逐节对照
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - พระองค์อดกลั้นต่อความประพฤติของพวกเขาในถิ่นทุรกันดารเป็นเวลาประมาณ 40 ปี
- 新标点和合本 - 又在旷野容忍(或作“抚养”)他们,约有四十年。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 他在旷野容忍 他们,约有四十年。
- 和合本2010(神版-简体) - 他在旷野容忍 他们,约有四十年。
- 当代译本 - 在旷野大约有四十年之久,上帝一直容忍 他们。
- 圣经新译本 - 又在旷野容忍(“容忍”有些抄本作“养育”)他们,约有四十年之久;
- 中文标准译本 - 在旷野,神容忍了他们约有四十年之久。
- 现代标点和合本 - 又在旷野容忍 他们约有四十年。
- 和合本(拼音版) - 又在旷野容忍他们约有四十年 。
- New International Version - for about forty years he endured their conduct in the wilderness;
- New International Reader's Version - He put up with their behavior for about 40 years in the desert.
- English Standard Version - And for about forty years he put up with them in the wilderness.
- New Living Translation - He put up with them through forty years of wandering in the wilderness.
- Christian Standard Bible - And for about forty years he put up with them in the wilderness;
- New American Standard Bible - For a period of about forty years He put up with them in the wilderness.
- New King James Version - Now for a time of about forty years He put up with their ways in the wilderness.
- Amplified Bible - For a period of about forty years He put up with their behavior in the wilderness.
- American Standard Version - And for about the time of forty years as a nursing-father bare he them in the wilderness.
- King James Version - And about the time of forty years suffered he their manners in the wilderness.
- New English Translation - For a period of about forty years he put up with them in the wilderness.
- World English Bible - For a period of about forty years he put up with them in the wilderness.
- 新標點和合本 - 又在曠野容忍(或譯:撫養)他們,約有四十年。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 他在曠野容忍 他們,約有四十年。
- 和合本2010(神版-繁體) - 他在曠野容忍 他們,約有四十年。
- 當代譯本 - 在曠野大約有四十年之久,上帝一直容忍 他們。
- 聖經新譯本 - 又在曠野容忍(“容忍”有些抄本作“養育”)他們,約有四十年之久;
- 呂振中譯本 - 在野地裏背負他們的無狀 ,約有四十年的工夫。
- 中文標準譯本 - 在曠野,神容忍了他們約有四十年之久。
- 現代標點和合本 - 又在曠野容忍 他們約有四十年。
- 文理和合譯本 - 在曠野包容之、約四十年、
- 文理委辦譯本 - 在曠野四十年包容之、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 在曠野撫養之、約四十年、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 在曠野中予以優容者凡四十載、
- Nueva Versión Internacional - y soportó su mal proceder en el desierto unos cuarenta años.
- 현대인의 성경 - 그리고 하나님은 광야에서 40년 동안 그 들을 돌봐 주셨으며
- Новый Русский Перевод - Сорок лет Он терпел их в пустыне.
- Восточный перевод - Сорок лет Он терпел их в пустыне.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Сорок лет Он терпел их в пустыне.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Сорок лет Он терпел их в пустыне.
- La Bible du Semeur 2015 - Pendant quarante ans environ, il l’a supporté dans le désert.
- リビングバイブル - 彼らが荒野をさまよい歩いた四十年の間も、ずっと養い続けてくださいました。
- Nestle Aland 28 - καὶ ὡς τεσσερακονταετῆ χρόνον ἐτροποφόρησεν αὐτοὺς ἐν τῇ ἐρήμῳ
- unfoldingWord® Greek New Testament - καί ὡς τεσσερακονταετῆ χρόνον ἐτροποφόρησεν αὐτοὺς ἐν τῇ ἐρήμῳ,
- Nova Versão Internacional - e os aturou no deserto durante cerca de quarenta anos.
