逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - เรื่องนี้ถือเป็นการเปรียบเทียบได้ หญิงทั้งสองหมายถึงสองพันธสัญญา พันธสัญญาหนึ่งมาจากภูเขาซีนาย คือ นางฮาการ์ให้กำเนิดลูกทาส
- 新标点和合本 - 这都是比方:那两个妇人就是两约。一约是出于西奈山,生子为奴,乃是夏甲。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 这是比方:那两个妇人就是两个约;一个妇人是出于西奈山,生子为奴,就是夏甲。
- 和合本2010(神版-简体) - 这是比方:那两个妇人就是两个约;一个妇人是出于西奈山,生子为奴,就是夏甲。
- 当代译本 - 这些事都有寓意,两个妇人代表两个约。夏甲代表颁布于西奈山的约,她生的孩子是奴仆。
- 圣经新译本 - 这都是寓意的说法:那两个妇人就是两个约,一个是出于西奈山,生子作奴仆,这是夏甲。
- 中文标准译本 - 这些都是有寓意的。就是说,这两个女人是两个约。一个出于西奈山,生子为奴,她就是夏甲。
- 现代标点和合本 - 这都是比方:那两个妇人就是两约。一约是出于西奈山,生子为奴,乃是夏甲。
- 和合本(拼音版) - 这都是比方,那两个妇人就是两约。一约是出于西奈山,生子为奴,乃是夏甲。
- New International Version - These things are being taken figuratively: The women represent two covenants. One covenant is from Mount Sinai and bears children who are to be slaves: This is Hagar.
- New International Reader's Version - These things are examples. The two women stand for two covenants. One covenant comes from Mount Sinai. It gives birth to children who are going to be slaves. It is Hagar.
- English Standard Version - Now this may be interpreted allegorically: these women are two covenants. One is from Mount Sinai, bearing children for slavery; she is Hagar.
- New Living Translation - These two women serve as an illustration of God’s two covenants. The first woman, Hagar, represents Mount Sinai where people received the law that enslaved them.
- Christian Standard Bible - These things are being taken figuratively, for the women represent two covenants. One is from Mount Sinai and bears children into slavery — this is Hagar.
- New American Standard Bible - This is speaking allegorically, for these women are two covenants: one coming from Mount Sinai giving birth to children who are to be slaves; she is Hagar.
- New King James Version - which things are symbolic. For these are the two covenants: the one from Mount Sinai which gives birth to bondage, which is Hagar—
- Amplified Bible - Now these facts are about to be used [by me] as an allegory [that is, I will illustrate by using them]: for these women can represent two covenants: one [covenant originated] from Mount Sinai [where the Law was given] that bears children [destined] for slavery; she is Hagar.
- American Standard Version - Which things contain an allegory: for these women are two covenants; one from mount Sinai, bearing children unto bondage, which is Hagar.
- King James Version - Which things are an allegory: for these are the two covenants; the one from the mount Sinai, which gendereth to bondage, which is Agar.
- New English Translation - These things may be treated as an allegory, for these women represent two covenants. One is from Mount Sinai bearing children for slavery; this is Hagar.
- World English Bible - These things contain an allegory, for these are two covenants. One is from Mount Sinai, bearing children to bondage, which is Hagar.
- 新標點和合本 - 這都是比方:那兩個婦人就是兩約。一約是出於西奈山,生子為奴,乃是夏甲。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 這是比方:那兩個婦人就是兩個約;一個婦人是出於西奈山,生子為奴,就是夏甲。
- 和合本2010(神版-繁體) - 這是比方:那兩個婦人就是兩個約;一個婦人是出於西奈山,生子為奴,就是夏甲。
- 當代譯本 - 這些事都有寓意,兩個婦人代表兩個約。夏甲代表頒佈於西奈山的約,她生的孩子是奴僕。
- 聖經新譯本 - 這都是寓意的說法:那兩個婦人就是兩個約,一個是出於西奈山,生子作奴僕,這是夏甲。
- 呂振中譯本 - 這些都是有寓意的:那兩個婦人就是兩個約:一個屬於 西乃山 ,生子在奴役中,就是 夏甲 。
- 中文標準譯本 - 這些都是有寓意的。就是說,這兩個女人是兩個約。一個出於西奈山,生子為奴,她就是夏甲。
- 現代標點和合本 - 這都是比方:那兩個婦人就是兩約。一約是出於西奈山,生子為奴,乃是夏甲。
- 文理和合譯本 - 斯為寓言、蓋二女乃二約、一出自西乃山、所生者為僕、夏甲是也、
- 文理委辦譯本 - 斯可為二約譬、一則西乃山、使人為奴、夏甲是也、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 斯可為譬、二婦譬二約、一約自 西乃 山而傳、使人為奴、即 夏甲 、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 於此寓有象徵焉:彼二婦者、即二約也;一約出於 西乃山 、生子為奴、 夏甲 是也。
- Nueva Versión Internacional - Ese relato puede interpretarse en sentido figurado: estas mujeres representan dos pactos. Uno, que es Agar, procede del monte Sinaí y tiene hijos que nacen para ser esclavos.
