฟ
  • ปฐมกาล 37:19 - พวกพี่ๆ ก็พูดกันว่า “เจ้าคนช่างฝันมานั่นแล้วไง!
  • ปฐมกาล 37:20 - เร็วเข้า ให้เราฆ่ามันและโยนศพมันทิ้งลงไปในบ่อสักบ่อหนึ่ง แล้วบอกว่ามันถูกสัตว์ร้ายขย้ำกินไปแล้ว ทีนี้เราจะได้เห็นกันว่าฝันของมันจะเป็นจริงได้อย่างไร”
  • ปฐมกาล 37:21 - เมื่อรูเบนได้ยินเช่นนี้ก็พยายามช่วยโยเซฟให้พ้นเงื้อมมือของพวกเขา รูเบนจึงกล่าวว่า “อย่าเอาชีวิตเขาเลย”
  • ปฐมกาล 37:22 - รูเบนกล่าวอีกว่า “อย่าลงมือฆ่าเขาเลย ให้เราโยนเขาลงไปในบ่อ ทิ้งไว้ในถิ่นกันดารนี้ อย่าลงมือทำอะไรเขาเลย” รูเบนพูดเช่นนี้เพราะเขาต้องการช่วยโยเซฟและพากลับไปหาพ่อ
  • ปฐมกาล 37:23 - ดังนั้นเมื่อโยเซฟมาถึง พวกพี่ๆ จึงกระชากเสื้อคลุมที่ตกแต่งอย่างงดงามของเขาออก
  • ปฐมกาล 37:24 - แล้วจับเขาโยนลงไปในบ่อร้างซึ่งไม่มีน้ำ
  • ปฐมกาล 37:25 - ขณะที่พวกพี่ๆ นั่งลงกินอาหารอยู่นั้น พวกเขาเงยหน้าขึ้นมองไปเห็นขบวนคาราวานของคนอิชมาเอลที่มาจากกิเลอาด ฝูงอูฐของพวกเขาบรรทุก เครื่องเทศ ยางไม้ และมดยอบ กำลังมุ่งหน้าไปยังอียิปต์
  • ปฐมกาล 37:26 - ยูดาห์จึงพูดกับพี่น้องของเขาว่า “เราจะได้ประโยชน์อะไร ถ้าเราฆ่าน้องของเราแล้วกลบเกลื่อนเรื่องนี้?
  • ปฐมกาล 37:27 - ให้เราขายโยเซฟให้พวกอิชมาเอลเถิด อย่าทำอะไรเขาเลย ถึงอย่างไรเขาก็เป็นพี่น้องของเรา เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกับเรา” พี่น้องก็เห็นด้วย
  • ปฐมกาล 37:28 - ฉะนั้นเมื่อพวกพ่อค้าชาวมีเดียนมาถึง พวกพี่ๆ จึงดึงโยเซฟขึ้นจากบ่อ แล้วขายโยเซฟให้คนอิชมาเอลไปเป็นเงิน 20 เชเขล และเขาก็พาโยเซฟไปอียิปต์
  • ปฐมกาล 37:29 - ฝ่ายรูเบนกลับมาที่บ่อน้ำแล้วไม่พบโยเซฟจึงฉีกเสื้อผ้าของตน
  • ปฐมกาล 37:30 - เขากลับมาหาน้องๆ และพูดว่า “เด็กนั้นไม่อยู่เสียแล้ว! พี่จะทำอย่างไรดี?”
  • ปฐมกาล 37:31 - พวกเขาจึงฆ่าแพะแล้วเอาเสื้อคลุมของโยเซฟจุ่มลงในเลือด
  • ปฐมกาล 37:32 - จากนั้นพวกเขาก็นำเสื้อคลุมที่ประดับประดาอย่างสวยงามตัวนั้นกลับไปให้บิดา และกล่าวว่า “พวกเราพบเสื้อตัวนี้ ขอให้พ่อตรวจดูว่าใช่เสื้อคลุมของลูกชายของพ่อหรือไม่”
  • ปฐมกาล 37:33 - ยาโคบจำเสื้อตัวนี้ได้จึงกล่าวว่า “นี่เป็นเสื้อคลุมของลูกเรา! สัตว์ร้ายได้ขย้ำเขาเสียแล้ว โยเซฟถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ แน่”
  • ปฐมกาล 37:34 - ยาโคบจึงฉีกเสื้อผ้าของตน นุ่งห่มผ้ากระสอบ และคร่ำครวญอาลัยถึงบุตรชายของเขาอยู่หลายวัน
  • ปฐมกาล 37:35 - บุตรชายหญิงทุกคนได้มาปลอบโยนเขา แต่เขาก็ไม่ฟังคำปลอบโยนและกล่าวว่า “อย่าเลย เราจะคร่ำครวญจนกว่าเราจะลงไปหาลูกของเราในแดนคนตาย” ดังนั้นพ่อของโยเซฟก็ร้องไห้อาลัยถึงเขา
  • ปฐมกาล 37:36 - ในขณะเดียวกัน ที่อียิปต์ คนมีเดียน ได้ขายโยเซฟให้แก่โปทิฟาร์ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นขุนนางคนหนึ่งของฟาโรห์
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:12 - เขากล่าวถึงเผ่าเบนยามินว่า “ขอให้ผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรักพักพิงในพระองค์อย่างมั่นคงปลอดภัย เพราะพระองค์ทรงปกป้องเขาวันยังค่ำ และให้ผู้ที่พระองค์ทรงรักพักอยู่แนบพระทรวงของพระองค์”
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:13 - เขากล่าวถึงเผ่าโยเซฟว่า “ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรดินแดนของเขา ด้วยน้ำค้างล้ำเลิศจากฟ้าสวรรค์เบื้องบน และด้วยห้วงน้ำลึกเบื้องล่าง
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:14 - ด้วยผลผลิตยอดเยี่ยมจากดวงตะวัน และด้วยผลผลิตที่ดีที่สุดตามฤดูกาล
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:15 - ด้วยของขวัญเลอเลิศจากภูเขาดึกดำบรรพ์ ด้วยความสมบูรณ์พูนผลจากภูเขาอันถาวรนิรันดร์
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:16 - ด้วยของขวัญล้ำค่าจากผืนแผ่นดิน และความอุดมสมบูรณ์จากพื้นพสุธา และด้วยความโปรดปรานจากพระองค์ผู้ประทับในพุ่มไม้ที่ลุกเป็นไฟ ขอให้พรทั้งปวงนี้มาเหนือโยเซฟ เหนือเจ้านายในหมู่พี่น้อง
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:17 - ผู้ทรงไว้ซึ่งศักดาดุจลูกวัวหนุ่มหัวปี เขาสัตว์ของเขาคือเขาของวัวป่า เขาจะขวิดประชาชาติทั้งหลายด้วยเขาสัตว์เหล่านั้น แม้ประชาชาติที่อยู่สุดปลายแผ่นดินโลก นี่แหละคือชนเอฟราอิมนับหมื่น และชนมนัสเสห์นับพัน”
  • ปฐมกาล 47:1 - โยเซฟจึงเข้าไปทูลฟาโรห์ว่า “บิดาและพี่น้องของข้าพระบาทจากคานาอัน พร้อมด้วยฝูงสัตว์และทรัพย์สมบัติได้มาถึงโกเชนแล้ว”
  • ปฐมกาล 47:2 - โยเซฟได้คัดเลือกพี่น้องของเขามาห้าคน แล้วเบิกตัวเข้าเฝ้าฟาโรห์
  • ปฐมกาล 47:3 - ฟาโรห์ตรัสถามว่า “พวกเจ้ามีอาชีพอะไร?” พวกเขาทูลว่า “ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทเป็นคนเลี้ยงแกะตามอย่างบรรพบุรุษของข้าพระบาททั้งหลาย”
  • ปฐมกาล 47:4 - พวกเขายังทูลฟาโรห์อีกว่า “พวกข้าพระบาทต้องมาอาศัยอยู่ที่นี่อย่างคนต่างด้าวสักระยะหนึ่ง เนื่องจากเกิดการกันดารอาหารอย่างรุนแรงในคานาอัน ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทไม่มีทุ่งหญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์ ดังนั้นขอโปรดอนุญาตให้ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทได้อาศัยในโกเชนเถิด”
  • ปฐมกาล 47:5 - ฟาโรห์ตรัสกับโยเซฟว่า “บิดากับพี่น้องของเจ้ามาหาเจ้าแล้ว
  • ปฐมกาล 47:6 - และเจ้าก็มีอำนาจเหนือแผ่นดินอียิปต์ จงให้บิดาและพี่น้องของเจ้าตั้งถิ่นฐานในส่วนที่ดีที่สุดของดินแดนนี้ จงให้พวกเขาอาศัยอยู่ในโกเชน และหากเจ้ารู้ว่าพี่น้องของเจ้าคนใดมีความสามารถพิเศษก็แต่งตั้งเขาให้ดูแลฝูงสัตว์ของเราด้วย”
  • ปฐมกาล 47:7 - จากนั้นโยเซฟก็นำตัวยาโคบผู้เป็นบิดามาเข้าเฝ้าฟาโรห์ หลังจากยาโคบถวายพระพร แด่ฟาโรห์แล้ว
  • ปฐมกาล 47:8 - ฟาโรห์ตรัสถามว่า “ท่านอายุเท่าไรแล้ว?”
