逐节对照
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - เพราะเราไม่สามารถกระทำสิ่งใดที่แย้งกับความจริง แต่ทำเพื่อความจริงเท่านั้น
- 新标点和合本 - 我们凡事不能敌挡真理,只能扶助真理。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 我们不能做任何对抗真理的事,只能维护真理。
- 和合本2010(神版-简体) - 我们不能做任何对抗真理的事,只能维护真理。
- 当代译本 - 因为我们不能抵挡真理,只能拥护真理。
- 圣经新译本 - 我们不能作什么事违背真理,只能维护真理。
- 中文标准译本 - 因为我们做任何事都不能抵挡真理,只能拥护真理。
- 现代标点和合本 - 我们凡事不能敌挡真理,只能扶助真理。
- 和合本(拼音版) - 我们凡事不能敌挡真理,只能扶助真理。
- New International Version - For we cannot do anything against the truth, but only for the truth.
- New International Reader's Version - I can’t do anything to stop the truth. I can only work for the truth.
- English Standard Version - For we cannot do anything against the truth, but only for the truth.
- New Living Translation - For we cannot oppose the truth, but must always stand for the truth.
- Christian Standard Bible - For we can’t do anything against the truth, but only for the truth.
- New American Standard Bible - For we cannot do anything against the truth, but only for the truth.
- New King James Version - For we can do nothing against the truth, but for the truth.
- Amplified Bible - For we can do nothing against the truth, but only for the truth [and the gospel—the good news of salvation].
- American Standard Version - For we can do nothing against the truth, but for the truth.
- King James Version - For we can do nothing against the truth, but for the truth.
- New English Translation - For we cannot do anything against the truth, but only for the sake of the truth.
- World English Bible - For we can do nothing against the truth, but for the truth.
- 新標點和合本 - 我們凡事不能敵擋真理,只能扶助真理。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 我們不能做任何對抗真理的事,只能維護真理。
- 和合本2010(神版-繁體) - 我們不能做任何對抗真理的事,只能維護真理。
- 當代譯本 - 因為我們不能抵擋真理,只能擁護真理。
- 聖經新譯本 - 我們不能作甚麼事違背真理,只能維護真理。
- 呂振中譯本 - 我們不能 作 甚麼事來違逆真理;我們只能擁護真理。
- 中文標準譯本 - 因為我們做任何事都不能抵擋真理,只能擁護真理。
- 現代標點和合本 - 我們凡事不能敵擋真理,只能扶助真理。
- 文理和合譯本 - 蓋我儕不能拒真理、乃輔真理、
- 文理委辦譯本 - 我所行者、非逆真理、乃順之、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 蓋我儕不能逆真理、乃助真理、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 蓋吾人對抗真理、誠屬無力;惟擁護真理、則具有大能。
- Nueva Versión Internacional - Pues nada podemos hacer contra la verdad, sino a favor de la verdad.
- 현대인의 성경 - 우리는 진리를 거슬러 아무것도 할 수 없고 오직 진리만을 위해서 일하고 있습니다.
- Новый Русский Перевод - Мы не можем делать ничего вопреки истине, а только ради истины.
- Восточный перевод - Мы не можем делать ничего вопреки истине, а только ради истины.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Мы не можем делать ничего вопреки истине, а только ради истины.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Мы не можем делать ничего вопреки истине, а только ради истины.
- La Bible du Semeur 2015 - En effet, nous n’avons aucun pouvoir contre la vérité. C’est seulement pour la vérité que nous en avons.
- リビングバイブル - 私たちの務めは、いついかなる時にも、正しいことを勧めることであって、悪を望むことではありません。
- Nestle Aland 28 - οὐ γὰρ δυνάμεθά τι κατὰ τῆς ἀληθείας ἀλλ’ ὑπὲρ τῆς ἀληθείας.
- unfoldingWord® Greek New Testament - οὐ γὰρ δυνάμεθά τι κατὰ τῆς ἀληθείας, ἀλλὰ ὑπὲρ τῆς ἀληθείας.
- Nova Versão Internacional - Pois nada podemos contra a verdade, mas somente em favor da verdade.
