逐节对照
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - จงจำไว้ และอย่าลืมว่าในถิ่นทุรกันดาร ท่านยั่วโทสะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน นับจากวันที่ท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์ จนกระทั่งพวกท่านมาถึงที่แห่งนี้ ท่านก็ได้ขัดขืนพระผู้เป็นเจ้าเรื่อยมา
- 新标点和合本 - 你当记念不忘,你在旷野怎样惹耶和华你 神发怒。自从你出了埃及地的那日,直到你们来到这地方,你们时常悖逆耶和华。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 你要记得,不要忘记,你在旷野怎样惹耶和华—你的上帝发怒。自从你出了埃及地的那日,直到你们来到这地方,你们常常悖逆耶和华。
- 和合本2010(神版-简体) - 你要记得,不要忘记,你在旷野怎样惹耶和华—你的 神发怒。自从你出了埃及地的那日,直到你们来到这地方,你们常常悖逆耶和华。
- 当代译本 - “要牢记你们在旷野怎样触怒你们的上帝耶和华。从你们离开埃及那天来到这里,你们屡屡背叛耶和华。
- 圣经新译本 - “你要记住,不可忘记,你在旷野怎样惹耶和华你的 神发怒;自从你出了埃及地的那天起,直到你们来到这地方,你们常是反抗耶和华的。
- 中文标准译本 - 你要记住,不要忘记你曾在旷野怎样惹怒耶和华你的神。从你们出埃及地的那天起,直到你们来到这地方,你们一直悖逆耶和华。
- 现代标点和合本 - 你当记念不忘,你在旷野怎样惹耶和华你神发怒。自从你出了埃及地的那日,直到你们来到这地方,你们时常悖逆耶和华。
- 和合本(拼音版) - 你当记念不忘,你在旷野怎样惹耶和华你上帝发怒。自从你出了埃及地的那日,直到你们来到这地方,你们时常悖逆耶和华。
- New International Version - Remember this and never forget how you aroused the anger of the Lord your God in the wilderness. From the day you left Egypt until you arrived here, you have been rebellious against the Lord.
- New International Reader's Version - Here is something you must remember. Never forget it. You made the Lord your God angry in the desert. You refused to obey him from the day you left Egypt until you arrived here.
- English Standard Version - Remember and do not forget how you provoked the Lord your God to wrath in the wilderness. From the day you came out of the land of Egypt until you came to this place, you have been rebellious against the Lord.
- New Living Translation - “Remember and never forget how angry you made the Lord your God out in the wilderness. From the day you left Egypt until now, you have been constantly rebelling against him.
- Christian Standard Bible - “Remember and do not forget how you provoked the Lord your God in the wilderness. You have been rebelling against the Lord from the day you left the land of Egypt until you reached this place.
- New American Standard Bible - Remember, do not forget how you provoked the Lord your God to anger in the wilderness; from the day that you left the land of Egypt until you arrived at this place, you have been rebellious against the Lord.
- New King James Version - “Remember! Do not forget how you provoked the Lord your God to wrath in the wilderness. From the day that you departed from the land of Egypt until you came to this place, you have been rebellious against the Lord.
- Amplified Bible - Remember [with remorse] and do not forget how you provoked the Lord your God to wrath in the wilderness; from the day you left the land of Egypt until you arrived in this place, you have been rebellious against the Lord.
- American Standard Version - Remember, forget thou not, how thou provokedst Jehovah thy God to wrath in the wilderness: from the day that thou wentest forth out of the land of Egypt, until ye came unto this place, ye have been rebellious against Jehovah.
- King James Version - Remember, and forget not, how thou provokedst the Lord thy God to wrath in the wilderness: from the day that thou didst depart out of the land of Egypt, until ye came unto this place, ye have been rebellious against the Lord.
- New English Translation - Remember – don’t ever forget – how you provoked the Lord your God in the desert; from the time you left the land of Egypt until you came to this place you were constantly rebelling against him.
- World English Bible - Remember, and don’t forget, how you provoked Yahweh your God to wrath in the wilderness. From the day that you left the land of Egypt until you came to this place, you have been rebellious against Yahweh.
- 新標點和合本 - 你當記念不忘,你在曠野怎樣惹耶和華-你神發怒。自從你出了埃及地的那日,直到你們來到這地方,你們時常悖逆耶和華。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 你要記得,不要忘記,你在曠野怎樣惹耶和華-你的上帝發怒。自從你出了埃及地的那日,直到你們來到這地方,你們常常悖逆耶和華。
- 和合本2010(神版-繁體) - 你要記得,不要忘記,你在曠野怎樣惹耶和華—你的 神發怒。自從你出了埃及地的那日,直到你們來到這地方,你們常常悖逆耶和華。
- 當代譯本 - 「要牢記你們在曠野怎樣觸怒你們的上帝耶和華。從你們離開埃及那天來到這裡,你們屢屢背叛耶和華。
- 聖經新譯本 - “你要記住,不可忘記,你在曠野怎樣惹耶和華你的 神發怒;自從你出了埃及地的那天起,直到你們來到這地方,你們常是反抗耶和華的。
- 呂振中譯本 - 你要記得,不可忘記:你在曠野怎樣惹了永恆主你的上帝的震怒;自從你出了 埃及 地那一天、到你們來到這地方,你們總是悖逆永恆主的。
- 中文標準譯本 - 你要記住,不要忘記你曾在曠野怎樣惹怒耶和華你的神。從你們出埃及地的那天起,直到你們來到這地方,你們一直悖逆耶和華。
- 現代標點和合本 - 你當記念不忘,你在曠野怎樣惹耶和華你神發怒。自從你出了埃及地的那日,直到你們來到這地方,你們時常悖逆耶和華。
- 文理和合譯本 - 當憶弗忘、爾在曠野、激爾上帝耶和華之怒、自出埃及至此、爾違逆耶和華、
- 文理委辦譯本 - 爾之前事、當憶弗忘、爾在曠野、干爾上帝耶和華震怒、自出埃及之日、越至於此、違逆耶和華。
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 爾當記憶不忘、爾在曠野常干主爾天主震怒、自爾出 伊及 之日、迄至此時、爾常違逆主、
- Nueva Versión Internacional - »Recuerda esto, y nunca olvides cómo provocaste la ira del Señor tu Dios en el desierto. Desde el día en que saliste de Egipto hasta tu llegada aquí, has sido rebelde contra el Señor.