  • ปฐมกาล 47:9 - ยาโคบทูลว่า “ข้าพเจ้าร่อนเร่มา 130 ปีแล้ว ปีเดือนของข้าพระบาทก็สั้นและลำเค็ญ ไม่ยืนยาวเหมือนบรรพบุรุษผู้มีชีวิตเร่ร่อนเช่นกัน”
  • ปฐมกาล 47:10 - แล้วยาโคบก็ถวายพระพร แด่ฟาโรห์และออกไป
  • ปฐมกาล 47:11 - โยเซฟจึงให้บิดาและพี่น้องของเขาอาศัยอยู่ในอียิปต์ และมอบที่ดินที่ดีที่สุดคือเมืองราเมเสสให้แก่พวกเขาตามรับสั่งของฟาโรห์
  • ปฐมกาล 47:12 - โยเซฟยังได้จัดหาอาหารให้บิดา พี่น้อง และทุกคนในครัวเรือนของบิดาของเขา รวมทั้งลูกหลานของพวกเขาทุกคนด้วย
  • ปฐมกาล 47:13 - ครั้งนั้นทั่วแผ่นดินไม่มีอาหาร เพราะการกันดารอาหารรุนแรงจนผู้คนทั่วอียิปต์และคานาอันต่างพากันอดอยากหิวโหย
  • ปฐมกาล 47:14 - ชาวอียิปต์และชาวคานาอันเอาเงินออกมาซื้อข้าวจนหมด โยเซฟรวบรวมเงินเข้าวังของฟาโรห์
  • ปฐมกาล 47:15 - เมื่อราษฎรชาวอียิปต์และคานาอันหมดเงินแล้ว ชาวอียิปต์ทั้งสิ้นต่างพากันมาหาโยเซฟ พวกเขาพูดว่า “โปรดให้อาหารแก่พวกเราเถิด เหตุใดเราจึงต้องตายไปต่อหน้าต่อตาท่าน? เงินของเราหมดแล้ว”
  • ปฐมกาล 47:16 - โยเซฟตอบว่า “ถ้าเช่นนั้นจงนำฝูงสัตว์มาให้เรา เราจะขายอาหารให้เจ้าโดยการแลกเปลี่ยนกับฝูงสัตว์ของเจ้า เพราะเจ้าไม่มีเงินแล้ว”
  • ปฐมกาล 47:17 - พวกเขาจึงนำฝูงสัตว์ของตนได้แก่ ม้า แกะและแพะ วัวและลา มาให้โยเซฟเพื่อแลกกับอาหาร ตลอดทั้งปีนั้นโยเซฟได้แลกอาหารกับฝูงสัตว์ทั้งหมดของประชาชน
  • ปฐมกาล 47:18 - เมื่อปีนั้นผ่านไป ราษฎรต่างพากันมาหาโยเซฟในปีต่อมา และพูดว่า “พวกเราไม่สามารถปิดบังความจริงกับเจ้านายของเราได้ พวกเราไม่มีเงินแล้ว และฝูงสัตว์ก็ตกเป็นของท่าน บัดนี้เราเหลือแต่ตัวกับที่ดินของเรา
  • ปฐมกาล 47:19 - เหตุใดตัวเราและดินแดนของเราจะต้องพินาศไปต่อหน้าต่อตาท่านด้วย? โปรดซื้อตัวเรากับที่ดินของพวกเราไว้เป็นค่าอาหารเถิด แล้วพวกเรากับดินแดนของเราจะเป็นทาสของฟาโรห์ โปรดให้เมล็ดพันธุ์ข้าวแก่พวกเราเถิด เพื่อพวกเราจะไม่อดตาย แต่มีชีวิตอยู่ได้ และแผ่นดินจะไม่ถูกปล่อยให้รกร้างว่างเปล่า”
  • ปฐมกาล 47:20 - ดังนั้นโยเซฟจึงซื้อที่ดินทั่วอียิปต์ให้ฟาโรห์ ชาวอียิปต์ทุกคนขายที่ดินของตนแก่เขา เพราะการกันดารอาหารนั้นรุนแรงยิ่งนัก ที่ดินทั่วประเทศก็ตกเป็นของฟาโรห์
  • ปฐมกาล 47:21 - และโยเซฟก็ลดฐานะของชาวอียิปต์ทั้งปวงให้อยู่ในฐานะทาส
  • ปฐมกาล 47:22 - อย่างไรก็ตาม โยเซฟก็ไม่ได้ซื้อที่ดินของปุโรหิตเพราะพวกเขาได้รับปันส่วนจากฟาโรห์ พวกเขามีอาหารเพียงพอเนื่องจากได้รับปันส่วนอาหารจากฟาโรห์เช่นกัน จึงไม่มีความจำเป็นต้องขายที่ดิน
  • ปฐมกาล 47:23 - โยเซฟกล่าวกับบรรดาราษฎรว่า “บัดนี้เราได้ซื้อตัวท่านกับที่ดินของท่านไว้เป็นกรรมสิทธิ์ของฟาโรห์แล้ว นี่เป็นเมล็ดพันธุ์ข้าว ท่านจงเอาไปเพาะปลูก
  • ปฐมกาล 47:24 - เมื่อเก็บเกี่ยวแล้วจงถวายหนึ่งในห้าแก่ฟาโรห์ อีกสี่ส่วนให้เจ้าเก็บไว้เป็นของตนเอง เพื่อใช้เป็นพันธุ์สำหรับเพาะปลูกและเป็นอาหารของตัวเจ้า ของครัวเรือนและลูกๆ ของเจ้า”
  • ปฐมกาล 47:25 - พวกเขากล่าวว่า “ท่านได้ช่วยชีวิตของพวกเราไว้ ขอให้นายท่านเมตตาเราเถิด พวกเราจะเป็นทาสของฟาโรห์”
  • ปฐมกาล 47:26 - โยเซฟจึงตราเป็นกฎหมายเกี่ยวกับที่ดินขึ้นในประเทศอียิปต์ซึ่งยังใช้อยู่จนทุกวันนี้ คือหนึ่งในห้าของผลผลิตทั้งหมดต้องตกเป็นของฟาโรห์ มีเฉพาะที่ดินของปุโรหิตเท่านั้นที่ไม่ได้กลายเป็นของฟาโรห์
  • ปฐมกาล 47:27 - บัดนี้ชนอิสราเอลตั้งถิ่นฐานอยู่ในดินแดนโกเชนที่อียิปต์ พวกเขาครอบครองกรรมสิทธิ์ที่นั่นและมีลูกมีหลานทวีจำนวนขึ้นมากมาย
  • ปฐมกาล 47:28 - ยาโคบมีชีวิตอยู่ในอียิปต์ 17 ปี เขามีอายุรวมทั้งสิ้น 147 ปี
  • ปฐมกาล 47:29 - เมื่ออิสราเอลใกล้จะตาย เขาเรียกโยเซฟลูกชายของเขาเข้ามาสั่งว่า “หากเจ้าจะกรุณาเรา เจ้าจงเอามือของเจ้าไว้ที่หว่างขาของเรา และจงสัญญาว่าเจ้าจะสำแดงความเมตตาและความซื่อสัตย์ต่อเรา คืออย่าฝังศพเราไว้ที่อียิปต์
  • ปฐมกาล 47:30 - แต่เมื่อเราล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของเราแล้ว จงนำศพเราออกจากอียิปต์ไปฝังไว้ที่เดียวกับบรรพบุรุษของเรา” โยเซฟตอบว่า “เราจะทำตามที่พ่อสั่ง”
  • ปฐมกาล 47:31 - ยาโคบบอกอีกว่า “จงสาบานกับพ่อ” โยเซฟก็สาบาน แล้วอิสราเอลก็นมัสการและก้มลงที่หัวไม้เท้า
  • ปฐมกาล 50:1 - โยเซฟโผเข้าไปหาร่างของบิดา ร้องไห้และจูบเขา
  • ปฐมกาล 50:2 - หลังจากนั้นโยเซฟจึงสั่งให้บรรดาหมอซึ่งรับใช้ตนอยู่นั้นอาบยารักษาศพอิสราเอลบิดาของเขาไว้ พวกหมอก็อาบยารักษาศพอิสราเอล
  • ปฐมกาล 50:3 - การอาบยานี้ใช้เวลาสี่สิบวันเต็ม และชาวอียิปต์ก็ไว้ทุกข์ให้อิสราเอลเจ็ดสิบวัน
  • ปฐมกาล 50:4 - เมื่อเวลาไว้ทุกข์สิ้นสุดลงแล้ว โยเซฟก็พูดกับข้าราชสำนักของฟาโรห์ว่า “หากเราเป็นที่โปรดปรานในสายตาของท่าน โปรดทูลฟาโรห์แทนเราว่า
  • ปฐมกาล 50:5 - ‘บิดาของโยเซฟให้เขาสาบานและกล่าวกับเขาว่า “เรากำลังจะตาย จงฝังเราไว้ในสุสานที่เราขุดไว้เพื่อตนเองในคานาอัน” บัดนี้เราขอประทานอนุญาตไปฝังศพบิดาแล้วจะกลับมา’ ”
  • ปฐมกาล 50:6 - ฟาโรห์ตรัสว่า “จงไปฝังศพบิดาตามที่สาบานไว้เถิด”
  • ปฐมกาล 50:7 - ดังนั้นโยเซฟจึงไปฝังศพบิดาพร้อมข้าราชบริพารทั้งสิ้นของฟาโรห์ได้แก่ ผู้มีเกียรติของราชสำนักและผู้มีเกียรติทั้งปวงของอียิปต์
  • ปฐมกาล 50:8 - รวมทั้งสมาชิกทุกคนในครัวเรือนของโยเซฟ พวกพี่น้องและคนในครัวเรือนของบิดา มีเพียงเด็กๆ และฝูงสัตว์ทั้งหลายยังอยู่ที่โกเชน
  • ปฐมกาล 50:9 - ขบวนรถม้าศึกและพลม้า ก็ติดตามโยเซฟไปด้วย ขบวนผู้ติดตามใหญ่โตเป็นกองทัพ