- Hoffnung für alle - Gegen Gottes Wahrheit können wir ohnehin nichts ausrichten, wir können nur für sie eintreten.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Vì chúng tôi tôn trọng chân lý, không bao giờ làm điều gì sai quấy.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - เพราะเราไม่อาจทำสิ่งใดที่ขัดกับความจริงได้ แต่ทำเพื่อความจริงเท่านั้น
交叉引用
- 2 พงศ์กษัตริย์ 1:9 - และกษัตริย์ให้นายกองกับทหาร 50 คนของเขาไปหาเอลียาห์ นายทหารก็ขึ้นไปหาเอลียาห์ ซึ่งกำลังนั่งอยู่บนยอดเขา และพูดกับท่านว่า “โอ คนของพระเจ้า กษัตริย์กล่าวว่า ‘ลงมาเถิด’”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 1:10 - แต่เอลียาห์ตอบนายทหารว่า “ถ้าเราเป็นคนของพระเจ้า ก็ขอให้ไฟลงมาจากสวรรค์ และเผาผลาญเจ้าและคนทั้งห้าสิบของเจ้า” ครั้นแล้ว ไฟก็ลงมาจากสวรรค์ และเผาผลาญเขากับคนทั้งห้าสิบ
- 2 พงศ์กษัตริย์ 1:11 - กษัตริย์ก็ให้นายกองอีกคนหนึ่งไปกับทหาร 50 คนของเขาไปหาเอลียาห์ เขาก็ตอบและพูดกับท่านว่า “โอ คนของพระเจ้า นี่เป็นคำสั่งของกษัตริย์ ‘ลงมาเร็วๆ เถิด’”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 1:12 - แต่เอลียาห์ตอบว่า “ถ้าเราเป็นคนของพระเจ้า ก็ให้ไฟลงมาจากสวรรค์ และเผาผลาญเจ้าและคนทั้งห้าสิบของเจ้า” ครั้นแล้ว ไฟก็ลงมาจากสวรรค์ และเผาผลาญเขากับคนทั้งห้าสิบ
- 2 พงศ์กษัตริย์ 1:13 - กษัตริย์ก็ให้นายกองคนที่สามกับทหาร 50 คนของเขาไปหาเอลียาห์ และนายกองคนที่สามกับทหารทั้งห้าสิบของเขาก็ขึ้นไป และเมื่อมาถึงก็คุกเข่าลงที่เบื้องหน้าเอลียาห์ และขอร้องท่านว่า “โอ คนของพระเจ้า กรุณาเถิด ไว้ชีวิตข้าพเจ้าและชีวิตของผู้รับใช้ 50 คนของท่านเถิด
- 1 พงศ์กษัตริย์ 22:28 - และมิคายาห์พูดว่า “ถ้าท่านกลับมาอย่างปลอดภัย พระผู้เป็นเจ้าก็ไม่ได้กล่าวผ่านข้าพเจ้า” และพูดต่ออีกว่า “ขอให้ท่านทุกคนฟังไว้เถิด”
- 2 โครินธ์ 13:10 - ด้วยเหตุนี้ ข้าพเจ้าจึงเขียนเรื่องเหล่านี้เมื่อข้าพเจ้าไม่ได้อยู่กับท่าน เพื่อว่าเมื่อข้าพเจ้ามาอยู่ด้วยจะได้ไม่ต้องกร้าวกับท่าน เพราะพระผู้เป็นเจ้าได้ให้อำนาจที่ข้าพเจ้าได้รับมอบเพื่อเสริมสร้างท่าน ไม่ใช่เพื่อทำลาย
- 2 พงศ์กษัตริย์ 2:23 - จากนั้นท่านก็ขึ้นไปยังเบธเอล และขณะที่ท่านกำลังเดินทางขึ้นไป ก็มีเด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่งออกมาจากเมืองนั้น และล้อเลียนท่านว่า “ขึ้นไปสิ ไอ้หัวล้าน ขึ้นไปสิ ไอ้หัวล้าน”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 2:24 - เมื่อท่านหันกลับมาเห็นเด็กพวกนั้น ท่านก็สาปแช่งพวกเขาในพระนามของพระผู้เป็นเจ้า แล้วก็มีหมีตัวเมีย 2 ตัวออกมาจากป่า ขย้ำเด็กทั้ง 42 คน
