逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - เหมือนกับที่เราได้ตัดสินบรรพบุรุษของพวกเจ้าในทะเลทรายใกล้แผ่นดินอียิปต์” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น
- 新标点和合本 - 我怎样在埃及地的旷野刑罚你们的列祖,也必照样刑罚你们。这是主耶和华说的。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 我怎样在埃及地的旷野审判你们的祖先,也必照样审判你们。这是主耶和华说的。
- 和合本2010(神版-简体) - 我怎样在埃及地的旷野审判你们的祖先,也必照样审判你们。这是主耶和华说的。
- 当代译本 - 我从前在埃及的旷野怎样审判你们的祖先,也必怎样审判你们。这是主耶和华说的。
- 圣经新译本 - 我怎样在埃及地的旷野审判你们的祖先,也必怎样审判你们。这是主耶和华的宣告。
- 现代标点和合本 - 我怎样在埃及地的旷野刑罚你们的列祖,也必照样刑罚你们。这是主耶和华说的。
- 和合本(拼音版) - 我怎样在埃及地的旷野刑罚你们的列祖,也必照样刑罚你们。这是主耶和华说的。
- New International Version - As I judged your ancestors in the wilderness of the land of Egypt, so I will judge you, declares the Sovereign Lord.
- New International Reader's Version - Long ago, I judged your people in the desert of Egypt. In the same way, I will judge you,” announces the Lord and King.
- English Standard Version - As I entered into judgment with your fathers in the wilderness of the land of Egypt, so I will enter into judgment with you, declares the Lord God.
- New Living Translation - I will judge you there just as I did your ancestors in the wilderness after bringing them out of Egypt, says the Sovereign Lord.
- The Message - “‘As I faced your parents with judgment in the desert of Egypt, so I’ll face you with judgment. I’ll scrutinize and search every person as you arrive, and I’ll bring you under the bond of the covenant. I’ll cull out the rebels and traitors. I’ll lead them out of their exile, but I won’t bring them back to Israel. “‘Then you’ll realize that I am God.
- Christian Standard Bible - Just as I entered into judgment with your ancestors in the wilderness of the land of Egypt, so I will enter into judgment with you. This is the declaration of the Lord God.
- New American Standard Bible - Just as I entered into judgment with your fathers in the wilderness of the land of Egypt, so I will enter into judgment with you,” declares the Lord God.
- New King James Version - Just as I pleaded My case with your fathers in the wilderness of the land of Egypt, so I will plead My case with you,” says the Lord God.
- Amplified Bible - As I entered into judgment with your fathers in the wilderness of the land of Egypt, so I will enter into judgment and contend with you,” says the Lord God.
- American Standard Version - Like as I entered into judgment with your fathers in the wilderness of the land of Egypt, so will I enter into judgment with you, saith the Lord Jehovah.
- King James Version - Like as I pleaded with your fathers in the wilderness of the land of Egypt, so will I plead with you, saith the Lord God.
- New English Translation - Just as I entered into judgment with your fathers in the wilderness of the land of Egypt, so I will enter into judgment with you, declares the sovereign Lord.
- World English Bible - Just as I entered into judgment with your fathers in the wilderness of the land of Egypt, so I will enter into judgment with you,” says the Lord Yahweh.
- 新標點和合本 - 我怎樣在埃及地的曠野刑罰你們的列祖,也必照樣刑罰你們。這是主耶和華說的。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 我怎樣在埃及地的曠野審判你們的祖先,也必照樣審判你們。這是主耶和華說的。
- 和合本2010(神版-繁體) - 我怎樣在埃及地的曠野審判你們的祖先,也必照樣審判你們。這是主耶和華說的。
- 當代譯本 - 我從前在埃及的曠野怎樣審判你們的祖先,也必怎樣審判你們。這是主耶和華說的。
- 聖經新譯本 - 我怎樣在埃及地的曠野審判你們的祖先,也必怎樣審判你們。這是主耶和華的宣告。
- 呂振中譯本 - 我怎樣在 埃及 地的曠野判罰你們祖先,我也要怎樣判罰你們: 這是 主永恆主發神諭說 的 。
- 現代標點和合本 - 我怎樣在埃及地的曠野刑罰你們的列祖,也必照樣刑罰你們。這是主耶和華說的。
- 文理和合譯本 - 我鞫爾、如在埃及曠野鞫爾列祖、主耶和華言之矣、
- 文理委辦譯本 - 與昔在埃及曠野、斥爾祖之非無異、我耶和華、已言之矣。
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 我斥爾非、如昔在 伊及 曠野斥爾祖之非、 或作我必審鞫爾如昔在伊及曠野審鞫爾祖然 此乃主天主所言、
- Nueva Versión Internacional - Así como juzgué a sus antepasados en el desierto de Egipto, también los juzgaré a ustedes. Yo, el Señor omnipotente, lo afirmo.
- 현대인의 성경 - 내가 너희 조상들을 이집트 땅에서 이끌어낸 후에 광야에서 그들을 심문한 것처럼 너희를 심문하겠다. 이것은 나 주 여호와의 말이다.
- Новый Русский Перевод - Подобно тому, как Я судился с вашими предками в пустыне земли Египта, так Я буду судиться и с вами, – возвещает Владыка Господь. –
- Восточный перевод - Подобно тому, как Я судился с вашими предками в пустыне земли Египта, так Я буду судиться и с вами, – возвещает Владыка Вечный. –
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Подобно тому, как Я судился с вашими предками в пустыне земли Египта, так Я буду судиться и с вами, – возвещает Владыка Вечный. –
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Подобно тому, как Я судился с вашими предками в пустыне земли Египта, так Я буду судиться и с вами, – возвещает Владыка Вечный. –
- La Bible du Semeur 2015 - Tout comme j’ai jugé vos ancêtres dans le désert d’Egypte, je vous jugerai vous aussi, le Seigneur, l’Eternel, le déclare.
- Nova Versão Internacional - Assim como julguei os seus antepassados no deserto do Egito, também os julgarei. Palavra do Soberano, o Senhor.
