Brand Logo
  • 圣经
  • 资源
  • 计划
  • 联系我们
  • APP下载
  • 圣经
  • 搜索
  • 原文研究
  • 逐节对照
我的
跟随系统浅色深色简体中文香港繁體台灣繁體English
奉献
13:18 TNCV
逐节对照
  • พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - พระองค์ทรงอดทนต่อความประพฤติของเหล่าบรรพบุรุษ เป็นเวลาสี่สิบปีในถิ่นกันดาร
  • 新标点和合本 - 又在旷野容忍(或作“抚养”)他们,约有四十年。
  • 和合本2010(上帝版-简体) - 他在旷野容忍 他们,约有四十年。
  • 和合本2010(神版-简体) - 他在旷野容忍 他们,约有四十年。
  • 当代译本 - 在旷野大约有四十年之久,上帝一直容忍 他们。
  • 圣经新译本 - 又在旷野容忍(“容忍”有些抄本作“养育”)他们,约有四十年之久;
  • 中文标准译本 - 在旷野,神容忍了他们约有四十年之久。
  • 现代标点和合本 - 又在旷野容忍 他们约有四十年。
  • 和合本(拼音版) - 又在旷野容忍他们约有四十年 。
  • New International Version - for about forty years he endured their conduct in the wilderness;
  • New International Reader's Version - He put up with their behavior for about 40 years in the desert.
  • English Standard Version - And for about forty years he put up with them in the wilderness.
  • New Living Translation - He put up with them through forty years of wandering in the wilderness.
  • Christian Standard Bible - And for about forty years he put up with them in the wilderness;
  • New American Standard Bible - For a period of about forty years He put up with them in the wilderness.
  • New King James Version - Now for a time of about forty years He put up with their ways in the wilderness.
  • Amplified Bible - For a period of about forty years He put up with their behavior in the wilderness.
  • American Standard Version - And for about the time of forty years as a nursing-father bare he them in the wilderness.
  • King James Version - And about the time of forty years suffered he their manners in the wilderness.
  • New English Translation - For a period of about forty years he put up with them in the wilderness.
  • World English Bible - For a period of about forty years he put up with them in the wilderness.
  • 新標點和合本 - 又在曠野容忍(或譯:撫養)他們,約有四十年。
  • 和合本2010(上帝版-繁體) - 他在曠野容忍 他們,約有四十年。
  • 和合本2010(神版-繁體) - 他在曠野容忍 他們,約有四十年。
  • 當代譯本 - 在曠野大約有四十年之久,上帝一直容忍 他們。
  • 聖經新譯本 - 又在曠野容忍(“容忍”有些抄本作“養育”)他們,約有四十年之久;
  • 呂振中譯本 - 在野地裏背負他們的無狀 ,約有四十年的工夫。
  • 中文標準譯本 - 在曠野,神容忍了他們約有四十年之久。
  • 現代標點和合本 - 又在曠野容忍 他們約有四十年。
  • 文理和合譯本 - 在曠野包容之、約四十年、
  • 文理委辦譯本 - 在曠野四十年包容之、
  • 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 在曠野撫養之、約四十年、
  • 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 在曠野中予以優容者凡四十載、
  • Nueva Versión Internacional - y soportó su mal proceder en el desierto unos cuarenta años.
  • 현대인의 성경 - 그리고 하나님은 광야에서 40년 동안 그 들을 돌봐 주셨으며
  • Новый Русский Перевод - Сорок лет Он терпел их в пустыне.
  • Восточный перевод - Сорок лет Он терпел их в пустыне.
  • Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Сорок лет Он терпел их в пустыне.
  • Восточный перевод, версия для Таджикистана - Сорок лет Он терпел их в пустыне.
  • La Bible du Semeur 2015 - Pendant quarante ans environ, il l’a supporté dans le désert.
  • リビングバイブル - 彼らが荒野をさまよい歩いた四十年の間も、ずっと養い続けてくださいました。
  • Nestle Aland 28 - καὶ ὡς τεσσερακονταετῆ χρόνον ἐτροποφόρησεν αὐτοὺς ἐν τῇ ἐρήμῳ
  • unfoldingWord® Greek New Testament - καί ὡς τεσσερακονταετῆ χρόνον ἐτροποφόρησεν αὐτοὺς ἐν τῇ ἐρήμῳ,
  • Nova Versão Internacional - e os aturou no deserto durante cerca de quarenta anos.
  • Hoffnung für alle - Vierzig Jahre lang ertrug er sie auf ihrem Weg durch die Wüste.
  • Kinh Thánh Hiện Đại - Suốt bốn mươi năm, Ngài nhẫn nại chịu đựng họ giữa hoang mạc.
  • พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - พระ​องค์​อดกลั้น​ต่อ​ความ​ประพฤติ​ของ​พวก​เขา​ใน​ถิ่น​ทุรกันดาร​เป็น​เวลา​ประมาณ 40 ปี
交叉引用
  • เนหะมีย์ 9:16 - “แต่บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายเย่อหยิ่งและดื้อดึง ไม่ยอมเชื่อฟังพระบัญชาของพระองค์
  • เนหะมีย์ 9:17 - ไม่ยอมรับฟัง และไม่ได้จดจำการอัศจรรย์ต่างๆ ที่ทรงทำในหมู่พวกเขา แต่กลับใจแข็งและคิดคดทรยศ และตั้งผู้นำคนหนึ่งเพื่อพากันกลับไปเป็นทาสในอียิปต์ แต่พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ให้อภัย ทรงเปี่ยมด้วยพระคุณและความเอ็นดูสงสาร ทรงพระพิโรธช้าและเปี่ยมด้วยความรัก ฉะนั้นพระองค์จึงไม่ได้ทรงทอดทิ้งพวกเขา
  • เนหะมีย์ 9:18 - แม้แต่ขณะที่พวกเขาได้หล่อเทวรูปลูกวัวขึ้นสำหรับตนและประกาศว่า ‘นี่คือพระเจ้าผู้พาเราออกมาจากอียิปต์’ หรือขณะที่พวกเขาหมิ่นประมาทอย่างร้ายแรง
  • เนหะมีย์ 9:19 - “เนื่องด้วยพระกรุณาคุณอันยิ่งใหญ่ พระองค์ไม่ได้ทรงละทิ้งพวกเขาไว้ในถิ่นกันดาร เสาเมฆยังคงนำพวกเขาไปตามทางในเวลากลางวันและเสาเพลิงยังส่องทางตลอดค่ำคืน
  • เนหะมีย์ 9:20 - พระองค์ประทานพระวิญญาณล้ำเลิศมาสั่งสอนพวกเขา พระองค์ไม่ได้ให้มานาของพระองค์ขาดจากปากของพวกเขาและพระองค์ประทานน้ำดับความกระหายให้พวกเขา
  • เนหะมีย์ 9:21 - ตลอดสี่สิบปีพระองค์ทรงเลี้ยงดูพวกเขาในถิ่นกันดาร พวกเขาไม่ขัดสนสิ่งใด เสื้อผ้าของเขาไม่ได้เก่าคร่ำคร่าและเท้าก็ไม่ได้บวมช้ำ
  • กันดารวิถี 14:22 - ทุกคนที่ได้เห็นเกียรติสิริของเราและเห็นหมายสำคัญที่เราได้ทำทั้งในอียิปต์และในถิ่นกันดารแล้วยังไม่ยอมเชื่อฟังเรา แต่ลองดีกับเรานับสิบครั้ง
  • กันดารวิถี 14:33 - ลูกหลานของเจ้าจะเลี้ยงแกะอยู่ที่นี่เป็นเวลาสี่สิบปี รับความทุกข์ยากเพราะเหตุที่พวกเจ้าไม่ซื่อสัตย์ต่อเรา จวบจนคนสุดท้ายในพวกเจ้าล้มตายลงในถิ่นกันดาร
  • กันดารวิถี 14:34 - เจ้าจะรับโทษบาปของตนและรู้ว่าการที่เจ้าทำให้เราต่อสู้กับเจ้านั้นเป็นเช่นไรเป็นเวลาสี่สิบปี หนึ่งปีแทนหนึ่งวันของสี่สิบวันแห่งการสำรวจดินแดน’
  • กิจการของอัครทูต 7:39 - “แต่เหล่าบรรพบุรุษไม่ยอมเชื่อฟัง กลับปฏิเสธเขา และมีใจปรารถนาจะกลับไปอียิปต์
  • กิจการของอัครทูต 7:40 - พวกเขาบอกอาโรนว่า ‘ช่วยสร้างเทพเจ้าขึ้นมานำพวกเราไป เพราะเราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับโมเสสผู้ที่พาพวกเราออกมาจากอียิปต์!’