- 현대인의 성경 - “여러분은 광야에서 여러분의 하나님 여호와를 노엽게 하던 일을 잊지 말고 기억하십시오. 여러분은 이집트를 떠나온 날부터 지금까지 줄곧 여호와를 거역하였습니다.
- Новый Русский Перевод - Помни и никогда не забывай, как в пустыне ты вызывал против себя гнев Господа, своего Бога. Со дня, когда ты покинул Египет, и до тех пор, как вы пришли сюда, вы были мятежниками против Господа.
- Восточный перевод - Помните и никогда не забывайте, как в пустыне вы вызывали гнев Вечного, вашего Бога. Со дня, когда вы покинули Египет, и до вашего прихода сюда вы были мятежниками против Вечного.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Помните и никогда не забывайте, как в пустыне вы вызывали гнев Вечного, вашего Бога. Со дня, когда вы покинули Египет, и до вашего прихода сюда вы были мятежниками против Вечного.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Помните и никогда не забывайте, как в пустыне вы вызывали гнев Вечного, вашего Бога. Со дня, когда вы покинули Египет, и до вашего прихода сюда вы были мятежниками против Вечного.
- La Bible du Semeur 2015 - Rappelle-toi – et ne l’oublie jamais – combien tu as provoqué la colère de l’Eternel ton Dieu dans le désert : depuis le jour où vous êtes sortis du pays d’Egypte jusqu’à votre arrivée en ce lieu-ci, vous n’avez cessé de lui désobéir.
- リビングバイブル - あなたがたは、エジプトを出てから今まで、主を怒らせ通しだったではありませんか。どんなに主に逆らい続けてきたか忘れてはなりません。
- Nova Versão Internacional - “Lembrem-se disto e jamais esqueçam como vocês provocaram a ira do Senhor, o seu Deus, no deserto. Desde o dia em que saíram do Egito até chegarem aqui, vocês têm sido rebeldes contra o Senhor.
- Hoffnung für alle - Denkt nur daran und vergesst nie, wie ihr in der Wüste den Zorn des Herrn, eures Gottes, herausgefordert habt. Auf dem ganzen Weg von Ägypten bis hierher habt ihr euch gegen ihn aufgelehnt. ( 2. Mose 31,18–32,10.15‒18 )
- Kinh Thánh Hiện Đại - “Anh em còn nhớ—đừng bao giờ quên điều này—anh em đã cả gan khiêu khích Chúa Hằng Hữu, Đức Chúa Trời của anh em, trong hoang mạc. Từ ngày ra khỏi Ai Cập cho đến nay, anh em vẫn thường nổi loạn chống Ngài.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - จงระลึกเสมอและอย่าลืมที่ท่านเคยยั่วยุพระพิโรธของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านในถิ่นกันดาร ตั้งแต่วันที่ท่านออกจากอียิปต์จนมาถึงที่นี่ ท่านกบฏขัดขืนองค์พระผู้เป็นเจ้าเสมอมา
交叉引用
- กันดารวิถี 16:1 - โคราห์บุตรอิสฮาร์ ผู้เป็นบุตรโคฮาท ผู้เป็นบุตรเลวี ดาธานและอะบีรามบุตรของเอลีอับ (โอนบุตรเปเลท) และบรรดาบุตรรูเบน ทุกคนต่างก็บุ่มบ่าม
- กันดารวิถี 16:2 - และพากันมาประท้วงโมเสส พวกเขามาพร้อมกับชาวอิสราเอล 250 คนซึ่งเป็นหัวหน้าของมวลชนที่คัดเลือกมาจากคณะประชุมและเป็นที่รู้จักดี
- กันดารวิถี 16:3 - พวกเขามาประชุมร่วมกันเพื่อประท้วงโมเสสและอาโรน โดยกล่าวกับท่านทั้งสองว่า “พวกท่านกระทำเกินเหตุแล้ว เพราะมวลชนทั้งปวงบริสุทธิ์ ไม่เว้นแม้คนเดียว และพระผู้เป็นเจ้าอยู่ท่ามกลางพวกเขา แล้วทำไมท่านยกตัวเองเหนือคณะประชุมของพระผู้เป็นเจ้า”
- กันดารวิถี 16:4 - ครั้นโมเสสได้ยินก็ซบหน้าลงกับพื้น