- Hoffnung für alle - Wie ich euren Vorfahren in der Wüste Ägyptens das Urteil gesprochen habe, so werde ich es auch über euch verhängen. Darauf könnt ihr euch verlassen!
- Kinh Thánh Hiện Đại - Ta sẽ xét xử các ngươi tại đó như Ta đã xét xử tổ phụ các ngươi trong hoang mạc sau khi đem chúng ra khỏi Ai Cập, Chúa Hằng Hữu Chí Cao phán.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - เราพิพากษาบรรพบุรุษของเจ้าในถิ่นกันดารของอียิปต์อย่างไร เราจะพิพากษาเจ้าอย่างนั้น พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - เราจะลงโทษพวกเจ้า อย่างที่เราลงโทษบรรพบุรุษของเจ้าในถิ่นทุรกันดารของแผ่นดินอียิปต์” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
- Thai KJV - เราเข้าสู่การพิพากษากับบรรพบุรุษของเจ้าในถิ่นทุรกันดารแห่งแผ่นดินอียิปต์อย่างไร องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าตรัสว่า เราจะเข้าสู่การพิพากษากับเจ้าอย่างนั้น
交叉引用
- กันดารวิถี 14:1 - พวกประชาชนต่างโห่ร้องเสียงดังและในคืนนั้นพวกเขาก็ร้องห่มร้องไห้กัน
- กันดารวิถี 14:2 - ประชาชนชาวอิสราเอลทั้งหมดบ่นต่อว่าโมเสสและอาโรน พวกเขาทั้งหมดพูดกับโมเสสและอาโรนว่า “น่าจะปล่อยให้พวกเราตายในแผ่นดินอียิปต์หรือไม่ก็ทิ้งให้พวกเราตายในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งนี้
- กันดารวิถี 14:3 - พระยาห์เวห์พาพวกเรามาที่แผ่นดินนี้ เพื่อมาล้มตายด้วยดาบทำไมกัน แล้วเมียและลูกๆของพวกเราก็จะถูกจับไป อย่างนี้พวกเรากลับไปอียิปต์ไม่ดีกว่าหรือ”
- กันดารวิถี 14:4 - พวกเขาพูดกันว่า “ให้พวกเราเลือกหัวหน้าคนใหม่ มานำพวกเรากลับไปอียิปต์กันดีกว่า”
- กันดารวิถี 14:5 - โมเสสและอาโรนก้มลงกับพื้น ต่อหน้าชาวอิสราเอลที่ชุมนุมกันอยู่ที่นั่น
- กันดารวิถี 14:6 - โยชูวาลูกชายของนูนและคาเลบลูกชายเยฟุนเนห์ สองคนนี้ที่ได้ไปสำรวจดินแดนแห่งนั้นด้วย ทั้งสองคนก็โกรธฉีกเสื้อผ้า ของตนออก
- กันดารวิถี 14:7 - ทั้งสองพูดกับชาวอิสราเอลที่ชุมนุมกันอยู่ว่า “แผ่นดินที่พวกเราเดินทางเข้าไปสำรวจนั้นเป็นแผ่นดินที่ดีมากจริงๆ
- กันดารวิถี 14:8 - ถ้าพระยาห์เวห์พอใจพวกเรา พระองค์จะนำพวกเราเข้าในแผ่นดินนั้น และพระองค์จะยกแผ่นดินนั้นให้กับพวกเรา เป็นแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์
- กันดารวิถี 14:9 - ดังนั้น อย่าได้กบฏต่อพระยาห์เวห์เลย และไม่ต้องกลัวคนในแผ่นดินนั้นด้วย เพราะพวกมันเป็นเหยื่อของพวกเรา และสิ่งที่ป้องกันพวกมันก็ไม่มีแล้ว แต่พระยาห์เวห์อยู่กับพวกเรา อย่ากลัวพวกมันเลย”
- กันดารวิถี 14:10 - คนที่ชุมนุมกันนั้นขู่ว่าจะเอาหินขว้างเขาทั้งสอง แล้วรัศมีของพระยาห์เวห์ ก็ปรากฏขึ้นที่เต็นท์นัดพบ ต่อหน้าชาวอิสราเอลทั้งหมด
- กันดารวิถี 14:11 - พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “พวกนี้จะดูหมิ่นเราไปอีกนานแค่ไหน พวกเขาจะไม่ไว้ใจเราไปอีกนานแค่ไหน ทั้งๆที่เราได้แสดงการอัศจรรย์มากมายให้พวกเขาเห็นแล้ว
- กันดารวิถี 14:12 - เราจะให้เกิดโรคระบาดร้ายแรงกับพวกเขาและเราจะทำลายพวกเขา และเราจะทำให้เจ้าเป็นชนชาติที่ยิ่งใหญ่และเข้มแข็งกว่าคนพวกนี้”
- กันดารวิถี 14:13 - โมเสสพูดกับพระยาห์เวห์ว่า “ถ้าพระองค์ทำอย่างนี้ ชาวอียิปต์จะได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะพระองค์ใช้ฤทธิ์อำนาจของพระองค์นำประชาชนเหล่านี้ออกมาจากท่ามกลางพวกเขา
- กันดารวิถี 14:14 - ชาวอียิปต์จะบอกกับคนที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินนี้ พวกเขาก็รู้อยู่แล้วว่าพระองค์ พระยาห์เวห์ ได้อยู่ท่ามกลางคนพวกนี้ และรู้อีกว่าพระองค์ พระยาห์เวห์ได้ปรากฏให้คนพวกนี้เห็นด้วยตาเปล่า พวกเขารู้ว่าเมฆของพระองค์อยู่เหนือคนพวกนี้ พวกเขาก็รู้ว่าในเวลากลางวัน พระองค์นำหน้าคนพวกนี้ในเสาเมฆ ส่วนในเวลากลางคืนพระองค์นำหน้าคนพวกนี้ในเสาไฟ
- กันดารวิถี 14:15 - ถ้าพระองค์ฆ่าคนพวกนี้ทั้งหมด ชนชาติทั้งหลายที่ได้ยินเกี่ยวกับพระองค์ก็จะพูดกันว่า
- กันดารวิถี 14:16 - ‘เป็นเพราะพระยาห์เวห์ไม่สามารถนำคนพวกนี้เข้าไปในแผ่นดินที่พระองค์ได้สัญญาไว้กับพวกเขา พระองค์จึงฆ่าพวกเขาเสียในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง’
- กันดารวิถี 14:17 - ตอนนี้ขอให้ฤทธิ์อำนาจของพระยาห์เวห์ยิ่งใหญ่ เหมือนกับที่พระองค์ได้พูดไว้
- กันดารวิถี 14:18 - พระองค์พูดว่า ‘เรา ยาห์เวห์โกรธช้า แต่เรามีความรักยิ่งใหญ่ เราอภัยให้กับคนที่ทำบาปและแหกกฎ แต่เราจะไม่เว้นโทษให้ทั้งหมด เราจะลงโทษคนพวกนั้น รวมทั้งลูก หลาน เหลน ของเขาด้วย สำหรับความผิดบาปที่พวกเขาทำนั้น’
- กันดารวิถี 14:19 - ดังนั้น ได้โปรดให้อภัยบาปของคนพวกนี้ ด้วยความรักอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ เหมือนกับที่พระองค์ได้อภัยให้กับพวกเขาตั้งแต่ตอนที่พวกเขาออกจากอียิปต์มาจนถึงเดี๋ยวนี้”
- กันดารวิถี 14:20 - พระยาห์เวห์พูดว่า “เราจะอภัยให้ ตามที่เจ้าขอ
- กันดารวิถี 14:21 - เรามีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน และโลกทั้งใบนี้ปกคลุมด้วยรัศมีของพระยาห์เวห์อย่างแน่นอนขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่า เราสัญญาว่า
- กันดารวิถี 14:22 - คนพวกนี้ทั้งหมดที่ได้เห็นรัศมีของเราและเหตุการณ์อันมหัศจรรย์ของเรา ที่เราได้ทำในอียิปต์และในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง และได้ลองดีกับเราถึงสิบครั้งและไม่เชื่อฟังเรา
- กันดารวิถี 14:23 - คนพวกนี้ทั้งหมดจะไม่ได้เห็นแผ่นดินที่เราได้สัญญาไว้กับบรรพบุรุษของพวกเขา รวมทั้งคนพวกนั้นทุกคนที่ไม่เคารพยำเกรงเรา จะไม่ได้เข้าไปในแผ่นดินนั้นด้วย
