逐节对照
- Thai KJV - พระองค์ได้ทรงอดทนต่อความประพฤติของเขาในถิ่นทุรกันดารประมาณสี่สิบปี
- 新标点和合本 - 又在旷野容忍(或作“抚养”)他们,约有四十年。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 他在旷野容忍 他们,约有四十年。
- 和合本2010(神版-简体) - 他在旷野容忍 他们,约有四十年。
- 当代译本 - 在旷野大约有四十年之久,上帝一直容忍 他们。
- 圣经新译本 - 又在旷野容忍(“容忍”有些抄本作“养育”)他们,约有四十年之久;
- 中文标准译本 - 在旷野,神容忍了他们约有四十年之久。
- 现代标点和合本 - 又在旷野容忍 他们约有四十年。
- 和合本(拼音版) - 又在旷野容忍他们约有四十年 。
- New International Version - for about forty years he endured their conduct in the wilderness;
- New International Reader's Version - He put up with their behavior for about 40 years in the desert.
- English Standard Version - And for about forty years he put up with them in the wilderness.
- New Living Translation - He put up with them through forty years of wandering in the wilderness.
- Christian Standard Bible - And for about forty years he put up with them in the wilderness;
- New American Standard Bible - For a period of about forty years He put up with them in the wilderness.
- New King James Version - Now for a time of about forty years He put up with their ways in the wilderness.
- Amplified Bible - For a period of about forty years He put up with their behavior in the wilderness.
- American Standard Version - And for about the time of forty years as a nursing-father bare he them in the wilderness.
- King James Version - And about the time of forty years suffered he their manners in the wilderness.
- New English Translation - For a period of about forty years he put up with them in the wilderness.
- World English Bible - For a period of about forty years he put up with them in the wilderness.
- 新標點和合本 - 又在曠野容忍(或譯:撫養)他們,約有四十年。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 他在曠野容忍 他們,約有四十年。
- 和合本2010(神版-繁體) - 他在曠野容忍 他們,約有四十年。
- 當代譯本 - 在曠野大約有四十年之久,上帝一直容忍 他們。
- 聖經新譯本 - 又在曠野容忍(“容忍”有些抄本作“養育”)他們,約有四十年之久;
- 呂振中譯本 - 在野地裏背負他們的無狀 ,約有四十年的工夫。
- 中文標準譯本 - 在曠野,神容忍了他們約有四十年之久。
- 現代標點和合本 - 又在曠野容忍 他們約有四十年。
- 文理和合譯本 - 在曠野包容之、約四十年、
- 文理委辦譯本 - 在曠野四十年包容之、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 在曠野撫養之、約四十年、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 在曠野中予以優容者凡四十載、
- Nueva Versión Internacional - y soportó su mal proceder en el desierto unos cuarenta años.
- 현대인의 성경 - 그리고 하나님은 광야에서 40년 동안 그 들을 돌봐 주셨으며
- Новый Русский Перевод - Сорок лет Он терпел их в пустыне.
- Восточный перевод - Сорок лет Он терпел их в пустыне.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Сорок лет Он терпел их в пустыне.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Сорок лет Он терпел их в пустыне.
- La Bible du Semeur 2015 - Pendant quarante ans environ, il l’a supporté dans le désert.
- リビングバイブル - 彼らが荒野をさまよい歩いた四十年の間も、ずっと養い続けてくださいました。
- Nestle Aland 28 - καὶ ὡς τεσσερακονταετῆ χρόνον ἐτροποφόρησεν αὐτοὺς ἐν τῇ ἐρήμῳ
- unfoldingWord® Greek New Testament - καί ὡς τεσσερακονταετῆ χρόνον ἐτροποφόρησεν αὐτοὺς ἐν τῇ ἐρήμῳ,
- Nova Versão Internacional - e os aturou no deserto durante cerca de quarenta anos.