- 현대인의 성경 - 이것은 비유로서 두 여자는 두 계약을 말합니다. 한 계약은 시내산에서 받은 것으로 종살이할 아기를 낳은 하갈을 의미합니다.
- Новый Русский Перевод - Здесь содержится иносказание: две женщины символизируют два завета. Один был заключен на горе Синай, и его символ – Агарь, рождающая детей в рабство.
- Восточный перевод - Здесь содержится иносказание: две женщины символизируют два священных соглашения. Одно было заключено на горе Синай , и его символ – Хаджар, рождающая детей в рабство Закона.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Здесь содержится иносказание: две женщины символизируют два священных соглашения. Одно было заключено на горе Синай , и его символ – Хаджар, рождающая детей в рабство Закона.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Здесь содержится иносказание: две женщины символизируют два священных соглашения. Одно было заключено на горе Синай , и его символ – Хаджар, рождающая детей в рабство Закона.
- La Bible du Semeur 2015 - Il y a là une analogie : ces deux femmes représentent deux alliances. L’une de ces alliances, conclue sur le mont Sinaï, donne naissance à des enfants esclaves, c’est Agar qui la représente.
- リビングバイブル - このことは、神様が人間を助けるために開かれた二つの道を示しています。一つは、律法を示して、それを守るようにとお命じになった道です。神様は、シナイ山でこの道をお示しになりました。その時、モーセに「十戒」をお与えになったのです。アラビヤ人はこのシナイ山を、「ハガル山」と呼んでいます。ここでアブラハムの奴隷である妻ハガルは、戒めに従うことによって神に喜ばれようとする生き方の象徴、ユダヤ人の母なる都エルサレムを表しています。そして、この生き方に従うユダヤ人は、すべてハガルが産んだ奴隷の子どもなのです。
- Nestle Aland 28 - ἅτινά ἐστιν ἀλληγορούμενα· αὗται γάρ εἰσιν δύο διαθῆκαι, μία μὲν ἀπὸ ὄρους Σινᾶ εἰς δουλείαν γεννῶσα, ἥτις ἐστὶν Ἁγάρ.
- unfoldingWord® Greek New Testament - ἅτινά ἐστιν ἀλληγορούμενα, αὗται γάρ εἰσιν δύο διαθῆκαι: μία μὲν ἀπὸ Ὄρους Σινά εἰς δουλείαν γεννῶσα, ἥτις ἐστὶν Ἁγάρ.
- Nova Versão Internacional - Isso é usado aqui como ilustração ; estas mulheres representam duas alianças. Uma aliança procede do monte Sinai e gera filhos para a escravidão: esta é Hagar.
- Hoffnung für alle - Am Beispiel dieser beiden Frauen will uns Gott zeigen, wie verschieden seine beiden Bündnisse mit den Menschen sind. Den einen Bund, für den Hagar steht, schloss Gott auf dem Berg Sinai mit dem Volk Israel, als er ihm das Gesetz gab. Dieses Gesetz aber versklavt uns.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Chuyện ấy tượng trưng cho hai giao ước, là phương pháp Đức Chúa Trời cứu giúp dân Ngài. Đức Chúa Trời ban hành luật pháp trên núi Si-nai để dân Ngài vâng giữ.