- กันดารวิถี 14:24 - แต่เพราะคาเลบผู้รับใช้เรา คิดแตกต่างจากคนพวกนั้น และติดตามเราทุกอย่าง เราจะนำเขาเข้าไปในแผ่นดินที่เขาเคยเข้าไปแล้ว และลูกหลานของเขาก็จะได้ครอบครองแผ่นดินนั้น
- กันดารวิถี 14:25 - ชาวอามาเลคและชาวคานาอันอาศัยอยู่ในหุบเขา ดังนั้นในวันพรุ่งนี้ ให้เดินทางกลับเข้าไปในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง โดยใช้เส้นทางที่มุ่งสู่ทะเลแดง”
- กันดารวิถี 14:26 - พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสและอาโรนว่า
- กันดารวิถี 14:27 - “ไอ้พวกชั่วช้านี้จะบ่นต่อว่าเราไปอีกนานแค่ไหน เราได้ยินเสียงบ่นของพวกชาวอิสราเอลที่บ่นต่อว่าเรา
- กันดารวิถี 14:28 - ให้บอกพวกมันว่า ‘พระยาห์เวห์บอกว่า “เรามีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่า เราจะทำกับเจ้าเหมือนกับที่เจ้าได้บ่นใส่หูเรา
- กันดารวิถี 14:29 - พวกเจ้าจะตายในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งนี้ พวกเจ้าทุกคนที่ได้นับไว้แล้ว ทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไปที่ได้บ่นต่อว่าเรา
- กันดารวิถี 14:30 - เจ้าจะไม่ได้เข้าไปในแผ่นดินที่เราได้สัญญาไว้ว่าจะให้เจ้าเข้าไปอยู่ ยกเว้นคาเลบลูกชายของเยฟุนเนห์และโยชูวาลูกชายของนูน
- กันดารวิถี 14:31 - และลูกๆของเจ้าที่เจ้าบอกว่าจะถูกจับตัวไป เราจะพาพวกเขาเข้าไปในแผ่นดินนั้น และพวกเขาจะรู้จักแผ่นดินที่พวกเจ้าปฏิเสธ
- กันดารวิถี 14:32 - แต่พวกเจ้าจะต้องตายอยู่ในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งนี้
- กันดารวิถี 14:33 - ลูกๆของพวกเจ้าจะเป็นคนเลี้ยงแกะในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งเป็นเวลาสี่สิบปี พวกเขาจะต้องทนทุกข์ทรมานเพราะความไม่ซื่อสัตย์ของพวกเจ้า จนกว่าพวกเจ้าจะตายกันหมดในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง
- กันดารวิถี 14:34 - พวกเจ้าจะต้องทนทุกข์เพราะบาปของพวกเจ้าเป็นเวลาสี่สิบปี ซึ่งเท่ากับจำนวนสี่สิบวันที่พวกเจ้าเข้าไปสำรวจแผ่นดินนั้น หนึ่งปีต่อหนึ่งวัน แล้วเจ้าจะได้รู้ว่าเมื่อเราขัดขวางเจ้านั้น มันจะเป็นอย่างไร”’
- กันดารวิถี 14:35 - เรา ยาห์เวห์ ได้พูดไว้แล้วว่า เราจะทำอย่างนี้กับไอ้พวกชั่วช้านี้ทุกคน ที่ได้มาชุมนุมกันต่อต้านเรา พวกมันทุกคนจะต้องตายในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งนี้”
- กันดารวิถี 14:36 - พวกผู้ชายที่โมเสสส่งเข้าไปสำรวจแผ่นดินนั้น ได้กลับมา และรายงานเกี่ยวกับแผ่นดินนั้นอย่างเสียๆหายๆทำให้ผู้คนทั้งหมดบ่นต่อว่าพระยาห์เวห์
- กันดารวิถี 14:37 - พระยาห์เวห์ได้ทำให้ผู้ชายพวกนี้ที่ได้รายงานเกี่ยวกับแผ่นดินนั้นอย่างเสียๆหายๆตายหมดด้วยโรคระบาด
- กันดารวิถี 14:38 - ผู้ชายทั้งหมดที่เข้าไปสำรวจแผ่นดินนั้น มีแต่โยชูวาลูกชายของนูนและคาเลบลูกชายเยฟุนเนห์เท่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่
- กันดารวิถี 14:39 - เมื่อโมเสสบอกเรื่องนี้กับชาวอิสราเอลทุกคน พวกเขาเศร้าโศกเสียใจมาก
- กันดารวิถี 14:40 - วันต่อมา พวกเขาตื่นแต่เช้าตรู่ และเริ่มตรงไปที่ยอดเนินเขานั้น พวกเขาพูดว่า “เราอยู่ที่นี่แล้ว พวกเราจะขึ้นไปยังสถานที่ที่พระยาห์เวห์ได้สัญญาไว้ เพราะพวกเราได้ทำบาปไปแล้ว”
- กันดารวิถี 14:41 - โมเสสจึงพูดว่า “ตอนนี้ทำไมพวกท่านถึงขัดคำสั่งของพระยาห์เวห์ มันจะไม่สำเร็จหรอก
- กันดารวิถี 14:42 - อย่าขึ้นไปเลย พวกท่านจะได้ไม่ถูกฟาดฟันจนพ่ายแพ้ต่อหน้าศัตรู เพราะพระยาห์เวห์ไม่ได้อยู่ท่ามกลางพวกท่าน
- กันดารวิถี 14:43 - เพราะพวกชาวอามาเลคและชาวคานาอันจะต่อสู้กับท่านที่นั่น และพวกท่านจะถูกฆ่าฟันล้มลง เพราะพวกท่านได้หันไปจากพระยาห์เวห์ และพระยาห์เวห์ก็จะไม่อยู่กับพวกท่าน”
- กันดารวิถี 14:44 - แต่พวกเขายังคงดื้อดึง ขึ้นไปบนยอดเนินเขานั้น แม้ว่าหีบศักดิ์สิทธิ์ที่ใส่ข้อตกลงของพระยาห์เวห์ และโมเสสยังไม่ได้ออกไปจากค่าย
- กันดารวิถี 14:45 - ชาวอามาเลคและชาวคานาอันที่อาศัยอยู่แถบเนินเขานั้นต่างกรูกันลงมา และเข้าโจมตีพวกชาวอิสราเอลจนแตกกระเจิงไปถึงโฮรมาห์
- อพยพ 32:7 - พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “ลงไปได้แล้ว ตอนนี้คนของเจ้า ที่เจ้าได้พาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์นั้น กำลังทำตัวเสื่อมเสีย
- อพยพ 32:8 - พวกเขาได้หันไปจากทางที่เราได้สั่งพวกเขาไว้ พวกเขาได้หล่อลูกวัวขึ้นมาสำหรับตัวพวกเขาเอง พวกเขาได้กราบไหว้มัน และถวายเครื่องบูชาให้กับมัน พวกเขายังพูดอีกว่า ‘ชาวอิสราเอลทั้งหลาย นี่คือพวกพระของพวกท่าน ที่ได้นำพวกท่านออกมาจากแผ่นดินอียิปต์’”
- อพยพ 32:9 - พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “เราได้เห็นชนชาตินี้แล้ว มันดื้อดึงเหลือเกิน
- อพยพ 32:10 - ตอนนี้ อย่ามายุ่งกับเรา เพื่อความโกรธของเราจะได้เผาผลาญกลืนกินพวกมันจนหมด แล้วเราจะสร้างเจ้าขึ้นมาเป็นชนชาติใหม่”
- อพยพ 32:11 - โมเสสได้อ้อนวอนพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขาว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ อย่าปล่อยให้ความโกรธของพระองค์ เผาผลาญประชาชนของพระองค์เลย พระองค์เป็นผู้ที่พาคนพวกนี้ออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ ด้วยพลังอันยิ่งใหญ่และมือของพระองค์ที่ยื่นออกมาช่วย
- อพยพ 32:12 - พระองค์จะทำให้ชาวอียิปต์พูดได้ว่า ‘พระยาห์เวห์มีแผนชั่วในใจ ถึงได้พาชาวอิสราเอลออกมา เพื่อพระองค์จะได้ฆ่าพวกเขาที่ภูเขาและทำลายพวกเขาให้หมดสิ้นไปจากโลกนี้’ ขอให้หันจากความเกรี้ยวโกรธของพระองค์ด้วยเถิด และขอให้พระองค์เปลี่ยนใจ อย่าได้ทำสิ่งที่เลวร้ายกับประชาชนของพระองค์เลย