  • ปฐมกาล 50:10 - เมื่อพวกเขามาถึงลานนวดข้าวที่อาทาดใกล้แม่น้ำจอร์แดน พวกเขาก็ร้องไห้คร่ำครวญอย่างขมขื่นเสียงดังมาก โยเซฟไว้ทุกข์ให้บิดาเจ็ดวัน
  • ปฐมกาล 50:11 - เมื่อชาวคานาอันผู้อาศัยอยู่ที่นั่นเห็นการไว้ทุกข์ที่ลานนวดข้าวที่อาทาด พวกเขาพูดกันว่า “ชาวอียิปต์เหล่านี้กำลังประกอบพิธีไว้ทุกข์ครั้งใหญ่” จึงเรียกชื่อสถานที่ใกล้แม่น้ำจอร์แดนนั้นว่าอาเบลมิสราอิม
  • ปฐมกาล 50:12 - ดังนั้นบุตรชายทั้งหลายของยาโคบจึงได้ปฏิบัติตามคำสั่งของเขา
  • ปฐมกาล 50:13 - พวกเขานำศพของยาโคบมายังดินแดนคานาอันและฝังไว้ในถ้ำที่อยู่ในทุ่งนาชื่อมัคเปลาห์ใกล้มัมเร ซึ่งอับราฮัมซื้อไว้เป็นที่ฝังศพจากเอโฟรนชาวฮิตไทต์พร้อมกับทุ่งนา
  • ปฐมกาล 50:14 - หลังจากฝังศพบิดาแล้ว โยเซฟจึงกลับไปยังอียิปต์พร้อมพี่น้องและทุกคนที่ติดตามมาร่วมพิธีฝังศพบิดาของเขา
  • ปฐมกาล 35:24 - บุตรชายที่เกิดจากราเชล ได้แก่ โยเซฟและเบนยามิน
  • ปฐมกาล 30:24 - นางตั้งชื่อเขาว่าโยเซฟ และกล่าวว่า “ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเพิ่มลูกชายให้ฉันอีกคนหนึ่ง”
  • ปฐมกาล 39:1 - บัดนี้โยเซฟถูกนำมาถึงอียิปต์ คนอิชมาเอลได้ขายเขาให้กับโปทิฟาร์ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ซึ่งเป็นขุนนางคนหนึ่งของฟาโรห์
  • ปฐมกาล 39:2 - องค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับโยเซฟและทรงอวยพรให้เขาเจริญรุ่งเรืองขึ้นในบ้านของเจ้านายชาวอียิปต์
  • ปฐมกาล 39:3 - เมื่อนายเห็นว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับเขา และองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานความสำเร็จในทุกสิ่งที่เขาทำ
  • ปฐมกาล 39:4 - โยเซฟจึงเป็นที่โปรดปรานและกลายเป็นคนสนิทของนาย โปทิฟาร์จึงตั้งให้โยเซฟดูแลครัวเรือนของเขา และมอบทุกสิ่งที่เขามีอยู่ไว้ในมือของโยเซฟ
  • ปฐมกาล 39:5 - ตั้งแต่นายมอบหมายให้โยเซฟดูแลทุกสิ่งในครัวเรือนและทุกสิ่งที่เขามี องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรครอบครัวของคนอียิปต์นั้นเพราะเห็นแก่โยเซฟ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรทุกสิ่งของโปทิฟาร์ทั้งในบ้านและในทุ่งนา
  • ปฐมกาล 39:6 - ดังนั้นโปทิฟาร์จึงไว้ใจให้โยเซฟดูแลทุกสิ่งที่เขามี เมื่อมีโยเซฟเป็นผู้ดูแล เขาไม่ต้องรับรู้เรื่องใดเลย เว้นแต่อาหารที่จะรับประทาน โยเซฟเป็นชายรูปหล่อหุ่นดี
  • ปฐมกาล 39:7 - จากนั้นไม่นานภรรยาของเจ้านายจ้องมองโยเซฟตาเป็นมัน นางจึงชวนเขาว่า “มานอนกับฉันสิ!”
  • ปฐมกาล 39:8 - แต่โยเซฟปฏิเสธและกล่าวกับนางว่า “ภายใต้การดูแลของข้า นายไม่ต้องรับรู้เรื่องใดในบ้านเลย ทุกสิ่งที่นายมีอยู่ นายก็มอบให้ข้าจัดการ
  • ปฐมกาล 39:9 - ในบ้านนี้ไม่มีใครใหญ่เกินข้า เจ้านายของข้าไม่หวงสิ่งใดกับข้านอกจากท่าน เพราะท่านเป็นภรรยาของนาย ข้าจะทำสิ่งชั่วร้ายเช่นนี้และทำบาปต่อพระเจ้าได้อย่างไร?”
  • ปฐมกาล 39:10 - แม้นางชวนโยเซฟวันแล้ววันเล่า เขาก็ปฏิเสธที่จะหลับนอนกับนางหรือแม้แต่จะอยู่ใกล้นาง
  • ปฐมกาล 39:11 - วันหนึ่งขณะที่โยเซฟเข้าไปในบ้านเพื่อทำงานตามหน้าที่ของเขา ขณะนั้นไม่มีคนรับใช้อื่นๆ อยู่ในบ้านเลย
  • ปฐมกาล 39:12 - ภรรยาของโปทิฟาร์เข้ามากระชากเสื้อของโยเซฟไว้แล้วบอกว่า “มานอนกับฉันเถิด!” แต่เขาทิ้งเสื้อไว้ในมือของนางแล้ววิ่งหนีออกไปนอกบ้าน
  • ปฐมกาล 39:13 - เมื่อนางเห็นว่าเสื้อของโยเซฟอยู่ในมือ และตัวเขาวิ่งออกไปนอกบ้านแล้ว
  • ปฐมกาล 39:14 - นางจึงเรียกคนรับใช้คนอื่นๆ ในบ้านมาและกล่าวว่า “ดูสิ สามีฉันนำเจ้าฮีบรูคนนี้มาหยามพวกเรา มันเข้ามาที่นี่และจะหลับนอนกับข้า แต่ข้ากรีดร้องขึ้น
  • ปฐมกาล 39:15 - เมื่อมันได้ยินข้าร้องขอความช่วยเหลือ มันจึงทิ้งเสื้อไว้ข้างตัวข้าแล้ววิ่งหนีออกจากบ้านไป”
  • ปฐมกาล 39:16 - นางเก็บเสื้อตัวนั้นไว้จนกระทั่งสามีกลับมาบ้าน
  • ปฐมกาล 39:17 - แล้วนางจึงเล่าเรื่องนี้ให้สามีฟังว่า “เจ้าฮีบรูคนนั้นที่ท่านนำมาให้พวกเราจะเข้ามาหยามข้า
  • ปฐมกาล 39:18 - แต่ทันทีที่ข้ากรีดร้องขอความช่วยเหลือ มันจึงทิ้งเสื้อไว้ข้างตัวข้าแล้ววิ่งหนีออกจากบ้านไป”
  • ปฐมกาล 39:19 - เมื่อเจ้านายของโยเซฟได้ยินเรื่องนี้จากภรรยาของเขาซึ่งกล่าวว่า “นี่เป็นสิ่งที่ทาสของท่านทำกับข้า” เขาจึงโกรธจัด
  • ปฐมกาล 39:20 - และเจ้านายนำโยเซฟมาขังไว้ในคุกหลวง แต่ขณะที่โยเซฟถูกขังอยู่ในคุกนั้น
  • ปฐมกาล 39:21 - องค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับโยเซฟ ทรงกรุณาเขา และทำให้โยเซฟเป็นที่โปรดปรานในสายตาของพัศดี
  • ปฐมกาล 39:22 - ดังนั้นพัศดีจึงตั้งให้โยเซฟเป็นผู้ดูแลนักโทษทุกคน และให้เขารับผิดชอบงานทุกอย่างในคุก
  • ปฐมกาล 39:23 - พัศดีผู้นั้นไม่ต้องใส่ใจต่อสิ่งใดๆ ที่อยู่ภายใต้การดูแลของโยเซฟ เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับโยเซฟและประทานความสำเร็จในทุกสิ่งที่เขาทำ
  • 1พงศาวดาร 2:2 - ดาน โยเซฟ เบนยามิน นัฟทาลี กาด และอาเชอร์ ( นรธ.4:18-22 ; มธ.1:3-6 )
  • อพยพ 1:3 - อิสสาคาร์ เศบูลุน เบนยามิน
  • ปฐมกาล 35:16 - จากนั้นพวกเขาเดินทางออกจากเบธเอล ขณะที่พวกเขาใกล้จะถึงเอฟราธาห์ ราเชลเริ่มเจ็บท้องคลอดและทรมานมาก
  • ปฐมกาล 35:17 - ขณะที่กำลังทุรนทุรายอยู่นั้น นางผดุงครรภ์ก็ปลอบว่า “อย่ากลัวเลย เพราะเธอกำลังจะได้ลูกชายอีกคน”
  • ปฐมกาล 35:18 - ขณะที่ราเชลกำลังจะสิ้นลมหายใจ นางตั้งชื่อลูกว่าเบนโอนี แต่ยาโคบเรียกเขาว่าเบนยามิน
  • อพยพ 1:5 - วงศ์วานของยาโคบที่เข้าไปในอียิปต์กับเขานับได้ทั้งหมดเจ็ดสิบคน ส่วนโยเซฟอยู่ที่นั่นแล้ว