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - สิ่งเหล่านี้เป็นคติสอนใจ ด้วยว่าหญิง 2 คนนั้นได้แก่พันธสัญญา 2 อย่าง พันธสัญญาหนึ่งมาจากภูเขาซีนาย คือนางฮาการ์ โดยมีบุตรภายใต้การเป็นทาส
交叉引用
- ปฐมกาล 25:12 - นี่คือเรื่องราวของอิชมาเอล บุตรชายของอับราฮัมที่เกิดจากนางฮาการ์สาวใช้ชาวอียิปต์ของนางซาราห์
- เอเสเคียล 20:49 - แล้วข้าพเจ้ากราบทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต! พวกเขากำลังกล่าวเกี่ยวกับข้าพเจ้าว่า ‘เขาเพียงแต่กำลังกล่าวคำอุปมาไม่ใช่หรือ?’ ”
- ฮีบรู 10:15 - พระวิญญาณบริสุทธิ์ยังทรงยืนยันข้อนี้แก่เราด้วย พระองค์ตรัสเป็นประการแรกว่า
- ฮีบรู 10:16 - “นี่คือพันธสัญญาที่เราจะทำกับเขาทั้งหลายหลังจากสมัยนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนั้น คือเราจะใส่บทบัญญัติของเราในหัวใจของพวกเขา และจะจารึกบทบัญญัตินั้นบนจิตใจของพวกเขา”
- ฮีบรู 10:17 - “บาปและการอธรรมของพวกเขา เราจะไม่จดจำอีกต่อไป”
- ฮีบรู 10:18 - และเมื่อทรงอภัยบาปให้แล้วก็ไม่ต้องมีการถวายเครื่องบูชาสำหรับไถ่บาปอีกเลย
- ฮีบรู 7:22 - เพราะด้วยคำสาบานนี้พระเยซูจึงทรงเป็นผู้ค้ำประกันพันธสัญญาซึ่งดียิ่งกว่า
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:2 - เขากล่าวว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จจากซีนาย ทรงฉายแสงอรุณเหนือพวกเขาจากเสอีร์ ทรงเปล่งรังสีจากภูเขาปาราน พระองค์เสด็จมากับ ผู้บริสุทธิ์นับหมื่นแสน จากทิศใต้ จากลาดเขา ของพระองค์
- กาลาเทีย 5:1 - พระคริสต์ทรงปลดปล่อยเราเป็นไทเพื่อเสรีภาพ ฉะนั้นจงยืนหยัด อย่ายอมตกอยู่ใต้แอกแห่งความเป็นทาสอีก
- ฮีบรู 12:24 - มาสู่พระเยซูผู้ทรงเป็นคนกลางแห่งพันธสัญญาใหม่ และมาถึงโลหิตประพรมซึ่งกล่าวถึงสิ่งที่ดียิ่งกว่าโลหิตของอาแบล
- ลูกา 22:19 - และพระองค์ทรงหยิบขนมปัง ขอบพระคุณพระเจ้า แล้วหักส่งให้พวกเขาและตรัสว่า “นี่คือกายของเราซึ่งให้แก่ท่าน จงทำเช่นนี้เป็นการระลึกถึงเรา”
- ลูกา 22:20 - หลังจากรับประทานแล้ว พระองค์ทรงหยิบถ้วยและกระทำอย่างเดียวกัน แล้วตรัสว่า “ถ้วยนี้คือพันธสัญญาใหม่ด้วยโลหิตของเราซึ่งหลั่งรินออกเพื่อท่าน
- กาลาเทีย 3:15 - พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอยกตัวอย่างจากชีวิตประจำวัน พันธสัญญาของมนุษย์เมื่อตกลงกันแล้วก็ไม่มีใครยกเลิกหรือเพิ่มเติมได้ฉันใด กรณีนี้ก็ฉันนั้น