- 2 พงศ์กษัตริย์ 2:25 - และท่านไปจากที่นั่น ไปยังภูเขาคาร์เมล และหลังจากนั้นจึงกลับไปยังสะมาเรีย
- กันดารวิถี 16:28 - แล้วโมเสสพูดว่า “ด้วยเหตุการณ์เช่นนี้พวกท่านจะรู้ว่าพระผู้เป็นเจ้าได้ส่งเรามาเพื่อปฏิบัติงาน และไม่ใช่ความคิดของเราเอง
- กันดารวิถี 16:29 - ถ้าหากคนพวกนี้ตายเหมือนๆ กับที่คนทั่วๆ ไปตายและประสบกับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นเหมือนคนทั่วไป ก็นับว่าพระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ส่งเรามา
- กันดารวิถี 16:30 - แต่ถ้าพระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้ทำให้เรื่องที่เกิดขึ้นต่างไปจากนี้ แผ่นดินจะเปิดปากและกลืนพวกเขาเข้าไปพร้อมกับทุกสิ่งที่เป็นของเขา พวกเขาจะลงไปที่แดนคนตายทั้งเป็น และพวกท่านจะได้รู้ว่าคนเหล่านี้ได้ดูหมิ่นพระผู้เป็นเจ้า”
- กันดารวิถี 16:31 - เมื่อท่านพูดจบ พื้นดินเบื้องล่างก็แยกออก
- กันดารวิถี 16:32 - และแผ่นดินได้ดูดกลืนเขาเหล่านั้นลงไปพร้อมกับครอบครัวและทุกคนที่เป็นของโคราห์อีกทั้งข้าวของทุกอย่างที่เป็นของเขาด้วย
- กันดารวิถี 16:33 - ฉะนั้นเขาเหล่านั้นและทุกสิ่งที่เป็นของเขาถูกดูดลงไปในแดนคนตายทั้งเป็น แล้วแผ่นดินก็พลิกกลบพวกเขา เขาเหล่านั้นได้ตายไปในท่ามกลางมวลชน
- กันดารวิถี 16:34 - แล้วชาวอิสราเอลทุกคนที่อยู่แถวนั้นได้ยินเสียงร้องของเขาเหล่านั้นก็พากันหนี พูดกันว่า “กลัวว่าแผ่นดินจะดูดกลืนพวกเราลงไปด้วย”
- กันดารวิถี 16:35 - เปลวไฟพุ่งออกมาจากพระผู้เป็นเจ้าและไหม้ตัวชาย 250 คนที่กำลังมอบเครื่องหอมอยู่
- 1 โครินธ์ 5:4 - เมื่อท่านประชุมกันในพระนามของพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ข้าพเจ้าย่อมอยู่ด้วยกับท่านฝ่ายวิญญาณพร้อมกับอานุภาพของพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา
- 1 โครินธ์ 5:5 - จงมอบชายผู้นี้ให้ซาตาน ทำลายฝ่ายเนื้อหนังเสีย เพื่อให้วิญญาณของเขารอดในวันที่พระผู้เป็นเจ้าจะมา
- กิจการของอัครทูต 13:3 - หลังจากที่ทั้งกลุ่มอดอาหารและอธิษฐานเสร็จสิ้นแล้ว ก็วางมือบนตัวบาร์นาบัสและเซาโล แล้วจึงให้ทั้งสองออกเดินทางไป
- กิจการของอัครทูต 13:4 - พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ดลใจให้ท่านทั้งสองลงไปยังเมืองเซลูเคีย และแล่นเรือจากที่นั่นไปยังเกาะไซปรัส
- กิจการของอัครทูต 13:5 - เมื่อมาถึงเมืองซาลามิส ก็ได้ประกาศคำกล่าวของพระเจ้าตามศาลาที่ประชุมของชาวยิว โดยมียอห์นเป็นผู้ช่วย