  • ปฐมกาล 49:22 - “โยเซฟเป็นเถาองุ่นที่ผลิดอกออกผล เป็นเถาองุ่นที่ผลิดอกออกผลอยู่ใกล้น้ำพุ กิ่งเถาของมันเลื้อยข้ามกำแพง
  • ปฐมกาล 49:23 - พลธนูโจมตีเขาด้วยความเคียดแค้น ยิงเข้าใส่เขาด้วยใจเกลียดชัง
  • ปฐมกาล 49:24 - แต่ธนูของเขานิ่งไม่สั่นไหว แขนของเขาแข็งแรงไม่อ่อนล้า เนื่องด้วยพระหัตถ์ขององค์ผู้ทรงฤทธิ์ของยาโคบ เนื่องด้วยพระผู้เลี้ยง พระศิลาของอิสราเอล
  • ปฐมกาล 49:25 - เนื่องด้วยพระเจ้าของบิดาเจ้าผู้ทรงช่วยเจ้า เนื่องด้วยองค์ทรงฤทธิ์ผู้ทรงอวยพรเจ้า ด้วยพรแห่งสวรรค์เบื้องบน พรแห่งที่ลึกเบื้องล่าง พรแห่งอ้อมอกและครรภ์
  • ปฐมกาล 49:26 - พรจากบิดาของเจ้ายิ่งใหญ่ กว่าพรแห่งภูเขาดึกดำบรรพ์ กว่า ความอุดมแห่งเนินเขาเก่าแก่ ขอพระพรเหล่านี้จงอยู่บนศีรษะของโยเซฟ อยู่บนกระหม่อมของเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ท่ามกลาง พี่น้องของเจ้า
  • ปฐมกาล 49:27 - “เบนยามินเป็นสุนัขป่าที่หิวโซ ในตอนเช้าเขาขย้ำเหยื่อ ในตอนเย็นเขาแบ่งของที่ยึดมาได้”
  • กันดารวิถี 1:36 - จากวงศ์วานของเบนยามิน ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อตามตระกูลและตามครอบครัว
  • กันดารวิถี 1:37 - จำนวนพลจากเผ่าเบนยามิน 35,400 คน
  • ปฐมกาล 29:18 - ยาโคบหลงรักราเชลจึงกล่าวว่า “ฉันจะทำงานให้ท่านเจ็ดปีเพื่อแลกกับราเชลลูกสาวคนเล็กเป็นค่าตอบแทน”
  • ปฐมกาล 44:27 - “แล้วพ่อของเราผู้รับใช้ของท่านจึงพูดกับพวกเราว่า ‘เจ้าก็รู้ว่าภรรยาคนนี้ของพ่อมีลูกชายให้พ่อสองคน
逐节对照交叉引用
  • พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - บุตรของราเชลภรรยาของยาโคบได้แก่ โยเซฟและเบนยามิน
  • 新标点和合本 - 雅各之妻拉结的儿子是约瑟和便雅悯。
  • 和合本2010(上帝版-简体) - 雅各之妻拉结的儿子是约瑟和便雅悯。
  • 和合本2010(神版-简体) - 雅各之妻拉结的儿子是约瑟和便雅悯。
  • 当代译本 - 雅各的妻子拉结生的儿子是约瑟和便雅悯。
  • 圣经新译本 - 雅各的妻子拉结,生了约瑟和便雅悯。
  • 中文标准译本 - 雅各的妻子拉结的儿子约瑟、便雅悯;
  • 现代标点和合本 - 雅各之妻拉结的儿子是约瑟和便雅悯。
  • 和合本(拼音版) - 雅各之妻拉结的儿子是约瑟和便雅悯。
  • New International Version - The sons of Jacob’s wife Rachel: Joseph and Benjamin.
  • New International Reader's Version - The sons of Jacob’s wife Rachel were Joseph and Benjamin.
  • English Standard Version - The sons of Rachel, Jacob’s wife: Joseph and Benjamin.
  • New Living Translation - The sons of Jacob’s wife Rachel were Joseph and Benjamin.
  • The Message - The sons of Jacob’s wife Rachel were Joseph and Benjamin. Joseph was the father of two sons, Manasseh and Ephraim, from his marriage to Asenath daughter of Potiphera, priest of On. They were born to him in Egypt. Benjamin’s sons were Bela, Beker, Ashbel, Gera, Naaman, Ehi, Rosh, Muppim, Huppim, and Ard.
  • Christian Standard Bible - The sons of Jacob’s wife Rachel: Joseph and Benjamin.
  • New American Standard Bible - The sons of Jacob’s wife Rachel: Joseph and Benjamin.
  • New King James Version - The sons of Rachel, Jacob’s wife, were Joseph and Benjamin.
  • Amplified Bible - The sons of Rachel, Jacob’s wife: Joseph and Benjamin.
  • American Standard Version - The sons of Rachel Jacob’s wife: Joseph and Benjamin.
  • King James Version - The sons of Rachel Jacob's wife; Joseph, and Benjamin.
  • New English Translation - The sons of Rachel the wife of Jacob: Joseph and Benjamin.
  • World English Bible - The sons of Rachel, Jacob’s wife: Joseph and Benjamin.
  • 新標點和合本 - 雅各之妻拉結的兒子是約瑟和便雅憫。
  • 和合本2010(上帝版-繁體) - 雅各之妻拉結的兒子是約瑟和便雅憫。
  • 和合本2010(神版-繁體) - 雅各之妻拉結的兒子是約瑟和便雅憫。
  • 當代譯本 - 雅各的妻子拉結生的兒子是約瑟和便雅憫。
  • 聖經新譯本 - 雅各的妻子拉結,生了約瑟和便雅憫。
  • 呂振中譯本 - 雅各 的妻子 拉結 的兒子是 約瑟 和 便雅憫 ;
  • 中文標準譯本 - 雅各的妻子拉結的兒子約瑟、便雅憫;
  • 現代標點和合本 - 雅各之妻拉結的兒子是約瑟和便雅憫。
  • 文理和合譯本 - 雅各妻拉結之子、約瑟、便雅憫、
  • 文理委辦譯本 - 雅各之妻拉結生約瑟、便雅憫。
  • 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 雅各 妻 拉結 之子 約瑟 、 便雅憫 、
  • Nueva Versión Internacional - Los hijos de Raquel, la esposa de Jacob: José y Benjamín.
  • 현대인의 성경 - 야곱의 아내 라헬은 요셉과 베냐민 두 아들을 낳았는데
  • Новый Русский Перевод - Сыновья жены Иакова Рахили: Иосиф и Вениамин.
  • Восточный перевод - Сыновья жены Якуба Рахили: Юсуф и Вениамин.
  • Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Сыновья жены Якуба Рахили: Юсуф и Вениамин.
  • Восточный перевод, версия для Таджикистана - Сыновья жены Якуба Рахили: Юсуф и Вениамин.
  • La Bible du Semeur 2015 - Les fils de Rachel, femme de Jacob : Joseph et Benjamin.
  • リビングバイブル - この一族には、ヤコブとラケルに生まれた息子と孫、合わせて十四名も含まれます。ヨセフとベニヤミン。エジプトで生まれたヨセフの息子はマナセとエフライム〔母親はヘリオポリスの祭司ポティ・フェラの娘アセナテ〕。ベニヤミンの息子はベラ、ベケル、アシュベル、ゲラ、ナアマン、エヒ、ロシュ、ムピム、フピム、アルデ。
  • Nova Versão Internacional - Estes foram os filhos de Raquel, mulher de Jacó: José e Benjamim.
  • Hoffnung für alle - Nachkommen von Jakob und seiner Frau Rahel: Josef und seine Söhne Manasse und Ephraim. Sie wurden ihm in Ägypten von Asenat geboren. Asenat war die Tochter Potiferas, des Priesters von On. Benjamin und seine Söhne Bela, Becher, Aschbel, Gera, Naaman, Ehi, Rosch, Muppim, Huppim und Ard. Zusammen ergibt das 14 Nachkommen von Jakob und Rahel.
  • Kinh Thánh Hiện Đại - Các con trai của Ra-chên (vợ Gia-cốp) là Giô-sép và Bên-gia-min.
  • พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - ราเชล​ภรรยา​ยาโคบ​มี​บุตร​ชื่อ โยเซฟ และ​เบนยามิน
  • กันดารวิถี 26:38 - วงศ์วานของเบนยามินแยกตามตระกูล ได้แก่ ตระกูลเบลาจากเบลา ตระกูลอัชเบลจากอัชเบล ตระกูลอาหิรัมจากอาหิรัม
  • กันดารวิถี 26:39 - ตระกูลชูฟาม จากชูฟาม และตระกูลหุฟามจากหุฟาม
  • กันดารวิถี 26:40 - วงศ์วานของเบลาทางอาร์ดและนาอามาน ได้แก่ ตระกูลอาร์ดจากอาร์ด และตระกูลนาอามานจากนาอามาน
  • กันดารวิถี 26:41 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของเบนยามิน นับได้ 45,600 คน
  • ปฐมกาล 37:1 - ยาโคบตั้งถิ่นฐานในดินแดนที่บิดาของเขาเคยพักอยู่ คือดินแดนคานาอัน
  • ปฐมกาล 37:2 - นี่คือเรื่องราวเชื้อสายของยาโคบ ขณะที่โยเซฟอายุสิบเจ็ดปี เขาไปเลี้ยงสัตว์กับพวกพี่ชายต่างมารดา บุตรของนางบิลฮาห์และนางศิลปาห์ผู้เป็นภรรยาของบิดา โยเซฟเอาความผิดของพี่ชายมาเล่าให้บิดาฟัง
  • ปฐมกาล 37:3 - อิสราเอลนั้นรักโยเซฟมากกว่าบุตรชายคนอื่นๆ เพราะโยเซฟเกิดเมื่อเขาอายุมากแล้ว เขาให้เสื้อคลุมที่ตกแต่งอย่างงดงาม แก่โยเซฟ
  • ปฐมกาล 37:4 - เมื่อพวกพี่ๆ เห็นว่าพ่อรักโยเซฟมากกว่า พวกเขาจึงเกลียดชังโยเซฟและไม่ยอมพูดดีด้วย
  • ปฐมกาล 37:5 - โยเซฟฝัน และเมื่อเขาเล่าความฝันให้พี่น้องฟัง พวกเขาก็ยิ่งเกลียดโยเซฟมากขึ้น
  • ปฐมกาล 37:6 - โยเซฟกล่าวว่า “มา ฉันจะเล่าความฝันให้ฟัง
  • ปฐมกาล 37:7 - ในฝันนั้น พวกเรากำลังมัดฟ่อนข้าวอยู่ด้วยกันในทุ่งนา ทันใดนั้นฟ่อนข้าวของฉันก็ตั้งขึ้น ส่วนฟ่อนข้าวของพี่ๆ มาห้อมล้อมคำนับฟ่อนข้าวของฉัน”
  • ปฐมกาล 37:8 - พวกพี่ชายจึงพูดว่า “เจ้าคิดจะปกครองพวกเราอย่างนั้นหรือ? เจ้าจะปกครองพวกเราจริงๆ หรือ?” พวกเขาจึงเกลียดชังโยเซฟมากขึ้นเพราะความฝันและเพราะคำพูดของโยเซฟ
  • ปฐมกาล 37:9 - ต่อมาโยเซฟก็ฝันอีกและเล่าให้พี่น้องของเขาฟังว่า “ฟังสิ ฉันฝันอีกแล้ว ฉันฝันเห็นดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ กับดาวสิบเอ็ดดวงมาน้อมคำนับฉัน”
  • ปฐมกาล 37:10 - เมื่อเขาเล่าให้ทั้งพ่อและพี่น้องฟัง พ่อตำหนิเขาว่า “ที่เจ้าฝันนั้นหมายความว่าอย่างไร? แม่ของเจ้า ตัวข้า และพี่น้องของเจ้าจะต้องกราบคำนับเจ้าถึงดินอย่างนั้นหรือ?”
  • ปฐมกาล 37:11 - พวกพี่ชายอิจฉาโยเซฟ แต่บิดาของเขาเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ
  • ปฐมกาล 37:12 - วันหนึ่งพี่ๆ ของโยเซฟต้อนฝูงสัตว์ไปเลี้ยงใกล้เมืองเชเคม
  • ปฐมกาล 37:13 - อิสราเอลเรียกโยเซฟมาสั่งว่า “เจ้าก็รู้แล้วว่าพวกพี่ชายของเจ้าออกไปเลี้ยงสัตว์ใกล้เมืองเชเคม มาเถิด เราจะส่งเจ้าไปหาพวกเขา” เขาตอบว่า “ได้ขอรับ”
  • ปฐมกาล 37:14 - ดังนั้นอิสราเอลจึงกล่าวกับโยเซฟว่า “เจ้าจงไปดูว่าพวกพี่ชายของเจ้าและฝูงสัตว์เป็นอย่างไรกันบ้าง แล้วจงกลับมาบอกพ่อ” แล้วอิสราเอลจึงส่งเขาออกจากหุบเขาเฮโบรน เมื่อโยเซฟมาถึงเมืองเชเคม
  • ปฐมกาล 37:15 - ชายคนหนึ่งสังเกตเห็นเขาวนเวียนอยู่ในท้องทุ่งจึงถามว่า “เจ้ากำลังหาอะไร?”
  • ปฐมกาล 37:16 - เขาตอบว่า “ฉันกำลังหาพวกพี่ชายของฉัน ท่านทราบไหมว่าพวกเขาเลี้ยงสัตว์อยู่ที่ไหน?”
  • ปฐมกาล 37:17 - ชายคนนั้นตอบว่า “พวกเขาไปจากที่นี่แล้ว ข้าได้ยินพวกเขาพูดกันว่า ‘ให้เราไปเมืองโดธานกันเถิด’ ” โยเซฟจึงตามพวกพี่ชายไปและพบพวกเขาใกล้เมืองโดธาน
  • ปฐมกาล 37:18 - แต่พวกเขาเห็นโยเซฟแต่ไกล และก่อนที่โยเซฟจะมาถึง พวกพี่ชายก็คบคิดกันจะฆ่าโยเซฟ
  • ปฐมกาล 37:19 - พวกพี่ๆ ก็พูดกันว่า “เจ้าคนช่างฝันมานั่นแล้วไง!
  • ปฐมกาล 37:20 - เร็วเข้า ให้เราฆ่ามันและโยนศพมันทิ้งลงไปในบ่อสักบ่อหนึ่ง แล้วบอกว่ามันถูกสัตว์ร้ายขย้ำกินไปแล้ว ทีนี้เราจะได้เห็นกันว่าฝันของมันจะเป็นจริงได้อย่างไร”
  • ปฐมกาล 37:21 - เมื่อรูเบนได้ยินเช่นนี้ก็พยายามช่วยโยเซฟให้พ้นเงื้อมมือของพวกเขา รูเบนจึงกล่าวว่า “อย่าเอาชีวิตเขาเลย”
  • ปฐมกาล 37:22 - รูเบนกล่าวอีกว่า “อย่าลงมือฆ่าเขาเลย ให้เราโยนเขาลงไปในบ่อ ทิ้งไว้ในถิ่นกันดารนี้ อย่าลงมือทำอะไรเขาเลย” รูเบนพูดเช่นนี้เพราะเขาต้องการช่วยโยเซฟและพากลับไปหาพ่อ
  • ปฐมกาล 37:23 - ดังนั้นเมื่อโยเซฟมาถึง พวกพี่ๆ จึงกระชากเสื้อคลุมที่ตกแต่งอย่างงดงามของเขาออก
  • ปฐมกาล 37:24 - แล้วจับเขาโยนลงไปในบ่อร้างซึ่งไม่มีน้ำ
  • ปฐมกาล 37:25 - ขณะที่พวกพี่ๆ นั่งลงกินอาหารอยู่นั้น พวกเขาเงยหน้าขึ้นมองไปเห็นขบวนคาราวานของคนอิชมาเอลที่มาจากกิเลอาด ฝูงอูฐของพวกเขาบรรทุก เครื่องเทศ ยางไม้ และมดยอบ กำลังมุ่งหน้าไปยังอียิปต์
  • ปฐมกาล 37:26 - ยูดาห์จึงพูดกับพี่น้องของเขาว่า “เราจะได้ประโยชน์อะไร ถ้าเราฆ่าน้องของเราแล้วกลบเกลื่อนเรื่องนี้?
  • ปฐมกาล 37:27 - ให้เราขายโยเซฟให้พวกอิชมาเอลเถิด อย่าทำอะไรเขาเลย ถึงอย่างไรเขาก็เป็นพี่น้องของเรา เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกับเรา” พี่น้องก็เห็นด้วย
  • ปฐมกาล 37:28 - ฉะนั้นเมื่อพวกพ่อค้าชาวมีเดียนมาถึง พวกพี่ๆ จึงดึงโยเซฟขึ้นจากบ่อ แล้วขายโยเซฟให้คนอิชมาเอลไปเป็นเงิน 20 เชเขล และเขาก็พาโยเซฟไปอียิปต์
  • ปฐมกาล 37:29 - ฝ่ายรูเบนกลับมาที่บ่อน้ำแล้วไม่พบโยเซฟจึงฉีกเสื้อผ้าของตน
  • ปฐมกาล 37:30 - เขากลับมาหาน้องๆ และพูดว่า “เด็กนั้นไม่อยู่เสียแล้ว! พี่จะทำอย่างไรดี?”