- Hoffnung für alle - Vierzig Jahre lang ertrug er sie auf ihrem Weg durch die Wüste.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Suốt bốn mươi năm, Ngài nhẫn nại chịu đựng họ giữa hoang mạc.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - พระองค์ทรงอดทนต่อความประพฤติของเหล่าบรรพบุรุษ เป็นเวลาสี่สิบปีในถิ่นกันดาร
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - พระองค์อดกลั้นต่อความประพฤติของพวกเขาในถิ่นทุรกันดารเป็นเวลาประมาณ 40 ปี
交叉引用
- เนหะมีย์ 9:16 - แต่เขาทั้งหลาย คือบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายได้ประพฤติอย่างหยิ่งยโส และแข็งคอของเขาเสีย มิได้เชื่อฟังพระบัญญัติของพระองค์
- เนหะมีย์ 9:17 - เขาทั้งหลายปฏิเสธไม่เชื่อฟัง และไม่เอาใจใส่ในการมหัศจรรย์ซึ่งพระองค์ทรงประกอบขึ้นท่ามกลางเขา แต่เขาแข็งคอของเขา และในการกบฏนั้นได้แต่งตั้งหัวหน้าเพื่อจะกลับไปสู่ความเป็นทาสเขา แต่พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าพร้อมที่จะทรงให้อภัย มีพระทัยเมตตาและกรุณา ทรงพระพิโรธช้า และทรงอุดมด้วยความเมตตา และมิได้ทรงละทิ้งเขาทั้งหลาย
- เนหะมีย์ 9:18 - แม้ว่าเขาทั้งหลายได้สร้างรูปวัวหล่อไว้สำหรับตัวและกล่าวว่า ‘นี่คือพระเจ้าของเจ้า ผู้ทรงนำเจ้าขึ้นมาจากอียิปต์’ และได้กระทำการหมิ่นประมาทอย่างใหญ่หลวง
- เนหะมีย์ 9:19 - ด้วยพระกรุณาซับซ้อนของพระองค์ พระองค์ก็มิได้ทรงละทิ้งเขาในถิ่นทุรกันดาร เสาเมฆซึ่งนำเขาในกลางวันมิได้พรากจากเขาไป หรือเสาเพลิงในกลางคืนซึ่งให้แสงแก่เขาตามทางซึ่งเขาควรจะไปก็มิได้ขาดไป
- เนหะมีย์ 9:20 - พระองค์ประทานพระวิญญาณอันประเสริฐให้สั่งสอนเขา และมิได้ทรงยับยั้งมานาของพระองค์เสียจากปากของเขาทั้งหลาย และประทานน้ำแก้กระหายของเขา
- เนหะมีย์ 9:21 - เออ พระองค์ทรงชุบเลี้ยงเขาทั้งหลายในถิ่นทุรกันดารสี่สิบปี และเขามิได้ขาดสิ่งใดเลย เสื้อผ้าของเขาไม่ขาดวิ่น และเท้าของเขามิได้บวม
- กันดารวิถี 14:22 - คนทั้งหลายที่ได้เห็นสง่าราศีของเรา และได้เห็นการอัศจรรย์ต่างๆที่เราได้กระทำในอียิปต์และในถิ่นทุรกันดาร และยังได้ทดลองเรามาตั้งสิบครั้ง และยังมิได้ฟังเสียงของเรา
- กันดารวิถี 14:33 - ลูกหลานของเจ้าทั้งหลายจะพเนจรอยู่ในถิ่นทุรกันดารถึงสี่สิบปี เขาจะทนโทษการเล่นชู้ของเจ้า จนกว่าจำนวนซากศพของเจ้าจะอยู่ในถิ่นทุรกันดารนี้ครบ
- กันดารวิถี 14:34 - ตามจำนวนวันที่เจ้าเข้าไปสอดแนมในแผ่นดินนั้นซึ่งมีสี่สิบวัน วันหนึ่งจะเป็นปีหนึ่ง เจ้าทั้งหลายจะรับโทษความชั่วช้าของเจ้าอยู่สี่สิบปี เจ้าทั้งหลายจะทราบถึงการฝ่าฝืนคำสัญญาของเรา