  • กิจการของอัครทูต 7:41 - ครั้งนั้นเหล่าประชากรได้ทำเทวรูปลูกวัว พวกเขาถวายเครื่องบูชาแก่เทวรูปนั้นและเฉลิมฉลองเพื่อเป็นเกียรติแก่สิ่งที่สร้างขึ้นด้วยน้ำมือของตน
  • กิจการของอัครทูต 7:42 - แต่พระเจ้าทรงหันหลังให้พวกเขาและทรงปล่อยให้พวกเขานมัสการสิ่งต่างๆ ในท้องฟ้า เป็นจริงตามที่เขียนไว้ในหนังสือของบรรดาผู้เผยพระวจนะว่า “ ‘พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย ตลอดสี่สิบปีในถิ่นกันดาร เจ้าได้ถวายเครื่องบูชาและมอบของถวายแก่เราหรือ?
  • กิจการของอัครทูต 7:43 - เจ้าตั้งสถานศักดิ์สิทธิ์แห่งพระโมเลค และดวงดาวแห่งเรฟานเทพเจ้าของเจ้า คือรูปเคารพต่างๆ ซึ่งเจ้าสร้างขึ้นกราบไหว้ ฉะนั้นเราจะส่งเจ้าไปเป็นเชลย’ ในดินแดนที่ไกลยิ่งกว่าบาบิโลน
  • สดุดี 95:8 - อย่าทำใจแข็งกระด้างเหมือนที่เมรีบาห์ เหมือนที่มัสสา ในถิ่นกันดาร
  • สดุดี 95:9 - ที่ซึ่งบรรพบุรุษของพวกเจ้าได้ทดลองเรา พวกเขาลองดีกับเราทั้งๆ ที่พวกเขาได้เห็นสิ่งต่างๆ ที่เราทำ
  • สดุดี 95:10 - ตลอดสี่สิบปีเราโกรธคนในชั่วอายุนั้น และเรากล่าวว่า “พวกเขาเป็นชนชาติที่ใจหลงเตลิด และพวกเขาไม่รู้จักวิถีทางของเรา”
  • สดุดี 95:11 - ดังนั้นเราจึงสาบานด้วยความโกรธของเราว่า “พวกเขาจะไม่มีวันได้เข้าสู่การพักสงบของเรา”
  • ฮีบรู 3:7 - ฉะนั้นตามที่พระวิญญาณตรัสไว้ว่า “วันนี้หากท่านได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์
  • ฮีบรู 3:8 - อย่าทำใจแข็งกระด้าง เหมือนเมื่อครั้งกบฏ ในช่วงการลองดีในถิ่นกันดาร
  • ฮีบรู 3:9 - ที่ซึ่งบรรพบุรุษของพวกเจ้าได้ลองดีและทดลองเรา และได้เห็นสิ่งที่เรากระทำตลอดสี่สิบปี
  • ฮีบรู 3:10 - ด้วยเหตุนี้เราจึงโกรธคนในชั่วอายุนั้น และเรากล่าวว่า ‘ใจของเขาหลงเตลิดอยู่เสมอ และพวกเขาไม่รู้จักวิถีทางของเรา’
  • อาโมส 5:25 - “พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย ตลอดสี่สิบปีในถิ่นกันดาร เจ้าได้ถวายเครื่องบูชาและมอบของถวายแก่เราหรือ?
  • อาโมส 5:26 - เจ้าตั้งสถานศักดิ์สิทธิ์ของกษัตริย์ของเจ้า ฐานของรูปเคารพของเจ้า ดวงดาวของเทพเจ้าของเจ้า ที่เจ้าทำขึ้นเพื่อตนเอง
  • สดุดี 106:13 - แต่ไม่ช้าพวกเขาก็ลืมสิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำ และไม่รอคอยคำแนะนำจากพระองค์
  • สดุดี 106:14 - ในทะเลทรายพวกเขายอมแพ้แก่ความอยาก ในถิ่นกันดารพวกเขาลองดีกับพระเจ้า
  • สดุดี 106:15 - พระองค์จึงประทานตามที่พวกเขาเรียกร้อง แต่ทรงส่งโรคระบาดมาเหนือพวกเขา
  • สดุดี 106:16 - ในค่ายพักนั้น พวกเขาเริ่มอิจฉาโมเสส และเริ่มริษยาอาโรนผู้ซึ่งได้รับการชำระและแยกไว้แด่องค์พระผู้เป็นเจ้า
  • สดุดี 106:17 - ธรณีจึงแยกออกและกลืนดาธาน มันฝังอาบีรัมกับพวก
  • สดุดี 106:18 - ไฟปะทุขึ้นในหมู่สมัครพรรคพวกของเขา เปลวไฟเผาผลาญเหล่าคนชั่ว
  • สดุดี 106:19 - ที่ภูเขาโฮเรบ พวกเขาได้สร้างเทวรูปลูกวัว และกราบไหว้รูปเคารพซึ่งหล่อขึ้นจากโลหะ
  • สดุดี 106:20 - พวกเขาแลกองค์ผู้ทรงเกียรติสิริของพวกเขา กับรูปปั้นของวัวที่กินหญ้า
  • สดุดี 106:21 - พวกเขาลืมพระเจ้าผู้ทรงช่วยให้เขารอด ผู้ได้ทรงกระทำพระราชกิจอันยิ่งใหญ่ในอียิปต์
  • สดุดี 106:22 - ทรงกระทำการอัศจรรย์ในดินแดนของฮาม และสิ่งที่น่าเกรงขามที่ทะเลแดง
  • สดุดี 106:23 - ดังนั้นพระองค์จึงตรัสว่าจะทรงทำลายพวกเขา ยังดีที่โมเสสผู้ทรงเลือกสรรไว้ได้เข้าเฝ้า ทูลทัดทาน เพื่อหันเหพระพิโรธไม่ให้ทำลายพวกเขา
  • สดุดี 106:24 - ต่อมาพวกเขาก็ดูหมิ่นดินแดนอันน่ารื่นรมย์นั้น พวกเขาไม่เชื่อพระสัญญาของพระองค์
  • สดุดี 106:25 - พวกเขากลับพร่ำบ่นอยู่ในเต็นท์ที่พัก และไม่เชื่อฟังองค์พระผู้เป็นเจ้า
  • สดุดี 106:26 - พระองค์จึงทรงชูพระหัตถ์ปฏิญาณกับพวกเขาว่า พระองค์จะทรงให้พวกเขาล้มตายในถิ่นกันดาร
  • สดุดี 106:27 - จะทรงกระทำให้ลูกหลานของพวกเขาไปตกอยู่ในหมู่ชนชาติทั้งหลาย กระจัดกระจายไปยังดินแดนต่างๆ
  • สดุดี 106:28 - พวกเขาเข้าเทียมแอกกับพระบาอัลที่เปโอร์ และรับประทานเครื่องเซ่นสังเวยแก่เหล่าเทพเจ้าอันไร้ชีวิต
  • สดุดี 106:29 - พวกเขายั่วยุพระพิโรธของพระองค์ด้วยการทำชั่วต่างๆ นานา และเกิดโรคระบาดในหมู่พวกเขา
  • อพยพ 16:2 - ในถิ่นกันดารนั้นชนอิสราเอลทั้งปวงบ่นว่าโมเสสกับอาโรน
  • สดุดี 78:17 - ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังคงทำบาปต่อพระองค์ กบฏต่อองค์ผู้สูงสุดในถิ่นกันดาร
  • สดุดี 78:18 - พวกเขาจงใจลองดีกับพระเจ้า โดยเรียกร้องอาหารที่อยากกิน
  • สดุดี 78:19 - เขาต่อว่าพระเจ้าว่า “พระเจ้าทรงจัดสำรับ ในถิ่นกันดารได้หรือ?