- Hoffnung für alle - Vierzig Jahre lang ertrug er sie auf ihrem Weg durch die Wüste.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Suốt bốn mươi năm, Ngài nhẫn nại chịu đựng họ giữa hoang mạc.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - พระองค์ทรงอดทนต่อความประพฤติของเหล่าบรรพบุรุษ เป็นเวลาสี่สิบปีในถิ่นกันดาร
交叉引用
- เนหะมีย์ 9:16 - แต่พวกเขาและบรรพบุรุษของเราต่างยโสและดื้อด้าน และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์
- เนหะมีย์ 9:17 - พวกเขาไม่ยอมฟัง และไม่ระลึกถึงสิ่งอัศจรรย์ที่พระองค์กระทำในหมู่พวกเขา แต่หัวดื้อและแต่งตั้งหัวหน้าเพื่อให้นำพวกเขากลับไปเป็นทาสในอียิปต์ แต่พระองค์เป็นพระเจ้าพร้อมจะยกโทษ พระองค์มีพระคุณและความสงสาร ไม่โกรธง่าย เปี่ยมด้วยความรักอันมั่นคง และไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขา
- เนหะมีย์ 9:18 - แม้เวลาที่พวกเขาได้หล่อรูปลูกโคทองคำ และพูดว่า ‘นี่คือพระเจ้าของพวกเจ้า ผู้นำเจ้าออกมาจากอียิปต์’ และก็ได้พูดหมิ่นประมาทพระองค์อย่างร้ายแรง
- เนหะมีย์ 9:19 - พระองค์มีความเมตตายิ่งนัก และไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขาในถิ่นทุรกันดาร เมฆก้อนมหึมาดั่งเสาหลักนำทางล่วงหน้าพวกเขาในตอนกลางวันไม่ได้ห่างไปจากพวกเขา เพลิงไฟขนาดมหึมาดั่งเสาหลักในตอนกลางคืน เพื่อส่องความสว่างช่วยให้พวกเขาเดินตามทางที่ควรจะไป
- เนหะมีย์ 9:20 - พระองค์ประทานพระวิญญาณประเสริฐของพระองค์เพื่อสอนพวกเขา และไม่ขยักมานาของพระองค์จากปากของพวกเขา และให้น้ำแก่พวกเขาเมื่อกระหาย
- เนหะมีย์ 9:21 - พระองค์ช่วยพวกเขาให้อยู่รอดในถิ่นทุรกันดาร พวกเขาไม่ขาดเหลือสิ่งใด เสื้อผ้าที่พวกเขาสวมใส่ไม่ฉีกขาด และเท้าก็ไม่บวม
- กันดารวิถี 14:22 - ชายคนใดที่เคยเห็นบารมีและปรากฏการณ์อัศจรรย์ที่เรากระทำในอียิปต์และในถิ่นทุรกันดาร แต่เขาก็ยังลองดีกับเราถึง 10 ครั้งและไม่ได้ฟังเสียงของเรา
- กันดารวิถี 14:33 - ลูกหลานของพวกเจ้าจะเป็นผู้เลี้ยงดูฝูงแกะในถิ่นทุรกันดารเป็นเวลา 40 ปี และพวกเจ้าจะได้รับความทุกข์ทรมานเพราะความไม่เชื่อ จนกระทั่งคนสุดท้ายของพวกเจ้าจะทอดร่างนอนตายในถิ่นทุรกันดาร
- กันดารวิถี 14:34 - พวกเจ้าจะได้รับความทุกข์ทรมานเนื่องจากบาปของเจ้าเป็นเวลา 40 ปีตามจำนวน 40 วันที่เจ้าได้สอดแนมดินแดนนั้น คือ 1 ปีต่อ 1 วัน แล้วพวกเจ้าจะรู้ว่าเราไม่พอใจเพียงไร
- กิจการของอัครทูต 7:39 - บรรพบุรุษของเราไม่ยอมเชื่อฟังท่าน นอกจากจะไม่ยอมรับท่านแล้ว ใจของเขาเหล่านั้นก็หวนระลึกถึงประเทศอียิปต์อีกด้วย
