逐节对照
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - เพราะเราเป็นผู้ร่วมงานของพระเจ้า ท่านเป็นไร่นาและเป็นเรือนของพระเจ้า
- 新标点和合本 - 因为我们是与 神同工的;你们是 神所耕种的田地,所建造的房屋。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 因为我们是上帝的同工,而你们是上帝的田地、上帝的房屋。
- 和合本2010(神版-简体) - 因为我们是 神的同工,而你们是 神的田地、 神的房屋。
- 当代译本 - 因为我们是上帝的同工,你们是上帝的园地和建筑。
- 圣经新译本 - 我们是 神的同工,你们是 神的田地, 神的房屋。
- 中文标准译本 - 实际上,我们是神的同工;你们是神的田地,是神的建筑物。
- 现代标点和合本 - 因为我们是与神同工的,你们是神所耕种的田地,所建造的房屋。
- 和合本(拼音版) - 因为我们是与上帝同工的;你们是上帝所耕种的田地,所建造的房屋。
- New International Version - For we are co-workers in God’s service; you are God’s field, God’s building.
- New International Reader's Version - We work together to serve God. You are like God’s field. You are like his building.
- English Standard Version - For we are God’s fellow workers. You are God’s field, God’s building.
- New Living Translation - For we are both God’s workers. And you are God’s field. You are God’s building.
- The Message - Or, to put it another way, you are God’s house. Using the gift God gave me as a good architect, I designed blueprints; Apollos is putting up the walls. Let each carpenter who comes on the job take care to build on the foundation! Remember, there is only one foundation, the one already laid: Jesus Christ. Take particular care in picking out your building materials. Eventually there is going to be an inspection. If you use cheap or inferior materials, you’ll be found out. The inspection will be thorough and rigorous. You won’t get by with a thing. If your work passes inspection, fine; if it doesn’t, your part of the building will be torn out and started over. But you won’t be torn out; you’ll survive—but just barely.
- Christian Standard Bible - For we are God’s coworkers. You are God’s field, God’s building.
- New American Standard Bible - For we are God’s fellow workers; you are God’s field, God’s building.
- New King James Version - For we are God’s fellow workers; you are God’s field, you are God’s building.
- Amplified Bible - For we are God’s fellow workers [His servants working together]; you are God’s cultivated field [His garden, His vineyard], God’s building.
- American Standard Version - For we are God’s fellow-workers: ye are God’s husbandry, God’s building.
- King James Version - For we are labourers together with God: ye are God's husbandry, ye are God's building.
- New English Translation - We are coworkers belonging to God. You are God’s field, God’s building.
- World English Bible - For we are God’s fellow workers. You are God’s farming, God’s building.
- 新標點和合本 - 因為我們是與神同工的;你們是神所耕種的田地,所建造的房屋。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 因為我們是上帝的同工,而你們是上帝的田地、上帝的房屋。
- 和合本2010(神版-繁體) - 因為我們是 神的同工,而你們是 神的田地、 神的房屋。
- 當代譯本 - 因為我們是上帝的同工,你們是上帝的園地和建築。
- 聖經新譯本 - 我們是 神的同工,你們是 神的田地, 神的房屋。
- 呂振中譯本 - 我們是上帝之同工,你們乃是上帝之耕地、上帝之建築物。
- 中文標準譯本 - 實際上,我們是神的同工;你們是神的田地,是神的建築物。
- 現代標點和合本 - 因為我們是與神同工的,你們是神所耕種的田地,所建造的房屋。
- 文理和合譯本 - 蓋我儕乃上帝同勞者、爾曹為上帝之田、上帝之室、○
- 文理委辦譯本 - 吾儕為上帝僕而同勞、爾曹乃上帝之稼穡、上帝所經營也、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 我儕與天主為同工者、爾乃天主所耕之田、天主所建之室、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 吾儕乃天主所假之手、爾等則為天主之田園、天主之第宅也。
- Nueva Versión Internacional - En efecto, nosotros somos colaboradores al servicio de Dios; y ustedes son el campo de cultivo de Dios, son el edificio de Dios.
- 현대인의 성경 - 우리는 하나님의 일을 하는 동역자들이요 여러분은 하나님의 밭이며 건물입니다.
- Новый Русский Перевод - Ведь мы сотрудники у Бога, а вы – Его поле, Его строение.
- Восточный перевод - Ведь мы сотрудники у Всевышнего, а вы – Его поле, Его строение.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Ведь мы сотрудники у Аллаха, а вы – Его поле, Его строение.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Ведь мы сотрудники у Всевышнего, а вы – Его поле, Его строение.
- La Bible du Semeur 2015 - Car nous travaillons ensemble au service de Dieu, et vous, vous êtes le champ qu’il cultive. Ou encore : vous êtes l’édifice qu’il construit.
- リビングバイブル - 私たちは神の協力者にすぎません。あなたがたは私たちの畑ではなく、神の畑です。私たちの建物ではなく、神の建物です。
- Nestle Aland 28 - θεοῦ γάρ ἐσμεν συνεργοί, θεοῦ γεώργιον, θεοῦ οἰκοδομή ἐστε.
- unfoldingWord® Greek New Testament - Θεοῦ γάρ ἐσμεν συνεργοί; Θεοῦ γεώργιον, Θεοῦ οἰκοδομή ἐστε.