- อพยพ 32:13 - ขอให้พระองค์ระลึกถึงอับราฮัม อิสอัค และอิสราเอล พวกผู้รับใช้ของพระองค์ พระองค์ได้สาบานไว้กับพวกเขาโดยอ้างชื่อของพระองค์เองว่า ‘เราจะทำให้ลูกหลานของพวกเจ้าเพิ่มทวี อย่างกับดวงดาวบนท้องฟ้า และเราได้สัญญาว่าเราจะยกแผ่นดินทั้งหมดนี้ให้กับลูกหลานของพวกเจ้า และพวกเขาจะได้ครอบครองมันตลอดไป’”
- อพยพ 32:14 - แล้วพระยาห์เวห์ก็เปลี่ยนใจ เกี่ยวกับเรื่องเลวร้ายที่พระองค์บอกว่าจะทำกับประชาชนของพระองค์
- อพยพ 32:15 - แล้วโมเสสก็กลับลงมาจากภูเขา พร้อมกับถือแผ่นหินแห่งข้อตกลงสองแผ่นที่มีคำสั่ง เขียนอยู่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
- อพยพ 32:16 - แผ่นหินนั้นเป็นผลงานของพระเจ้า ตัวหนังสือบนแผ่นหินก็เป็นลายมือของพระเจ้า สลักอยู่บนแผ่นหินทั้งสองนั้น
- อพยพ 32:17 - เมื่อโยชูวาได้ยินเสียงร้องตะโกนของประชาชน เขาจึงพูดกับโมเสสว่า “มีเสียงของสงครามอยู่ในค่าย”
- อพยพ 32:18 - โมเสสตอบว่า “เสียงที่เราได้ยินนั้น มันไม่ใช่เสียงร้องตะโกนแห่งชัยชนะหรือพ่ายแพ้ แต่เป็นเสียงร้องเพลง”
- อพยพ 32:19 - เมื่อโมเสสเข้ามาใกล้ค่าย เขาก็เห็นลูกวัวทองคำและการร้องรำทำเพลง โมเสสก็โกรธมาก จึงขว้างหินทั้งสองแผ่นนั้นจากมือ ทำให้มันแตกเป็นชิ้นๆอยู่ที่ตีนเขานั้น
- อพยพ 32:20 - แล้วโมเสสก็เอาลูกวัว ที่ประชาชนสร้างขึ้นมา เผาไฟ และบดจนเป็นผง แล้วโปรยลงในน้ำ และบังคับให้ประชาชนชาวอิสราเอลดื่มมัน
- อพยพ 32:21 - โมเสสพูดกับอาโรนว่า “คนพวกนี้ไปทำอะไรให้กับพี่หรือ พี่ถึงได้นำพวกเขาไปทำบาปอันยิ่งใหญ่มหาศาลนี้”
- อพยพ 32:22 - อาโรนตอบว่า “ขอเจ้านาย อย่าได้โกรธเลย ท่านก็รู้จักคนพวกนี้ดีอยู่แล้ว มันมีใจเอนเอียงที่จะทำชั่วอยู่แล้ว
- อพยพ 32:23 - พวกเขามาพูดกับผมว่า ‘สร้างพวกพระขึ้นมาให้กับเรา เพื่อมันจะได้นำหน้าพวกเราไป เพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับโมเสส ชายคนที่นำพวกเราออกมาจากแผ่นดินอียิปต์’
- อพยพ 32:24 - ผมก็เลยบอกกับพวกเขาว่า ‘ใครที่มีทองคำ ก็ให้ถอดมาให้กับผม’ แล้วผมก็โยนมันเข้าไปในกองไฟ แล้วลูกวัวตัวนี้ก็ออกมา”
- อพยพ 32:25 - เมื่อโมเสสเห็นว่าประชาชนวุ่นวายมาก ไม่สามารถควบคุมได้แล้ว เพราะอาโรนได้ปล่อยพวกเขาจนไม่สามารถควบคุมได้ และนี่จะเป็นเหตุทำให้พวกศัตรูหัวเราะเยาะได้
- อพยพ 32:26 - โมเสสจึงไปยืนอยู่ตรงประตูเข้าค่ายและพูดว่า “ใครที่อยู่ฝ่ายพระยาห์เวห์มาหาเรา” ชาวเลวีทั้งหมดได้มารวมตัวกับโมเสส
- อพยพ 32:27 - โมเสสพูดกับพวกเขาว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอล พูดอย่างนี้ว่า ‘ให้ทุกคนพกดาบไว้ข้างตัว แล้วเข้าไปในค่าย แล้วให้เดินกลับไปกลับมาจากประตูด้านนี้ไปสุดด้านโน้น ฆ่าคนพวกนั้นให้หมด ไม่ว่าจะเป็นพี่น้อง เพื่อนฝูง หรือเพื่อนบ้านของท่านก็ตาม’”
- อพยพ 32:28 - ชาวเลวีก็ทำตามที่โมเสสพูด มีประชาชนตายประมาณสามพันคนในวันนั้น
- อพยพ 32:29 - โมเสสพูดว่า “ให้อุทิศตัวของพวกท่านให้กับพระยาห์เวห์ในวันนี้ รวมทั้งลูกชายและพี่น้องของท่าน แล้วพระยาห์เวห์จะอวยพรพวกท่านในวันนี้”
- อพยพ 32:30 - ในวันต่อมา โมเสสได้พูดกับประชาชนว่า “ท่านได้ทำบาปที่ยิ่งใหญ่มาก ตอนนี้เราจะขึ้นไปหาพระยาห์เวห์ เผื่อว่าเราอาจจะทำอะไรสักอย่าง เพื่อพระองค์จะได้ยกโทษบาปให้กับพวกท่าน”
- อพยพ 32:31 - แล้วโมเสสก็กลับไปหาพระยาห์เวห์และพูดว่า “ได้โปรดเถิด คนเหล่านี้ได้ทำบาปอันใหญ่หลวง โดยสร้างพวกพระทองคำให้กับตัวเอง
- อพยพ 32:32 - เพราะอย่างนี้ ขอได้โปรดยกโทษให้กับความบาปของพวกเขาด้วยเถิด ถ้าพระองค์ไม่ยอม ก็ให้ลบชื่อของข้าพเจ้าออกจากสมุด ของพระองค์ ที่พระองค์ได้เขียนไว้เถิด”
- อพยพ 32:33 - พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “ใครทำบาปต่อเรา เราจะลบชื่อของคนนั้นออกจากสมุดของเรา
- อพยพ 32:34 - ตอนนี้เจ้าไปได้แล้ว ไปนำประชาชนพวกนั้นไปยังที่ที่เราได้บอกกับเจ้าไว้ ทูตสวรรค์ของเราจะนำหน้าเจ้าไป แต่เมื่อเราลงโทษ เราจะลงโทษพวกเขาเพราะบาปของพวกเขา
- อพยพ 32:35 - ดังนั้น พระยาห์เวห์จึงทำให้เกิดโรคระบาดอย่างร้ายแรงกับพวกเขา เพราะพวกเขาบอกให้อาโรนทำลูกวัวทองคำขึ้นมา”
- กันดารวิถี 16:1 - โคราห์ ดาธาน อาบีรัม และโอน ได้ต่อต้านโมเสส โคราห์เป็นลูกชายของอิสฮาร์ อิสฮาร์เป็นลูกชายของโคฮาท โคฮาทเป็นลูกชายของเลวี ส่วนดาธานและอาบีรัมเป็นลูกชายของเอลีอับ โอนเป็นลูกชายของเปเลท ดาธาน อาบีรัมและโอนเป็นลูกหลานของรูเบน พวกเขาได้พาคนหลายคน
- กันดารวิถี 16:2 - ลุกขึ้นต่อต้านโมเสส พวกเขารวบรวมคนได้สองร้อยห้าสิบคนจากประชาชนชาวอิสราเอล พวกคนสองร้อยห้าสิบคนนี้เป็นผู้นำของชุมชน ที่ประชาชนเลือกขึ้นมา เป็นพวกคนที่มีชื่อเสียง
- กันดารวิถี 16:3 - พวกเขารวมตัวกันต่อต้านโมเสสและอาโรน พวกเขาพูดกับโมเสสและอาโรนว่า “พวกท่านหลงตัวเองเกินไปแล้ว เพราะประชาชนทั้งหมดนี้ ทุกคนเป็นคนพิเศษของพระยาห์เวห์ และพระยาห์เวห์ก็อยู่ท่ามกลางพวกเขา ทำไมท่านถึงต้องยกตัวเองขึ้นข่มประชาชนของพระยาห์เวห์ด้วย”
- กันดารวิถี 16:4 - เมื่อโมเสสได้ยินอย่างนั้น เขาก็ทรุดตัวกราบลงกับพื้นดิน
- กันดารวิถี 16:5 - แล้วพูดกับโคราห์และพรรคพวกของเขาว่า “พรุ่งนี้เช้าพระยาห์เวห์จะทำให้ท่านรู้ว่าใครเป็นของพระองค์และใครเป็นคนพิเศษ และพระองค์จะนำคนที่พิเศษนั้นมาอยู่ใกล้พระองค์ และคนที่พระองค์เลือก พระองค์ก็จะนำมาอยู่ใกล้พระองค์
- กันดารวิถี 16:6 - โคราห์ ทำอย่างนี้สิ ในวันพรุ่งนี้ ให้ท่านและพรรคพวกของท่านเอากระถางไฟมา
- กันดารวิถี 16:7 - และเอาไฟใส่เข้าไป แล้วใส่เครื่องหอมลงในนั้นต่อหน้าพระยาห์เวห์ในวันพรุ่งนี้ แล้วคนที่พระยาห์เวห์เลือกจะเป็นคนพิเศษของพระองค์ พวกท่านเลวีต่างหากที่หลงตัวเองไปแล้ว”
- กันดารวิถี 16:8 - โมเสสพูดกับโคราห์ว่า “ฟังให้ดีๆพวกชาวเลวีทั้งหลาย