- กิจการ 7:39 - บรรพบุรุษของเราไม่ยอมเชื่อฟังโมเสสผู้นี้ แต่ได้ผลักไสท่านให้ไปจากเขา ด้วยมีใจปรารถนาจะกลับไปยังแผ่นดินอียิปต์
- กิจการ 7:40 - จึงกล่าวแก่อาโรนว่า ‘ขอสร้างพระให้แก่พวกข้าพเจ้า ซึ่งจะนำพวกข้าพเจ้าไป ด้วยว่าโมเสสคนนี้ที่ได้นำข้าพเจ้าออกมาจากประเทศอียิปต์เป็นอะไรไปเสียแล้ว ข้าพเจ้าไม่ทราบ’
- กิจการ 7:41 - ในคราวนั้นเขาทั้งหลายได้ทำรูปโคหนุ่ม และได้นำเครื่องสัตวบูชามาถวายแก่รูปนั้น และมีใจยินดีในสิ่งซึ่งมือของตนเองได้ทำขึ้น
- กิจการ 7:42 - แต่พระเจ้าทรงหันพระพักตร์ไปเสียและปล่อยให้เขานมัสการหมู่ดาวในท้องฟ้า ตามที่มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์แห่งศาสดาพยากรณ์ว่า ‘โอ วงศ์วานอิสราเอลเอ๋ย เจ้าได้ฆ่าสัตว์บูชาเราและถวายเครื่องบูชาให้แก่เราในถิ่นทุรกันดารถึงสี่สิบปีหรือ
- กิจการ 7:43 - แล้วเจ้าทั้งหลายได้หามพลับพลาของพระโมเลค และได้เอาดาวพระเรฟาน รูปพระที่เจ้าได้กระทำขึ้นเพื่อกราบนมัสการรูปนั้นต่างหาก เราจึงจะกวาดเจ้าทั้งหลายให้ไปอยู่พ้นเมืองบาบิโลนอีก’
- เพลงสดุดี 95:8 - อย่าให้จิตใจของท่านแข็งกระด้างไปอย่างในครั้งกบฏนั้น เหมือนอย่างในวันที่ถูกทดลองในถิ่นทุรกันดาร
- เพลงสดุดี 95:9 - เมื่อบรรพบุรุษของท่านทดลองเราโดยเอาเราเข้าพิสูจน์ และได้เห็นกิจการของเรา
- เพลงสดุดี 95:10 - เราจึงเคืองคนชั่วอายุนั้นอยู่สี่สิบปีและว่า “เขาเป็นชนชาติที่มีใจมักหลงผิด เขาไม่รู้จักทางทั้งหลายของเรา”
- เพลงสดุดี 95:11 - เพราะฉะนั้นเราจึงปฏิญาณด้วยความพิโรธของเราว่า “เขาจะไม่ได้เข้าสู่ที่สงบสุขของเรา”
- ฮีบรู 3:7 - เหตุฉะนั้น (ตามที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ตรัสว่า ‘วันนี้ ถ้าท่านทั้งหลายจะฟังพระสุรเสียงของพระองค์
- ฮีบรู 3:8 - อย่าให้จิตใจของท่านแข็งกระด้างไปอย่างในครั้งกบฏนั้น เหมือนอย่างในวันที่ถูกทดลองในถิ่นทุรกันดาร
- ฮีบรู 3:9 - เมื่อบรรพบุรุษของท่านทดลองเราโดยเอาเราเข้าพิสูจน์ และได้เห็นกิจการของเราถึงสี่สิบปี
- ฮีบรู 3:10 - เพราะเหตุนั้นเราจึงเคืองคนชั่วอายุนั้น และว่า “ใจของเขาหลงผิดอยู่เสมอ เขาไม่รู้จักทางทั้งหลายของเรา”
- อาโมส 5:25 - โอ วงศ์วานอิสราเอลเอ๋ย เจ้าได้นำเครื่องบูชาและเครื่องสัตวบูชาถวายแก่เราในถิ่นทุรกันดารถึงสี่สิบปีหรือ
- อาโมส 5:26 - เจ้าทั้งหลายได้หามพลับพลาของพระโมเลคและพระชีอัน รูปเคารพของเจ้า คือดาวแห่งพระของเจ้า ซึ่งเจ้าได้ทำไว้สำหรับตัวเจ้าเอง
- เพลงสดุดี 106:13 - แต่ไม่ช้าท่านก็ลืมพระราชกิจของพระองค์เสีย ท่านไม่คอยพระดำรัสปรึกษาของพระองค์