- Nova Versão Internacional - Pois nós somos cooperadores de Deus; vocês são lavoura de Deus e edifício de Deus.
- Hoffnung für alle - Wir sind Gottes Mitarbeiter, ihr aber seid Gottes Ackerland und sein Bauwerk.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Chúng tôi là bạn đồng sự phục vụ Đức Chúa Trời, còn anh chị em là ruộng, là nhà của Ngài.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - ด้วยว่าเราเป็นผู้ร่วมงานกับพระเจ้า ท่านทั้งหลายเป็นไร่นาของพระเจ้า เป็นตึกของพระเจ้า
交叉引用
- มัทธิว 20:1 - อาณาจักรแห่งสวรรค์เปรียบเสมือนเจ้าของที่ดินคนหนึ่งที่ออกไปจ้างคนมาทำงานในสวนองุ่นของเขาแต่เช้าตรู่
- มัทธิว 20:2 - เมื่อเขาได้ตกลงจ่ายคนงาน 1 เหรียญเดนาริอันสำหรับวันนั้นแล้ว ก็ให้พวกคนงานไปในสวนองุ่นของเขา
- มัทธิว 20:3 - ประมาณ 9 โมงเช้า เขาก็ออกไปอีก เห็นคนยืนออกันในย่านตลาดโดยไม่ทำอะไรเลย
- มัทธิว 20:4 - เขาพูดกับคนเหล่านั้นว่า ‘ท่านไปทำงานในสวนองุ่นได้เช่นกัน เราจะจ่ายท่านอย่างยุติธรรม’ ดังนั้นพวกเขาก็ไป
- มัทธิว 20:5 - เวลาเที่ยงวันและบ่าย 3 โมงเขาก็ออกไปอีก ทำเหมือนเดิม
- มัทธิว 20:6 - ประมาณ 5 โมงเย็น เขาออกไปพบคนอื่นยืนอยู่ จึงถามว่า ‘ทำไมท่านยืนกันอยู่ที่นี่ทั้งวันโดยไม่ทำอะไรเลย’
- มัทธิว 20:7 - พวกเขาพูดว่า ‘เพราะไม่มีใครจ้างเรา’ เจ้าของสวนพูดว่า ‘ท่านไปทำงานในสวนองุ่นได้เช่นกัน’
- มัทธิว 20:8 - พอตกเย็น เจ้าของสวนองุ่นพูดกับหัวหน้าคนงานว่า ‘จงเรียกพวกคนงานมา และจ่ายค่าจ้างแก่เขา ให้คนกลุ่มหลังสุดมาก่อน ไล่ไปจนถึงคนแรกสุด’
- มัทธิว 20:9 - เมื่อพวกคนที่รับจ้างตอน 5 โมงเย็นมา เขาทุกคนได้รับ 1 เหรียญเดนาริอัน
- มัทธิว 20:10 - พอถึงพวกคนที่รับจ้างตอนแรกสุดมา พวกเขาคิดว่าจะได้รับมากกว่า แต่ทุกคนได้รับ 1 เหรียญเดนาริอันเช่นกัน
- มัทธิว 20:11 - เมื่อพวกเขาได้รับแล้วก็บ่นพึมพำกับเจ้าของสวนว่า
- มัทธิว 20:12 - ‘คนพวกสุดท้ายนี้ทำงานเพียงชั่วโมงเดียว แล้วท่านจ่ายให้เท่ากับเราขณะที่เราต้องตรากตรำทนแดดมาทั้งวัน’
- มัทธิว 20:13 - เจ้าของสวนพูดตอบคนหนึ่งในพวกนั้นว่า ‘เพื่อนเอ๋ย เราไม่ได้กระทำผิดต่อท่านเลย ท่านไม่ได้ตกลงรับ 1 เหรียญเดนาริอันจากเราหรือ
- มัทธิว 20:14 - จงรับส่วนที่เป็นของท่านไปเถิด เราต้องการให้แก่คนพวกสุดท้ายนี้เท่าๆ กับที่เราให้แก่ท่าน
- 3 ยอห์น 1:8 - ฉะนั้นเราจึงควรช่วยเหลือคนเหล่านี้ เพื่อว่าเราจะได้ทำงานเพื่อความจริงร่วมกัน
- เอเฟซัส 2:10 - เพราะเราเป็นผลงานของพระองค์ซึ่งสร้างขึ้นให้ผูกพันในพระเยซูคริสต์ เพื่อให้ปฏิบัติสิ่งที่ดีงามอันเป็นสิ่งที่พระเจ้าได้จัดเตรียมไว้ล่วงหน้าให้เราทำ
- สดุดี 72:16 - ขอให้มีธัญญาหารอย่างอุดมสมบูรณ์บนแผ่นดิน แม้บนยอดเขาก็มียอดข้าวโบกสะบัด ดั่งพืชผลที่อุดมในเลบานอน และพลเมืองเพิ่มจำนวนขึ้น ดั่งต้นหญ้าบนแผ่นดิน
- เยเรมีย์ 2:21 - เราปลูกเจ้าให้เป็นดั่งเถาพันธุ์เยี่ยม เป็นเมล็ดบริสุทธิ์แท้ แล้วเจ้ากลับเน่า และได้กลายเป็นเถาที่ไร้ค่า