- กันดารวิถี 16:9 - พวกท่านคิดว่ามันน้อยเกินไปใช่ไหม ที่พระเจ้าของชาวอิสราเอลได้แยกพวกท่านออกจากประชาชนชาวอิสราเอล เพื่อนำพวกท่านมาใกล้พระองค์ ให้มารับใช้ในเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ของพระยาห์เวห์ และมายืนอยู่ต่อหน้าชุมชนเพื่อบริการพวกเขา
- กันดารวิถี 16:10 - พระยาห์เวห์ได้นำท่าน และพรรคพวกของท่าน ให้มาอยู่ใกล้พระองค์ แต่พวกท่านอยากจะเป็นนักบวชด้วย
- กันดารวิถี 16:11 - ดังนั้น ท่าน และพรรคพวกของท่าน จึงได้รวมตัวกันเพื่อต่อต้านพระยาห์เวห์ แล้วอาโรนทำผิดอะไร พวกท่านถึงได้บ่นต่อว่าเขา”
- กันดารวิถี 16:12 - โมเสสส่งคนไปเรียกดาธานและอาบีรัมลูกชายเอลีอับมา แต่พวกเขาบอกว่า “พวกเราจะไม่มา
- กันดารวิถี 16:13 - แค่นี้ยังไม่พออีกหรือ ที่ท่านนำพวกเราออกมาจากแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ เพื่อให้เรามาตายในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งนี้ แล้วตอนนี้ท่านยังทำตัวเป็นเจ้านายเหนือพวกเราอีก
- กันดารวิถี 16:14 - นอกจากนั้น ท่านก็ยังไม่ยอมพาพวกเราเข้าไปในแผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ แถมยังไม่ยอมให้ที่นาและไร่องุ่นกับพวกเราด้วย ท่านจะแหกตาพวกนี้ต่อไปอีกหรือ พวกเราจะไม่มา”
- กันดารวิถี 16:15 - โมเสสโกรธมาก เขาพูดกับพระยาห์เวห์ว่า “อย่าไปรับเครื่องบูชาของพวกเขาเลย ข้าพเจ้าไม่เคยทำผิดต่อพวกเขาเลย แม้แต่ลาซักตัวก็ไม่เคยเอาของเขามา”
- กันดารวิถี 16:16 - โมเสสพูดกับโคราห์ว่า “ท่านและพรรคพวกของท่านต้องมาอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ในวันพรุ่งนี้ จะมีท่าน พรรคพวกของท่านและอาโรน
- กันดารวิถี 16:17 - พวกท่านแต่ละคนจะต้องเอากระถางไฟของท่านใส่เครื่องหอม แล้วแต่ละคนต้องนำกระถางไฟนั้นมาอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ รวมทั้งหมดสองร้อยห้าสิบใบ ท่านและอาโรนก็ต้องนำกระถางไฟของตัวเองมาด้วย”
- กันดารวิถี 16:18 - ดังนั้นทุกคนได้นำกระถางไฟของตัวเองมา ใส่ถ่านที่ติดไฟอยู่ลงไปและใส่เครื่องหอมลงไป แล้วมายืนอยู่หน้าทางเข้าเต็นท์นัดพบพร้อมกับโมเสสและอาโรน
- กันดารวิถี 16:19 - โคราห์รวบรวมคนในชุมชนทั้งหมดให้มาต่อต้านพวกเขาที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ แล้วรัศมีของพระยาห์เวห์ ก็ปรากฏแก่คนทั้งชุมชน
- กันดารวิถี 16:20 - พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสและอาโรนว่า
- กันดารวิถี 16:21 - “ถอยห่างจากชุมชนนี้ เราจะทำลายพวกมันทันที”
- กันดารวิถี 16:22 - โมเสสและอาโรนก้มกราบลงและพูดว่า “พระเจ้า พระองค์เป็นพระเจ้าเหนือวิญญาณของคนทั้งหมด เมื่อมีคนหนึ่งทำบาป พระองค์จะโกรธคนทั้งชุมชนหรือ”
- กันดารวิถี 16:23 - พระยาห์เวห์จึงพูดกับโมเสสว่า
- กันดารวิถี 16:24 - “ให้บอกกับคนในชุมชนว่า ‘ย้ายออกไปให้ห่างจากเต็นท์ของโคราห์ ดาธานและอาบีรัม’”
- กันดารวิถี 16:25 - โมเสสยืนขึ้นและตรงไปที่ดาธาน อาบีรัมและพวกผู้ใหญ่ของชาวอิสราเอลที่ติดตามเขา
- กันดารวิถี 16:26 - โมเสสบอกกับชุมชนว่า “ย้ายออกให้ห่างจากเต็นท์ของคนชั่วพวกนี้ และอย่าไปแตะต้องอะไรก็ตามที่เป็นของพวกเขา ไม่อย่างนั้น ท่านจะถูกทำลาย เพราะความบาปทั้งหมดของพวกเขา”
- กันดารวิถี 16:27 - ประชาชนจึงย้ายออกห่างจากเต็นท์ของโคราห์ ดาธานและอาบีรัม ตอนนี้ ดาธานและอาบีรัมได้ออกมายืนอยู่ที่ทางเข้าเต็นท์ของพวกเขา พร้อมกับลูกเมียและเด็กทารกของพวกเขา
- กันดารวิถี 16:28 - โมเสสพูดว่า “อย่างนี้พวกท่านจะได้รู้ว่า พระยาห์เวห์ได้ส่งเรามาทำสิ่งต่างๆเหล่านี้ เราไม่ได้คิดพวกมันขึ้นมาเอง
- กันดารวิถี 16:29 - คือ ถ้าคนพวกนี้ตายธรรมดาๆเหมือนกับที่คนอื่นๆเขาตายกัน และถ้าเรื่องที่เกิดกับคนอื่นก็เกิดขึ้นกับพวกเขาด้วย แสดงว่าพระยาห์เวห์ไม่ได้ส่งเรามา
- กันดารวิถี 16:30 - แต่ถ้าพระยาห์เวห์ทำในสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ให้พื้นดินอ้าปากกลืนพวกเขาและทุกสิ่งที่เขามีลงไป และพวกนี้ถูกฝังทั้งเป็น แล้วท่านก็จะได้รู้ว่า พวกเขาได้ดูหมิ่นพระยาห์เวห์”
- กันดารวิถี 16:31 - เมื่อโมเสสพูดจบ พื้นดินที่อยู่ใต้คนพวกนั้นก็แยกออก
- กันดารวิถี 16:32 - มันเหมือนกับพื้นดินกำลังอ้าปากของมันและกลืนเอาคนพวกนั้น ครอบครัวของพวกเขาและคนของโคราห์ รวมทั้งทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเขา
- กันดารวิถี 16:33 - พวกเขาจึงถูกฝังทั้งเป็นพร้อมสิ่งของของพวกเขา แล้วพื้นดินก็ปิดทับพวกเขาและพวกเขาก็หายไปจากชุมชน
- กันดารวิถี 16:34 - คนอิสราเอลอื่นๆที่อยู่รอบๆต่างวิ่งหนี เมื่อได้ยินเสียงร้องของพวกเขา คนเหล่านั้นพูดว่า “เดี๋ยวแผ่นดินจะกลืนพวกเราไปด้วย”
- กันดารวิถี 16:35 - พระยาห์เวห์ได้ส่งไฟลงมาทำลายสองร้อยห้าสิบคนที่กำลังบูชาเครื่องหอมอยู่
- กันดารวิถี 16:36 - พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า
- กันดารวิถี 16:37 - “บอกเอเลอาซาร์ลูกชายของนักบวชอาโรนว่า ให้เอากระถางไฟพวกนั้นออกมาจากกองไฟที่ยังเผาอยู่ และเขี่ยถ่านไฟและขี้เถ้าให้กระจายไปทั่วๆ กระถางไฟได้กลายเป็นของศักดิ์สิทธิ์ เพราะพวกเขาได้เอากระถางไฟพวกนี้มาถวายพระยาห์เวห์ ให้เอากระถางไฟของคนพวกนี้ที่ทำบาปจนทำให้พวกเขาต้องตาย ไปตีให้แบนๆ แล้วเอามาทาบเข้ากับแท่นบูชา มันจะเป็นสิ่งเตือนใจสำหรับประชาชนชาวอิสราเอล”
- กันดารวิถี 16:39 - นักบวชเอเลอาซาร์จึงเอากระถางไฟทองสัมฤทธิ์ ที่คนพวกนั้นที่ถูกเผาไปแล้วนำมาถวาย เอามาตีเป็นแผ่นบางๆ มาทาบไปบนแท่นบูชาตามที่พระยาห์เวห์ได้บอกกับเขาผ่านทางโมเสส
- กันดารวิถี 16:40 - แผ่นทองสัมฤทธิ์นี้จะเป็นสิ่งที่เตือนประชาชนชาวอิสราเอล เพื่อไม่ให้คนที่ไม่มีสิทธิ์ ที่ไม่ใช่ลูกหลานของอาโรนเข้าไปใกล้แท่นบูชาเพื่อเผาเครื่องหอมต่อหน้าพระยาห์เวห์ จะได้ไม่เป็นเหมือนโคราห์และพรรคพวกของเขา
- กันดารวิถี 16:41 - วันต่อมา ชุมชนชาวอิสราเอลทั้งหมด ต่างบ่นต่อว่าโมเสสและอาโรนว่า “ท่านได้ทำให้คนของพระยาห์เวห์ต้องตาย”