  • ปฐมกาล 37:31 - พวกเขาจึงฆ่าแพะแล้วเอาเสื้อคลุมของโยเซฟจุ่มลงในเลือด
  • ปฐมกาล 37:32 - จากนั้นพวกเขาก็นำเสื้อคลุมที่ประดับประดาอย่างสวยงามตัวนั้นกลับไปให้บิดา และกล่าวว่า “พวกเราพบเสื้อตัวนี้ ขอให้พ่อตรวจดูว่าใช่เสื้อคลุมของลูกชายของพ่อหรือไม่”
  • ปฐมกาล 37:33 - ยาโคบจำเสื้อตัวนี้ได้จึงกล่าวว่า “นี่เป็นเสื้อคลุมของลูกเรา! สัตว์ร้ายได้ขย้ำเขาเสียแล้ว โยเซฟถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ แน่”
  • ปฐมกาล 37:34 - ยาโคบจึงฉีกเสื้อผ้าของตน นุ่งห่มผ้ากระสอบ และคร่ำครวญอาลัยถึงบุตรชายของเขาอยู่หลายวัน
  • ปฐมกาล 37:35 - บุตรชายหญิงทุกคนได้มาปลอบโยนเขา แต่เขาก็ไม่ฟังคำปลอบโยนและกล่าวว่า “อย่าเลย เราจะคร่ำครวญจนกว่าเราจะลงไปหาลูกของเราในแดนคนตาย” ดังนั้นพ่อของโยเซฟก็ร้องไห้อาลัยถึงเขา
  • ปฐมกาล 37:36 - ในขณะเดียวกัน ที่อียิปต์ คนมีเดียน ได้ขายโยเซฟให้แก่โปทิฟาร์ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นขุนนางคนหนึ่งของฟาโรห์
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:12 - เขากล่าวถึงเผ่าเบนยามินว่า “ขอให้ผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรักพักพิงในพระองค์อย่างมั่นคงปลอดภัย เพราะพระองค์ทรงปกป้องเขาวันยังค่ำ และให้ผู้ที่พระองค์ทรงรักพักอยู่แนบพระทรวงของพระองค์”
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:13 - เขากล่าวถึงเผ่าโยเซฟว่า “ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรดินแดนของเขา ด้วยน้ำค้างล้ำเลิศจากฟ้าสวรรค์เบื้องบน และด้วยห้วงน้ำลึกเบื้องล่าง
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:14 - ด้วยผลผลิตยอดเยี่ยมจากดวงตะวัน และด้วยผลผลิตที่ดีที่สุดตามฤดูกาล
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:15 - ด้วยของขวัญเลอเลิศจากภูเขาดึกดำบรรพ์ ด้วยความสมบูรณ์พูนผลจากภูเขาอันถาวรนิรันดร์
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:16 - ด้วยของขวัญล้ำค่าจากผืนแผ่นดิน และความอุดมสมบูรณ์จากพื้นพสุธา และด้วยความโปรดปรานจากพระองค์ผู้ประทับในพุ่มไม้ที่ลุกเป็นไฟ ขอให้พรทั้งปวงนี้มาเหนือโยเซฟ เหนือเจ้านายในหมู่พี่น้อง
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:17 - ผู้ทรงไว้ซึ่งศักดาดุจลูกวัวหนุ่มหัวปี เขาสัตว์ของเขาคือเขาของวัวป่า เขาจะขวิดประชาชาติทั้งหลายด้วยเขาสัตว์เหล่านั้น แม้ประชาชาติที่อยู่สุดปลายแผ่นดินโลก นี่แหละคือชนเอฟราอิมนับหมื่น และชนมนัสเสห์นับพัน”
  • ปฐมกาล 47:1 - โยเซฟจึงเข้าไปทูลฟาโรห์ว่า “บิดาและพี่น้องของข้าพระบาทจากคานาอัน พร้อมด้วยฝูงสัตว์และทรัพย์สมบัติได้มาถึงโกเชนแล้ว”
  • ปฐมกาล 47:2 - โยเซฟได้คัดเลือกพี่น้องของเขามาห้าคน แล้วเบิกตัวเข้าเฝ้าฟาโรห์
  • ปฐมกาล 47:3 - ฟาโรห์ตรัสถามว่า “พวกเจ้ามีอาชีพอะไร?” พวกเขาทูลว่า “ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทเป็นคนเลี้ยงแกะตามอย่างบรรพบุรุษของข้าพระบาททั้งหลาย”
  • ปฐมกาล 47:4 - พวกเขายังทูลฟาโรห์อีกว่า “พวกข้าพระบาทต้องมาอาศัยอยู่ที่นี่อย่างคนต่างด้าวสักระยะหนึ่ง เนื่องจากเกิดการกันดารอาหารอย่างรุนแรงในคานาอัน ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทไม่มีทุ่งหญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์ ดังนั้นขอโปรดอนุญาตให้ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทได้อาศัยในโกเชนเถิด”
  • ปฐมกาล 47:5 - ฟาโรห์ตรัสกับโยเซฟว่า “บิดากับพี่น้องของเจ้ามาหาเจ้าแล้ว
  • ปฐมกาล 47:6 - และเจ้าก็มีอำนาจเหนือแผ่นดินอียิปต์ จงให้บิดาและพี่น้องของเจ้าตั้งถิ่นฐานในส่วนที่ดีที่สุดของดินแดนนี้ จงให้พวกเขาอาศัยอยู่ในโกเชน และหากเจ้ารู้ว่าพี่น้องของเจ้าคนใดมีความสามารถพิเศษก็แต่งตั้งเขาให้ดูแลฝูงสัตว์ของเราด้วย”
  • ปฐมกาล 47:7 - จากนั้นโยเซฟก็นำตัวยาโคบผู้เป็นบิดามาเข้าเฝ้าฟาโรห์ หลังจากยาโคบถวายพระพร แด่ฟาโรห์แล้ว
  • ปฐมกาล 47:8 - ฟาโรห์ตรัสถามว่า “ท่านอายุเท่าไรแล้ว?”
  • ปฐมกาล 47:9 - ยาโคบทูลว่า “ข้าพเจ้าร่อนเร่มา 130 ปีแล้ว ปีเดือนของข้าพระบาทก็สั้นและลำเค็ญ ไม่ยืนยาวเหมือนบรรพบุรุษผู้มีชีวิตเร่ร่อนเช่นกัน”
  • ปฐมกาล 47:10 - แล้วยาโคบก็ถวายพระพร แด่ฟาโรห์และออกไป
  • ปฐมกาล 47:11 - โยเซฟจึงให้บิดาและพี่น้องของเขาอาศัยอยู่ในอียิปต์ และมอบที่ดินที่ดีที่สุดคือเมืองราเมเสสให้แก่พวกเขาตามรับสั่งของฟาโรห์
  • ปฐมกาล 47:12 - โยเซฟยังได้จัดหาอาหารให้บิดา พี่น้อง และทุกคนในครัวเรือนของบิดาของเขา รวมทั้งลูกหลานของพวกเขาทุกคนด้วย
  • ปฐมกาล 47:13 - ครั้งนั้นทั่วแผ่นดินไม่มีอาหาร เพราะการกันดารอาหารรุนแรงจนผู้คนทั่วอียิปต์และคานาอันต่างพากันอดอยากหิวโหย
  • ปฐมกาล 47:14 - ชาวอียิปต์และชาวคานาอันเอาเงินออกมาซื้อข้าวจนหมด โยเซฟรวบรวมเงินเข้าวังของฟาโรห์
  • ปฐมกาล 47:15 - เมื่อราษฎรชาวอียิปต์และคานาอันหมดเงินแล้ว ชาวอียิปต์ทั้งสิ้นต่างพากันมาหาโยเซฟ พวกเขาพูดว่า “โปรดให้อาหารแก่พวกเราเถิด เหตุใดเราจึงต้องตายไปต่อหน้าต่อตาท่าน? เงินของเราหมดแล้ว”
  • ปฐมกาล 47:16 - โยเซฟตอบว่า “ถ้าเช่นนั้นจงนำฝูงสัตว์มาให้เรา เราจะขายอาหารให้เจ้าโดยการแลกเปลี่ยนกับฝูงสัตว์ของเจ้า เพราะเจ้าไม่มีเงินแล้ว”
  • ปฐมกาล 47:17 - พวกเขาจึงนำฝูงสัตว์ของตนได้แก่ ม้า แกะและแพะ วัวและลา มาให้โยเซฟเพื่อแลกกับอาหาร ตลอดทั้งปีนั้นโยเซฟได้แลกอาหารกับฝูงสัตว์ทั้งหมดของประชาชน
  • ปฐมกาล 47:18 - เมื่อปีนั้นผ่านไป ราษฎรต่างพากันมาหาโยเซฟในปีต่อมา และพูดว่า “พวกเราไม่สามารถปิดบังความจริงกับเจ้านายของเราได้ พวกเราไม่มีเงินแล้ว และฝูงสัตว์ก็ตกเป็นของท่าน บัดนี้เราเหลือแต่ตัวกับที่ดินของเรา
  • ปฐมกาล 47:19 - เหตุใดตัวเราและดินแดนของเราจะต้องพินาศไปต่อหน้าต่อตาท่านด้วย? โปรดซื้อตัวเรากับที่ดินของพวกเราไว้เป็นค่าอาหารเถิด แล้วพวกเรากับดินแดนของเราจะเป็นทาสของฟาโรห์ โปรดให้เมล็ดพันธุ์ข้าวแก่พวกเราเถิด เพื่อพวกเราจะไม่อดตาย แต่มีชีวิตอยู่ได้ และแผ่นดินจะไม่ถูกปล่อยให้รกร้างว่างเปล่า”