- ฮีบรู 3:6 - แต่พระคริสต์เป็นพระบุตรผู้มีความภักดี พระองค์ควบคุมดูแลตำหนักของพระเจ้า และพวกเราก็คือตำหนักของพระองค์ หากว่าเรายึดความกล้าหาญและความมั่นใจในสิ่งที่เราหวังไว้
- สดุดี 118:22 - ศิลาที่พวกช่างก่อสร้างทิ้ง ได้กลายเป็นศิลามุมเอก
- อิสยาห์ 5:1 - โปรดให้ข้าพเจ้าร้องเพลงให้กับเพื่อนรักของข้าพเจ้า เพลงรักของสวนองุ่นของเพื่อนข้าพเจ้า เพื่อนรักของข้าพเจ้ามีสวนองุ่น บนเนินเขาที่อุดมสมบูรณ์ยิ่ง
- อิสยาห์ 5:2 - พระองค์พรวนดินและเก็บก้อนหินไปทิ้ง และปลูกสวนองุ่นพันธุ์ดีที่สุด พระองค์สร้างหอคอยที่กลางสวน และทำเครื่องสกัดเหล้าองุ่นในสวน พระองค์หวังว่าจะมีองุ่นผลงาม แต่ผลที่ได้กลับเป็นองุ่นป่า
- อิสยาห์ 5:3 - “บัดนี้ โอ ผู้อยู่อาศัยในเยรูซาเล็ม และคนของยูดาห์เอ๋ย จงตัดสินระหว่างเรากับสวนองุ่นของเรา
- อิสยาห์ 5:4 - ยังขาดอะไรหรือที่เรายังไม่ได้ทำ เพื่อสวนองุ่นของเรา เมื่อเราหวังว่าจะมีองุ่นผลงาม ทำไมจึงได้ผลองุ่นป่า
- อิสยาห์ 5:5 - เราจะบอกพวกเจ้าว่า บัดนี้เราจะทำอะไรกับสวนองุ่นของเรา เราจะถอนพุ่มไม้ที่ปลูกเป็นแถว แทนรั้ว แล้วโยนให้สัตว์กิน เราจะพังกำแพงลง และมันจะถูกเหยียบย่ำ
- อิสยาห์ 5:6 - เราจะทำให้สวนเป็นที่รกร้าง จะไม่มีการลิดกิ่งหรือพรวนดิน พุ่มไม้หนามและต้นหนามจะงอกโตขึ้น เราจะสั่งเมฆไม่ให้โปรยฝนลงในสวน”
- อิสยาห์ 5:7 - เพราะสวนองุ่นของพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา คือพงศ์พันธุ์อิสราเอล และคนของยูดาห์ คือต้นองุ่นที่น่าชื่นชมของพระองค์ พระองค์มองหาความเป็นธรรม แต่ดูเถิด กลับมีการนองเลือด มองหาความชอบธรรม แต่ดูเถิด กลับมีแต่การร้องทุกข์
- มัทธิว 13:36 - ครั้นแล้วพระเยซูก็จากฝูงชนเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง สาวกของพระองค์ได้กล่าวกับพระองค์ว่า “โปรดอธิบายคำอุปมาเรื่องวัชพืชในนาให้พวกเราฟังด้วยเถิด”
- มัทธิว 13:37 - พระองค์กล่าวตอบว่า “ผู้ที่หว่านเมล็ดพืชชนิดดี คือบุตรมนุษย์
- มัทธิว 13:38 - นาก็คือโลก เมล็ดพืชชนิดดีคือบรรดาบุตรของอาณาจักร และเมล็ดวัชพืชคือบรรดาบุตรของมารร้าย
- มัทธิว 13:39 - ศัตรูที่หว่านคือพญามาร และฤดูเก็บเกี่ยวแสดงถึงการสิ้นยุคนี้ บรรดาผู้เก็บเกี่ยวคือทูตสวรรค์
- มัทธิว 13:40 - ฉะนั้นเมล็ดวัชพืชถูกรวบรวมและถูกไฟเผาอย่างไร การสิ้นยุคนี้ก็จะเป็นอย่างนั้น
- มัทธิว 13:41 - บุตรมนุษย์จะส่งเหล่าทูตสวรรค์ของท่านให้มารวบรวมทุกสิ่งที่เป็นเหตุให้คนทำบาป และพวกที่ประพฤติชั่วร้ายไปเสียจากอาณาจักรของท่าน
- มัทธิว 13:42 - แล้วโยนพวกเขาลงในเตาไฟ ณ ที่นั่นจะมีการร่ำไห้และขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
- ฮีบรู 3:3 - พระเยซูสมควรได้รับพระเกียรติยิ่งกว่าโมเสส เช่นเดียวกับผู้สร้างตำหนัก ที่ได้รับเกียรติมากกว่าตัวตำหนักเอง
- ฮีบรู 3:4 - เพราะทุกตำหนักย่อมถูกสร้างโดยผู้ใดผู้หนึ่ง แต่พระเจ้าเป็นผู้สร้างทุกสิ่ง
- อิสยาห์ 61:5 - คนแปลกหน้าจะยืนและดูแลฝูงแพะแกะของพวกท่าน ชาวต่างชาติจะเป็นคนพรวนดิน และคนดูแลสวนองุ่นของท่าน