- กาลาเทีย 3:16 - พระเจ้าทรงทำพระสัญญาต่างๆ กับอับราฮัมและพงศ์พันธุ์ของเขา พระคัมภีร์ไม่ได้ระบุว่า “แก่บรรดาพงศ์พันธุ์” อันหมายถึงผู้คนมากมาย แต่ระบุว่า “แก่พงศ์พันธุ์ของเจ้า” อันหมายถึงคนเพียงคนเดียวคือพระคริสต์
- กาลาเทีย 3:17 - ข้าพเจ้าหมายความว่าอย่างนี้คือ บทบัญญัติซึ่งมีมาภายหลัง 430 ปีไม่ได้ล้มล้างพันธสัญญาที่พระเจ้าได้ทรงตั้งไว้ก่อนแล้ว และด้วยเหตุนี้บทบัญญัติจึงไม่ได้ยกเลิกพระสัญญา
- กาลาเทีย 3:18 - เพราะหากการรับมรดกขึ้นกับบทบัญญัติก็ไม่ได้ขึ้นกับพระสัญญาอีกต่อไป แต่โดยพระคุณของพระองค์ พระเจ้าประทานมรดกแก่อับราฮัมผ่านทางพระสัญญา
- กาลาเทีย 3:19 - ถ้าเช่นนั้นบทบัญญัติมีไว้เพื่ออะไร? การที่มีบทบัญญัติเพิ่มขึ้นมาก็เพราะการล่วงละเมิดทั้งหลาย และบทบัญญัตินี้คงอยู่จนกว่า “พงศ์พันธุ์” นั้นซึ่งพระสัญญาระบุไว้มาถึง บทบัญญัติมีผลบังคับใช้ผ่านทางเหล่าทูตสวรรค์โดยคนกลาง
- กาลาเทีย 3:20 - อย่างไรก็ตามคนกลางไม่ได้เป็นตัวแทนของฝ่ายเดียวเท่านั้น แต่พระเจ้าทรงเป็นฝ่ายเดียว
- กาลาเทีย 3:21 - ถ้าเช่นนั้นบทบัญญัติขัดกับพระสัญญาของพระเจ้าหรือ? ไม่ใช่อย่างนั้นแน่นอน! เพราะถ้าทรงให้มีบทบัญญัติซึ่งให้ชีวิต ความชอบธรรมย่อมมีได้โดยบทบัญญัติ
- ฮีบรู 13:20 - ขอพระเจ้าแห่งสันติสุขผู้ซึ่งโดยโลหิตแห่งพันธสัญญานิรันดร์ได้ทรงให้พระเยซูเจ้าของเราผู้เป็นองค์พระผู้เลี้ยงผู้ยิ่งใหญ่แห่งฝูงแกะของพระเจ้าเป็นขึ้นจากตายนั้น
- ฮีบรู 8:6 - แต่พันธกิจที่พระเยซูทรงได้รับมอบหมายนั้นยิ่งใหญ่เหนือพันธกิจของพวกเขา เช่นเดียวกับที่พันธสัญญาซึ่งพระองค์ทรงเป็นสื่อกลางก็เหนือกว่าพันธสัญญาเดิม และตั้งอยู่บนพระสัญญาต่างๆ ที่ดียิ่งกว่า
- ฮีบรู 8:7 - เพราะหากพันธสัญญาแรกไม่มีข้อบกพร่องก็ไม่จำเป็นต้องเสาะหาอีกพันธสัญญาหนึ่ง
- ฮีบรู 8:8 - แต่พระเจ้าทรงเห็นข้อผิดพลาดของเหล่าประชากรและตรัสว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า เวลานั้นจะมาถึง เมื่อเราจะทำพันธสัญญาใหม่ กับพงศ์พันธุ์อิสราเอล และกับพงศ์พันธุ์ยูดาห์
- ฮีบรู 8:9 - เป็นพันธสัญญาซึ่งไม่เหมือนพันธสัญญา ที่เราได้ทำไว้กับบรรพบุรุษของเขา เมื่อเราจูงมือพวกเขา นำออกมาจากดินแดนอียิปต์ เพราะพวกเขาไม่ได้คงความสัตย์ซื่อต่อพันธสัญญาของเรา และเราเมินหนีจากพวกเขา องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