  • สดุดี 78:20 - เมื่อทรงตีหิน น้ำก็พุ่งออกมา ลำธารไหลล้น แต่พระองค์จะประทานอาหารให้พวกเราได้ด้วยหรือ? พระองค์จะประทานเนื้อให้คนของพระองค์ได้ด้วยหรือ?”
  • สดุดี 78:21 - เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงได้ยิน พระองค์ก็กริ้วยิ่งนัก เพลิงของพระองค์เผาผลาญยาโคบ พระพิโรธพลุ่งขึ้นต่อสู้อิสราเอล
  • สดุดี 78:22 - เพราะพวกเขาไม่ได้เชื่อในพระเจ้า หรือไว้วางใจว่าพระองค์จะทรงช่วยกู้ได้
  • สดุดี 78:23 - ถึงกระนั้นพระองค์ยังทรงบัญชาฟ้าเบื้องบน และทรงเปิดประตูสวรรค์
  • สดุดี 78:24 - พระองค์ทรงให้มานาโปรยปรายลงมาเป็นอาหารของพวกเขา พระองค์ประทานธัญญาหารจากฟ้าสวรรค์แก่พวกเขา
  • สดุดี 78:25 - มนุษย์ได้กินอาหารของทูตสวรรค์ พระองค์ประทานอาหารแก่พวกเขาจนอิ่มหนำ
  • สดุดี 78:26 - พระองค์ทรงให้ลมตะวันออกมาจากฟ้าสวรรค์ และทรงนำลมใต้มาโดยพระเดชานุภาพ
  • สดุดี 78:27 - พระองค์ทรงให้เนื้อตกลงมามากมายดั่งฝุ่น คือฝูงนกคลาคล่ำดั่งเม็ดทรายที่ชายทะเล
  • สดุดี 78:28 - พระองค์ทรงกระทำให้นกเหล่านั้นลงมาที่ค่ายพักแรม รอบๆ เต็นท์ของพวกเขา
  • สดุดี 78:29 - พวกเขาได้รับประทานจนอิ่มหนำ เพราะพระองค์ประทานให้จนสมอยาก
  • สดุดี 78:30 - แต่ก่อนที่พวกเขาจะอิ่ม ขณะที่เนื้อยังคาปากอยู่
  • สดุดี 78:31 - พระพิโรธของพระเจ้าก็พลุ่งขึ้นต่อพวกเขา พระองค์ทรงประหารคนกำยำล่ำสันที่สุดของพวกเขา และทรงสังหารคนหนุ่มของอิสราเอล
  • สดุดี 78:32 - ทั้งๆ ที่เห็นทั้งหมดนี้แล้ว พวกเขาก็ยังคงทำบาปต่อไป ทั้งๆที่เห็นการอัศจรรย์ต่างๆ ของพระองค์ พวกเขาก็ยังไม่เชื่อ
  • สดุดี 78:33 - ดังนั้นพระองค์จึงทรงทำให้วันคืนของเขาจบลงอย่างสูญเปล่า และทำให้ปีเดือนของเขาจบลงด้วยความหวาดหวั่นพรั่นพรึง
  • สดุดี 78:34 - เมื่อใดก็ตามที่พระเจ้าประหารพวกเขา พวกเขาจะแสวงหาพระองค์ พวกเขาจะกระตือรือร้นหวนกลับมาหาพระองค์อีกครั้ง
  • สดุดี 78:35 - พวกเขาระลึกได้ว่าพระเจ้าทรงเป็นพระศิลา ระลึกได้ว่าพระเจ้าผู้สูงสุดทรงเป็นพระผู้ไถ่ของพวกเขา
  • สดุดี 78:36 - แต่แล้วพวกเขาจะยกยอพระองค์ด้วยลมปาก มุสาต่อพระองค์ด้วยลิ้นของพวกเขา
  • สดุดี 78:37 - จิตใจของพวกเขาไม่ได้จงรักภักดีต่อพระองค์ พวกเขาไม่ได้ซื่อสัตย์ต่อพันธสัญญาของพระองค์
  • สดุดี 78:38 - ถึงกระนั้นพระองค์ยังทรงเมตตากรุณา พระองค์ทรงอภัยความชั่วช้าของพวกเขา และไม่ได้ทำลายล้างพวกเขาเสียหมด หลายต่อหลายครั้งพระองค์ทรงยับยั้งความกริ้ว ไม่ให้พระพิโรธพลุ่งขึ้นเต็มที่
  • สดุดี 78:39 - พระองค์ทรงระลึกว่าพวกเขาเป็นเพียงมนุษย์ เป็นแค่ลมวูบหนึ่ง ซึ่งผ่านไปแล้วไม่หวนกลับมา
  • สดุดี 78:40 - พวกเขากบฏต่อพระองค์ในถิ่นกันดาร และกระทำให้พระองค์เศร้าพระทัยในดินแดนร้างเปล่าบ่อยเหลือเกิน!