- อาโมส 9:11 - ในวันนั้น เราจะฟื้นฟูกระโจมของดาวิด ที่ล้มลงขึ้นใหม่ เราจะซ่อมแซมส่วนที่แตกหัก บูรณะสิ่งที่ปรักหักพัง และสร้างขึ้นใหม่อย่างที่เคยเป็น
- อาโมส 9:12 - เพื่อพวกเขาจะเป็นเจ้าของสิ่งที่ดินแดนเอโดมมีเหลืออยู่ อีกทั้งประชาชาติทั้งปวงซึ่งได้รับเรียกว่าเป็นคนของเรา” พระผู้เป็นเจ้าผู้จะกระทำสิ่งเหล่านี้ประกาศ
- อิสยาห์ 32:20 - พวกท่านที่หว่านอยู่ข้างแหล่งน้ำ และปล่อยให้เท้าโคและเท้าลาก้าวย่างไปอย่างมีอิสระ ก็จะเป็นสุข
- อิสยาห์ 27:2 - ในวันนั้น “จงร้องเพลงถึงสวนองุ่นอันอุดม
- อิสยาห์ 27:3 - เราคือพระผู้เป็นเจ้า เราเป็นผู้ดูแลสวนองุ่น เรารดน้ำอย่างสม่ำเสมอ เราเฝ้าสวนนี้ทั้งวันและคืน เพื่อไม่ให้ผู้ใดทำร้ายได้
- มัทธิว 13:18 - จงฟังเรื่องอุปมาของชาวไร่คนนั้น
- มัทธิว 13:19 - เมื่อผู้ใดได้ยินเรื่องของอาณาจักร แล้วไม่เข้าใจก็เหมือนเมล็ดพืชที่หว่านไว้ตามทาง มารร้ายมาปล้นสิ่งที่ได้หว่านไว้ในจิตใจของเขา
- มัทธิว 13:20 - เมล็ดพืชที่ตกลงบนหินซึ่งมีผิวดินเพียงเล็กน้อยเปรียบเสมือนคนที่ได้ยินคำกล่าวและรับไว้ทันทีด้วยความยินดี
- มัทธิว 13:21 - แต่เขาไม่มีรากฐานอันมั่นคงในตัว จึงคงอยู่ได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อเกิดความลำบากหรือการข่มเหงอันเนื่องมาจากคำกล่าว เขาก็ล้มเลิกความเชื่อเสียทันที
- มัทธิว 13:22 - ส่วนเมล็ดพืชที่หว่านไว้ท่ามกลางไม้หนามเปรียบเสมือนคนที่ได้ยินคำกล่าว แล้วความกังวลต่างๆ ในโลก และแรงดึงดูดของความร่ำรวยเข้าแทรกซ้อนคำกล่าว จึงทำให้ไม่บังเกิดผล
- มัทธิว 13:23 - เมล็ดพืชที่ตกบนดินดีเปรียบเสมือนคนที่ได้ยินคำกล่าว และเข้าใจ จึงเกิดผลแท้จริงเป็น 100 เท่า 60 และ 30 เท่า”
- มัทธิว 13:24 - พระองค์เล่าเรื่องเป็นอุปมาให้พวกเขาฟังอีกว่า “อาณาจักรแห่งสวรรค์เปรียบเสมือนกับชาวไร่คนหนึ่งที่ได้ใช้เมล็ดพืชดีหว่านในนาของเขา
- มัทธิว 13:25 - ขณะที่คนนอนหลับกัน ศัตรูของเขามาหว่านเมล็ดวัชพืชปนกับเมล็ดข้าว แล้วหนีไป
- มัทธิว 13:26 - เมื่อข้าวงอกขึ้นจนออกรวง วัชพืชก็งอกขึ้นเช่นกัน
- มัทธิว 13:27 - บรรดาทาสรับใช้ของเจ้าของที่ดินมาถามเขาว่า ‘เจ้านาย ท่านได้หว่านเมล็ดดีในนาของท่านมิใช่หรือ แล้วมีวัชพืชด้วยได้อย่างไร’
- มัทธิว 13:28 - เขาตอบทาสรับใช้ว่า ‘ศัตรูเป็นคนกระทำ’ ทาสรับใช้พูดว่า ‘ถ้าเช่นนั้นแล้ว ท่านจะให้เราไปถอนมันทิ้งไหม’
- มัทธิว 13:29 - แต่นายตอบว่า ‘อย่าเลย เพราะหากว่าเจ้าถอนวัชพืชออก เจ้าอาจจะพลอยถอนข้าวดีไปด้วย
- มัทธิว 13:30 - ปล่อยทั้งสองชนิดให้โตไปด้วยกันจนถึงเวลาเก็บเกี่ยว เมื่อถึงเวลานั้นแล้ว เราจะสั่งคนเกี่ยวว่า “มัดรวบรวมวัชพืชแล้วเผาไฟเสียก่อน แล้วจึงค่อยเก็บข้าวไว้ในยุ้งของเรา”’”
- อิสยาห์ 28:24 - คนไถนาก่อนที่จะหว่าน เขาไถดินเรื่อยไปหรือ เขาเบิกและไถคราดพื้นดินเรื่อยไปหรือ
- อิสยาห์ 28:25 - เมื่อเขาไกล่ผิวดินเสมอกันแล้ว เขาจะไม่โปรยเมล็ดยี่หร่า หว่านเมล็ดผักชี และปลูกข้าวสาลีเป็นแถว ปลูกข้าวบาร์เลย์ให้ถูกที่ และข้าวสาลีป่าตามขอบเขตหรือ