- ฮีบรู 8:10 - นี่คือพันธสัญญาที่เราจะทำกับพงศ์พันธุ์อิสราเอลหลังจากสมัยนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ เราจะใส่บทบัญญัติของเราในจิตใจของพวกเขา จารึกบนหัวใจของพวกเขา เราจะเป็นพระเจ้าของพวกเขา และพวกเขาจะเป็นประชากรของเรา
- ฮีบรู 8:11 - ผู้คนจะไม่สอนเพื่อนบ้าน หรือสอนพี่น้องของตนอีกต่อไปว่า ‘จงรู้จักองค์พระผู้เป็นเจ้า’ เพราะพวกเขาทุกคนจะรู้จักเรา ตั้งแต่ผู้น้อยที่สุดไปจนถึงผู้ใหญ่ที่สุด
- ฮีบรู 8:12 - เพราะเราจะอภัยความชั่วช้าของเขา และจะไม่จดจำบาปทั้งหลายของเขาอีกต่อไป”
- ฮีบรู 8:13 - โดยการตรัสเรียกพันธสัญญานี้ว่า “พันธสัญญาใหม่” พระองค์ทรงทำให้พันธสัญญาแรกพ้นสมัยไป สิ่งที่พ้นสมัยหรือเก่าย่อมจะสูญสิ้นไปในไม่ช้า
- ปฐมกาล 16:3 - ฉะนั้นหลังจากที่อับรามอาศัยอยู่ที่คานาอันได้สิบปี นางซารายภรรยาของเขาจึงนำนางฮาการ์สาวใช้ชาวอียิปต์มาให้สามีของนาง ให้เป็นภรรยาของเขา
- ปฐมกาล 16:4 - เขาก็หลับนอนกับฮาการ์และนางก็ตั้งครรภ์ เมื่อนางรู้ว่าตนตั้งครรภ์แล้วก็เริ่มดูถูกนายหญิง
- ปฐมกาล 16:15 - ฮาการ์คลอดบุตรชายคนหนึ่งให้แก่อับราม และอับรามตั้งชื่อบุตรที่นางให้กำเนิดว่าอิชมาเอล
- ปฐมกาล 16:16 - อับรามอายุ 86 ปีเมื่อฮาการ์ให้กำเนิดอิชมาเอลแก่เขา
- ฮีบรู 9:15 - ด้วยเหตุนี้พระคริสต์จึงทรงเป็นคนกลางของพันธสัญญาใหม่ เพื่อบรรดาผู้ที่ทรงเรียกนั้นจะได้รับมรดกนิรันดร์ซึ่งทรงสัญญาไว้ เพราะพระคริสต์ได้ทรงวายพระชนม์เป็นค่าไถ่เพื่อปลดปล่อยเขาให้เป็นอิสระจากบาปซึ่งได้ทำภายใต้พันธสัญญาแรก
- ฮีบรู 9:16 - ในกรณีของพินัยกรรม จำเป็นต้องพิสูจน์ว่าผู้ทำพินัยกรรมนั้นสิ้นชีวิตแล้ว
- ฮีบรู 9:17 - เพราะพินัยกรรมจะมีผลบังคับใช้ก็ต่อเมื่อผู้ทำตายแล้ว หากผู้นั้นยังมีชีวิตอยู่พินัยกรรมจะไม่มีผลอะไร
- ฮีบรู 9:18 - ด้วยเหตุนี้แม้แต่พันธสัญญาแรกจะมีผลบังคับใช้ก็ต้องมีเลือด
- ฮีบรู 9:19 - เมื่อโมเสสประกาศบทบัญญัติทุกข้อแก่เหล่าประชากรทั้งปวงแล้ว เขาก็นำเลือดลูกวัวพร้อมด้วยน้ำ ขนแกะสีแดงและกิ่งหุสบมาประพรมหนังสือม้วนและเหล่าประชากร
- ฮีบรู 9:20 - เขากล่าวว่า “นี่คือเลือดแห่งพันธสัญญาซึ่งพระเจ้าทรงบัญชาให้ท่านทั้งหลายรักษา”
- ฮีบรู 9:21 - และเขาใช้เลือดประพรมพลับพลาและทุกสิ่งที่ใช้ในพิธีต่างๆ เช่นเดียวกัน
- ฮีบรู 9:22 - อันที่จริงบทบัญญัติระบุให้ชำระแทบทุกสิ่งด้วยเลือด และถ้าไม่มีการหลั่งเลือดก็ไม่มีการอภัยบาป
- ฮีบรู 9:23 - ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องชำระสิ่งต่างๆ อันเป็นแบบจำลองของสวรรค์ด้วยเครื่องบูชาเหล่านี้ ส่วนของในสวรรค์เองต้องชำระด้วยเครื่องบูชาที่ดียิ่งกว่า