- กันดารวิถี 16:42 - ขณะที่คนในชุมชนกำลังรวมตัวกันต่อต้านโมเสสและอาโรน พวกเขาได้หันไปทางเต็นท์นัดพบ และเห็นเมฆปกคลุมเต็นท์นั้นและรัศมีของพระยาห์เวห์ ก็ปรากฏขึ้น
- กันดารวิถี 16:43 - โมเสสกับอาโรนก็มาที่ด้านหน้าของเต็นท์นัดพบ
- กันดารวิถี 16:44 - พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า
- กันดารวิถี 16:45 - “ถอยไปให้ห่างจากชุมชนนี้ เราจะได้ทำลายพวกเขาเดี๋ยวนี้” โมเสสกับอาโรนจึงก้มกราบลงกับพื้น
- กันดารวิถี 16:46 - โมเสสพูดกับอาโรนว่า “ไปเอากระถางไฟ และเอาไฟจากแท่นบูชาใส่ลงไป และใส่เครื่องหอมลงไปด้วย แล้วรีบเอาไปที่ชุมชนนั้นแทนประชาชน เพื่อระงับความโกรธของพระยาห์เวห์ เพราะพระยาห์เวห์กำลังโกรธพวกเขา โรคระบาดกำลังเกิดขึ้น”
- กันดารวิถี 16:47 - แล้วอาโรนก็ไปเอากระถางไฟตามที่โมเสสบอก แล้ววิ่งเข้าไปกลางชุมชน และเขาเห็นว่าเกิดโรคระบาดขึ้นแล้วในหมู่ประชาชน เขาเอาเครื่องหอมใส่ลงในกระถางไฟแทนประชาชน เพื่อระงับความโกรธของพระยาห์เวห์
- กันดารวิถี 16:48 - เขายืนอยู่ระหว่างคนเป็นและคนตาย และโรคระบาดก็หยุดลง
- กันดารวิถี 16:49 - มีคนตายจากโรคระบาดครั้งนี้ถึงหนึ่งหมื่นสี่พันเจ็ดร้อยคน ไม่รวมคนที่ตายไปก่อนหน้านี้แล้วเพราะโคราห์
- กันดารวิถี 16:50 - อาโรนได้กลับไปหาโมเสสที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ เพราะโรคระบาดได้หยุดลงแล้ว
- กันดารวิถี 25:1 - ขณะนั้นชาวอิสราเอลอยู่ที่ชิทธิม ในเวลานั้น ประชาชนเริ่มทำบาปทางเพศ กับหญิงชาวโมอับ
- กันดารวิถี 25:2 - หญิงชาวโมอับได้เชิญชาวอิสราเอลร่วมพิธีบูชาพระต่างๆของพวกเขา ดังนั้น ชาวอิสราเอลจึงกินเครื่องบูชาเหล่านั้นและได้บูชาพระต่างๆของชาวโมอับ
- กันดารวิถี 25:3 - เพราะอย่างนี้ชาวอิสราเอลถึงได้เริ่มบูชาพระบาอัลของเปโอร์ พระยาห์เวห์จึงโกรธชาวอิสราเอล
- กันดารวิถี 25:4 - พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “ให้เอาตัวพวกหัวหน้าของชาวอิสราเอลมาเสียบไว้กลางแดดต่อหน้าพระยาห์เวห์ แล้วพระยาห์เวห์จะไม่โกรธชาวอิสราเอล”
- กันดารวิถี 25:5 - โมเสสจึงพูดกับพวกผู้พิพากษาของชาวอิสราเอลว่า “พวกท่านแต่ละคนจะต้องฆ่าคนของท่านที่ไปบูชาพระบาอัลของเปโอร์”
- กันดารวิถี 25:6 - ในขณะที่โมเสสและผู้นำชาวอิสราเอลกำลังชุมนุมกันอยู่หน้าเต็นท์นัดพบ ก็มีชาวอิสราเอลคนหนึ่งได้พาหญิงชาวมีเดียนคนหนึ่งมาให้พวกพี่น้อง ของเขา เขาทำสิ่งนี้ต่อหน้าโมเสสและชาวอิสราเอลทั้งหมด โมเสสและพวกผู้นำก็ร้องไห้คร่ำครวญ
- กันดารวิถี 25:7 - เมื่อฟีเนหัสลูกชายเอเลอาซาร์ ซึ่งเป็นลูกชายของนักบวชอาโรนเห็นเข้า เขาจึงจากที่ชุมนุมมาและไปหยิบหอกของเขา
- กันดารวิถี 25:8 - เขาตามชายอิสราเอลคนนั้นเข้าไปในเต็นท์ และเอาหอกแทงชายอิสราเอลคนนั้นพร้อมกับหญิงมีเดียนคนนั้นที่ท้องจนตาย และโรคระบาดร้ายแรงในหมู่ประชาชนชาวอิสราเอลก็หยุดลง
- กันดารวิถี 25:9 - มีคนตายจากโรคระบาดนี้ถึงสองหมื่นสี่พันคน
- กันดารวิถี 25:10 - พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า
- กันดารวิถี 25:11 - “ฟีเนหัสลูกชายของเอเลอาซาร์ผู้เป็นลูกชายของนักบวชอาโรนได้ช่วยชีวิตประชาชนชาวอิสราเอลไว้จากความโกรธของเรา เขาทำไปเพราะเขาโกรธในบาปของประชาชนเหล่านั้นเหมือนที่เราโกรธ เราจึงไม่ทำลายประชาชนชาวอิสราเอลด้วยความโกรธของเรา
- กันดารวิถี 25:12 - ด้วยเหตุนี้ ให้ไปบอกกับฟีเนหัสว่า เราจะทำข้อตกลงที่เป็นมิตรกับเขา
- กันดารวิถี 25:13 - ข้อตกลง คือ เขาและลูกหลานของเขาซึ่งมีชีวิตต่อจากเขา จะได้เป็นนักบวชตลอดไป เพราะเขาได้หันเหความโกรธของพระเจ้าไป เขาทำอย่างนี้แทนชาวอิสราเอล”
- กันดารวิถี 25:14 - ชายชาวอิสราเอลที่ถูกฆ่าพร้อมหญิงมีเดียนนั้นชื่อ ศิมรีลูกชายสาลู สาลูเป็นผู้นำครอบครัวจากเผ่าสิเมโอน
- กันดารวิถี 25:15 - ส่วนหญิงชาวมีเดียนนั้น ชื่อคสบี เป็นลูกสาวของศูร์ ศูร์เป็นหัวหน้าตระกูลหรือครอบครัวของมีเดียน
- กันดารวิถี 25:16 - พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า
- กันดารวิถี 25:17 - “ให้เป็นศัตรูกับชาวมีเดียน และฆ่าพวกมัน
- กันดารวิถี 25:18 - เพราะพวกมันเป็นศัตรูกับพวกเจ้า พวกมันหลอกลวงพวกเจ้าที่เปโอร์ และยังหลอกลวงพวกเจ้าด้วยการใช้น้องสาวของพวกมันที่ชื่อคสบีลูกสาวของผู้นำชาวมีเดียน ผู้หญิงที่ถูกฆ่าในขณะที่เกิดโรคระบาดกับชาวอิสราเอล เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นที่เปโอร์”
- สดุดี 106:15 - ดังนั้นพระองค์จึงให้สิ่งที่พวกเขาร้องขอ แต่พระองค์ก็แถมโรคร้ายมาให้ด้วย
- สดุดี 106:16 - บางคนในค่ายพักอิจฉาริษยาโมเสส และอาโรนนักบวชผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระยาห์เวห์
- สดุดี 106:17 - ดังนั้นแผ่นดินได้แยกออกดูดกลืนดาธานลงไป และกลบพรรคพวกของอาบีรัม
- สดุดี 106:18 - มีไฟลุกลามใหญ่โตท่ามกลางพรรคพวกที่เหลือของเขา เปลวไฟได้เผาผลาญคนชั่วเหล่านั้น
- สดุดี 106:19 - แล้วบรรพบุรุษก็สร้างลูกวัวทองคำขึ้นมาที่ภูเขาโฮเรบ และก้มกราบนมัสการรูปที่หล่อจากโลหะนั้น
- สดุดี 106:20 - พวกเขาเอาพระเจ้าผู้เต็มไปด้วยบารมี ไปแลกกับรูปหล่อของวัวตัวผู้ที่กินหญ้า
- สดุดี 106:21 - พวกเขาลืมพระเจ้าผู้ที่ช่วยชีวิตพวกเขาให้รอด และผู้ที่ทำสิ่งยิ่งใหญ่ทั้งหลายในอียิปต์
- สดุดี 106:22 - พระเจ้าทำสิ่งที่น่าทึ่งทั้งหลายในดินแดนของฮาม และทำสิ่งที่น่ายำเกรงหลายอย่างที่ทะเลแดง
- สดุดี 106:23 - พระเจ้าบอกว่าพระองค์จะทำลายอิสราเอล แต่โมเสส ผู้นำที่พระองค์เลือกมาได้มายืนขวางไว้ ทำให้อารมณ์โกรธแค้นของพระองค์สงบลง พระองค์ก็เลยไม่ทำลายล้างอิสราเอล
- สดุดี 106:24 - แล้วพวกเขาก็ปฏิเสธไม่ยอมเข้าไปในดินแดนคานาอันที่น่าอยู่ พวกเขาไม่เชื่อคำสัญญาของพระองค์ที่จะช่วยเขา