- เพลงสดุดี 106:14 - แต่ในถิ่นทุรกันดารนั้นท่านมีความอยากอย่างรุนแรง และได้ทดลองพระเจ้าในทะเลทราย
- เพลงสดุดี 106:15 - พระองค์ทรงประทานสิ่งที่ท่านขอ แต่ทรงใช้โรคผอมแห้งมาท่ามกลางจิตใจท่าน
- เพลงสดุดี 106:16 - เมื่อคนในค่ายริษยาโมเสสและอาโรนวิสุทธิชนของพระเยโฮวาห์
- เพลงสดุดี 106:17 - พื้นแผ่นดินอ้าปากกลืนดาธานและทับคณะอาบีรัมเสีย
- เพลงสดุดี 106:18 - ไฟระเบิดในคณะของท่านและเปลวเพลิงผลาญคนชั่วเสีย
- เพลงสดุดี 106:19 - ท่านได้สร้างลูกวัวในโฮเรบและนมัสการรูปเคารพหล่อ
- เพลงสดุดี 106:20 - ท่านจึงเอาสง่าราศีของพระเจ้าแลกกับรูปของวัวที่กินหญ้า
- เพลงสดุดี 106:21 - ท่านลืมพระเจ้า พระผู้ช่วยให้รอดของท่าน ผู้ได้ทรงกระทำพระราชกิจใหญ่โตในอียิปต์
- เพลงสดุดี 106:22 - ทำการมหัศจรรย์ในแผ่นดินของฮามและสิ่งน่าคร้ามกลัวที่ทะเลแดง
- เพลงสดุดี 106:23 - เพราะฉะนั้นพระองค์ตรัสว่าจะทำลายท่านเสีย ดีแต่โมเสสผู้เลือกสรรของพระองค์ได้มายืนเฝ้าทัดทานพระองค์ เพื่อหันพระพิโรธของพระองค์เสียจากการทำลาย
- เพลงสดุดี 106:24 - แล้วท่านก็ดูถูกแผ่นดินอันร่มรื่นนั้น ท่านไม่เชื่อพระวจนะของพระองค์
- เพลงสดุดี 106:25 - ท่านบ่นอยู่ในเต็นท์ของท่าน และไม่ฟังพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์
- เพลงสดุดี 106:26 - เพราะฉะนั้นพระองค์ทรงยกพระหัตถ์ของพระองค์ปฏิญาณต่อท่าน ว่าจะทำให้ท่านล้มตายในถิ่นทุรกันดาร
- เพลงสดุดี 106:27 - และจะกระจายเชื้อสายของท่านไปท่ามกลางประชาชาติ หว่านเขาไปทั่วประเทศทั้งหลาย
- เพลงสดุดี 106:28 - แล้วท่านก็ไปติดพันอยู่กับพระบาอัลแห่งเมืองเปโอร์ และรับประทานเครื่องสัตวบูชาที่บูชาพระตาย
- เพลงสดุดี 106:29 - ท่านยั่วเย้าพระองค์ให้ทรงกริ้วด้วยการกระทำของท่าน และโรคระบาดเกิดขึ้นท่ามกลางท่าน
- อพยพ 16:2 - ชุมนุมชนชาติอิสราเอลทั้งปวงก็พากันบ่นต่อโมเสสและอาโรนในถิ่นทุรกันดาร
- เพลงสดุดี 78:17 - แต่เขายังกระทำบาปยิ่งขึ้นต่อพระองค์ ได้กบฏต่อองค์ผู้สูงสุดในที่แห้งแล้ง
- เพลงสดุดี 78:18 - เขาทดลองพระเจ้าอยู่ในใจของเขาโดยเรียกร้องอาหารที่เขาอยาก
- เพลงสดุดี 78:19 - เขาพูดปรักปรำพระเจ้าว่า “พระเจ้าจะทรงเตรียมสำรับในถิ่นทุรกันดารได้หรือ”
- เพลงสดุดี 78:20 - ดูเถิด พระองค์ทรงตีหินให้น้ำพุออกมา และลำธารก็ไหลล้น พระองค์จะประทานขนมปังด้วยได้หรือ หรือทรงจัดเนื้อให้ประชาชนของพระองค์ได้หรือ
- เพลงสดุดี 78:21 - เพราะฉะนั้น เมื่อพระเยโฮวาห์ทรงสดับแล้ว พระองค์ทรงพระพิโรธ มีไฟลุกโพลงขึ้นสู้ยาโคบ พระพิโรธของพระองค์สูงขึ้นสู้อิสราเอล