  • สดุดี 78:41 - พวกเขาลองดีกับพระเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า พวกยั่วยุองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล
  • สดุดี 78:42 - พวกเขาไม่ได้นึกถึงพระเดชานุภาพ ในวันที่พระองค์ทรงช่วยพวกเขาให้พ้นจากผู้ข่มเหงรังแก
  • 1โครินธ์ 10:1 - พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าอยากให้ท่านรับรู้ข้อเท็จจริงที่ว่าบรรพบุรุษของเราล้วนได้อยู่ใต้เมฆและได้ผ่านทะเลไปทุกคน
  • 1โครินธ์ 10:2 - พวกเขาล้วนได้รับบัพติศมาเข้าส่วนในโมเสส ในเมฆและในทะเล
  • 1โครินธ์ 10:3 - พวกเขาล้วนได้รับประทานอาหารทิพย์เหมือนกัน
  • 1โครินธ์ 10:4 - และได้ดื่มน้ำทิพย์เหมือนกัน พวกเขาได้ดื่มน้ำจากศิลาทิพย์ ซึ่งร่วมทางมากับพวกเขา และศิลานั้นคือพระคริสต์
  • 1โครินธ์ 10:5 - อย่างไรก็ตามพระเจ้าไม่พอพระทัยพวกเขาเกือบทั้งหมด บรรพบุรุษเหล่านั้นจึงล้มตายเกลื่อนกลาดในถิ่นกันดาร
  • 1โครินธ์ 10:6 - สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่าง ไม่ให้จิตใจของเราฝักใฝ่ในสิ่งชั่วร้ายเหมือนที่คนเหล่านั้นได้ทำ
  • 1โครินธ์ 10:7 - อย่านับถือรูปเคารพเหมือนบางคน ดังที่มีเขียนไว้ว่า “ประชากรนั่งล้อมวงกินดื่มและลุกขึ้นระเริงในงานเลี้ยงอย่างคนนอกศาสนา”
  • 1โครินธ์ 10:8 - เราไม่ควรทำผิดศีลธรรมทางเพศเหมือนที่บางคนได้ทำแล้วล้มตายถึง 23,100 คนในวันเดียว
  • 1โครินธ์ 10:9 - เราไม่ควรลองดีกับองค์พระผู้เป็นเจ้าเหมือนที่พวกเขาบางคนได้ทำแล้วถูกงูกัดตาย
  • 1โครินธ์ 10:10 - และอย่าพร่ำบ่นเหมือนที่พวกเขาบางคนได้ทำแล้วถูกทูตมรณะประหาร
  • อพยพ 16:35 - ชนอิสราเอลกินมานาเป็นอาหารตลอดสี่สิบปี ตราบจนมาถึงเขตแดนคานาอันซึ่งพวกเขาเข้าไปตั้งรกราก
  • เอเสเคียล 20:10 - ฉะนั้นเราจึงนำอิสราเอลออกมาจากอียิปต์ พาเข้าสู่ถิ่นกันดาร
  • เอเสเคียล 20:11 - เรามอบกฎหมายของเราแก่เขา และให้พวกเขาเรียนรู้บทบัญญัติของเรา ซึ่งผู้ประพฤติตามจะดำรงชีวิตอยู่โดยบทบัญญัติเหล่านั้น
  • เอเสเคียล 20:12 - และเราได้มอบวันสะบาโตแก่พวกเขา เป็นหมายสำคัญระหว่างเราทั้งสองฝ่าย เพื่อพวกเขาจะรู้ว่าเราผู้เป็นพระยาห์เวห์ได้ทำให้พวกเขาบริสุทธิ์
  • เอเสเคียล 20:13 - “ ‘ถึงอย่างนั้นชนชาติอิสราเอลก็กบฏต่อเราในถิ่นกันดาร พวกเขาไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายของเรา แต่ละคนทิ้งบทบัญญัติของเรา แม้ว่าผู้ที่ประพฤติตามจะดำรงชีวิตอยู่โดยบทบัญญัตินั้น พวกเขาทำให้สะบาโตของเรามัวหมองที่สุด ฉะนั้นเราจึงลั่นวาจาว่าจะระบายโทสะลงเหนือพวกเขา และทำลายล้างพวกเขาในถิ่นกันดาร
  • เอเสเคียล 20:14 - แต่เพื่อเห็นแก่นามของเรา เราจึงปกป้องนามของเราไว้ ไม่ให้เป็นที่ดูหมิ่นในสายตาของชนชาติทั้งหลายซึ่งเห็นเรานำอิสราเอลออกมา
  • เอเสเคียล 20:15 - และเราชูมือปฏิญาณในถิ่นกันดารว่าจะไม่นำพวกเขาเข้าสู่ดินแดนซึ่งเรามอบให้ ดินแดนอันงดงามที่สุด อุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้ง
  • เอเสเคียล 20:16 - เนื่องจากพวกเขาละทิ้งบทบัญญัติของเรา ไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายของเรา และทำให้สะบาโตของเรามัวหมอง เพราะจิตใจของเขาฝักใฝ่ในรูปเคารพ
  • เอเสเคียล 20:17 - ถึงกระนั้นเราก็เหลียวแลพวกเขาด้วยความสงสาร ไม่ได้ทำลายล้างพวกเขา หรือให้พวกเขาถึงจุดจบในถิ่นกันดาร
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 1:31 - และในถิ่นกันดาร ที่นั่นท่านได้เห็นพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงโอบอุ้มท่านดั่งพ่อโอบอุ้มลูกตลอดทางมาจนถึงที่นี่”
  • ฮีบรู 3:16 - ใครคือผู้ที่ได้ยินแล้วยังกบฏ? ก็คือคนทั้งปวงที่โมเสสพาออกมาจากอียิปต์ไม่ใช่หรือ?
  • ฮีบรู 3:17 - ใครเล่าที่พระองค์ทรงพระพิโรธตลอดสี่สิบปี? ก็คือบรรดาผู้ที่ทำบาปซึ่งได้ทิ้งร่างของตนอยู่ในถิ่นกันดารไม่ใช่หรือ?
  • ฮีบรู 3:18 - และใครกันเล่าที่พระเจ้าทรงปฏิญาณว่าเขาจะไม่มีวันได้เข้าสู่การพักสงบของพระองค์ถ้าไม่ใช่บรรดาคนที่ไม่เชื่อฟัง ?
  • ฮีบรู 3:19 - ดังนั้นเราจึงเห็นได้ว่าเขาเหล่านั้นไม่สามารถเข้าไปก็เพราะพวกเขาไม่เชื่อ
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 9:21 - ข้าพเจ้าจึงเอาสิ่งผิดบาปของพวกท่านคือรูปลูกวัวซึ่งท่านสร้างขึ้นนั้นเผาทิ้งและบดเป็นผุยผง ทิ้งลงในลำธารซึ่งไหลลงมาจากภูเขา
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 9:22 - ท่านยังได้ทำให้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระพิโรธอีกที่ทาเบราห์ ที่มัสสาห์ และที่ขิบโรทหัทธาอาวาห์
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 9:23 - เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงส่งท่านออกจากคาเดชบารเนียและตรัสสั่งว่า “จงเข้าไปครอบครองดินแดนที่เราให้เจ้า” แต่ท่านกบฏขัดขืนพระบัญชาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ท่านไม่ไว้วางใจและไม่เชื่อฟังพระองค์
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 9:24 - ท่านกบฏต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าเสมอมาตั้งแต่ข้าพเจ้ารู้จักท่านแล้ว
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 9:7 - จงระลึกเสมอและอย่าลืมที่ท่านเคยยั่วยุพระพิโรธของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านในถิ่นกันดาร ตั้งแต่วันที่ท่านออกจากอียิปต์จนมาถึงที่นี่ ท่านกบฏขัดขืนองค์พระผู้เป็นเจ้าเสมอมา
  • กิจการของอัครทูต 7:36 - โมเสสนำพวกเขาออกจากอียิปต์ และได้ทำหมายสำคัญและปาฏิหาริย์ต่างๆ ในอียิปต์ที่ทะเลแดง และตลอดสี่สิบปีในถิ่นทุรกันดาร
逐节对照交叉引用
  • พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - พระองค์ทรงอดทนต่อความประพฤติของเหล่าบรรพบุรุษ เป็นเวลาสี่สิบปีในถิ่นกันดาร
  • 新标点和合本 - 又在旷野容忍(或作“抚养”)他们,约有四十年。
  • 和合本2010(上帝版-简体) - 他在旷野容忍 他们,约有四十年。
  • 和合本2010(神版-简体) - 他在旷野容忍 他们,约有四十年。
  • 当代译本 - 在旷野大约有四十年之久,上帝一直容忍 他们。
  • 圣经新译本 - 又在旷野容忍(“容忍”有些抄本作“养育”)他们,约有四十年之久;
  • 中文标准译本 - 在旷野,神容忍了他们约有四十年之久。
  • 现代标点和合本 - 又在旷野容忍 他们约有四十年。
  • 和合本(拼音版) - 又在旷野容忍他们约有四十年 。
  • New International Version - for about forty years he endured their conduct in the wilderness;
  • New International Reader's Version - He put up with their behavior for about 40 years in the desert.