- ฮีบรู 9:24 - เพราะพระคริสต์ไม่ได้เข้าสู่สถานนมัสการที่มนุษย์สร้างขึ้นซึ่งเป็นเพียงแบบจำลองมาจากของแท้ พระองค์ทรงเข้าสู่สวรรค์โดยตรง บัดนี้ทรงปรากฏต่อหน้าพระเจ้าเพื่อเราทั้งหลาย
- 1โครินธ์ 10:4 - และได้ดื่มน้ำทิพย์เหมือนกัน พวกเขาได้ดื่มน้ำจากศิลาทิพย์ ซึ่งร่วมทางมากับพวกเขา และศิลานั้นคือพระคริสต์
- ฮีบรู 11:19 - อับราฮัมเชื่อว่าพระเจ้าทรงสามารถให้คนตายกลับเป็นขึ้นมาได้ กล่าวเปรียบเทียบได้ว่าเขาได้อิสอัคคืนมาจากความตาย
- ปฐมกาล 16:8 - และทูตนั้นพูดว่า “ฮาการ์ สาวใช้ของซาราย เจ้ามาจากไหนและกำลังจะไปที่ไหน?” นางตอบว่า “ข้าพเจ้ากำลังหนีนางซารายนายหญิงของข้าพเจ้า”
- โรม 8:15 - ท่านไม่ได้รับวิญญาณซึ่งทำให้ท่านเป็นทาสของความกลัวอีก แต่ท่านได้รับพระวิญญาณผู้ทำให้ท่านเป็นบุตรของพระเจ้า และโดยพระองค์ เราร้องว่า “อับบา พ่อ”
- กาลาเทีย 4:25 - นางฮาการ์หมายถึงภูเขาซีนายในประเทศอาระเบีย เล็งถึงกรุงเยรูซาเล็มปัจจุบัน เพราะนางกับบรรดาบุตรของนางเป็นทาสอยู่
- ปฐมกาล 21:9 - แต่ซาราห์เห็นบุตรของนางฮาการ์ชาวอียิปต์ที่เกิดแก่อับราฮัมกำลังหัวเราะเยาะ
- ปฐมกาล 21:10 - นางจึงพูดกับอับราฮัมว่า “จงไล่เมียทาสกับลูกของนางไปเถิด เพราะลูกของเมียทาสคนนั้นจะไม่มีวันมีส่วนร่วมในกองมรดกกับอิสอัคลูกชายของฉัน”
- ปฐมกาล 21:11 - เรื่องนี้ทำให้อับราฮัมทุกข์ใจมากเพราะเกี่ยวข้องกับบุตรชายของเขา
- ปฐมกาล 21:12 - แต่พระเจ้าตรัสกับเขาว่า “อย่าทุกข์ใจเรื่องเด็กคนนั้นกับเมียทาสของเจ้าเลย จงทำตามที่ซาราห์บอก เพราะเชื้อสาย ของเจ้าจะนับทางอิสอัค
- ปฐมกาล 21:13 - และเราจะให้ชนชาติหนึ่งสืบเชื้อสายจากลูกของเมียทาสคนนี้ด้วย เพราะเขาก็เป็นเชื้อสายของเจ้าเหมือนกัน”
- โฮเชยา 11:10 - เขาจะติดตามองค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะทรงเปล่งพระสุรเสียงดุจราชสีห์ เมื่อพระองค์ทรงเปล่งเสียงกึกก้อง ลูกๆ ของพระองค์จะสั่นสะท้านกลับมาจากทางตะวันตก
- มัทธิว 13:35 - ทั้งนี้เป็นจริงตามที่กล่าวไว้ผ่านทางผู้เผยพระวจนะว่า “ข้าพเจ้าจะเอื้อนเอ่ยคำอุปมา จะเผยสิ่งที่ซ่อนเร้นไว้ตั้งแต่ครั้งทรงสร้างโลก”
- 1โครินธ์ 10:11 - สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นแก่พวกเขาเพื่อเป็นตัวอย่าง และบันทึกไว้เพื่อเตือนใจเราผู้ซึ่งอยู่ในยุคที่พระราชกิจของพระเจ้าจะสำเร็จ