- กิจการของอัครทูต 13:6 - ทั้ง 3 คนเดินทางไปทั่วเกาะจนถึงเมืองปาโฟส และได้พบกับบาร์เยซูชาวยิวผู้ใช้เวทมนตร์คาถา และยังเป็นผู้เผยคำกล่าวเท็จด้วย
- กิจการของอัครทูต 13:7 - เขาอยู่กับเสอร์จีอัสเปาโลซึ่งเป็นผู้ว่าราชการแคว้นที่ฉลาดรอบรู้ ผู้ว่าราชการจึงให้คนไปตามบาร์นาบัสและเซาโลมาพบ เพราะต้องการจะฟังคำกล่าวของพระเจ้า
- กิจการของอัครทูต 13:8 - แต่เอลีมาส (ชื่อของบาร์เยซูในภาษากรีก) ผู้ใช้เวทมนตร์คาถาได้คัดค้านบาร์นาบัสและเซาโล โดยพยายามจะหันเหความเชื่อของผู้ว่าราชการแคว้น
- กิจการของอัครทูต 13:9 - แล้วเซาโลหรือที่มีอีกชื่อหนึ่งว่า เปาโล ซึ่งเปี่ยมล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ จ้องมาที่เอลีมาสและพูดว่า
- กิจการของอัครทูต 13:10 - “เจ้าเต็มด้วยความหลอกลวงจอมปลอม บุตรของพญามาร เจ้าเป็นศัตรูของความดี เจ้ายังจะไม่หยุดบิดเบือนหนทางของพระผู้เป็นเจ้าอีกหรือ
- กิจการของอัครทูต 13:11 - บัดนี้พระผู้เป็นเจ้ากำลังจะลงโทษเจ้า เจ้าจะตาบอดและมองไม่เห็นดวงอาทิตย์ไปชั่วระยะหนึ่ง” ในทันใดนั้นดวงตาของเอลีมาสก็มืดมัวไป จนต้องคลำหาให้คนจูงมือไป
- กิจการของอัครทูต 13:12 - เมื่อผู้ว่าราชการแคว้นผู้นั้นเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก็เชื่อ เพราะอัศจรรย์ใจกับการสอนเรื่องของพระผู้เป็นเจ้า
- กิจการของอัครทูต 4:28 - เขาทั้งหลายได้กระทำตามอานุภาพและความประสงค์ของพระองค์ ที่ได้กำหนดไว้ก่อนที่จะเกิดขึ้น
- กิจการของอัครทูต 4:29 - บัดนี้ขอให้พระผู้เป็นเจ้าพิจารณาการขู่เข็ญของพวกเขา และโปรดช่วยบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ให้ประกาศคำกล่าวของพระองค์ด้วยความกล้าหาญยิ่ง
- กิจการของอัครทูต 4:30 - ขอพระองค์โปรดเหยียดมือออก เพื่อรักษาโรคให้หายขาดและแสดงปรากฏการณ์อัศจรรย์ และสิ่งมหัศจรรย์ในพระนามของพระเยซู ผู้รับใช้ผู้บริสุทธิ์ของพระองค์”
- สุภาษิต 26:2 - นกกระจอกกระพือปีกบิน และนกนางแอ่นโผผินบินร่อนไปเช่นไร การสาปแช่งโดยไม่มีสาเหตุ ก็จะว่อนหายไปเช่นนั้น
- มาระโก 16:17 - ปรากฏการณ์อัศจรรย์เหล่านี้จะอยู่กับคนที่เชื่อคือ เขาจะขับไล่พวกมารในนามของเรา เขาจะพูดภาษาที่ตนไม่รู้จัก
- มาระโก 16:18 - เขาจะจับงูขึ้นได้ด้วยมือเปล่า และถ้าเขาดื่มสิ่งใดที่มีพิษขั้นถึงตาย เขาก็จะไม่เป็นอันตราย เขาจะวางมือบนตัวคนป่วย และคนป่วยก็จะหายขาด”
- มาระโก 16:19 - เมื่อพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าได้กล่าวกับพวกเขาแล้ว พระองค์ก็ถูกรับขึ้นสู่สวรรค์ และนั่งอยู่ ณ เบื้องขวาของพระเจ้า
- กิจการของอัครทูต 5:1 - มีชายคนหนึ่งชื่ออานาเนียซึ่งมีภรรยาชื่อสัปฟีรา ได้ขายที่ดินผืนหนึ่ง