- กันดารวิถี 16:5 - และท่านพูดกับโคราห์และพวกของเขาว่า “ตอนรุ่งเช้าพระผู้เป็นเจ้าจะแสดงว่าใครเป็นของพระองค์และใครบริสุทธิ์ และพระองค์จะให้คนนั้นเข้ามาใกล้พระองค์ พระองค์จะให้คนที่พระองค์เลือกเป็นผู้มาใกล้พระองค์
- กันดารวิถี 16:6 - โคราห์และพรรคพวกจงกระทำอย่างนี้คือ จงเอากระถางไฟของตนมา
- กันดารวิถี 16:7 - ตักถ่านที่ลุกแดงใส่กระถางและวางเครื่องหอมไว้บนถ่าน ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าในวันพรุ่งนี้ และชายใดที่พระผู้เป็นเจ้าเลือก ก็จะเป็นผู้บริสุทธิ์ บรรดาบุตรของเลวีเอ๋ย พวกท่านกระทำเกินเหตุไปเสียแล้ว”
- กันดารวิถี 16:8 - โมเสสพูดกับโคราห์ว่า “ขอให้บรรดาบุตรของเลวีฟังเถิด
- กันดารวิถี 16:9 - เป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับพวกท่านนักหรือ ที่พระเจ้าของอิสราเอลได้แยกท่านออกมาจากมวลชนชาวอิสราเอล เพื่อนำท่านมาอยู่ใกล้พระองค์และปฏิบัติงานในที่พำนักของพระผู้เป็นเจ้า เพื่อที่จะยืนอยู่ต่อหน้ามวลชน เพื่อช่วยเหลือรับใช้พวกเขา
- กันดารวิถี 16:10 - พระองค์ได้นำท่านและพี่น้องชาวเลวีของท่านทุกคนมาใกล้พระองค์ แล้วท่านจะแสวงหาตำแหน่งปุโรหิตด้วยอย่างนั้นหรือ
- กันดารวิถี 16:11 - ฉะนั้นที่ท่านและพวกของท่านมาชุมนุมกันก็เพื่อมาต่อว่าพระผู้เป็นเจ้า แล้วอาโรนเป็นอะไรเล่าที่ท่านจะบ่นพึมพำต่อว่าเขา”
- กันดารวิถี 16:12 - ครั้นแล้วโมเสสให้ไปเรียกดาธานและอะบีรามบุตรเอลีอับมา แต่เขาทั้งสองกลับพูดว่า “พวกเราจะไม่ขึ้นไป
- กันดารวิถี 16:13 - ถือเป็นเรื่องเล็กน้อยหรืออย่างไรที่ท่านพาพวกเราออกมาจากดินแดนอันอุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้ง เพื่อจะฆ่าเราในถิ่นทุรกันดาร ท่านมาทำตนเป็นเจ้านายเหนือพวกเรา
- กันดารวิถี 16:14 - ยิ่งกว่านั้นท่านก็ยังไม่ได้พาเราเข้าไปในดินแดนอันอุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้ง และแม้แต่จะให้เราได้รับนาหรือสวนองุ่นเป็นมรดก ท่านจะยังนำชายเหล่านี้ให้หลงผิดต่อไปอีกหรือ พวกเราจะไม่ขึ้นไป”
- กันดารวิถี 16:15 - โมเสสโกรธมาก ท่านพูดกับพระผู้เป็นเจ้าว่า “ขอพระองค์อย่ารับของถวายจากพวกเขาเลย ข้าพเจ้าไม่ได้เอาลาสักตัวจากพวกเขา และไม่ทำอันตรายแก่พวกเขาสักคน”
- กันดารวิถี 16:16 - โมเสสพูดกับโคราห์ว่า “ท่านและพรรคพวกของท่านจงแสดงตน ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าในวันพรุ่งนี้ คือทั้งตัวท่านเอง พรรคพวก และอาโรนด้วย
- กันดารวิถี 16:17 - แต่ละคนควรนำกระถางไฟของตนไปพร้อมกับเครื่องหอม ทุกคนจงนำกระถางไฟของตนไป ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า รวมจำนวน 250 กระถาง ตัวท่านเองและอาโรนด้วย แต่ละคนถือกระถางไฟของตนเอง”
- กันดารวิถี 16:18 - ดังนั้นทุกคนจึงเอากระถางไฟของตนไป ตักถ่านที่ลุกแดงใส่กระถาง วางเครื่องหอมไว้บนถ่าน แล้วยืนที่ทางเข้ากระโจมที่นัดหมายพร้อมกับโมเสสและอาโรน
- กันดารวิถี 16:19 - เมื่อโคราห์เรียกมวลชนมาประชุมกันเพื่อประท้วงท่านทั้งสองที่ทางเข้ากระโจมที่นัดหมาย พระบารมีของพระผู้เป็นเจ้าก็ปรากฏขึ้นแก่มวลชนทั้งปวง
- กันดารวิถี 16:20 - และพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสและอาโรนว่า
- กันดารวิถี 16:21 - “จงแยกตัวออกมาจากมวลชนเหล่านี้ เราจะได้เผาพวกเขาเสียภายในพริบตา”
- กันดารวิถี 16:22 - ทั้งสองจึงซบหน้าลงกับพื้นและพูดว่า “โอ พระเจ้า พระเจ้าของวิญญาณมนุษย์ทั้งปวง ใยพระองค์จะกริ้วโกรธกับมวลชนทั้งปวงในเมื่อมีเพียงคนคนเดียวกระทำบาป”
- กันดารวิถี 16:23 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า