- อิสยาห์ 28:26 - เพราะเขาได้รับการสอนอย่างถูกวิธี พระเจ้าของเขาสอนเขา
- อิสยาห์ 28:27 - ไม่มีใครใช้คราดนวดเมล็ดผักชี หรือใช้ล้อเกวียนหมุนบดยี่หร่า แต่เขาจะใช้ไม้ตีเมล็ดผักชี และไม้ตะบองทุบยี่หร่า
- อิสยาห์ 28:28 - เมล็ดข้าวต้องถูกบดเพื่อทำขนมปัง แต่เขาไม่ทำเช่นนั้นตลอดไป แม้ว่าเขาจะขับเกวียนให้ล้อทับข้าว ม้าของเขาก็บดข้าวไม่ได้
- อิสยาห์ 28:29 - บทเรียนนี้มาจากพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา พระองค์เป็นที่ปรึกษาผู้ล้ำเลิศ และพระปัญญาของพระองค์ดีเลิศ
- 1 ทิโมธี 3:15 - ในกรณีที่ข้าพเจ้ามาช้า ท่านจะได้ทราบว่า ควรจะปฏิบัติตนอย่างไรในครอบครัวของพระเจ้า อันเป็นคริสตจักรของพระเจ้าผู้ดำรงอยู่ อีกทั้งเป็นหลักค้ำและเป็นรากฐานแห่งความจริง
- มัทธิว 13:3 - พระองค์กล่าวเป็นอุปมาให้เขาเหล่านั้นฟังหลายต่อหลายเรื่องว่า “ชาวไร่คนหนึ่งออกไปหว่านเมล็ดพืช
- มัทธิว 13:4 - ขณะที่เขากำลังหว่านเมล็ด บางเมล็ดตกลงตามทาง พวกนกพากันจิกกินเสียหมด
- มัทธิว 13:5 - บางเมล็ดตกลงบนหินซึ่งมีผิวดินเพียงเล็กน้อย ไม่ช้าเมล็ดก็งอกขึ้นเพราะดินไม่ลึก
- มัทธิว 13:6 - แต่เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นแดดส่อง เมล็ดเหล่านั้นก็ถูกแผดเผาเสีย และเป็นเพราะไม่มีรากจึงเหี่ยวแห้งไป
- มัทธิว 13:7 - บางเมล็ดตกลงท่ามกลางไม้หนามที่เติบโตขึ้นและแย่งอาหารไปเสีย
- มัทธิว 13:8 - บางเมล็ดที่ตกบนดินดี ก็ให้ผลเป็น 100 เท่า บ้างเป็น 60 บ้างเป็น 30 เท่าของที่ได้หว่านไว้
- มัทธิว 13:9 - ผู้ใดมีหู จงฟังเถิด”
- 2 โครินธ์ 6:16 - หรือวิหารของพระเจ้ากับรูปเคารพจะลงรอยกันได้อย่างไร เพราะเราเป็นวิหารของพระเจ้าผู้ดำรงอยู่ ตามที่พระเจ้ากล่าวว่า “เราจะอยู่กับเขา และเดินเคียงข้างไปกับพวกเขา เราจะเป็นพระเจ้าของเขา และพวกเขาจะเป็นชนชาติของเรา”
- สดุดี 65:9 - พระองค์เอาใจใส่พื้นแผ่นดินและรดน้ำให้ พระองค์ทำให้ดินสมบูรณ์ แม่น้ำของพระเจ้าเปี่ยมด้วยน้ำ พระองค์จัดหาธัญพืชให้ นี่คือการที่พระองค์เตรียมให้ไว้
- สดุดี 65:10 - พระองค์รดน้ำในไร่นาซึ่งพรวนและหว่านเมล็ดแล้ว ให้หน้าดินเรียบ ให้ดินร่วนด้วยฝน และโปรดให้พรให้พืชเติบโต
- สดุดี 65:11 - พระองค์มอบความอุดมสมบูรณ์ในปีอันยอดเยี่ยม ทิศทางใดที่พระองค์ผ่านไป ที่นั่นก็มีแต่ความเจริญงอกงาม
- สดุดี 65:12 - ทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มชุ่มชื่นใจ เนินเขาสุขสำราญใจในความยินดี
- สดุดี 65:13 - ที่ราบโล่งเต็มไปด้วยแพะแกะ หุบเขาประดับด้วยต้นข้าว ทุกสิ่งโห่ร้องด้วยความยินดี
- มัทธิว 16:18 - เราขอบอกเจ้าด้วยว่า เจ้าคือเปโตร เราจะสร้างคริสตจักรของเราบนหินนี้ และแม้พลังจากแดนคนตายก็ไม่อาจมีชัยต่อคริสตจักรนี้ได้
- สดุดี 80:8 - พระองค์นำเถาองุ่น ออกจากประเทศอียิปต์ พระองค์ขับไล่บรรดาประชาชาติออกไป และปลูกเถาองุ่นแทนที่
- สดุดี 80:9 - พระองค์เกลี่ยดินให้เรียบแล้วเถาองุ่นก็หยั่งรากลงลึก และเติบโตเลื้อยไปทั่วแผ่นดิน