- กิจการของอัครทูต 7:40 - พวกเขาบอกอาโรนว่า ‘ช่วยสร้างบรรดาเทพเจ้าให้เป็นผู้นำหน้าพวกเราไปเถิด ไม่รู้ว่าโมเสสคนที่ได้นำเราออกมาจากประเทศอียิปต์เป็นอะไรไปแล้ว’
- กิจการของอัครทูต 7:41 - ขณะนั้นพวกเขาได้ปั้นรูปลูกโคขึ้น และนำเครื่องสักการะมาถวาย ทั้งจัดงานฉลองเพื่อแสดงความเคารพต่อสิ่งที่ทำขึ้นด้วยมือของพวกเขาเอง
- กิจการของอัครทูต 7:42 - พระเจ้าจึงหันจากไปโดยปล่อยให้เขาไปนมัสการหมู่ดาวในท้องฟ้า ดังที่ปรากฏเป็นบันทึกในหมวดผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าว่า ‘โอ พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย เจ้านำเครื่องสักการะและของถวาย มาเซ่นสรวงเรา 40 ปีในถิ่นทุรกันดารหรือ
- กิจการของอัครทูต 7:43 - พวกเจ้าได้ยกกระโจมของเทพเจ้าโมเลค และดาวของเทพเจ้าเรฟานของเจ้า รูปเคารพต่างๆ ที่เจ้าสร้างขึ้นเพื่อนมัสการ ฉะนั้นเราจะให้เจ้าถูกเนรเทศออกไปจนเลยเขตบาบิโลน’
- สดุดี 95:8 - “ก็อย่าทำใจของเจ้าให้แข็งกระด้างเหมือนกับที่ได้ทำในเมรีบาห์ เหมือนกับวันที่ได้ทำที่มัสสาห์ ในถิ่นทุรกันดาร
- สดุดี 95:9 - เวลาบรรพบุรุษของเจ้าได้ลองดีกับเราโดยการทดสอบเรา แม้ว่าเขาได้เห็นสิ่งที่เรากระทำแล้วก็ตาม
- สดุดี 95:10 - เราขยะแขยงชนยุคนั้นอยู่ 40 ปี เราจึงกล่าวว่า ‘จิตใจของเขาเหล่านั้นหลงผิดเสมอ และเขาไม่รู้วิถีทางของเรา’
- สดุดี 95:11 - เราจึงประกาศให้คำปฏิญาณด้วยความกริ้วว่า ‘พวกเขาจะไม่มีวันเข้าสู่ที่พำนักของเรา’”
- ฮีบรู 3:7 - ตามที่พระวิญญาณบริสุทธิ์กล่าวคือ “วันนี้ ถ้าพวกเจ้าได้ยินเสียงของพระองค์
- ฮีบรู 3:8 - ก็อย่าทำใจของเจ้าให้แข็งกระด้าง เหมือนกับที่ได้ยั่วโทสะเรา ในครั้งที่ถูกทดสอบใจในถิ่นทุรกันดาร
- ฮีบรู 3:9 - เป็นที่ซึ่งบรรพบุรุษของเจ้าได้ลองดีกับเราโดยการทดสอบเรา ทั้งที่ได้เห็นแล้วว่าใน 40 ปี เรากระทำอะไรบ้าง
- ฮีบรู 3:10 - ฉะนั้นเราจึงโกรธคนในสมัยนั้น แล้วเราจึงกล่าวว่า ‘จิตใจของเขาเหล่านั้นหลงผิดเสมอ และเขาไม่รู้วิถีทางของเรา’
- อาโมส 5:25 - โอ พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย พวกเจ้านำเครื่องสักการะและของถวายมาให้เราในช่วงเวลา 40 ปีในถิ่นทุรกันดารอย่างนั้นหรือ
- อาโมส 5:26 - พวกเจ้าได้ยกหามเพิงของกษัตริย์ของเจ้า และฐานรูปเคารพของเจ้า และดาวเทพเจ้าที่เจ้าทำขึ้นเอง
- สดุดี 106:13 - ไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาก็ลืมสิ่งที่พระองค์กระทำ และไม่รอฟังคำปรึกษาของพระองค์
