逐节对照
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - แล้วพระเจ้ากล่าวว่า “ให้ดวงไฟสว่างทั้งหลายบังเกิดขึ้นในโดมกว้างใหญ่ของท้องฟ้า เพื่อแยกวันออกจากคืน และให้ดวงไฟสว่างเหล่านั้นเป็นเครื่องหมายกำหนดฤดูกาล วัน และปี
- 新标点和合本 - 神说:“天上要有光体,可以分昼夜,作记号,定节令、日子、年岁,
- 和合本2010(上帝版-简体) - 上帝说:“天上要有光体来分昼夜,让它们作记号,定季节、日子、年份,
- 和合本2010(神版-简体) - 神说:“天上要有光体来分昼夜,让它们作记号,定季节、日子、年份,
- 当代译本 - 上帝说:“天空要有光体,以区分昼夜,作记号,定节令,计算年日,
- 圣经新译本 - 神说:“在天上穹苍中,要有光体来分昼夜;这些光体要作为记号,定节令、日子和年岁;
- 中文标准译本 - 神说:“让天上的穹苍中有光体来分昼夜,让它们成为标记来定节令、日子和年岁;
- 现代标点和合本 - 神说:“天上要有光体,可以分昼夜,做记号,定节令、日子、年岁,
- 和合本(拼音版) - 上帝说:“天上要有光体,可以分昼夜,作记号,定节令、日子、年岁,
- New International Version - And God said, “Let there be lights in the vault of the sky to separate the day from the night, and let them serve as signs to mark sacred times, and days and years,
- New International Reader's Version - God said, “Let there be lights in the huge space of the sky. Let them separate the day from the night. Let the lights set the times for the holy celebrations and the days and the years.
- English Standard Version - And God said, “Let there be lights in the expanse of the heavens to separate the day from the night. And let them be for signs and for seasons, and for days and years,
- New Living Translation - Then God said, “Let lights appear in the sky to separate the day from the night. Let them be signs to mark the seasons, days, and years.
- The Message - God spoke: “Lights! Come out! Shine in Heaven’s sky! Separate Day from Night. Mark seasons and days and years, Lights in Heaven’s sky to give light to Earth.” And there it was.
- Christian Standard Bible - Then God said, “Let there be lights in the expanse of the sky to separate the day from the night. They will serve as signs for seasons and for days and years.
- New American Standard Bible - Then God said, “Let there be lights in the expanse of the heavens to separate the day from the night, and they shall serve as signs and for seasons, and for days and years;
- New King James Version - Then God said, “Let there be lights in the firmament of the heavens to divide the day from the night; and let them be for signs and seasons, and for days and years;
- Amplified Bible - Then God said, “Let there be light-bearers (sun, moon, stars) in the expanse of the heavens to separate the day from the night, and let them be useful for signs (tokens) [of God’s provident care], and for marking seasons, days, and years;
- American Standard Version - And God said, Let there be lights in the firmament of heaven to divide the day from the night; and let them be for signs, and for seasons, and for days and years:
- King James Version - And God said, Let there be lights in the firmament of the heaven to divide the day from the night; and let them be for signs, and for seasons, and for days, and years:
- New English Translation - God said, “Let there be lights in the expanse of the sky to separate the day from the night, and let them be signs to indicate seasons and days and years,
- World English Bible - God said, “Let there be lights in the expanse of the sky to divide the day from the night; and let them be for signs to mark seasons, days, and years;
- 新標點和合本 - 神說:「天上要有光體,可以分晝夜,作記號,定節令、日子、年歲,
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 上帝說:「天上要有光體來分晝夜,讓它們作記號,定季節、日子、年份,
- 和合本2010(神版-繁體) - 神說:「天上要有光體來分晝夜,讓它們作記號,定季節、日子、年份,
- 當代譯本 - 上帝說:「天空要有光體,以區分晝夜,作記號,定節令,計算年日,
- 聖經新譯本 - 神說:“在天上穹蒼中,要有光體來分晝夜;這些光體要作為記號,定節令、日子和年歲;
- 呂振中譯本 - 上帝說:『天穹要有發光之體來分晝夜;它們要做天象,定節令、日子、年歲;
- 中文標準譯本 - 神說:「讓天上的穹蒼中有光體來分晝夜,讓它們成為標記來定節令、日子和年歲;
- 現代標點和合本 - 神說:「天上要有光體,可以分晝夜,做記號,定節令、日子、年歲,
- 文理和合譯本 - 上帝曰、穹蒼宜有輝光、以分晝夜、以為兆象、以定四時年日、
- 文理委辦譯本 - 上帝曰、穹蒼宜輝光眾著、以分晝夜、以定四時、以記年日、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 天主曰、天上當有發光之體、俾分晝夜、以為記號、可定四時日期年歲、
- Nueva Versión Internacional - Y dijo Dios: «¡Que haya luces en el firmamento que separen el día de la noche; que sirvan como señales de las estaciones, de los días y de los años,
- 현대인의 성경 - 하나님이 “하늘에 광체가 나타나 땅을 비추고 낮과 밤을 나누어라. 그리고 날과 해와 계절을 구분하라” 하시자 그대로 되었다.