- สดุดี 80:10 - ร่มเงาของมันคลุมไปทั่วเทือกเขา และกิ่งก้านปกไปทั่วต้นซีดาร์อันโอฬาร
- สดุดี 80:11 - กิ่งของมันยื่นไปไกลถึงทะเล และรากก็ยื่นไปถึงแม่น้ำ
- อิสยาห์ 61:3 - เพื่อจัดเตรียมให้กับบรรดาผู้ที่เศร้าโศกในศิโยน เพื่อมอบมงกุฎที่สวยงามแทนขี้เถ้าให้แก่พวกเขา และให้น้ำมันแห่งความยินดีแทนความเศร้าโศก เครื่องประดับแห่งการสรรเสริญแทนจิตวิญญาณที่สิ้นหวัง เพื่อพวกเขาจะได้รับเรียกว่า ต้นโอ๊กแห่งความชอบธรรม ที่พระผู้เป็นเจ้าปลูก เพื่อพระบารมีของพระองค์จะเป็นที่ประจักษ์”
- เศคาริยาห์ 6:12 - และบอกเขาดังนี้ว่า ‘พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวว่า นี่คือบุรุษที่ชื่ออังกูร เขาจะแตกหน่อออกไปจากที่ของเขา และเขาจะสร้างพระวิหารของพระผู้เป็นเจ้า
- เศคาริยาห์ 6:13 - เขานั่นแหละที่จะเป็นผู้สร้างพระวิหารของพระผู้เป็นเจ้า และจะได้รับเกียรติอันยิ่งใหญ่ จะนั่งปกครองบนบัลลังก์ของเขา และจะเป็นปุโรหิตบนบัลลังก์ของเขา การปฏิบัติงานทั้งสองจะประสานกันด้วยความสันติสุข’
- มัทธิว 21:23 - เมื่อพระองค์เข้าไปในบริเวณพระวิหาร พวกมหาปุโรหิตและพวกผู้ใหญ่ของประชาชนก็มาหาพระองค์ ขณะที่พระองค์กำลังสั่งสอนอยู่ พวกเขาพูดว่า “ท่านกระทำสิ่งเหล่านี้ด้วยสิทธิอำนาจอันใด และใครให้สิทธิอำนาจนี้แก่ท่าน”
- มัทธิว 21:24 - พระเยซูกล่าวตอบพวกเขาว่า “เราจะถามท่านอย่างหนึ่งด้วย ถ้าท่านบอกเรา เราก็จะบอกท่านเช่นกันว่าเรากระทำสิ่งเหล่านี้ด้วยสิทธิอำนาจอันใด
- มัทธิว 21:25 - บัพติศมาของยอห์นมาจากไหน จากสวรรค์หรือจากมนุษย์” เขาเหล่านั้นจึงเริ่มถามหาเหตุผลกันเองว่า “ถ้าพวกเราพูดว่า ‘มาจากสวรรค์’ เขาก็จะพูดว่า ‘แล้วทำไมท่านจึงไม่เชื่อเขา’
- มัทธิว 21:26 - แต่ถ้าพวกเราพูดว่า ‘มาจากมนุษย์’ เราก็กลัวฝูงชน เพราะทุกคนถือว่ายอห์นเป็นผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า”
- มัทธิว 21:27 - พวกเขาจึงตอบพระเยซูว่า “พวกเราไม่ทราบ” พระองค์กล่าวกับเขาว่า “เราก็จะไม่บอกท่านเช่นกันว่า เรากระทำสิ่งเหล่านี้ด้วยสิทธิอำนาจอันใด
- มัทธิว 21:28 - แต่ท่านคิดเห็นอย่างไรเล่า ชายคนหนึ่งมีบุตรชาย 2 คน เขามาพูดกับคนแรกว่า ‘ลูกเอ๋ย วันนี้เจ้าจงไปทำงานในสวนองุ่นเถิด’
- มัทธิว 21:29 - เขาตอบว่า ‘ข้าพเจ้าจะไม่ไป’ แต่ต่อมาเปลี่ยนใจ แล้วก็ไป
- มัทธิว 21:30 - เขามาพูดกับคนที่สองเช่นเดียวกัน แต่เขาตอบว่า ‘ข้าพเจ้าจะไป’ และเขาก็ไม่ได้ไป
- มัทธิว 21:31 - สองคนนี้คนไหนกระทำตามความประสงค์ของบิดาของเขา” พวกเขาตอบว่า “คนแรก” พระเยซูกล่าวว่า “เราขอบอกความจริงกับท่านว่า บรรดาคนเก็บภาษีและหญิงแพศยาจะเข้าสู่อาณาจักรของพระเจ้าก่อนพวกท่านเสียอีก
- มัทธิว 21:32 - เพราะยอห์นมาชี้ให้พวกท่านเห็นทางแห่งความชอบธรรม และท่านก็ไม่เชื่อเขา แต่บรรดาคนเก็บภาษีและหญิงแพศยาได้เชื่อเขา แม้ต่อมา ทั้งๆ ที่ท่านได้เห็นแล้ว แต่ก็ไม่ได้กลับใจและเชื่อเขา