- กิจการของอัครทูต 5:2 - โดยเก็บเงินส่วนหนึ่งไว้สำหรับตนเอง ซึ่งภรรยาก็ทราบดี และนำส่วนที่เหลือมาวางไว้ที่เท้าของเหล่าอัครทูต
- กิจการของอัครทูต 5:3 - เปโตรจึงถามว่า “อานาเนีย เป็นเพราะอะไร ซาตานจึงได้ครองใจของท่านจนกล้าพูดเท็จต่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ และได้เก็บเงินส่วนหนึ่งที่ได้จากการขายที่ดินไว้สำหรับตนเอง
- กิจการของอัครทูต 5:4 - ก่อนที่จะขายได้ ที่ดินนี้เป็นของท่าน และหลังจากที่ขายได้แล้ว เงินก็ยังเป็นสิทธิ์ของท่านมิใช่หรือ ทำไมท่านจึงได้คิดกระทำเช่นนั้น ท่านไม่ได้โกหกต่อมนุษย์ แต่โกหกต่อพระเจ้า”
- กิจการของอัครทูต 5:5 - เมื่อสิ้นคำกล่าวนั้น อานาเนียก็ล้มลงตาย และผู้คนที่ได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นก็เกิดความหวาดกลัว
- กิจการของอัครทูต 5:6 - จากนั้นพวกชายหนุ่มก็ได้ลุกขึ้นมาห่อตัวเขา และหามออกไปฝัง
- กิจการของอัครทูต 5:7 - ประมาณ 3 ชั่วโมงต่อมาภรรยาของเขาก็เข้ามาโดยไม่ทราบว่าได้เกิดอะไรขึ้น
- กิจการของอัครทูต 5:8 - เปโตรถามนางว่า “ช่วยบอกข้าพเจ้าว่าท่านและอานาเนียขายที่ดินได้ในราคานี้หรือ” นางตอบว่า “ใช่แล้ว ขายได้ในราคานี้”
- กิจการของอัครทูต 5:9 - เปโตรจึงตอบว่า “พวกท่านเห็นพ้องต้องกันได้อย่างไรในการที่จะลองดีกับพระวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้า ดูนั่น เท้าของพวกที่ฝังสามีของท่านยังอยู่ที่ประตู และพร้อมที่จะหามตัวท่านออกไปเช่นกัน”
- กิจการของอัครทูต 5:10 - ทันใดนั้นนางก็ล้มลงตายอยู่แทบเท้าของเปโตร เมื่อชายหนุ่มเหล่านั้นเข้ามาก็พบว่านางตายแล้ว จึงหามนางออกไปฝังไว้ข้างสามีของนาง
- กิจการของอัครทูต 5:11 - ทั่วทั้งคริสตจักรและทุกคนที่ได้ยินเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็เกิดความหวาดกลัวยิ่งนัก
- ลูกา 9:49 - ยอห์นพูดว่า “นายท่าน พวกเราเห็นชายคนหนึ่งขับไล่พวกมารในพระนามของพระองค์ และพวกเราพยายามที่จะห้ามเขา เพราะว่าเขาไม่ใช่คนของเรา”
- ลูกา 9:50 - พระเยซูกล่าวว่า “อย่าห้ามเขาเลย คนที่ไม่เป็นฝ่ายค้านพวกเจ้าก็เป็นฝ่ายเจ้า”
- ลูกา 9:51 - เมื่อใกล้เวลาที่พระองค์จะคืนสู่สวรรค์ พระเยซูตั้งใจแน่วแน่ที่จะเดินทางไปยังเมืองเยรูซาเล็ม
- ลูกา 9:52 - และส่งพวกผู้ส่งข่าวล่วงหน้าไปยังหมู่บ้านของชาวสะมาเรีย เพื่อเตรียมสิ่งต่างๆ ให้พร้อม
- ลูกา 9:53 - แต่ผู้คนที่นั่นกลับไม่ยอมรับพระองค์ เพราะเมืองเยรูซาเล็มเป็นจุดหมายปลายทางของพระองค์
- ลูกา 9:54 - เมื่อสาวกของพระองค์คือยากอบและยอห์นเห็นดังนั้นจึงถามว่า “พระองค์ท่าน พระองค์จะโปรดให้พวกเราขอไฟลงมาจากสวรรค์ทำลายเขาเสียไหม”