- Новый Русский Перевод - И Бог сказал: «Да будут светила на небесном своде, чтобы отделять день от ночи, и пусть они служат знаками, чтобы различать времена, дни и годы,
- Восточный перевод - И сказал Всевышний: «Да будут светила на небесном своде, чтобы отделять день от ночи, и пусть они служат знаками, чтобы различать времена, дни и годы,
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - И сказал Аллах: «Да будут светила на небесном своде, чтобы отделять день от ночи, и пусть они служат знаками, чтобы различать времена, дни и годы,
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - И сказал Всевышний: «Да будут светила на небесном своде, чтобы отделять день от ночи, и пусть они служат знаками, чтобы различать времена, дни и годы,
- La Bible du Semeur 2015 - Puis Dieu dit : Que, dans l’étendue du ciel, il y ait des luminaires pour distinguer le jour de la nuit, et pour qu’ils marquent les saisons, les jours et les années.
- リビングバイブル - 神のことばはさらに続きます。「空に光が輝き、地を照らせ。その光で、昼と夜の区別、季節の変化、一日や一年の区切りをつけよ。」すると、そのとおりになりました。
- Nova Versão Internacional - Disse Deus: “Haja luminares no firmamento do céu para separar o dia da noite. Sirvam eles de sinais para marcar estações, dias e anos,
- Hoffnung für alle - Da befahl Gott: »Am Himmel sollen Lichter entstehen, die den Tag und die Nacht voneinander trennen und nach denen man die Jahreszeiten und auch die Tage und Jahre bestimmen kann!
- Kinh Thánh Hiện Đại - Tiếp theo, Đức Chúa Trời phán: “Phải có các thiên thể để soi sáng mặt đất, phân biệt ngày đêm, chỉ định thời tiết, ngày, và năm.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - และพระเจ้าตรัสว่า “จงเกิดดวงสว่างต่างๆ ขึ้นในแผ่นฟ้า เพื่อแยกกลางวันจากกลางคืน ให้เป็นเครื่องหมายบอกฤดู บอกวัน บอกปี
交叉引用
- มาระโก 13:24 - แต่ในระยะเวลาหลังจากที่คราวทุกข์ยากลำบากผ่านพ้นไปแล้ว ‘ดวงอาทิตย์จะมืดลง และดวงจันทร์จะไม่ส่องแสง
- เอเสเคียล 46:1 - พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า “ประตูลานตำหนักที่หันไปทางทิศตะวันออกให้ปิดไว้ระหว่างวันทำงานตลอดทั้งหกวัน แต่ให้เปิดในวันสะบาโตและวันข้างขึ้น
- มัทธิว 16:2 - พระองค์กล่าวตอบพวกเขาว่า “เมื่อถึงเวลาเย็น พวกท่านจะพูดว่า ‘อากาศจะดี เพราะท้องฟ้าแดง’
- มัทธิว 16:3 - ในเวลาเช้าก็ว่า ‘วันนี้จะมีพายุ เพราะท้องฟ้าแดงครึ้ม’ ท่านรู้จักตีความหมายของความเป็นไปของท้องฟ้า แต่ปรากฏการณ์อัศจรรย์ต่างๆ ของเวลานี้ ท่านไม่สามารถตีความได้
- เยเรมีย์ 33:25 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า ถ้าเราไม่รักษาสัญญาเรื่องวันและคืนและกฎของฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก
- อาโมส 8:9 - พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนี้ “ในวันนั้น เราจะทำให้ดวงอาทิตย์ตกเวลาเที่ยงวัน และทำให้โลกมืดลงในเวลากลางวัน
- ปฐมกาล 9:13 - เราวางรุ้งของเราไว้บนเมฆ ซึ่งจะเป็นสัญลักษณ์แห่งพันธสัญญาระหว่างเรากับแผ่นดินโลก
- มัทธิว 2:2 - “ผู้ที่ได้เกิดมาเป็นกษัตริย์ของชาวยิวอยู่ที่ไหน เพราะว่าพวกเราเห็นดาวของพระองค์ปรากฏทางทิศตะวันออก จึงได้พากันมานมัสการพระองค์”
- วิวรณ์ 9:2 - เมื่อท่านเปิดหลุมแห่งขุมนรกนั้น ควันก็ลอยขึ้นออกจากหลุมเหมือนกับควันจากเตาขนาดใหญ่มหึมา ดวงอาทิตย์และอากาศก็มืดลงเพราะควันจากหลุม
- โยบ 3:9 - ขอให้ดวงดาวยามย่ำรุ่งมืดไปเสีย ให้มันหวังในแสงสว่าง แต่ก็ไม่ได้รับ และไม่เห็นแสงอรุณรุ่ง
- กิจการของอัครทูต 2:19 - เราจะแสดงสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆ ที่ปรากฏในสวรรค์เบื้องบน และปรากฏการณ์อัศจรรย์ต่างๆ บนโลกเบื้องล่าง จะมีเลือด ไฟ และกลุ่มควัน
- กิจการของอัครทูต 2:20 - ดวงอาทิตย์จะกลายเป็นความมืด ดวงจันทร์จะกลายเป็นเลือด ก่อนที่จะถึงวันอันยิ่งใหญ่และงามตระการของพระผู้เป็นเจ้า
- ลูกา 23:45 - ดวงอาทิตย์หยุดส่องแสง ผ้าม่านในพระวิหารขาดออกเป็น 2 ท่อน
- โยบ 25:5 - ดูเถิด แม้แต่ดวงจันทร์ก็ไม่สุกใส และดวงดาวทั้งปวงก็ไม่บริสุทธิ์ในสายตาของพระองค์
- มัทธิว 24:29 - ทันทีหลังจากระยะเวลาอันทุกข์ยากลำบาก ดวงอาทิตย์จะมืดลง และดวงจันทร์จะไม่ส่องแสง บรรดาดวงดาวจะตกลงจากฟ้า และบรรดาสิ่งที่ทรงพลังในท้องฟ้าจะสั่นสะเทือน
- สดุดี 119:91 - สิ่งเหล่านี้คงอยู่ มาจนถึงทุกวันนี้ได้ก็เพราะคำสั่งของพระองค์ เพราะทุกสิ่งเป็นผู้รับใช้ของพระองค์
- สดุดี 19:1 - ฟ้าสวรรค์กล่าวถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า และแผ่นฟ้าป่าวประกาศถึงสรรพสิ่งที่พระองค์สร้าง
- สดุดี 19:2 - วันแล้ววันเล่าสรรพสิ่งเหล่านั้นกล่าวให้รู้กัน คืนแล้วคืนเล่าก็แสดงให้เห็นเป็นความรู้
- สดุดี 19:3 - ไม่มีหนใดที่มีภาษาและการพูดจา แล้วจะไม่ได้ยินเสียงของสรรพสิ่งเหล่านั้น
- สดุดี 19:4 - เสียงของสิ่งเหล่านั้นได้กระจายออกไปทั่วแหล่งหล้า และคำประกาศได้แผ่กระจายไปจนสุดขอบโลก พระองค์ตั้งกระโจมให้ดวงอาทิตย์บนฟ้า
- สดุดี 19:5 - ซึ่งเป็นเสมือนเจ้าบ่าวกำลังออกมาจากพลับพลา ดั่งผู้มีพละกำลังมหาศาลวิ่งไปตามที่กำหนดไว้ด้วยความยินดี
- สดุดี 19:6 - และขึ้นจากมุมหนึ่งของฟ้าสวรรค์ และโคจรไปสู่อีกฟากหนึ่ง โดยไม่มีส่วนใดหลบเร้นจากความร้อนได้
- วิวรณ์ 8:12 - ทูตสวรรค์องค์ที่สี่เป่าแตร หนึ่งในสามส่วนของดวงอาทิตย์ หนึ่งในสามส่วนของดวงจันทร์ และหนึ่งในสามส่วนของดวงดาวก็ถูกทำลายลง จึงทำให้ส่องแสงออกมาได้น้อยลงหนึ่งในสามส่วน หนึ่งในสามส่วนของเวลาในช่วงกลางวันจะไม่มีแสง และในช่วงกลางคืนก็เช่นกัน