- สดุดี 106:14 - พวกเขาเกิดความอยากยิ่งนักขณะที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร และลองดีกับพระเจ้าในที่ร้างอันแร้นแค้น
- สดุดี 106:15 - พระองค์ให้สิ่งที่พวกเขาขอ แต่ก็ให้โรคระบาดอันร้ายแรงเกิดขึ้นกับพวกเขาด้วย
- สดุดี 106:16 - พวกเขาอิจฉาโมเสสในค่ายที่พัก และอิจฉาอาโรนคนบริสุทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า
- สดุดี 106:17 - แผ่นดินแยกออกจากกันและกลืนดาธาน และฝังอะบีรามกับพรรคพวกจนมิด
- สดุดี 106:18 - ไฟเผาผลาญคนทั้งกลุ่ม เปลวไฟเผาไหม้คนชั่วเหล่านั้น
- สดุดี 106:19 - พวกเขาปั้นรูปลูกโคขึ้นที่โฮเรบ และบูชารูปเคารพที่ได้หลอมไว้
- สดุดี 106:20 - พวกเขาเอาพระบารมีของพระเจ้า แลกกับรูปปั้นของโคที่กินหญ้า
- สดุดี 106:21 - พวกเขาลืมพระเจ้าผู้ช่วยให้รอดพ้นของเขา ผู้กระทำสิ่งอันยิ่งใหญ่ในอียิปต์
- สดุดี 106:22 - สิ่งมหัศจรรย์ในดินแดนของฮาม สิ่งอันน่าเกรงขามที่ทะเลแดง
- สดุดี 106:23 - แล้วพระองค์กล่าวว่า พระองค์จะทำลายพวกเขา แต่โมเสสผู้ที่พระองค์เลือกไว้ ไปยืนทัดทานพระองค์ เพื่อให้พระองค์หันจากความเกรี้ยวโกรธและไม่ทำลายพวกเขา
- สดุดี 106:24 - ต่อมาภายหลัง พวกเขาก็ไม่กล้าเข้าไปในแผ่นดินอันน่าอยู่ และไม่เชื่อในสัญญาของพระองค์
- สดุดี 106:25 - พวกเขาต่างบ่นพึมพำอยู่ในกระโจมที่พักของตน และไม่เชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า
- สดุดี 106:26 - ฉะนั้น พระองค์ยกมือขึ้นปฏิญาณกับพวกเขาว่า พระองค์จะปล่อยให้พวกเขาตายในถิ่นทุรกันดาร
- สดุดี 106:27 - และจะทำให้ผู้สืบเชื้อสายของพวกเขากระจัดกระจายไปในบรรดาประชาชาติ ให้กระจัดกระจายไปทั่วแผ่นดิน
- สดุดี 106:28 - พวกเขาเทียมแอกกับเทพเจ้าบาอัลแห่งเปโอร์ และกินของที่นำไปบูชาสิ่งไม่มีชีวิต
- สดุดี 106:29 - การกระทำของพวกเขาถือเป็นการยั่วโทสะ และโรคระบาดเกิดขึ้นท่ามกลางพวกเขา
- อพยพ 16:2 - ชาวอิสราเอลทั้งมวลก็บ่นไม่พอใจต่อว่าโมเสสและอาโรนในถิ่นทุรกันดาร
- สดุดี 78:17 - ถึงกระนั้นพวกเขายังกระทำบาปต่อพระองค์ไว้มาก เขาลองดีกับองค์ผู้สูงสุดในถิ่นทุรกันดาร
- สดุดี 78:18 - พวกเขาตั้งใจลองดีกับพระเจ้า โดยเรียกร้องอาหารที่เขานึกอยาก
- สดุดี 78:19 - พวกเขาพูดเหยียดหยามพระเจ้าว่า “พระเจ้าจะหาสำรับในถิ่นทุรกันดารมาให้ได้ไหม
- สดุดี 78:20 - พระองค์กระทบหินเพื่อให้น้ำพวยพุ่งขึ้น และลำธารไหลล้น พระองค์ให้ขนมปัง หรือจัดหาเนื้อสัตว์เพื่อชนชาติของพระองค์ได้ด้วยหรือ”
- สดุดี 78:21 - ครั้นพระผู้เป็นเจ้าได้ยินก็โกรธเกรี้ยว ความกริ้วของพระองค์ที่มีต่อยาโคบปะทุขึ้นดั่งเพลิง ลุกโชนขึ้นต่ออิสราเอล