  • English Standard Version - And for about forty years he put up with them in the wilderness.
  • New Living Translation - He put up with them through forty years of wandering in the wilderness.
  • Christian Standard Bible - And for about forty years he put up with them in the wilderness;
  • New American Standard Bible - For a period of about forty years He put up with them in the wilderness.
  • New King James Version - Now for a time of about forty years He put up with their ways in the wilderness.
  • Amplified Bible - For a period of about forty years He put up with their behavior in the wilderness.
  • American Standard Version - And for about the time of forty years as a nursing-father bare he them in the wilderness.
  • King James Version - And about the time of forty years suffered he their manners in the wilderness.
  • New English Translation - For a period of about forty years he put up with them in the wilderness.
  • World English Bible - For a period of about forty years he put up with them in the wilderness.
  • 新標點和合本 - 又在曠野容忍(或譯:撫養)他們,約有四十年。
  • 和合本2010(上帝版-繁體) - 他在曠野容忍 他們,約有四十年。
  • 和合本2010(神版-繁體) - 他在曠野容忍 他們,約有四十年。
  • 當代譯本 - 在曠野大約有四十年之久,上帝一直容忍 他們。
  • 聖經新譯本 - 又在曠野容忍(“容忍”有些抄本作“養育”)他們,約有四十年之久;
  • 呂振中譯本 - 在野地裏背負他們的無狀 ,約有四十年的工夫。
  • 中文標準譯本 - 在曠野,神容忍了他們約有四十年之久。
  • 現代標點和合本 - 又在曠野容忍 他們約有四十年。
  • 文理和合譯本 - 在曠野包容之、約四十年、
  • 文理委辦譯本 - 在曠野四十年包容之、
  • 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 在曠野撫養之、約四十年、
  • 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 在曠野中予以優容者凡四十載、
  • Nueva Versión Internacional - y soportó su mal proceder en el desierto unos cuarenta años.
  • 현대인의 성경 - 그리고 하나님은 광야에서 40년 동안 그 들을 돌봐 주셨으며
  • Новый Русский Перевод - Сорок лет Он терпел их в пустыне.
  • Восточный перевод - Сорок лет Он терпел их в пустыне.
  • Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Сорок лет Он терпел их в пустыне.
  • Восточный перевод, версия для Таджикистана - Сорок лет Он терпел их в пустыне.
  • La Bible du Semeur 2015 - Pendant quarante ans environ, il l’a supporté dans le désert.
  • リビングバイブル - 彼らが荒野をさまよい歩いた四十年の間も、ずっと養い続けてくださいました。
  • Nestle Aland 28 - καὶ ὡς τεσσερακονταετῆ χρόνον ἐτροποφόρησεν αὐτοὺς ἐν τῇ ἐρήμῳ
  • unfoldingWord® Greek New Testament - καί ὡς τεσσερακονταετῆ χρόνον ἐτροποφόρησεν αὐτοὺς ἐν τῇ ἐρήμῳ,
  • Nova Versão Internacional - e os aturou no deserto durante cerca de quarenta anos.
  • Hoffnung für alle - Vierzig Jahre lang ertrug er sie auf ihrem Weg durch die Wüste.
  • Kinh Thánh Hiện Đại - Suốt bốn mươi năm, Ngài nhẫn nại chịu đựng họ giữa hoang mạc.
  • พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - พระ​องค์​อดกลั้น​ต่อ​ความ​ประพฤติ​ของ​พวก​เขา​ใน​ถิ่น​ทุรกันดาร​เป็น​เวลา​ประมาณ 40 ปี
  • เนหะมีย์ 9:16 - “แต่บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายเย่อหยิ่งและดื้อดึง ไม่ยอมเชื่อฟังพระบัญชาของพระองค์
  • เนหะมีย์ 9:17 - ไม่ยอมรับฟัง และไม่ได้จดจำการอัศจรรย์ต่างๆ ที่ทรงทำในหมู่พวกเขา แต่กลับใจแข็งและคิดคดทรยศ และตั้งผู้นำคนหนึ่งเพื่อพากันกลับไปเป็นทาสในอียิปต์ แต่พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ให้อภัย ทรงเปี่ยมด้วยพระคุณและความเอ็นดูสงสาร ทรงพระพิโรธช้าและเปี่ยมด้วยความรัก ฉะนั้นพระองค์จึงไม่ได้ทรงทอดทิ้งพวกเขา
  • เนหะมีย์ 9:18 - แม้แต่ขณะที่พวกเขาได้หล่อเทวรูปลูกวัวขึ้นสำหรับตนและประกาศว่า ‘นี่คือพระเจ้าผู้พาเราออกมาจากอียิปต์’ หรือขณะที่พวกเขาหมิ่นประมาทอย่างร้ายแรง
  • เนหะมีย์ 9:19 - “เนื่องด้วยพระกรุณาคุณอันยิ่งใหญ่ พระองค์ไม่ได้ทรงละทิ้งพวกเขาไว้ในถิ่นกันดาร เสาเมฆยังคงนำพวกเขาไปตามทางในเวลากลางวันและเสาเพลิงยังส่องทางตลอดค่ำคืน
  • เนหะมีย์ 9:20 - พระองค์ประทานพระวิญญาณล้ำเลิศมาสั่งสอนพวกเขา พระองค์ไม่ได้ให้มานาของพระองค์ขาดจากปากของพวกเขาและพระองค์ประทานน้ำดับความกระหายให้พวกเขา
  • เนหะมีย์ 9:21 - ตลอดสี่สิบปีพระองค์ทรงเลี้ยงดูพวกเขาในถิ่นกันดาร พวกเขาไม่ขัดสนสิ่งใด เสื้อผ้าของเขาไม่ได้เก่าคร่ำคร่าและเท้าก็ไม่ได้บวมช้ำ
  • กันดารวิถี 14:22 - ทุกคนที่ได้เห็นเกียรติสิริของเราและเห็นหมายสำคัญที่เราได้ทำทั้งในอียิปต์และในถิ่นกันดารแล้วยังไม่ยอมเชื่อฟังเรา แต่ลองดีกับเรานับสิบครั้ง
  • กันดารวิถี 14:33 - ลูกหลานของเจ้าจะเลี้ยงแกะอยู่ที่นี่เป็นเวลาสี่สิบปี รับความทุกข์ยากเพราะเหตุที่พวกเจ้าไม่ซื่อสัตย์ต่อเรา จวบจนคนสุดท้ายในพวกเจ้าล้มตายลงในถิ่นกันดาร
  • กันดารวิถี 14:34 - เจ้าจะรับโทษบาปของตนและรู้ว่าการที่เจ้าทำให้เราต่อสู้กับเจ้านั้นเป็นเช่นไรเป็นเวลาสี่สิบปี หนึ่งปีแทนหนึ่งวันของสี่สิบวันแห่งการสำรวจดินแดน’
  • กิจการของอัครทูต 7:39 - “แต่เหล่าบรรพบุรุษไม่ยอมเชื่อฟัง กลับปฏิเสธเขา และมีใจปรารถนาจะกลับไปอียิปต์
  • กิจการของอัครทูต 7:40 - พวกเขาบอกอาโรนว่า ‘ช่วยสร้างเทพเจ้าขึ้นมานำพวกเราไป เพราะเราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับโมเสสผู้ที่พาพวกเราออกมาจากอียิปต์!’