- โยบ 25:3 - เราจะนับจำนวนกองทหารของพระองค์ได้หรือ แสงสว่างของพระองค์ไม่ส่องบนผู้ใดบ้าง
- เอเสเคียล 46:6 - ในวันข้างขึ้น เขาจะต้องถวายโคหนุ่มจากฝูง 1 ตัว ลูกแกะ 6 ตัว และแกะตัวผู้ 1 ตัว ซึ่งทุกตัวจะต้องปราศจากตำหนิ
- ลูกา 21:25 - จะมีปรากฏการณ์อัศจรรย์ที่ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาว ชาติต่างๆ บนโลกจะได้รับความทุกข์ร้อน และงงงวยกับเสียงทะเลและคลื่นซึ่งก้องคำราม
- ลูกา 21:26 - ผู้คนจะตกใจจนเป็นลมขณะที่รอดูว่า อะไรจะเกิดขึ้นบนโลก เพราะบรรดาสิ่งที่ทรงพลังในท้องฟ้าจะสั่นสะเทือน
- โยบ 38:12 - ตั้งแต่เจ้าเกิดมา เจ้าเคยบัญชาให้เกิดเวลาเช้าหรือ และสั่งให้รุ่งอรุณรู้จักตำแหน่งหน้าที่ของมันหรือ
- โยบ 38:13 - และให้รุ่งอรุณครอบคลุมทั่วแหล่งหล้า และสลัดคนชั่วออกไปจากโลกหรือ
- โยบ 38:14 - แผ่นดินโลกเปลี่ยนไปเหมือนดินเผาที่มีตราประทับ และมีลักษณะเด่นชัดดั่งเครื่องนุ่งห่ม
- สดุดี 81:3 - จงเป่าแตรงอน ในยามข้างขึ้น ตอนเดือนหงายในวันเทศกาลของเรา
- วิวรณ์ 6:12 - เมื่อพระองค์เปิดตราประทับดวงที่หกออก ข้าพเจ้าก็เห็นแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ และดวงอาทิตย์กลับดำมืดดุจผ้าดำสำหรับไว้ทุกข์ และดวงจันทร์ทั้งดวงก็กลับกลายเป็นสีเลือด
- เอเสเคียล 32:7 - เมื่อเราดับชีวิตของเจ้าให้สูญไป เราจะปกคลุมฟ้าสวรรค์ และทำให้ดวงดาวมืดลง เราจะปกคลุมดวงอาทิตย์ด้วยเมฆ และดวงจันทร์จะไม่ส่องแสง
- เอเสเคียล 32:8 - เราจะทำให้แสงอันสุกสว่าง ของฟ้าสวรรค์มืดลงเหนือตัวเจ้า และจะให้ความมืดปกแผ่นดินของเจ้า’” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
- โยเอล 2:10 - แผ่นดินโลกโยกคลอนต่อหน้าพวกเขา ฟ้าสวรรค์สั่นสะเทือน ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์มืดลง และดวงดาวไม่ส่องแสง
- โยบ 38:31 - เจ้าสามารถผูกมัดดาวลูกไก่ หรือแก้มัดสายดาวไถได้หรือ
- โยบ 38:32 - เจ้าสามารถนำกลุ่มดาวออกมาตามฤดูกาลของมันได้หรือ เจ้าสามารถนำทางดาวจระเข้ออกมากับลูกๆ ของมันได้หรือ
- เยเรมีย์ 33:20 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ “ถ้าเจ้าสามารถทำให้กลางวันและกลางคืนหยุดหมุนเวียนตามกำหนดเวลาที่เราระบุไว้ได้
- โยเอล 3:15 - ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์มืดลง และดวงดาวไม่ส่องแสง
- เยเรมีย์ 10:2 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ว่า “อย่าเลียนแบบวิถีทางของบรรดาประชาชาติ หรือตกใจกับหมายสำคัญในฟ้าสวรรค์ เพราะบรรดาประชาชาติตกใจกับสิ่งเหล่านั้น
- ปฐมกาล 8:22 - ตราบที่แผ่นดินโลกยังคงอยู่ ฤดูกาล เช่นฤดูหว่านเมล็ดกับฤดูเก็บเกี่ยว วันเวลาที่เหน็บหนาวและร้อนระอุ ฤดูร้อนกับฤดูหนาว วันและคืน ก็จะไม่มีวันหยุดลง”