- สดุดี 78:22 - เพราะพวกเขาไม่มีความเชื่อในพระเจ้า และไม่วางใจในอานุภาพของพระองค์ที่จะช่วยเขาให้รอดพ้นได้
- สดุดี 78:23 - ถึงกระนั้นพระองค์ยังบัญชาหมู่เมฆเบื้องบน และเปิดประตูท้องฟ้า
- สดุดี 78:24 - แล้วพระองค์โปรดให้มานาโปรยลงมาให้พวกเขารับประทาน พระองค์ให้เมล็ดข้าวแห่งสวรรค์แก่พวกเขา
- สดุดี 78:25 - แต่ละคนได้รับประทานขนมปังของทูตสวรรค์ พระองค์ให้อาหารแก่พวกเขาอย่างอุดมสมบูรณ์
- สดุดี 78:26 - พระองค์ทำให้ลมตะวันออกพัดในฟ้าสวรรค์ และพระองค์นำลมใต้ออกไปด้วยพละกำลังของพระองค์
- สดุดี 78:27 - พระองค์โปรดให้เนื้อสัตว์เทลงมาเพื่อพวกเขามากมายราวกับฝุ่นผง เป็นตัวนกจำนวนมากราวกับเม็ดทรายในทะเล
- สดุดี 78:28 - พระองค์ทำให้เนื้อสัตว์ตกอยู่ท่ามกลางค่ายของพวกเขา รอบๆ บริเวณที่เขาอาศัยอยู่
- สดุดี 78:29 - แล้วพวกเขารับประทานกันจนอิ่มหนำ เพราะพระองค์ให้สิ่งที่พวกเขาอยาก
- สดุดี 78:30 - แต่ยังไม่ทันหายอยาก คือในขณะที่อาหารยังอยู่ในปากพวกเขา
- สดุดี 78:31 - ความกริ้วของพระเจ้าก็พลุ่งขึ้นต่อพวกเขา แล้วพระองค์ฆ่าชายฉกรรจ์ที่สุดของพวกเขา พระองค์ทำให้บรรดาชายหนุ่มที่เก่งกาจของอิสราเอลสิ้นชีวิตลง
- สดุดี 78:32 - แม้กระนั้นพวกเขายังจะทำบาปอีก แม้พระองค์ได้ทำให้เห็นสิ่งอัศจรรย์ต่างๆ แล้ว พวกเขาก็ยังไม่เชื่อ
- สดุดี 78:33 - ดังนั้น พระองค์ทำให้วันเวลาของเขาสิ้นสุดลงดั่งลมหายใจ และปีของเขามีแต่ความพินาศ
- สดุดี 78:34 - ในยามที่พระองค์ฆ่าพวกเขา พวกเขาก็แสวงหาพระองค์ กลับใจและหันเข้าหาพระเจ้าอย่างจริงจัง
- สดุดี 78:35 - และจำได้ว่า พระเจ้าเป็นดั่งศิลาของพวกเขา พระเจ้าผู้สูงสุดเป็นผู้ไถ่บาปของพวกเขา
- สดุดี 78:36 - แต่กลับลวงพระองค์ด้วยคำพูดจากปาก และพูดคำเท็จด้วยลิ้นของพวกเขา
- สดุดี 78:37 - ใจของพวกเขาไม่มั่นคงต่อพระองค์ และไม่ภักดีต่อพันธสัญญาของพระองค์
- สดุดี 78:38 - แต่พระองค์ยังคงสงสาร พระองค์ยกโทษความชั่วทั้งปวง และไม่ทำลายพวกเขา บ่อยครั้งพระองค์ยับยั้งความกริ้วไว้ และไม่ปล่อยความกริ้วของพระองค์ให้พลุ่งขึ้น
- สดุดี 78:39 - พระองค์ได้ระลึกว่าพวกเขาเป็นเพียงเนื้อหนัง เป็นลมที่พัดผ่านไป แล้วไม่หวนกลับมาอีก
- สดุดี 78:40 - บ่อยครั้งเพียงไรที่พวกเขาดื้อดึงต่อพระองค์ในถิ่นทุรกันดาร และทำให้พระองค์เศร้าใจในที่ร้างอันแร้นแค้น
- สดุดี 78:41 - พวกเขาลองดีกับพระเจ้าซ้ำแล้วซ้ำอีก และยั่วโทสะองค์ผู้บริสุทธิ์ของอิสราเอล