  • กิจการของอัครทูต 7:41 - ครั้งนั้นเหล่าประชากรได้ทำเทวรูปลูกวัว พวกเขาถวายเครื่องบูชาแก่เทวรูปนั้นและเฉลิมฉลองเพื่อเป็นเกียรติแก่สิ่งที่สร้างขึ้นด้วยน้ำมือของตน
  • กิจการของอัครทูต 7:42 - แต่พระเจ้าทรงหันหลังให้พวกเขาและทรงปล่อยให้พวกเขานมัสการสิ่งต่างๆ ในท้องฟ้า เป็นจริงตามที่เขียนไว้ในหนังสือของบรรดาผู้เผยพระวจนะว่า “ ‘พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย ตลอดสี่สิบปีในถิ่นกันดาร เจ้าได้ถวายเครื่องบูชาและมอบของถวายแก่เราหรือ?
  • กิจการของอัครทูต 7:43 - เจ้าตั้งสถานศักดิ์สิทธิ์แห่งพระโมเลค และดวงดาวแห่งเรฟานเทพเจ้าของเจ้า คือรูปเคารพต่างๆ ซึ่งเจ้าสร้างขึ้นกราบไหว้ ฉะนั้นเราจะส่งเจ้าไปเป็นเชลย’ ในดินแดนที่ไกลยิ่งกว่าบาบิโลน
  • สดุดี 95:8 - อย่าทำใจแข็งกระด้างเหมือนที่เมรีบาห์ เหมือนที่มัสสา ในถิ่นกันดาร
  • สดุดี 95:9 - ที่ซึ่งบรรพบุรุษของพวกเจ้าได้ทดลองเรา พวกเขาลองดีกับเราทั้งๆ ที่พวกเขาได้เห็นสิ่งต่างๆ ที่เราทำ
  • สดุดี 95:10 - ตลอดสี่สิบปีเราโกรธคนในชั่วอายุนั้น และเรากล่าวว่า “พวกเขาเป็นชนชาติที่ใจหลงเตลิด และพวกเขาไม่รู้จักวิถีทางของเรา”
  • สดุดี 95:11 - ดังนั้นเราจึงสาบานด้วยความโกรธของเราว่า “พวกเขาจะไม่มีวันได้เข้าสู่การพักสงบของเรา”
  • ฮีบรู 3:7 - ฉะนั้นตามที่พระวิญญาณตรัสไว้ว่า “วันนี้หากท่านได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์
  • ฮีบรู 3:8 - อย่าทำใจแข็งกระด้าง เหมือนเมื่อครั้งกบฏ ในช่วงการลองดีในถิ่นกันดาร
  • ฮีบรู 3:9 - ที่ซึ่งบรรพบุรุษของพวกเจ้าได้ลองดีและทดลองเรา และได้เห็นสิ่งที่เรากระทำตลอดสี่สิบปี
  • ฮีบรู 3:10 - ด้วยเหตุนี้เราจึงโกรธคนในชั่วอายุนั้น และเรากล่าวว่า ‘ใจของเขาหลงเตลิดอยู่เสมอ และพวกเขาไม่รู้จักวิถีทางของเรา’
  • อาโมส 5:25 - “พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย ตลอดสี่สิบปีในถิ่นกันดาร เจ้าได้ถวายเครื่องบูชาและมอบของถวายแก่เราหรือ?
  • อาโมส 5:26 - เจ้าตั้งสถานศักดิ์สิทธิ์ของกษัตริย์ของเจ้า ฐานของรูปเคารพของเจ้า ดวงดาวของเทพเจ้าของเจ้า ที่เจ้าทำขึ้นเพื่อตนเอง
  • สดุดี 106:13 - แต่ไม่ช้าพวกเขาก็ลืมสิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำ และไม่รอคอยคำแนะนำจากพระองค์
  • สดุดี 106:14 - ในทะเลทรายพวกเขายอมแพ้แก่ความอยาก ในถิ่นกันดารพวกเขาลองดีกับพระเจ้า
  • สดุดี 106:15 - พระองค์จึงประทานตามที่พวกเขาเรียกร้อง แต่ทรงส่งโรคระบาดมาเหนือพวกเขา
  • สดุดี 106:16 - ในค่ายพักนั้น พวกเขาเริ่มอิจฉาโมเสส และเริ่มริษยาอาโรนผู้ซึ่งได้รับการชำระและแยกไว้แด่องค์พระผู้เป็นเจ้า
  • สดุดี 106:17 - ธรณีจึงแยกออกและกลืนดาธาน มันฝังอาบีรัมกับพวก
  • สดุดี 106:18 - ไฟปะทุขึ้นในหมู่สมัครพรรคพวกของเขา เปลวไฟเผาผลาญเหล่าคนชั่ว
  • สดุดี 106:19 - ที่ภูเขาโฮเรบ พวกเขาได้สร้างเทวรูปลูกวัว และกราบไหว้รูปเคารพซึ่งหล่อขึ้นจากโลหะ
  • สดุดี 106:20 - พวกเขาแลกองค์ผู้ทรงเกียรติสิริของพวกเขา กับรูปปั้นของวัวที่กินหญ้า
  • สดุดี 106:21 - พวกเขาลืมพระเจ้าผู้ทรงช่วยให้เขารอด ผู้ได้ทรงกระทำพระราชกิจอันยิ่งใหญ่ในอียิปต์
  • สดุดี 106:22 - ทรงกระทำการอัศจรรย์ในดินแดนของฮาม และสิ่งที่น่าเกรงขามที่ทะเลแดง
  • สดุดี 106:23 - ดังนั้นพระองค์จึงตรัสว่าจะทรงทำลายพวกเขา ยังดีที่โมเสสผู้ทรงเลือกสรรไว้ได้เข้าเฝ้า ทูลทัดทาน เพื่อหันเหพระพิโรธไม่ให้ทำลายพวกเขา
  • สดุดี 106:24 - ต่อมาพวกเขาก็ดูหมิ่นดินแดนอันน่ารื่นรมย์นั้น พวกเขาไม่เชื่อพระสัญญาของพระองค์
  • สดุดี 106:25 - พวกเขากลับพร่ำบ่นอยู่ในเต็นท์ที่พัก และไม่เชื่อฟังองค์พระผู้เป็นเจ้า
  • สดุดี 106:26 - พระองค์จึงทรงชูพระหัตถ์ปฏิญาณกับพวกเขาว่า พระองค์จะทรงให้พวกเขาล้มตายในถิ่นกันดาร
  • สดุดี 106:27 - จะทรงกระทำให้ลูกหลานของพวกเขาไปตกอยู่ในหมู่ชนชาติทั้งหลาย กระจัดกระจายไปยังดินแดนต่างๆ
  • สดุดี 106:28 - พวกเขาเข้าเทียมแอกกับพระบาอัลที่เปโอร์ และรับประทานเครื่องเซ่นสังเวยแก่เหล่าเทพเจ้าอันไร้ชีวิต
  • สดุดี 106:29 - พวกเขายั่วยุพระพิโรธของพระองค์ด้วยการทำชั่วต่างๆ นานา และเกิดโรคระบาดในหมู่พวกเขา
  • อพยพ 16:2 - ในถิ่นกันดารนั้นชนอิสราเอลทั้งปวงบ่นว่าโมเสสกับอาโรน
  • สดุดี 78:17 - ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังคงทำบาปต่อพระองค์ กบฏต่อองค์ผู้สูงสุดในถิ่นกันดาร
  • สดุดี 78:18 - พวกเขาจงใจลองดีกับพระเจ้า โดยเรียกร้องอาหารที่อยากกิน
  • สดุดี 78:19 - เขาต่อว่าพระเจ้าว่า “พระเจ้าทรงจัดสำรับ ในถิ่นกันดารได้หรือ?