- มัทธิว 21:33 - จงฟังคำอุปมาอีกเรื่องหนึ่ง มีเจ้าของสวนคนหนึ่งปลูกสวนองุ่นไว้ ซึ่งมีกำแพงที่สร้างล้อมไว้โดยรอบ และขุดบ่อเก็บเครื่องสกัดเหล้าองุ่น เขาสร้างหอคอยไว้และให้พวกชาวสวนเช่า แล้วก็เดินทางไปต่างประเทศ
- มัทธิว 21:34 - เมื่อถึงเวลาเก็บพืชผล เขาใช้บรรดาคนรับใช้ของเขาไปหาพวกคนเช่าสวน เพื่อรับส่วนปันผลของเขา
- มัทธิว 21:35 - พวกคนเช่าสวนจับตัวพวกผู้รับใช้ไว้ ทุบตีเสียคนหนึ่ง ฆ่าอีกคนหนึ่งและเอาหินขว้างอีกคนหนึ่ง
- มัทธิว 21:36 - เจ้าของสวนส่งพวกผู้รับใช้อีกกลุ่มไป ซึ่งมากคนกว่าครั้งแรก พวกคนเช่าสวนก็กระทำต่อเขาเหล่านั้นเหมือนครั้งแรก
- มัทธิว 21:37 - หลังจากนั้นเขาจึงส่งลูกชายของเขาไปหาคนเช่าสวนโดยคิดว่า ‘พวกเขาจะนับถือลูกของเราคนนั้น’
- มัทธิว 21:38 - แต่เมื่อพวกคนเช่าสวนเห็นลูกคนนั้นก็พูดกันว่า ‘คนนี้เป็นทายาท มาช่วยกันฆ่าเขาเถิด มรดกจะได้ตกเป็นของเรา’
- มัทธิว 21:39 - เขาทั้งหลายจึงจับตัวลูกคนนั้นโยนออกไปจากสวนองุ่นแล้วฆ่าเสีย
- มัทธิว 21:40 - ฉะนั้นเมื่อเจ้าของสวนองุ่นมา เขาจะทำอย่างไรกับพวกคนเช่าสวน”
- มัทธิว 21:41 - พวกเขาตอบว่า “เขาจะฆ่าคนชั่วร้ายเหล่านั้นอย่างแน่นอน และจะให้คนสวนอื่นเช่าสวนเสีย จะได้แบ่งปันผลให้แก่เขาเมื่อถึงเวลา”
- มัทธิว 21:42 - พระเยซูกล่าวว่า “ท่านไม่เคยอ่านในพระคัมภีร์หรือว่า ‘ศิลาที่พวกช่างก่อสร้างทิ้ง ได้กลายเป็นศิลามุมเอก พระผู้เป็นเจ้าได้กระทำการนี้ และเป็นสิ่งวิเศษยิ่งในสายตาของเรา’
- มัทธิว 21:43 - ฉะนั้น เราขอบอกท่านว่า อาณาจักรของพระเจ้าจะต้องถูกยึดไปจากท่าน และยกให้แก่ชนชาติหนึ่งที่จะผลิตผลได้ตามควร
- มัทธิว 21:44 - คนที่ล้มลงบนศิลานี้จะแตกหักกระจายเป็นชิ้นๆ หากแต่ศิลานั้นล้มทับผู้ใดแล้ว ผู้นั้นจะแหลกเป็นผุยผงไป”
- อิสยาห์ 61:11 - ด้วยว่า แผ่นดินโลกทำให้พืชงอก และสวนทำให้เมล็ดถูกหว่านและงอกขึ้นมาเช่นไร พระผู้เป็นเจ้า องค์พระเจ้าก็จะโปรดให้ความชอบธรรม และการสรรเสริญสะพรั่งขึ้น เพื่อประชาชาติทั้งปวงเช่นนั้น
- 1 โครินธ์ 3:6 - ข้าพเจ้าเป็นคนปลูกขณะที่อปอลโลรดน้ำ แต่พระเจ้าเป็นผู้ทำให้เติบโต
- 1 โครินธ์ 6:19 - ท่านไม่รู้หรือว่า ร่างกายของท่านเป็นวิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่อยู่ในตัวท่าน ซึ่งท่านได้รับจากพระเจ้า ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของตัวท่านเอง
- มาระโก 4:26 - พระองค์กล่าวว่า “อาณาจักรของพระเจ้าอุปมาเหมือนคนหนึ่งที่หว่านเมล็ดลงบนดิน
- มาระโก 4:27 - กลางคืนเขาก็นอน กลางวันก็ตื่น เมล็ดนั้นก็งอกและเติบโตขึ้น เขาเองไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร
- มาระโก 4:28 - ดินทำให้เกิดพืชผล งอกขึ้นเป็นต้นกล้าก่อน แล้วจึงออกรวง ซึ่งต่อมาก็จะมีเมล็ดเต็มรวง
- มาระโก 4:29 - เมื่อเมล็ดสุกเต็มที่ เขาก็ใช้เคียวเกี่ยวทันทีเพราะถึงเวลาเก็บเกี่ยวแล้ว”
- ยอห์น 4:35 - เจ้าไม่ได้พูดเช่นนี้หรือว่า ‘อีก 4 เดือนก็จะถึงฤดูเกี่ยวข้าวแล้ว’ เราขอบอกเจ้าว่า จงเปิดตาดูทุ่งนาอันเหลืองอร่ามเถิดว่าถึงเวลาเก็บเกี่ยวแล้ว