  • ปฐมกาล 47:20 - ดังนั้นโยเซฟจึงซื้อที่ดินทั่วอียิปต์ให้ฟาโรห์ ชาวอียิปต์ทุกคนขายที่ดินของตนแก่เขา เพราะการกันดารอาหารนั้นรุนแรงยิ่งนัก ที่ดินทั่วประเทศก็ตกเป็นของฟาโรห์
  • ปฐมกาล 47:21 - และโยเซฟก็ลดฐานะของชาวอียิปต์ทั้งปวงให้อยู่ในฐานะทาส
  • ปฐมกาล 47:22 - อย่างไรก็ตาม โยเซฟก็ไม่ได้ซื้อที่ดินของปุโรหิตเพราะพวกเขาได้รับปันส่วนจากฟาโรห์ พวกเขามีอาหารเพียงพอเนื่องจากได้รับปันส่วนอาหารจากฟาโรห์เช่นกัน จึงไม่มีความจำเป็นต้องขายที่ดิน
  • ปฐมกาล 47:23 - โยเซฟกล่าวกับบรรดาราษฎรว่า “บัดนี้เราได้ซื้อตัวท่านกับที่ดินของท่านไว้เป็นกรรมสิทธิ์ของฟาโรห์แล้ว นี่เป็นเมล็ดพันธุ์ข้าว ท่านจงเอาไปเพาะปลูก
  • ปฐมกาล 47:24 - เมื่อเก็บเกี่ยวแล้วจงถวายหนึ่งในห้าแก่ฟาโรห์ อีกสี่ส่วนให้เจ้าเก็บไว้เป็นของตนเอง เพื่อใช้เป็นพันธุ์สำหรับเพาะปลูกและเป็นอาหารของตัวเจ้า ของครัวเรือนและลูกๆ ของเจ้า”
  • ปฐมกาล 47:25 - พวกเขากล่าวว่า “ท่านได้ช่วยชีวิตของพวกเราไว้ ขอให้นายท่านเมตตาเราเถิด พวกเราจะเป็นทาสของฟาโรห์”
  • ปฐมกาล 47:26 - โยเซฟจึงตราเป็นกฎหมายเกี่ยวกับที่ดินขึ้นในประเทศอียิปต์ซึ่งยังใช้อยู่จนทุกวันนี้ คือหนึ่งในห้าของผลผลิตทั้งหมดต้องตกเป็นของฟาโรห์ มีเฉพาะที่ดินของปุโรหิตเท่านั้นที่ไม่ได้กลายเป็นของฟาโรห์
  • ปฐมกาล 47:27 - บัดนี้ชนอิสราเอลตั้งถิ่นฐานอยู่ในดินแดนโกเชนที่อียิปต์ พวกเขาครอบครองกรรมสิทธิ์ที่นั่นและมีลูกมีหลานทวีจำนวนขึ้นมากมาย
  • ปฐมกาล 47:28 - ยาโคบมีชีวิตอยู่ในอียิปต์ 17 ปี เขามีอายุรวมทั้งสิ้น 147 ปี
  • ปฐมกาล 47:29 - เมื่ออิสราเอลใกล้จะตาย เขาเรียกโยเซฟลูกชายของเขาเข้ามาสั่งว่า “หากเจ้าจะกรุณาเรา เจ้าจงเอามือของเจ้าไว้ที่หว่างขาของเรา และจงสัญญาว่าเจ้าจะสำแดงความเมตตาและความซื่อสัตย์ต่อเรา คืออย่าฝังศพเราไว้ที่อียิปต์
  • ปฐมกาล 47:30 - แต่เมื่อเราล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของเราแล้ว จงนำศพเราออกจากอียิปต์ไปฝังไว้ที่เดียวกับบรรพบุรุษของเรา” โยเซฟตอบว่า “เราจะทำตามที่พ่อสั่ง”
  • ปฐมกาล 47:31 - ยาโคบบอกอีกว่า “จงสาบานกับพ่อ” โยเซฟก็สาบาน แล้วอิสราเอลก็นมัสการและก้มลงที่หัวไม้เท้า
  • ปฐมกาล 50:1 - โยเซฟโผเข้าไปหาร่างของบิดา ร้องไห้และจูบเขา
  • ปฐมกาล 50:2 - หลังจากนั้นโยเซฟจึงสั่งให้บรรดาหมอซึ่งรับใช้ตนอยู่นั้นอาบยารักษาศพอิสราเอลบิดาของเขาไว้ พวกหมอก็อาบยารักษาศพอิสราเอล
  • ปฐมกาล 50:3 - การอาบยานี้ใช้เวลาสี่สิบวันเต็ม และชาวอียิปต์ก็ไว้ทุกข์ให้อิสราเอลเจ็ดสิบวัน
  • ปฐมกาล 50:4 - เมื่อเวลาไว้ทุกข์สิ้นสุดลงแล้ว โยเซฟก็พูดกับข้าราชสำนักของฟาโรห์ว่า “หากเราเป็นที่โปรดปรานในสายตาของท่าน โปรดทูลฟาโรห์แทนเราว่า
  • ปฐมกาล 50:5 - ‘บิดาของโยเซฟให้เขาสาบานและกล่าวกับเขาว่า “เรากำลังจะตาย จงฝังเราไว้ในสุสานที่เราขุดไว้เพื่อตนเองในคานาอัน” บัดนี้เราขอประทานอนุญาตไปฝังศพบิดาแล้วจะกลับมา’ ”
  • ปฐมกาล 50:6 - ฟาโรห์ตรัสว่า “จงไปฝังศพบิดาตามที่สาบานไว้เถิด”
  • ปฐมกาล 50:7 - ดังนั้นโยเซฟจึงไปฝังศพบิดาพร้อมข้าราชบริพารทั้งสิ้นของฟาโรห์ได้แก่ ผู้มีเกียรติของราชสำนักและผู้มีเกียรติทั้งปวงของอียิปต์
  • ปฐมกาล 50:8 - รวมทั้งสมาชิกทุกคนในครัวเรือนของโยเซฟ พวกพี่น้องและคนในครัวเรือนของบิดา มีเพียงเด็กๆ และฝูงสัตว์ทั้งหลายยังอยู่ที่โกเชน
  • ปฐมกาล 50:9 - ขบวนรถม้าศึกและพลม้า ก็ติดตามโยเซฟไปด้วย ขบวนผู้ติดตามใหญ่โตเป็นกองทัพ
  • ปฐมกาล 50:10 - เมื่อพวกเขามาถึงลานนวดข้าวที่อาทาดใกล้แม่น้ำจอร์แดน พวกเขาก็ร้องไห้คร่ำครวญอย่างขมขื่นเสียงดังมาก โยเซฟไว้ทุกข์ให้บิดาเจ็ดวัน
  • ปฐมกาล 50:11 - เมื่อชาวคานาอันผู้อาศัยอยู่ที่นั่นเห็นการไว้ทุกข์ที่ลานนวดข้าวที่อาทาด พวกเขาพูดกันว่า “ชาวอียิปต์เหล่านี้กำลังประกอบพิธีไว้ทุกข์ครั้งใหญ่” จึงเรียกชื่อสถานที่ใกล้แม่น้ำจอร์แดนนั้นว่าอาเบลมิสราอิม
  • ปฐมกาล 50:12 - ดังนั้นบุตรชายทั้งหลายของยาโคบจึงได้ปฏิบัติตามคำสั่งของเขา
  • ปฐมกาล 50:13 - พวกเขานำศพของยาโคบมายังดินแดนคานาอันและฝังไว้ในถ้ำที่อยู่ในทุ่งนาชื่อมัคเปลาห์ใกล้มัมเร ซึ่งอับราฮัมซื้อไว้เป็นที่ฝังศพจากเอโฟรนชาวฮิตไทต์พร้อมกับทุ่งนา
  • ปฐมกาล 50:14 - หลังจากฝังศพบิดาแล้ว โยเซฟจึงกลับไปยังอียิปต์พร้อมพี่น้องและทุกคนที่ติดตามมาร่วมพิธีฝังศพบิดาของเขา
  • ปฐมกาล 35:24 - บุตรชายที่เกิดจากราเชล ได้แก่ โยเซฟและเบนยามิน
  • ปฐมกาล 30:24 - นางตั้งชื่อเขาว่าโยเซฟ และกล่าวว่า “ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเพิ่มลูกชายให้ฉันอีกคนหนึ่ง”
  • ปฐมกาล 39:1 - บัดนี้โยเซฟถูกนำมาถึงอียิปต์ คนอิชมาเอลได้ขายเขาให้กับโปทิฟาร์ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ซึ่งเป็นขุนนางคนหนึ่งของฟาโรห์
  • ปฐมกาล 39:2 - องค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับโยเซฟและทรงอวยพรให้เขาเจริญรุ่งเรืองขึ้นในบ้านของเจ้านายชาวอียิปต์
  • ปฐมกาล 39:3 - เมื่อนายเห็นว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับเขา และองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานความสำเร็จในทุกสิ่งที่เขาทำ
  • ปฐมกาล 39:4 - โยเซฟจึงเป็นที่โปรดปรานและกลายเป็นคนสนิทของนาย โปทิฟาร์จึงตั้งให้โยเซฟดูแลครัวเรือนของเขา และมอบทุกสิ่งที่เขามีอยู่ไว้ในมือของโยเซฟ
  • ปฐมกาล 39:5 - ตั้งแต่นายมอบหมายให้โยเซฟดูแลทุกสิ่งในครัวเรือนและทุกสิ่งที่เขามี องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรครอบครัวของคนอียิปต์นั้นเพราะเห็นแก่โยเซฟ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรทุกสิ่งของโปทิฟาร์ทั้งในบ้านและในทุ่งนา
  • ปฐมกาล 39:6 - ดังนั้นโปทิฟาร์จึงไว้ใจให้โยเซฟดูแลทุกสิ่งที่เขามี เมื่อมีโยเซฟเป็นผู้ดูแล เขาไม่ต้องรับรู้เรื่องใดเลย เว้นแต่อาหารที่จะรับประทาน โยเซฟเป็นชายรูปหล่อหุ่นดี
  • ปฐมกาล 39:7 - จากนั้นไม่นานภรรยาของเจ้านายจ้องมองโยเซฟตาเป็นมัน นางจึงชวนเขาว่า “มานอนกับฉันสิ!”