  • สดุดี 78:20 - เมื่อทรงตีหิน น้ำก็พุ่งออกมา ลำธารไหลล้น แต่พระองค์จะประทานอาหารให้พวกเราได้ด้วยหรือ? พระองค์จะประทานเนื้อให้คนของพระองค์ได้ด้วยหรือ?”
  • สดุดี 78:21 - เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงได้ยิน พระองค์ก็กริ้วยิ่งนัก เพลิงของพระองค์เผาผลาญยาโคบ พระพิโรธพลุ่งขึ้นต่อสู้อิสราเอล
  • สดุดี 78:22 - เพราะพวกเขาไม่ได้เชื่อในพระเจ้า หรือไว้วางใจว่าพระองค์จะทรงช่วยกู้ได้
  • สดุดี 78:23 - ถึงกระนั้นพระองค์ยังทรงบัญชาฟ้าเบื้องบน และทรงเปิดประตูสวรรค์
  • สดุดี 78:24 - พระองค์ทรงให้มานาโปรยปรายลงมาเป็นอาหารของพวกเขา พระองค์ประทานธัญญาหารจากฟ้าสวรรค์แก่พวกเขา
  • สดุดี 78:25 - มนุษย์ได้กินอาหารของทูตสวรรค์ พระองค์ประทานอาหารแก่พวกเขาจนอิ่มหนำ
  • สดุดี 78:26 - พระองค์ทรงให้ลมตะวันออกมาจากฟ้าสวรรค์ และทรงนำลมใต้มาโดยพระเดชานุภาพ
  • สดุดี 78:27 - พระองค์ทรงให้เนื้อตกลงมามากมายดั่งฝุ่น คือฝูงนกคลาคล่ำดั่งเม็ดทรายที่ชายทะเล
  • สดุดี 78:28 - พระองค์ทรงกระทำให้นกเหล่านั้นลงมาที่ค่ายพักแรม รอบๆ เต็นท์ของพวกเขา
  • สดุดี 78:29 - พวกเขาได้รับประทานจนอิ่มหนำ เพราะพระองค์ประทานให้จนสมอยาก
  • สดุดี 78:30 - แต่ก่อนที่พวกเขาจะอิ่ม ขณะที่เนื้อยังคาปากอยู่
  • สดุดี 78:31 - พระพิโรธของพระเจ้าก็พลุ่งขึ้นต่อพวกเขา พระองค์ทรงประหารคนกำยำล่ำสันที่สุดของพวกเขา และทรงสังหารคนหนุ่มของอิสราเอล
  • สดุดี 78:32 - ทั้งๆ ที่เห็นทั้งหมดนี้แล้ว พวกเขาก็ยังคงทำบาปต่อไป ทั้งๆที่เห็นการอัศจรรย์ต่างๆ ของพระองค์ พวกเขาก็ยังไม่เชื่อ
  • สดุดี 78:33 - ดังนั้นพระองค์จึงทรงทำให้วันคืนของเขาจบลงอย่างสูญเปล่า และทำให้ปีเดือนของเขาจบลงด้วยความหวาดหวั่นพรั่นพรึง
  • สดุดี 78:34 - เมื่อใดก็ตามที่พระเจ้าประหารพวกเขา พวกเขาจะแสวงหาพระองค์ พวกเขาจะกระตือรือร้นหวนกลับมาหาพระองค์อีกครั้ง
  • สดุดี 78:35 - พวกเขาระลึกได้ว่าพระเจ้าทรงเป็นพระศิลา ระลึกได้ว่าพระเจ้าผู้สูงสุดทรงเป็นพระผู้ไถ่ของพวกเขา
  • สดุดี 78:36 - แต่แล้วพวกเขาจะยกยอพระองค์ด้วยลมปาก มุสาต่อพระองค์ด้วยลิ้นของพวกเขา
  • สดุดี 78:37 - จิตใจของพวกเขาไม่ได้จงรักภักดีต่อพระองค์ พวกเขาไม่ได้ซื่อสัตย์ต่อพันธสัญญาของพระองค์
  • สดุดี 78:38 - ถึงกระนั้นพระองค์ยังทรงเมตตากรุณา พระองค์ทรงอภัยความชั่วช้าของพวกเขา และไม่ได้ทำลายล้างพวกเขาเสียหมด หลายต่อหลายครั้งพระองค์ทรงยับยั้งความกริ้ว ไม่ให้พระพิโรธพลุ่งขึ้นเต็มที่
  • สดุดี 78:39 - พระองค์ทรงระลึกว่าพวกเขาเป็นเพียงมนุษย์ เป็นแค่ลมวูบหนึ่ง ซึ่งผ่านไปแล้วไม่หวนกลับมา
  • สดุดี 78:40 - พวกเขากบฏต่อพระองค์ในถิ่นกันดาร และกระทำให้พระองค์เศร้าพระทัยในดินแดนร้างเปล่าบ่อยเหลือเกิน!