- ยอห์น 4:36 - ผู้เก็บเกี่ยวก็จะได้รับค่าแรง และรวบรวมพืชผลสำหรับชีวิตอันเป็นนิรันดร์ และเพื่อทั้งคนหว่านและคนเก็บเกี่ยวก็จะได้ชื่นชมยินดีร่วมกัน
- ยอห์น 4:37 - ในกรณีนี้ คำกล่าวนั้นเป็นความจริงที่ว่า ‘คนหนึ่งหว่าน และอีกคนเก็บเกี่ยว’
- ยอห์น 4:38 - เราส่งพวกเจ้าไปเก็บเกี่ยวสิ่งที่เจ้าไม่ได้ลงแรง คนอื่นๆ ได้ลงแรง และเจ้าได้รับประโยชน์จากแรงของเขา”
- มัทธิว 9:37 - พระองค์กล่าวกับเหล่าสาวกของพระองค์ว่า “ข้าวที่จะเก็บเกี่ยวมีอยู่มากมายแต่คนงานมีจำนวนน้อย
- กิจการของอัครทูต 4:11 - พระองค์คือ ‘ศิลาที่พวกท่านซึ่งเป็นช่างก่อสร้างทิ้ง ได้กลายเป็นศิลามุมเอก’
- มาระโก 16:20 - ดังนั้นพวกเขาจึงออกกันไปประกาศทุกแห่งหน ขณะที่พระผู้เป็นเจ้าทำงานร่วมกับพวกเขา และยืนยันคำประกาศด้วยปรากฏการณ์อัศจรรย์ที่เกิดขึ้นควบคู่กันไป]
- ยอห์น 15:1 - เราคือเถาองุ่นแท้ และพระบิดาของเราคือผู้ดูแลรักษาสวน
- ยอห์น 15:2 - พระองค์ตัดทุกกิ่งก้านที่เป็นส่วนหนึ่งของเราซึ่งไม่ออกผลทิ้งเสีย กิ่งก้านใดที่ผลิดอกออกผล พระองค์จะตัดแต่งให้ออกผลมากขึ้น
- ยอห์น 15:3 - บัดนี้พวกเจ้าสะอาดแล้วเพราะคำกล่าวที่เราได้ให้แก่เจ้า
- ยอห์น 15:4 - จงดำรงอยู่ในเราและเราจะดำรงอยู่ในพวกเจ้า กิ่งก้านจะให้ผลตามลำพังไม่ได้ นอกจากว่าจะติดอยู่กับเถาองุ่น พวกเจ้าจะเกิดผลเองไม่ได้ นอกจากเจ้าจะดำรงอยู่ในเรา
- ยอห์น 15:5 - เราคือเถาองุ่น ส่วนพวกเจ้าคือกิ่งก้าน ผู้ที่ดำรงอยู่ในเราและเราดำรงอยู่ในเขา ผู้นั้นก็จะให้ผลมาก หากแยกห่างจากเราไปแล้ว พวกเจ้าก็ทำอะไรไม่ได้
- ยอห์น 15:6 - ถ้าผู้ใดไม่ดำรงอยู่ในเรา เขาก็เหมือนกิ่งก้านที่จะถูกโยนทิ้งให้แห้งตาย รังแต่จะมีคนเก็บไปเผาไฟทิ้ง
- ยอห์น 15:7 - ถ้าเจ้าดำรงอยู่ในเรา และคำกล่าวของเราดำรงอยู่ในเจ้าแล้ว จงขอสิ่งที่เจ้าปรารถนา แล้วเจ้าก็จะได้รับสิ่งนั้น
- ยอห์น 15:8 - เมื่อเจ้าให้ผลมาก พระบิดาของเราก็ได้รับพระบารมี และพวกเจ้าก็จะเป็นบรรดาสาวกของเรา
- โคโลสี 2:7 - ฝังรากฐาน และมีชีวิตที่สร้างขึ้นจากพระองค์ ให้ความเชื่อเข้มแข็งขึ้นตามที่ได้รับการสอนมา และท่วมท้นด้วยการขอบคุณพระเจ้า
- 2 โครินธ์ 6:1 - ในฐานะที่พวกเราเป็นผู้ร่วมงานของพระเจ้า เราขอร้องท่านด้วยว่า อย่ารับพระคุณของพระเจ้าโดยไร้ประโยชน์
- 1 โครินธ์ 3:16 - ท่านไม่ทราบหรือว่าท่านเองเป็นวิหารของพระเจ้า และพระวิญญาณของพระเจ้าอยู่ในตัวท่าน
- 1 เปโตร 2:5 - ท่านทั้งหลายก็เช่นกัน ท่านเป็นดังศิลาที่มีชีวิต ซึ่งกำลังถูกสร้างให้เป็นเรือนฝ่ายวิญญาณ เพื่อเป็นปุโรหิตผู้บริสุทธิ์ที่ถวายเครื่องสักการะฝ่ายวิญญาณ อันเป็นที่พอใจของพระเจ้าโดยผ่านพระเยซูคริสต์
- เอเฟซัส 2:20 - ได้รับการเสริมสร้างขึ้นบนฐานรากของพวกอัครทูตและบรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า โดยมีพระเยซูคริสต์เป็นศิลามุมเอก
- เอเฟซัส 2:21 - พระองค์เป็นผู้ทำให้ทั้งเรือนเชื่อมต่อกันและขยายต่อเติมขึ้นเป็นวิหารอันบริสุทธิ์แด่พระผู้เป็นเจ้า
- เอเฟซัส 2:22 - พวกท่านก็กำลังถูกสร้างขึ้นด้วยกันในพระองค์ ให้เป็นที่สถิตของพระวิญญาณของพระเจ้าเช่นกัน