- กันดารวิถี 16:24 - “จงบอกมวลชนว่าให้ออกไปจากบริเวณรอบๆ ที่พักของโคราห์ ดาธาน และอะบีราม”
- กันดารวิถี 16:25 - โมเสสจึงลุกขึ้นไปหาดาธานและอะบีราม บรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของอิสราเอลก็ตามท่านไป
- กันดารวิถี 16:26 - และท่านพูดกับผู้คนทั้งปวงว่า “เราขอให้พวกท่านออกจากกระโจมของคนชั่วร้ายเหล่านี้ และอย่าแตะต้องสิ่งของที่เป็นของเขา มิฉะนั้นท่านจะถูกกำจัดไปพร้อมกับบาปทุกชนิดของพวกเขา”
- กันดารวิถี 16:27 - ดังนั้นเขาทั้งหลายจึงออกไปจากบริเวณรอบๆ ที่พักของโคราห์ ดาธาน และอะบีราม แล้วดาธานกับอะบีรามก็ออกมายืนอยู่ที่ทางเข้ากระโจมกับบรรดาภรรยา บุตร และเด็กเล็กของเขา
- กันดารวิถี 16:28 - แล้วโมเสสพูดว่า “ด้วยเหตุการณ์เช่นนี้พวกท่านจะรู้ว่าพระผู้เป็นเจ้าได้ส่งเรามาเพื่อปฏิบัติงาน และไม่ใช่ความคิดของเราเอง
- กันดารวิถี 16:29 - ถ้าหากคนพวกนี้ตายเหมือนๆ กับที่คนทั่วๆ ไปตายและประสบกับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นเหมือนคนทั่วไป ก็นับว่าพระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ส่งเรามา
- กันดารวิถี 16:30 - แต่ถ้าพระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้ทำให้เรื่องที่เกิดขึ้นต่างไปจากนี้ แผ่นดินจะเปิดปากและกลืนพวกเขาเข้าไปพร้อมกับทุกสิ่งที่เป็นของเขา พวกเขาจะลงไปที่แดนคนตายทั้งเป็น และพวกท่านจะได้รู้ว่าคนเหล่านี้ได้ดูหมิ่นพระผู้เป็นเจ้า”
- กันดารวิถี 16:31 - เมื่อท่านพูดจบ พื้นดินเบื้องล่างก็แยกออก
- กันดารวิถี 16:32 - และแผ่นดินได้ดูดกลืนเขาเหล่านั้นลงไปพร้อมกับครอบครัวและทุกคนที่เป็นของโคราห์อีกทั้งข้าวของทุกอย่างที่เป็นของเขาด้วย
- กันดารวิถี 16:33 - ฉะนั้นเขาเหล่านั้นและทุกสิ่งที่เป็นของเขาถูกดูดลงไปในแดนคนตายทั้งเป็น แล้วแผ่นดินก็พลิกกลบพวกเขา เขาเหล่านั้นได้ตายไปในท่ามกลางมวลชน
- กันดารวิถี 16:34 - แล้วชาวอิสราเอลทุกคนที่อยู่แถวนั้นได้ยินเสียงร้องของเขาเหล่านั้นก็พากันหนี พูดกันว่า “กลัวว่าแผ่นดินจะดูดกลืนพวกเราลงไปด้วย”
- กันดารวิถี 16:35 - เปลวไฟพุ่งออกมาจากพระผู้เป็นเจ้าและไหม้ตัวชาย 250 คนที่กำลังมอบเครื่องหอมอยู่
- 1 ทิโมธี 1:13 - แม้ว่าก่อนนี้ข้าพเจ้าเคยพูดหมิ่นประมาท กดขี่ข่มเหงและก้าวร้าว ถึงกระนั้นข้าพเจ้ายังได้รับความเมตตา เพราะข้าพเจ้ากระทำไปโดยความไม่รู้ และจากความไม่เชื่อในพระองค์
- 1 ทิโมธี 1:14 - พระคุณของพระผู้เป็นเจ้าของเราท่วมท้นชีวิตข้าพเจ้า รวมทั้งความเชื่อและความรักในพระเยซูคริสต์
- 1 ทิโมธี 1:15 - ข้อความนี้เป็นที่ไว้ใจได้ สมควรที่คนทั้งปวงจะยอมรับ คือพระเยซูคริสต์ได้เข้ามาในโลกเพื่อช่วยคนบาปทั้งหลายให้รอดพ้น ข้าพเจ้านี่แหละ เป็นตัวเอกในหมู่คนบาป
- สดุดี 78:8 - พวกเขาไม่ควรเป็นเหมือนบรรพบุรุษของเขาคือ เป็นยุคที่ดื้อรั้นและฝ่าฝืน เป็นยุคที่มีใจโลเล มีจิตวิญญาณที่ไม่ภักดีต่อพระเจ้า
- สดุดี 78:9 - พวกเอฟราอิมที่สะพายคันธนูพร้อมรบ แต่กลับหลังหันในวันสงคราม
- สดุดี 78:10 - พวกเขาไม่ได้ทำตามพันธสัญญาของพระเจ้า และไม่ยอมเชื่อฟังกฎบัญญัติของพระองค์
- สดุดี 78:11 - พวกเขาลืมสิ่งที่พระองค์ได้กระทำ และสิ่งมหัศจรรย์ที่พระองค์ได้แสดงให้พวกเขาเห็นแล้ว
- สดุดี 78:12 - ขณะที่บรรพบุรุษของพวกเขาเฝ้าดู พระเจ้าก็ได้แสดงสิ่งอัศจรรย์ต่างๆ ในดินแดนอียิปต์ ที่ไร่นาของโศอัน
- สดุดี 78:13 - พระองค์แหวกน้ำทะเลออกจากกันเพื่อให้พวกเขาเดินผ่านไป และทำให้น้ำแหวกเป็นสองฟากฝั่งสูงทะมึน
- สดุดี 78:14 - กลางวันพระองค์นำพวกเขาไปใต้เงาเมฆ และอาศัยแสงจากเพลิงไฟตลอดทั้งคืน