  • สดุดี 78:41 - พวกเขาลองดีกับพระเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า พวกยั่วยุองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล
  • สดุดี 78:42 - พวกเขาไม่ได้นึกถึงพระเดชานุภาพ ในวันที่พระองค์ทรงช่วยพวกเขาให้พ้นจากผู้ข่มเหงรังแก
  • 1โครินธ์ 10:1 - พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าอยากให้ท่านรับรู้ข้อเท็จจริงที่ว่าบรรพบุรุษของเราล้วนได้อยู่ใต้เมฆและได้ผ่านทะเลไปทุกคน
  • 1โครินธ์ 10:2 - พวกเขาล้วนได้รับบัพติศมาเข้าส่วนในโมเสส ในเมฆและในทะเล
  • 1โครินธ์ 10:3 - พวกเขาล้วนได้รับประทานอาหารทิพย์เหมือนกัน
  • 1โครินธ์ 10:4 - และได้ดื่มน้ำทิพย์เหมือนกัน พวกเขาได้ดื่มน้ำจากศิลาทิพย์ ซึ่งร่วมทางมากับพวกเขา และศิลานั้นคือพระคริสต์
  • 1โครินธ์ 10:5 - อย่างไรก็ตามพระเจ้าไม่พอพระทัยพวกเขาเกือบทั้งหมด บรรพบุรุษเหล่านั้นจึงล้มตายเกลื่อนกลาดในถิ่นกันดาร
  • 1โครินธ์ 10:6 - สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่าง ไม่ให้จิตใจของเราฝักใฝ่ในสิ่งชั่วร้ายเหมือนที่คนเหล่านั้นได้ทำ
  • 1โครินธ์ 10:7 - อย่านับถือรูปเคารพเหมือนบางคน ดังที่มีเขียนไว้ว่า “ประชากรนั่งล้อมวงกินดื่มและลุกขึ้นระเริงในงานเลี้ยงอย่างคนนอกศาสนา”
  • 1โครินธ์ 10:8 - เราไม่ควรทำผิดศีลธรรมทางเพศเหมือนที่บางคนได้ทำแล้วล้มตายถึง 23,100 คนในวันเดียว
  • 1โครินธ์ 10:9 - เราไม่ควรลองดีกับองค์พระผู้เป็นเจ้าเหมือนที่พวกเขาบางคนได้ทำแล้วถูกงูกัดตาย
  • 1โครินธ์ 10:10 - และอย่าพร่ำบ่นเหมือนที่พวกเขาบางคนได้ทำแล้วถูกทูตมรณะประหาร
  • อพยพ 16:35 - ชนอิสราเอลกินมานาเป็นอาหารตลอดสี่สิบปี ตราบจนมาถึงเขตแดนคานาอันซึ่งพวกเขาเข้าไปตั้งรกราก
  • เอเสเคียล 20:10 - ฉะนั้นเราจึงนำอิสราเอลออกมาจากอียิปต์ พาเข้าสู่ถิ่นกันดาร
  • เอเสเคียล 20:11 - เรามอบกฎหมายของเราแก่เขา และให้พวกเขาเรียนรู้บทบัญญัติของเรา ซึ่งผู้ประพฤติตามจะดำรงชีวิตอยู่โดยบทบัญญัติเหล่านั้น
  • เอเสเคียล 20:12 - และเราได้มอบวันสะบาโตแก่พวกเขา เป็นหมายสำคัญระหว่างเราทั้งสองฝ่าย เพื่อพวกเขาจะรู้ว่าเราผู้เป็นพระยาห์เวห์ได้ทำให้พวกเขาบริสุทธิ์
  • เอเสเคียล 20:13 - “ ‘ถึงอย่างนั้นชนชาติอิสราเอลก็กบฏต่อเราในถิ่นกันดาร พวกเขาไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายของเรา แต่ละคนทิ้งบทบัญญัติของเรา แม้ว่าผู้ที่ประพฤติตามจะดำรงชีวิตอยู่โดยบทบัญญัตินั้น พวกเขาทำให้สะบาโตของเรามัวหมองที่สุด ฉะนั้นเราจึงลั่นวาจาว่าจะระบายโทสะลงเหนือพวกเขา และทำลายล้างพวกเขาในถิ่นกันดาร
  • เอเสเคียล 20:14 - แต่เพื่อเห็นแก่นามของเรา เราจึงปกป้องนามของเราไว้ ไม่ให้เป็นที่ดูหมิ่นในสายตาของชนชาติทั้งหลายซึ่งเห็นเรานำอิสราเอลออกมา
  • เอเสเคียล 20:15 - และเราชูมือปฏิญาณในถิ่นกันดารว่าจะไม่นำพวกเขาเข้าสู่ดินแดนซึ่งเรามอบให้ ดินแดนอันงดงามที่สุด อุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้ง
  • เอเสเคียล 20:16 - เนื่องจากพวกเขาละทิ้งบทบัญญัติของเรา ไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายของเรา และทำให้สะบาโตของเรามัวหมอง เพราะจิตใจของเขาฝักใฝ่ในรูปเคารพ
  • เอเสเคียล 20:17 - ถึงกระนั้นเราก็เหลียวแลพวกเขาด้วยความสงสาร ไม่ได้ทำลายล้างพวกเขา หรือให้พวกเขาถึงจุดจบในถิ่นกันดาร
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 1:31 - และในถิ่นกันดาร ที่นั่นท่านได้เห็นพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงโอบอุ้มท่านดั่งพ่อโอบอุ้มลูกตลอดทางมาจนถึงที่นี่”
  • ฮีบรู 3:16 - ใครคือผู้ที่ได้ยินแล้วยังกบฏ? ก็คือคนทั้งปวงที่โมเสสพาออกมาจากอียิปต์ไม่ใช่หรือ?
  • ฮีบรู 3:17 - ใครเล่าที่พระองค์ทรงพระพิโรธตลอดสี่สิบปี? ก็คือบรรดาผู้ที่ทำบาปซึ่งได้ทิ้งร่างของตนอยู่ในถิ่นกันดารไม่ใช่หรือ?
  • ฮีบรู 3:18 - และใครกันเล่าที่พระเจ้าทรงปฏิญาณว่าเขาจะไม่มีวันได้เข้าสู่การพักสงบของพระองค์ถ้าไม่ใช่บรรดาคนที่ไม่เชื่อฟัง ?
  • ฮีบรู 3:19 - ดังนั้นเราจึงเห็นได้ว่าเขาเหล่านั้นไม่สามารถเข้าไปก็เพราะพวกเขาไม่เชื่อ
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 9:21 - ข้าพเจ้าจึงเอาสิ่งผิดบาปของพวกท่านคือรูปลูกวัวซึ่งท่านสร้างขึ้นนั้นเผาทิ้งและบดเป็นผุยผง ทิ้งลงในลำธารซึ่งไหลลงมาจากภูเขา
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 9:22 - ท่านยังได้ทำให้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระพิโรธอีกที่ทาเบราห์ ที่มัสสาห์ และที่ขิบโรทหัทธาอาวาห์
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 9:23 - เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงส่งท่านออกจากคาเดชบารเนียและตรัสสั่งว่า “จงเข้าไปครอบครองดินแดนที่เราให้เจ้า” แต่ท่านกบฏขัดขืนพระบัญชาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ท่านไม่ไว้วางใจและไม่เชื่อฟังพระองค์
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 9:24 - ท่านกบฏต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าเสมอมาตั้งแต่ข้าพเจ้ารู้จักท่านแล้ว
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 9:7 - จงระลึกเสมอและอย่าลืมที่ท่านเคยยั่วยุพระพิโรธของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านในถิ่นกันดาร ตั้งแต่วันที่ท่านออกจากอียิปต์จนมาถึงที่นี่ ท่านกบฏขัดขืนองค์พระผู้เป็นเจ้าเสมอมา
  • กิจการของอัครทูต 7:36 - โมเสสนำพวกเขาออกจากอียิปต์ และได้ทำหมายสำคัญและปาฏิหาริย์ต่างๆ ในอียิปต์ที่ทะเลแดง และตลอดสี่สิบปีในถิ่นทุรกันดาร
圣经
资源
计划
奉献