- สดุดี 78:42 - เขาไม่ได้จำใส่ใจถึงอานุภาพของพระองค์ และวันที่พระองค์ช่วยพวกเขาให้รอดพ้นจากศัตรู
- 1 โครินธ์ 10:1 - พี่น้องเอ๋ย ข้าพเจ้าอยากให้ท่านทราบว่า บรรพบุรุษของเรามีก้อนเมฆนั้นคลุมไป และทุกคนก็สามารถข้ามผ่านทางทะเลได้
- 1 โครินธ์ 10:2 - ทุกคนได้ผูกพันในโมเสส ทั้งในบัพติศมาในก้อนเมฆและในท้องทะเล
- 1 โครินธ์ 10:3 - ทุกคนได้รับประทานอาหารฝ่ายวิญญาณเหมือนกันหมด
- 1 โครินธ์ 10:4 - และดื่มสิ่งที่เป็นฝ่ายวิญญาณเหมือนกันหมด เพราะว่าทุกคนดื่มจากศิลาฝ่ายวิญญาณซึ่งร่วมเดินทางไปกับพวกเขา ศิลานั้นคือพระคริสต์
- 1 โครินธ์ 10:5 - ถึงกระนั้นก็ดี พระเจ้าไม่พอใจกับคนส่วนใหญ่ และพวกเขาก็ล้มตายกันในถิ่นทุรกันดาร
- 1 โครินธ์ 10:6 - เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น เพื่อเป็นตัวอย่างไม่ให้เราฝักใฝ่ในการทำชั่วเหมือนที่เขาเหล่านั้นกระทำไป
- 1 โครินธ์ 10:7 - อย่าบูชารูปเคารพอย่างที่บางคนบูชาในสมัยนั้น เพราะมีบันทึกไว้ว่า “ผู้คนนั่งลงดื่มกินแล้วลุกขึ้นเฮฮากัน”
- 1 โครินธ์ 10:8 - เราไม่ควรประพฤติผิดทางเพศอย่างที่บางคนในสมัยนั้นประพฤติกัน และในวันเดียวเท่านั้นที่คน 23,000 คนได้ตายไป
- 1 โครินธ์ 10:9 - เราไม่ควรลองดีกับพระผู้เป็นเจ้า อย่างที่บางคนได้กระทำและถูกงูกัดตาย
- 1 โครินธ์ 10:10 - อย่าพร่ำบ่นอย่างที่บางคนได้พร่ำบ่น และถูกกำจัดชีวิตโดยทูตแห่งความตาย
- อพยพ 16:35 - ชาวอิสราเอลรับประทานมานาเป็นเวลา 40 ปี จนกระทั่งเคลื่อนย้ายมาถึงดินแดนที่จะตั้งรกรากอยู่ได้ พวกเขารับประทานมานาจนเดินทางมาถึงชายแดนของดินแดนคานาอัน
- เอเสเคียล 20:10 - ดังนั้นเรานำพวกเขาออกจากแผ่นดินอียิปต์ และพาไปยังถิ่นทุรกันดาร
- เอเสเคียล 20:11 - เราให้กฎเกณฑ์และคำบัญชาแก่พวกเขา และให้พวกเขารู้ด้วยว่า ถ้าผู้ใดกระทำตาม เขาจะมีชีวิตอยู่
- เอเสเคียล 20:12 - และยิ่งกว่านั้น เราให้พวกเขามีวันสะบาโต เป็นเครื่องเตือนใจระหว่างเรากับพวกเขา เพื่อจะได้รู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้าที่ทำให้พวกเขาบริสุทธิ์
- เอเสเคียล 20:13 - แต่พงศ์พันธุ์อิสราเอลขัดขืนเราในถิ่นทุรกันดาร พวกเขาไม่ได้ดำเนินชีวิตตามกฎเกณฑ์ของเรา และไม่ยอมรับคำบัญชาของเรา ซึ่งถ้าผู้ใดกระทำตาม เขาจะมีชีวิตอยู่ พวกเขาดูหมิ่นวันสะบาโตของเรายิ่งนัก เราจึงกล่าวว่า เราจะกระหน่ำการลงโทษของเราลงบนพวกเขาในถิ่นทุรกันดารให้พินาศเสีย
- เอเสเคียล 20:14 - แต่เพื่อนามของเรา เรากระทำเพื่อไม่ให้เป็นที่ดูหมิ่นในสายตาของบรรดาประชาชาติ เราทำให้พวกเขาเห็นว่า เรานำพวกเขาออกมา