- สดุดี 78:15 - พระองค์ทำให้หินในถิ่นทุรกันดารแตกออก เพื่อให้พวกเขามีน้ำดื่มได้มากมายราวกับน้ำจากห้วงน้ำลึก
- สดุดี 78:16 - พระองค์ทำให้ธารน้ำไหลออกจากหิน และทำให้น่านน้ำไหลลงดั่งแม่น้ำ
- สดุดี 78:17 - ถึงกระนั้นพวกเขายังกระทำบาปต่อพระองค์ไว้มาก เขาลองดีกับองค์ผู้สูงสุดในถิ่นทุรกันดาร
- สดุดี 78:18 - พวกเขาตั้งใจลองดีกับพระเจ้า โดยเรียกร้องอาหารที่เขานึกอยาก
- สดุดี 78:19 - พวกเขาพูดเหยียดหยามพระเจ้าว่า “พระเจ้าจะหาสำรับในถิ่นทุรกันดารมาให้ได้ไหม
- สดุดี 78:20 - พระองค์กระทบหินเพื่อให้น้ำพวยพุ่งขึ้น และลำธารไหลล้น พระองค์ให้ขนมปัง หรือจัดหาเนื้อสัตว์เพื่อชนชาติของพระองค์ได้ด้วยหรือ”
- สดุดี 78:21 - ครั้นพระผู้เป็นเจ้าได้ยินก็โกรธเกรี้ยว ความกริ้วของพระองค์ที่มีต่อยาโคบปะทุขึ้นดั่งเพลิง ลุกโชนขึ้นต่ออิสราเอล
- สดุดี 78:22 - เพราะพวกเขาไม่มีความเชื่อในพระเจ้า และไม่วางใจในอานุภาพของพระองค์ที่จะช่วยเขาให้รอดพ้นได้
- สดุดี 78:23 - ถึงกระนั้นพระองค์ยังบัญชาหมู่เมฆเบื้องบน และเปิดประตูท้องฟ้า
- สดุดี 78:24 - แล้วพระองค์โปรดให้มานาโปรยลงมาให้พวกเขารับประทาน พระองค์ให้เมล็ดข้าวแห่งสวรรค์แก่พวกเขา
- สดุดี 78:25 - แต่ละคนได้รับประทานขนมปังของทูตสวรรค์ พระองค์ให้อาหารแก่พวกเขาอย่างอุดมสมบูรณ์
- สดุดี 78:26 - พระองค์ทำให้ลมตะวันออกพัดในฟ้าสวรรค์ และพระองค์นำลมใต้ออกไปด้วยพละกำลังของพระองค์
- สดุดี 78:27 - พระองค์โปรดให้เนื้อสัตว์เทลงมาเพื่อพวกเขามากมายราวกับฝุ่นผง เป็นตัวนกจำนวนมากราวกับเม็ดทรายในทะเล
- สดุดี 78:28 - พระองค์ทำให้เนื้อสัตว์ตกอยู่ท่ามกลางค่ายของพวกเขา รอบๆ บริเวณที่เขาอาศัยอยู่
- สดุดี 78:29 - แล้วพวกเขารับประทานกันจนอิ่มหนำ เพราะพระองค์ให้สิ่งที่พวกเขาอยาก
- สดุดี 78:30 - แต่ยังไม่ทันหายอยาก คือในขณะที่อาหารยังอยู่ในปากพวกเขา
- สดุดี 78:31 - ความกริ้วของพระเจ้าก็พลุ่งขึ้นต่อพวกเขา แล้วพระองค์ฆ่าชายฉกรรจ์ที่สุดของพวกเขา พระองค์ทำให้บรรดาชายหนุ่มที่เก่งกาจของอิสราเอลสิ้นชีวิตลง
- สดุดี 78:32 - แม้กระนั้นพวกเขายังจะทำบาปอีก แม้พระองค์ได้ทำให้เห็นสิ่งอัศจรรย์ต่างๆ แล้ว พวกเขาก็ยังไม่เชื่อ
- สดุดี 78:33 - ดังนั้น พระองค์ทำให้วันเวลาของเขาสิ้นสุดลงดั่งลมหายใจ และปีของเขามีแต่ความพินาศ
- สดุดี 78:34 - ในยามที่พระองค์ฆ่าพวกเขา พวกเขาก็แสวงหาพระองค์ กลับใจและหันเข้าหาพระเจ้าอย่างจริงจัง
- สดุดี 78:35 - และจำได้ว่า พระเจ้าเป็นดั่งศิลาของพวกเขา พระเจ้าผู้สูงสุดเป็นผู้ไถ่บาปของพวกเขา
- สดุดี 78:36 - แต่กลับลวงพระองค์ด้วยคำพูดจากปาก และพูดคำเท็จด้วยลิ้นของพวกเขา
- สดุดี 78:37 - ใจของพวกเขาไม่มั่นคงต่อพระองค์ และไม่ภักดีต่อพันธสัญญาของพระองค์
- สดุดี 78:38 - แต่พระองค์ยังคงสงสาร พระองค์ยกโทษความชั่วทั้งปวง และไม่ทำลายพวกเขา บ่อยครั้งพระองค์ยับยั้งความกริ้วไว้ และไม่ปล่อยความกริ้วของพระองค์ให้พลุ่งขึ้น
- สดุดี 78:39 - พระองค์ได้ระลึกว่าพวกเขาเป็นเพียงเนื้อหนัง เป็นลมที่พัดผ่านไป แล้วไม่หวนกลับมาอีก
- สดุดี 78:40 - บ่อยครั้งเพียงไรที่พวกเขาดื้อดึงต่อพระองค์ในถิ่นทุรกันดาร และทำให้พระองค์เศร้าใจในที่ร้างอันแร้นแค้น
- สดุดี 78:41 - พวกเขาลองดีกับพระเจ้าซ้ำแล้วซ้ำอีก และยั่วโทสะองค์ผู้บริสุทธิ์ของอิสราเอล
- สดุดี 78:42 - เขาไม่ได้จำใส่ใจถึงอานุภาพของพระองค์ และวันที่พระองค์ช่วยพวกเขาให้รอดพ้นจากศัตรู
- สดุดี 78:43 - และวันที่พระองค์สร้างปรากฏการณ์ต่างๆ ในประเทศอียิปต์ และสิ่งอัศจรรย์ต่างๆ ที่ไร่นาของโศอัน