- สดุดี 106:25 - พวกเขานั่งบ่นต่อว่าพระเจ้าอยู่ในเต็นท์ของพวกเขา และไม่ยอมฟังเสียงของพระยาห์เวห์
- สดุดี 106:26 - ดังนั้นพระองค์จึงยกมือขึ้นสาบานว่า พระองค์จะทำให้พวกเขาล้มตายไปในทะเลทราย
- สดุดี 106:27 - และพระองค์ทำให้ลูกหลานของพวกเขากระจัดกระจายไปตามชนชาติต่างๆ และไล่พวกเขาให้ไปอยู่ตามดินแดนต่างๆที่ห่างไกล
- สดุดี 106:28 - แล้วพวกเขาก็ไปร่วมนมัสการพระบาอัลที่เมืองเปโอร์ และกินเครื่องเซ่นไหว้คนตาย
- สดุดี 106:29 - การกระทำของพวกเขาทำให้พระยาห์เวห์โกรธ พระองค์จึงทำให้เกิดโรคระบาดขึ้นในหมู่พวกเขา
- สดุดี 106:30 - แล้วฟีเนหัสได้จัดการกับคนที่ทำผิด แล้วโรคระบาดนั้นก็หยุดลง
- สดุดี 106:31 - สิ่งที่ฟีเนหัสทำนี้ ทำให้พระเจ้าพอใจ และเป็นที่จดจำไปตลอดชั่วลูกชั่วหลาน
- สดุดี 106:32 - แต่แล้ว พวกอิสราเอลก็ทำให้พระองค์โกรธอีกที่ตาน้ำเมรีบาห์ และพวกเขาก่อปัญหาให้กับโมเสสด้วย
- สดุดี 106:33 - คนพวกนั้นทำให้โมเสสโกรธ เขาจึงพูดโดยไม่ได้ยั้งคิด
- สดุดี 106:34 - แล้วพวกอิสราเอลก็ไม่ได้ทำลายชนชาติอื่นๆ ตามที่พระยาห์เวห์บอกให้พวกเขาทำ
- สดุดี 106:35 - แต่พวกเขากลับไปคลุกคลีอยู่กับคนพวกนั้น และไปหัดทำตามสิ่งที่คนพวกนั้นทำ
- สดุดี 106:36 - พวกเขาเริ่มไปบูชาพวกเทวรูปทั้งหลายของคนพวกนั้น และสิ่งนี้ได้กลายเป็นกับดักที่ทำให้พวกเขาล้มไป
- สดุดี 106:37 - พวกเขายอมแม้กระทั่งเอาลูกชายลูกสาวของตัวเอง มาบูชายัญพวกปีศาจ
- สดุดี 106:38 - พวกเขาทำให้เลือดของผู้บริสุทธิ์ต้องหลั่งไหล คือเลือดของลูกชายลูกสาวของพวกเขาเอง ที่เอามาบูชายัญต่อพวกเทวรูปของคานาอัน และแผ่นดินของพวกเขาเสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ไปเพราะเลือดของคนเหล่านั้น
- สดุดี 106:39 - และพวกเขาเองก็เป็นมลทินเพราะการกระทำของพวกเขา พวกเขาไม่สัตย์ซื่อเหมือนกับหญิงโสเภณี
- สดุดี 106:40 - ดังนั้น พระยาห์เวห์จึงโกรธคนของพระองค์ และสะอิดสะเอียนพวกเขา
- สดุดี 106:41 - พระองค์จึงมอบคนพวกนั้นให้กับชนชาติอื่นๆ และคนเหล่านั้นที่เกลียดพวกเขาเริ่มปกครองเหนือพวกเขา
- สดุดี 106:42 - พวกศัตรูข่มเหงพวกเขา และปราบพวกเขาให้ตกอยู่ใต้อำนาจ
- สดุดี 106:43 - พระองค์ช่วยกู้พวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พวกเขาก็กบฏและทำตามใจตัวเอง พวกเขาตกต่ำลงเพราะความผิดบาปของพวกเขา
- สดุดี 106:44 - แต่เมื่อพวกเขาตกอยู่ในความทุกข์ยากและอธิษฐานต่อพระองค์ พระองค์ก็ฟังและดูแลพวกเขา
- สดุดี 106:45 - พระองค์ระลึกถึงข้อตกลงที่ทำกับพวกเขา และด้วยความรักอันมั่นคงของพระองค์ พระองค์จึงสงสารพวกเขา
- สดุดี 106:46 - พระองค์ทำให้ทุกคนที่กวาดต้อนพวกเขาไป เกิดความเมตตากับพวกเขา
- สดุดี 106:47 - ตอนนี้ ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา โปรดช่วยกู้พวกเราด้วยเถิด รวบรวมพวกเราจากชนชาติต่างๆ เราจะขอบคุณชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ และโอ้อวดถึงสิ่งที่น่าสรรเสริญทั้งหลายที่พระองค์ได้ทำ
- สดุดี 106:48 - ขอสรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้เป็นอยู่ตลอดมาและจะคงอยู่ตลอดไป ขอให้ชนชาติทั้งหมดพูดว่า “อาเมน” สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด
- เอเสเคียล 20:21 - แต่ลูกๆพวกนั้นได้กบฏต่อเราอีก พวกเขาไม่ยอมทำตามข้อบังคับทั้งหลายของเรา พวกเขาไม่ได้รักษากฎของเราอย่างเคร่งครัด ทั้งๆที่การเชื่อฟังกฎเหล่านั้นทำให้มีชีวิต พวกเขายังทำให้วันหยุดพักผ่อนที่เราให้เขาเสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ด้วย ดังนั้น เราจึงบอกว่า ‘เราจะเทความเดือดดาลของเราลงบนพวกเขา และแสดงความโกรธใส่พวกเขาในทะเลทราย’
- เอเสเคียล 20:13 - แต่ประชาชนชาวอิสราเอลได้กบฏต่อเราในทะเลทราย พวกเขาไม่ยอมทำตามข้อบังคับทั้งหลายของเรา พวกเขาไม่ยอมรับกฎต่างๆของเรา ทั้งๆที่การเชื่อฟังกฎเหล่านั้นทำให้มีชีวิต พวกเขาทำให้พวกวันหยุดพักผ่อนที่เราให้เขาเสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ไป เราจึงบอกว่า ‘เราจะเทความเดือดดาลของเราลงบนพวกเขา และทำลายพวกเขาในทะเลทราย’
- 1 โครินธ์ 10:5 - แต่พระเจ้าไม่พอใจพวกเขาส่วนใหญ่ ที่เรารู้ก็เพราะมีคนตายเกลื่อนกลาดในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งนั้น
- 1 โครินธ์ 10:6 - เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างไม่ให้เราเกิดความอยากในสิ่งชั่วๆนั้น เหมือนกับความอยากของคนพวกนั้น
- 1 โครินธ์ 10:7 - เราต้องไม่บูชารูปเคารพเหมือนกับที่พวกเขาบางคนทำ พระคัมภีร์บอกไว้ว่า “ผู้คนนั่งลงกินดื่ม และลุกขึ้นมาเต้นรำมั่วสุมทางเพศ”
- 1 โครินธ์ 10:8 - เราต้องไม่ทำผิดทางเพศเหมือนกับที่บางคนในพวกเขาทำ จนมีคนต้องล้มตายลงถึงสองหมื่นสามพันคนในวันเดียว
- 1 โครินธ์ 10:9 - เราต้องไม่ลองดีกับพระคริสต์เหมือนกับที่พวกเขาบางคนทำ จนถูกงูกัดตาย
- 1 โครินธ์ 10:10 - เราต้องไม่บ่นเหมือนกับที่บางคนในพวกเขาบ่น จนพระเจ้าต้องส่งทูตมาฆ่าพวกเขา
- กันดารวิถี 11:1 - ชาวอิสราเอลเริ่มบ่นอย่างขมขื่นต่อหน้าพระยาห์เวห์ พระองค์ได้ยินและโกรธ พระองค์จึงส่งไฟลงมาเผาผลาญอยู่ท่ามกลางพวกเขา และไฟนั้นได้เผาบริเวณแถวๆริมค่ายหายไปส่วนหนึ่ง
- กันดารวิถี 11:2 - พวกประชาชนต่างร้องขอความช่วยเหลือกับโมเสส โมเสสได้อธิษฐานกับพระยาห์เวห์ และไฟก็ดับลง
- กันดารวิถี 11:3 - เขาจึงตั้งชื่อสถานที่นั้นว่า ทาเบราห์ เพราะไฟจากพระยาห์เวห์ได้เผาผลาญอยู่ท่ามกลางพวกเขา
- กันดารวิถี 11:4 - พวกที่ชอบก่อปัญหา อยากได้อาหารที่ดีกว่านี้ และชาวอิสราเอลเองร้องไห้คร่ำครวญอีกครั้ง พวกเขาพูดว่า “ใครจะให้เนื้อเรากิน
- กันดารวิถี 11:5 - เราคิดถึงเนื้อปลาที่เราได้กินในอียิปต์ ไม่ต้องจ่ายอะไรเลย ยังมีแตงกวา แตงโม ต้นหอม หัวหอมและกระเทียม