- เอเสเคียล 20:15 - และยิ่งกว่านั้น เราปฏิญาณกับพวกเขาในถิ่นทุรกันดารว่า เราจะไม่นำพวกเขาเข้าไปในดินแดนที่เราได้มอบให้แก่พวกเขา ดินแดนอันอุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้ง เป็นดินแดนอันงดงามที่สุด
- เอเสเคียล 20:16 - เพราะพวกเขาไม่ยอมรับคำบัญชาของเรา และไม่ดำเนินชีวิตตามกฎเกณฑ์ของเรา และดูหมิ่นวันสะบาโตของเรา เนื่องจากได้มอบใจให้กับรูปเคารพเสียแล้ว
- เอเสเคียล 20:17 - ถึงกระนั้น เราก็ยังมองดูพวกเขาด้วยความสงสาร และไม่ได้กำจัดหรือทำให้พวกเขาสิ้นไปในถิ่นทุรกันดาร
- เฉลยธรรมบัญญัติ 1:31 - และท่านเห็นแล้วว่าพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านอุ้มชูพวกท่านอย่างไรในถิ่นทุรกันดาร เปรียบดังพ่ออุ้มลูกของตน และท่านก็ผ่านมาได้ตลอดรอดฝั่งจนถึงที่นี่’
- ฮีบรู 3:16 - ใครล่ะที่ได้ยินแล้วยั่วโทสะพระองค์ ไม่ใช่ทุกคนที่โมเสสได้นำออกจากประเทศอียิปต์หรือ
- ฮีบรู 3:17 - และพระองค์โกรธใครเป็นเวลา 40 ปีล่ะ ไม่ใช่พวกที่ทำบาปแล้วได้ล้มตายลงในถิ่นทุรกันดารหรือ
- ฮีบรู 3:18 - พระเจ้าประกาศให้คำปฏิญาณกับใครว่า พวกเขาจะไม่มีวันเข้าสู่ที่พำนักของพระองค์ ถ้าไม่ใช่กับคนที่ขาดการเชื่อฟัง
- ฮีบรู 3:19 - เราจึงเห็นว่าเขาเหล่านั้นไม่สามารถเข้าไปได้ เพราะความไม่เชื่อของเขา
- เฉลยธรรมบัญญัติ 9:21 - แล้วเราก็เผาไฟรูปลูกโคที่พวกท่านสร้างขึ้นมาซึ่งเป็นบาปยิ่งนัก แล้วทุบให้แตก บดให้ละเอียดเป็นผุยผง เสร็จแล้วก็ปาผงลงในธารน้ำที่ไหลมาจากภูเขา
- เฉลยธรรมบัญญัติ 9:22 - พวกท่านยั่วโทสะพระผู้เป็นเจ้าที่ทาเบราห์ ที่มัสสาห์ และที่ขิบโรทหัทธาอาวาห์
- เฉลยธรรมบัญญัติ 9:23 - เมื่อพระผู้เป็นเจ้าให้พวกท่านไปจากคาเดชบาร์เนียโดยกล่าวว่า ‘จงขึ้นไปยึดครองแผ่นดินที่เรามอบให้พวกเจ้าแล้ว’ แต่แล้วท่านก็ขัดขืนต่อคำบัญชาของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน พวกท่านไม่ไว้ใจและไม่เชื่อฟังพระองค์
- เฉลยธรรมบัญญัติ 9:24 - ตั้งแต่วันที่เรารู้จักพวกท่าน พวกท่านก็ขัดขืนพระผู้เป็นเจ้าเสมอมา
- เฉลยธรรมบัญญัติ 9:7 - จงจำไว้ และอย่าลืมว่าในถิ่นทุรกันดาร ท่านยั่วโทสะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน นับจากวันที่ท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์ จนกระทั่งพวกท่านมาถึงที่แห่งนี้ ท่านก็ได้ขัดขืนพระผู้เป็นเจ้าเรื่อยมา
- กิจการของอัครทูต 7:36 - โมเสสได้นำผู้คนออกไปจากประเทศอียิปต์ และกระทำสิ่งมหัศจรรย์ รวมทั้งปรากฏการณ์อัศจรรย์ในประเทศอียิปต์ ที่ทะเลแดงและในถิ่นทุรกันดารเป็นเวลา 40 ปี