- สดุดี 78:44 - พระองค์เปลี่ยนแม่น้ำของพวกเขาให้เป็นเลือด ทำให้น้ำจากลำธารดื่มไม่ได้
- สดุดี 78:45 - พระองค์ส่งฝูงแมลงไปกัดกินพวกเขา รวมทั้งให้ฝูงกบก่อกวนและสร้างความเสียหาย
- สดุดี 78:46 - พระองค์ให้ตัวบุ้งกินพืชผลที่พวกเขาปลูกไว้ และผลผลิตจากแรงงานก็ให้ฝูงตั๊กแตนกัดกิน
- สดุดี 78:47 - พระองค์ให้ลูกเห็บตกทำลายเถาองุ่นของพวกเขา และให้น้ำค้างแข็งเกาะต้นมะเดื่อ
- สดุดี 78:48 - ฝูงโคล้มตายเพราะลูกเห็บ และฝูงแพะแกะตายลงเพราะสายฟ้าแลบ
- สดุดี 78:49 - พระองค์ปลดปล่อยความกริ้วอันร้อนแรงของพระองค์ลงบนพวกเขา ความโกรธเกรี้ยว ความขัดเคือง และความแค้น ซึ่งมาในรูปของกลุ่มทูตสวรรค์แห่งความวิบัติ
- สดุดี 78:50 - พระองค์เปิดทางให้แก่ความกริ้วของพระองค์ และไม่ไว้ชีวิตพวกเขา และกำจัดชีวิตพวกเขาด้วยภัยพิบัติ
- สดุดี 78:51 - พระองค์กำจัดชีวิตลูกชายหัวปีทั้งหมดในอียิปต์ ซึ่งเป็นพละกำลังแรกของพวกเขาที่อยู่ในกระโจมของฮาม
- สดุดี 78:52 - แล้วพระองค์นำหน้าชนชาติของพระองค์เหมือนนำแกะ และนำพวกเขาในถิ่นทุรกันดารเหมือนนำฝูงแกะ
- สดุดี 78:53 - พระองค์นำหน้าพวกเขาไปอย่างปลอดภัย พวกเขาจึงไม่หวาดกลัว แต่ทะเลกลับท่วมมิดศัตรู
- สดุดี 78:54 - ครั้นแล้วพระองค์ก็นำพวกเขาไปยังดินแดนอันบริสุทธิ์ของพระองค์ ไปยังภูเขาซึ่งมือขวาของพระองค์ได้มาด้วยชัยชนะ
- สดุดี 78:55 - พระองค์ขับไล่บรรดาประชาชาติให้ออกไปต่อหน้าพวกเขา พระองค์แบ่งเขตที่ดินให้พวกเขามีกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของ และให้บรรดาเผ่าของอิสราเอลตั้งรกรากในกระโจมที่พักของพวกเขา
- สดุดี 78:56 - แม้กระนั้น พวกเขาก็ยังลองดี และดื้อดึงต่อพระเจ้าผู้สูงสุด และไม่รักษาคำสั่งของพระองค์
- สดุดี 78:57 - แต่หันเหไป และประพฤติตนอย่างคนไร้ความเชื่อ เช่นเดียวกับบรรพบุรุษของพวกเขา ซึ่งเชื่อใจไม่ได้เท่าๆ กับคันธนูคด
- สดุดี 78:58 - พวกเขายั่วโทสะพระองค์ด้วยเรื่องสถานบูชาบนภูเขาสูง และพวกเขาทำให้พระองค์หวงแหนมากด้วยรูปเคารพ
- สดุดี 78:59 - เมื่อพระเจ้าได้ยิน พระองค์โกรธเกรี้ยว และไม่ยอมรับอิสราเอลเลย
- สดุดี 78:60 - พระองค์ทิ้งที่พำนักของพระองค์ให้ร้างไว้ที่ชิโลห์ ซึ่งเป็นกระโจมที่พระองค์พำนักท่ามกลางมนุษย์
- สดุดี 78:61 - และพระองค์มอบพละกำลังของพระองค์ให้แก่การเป็นเชลย และพระบารมีของพระองค์ไว้ในมือของศัตรู
- สดุดี 78:62 - พระองค์ปล่อยให้ชนชาติของพระองค์ถูกกำจัดด้วยคมดาบ และโกรธกริ้วต่อบรรดาผู้สืบมรดกของพระองค์
- สดุดี 78:63 - บรรดาชายหนุ่มเสียชีวิตในสงคราม และหญิงสาวของพวกเขาไม่มีโอกาสแต่งงาน
- สดุดี 78:64 - บรรดาปุโรหิตของพวกเขาล้มตายด้วยคมดาบ และหญิงม่ายไม่มีโอกาสแสดงความเศร้าโศกา
- สดุดี 78:65 - ครั้นแล้วพระผู้เป็นเจ้าตื่นขึ้นดั่งหนึ่งได้ตื่นจากนอน เหมือนกับชายฉกรรจ์ส่งเสียงเอ็ดตะโรเพราะเหล้าองุ่น
- สดุดี 78:66 - พระองค์ขับไล่ข้าศึกกลับไป และทำให้เขาอับอายไปตลอดกาล
- สดุดี 78:67 - พระองค์ปฏิเสธกระโจมที่พักของโยเซฟ พระองค์ไม่ได้เลือกเผ่าเอฟราอิม
- สดุดี 78:68 - แต่พระองค์เลือกเผ่ายูดาห์ ภูเขาศิโยนซึ่งพระองค์รัก
- สดุดี 78:69 - พระองค์สร้างที่พำนักของพระองค์ไว้อย่างสูงระดับฟ้าสวรรค์ อย่างแผ่นดินโลกที่พระองค์ตั้งไว้ให้ยืนยงตลอดกาล
- สดุดี 78:70 - พระองค์เลือกดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์ และพาท่านออกไปจากคอกแกะ
- สดุดี 78:71 - พระองค์ให้ท่านเลิกดูแลแกะแม่ลูกอ่อน และให้มาเป็นผู้เลี้ยงดูฝูงแกะของยาโคบชนชาติของพระองค์ คือของอิสราเอล ผู้สืบมรดกของพระองค์