- เพลงสดุดี 78:22 - เพราะเขาไม่เชื่อพระเจ้า และไม่ไว้วางใจในความรอดของพระองค์
- เพลงสดุดี 78:23 - พระองค์ยังทรงบัญชาเมฆเบื้องบน และทรงเปิดประตูฟ้าสวรรค์
- เพลงสดุดี 78:24 - พระองค์ทรงหลั่งมานาให้เขารับประทาน และทรงประทานอาหารทิพย์ให้เขา
- เพลงสดุดี 78:25 - มนุษย์ได้กินอาหารของทูตสวรรค์ พระองค์ทรงประทานอาหารให้เขาอย่างอุดม
- เพลงสดุดี 78:26 - พระองค์ทรงกระทำให้ลมตะวันออกพัดในฟ้าสวรรค์ และทรงนำลมใต้ออกมาด้วยฤทธิ์ของพระองค์
- เพลงสดุดี 78:27 - พระองค์ทรงหลั่งเนื้อให้เขาอย่างผงคลี คือนก ดังเม็ดทรายในทะเล
- เพลงสดุดี 78:28 - พระองค์ทรงให้มันตกลงมากลางค่ายของเขา และรอบที่อาศัยของเขา
- เพลงสดุดี 78:29 - เขาได้รับประทานอิ่มดี เพราะพระองค์ประทานสิ่งที่เขาอยาก
- เพลงสดุดี 78:30 - แต่ก่อนที่เขาจะหายอยาก ขณะที่อาหารยังอยู่ในปากของเขา
- เพลงสดุดี 78:31 - พระพิโรธของพระเจ้าพลุ่งขึ้นต่อเขา และพระองค์ทรงสังหารคนฉกรรจ์ที่สุดของเขาเสีย และทรงคว่ำคนที่คัดเลือกแล้วในอิสราเอลเสีย
- เพลงสดุดี 78:32 - ถึงมีเรื่องทั้งสิ้นนี้ เขาก็ยังกระทำบาป เขามิได้เชื่อถือการมหัศจรรย์ของพระองค์
- เพลงสดุดี 78:33 - พระองค์จึงทรงกระทำให้วันของเขาหายไปดังสิ่งไร้สาระ และทรงให้ปีของเขาหายไปด้วยความยากลำบาก
- เพลงสดุดี 78:34 - เมื่อพระองค์ทรงสังหารเขา เขาแสวงหาพระองค์ เขาได้กลับมาแสวงพระเจ้าด้วยใจร้อนรน
- เพลงสดุดี 78:35 - เขาระลึกว่าพระเจ้าทรงเป็นศิลาของเขา และพระเจ้าองค์สูงสุดเป็นพระผู้ไถ่ของเขา
- เพลงสดุดี 78:36 - แต่เขายอพระองค์ด้วยปากของเขา และมุสาต่อพระองค์ด้วยลิ้นของเขา
- เพลงสดุดี 78:37 - เพราะจิตใจของเขาไม่แน่วแน่ต่อพระองค์ เขาไม่จริงจังต่อพันธสัญญาของพระองค์
- เพลงสดุดี 78:38 - ถึงกระนั้นด้วยความสังเวชพระองค์ทรงอภัยความชั่วช้าของเขา และมิได้ทรงทำลายเขา พระองค์ทรงยับยั้งพระพิโรธของพระองค์บ่อยๆ และมิได้ทรงกวนพระพิโรธของพระองค์ทั้งสิ้นให้ขึ้นมา
- เพลงสดุดี 78:39 - พระองค์ทรงระลึกว่าเขาเป็นเพียงแต่เนื้อหนัง เป็นลมที่ผ่านไปแล้วมิได้กลับมาอีก
- เพลงสดุดี 78:40 - เขายั่วพระองค์ในถิ่นทุรกันดารบ่อยสักเท่าใด และทำให้พระองค์โทมนัสในทะเลทราย
- เพลงสดุดี 78:41 - แต่เขายังได้กลับทดลองพระเจ้าอีกและได้ทำให้องค์บริสุทธิ์ของอิสราเอลเศร้าพระทัย
- เพลงสดุดี 78:42 - เขามิได้ระลึกถึงพระหัตถ์ของพระองค์ หรือวันที่พระองค์ทรงช่วยเขาให้พ้นจากคู่อริของเขา
- 1 โครินธ์ 10:1 - พี่น้องทั้งหลาย ยิ่งกว่านี้ข้าพเจ้าอยากให้ท่านทั้งหลายเข้าใจว่าบรรพบุรุษของเราทั้งสิ้นได้อยู่ใต้เมฆ และได้ผ่านทะเลไปทุกคน