- อิสยาห์ 40:26 - ท่านจงเงยหน้าขึ้นดูสิ ใครสร้างสิ่งเหล่านี้ พระองค์ผู้สร้างทุกสิ่งที่อยู่บนฟ้าจำนวนมหาศาล เรียกชื่อทุกสิ่งบนนั้น ด้วยอานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ และเพราะว่าพระองค์มีอานุภาพยิ่งนัก จึงไม่มีสิ่งใดขาดหายไปเลย
- โยเอล 2:30 - และเราจะแสดงสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆ ในท้องฟ้าและบนแผ่นดินโลก เลือด ไฟ และกลุ่มควัน
- โยเอล 2:31 - ดวงอาทิตย์จะกลายเป็นความมืด ดวงจันทร์จะกลายเป็นเลือดก่อนการกลับมาของพระผู้เป็นเจ้า ในวันอันยิ่งใหญ่และน่าหวาดหวั่น
- สดุดี 148:6 - พระองค์ทำให้สิ่งทั้งหลายอยู่ในที่ที่กำหนดไว้ตราบชั่วนิรันดร์กาล พระองค์ตั้งกฎเกณฑ์อันเป็นอมตะ
- อาโมส 5:8 - พระองค์ผู้สร้างดาวลูกไก่และดาวไถ และทำความมืดให้เป็นรุ่งอรุณ และทำกลางวันให้เป็นกลางคืน พระองค์ผู้รวบรวมน้ำในทะเล และเทลงบนพื้นดิน พระนามของพระองค์คือ พระผู้เป็นเจ้า
- สดุดี 8:3 - เวลาข้าพเจ้ามองไปยังฟ้าสวรรค์ ผลงานจากฝีมือของพระองค์ ดวงจันทร์และดวงดาว ซึ่งพระองค์สร้างขึ้น
- สดุดี 8:4 - มนุษย์คือใคร ที่พระองค์จะเอาใจใส่ หรือบุตรมนุษย์คือใคร ที่พระองค์จะดูแลรักษา
- สดุดี 104:19 - พระองค์สร้างดวงจันทร์ไว้สำหรับกำหนดเวลาของเดือน ดวงอาทิตย์รู้เวลาตกของมัน
- สดุดี 104:20 - พระองค์ให้ความมืดเกิดขึ้น ซึ่งก็เป็นเวลากลางคืน ให้สัตว์ป่าคืบคลานออกมา
- เยเรมีย์ 31:35 - พระผู้เป็นเจ้า องค์ผู้ให้แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ในยามกลางวัน และกำหนดให้แสงสว่างจากดวงจันทร์กับดวงดาวในยามค่ำคืน องค์ผู้ทำให้ทะเลปั่นป่วน และคลื่นส่งเสียงครืนครั่น พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาคือพระนามของพระองค์ ผู้กล่าวดังนี้
- สดุดี 148:3 - ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ จงสรรเสริญพระองค์ ดวงดาวทั้งปวงที่เปล่งประกาย จงสรรเสริญพระองค์เถิด
- สดุดี 74:16 - กลางวันเป็นของพระองค์ และกลางคืนก็ยังคงเป็นของพระองค์เช่นกัน พระองค์สร้างดวงจันทร์และดวงอาทิตย์
- สดุดี 74:17 - พระองค์กำหนดเขตแดนของทุกสิ่งบนโลก ให้มีฤดูร้อนและฤดูหนาว
- สดุดี 136:7 - แด่พระองค์ผู้สร้างดวงสว่างดวงใหญ่ๆ เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดกาล
- สดุดี 136:8 - ให้ดวงอาทิตย์ดูแลในยามทิวา เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดกาล
- สดุดี 136:9 - ให้ดวงจันทร์และดวงดาวทั้งหลายทำงานควบคุมยามราตรี เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดกาล
- เฉลยธรรมบัญญัติ 4:19 - และจงระวังเถิด มิฉะนั้นเวลาที่ท่านเงยหน้าขึ้นสู่ท้องฟ้า เห็นดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว และสิ่งทั้งปวงที่อยู่บนท้องฟ้า แล้วพวกท่านอาจจะถูกชักจูงให้หันไปก้มกราบและบูชาสิ่งเหล่านั้น อันเป็นสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านมอบให้แก่ชนชาติทั้งปวงที่อยู่ใต้ฟ้าทั่วทั้งโลก