- สดุดี 78:72 - ท่านดูแลคนเหล่านั้นด้วยความจริงใจ และนำเขาไปด้วยความชำนาญ
- เนหะมีย์ 9:16 - แต่พวกเขาและบรรพบุรุษของเราต่างยโสและดื้อด้าน และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์
- เนหะมีย์ 9:17 - พวกเขาไม่ยอมฟัง และไม่ระลึกถึงสิ่งอัศจรรย์ที่พระองค์กระทำในหมู่พวกเขา แต่หัวดื้อและแต่งตั้งหัวหน้าเพื่อให้นำพวกเขากลับไปเป็นทาสในอียิปต์ แต่พระองค์เป็นพระเจ้าพร้อมจะยกโทษ พระองค์มีพระคุณและความสงสาร ไม่โกรธง่าย เปี่ยมด้วยความรักอันมั่นคง และไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขา
- เนหะมีย์ 9:18 - แม้เวลาที่พวกเขาได้หล่อรูปลูกโคทองคำ และพูดว่า ‘นี่คือพระเจ้าของพวกเจ้า ผู้นำเจ้าออกมาจากอียิปต์’ และก็ได้พูดหมิ่นประมาทพระองค์อย่างร้ายแรง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 8:2 - และจงรำลึกถึงพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านที่ได้นำท่านผ่านถิ่นทุรกันดารตลอดทางเป็นเวลา 40 ปี เพื่อทำให้ท่านรู้จักถ่อมตัว ทดสอบให้เห็นว่าแท้จริงจิตใจท่านเป็นอย่างไร ท่านจะรักษาพระบัญญัติของพระองค์ได้หรือไม่
- เอเสเคียล 16:61 - แล้วเจ้าจะระลึกถึงวิถีทางของเจ้าและอับอายเมื่อเจ้ารับพี่น้องผู้หญิงซึ่งมีอายุมากกว่าและอ่อนกว่า เราจะมอบพวกเขาให้เป็นบุตรหญิงแก่เจ้า แต่ไม่ใช่ในฐานะของพันธสัญญาของเราที่มีกับเจ้า
- เอเสเคียล 16:62 - ดังนั้น เราจะทำพันธสัญญากับเจ้า และเจ้าจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้า
- เอเสเคียล 16:63 - และเมื่อเรายกโทษบาปให้แก่เจ้าสำหรับทุกสิ่งที่เจ้าได้กระทำ เจ้าจะระลึกได้และละอายใจ และเจ้าจะไม่มีวันเปิดปากของเจ้าอีกเพราะความอับอายของเจ้า” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 20:43 - และเจ้าจะนึกถึงความประพฤติและการกระทำของเจ้าทั้งสิ้น ซึ่งได้ทำให้เจ้าเป็นมลทิน และพวกเจ้าจะเกลียดตนเองที่ได้กระทำสิ่งชั่วร้ายทั้งสิ้น
- สดุดี 95:8 - “ก็อย่าทำใจของเจ้าให้แข็งกระด้างเหมือนกับที่ได้ทำในเมรีบาห์ เหมือนกับวันที่ได้ทำที่มัสสาห์ ในถิ่นทุรกันดาร
- สดุดี 95:9 - เวลาบรรพบุรุษของเจ้าได้ลองดีกับเราโดยการทดสอบเรา แม้ว่าเขาได้เห็นสิ่งที่เรากระทำแล้วก็ตาม
- สดุดี 95:10 - เราขยะแขยงชนยุคนั้นอยู่ 40 ปี เราจึงกล่าวว่า ‘จิตใจของเขาเหล่านั้นหลงผิดเสมอ และเขาไม่รู้วิถีทางของเรา’
- สดุดี 95:11 - เราจึงประกาศให้คำปฏิญาณด้วยความกริ้วว่า ‘พวกเขาจะไม่มีวันเข้าสู่ที่พำนักของเรา’”
- 1 โครินธ์ 15:9 - ข้าพเจ้าเป็นคนด้อยที่สุดในหมู่อัครทูต และไม่สมควรที่จะให้ผู้ใดเรียกข้าพเจ้าว่าอัครทูต เพราะข้าพเจ้าได้กดขี่ข่มเหงคริสตจักรของพระเจ้า
- กันดารวิถี 20:2 - มวลชนเหล่านั้นไม่มีน้ำจะใช้ พวกเขาจึงประชุมกันและประท้วงโมเสสและอาโรน
- กันดารวิถี 20:3 - และประชาชนโต้แย้งโมเสสว่า “ถ้าพวกเราตายไปพร้อมๆ กับพี่น้องของเรา ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าก็คงจะดี
- กันดารวิถี 20:4 - ทำไมพวกท่านถึงได้พามวลชนของพระผู้เป็นเจ้าเข้ามาในถิ่นทุรกันดารแห่งนี้และให้เราตายกันที่นี่ ทั้งพวกเราและฝูงสัตว์
- กันดารวิถี 20:5 - และทำไมท่านจึงพาพวกเราออกมาจากอียิปต์ แล้วเข้ามายังที่ยากลำบากเช่นนี้ ที่นี่ไม่มีธัญพืชหรือผลมะเดื่อ เถาองุ่นหรือผลทับทิม และไม่มีแม้แต่น้ำให้ดื่ม”
- เอเฟซัส 2:11 - ฉะนั้น จงจำไว้ว่าแต่ก่อนพวกท่านเป็นบรรดาผู้ที่เป็นคนนอกฝ่ายกาย และพวกที่ถือว่าตนเป็น “พวกที่เข้าสุหนัต” ได้เรียกท่านว่า “พวกที่ไม่เข้าสุหนัต” โดยที่พวกเขาเข้าสุหนัตด้วยฝีมือมนุษย์