- 1 โครินธ์ 10:2 - ได้รับบัพติศมาในเมฆและในทะเลเข้าส่วนกับโมเสสทุกคน
- 1 โครินธ์ 10:3 - และได้รับประทานอาหารฝ่ายจิตวิญญาณอันเดียวกันทุกคน
- 1 โครินธ์ 10:4 - และได้ดื่มน้ำฝ่ายจิตวิญญาณอันเดียวกันทุกคน เพราะว่าเขาได้ดื่มน้ำซึ่งไหลออกมาจากศิลาฝ่ายจิตวิญญาณที่ติดตามเขามา ศิลานั้นคือพระคริสต์
- 1 โครินธ์ 10:5 - แต่ถึงกระนั้นก็ดีมีคนส่วนมากในพวกนั้นที่พระเจ้าไม่ทรงพอพระทัย เพราะว่าเขาล้มตายกันเกลื่อนกลาดในถิ่นทุรกันดาร
- 1 โครินธ์ 10:6 - แล้วเหตุการณ์เหล่านี้จึงเป็นเครื่องเตือนใจพวกเรา ไม่ให้เรามีใจโลภปรารถนาสิ่งที่ชั่วเหมือนเขาเหล่านั้น
- 1 โครินธ์ 10:7 - ท่านทั้งหลายอย่านับถือรูปเคารพ เหมือนอย่างที่บางคนในพวกเขาได้กระทำ ตามที่มีเขียนไว้แล้วว่า ‘ประชาชนก็นั่งลงกินและดื่ม แล้วก็ลุกขึ้นเล่นสนุกกัน’
- 1 โครินธ์ 10:8 - อย่าให้เรากระทำล่วงประเวณี เหมือนอย่างที่บางคนในพวกเขาได้กระทำ แล้วก็ล้มลงตายในวันเดียวสองหมื่นสามพันคน
- 1 โครินธ์ 10:9 - อย่าให้เราลองดีพระคริสต์เหมือนอย่างที่บางคนในพวกเขาได้กระทำ แล้วก็ต้องพินาศด้วยงูร้าย
- 1 โครินธ์ 10:10 - ท่านทั้งหลายอย่าบ่นเหมือนอย่างที่บางคนในพวกเขาได้บ่น แล้วก็ต้องพินาศด้วยองค์เพชฌฆาต
- อพยพ 16:35 - ชนชาติอิสราเอลได้กินมานาสี่สิบปีจนเขามาถึงเมืองที่จะอาศัยอยู่ พวกเขากินมานาจนมาถึงชายแดนแผ่นดินคานาอัน
- เอเสเคียล 20:10 - ดังนั้น เราจึงนำเขาออกจากแผ่นดินอียิปต์ และนำเขาเข้ามาในถิ่นทุรกันดาร
- เอเสเคียล 20:11 - เราให้กฎเกณฑ์ของเราแก่เขา และสำแดงคำตัดสินของเราให้เขารู้ ซึ่งถ้ามนุษย์ได้รักษาไว้ก็จะดำรงชีวิตอยู่ได้
- เอเสเคียล 20:12 - ยิ่งกว่านั้นอีก เราได้ให้สะบาโตของเราแก่เขา เป็นหมายสำคัญระหว่างเราและเขาทั้งหลาย เพื่อเขาจะทราบว่าเราคือพระเยโฮวาห์ เป็นผู้กระทำให้เขาบริสุทธิ์
- เอเสเคียล 20:13 - แต่วงศ์วานอิสราเอลได้กบฏต่อเราในถิ่นทุรกันดาร เขามิได้ดำเนินตามกฎเกณฑ์ของเรา แต่ได้ดูหมิ่นคำตัดสินของเรา ซึ่งถ้ามนุษย์คนหนึ่งคนใดปฏิบัติตาม เขาก็จะดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยกฎเกณฑ์และคำตัดสินเหล่านั้น และเขาได้กระทำให้วันสะบาโตของเรามัวหมองอย่างยิ่ง เราจึงกล่าวว่า เราจะเทความเดือดดาลของเราออกเหนือเขาในถิ่นทุรกันดารเพื่อผลาญเขาเสีย
- เอเสเคียล 20:14 - แต่เราก็กระทำโดยเห็นแก่นามของเราเอง เพื่อไม่ให้ชื่อนั้นมลทินต่อหน้าประชาชาติทั้งหลาย ซึ่งเราได้นำคนอิสราเอลออกมาท่ามกลางสายตาของเขา
- เอเสเคียล 20:15 - ยิ่งกว่านั้นอีก เราได้ปฏิญาณต่อเขาในถิ่นทุรกันดารว่า เราจะไม่นำเขาเข้ามาในแผ่นดินซึ่งเราได้ให้แก่เขา เป็นแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์ เป็นแผ่นดินที่มีสง่าราศีที่สุดในแผ่นดินทั้งหลาย