- กันดารวิถี 11:6 - แต่ตอนนี้ชีวิตของเราช่างแห้งแล้งเสียเหลือเกิน ไม่มีอะไรเลย นอกจากมานานี้”
- กันดารวิถี 11:7 - (มานามีลักษณะเหมือนเมล็ดผักชี มีสีเหมือนยางไม้
- กันดารวิถี 11:8 - ผู้คนจะไปเก็บรวบรวมมันและนำไปบดด้วยโม่หินหรือตำด้วยครกและต้มในหม้อและทำเป็นแผ่นขนมปัง รสชาติเหมือนกับขนมปังแผ่นที่อบกับน้ำมัน
- กันดารวิถี 11:9 - ตอนกลางคืน เมื่อน้ำค้างตกในค่าย มานาจะตกลงมาพร้อมๆกับน้ำค้างนั้น)
- กันดารวิถี 11:10 - ผู้คนในแต่ละตระกูล ต่างพากันยืนอยู่หน้าเต็นท์ของตัวเองร้องไห้คร่ำครวญกัน โมเสสได้ยินเสียงนั้น พระยาห์เวห์โกรธ และโมเสสก็ไม่พอใจ
- กันดารวิถี 11:11 - โมเสสถามพระยาห์เวห์ว่า “ทำไมพระองค์ถึงทำให้เกิดปัญหาพวกนี้กับข้าพเจ้าผู้รับใช้ของพระองค์ ทำไมพระองค์ไม่ชอบข้าพเจ้า ถึงได้ให้ข้าพเจ้าต้องแบกภาระของคนพวกนี้ทั้งหมด
- กันดารวิถี 11:12 - ข้าพเจ้าตั้งท้องพวกนี้มาหรือ ข้าพเจ้าคลอดพวกนี้มาหรือ พระองค์ถึงได้พูดกับข้าพเจ้าว่า ‘อุ้มพวกเขาไว้แนบอกเหมือนคนเลี้ยงที่อุ้มเด็กทารกไว้’ เพื่อนำพวกเขาไปยังดินแดนที่พระองค์ได้สัญญาไว้กับบรรพบุรุษของพวกเขา
- กันดารวิถี 11:13 - เมื่อพวกเขามาร้องคร่ำครวญต่อหน้าข้าพเจ้า พูดว่า ‘ให้เนื้อสัตว์พวกเรากินหน่อย’ แล้วข้าพเจ้าจะไปหาเนื้อสัตว์จากที่ไหนมาให้คนพวกนี้
- กันดารวิถี 11:14 - ลำพังข้าพเจ้าคนเดียว ไม่สามารถแบกคนเหล่านี้ได้ทั้งหมดหรอก มันมากเกินไปสำหรับข้าพเจ้า
- กันดารวิถี 11:15 - ถ้าพระองค์จะทำอย่างนี้กับข้าพเจ้า ฆ่าข้าพเจ้าเลยดีกว่า ถ้าพระองค์พอใจข้าพเจ้า ก็ให้ข้าพเจ้าตายไปดีกว่า จะได้ไม่ต้องเจอกับปัญหาพวกนี้อีกต่อไป”
- กันดารวิถี 11:16 - พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “ไปรวบรวมผู้อาวุโสของอิสราเอลมาให้เราเจ็ดสิบคน เอาคนที่เจ้ารู้ว่าเป็นผู้อาวุโส และผู้นำของประชาชน แล้วพาพวกเขามาที่เต็นท์นัดพบ และให้พวกเขายืนอยู่ที่นั่นกับเจ้า
- กันดารวิถี 11:17 - แล้วเราจะลงมาและพูดกับเจ้าที่นั่น พระวิญญาณที่อยู่กับเจ้านี้ เราจะเอาส่วนหนึ่งไปให้กับพวกเขา พวกเขาจะช่วยแบกภาระของประชาชนกับเจ้า เพื่อเจ้าจะได้ไม่ต้องแบกคนเดียว
- กันดารวิถี 11:18 - ให้บอกกับประชาชนว่า ‘ชำระตัวของเจ้าให้บริสุทธิ์สำหรับวันพรุ่งนี้ พรุ่งนี้เจ้าจะได้กินเนื้อ เพราะเจ้าได้ร้องคร่ำครวญต่อหน้าพระยาห์เวห์ว่า “ใครจะเอาเนื้อมาให้พวกเรากิน อยู่ที่อียิปต์ดีกว่านี้เยอะเลย” พระยาห์เวห์จะให้เนื้อกับพวกท่าน และพวกท่านจะได้กินมัน
- กันดารวิถี 11:19 - ท่านจะไม่ได้กินแค่วันสองวันหรือห้าวัน หรือสิบวันหรือยี่สิบวันเท่านั้น
- กันดารวิถี 11:20 - แต่ท่านจะได้กินตลอดทั้งเดือน จนมันทะลักออกมาทางจมูก ท่านจะกินจนขยะแขยงไปเลย มันจะเป็นอย่างนี้ เพราะท่านปฏิเสธพระยาห์เวห์ที่อยู่ท่ามกลางท่าน และมาร้องคร่ำครวญต่อหน้าพระองค์ว่า “ทำไมเราถึงต้องออกมาจากอียิปต์กัน”’”
- กันดารวิถี 11:21 - โมเสสพูดว่า “มีทหารเดินเท้าตั้งหกแสนคนอยู่กับข้าพเจ้าที่นี่ แต่พระองค์ยังพูดว่า ‘เราจะให้เนื้อสัตว์กับพวกเขากินกันทั้งเดือน’
- กันดารวิถี 11:22 - ถึงฆ่าแกะและวัวหมดทั้งฝูง ก็ยังไม่พอให้พวกเขากินเลย ถึงจับปลามาหมดทะเล ก็ยังไม่พอเลี้ยงพวกเขาเลย”
- กันดารวิถี 11:23 - พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “เจ้าคิดว่ามือของพระยาห์เวห์สั้นไปหรือยังไง เดี๋ยวเจ้าจะได้เห็นว่าสิ่งที่เราพูดนั้นจะเกิดขึ้นกับเจ้าไหม”
- กันดารวิถี 11:24 - โมเสสออกไปบอกกับประชาชนว่าพระยาห์เวห์พูดอะไร โมเสสได้รวบรวมผู้อาวุโสของอิสราเอลมาเจ็ดสิบคน โมเสสให้พวกเขามายืนอยู่รอบๆเต็นท์
- กันดารวิถี 11:25 - แล้วพระยาห์เวห์ได้ลงมาในเมฆ และพูดกับโมเสส พระองค์เอาวิญญาณบางส่วนที่อยู่กับโมเสส ไปใส่ไว้ในผู้อาวุโสทั้งเจ็ดสิบคนนั้น เมื่อพระวิญญาณเข้าไปอยู่ในตัวพวกเขา พวกเขาก็ตะโกนพระคำออกมาด้วยความยินดี แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่เคยทำอย่างนั้นอีกเลย
- กันดารวิถี 11:26 - ยังมีผู้อาวุโสสองคนที่ไม่ได้มา แต่ยังคงอยู่ในค่าย คนหนึ่งชื่อเอลดาด อีกคนชื่อเมดาด พระวิญญาณก็เข้าไปอยู่ในตัวพวกเขา พวกเขาก็อยู่ในกลุ่มของผู้อาวุโสทั้งเจ็ดสิบคนนั้นด้วย แต่พวกเขาไม่ได้ไปที่เต็นท์ ดังนั้น พวกเขาจึงตะโกนพระคำออกมาด้วยความยินดีอยู่ในค่าย
- กันดารวิถี 11:27 - ชายหนุ่มคนหนึ่งวิ่งออกมาบอกกับโมเสสว่า “เอลดาดและเมดาดกำลังตะโกนพระคำด้วยความยินดีอยู่ในค่าย”
- กันดารวิถี 11:28 - โยชูวาลูกชายของนูน พูดกับโมเสสว่า “โมเสส นายท่าน หยุดพวกเขาเถิด” โยชูวา เป็นผู้ช่วยของโมเสสตั้งแต่โยชูวายังเป็นหนุ่ม
- กันดารวิถี 11:29 - แต่โมเสสพูดกับโยชูวาว่า “อิจฉาแทนเราหรือ เราอยากจะให้คนของพระยาห์เวห์ทุกคนตะโกนพระคำออกมาด้วยความยินดี เราอยากให้พระยาห์เวห์ใส่พระวิญญาณลงในตัวพวกเขา”
- กันดารวิถี 11:30 - แล้วโมเสสและผู้อาวุโสของอิสราเอลก็กลับเข้าค่าย
- กันดารวิถี 11:31 - มีลมพัดมาจากพระยาห์เวห์ และได้พาเอานกคุ่มมาจากทะเลมาตกกระจัดกระจายอยู่รอบค่าย มีนกคุ่มมากมายทั่วทุกทิศ มีระยะทางยาวเท่ากับคนเดินหนึ่งวัน และมันตกทับถมกันสูงถึงสองศอก
- กันดารวิถี 11:32 - ผู้คนต่างออกไปเก็บนกคุ่มพวกนั้นตลอดทั้งวันทั้งคืนไปจนกระทั่งถึงอีกวันหนึ่งเต็มๆ พวกเขาเก็บได้อย่างน้อยคนละสองพันสองร้อยลิตร พวกเขาตากนกคุ่มไปทั่วค่าย
- กันดารวิถี 11:33 - ในระหว่างที่เนื้อยังอยู่ระหว่างฟัน ยังไม่ทันกัดกินกันเลย พระยาห์เวห์ก็โกรธพวกเขา พระองค์ทำให้พวกเขาเป็นโรคระบาดอย่างร้ายแรง
- กันดารวิถี 11:34 - พวกเขาจึงตั้งชื่อสถานที่นั้นว่า ขิบโรท-หัทธาอาวาห์ เพราะที่นั่นพวกเขาได้ฝังศพของคนที่กระหายอยากกินเนื้อสัตว์
- กันดารวิถี 11:35 - ประชาชนออกเดินทางจากขิบโรท-หัทธาอาวาห์ไปถึงฮาเซโรท และพวกเขาก็พักอยู่ที่นั่น