- เอเสเคียล 36:31 - แล้วพวกเจ้าจะระลึกถึงวิถีทางอันชั่วร้ายและการกระทำที่ไม่ดีของตนเอง และพวกเจ้าจะเกลียดตนเองเพราะความชั่วและการกระทำที่น่าชังของตนเอง”
- เฉลยธรรมบัญญัติ 32:5 - เขาทั้งหลายประพฤติเลวทรามต่อพระองค์ เขาไม่ใช่บุตรของพระองค์อีกต่อไปแล้วเพราะมลทินของเขา และเป็นคนในยุคที่บิดเบือนและไม่ซื่อตรง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 32:6 - ท่านโง่เขลาและไม่มีสติยั้งคิด ท่านกระทำตอบพระผู้เป็นเจ้าเช่นนี้หรือ พระองค์มิใช่พระบิดาของท่านหรอกหรือที่เป็นผู้บันดาลท่านขึ้นมา ผู้สร้างและทำให้ท่านมั่นคง
- กันดารวิถี 14:1 - แล้วมวลชนก็ส่งเสียงร้องลั่นและประชาชนร้องไห้เสียงดังในคืนวันนั้น
- กันดารวิถี 14:2 - และชาวอิสราเอลร่ำรำพันต่อโมเสสและอาโรน และมวลชนพูดกับท่านทั้งสองว่า “พวกเราน่าจะตายกันไปแล้วที่อียิปต์หรือในถิ่นทุรกันดาร
- กันดารวิถี 14:3 - ทำไมพระผู้เป็นเจ้าจึงจะนำพวกเราเข้าไปในดินแดนนี้เพื่อให้ตายด้วยคมดาบ ภรรยาและลูกๆ ของพวกเราจะกลายเป็นเหยื่อ มันไม่ดีกว่าหรือถ้าเรากลับไปที่อียิปต์”
- กันดารวิถี 14:4 - พวกเขาพูดต่อๆ กันไปว่า “เรามาเลือกผู้นำคนหนึ่งและกลับไปที่อียิปต์กันเถิด”
- กันดารวิถี 14:5 - โมเสสกับอาโรนก็ซบหน้าลงกับพื้นต่อหน้ามวลชนชาวอิสราเอลทั้งปวง
- กันดารวิถี 14:6 - โยชูวาบุตรของนูนกับคาเลบบุตรเยฟุนเนห์เป็นสองคนที่ร่วมไปสอดแนมดินแดนนั้นด้วยจึงฉีกเสื้อผ้าของตน
- กันดารวิถี 14:7 - และพูดกับมวลชนชาวอิสราเอลทั้งปวงว่า “ดินแดนที่เราเห็นจากการสำรวจเป็นดินแดนที่ดีเหลือเกิน
- กันดารวิถี 14:8 - ถ้าพระผู้เป็นเจ้าโปรดปรานพวกเรา พระองค์จะนำพวกเราเข้าสู่ดินแดนนี้ และจะมอบดินแดนอันอุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้งให้แก่เรา
- กันดารวิถี 14:9 - แต่อย่าขัดขืนพระผู้เป็นเจ้า และอย่ากลัวประชาชนของดินแดนนั้น เพราะเขาเป็นเสมือนอาหารของเราและไม่มีที่คุ้มกันอีกแล้ว แต่พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับพวกเรา อย่ากลัวพวกเขาเลย”
- กันดารวิถี 14:10 - แต่มวลชนทั้งปวงบอกให้ใช้หินขว้างพวกเขา ครั้นแล้วพระบารมีของพระผู้เป็นเจ้าก็ปรากฏที่กระโจมที่นัดหมายให้ชาวอิสราเอลเห็น
- กันดารวิถี 25:2 - หญิงเหล่านี้เชิญชวนให้พวกเขาไปร่วมพิธีมอบเครื่องบูชาแก่บรรดาเทวรูปของพวกนาง ประชาชนทั้งกินและก้มกราบเทวรูปเหล่านั้น
- อพยพ 17:2 - ผู้คนจึงโต้แย้งโมเสสว่า “หาน้ำให้พวกเราดื่มสิ” โมเสสพูดว่า “ทำไมพวกท่านจึงก้าวร้าวต่อว่าเรา ทำไมท่านจึงลองดีกับพระผู้เป็นเจ้า”
- กันดารวิถี 11:4 - คนชาติอื่นในหมู่ชาวอิสราเอลนึกอยากจะกินอาหารบางชนิดเป็นอย่างยิ่ง ชาวอิสราเอลนั่งร่ำไห้อีก และพูดกันว่า “ใครจะให้เนื้อพวกเรากินได้บ้างนี่
- อพยพ 14:11 - พวกเขาพูดกับโมเสสว่า “นี่เป็นเพราะหลุมฝังศพในอียิปต์มีไม่พอหรือไง ท่านจึงพาพวกเราไปตายกันในถิ่นทุรกันดาร ท่านพาพวกเราออกไปจากอียิปต์เพื่ออะไรกัน
- อพยพ 16:2 - ชาวอิสราเอลทั้งมวลก็บ่นไม่พอใจต่อว่าโมเสสและอาโรนในถิ่นทุรกันดาร
- กันดารวิถี 21:5 - พวกเขาจึงต่อว่าพระเจ้าและโมเสสว่า “ทำไมท่านจึงพาพวกเราออกจากอียิปต์เพื่อมาตายในถิ่นทุรกันดาร ไม่มีทั้งอาหารและน้ำ และเราก็เกลียดอาหารที่ไร้ค่านี้”
- เฉลยธรรมบัญญัติ 31:27 - เพราะเราทราบว่าพวกท่านชอบขัดขืนและดื้อรั้นเพียงไร ดูเถิด แม้ว่าขณะนี้เรายังมีชีวิตอยู่กับพวกท่าน พวกท่านก็ยังขัดขืนพระผู้เป็นเจ้า หลังจากเราตายไปแล้ว พวกท่านจะกระทำยิ่งกว่าเพียงไร