- เอเสเคียล 20:16 - เพราะเขาดูหมิ่นคำตัดสินของเรา และไม่ดำเนินตามกฎเกณฑ์ของเรา และได้กระทำให้วันสะบาโตของเรามัวหมอง เพราะว่าจิตใจของเขาไปติดตามรูปเคารพของเขา
- เอเสเคียล 20:17 - ถึงกระนั้นก็ดี นัยน์ตาของเราก็ยังปรานีเขา และเรามิได้ทำลายเขา หรือกระทำให้เขาจบสิ้นลงในถิ่นทุรกันดารนั้น
- พระราชบัญญัติ 1:31 - และในถิ่นทุรกันดาร ซึ่งในที่นั้นพวกท่านได้เห็นพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงอุ้มชูพวกท่าน ดังพ่ออุ้มลูกชายของตน ตลอดทางที่ท่านได้ไปนั้น จนท่านทั้งหลายได้มาถึงที่นี่’
- ฮีบรู 3:16 - เพราะบางคน เมื่อเขาได้ยินแล้ว ก็ยังได้กบฏอยู่ แต่มิใช่ทุกคนที่โมเสสได้นำออกจากประเทศอียิปต์
- ฮีบรู 3:17 - และใครหนอที่พระองค์ได้ทรงโทมนัสตลอดสี่สิบปีนั้น ก็คนเหล่านั้นที่กระทำบาป และซากศพของเขาทิ้งอยู่ในถิ่นทุรกันดารมิใช่หรือ
- ฮีบรู 3:18 - และแก่ใครหนอที่พระองค์ได้ทรงปฏิญาณว่า เขาจะไม่ได้เข้าสู่ที่สงบสุขของพระองค์ ก็คนเหล่านั้นที่ไม่เชื่อมิใช่หรือ
- ฮีบรู 3:19 - ฉะนั้นเราจึงรู้ว่า เขาไม่สามารถเข้าไปสู่ที่สงบสุขนั้นได้เพราะเขาไม่ได้เชื่อ
- พระราชบัญญัติ 9:21 - แล้วข้าพเจ้าจึงเอาสิ่งที่บาปหนานั้น คือรูปลูกวัวซึ่งท่านสร้างขึ้นนั้นเผาเสียด้วยไฟ แล้วทุบแล้วบดให้เป็นผงละเอียดอย่างกับฝุ่น แล้วข้าพเจ้าก็โยนผงนั้นลงไปในลำธารซึ่งไหลลงมาจากภูเขา
- พระราชบัญญัติ 9:22 - ท่านทั้งหลายได้กระทำให้พระเยโฮวาห์ทรงพระพิโรธที่ทาเบราห์ และที่มัสสาห์ และที่ขิบโรทหัทธาอาวาห์
- พระราชบัญญัติ 9:23 - และเมื่อพระเยโฮวาห์ทรงใช้ท่านไปจากคาเดชบารเนีย ตรัสว่า ‘จงขึ้นไปยึดครองแผ่นดินนั้นซึ่งเราได้ให้แก่เจ้า’ และท่านก็กบฏต่อพระบัญญัติของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ไม่ยอมเชื่อพระองค์ หรือเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์
- พระราชบัญญัติ 9:24 - ท่านทั้งหลายได้กบฏต่อพระเยโฮวาห์เสมอตั้งแต่วันที่ข้าพเจ้ารู้จักท่านทั้งหลาย
- พระราชบัญญัติ 9:7 - จงจำไว้และอย่าลืมเสียว่าพวกท่านได้กระทำให้พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงพระพิโรธที่ในถิ่นทุรกันดาร ตั้งแต่วันที่ท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์ กระทั่งท่านมาถึงที่นี่ ท่านมักกบฏต่อพระเยโฮวาห์อยู่
- กิจการ 7:36 - คนนี้แหละ เป็นผู้นำเขาทั้งหลายออกมา โดยที่ได้ทำการมหัศจรรย์และหมายสำคัญต่างๆในแผ่นดินอียิปต์ ที่ทะเลแดงและในถิ่นทุรกันดารสี่สิบปี