- ลูกา 9:55 - แต่พระเยซูหันกลับและห้ามพวกเขาไว้
- ลูกา 9:56 - แล้วพระองค์กับเหล่าสาวกจึงไปยังหมู่บ้านอื่น
- 1 ทิโมธี 1:20 - ฮีเมเนอัสและอเล็กซานเดอร์ก็เป็นคนจำพวกนั้นที่ข้าพเจ้าได้ยกให้แก่ซาตาน แล้ว เพื่อพวกเขาจะได้รับบทเรียนที่จะไม่พูดหมิ่นประมาทพระเจ้า
- มาระโก 9:39 - แต่พระเยซูกล่าวว่า “อย่าห้ามเขาเลย เพราะว่าไม่มีใครที่จะแสดงสิ่งอัศจรรย์ในนามของเรา และทันทีหลังจากนั้นจะพูดว่าร้ายเราได้
- 2 โครินธ์ 10:8 - ถ้าแม้ข้าพเจ้าจะโอ้อวดมากหน่อยถึงอำนาจที่ได้รับมอบซึ่งพระผู้เป็นเจ้าให้แก่เรา เพื่อเสริมสร้างท่านและไม่ใช่ฉุดท่านให้ต่ำลง ข้าพเจ้าก็จะไม่ละอายใจเลย
- สุภาษิต 21:30 - ไม่มีสติปัญญา การหยั่งรู้ หรือแผนการใดๆ ที่สามารถต่อต้านพระผู้เป็นเจ้าได้สำเร็จ
- ฮีบรู 2:3 - ดังนั้น หากเราเพิกเฉยกับความรอดพ้นอันยิ่งใหญ่ แล้วเราจะหนีรอดได้อย่างไร แรกเริ่มเดิมทีพระผู้เป็นเจ้าประกาศเรื่องความรอดพ้นนี้ และพวกที่ได้ยินพระองค์ ก็ได้ยืนยันกับเรา
- ฮีบรู 2:4 - พระเจ้าก็ได้ยืนยันแล้วด้วย โดยให้มีปรากฏการณ์อัศจรรย์ สิ่งมหัศจรรย์ ฤทธานุภาพ และของประทานต่างๆ ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งมอบให้ตามความประสงค์ของพระองค์
- กิจการของอัครทูต 19:11 - พระเจ้าได้กระทำสิ่งอัศจรรย์เป็นพิเศษผ่านเปาโล
- กิจการของอัครทูต 19:12 - จนแม้ว่าผ้าเช็ดหน้าและผ้ากันเปื้อนที่ถูกต้องตัวเปาโล แล้วก็เอาไปวางบนผู้ป่วย โรคต่างๆ ก็หายขาดได้ และพวกวิญญาณร้ายก็ออกไปจากร่างคนที่ถูกสิง
- กิจการของอัครทูต 19:13 - แต่ชาวยิวบางคนเที่ยวไปทำตนเป็นคนขับไล่วิญญาณร้าย โดยใช้พระนามของพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้า ในการขับไล่พวกวิญญาณร้ายด้วยคำพูดว่า “เราสั่งให้เจ้าออกมาในพระนามของพระเยซูที่เปาโลประกาศ”
- กิจการของอัครทูต 19:14 - มหาปุโรหิตชาวยิวผู้หนึ่งชื่อเสวา เขามีบุตรชาย 7 คนที่ปฏิบัติเช่นนั้น
- กิจการของอัครทูต 19:15 - วันหนึ่งวิญญาณร้ายตอบพวกเขาว่า “เรารู้ว่าพระเยซูคือผู้ใด และเปาโลนั้นเราก็รู้ แต่เจ้าล่ะ เป็นใครกัน”
- กิจการของอัครทูต 19:16 - แล้วชายที่มีวิญญาณร้ายสิงอยู่ก็กระโจนเข้าใส่ และทำร้ายจนชายทั้งเจ็ดพ่ายแพ้ราบคาบ พวกเขาต้องวิ่งหนีออกจากบ้านทั้งๆ ที่เปลือยกายและบาดเจ็บด้วย
- กิจการของอัครทูต 19:17 - เมื่อชาวยิวและกรีกที่อาศัยอยู่ในเมืองเอเฟซัสได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้น ต่างก็เกิดความหวาดกลัว และพระนามของพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้า ก็เป็นที่ยกย่องสรรเสริญอย่างสูง