  • ปฐมกาล 39:8 - แต่โยเซฟปฏิเสธและกล่าวกับนางว่า “ภายใต้การดูแลของข้า นายไม่ต้องรับรู้เรื่องใดในบ้านเลย ทุกสิ่งที่นายมีอยู่ นายก็มอบให้ข้าจัดการ
  • ปฐมกาล 39:9 - ในบ้านนี้ไม่มีใครใหญ่เกินข้า เจ้านายของข้าไม่หวงสิ่งใดกับข้านอกจากท่าน เพราะท่านเป็นภรรยาของนาย ข้าจะทำสิ่งชั่วร้ายเช่นนี้และทำบาปต่อพระเจ้าได้อย่างไร?”
  • ปฐมกาล 39:10 - แม้นางชวนโยเซฟวันแล้ววันเล่า เขาก็ปฏิเสธที่จะหลับนอนกับนางหรือแม้แต่จะอยู่ใกล้นาง
  • ปฐมกาล 39:11 - วันหนึ่งขณะที่โยเซฟเข้าไปในบ้านเพื่อทำงานตามหน้าที่ของเขา ขณะนั้นไม่มีคนรับใช้อื่นๆ อยู่ในบ้านเลย
  • ปฐมกาล 39:12 - ภรรยาของโปทิฟาร์เข้ามากระชากเสื้อของโยเซฟไว้แล้วบอกว่า “มานอนกับฉันเถิด!” แต่เขาทิ้งเสื้อไว้ในมือของนางแล้ววิ่งหนีออกไปนอกบ้าน
  • ปฐมกาล 39:13 - เมื่อนางเห็นว่าเสื้อของโยเซฟอยู่ในมือ และตัวเขาวิ่งออกไปนอกบ้านแล้ว
  • ปฐมกาล 39:14 - นางจึงเรียกคนรับใช้คนอื่นๆ ในบ้านมาและกล่าวว่า “ดูสิ สามีฉันนำเจ้าฮีบรูคนนี้มาหยามพวกเรา มันเข้ามาที่นี่และจะหลับนอนกับข้า แต่ข้ากรีดร้องขึ้น
  • ปฐมกาล 39:15 - เมื่อมันได้ยินข้าร้องขอความช่วยเหลือ มันจึงทิ้งเสื้อไว้ข้างตัวข้าแล้ววิ่งหนีออกจากบ้านไป”
  • ปฐมกาล 39:16 - นางเก็บเสื้อตัวนั้นไว้จนกระทั่งสามีกลับมาบ้าน
  • ปฐมกาล 39:17 - แล้วนางจึงเล่าเรื่องนี้ให้สามีฟังว่า “เจ้าฮีบรูคนนั้นที่ท่านนำมาให้พวกเราจะเข้ามาหยามข้า
  • ปฐมกาล 39:18 - แต่ทันทีที่ข้ากรีดร้องขอความช่วยเหลือ มันจึงทิ้งเสื้อไว้ข้างตัวข้าแล้ววิ่งหนีออกจากบ้านไป”
  • ปฐมกาล 39:19 - เมื่อเจ้านายของโยเซฟได้ยินเรื่องนี้จากภรรยาของเขาซึ่งกล่าวว่า “นี่เป็นสิ่งที่ทาสของท่านทำกับข้า” เขาจึงโกรธจัด
  • ปฐมกาล 39:20 - และเจ้านายนำโยเซฟมาขังไว้ในคุกหลวง แต่ขณะที่โยเซฟถูกขังอยู่ในคุกนั้น
  • ปฐมกาล 39:21 - องค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับโยเซฟ ทรงกรุณาเขา และทำให้โยเซฟเป็นที่โปรดปรานในสายตาของพัศดี
  • ปฐมกาล 39:22 - ดังนั้นพัศดีจึงตั้งให้โยเซฟเป็นผู้ดูแลนักโทษทุกคน และให้เขารับผิดชอบงานทุกอย่างในคุก
  • ปฐมกาล 39:23 - พัศดีผู้นั้นไม่ต้องใส่ใจต่อสิ่งใดๆ ที่อยู่ภายใต้การดูแลของโยเซฟ เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับโยเซฟและประทานความสำเร็จในทุกสิ่งที่เขาทำ
  • 1พงศาวดาร 2:2 - ดาน โยเซฟ เบนยามิน นัฟทาลี กาด และอาเชอร์ ( นรธ.4:18-22 ; มธ.1:3-6 )
  • อพยพ 1:3 - อิสสาคาร์ เศบูลุน เบนยามิน
  • ปฐมกาล 35:16 - จากนั้นพวกเขาเดินทางออกจากเบธเอล ขณะที่พวกเขาใกล้จะถึงเอฟราธาห์ ราเชลเริ่มเจ็บท้องคลอดและทรมานมาก
  • ปฐมกาล 35:17 - ขณะที่กำลังทุรนทุรายอยู่นั้น นางผดุงครรภ์ก็ปลอบว่า “อย่ากลัวเลย เพราะเธอกำลังจะได้ลูกชายอีกคน”
  • ปฐมกาล 35:18 - ขณะที่ราเชลกำลังจะสิ้นลมหายใจ นางตั้งชื่อลูกว่าเบนโอนี แต่ยาโคบเรียกเขาว่าเบนยามิน
  • อพยพ 1:5 - วงศ์วานของยาโคบที่เข้าไปในอียิปต์กับเขานับได้ทั้งหมดเจ็ดสิบคน ส่วนโยเซฟอยู่ที่นั่นแล้ว
  • ปฐมกาล 49:22 - “โยเซฟเป็นเถาองุ่นที่ผลิดอกออกผล เป็นเถาองุ่นที่ผลิดอกออกผลอยู่ใกล้น้ำพุ กิ่งเถาของมันเลื้อยข้ามกำแพง
  • ปฐมกาล 49:23 - พลธนูโจมตีเขาด้วยความเคียดแค้น ยิงเข้าใส่เขาด้วยใจเกลียดชัง
  • ปฐมกาล 49:24 - แต่ธนูของเขานิ่งไม่สั่นไหว แขนของเขาแข็งแรงไม่อ่อนล้า เนื่องด้วยพระหัตถ์ขององค์ผู้ทรงฤทธิ์ของยาโคบ เนื่องด้วยพระผู้เลี้ยง พระศิลาของอิสราเอล
  • ปฐมกาล 49:25 - เนื่องด้วยพระเจ้าของบิดาเจ้าผู้ทรงช่วยเจ้า เนื่องด้วยองค์ทรงฤทธิ์ผู้ทรงอวยพรเจ้า ด้วยพรแห่งสวรรค์เบื้องบน พรแห่งที่ลึกเบื้องล่าง พรแห่งอ้อมอกและครรภ์
  • ปฐมกาล 49:26 - พรจากบิดาของเจ้ายิ่งใหญ่ กว่าพรแห่งภูเขาดึกดำบรรพ์ กว่า ความอุดมแห่งเนินเขาเก่าแก่ ขอพระพรเหล่านี้จงอยู่บนศีรษะของโยเซฟ อยู่บนกระหม่อมของเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ท่ามกลาง พี่น้องของเจ้า
  • ปฐมกาล 49:27 - “เบนยามินเป็นสุนัขป่าที่หิวโซ ในตอนเช้าเขาขย้ำเหยื่อ ในตอนเย็นเขาแบ่งของที่ยึดมาได้”
  • กันดารวิถี 1:36 - จากวงศ์วานของเบนยามิน ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อตามตระกูลและตามครอบครัว
  • กันดารวิถี 1:37 - จำนวนพลจากเผ่าเบนยามิน 35,400 คน
  • ปฐมกาล 29:18 - ยาโคบหลงรักราเชลจึงกล่าวว่า “ฉันจะทำงานให้ท่านเจ็ดปีเพื่อแลกกับราเชลลูกสาวคนเล็กเป็นค่าตอบแทน”
  • ปฐมกาล 44:27 - “แล้วพ่อของเราผู้รับใช้ของท่านจึงพูดกับพวกเราว่า ‘เจ้าก็รู้ว่าภรรยาคนนี้ของพ่อมีลูกชายให้พ่อสองคน
圣经
资源
计划
奉献