旧约
- ปฐมกาลปฐมกาล
- อพยพอพยพ
- เลวีนิติเลวีนิติ
- กันดารวิถีกันดารวิถี
- เฉลยธรรมบัญญัติเฉลยธรรมบัญญัติ
- โยชูวาโยชูวา
- ผู้วินิจฉัยผู้วินิจฉัย
- รูธรูธ
- 1 ซามูเอล1 ซามูเอล
- 2 ซามูเอล2 ซามูเอล
- 1 พงศ์กษัตริย์1 พงศ์กษัตริย์
- 2 พงศ์กษัตริย์2 พงศ์กษัตริย์
- 1 พงศาวดาร1 พงศาวดาร
- 2 พงศาวดาร2 พงศาวดาร
- เอสราเอสรา
- เนหะมีย์เนหะมีย์
- เอสเธอร์เอสเธอร์
- โยบโยบ
- สดุดีสดุดี
- สุภาษิตสุภาษิต
- ปัญญาจารย์ปัญญาจารย์
- เพลงซาโลมอนเพลงซาโลมอน
- อิสยาห์อิสยาห์
- เยเรมีย์เยเรมีย์
- เพลงคร่ำครวญเพลงคร่ำครวญ
- เอเสเคียลเอเสเคียล
- ดาเนียลดาเนียล
- โฮเชยาโฮเชยา
- โยเอลโยเอล
- อาโมสอาโมส
- โอบาดีห์โอบาดีห์
- โยนาห์โยนาห์
- มีคาห์มีคาห์
- นาฮูมนาฮูม
- ฮาบากุกฮาบากุก
- เศฟันยาห์เศฟันยาห์
- ฮักกัยฮักกัย
- เศคาริยาห์เศคาริยาห์
- มาลาคีมาลาคี
新约
- มัทธิวมัทธิว
- มาระโกมาระโก
- ลูกาลูกา
- ยอห์นยอห์น
- กิจการของอัครทูตกิจการของอัครทูต
- โรมโรม
- 1 โครินธ์1 โครินธ์
- 2 โครินธ์2 โครินธ์
- กาลาเทียกาลาเทีย
- เอเฟซัสเอเฟซัส
- ฟีลิปปีฟีลิปปี
- โคโลสีโคโลสี
- 1 เธสะโลนิกา1 เธสะโลนิกา
- 2 เธสะโลนิกา2 เธสะโลนิกา
- 1 ทิโมธี1 ทิโมธี
- 2 ทิโมธี2 ทิโมธี
- ทิตัสทิตัส
- ฟีเลโมนฟีเลโมน
- ฮีบรูฮีบรู
- ยากอบยากอบ
- 1 เปโตร1 เปโตร
- 2 เปโตร2 เปโตร
- 1 ยอห์น1 ยอห์น
- 2 ยอห์น2 ยอห์น
- 3 ยอห์น3 ยอห์น
- ยูดายูดา
- วิวรณ์วิวรณ์
圣经版本
设置
显示节号
显示标题
显示脚注
逐节分段
ผู้เลี้ยงดูฝูงแกะที่ดี
1เราขอบอกความจริงกับท่านว่า ผู้ที่ไม่ได้เข้าไปในคอกแกะทางประตู แต่ปีนเข้าไปทางอื่นถือว่าเป็นขโมยและโจร
2แต่ผู้ที่ผ่านเข้าทางประตูถือเป็นผู้เลี้ยงดูฝูงแกะ
3ผู้เฝ้าประตูจึงจะเปิดประตูให้ผู้นั้น และแกะก็ได้ยินเสียงของท่าน ท่านเรียกแกะของท่านเองตามชื่อ และนำออกไป
4เมื่อท่านนำแกะของท่านทุกตัวออกไปแล้ว ท่านจึงเดินนำหน้าไป และแกะก็ติดตามท่านไปเพราะจำเสียงของท่านได้
5แกะจะไม่ติดตามคนแปลกหน้าไป ซ้ำยังจะหนีไปจากเขา เพราะว่าไม่รู้จักเสียงของคนแปลกหน้า”
6คำสั่งสอนที่เป็นความเปรียบนี้พระเยซูกล่าวให้เขาฟัง แต่พวกเขาไม่เข้าใจว่าสิ่งที่พระองค์พูดถึงนั้นหมายถึงอะไร
7ฉะนั้น พระเยซูกล่าวกับพวกเขาต่อไปอีกว่า “เราขอบอกความจริงกับท่านว่า เราคือประตูของแกะทั้งหลาย
8ทุกคนที่มาล่วงหน้าเราคือขโมยและโจร แต่บรรดาแกะไม่ได้ฟังพวกเขา
9เราคือประตู ถ้าผู้ใดเข้าโดยผ่านเรา ผู้นั้นก็จะรอดพ้น เขาจะเข้าออกได้และจะพบทุ่งหญ้า
10ขโมยมาเพื่อลักขโมย ฆ่าและทำลายเท่านั้น เรามาเพื่อให้คนเหล่านั้นมีชีวิตและมีอย่างอุดมสมบูรณ์
11เราคือผู้เลี้ยงดูฝูงแกะที่ดี เพราะผู้เลี้ยงดูฝูงแกะที่ดีย่อมสละชีวิตของตนเพื่อฝูงแกะ
12ผู้รับจ้างไม่ใช่เจ้าของแกะ และไม่ใช่ผู้เลี้ยงดูฝูงแกะ พอเขาเห็นสุนัขป่ามาก็ทอดทิ้งฝูงแกะแล้วหนีไป สุนัขป่าจะคว้าคาบแกะไป ทำให้แกะทั้งฝูงวิ่งหนีกันเตลิดเปิดเปิง
13เขาหนีไปโดยไม่ห่วงฝูงแกะเพราะเขาเป็นเพียงผู้รับจ้าง
14เราคือผู้เลี้ยงดูฝูงแกะที่ดีและรู้จักแกะของเรา แกะก็รู้จักเราด้วย
15เหมือนกับที่พระบิดารู้จักเราและเรารู้จักพระบิดา และเราสละชีวิตของเราเพื่อฝูงแกะ
16เรามีแกะอื่นๆ ที่ไม่ได้มาจากคอกนี้ เราต้องพาพวกนั้นมาด้วย และแกะเหล่านั้นจะฟังเสียงของเรา รวมกันเป็นฝูงเดียว โดยมีผู้เลี้ยงดูเพียงผู้เดียว
17ด้วยเหตุนี้พระบิดาจึงรักเรา เพราะว่าเราสละชีวิตของเราซึ่งเป็นชีวิตที่เราจะได้รับคืนมาอีก
18ไม่มีผู้ใดเอาชีวิตไปจากเรา แต่เราสละชีวิตด้วยความสมัครใจ เรามีสิทธิอำนาจที่จะสละชีวิตและมีสิทธิอำนาจที่จะรับคืนอีก เราได้รับบัญชานี้จากพระบิดาของเรา”
19เป็นเพราะคำกล่าวนี้ชาวยิวจึงมีความคิดแตกแยกกันอีก
20หลายคนพูดกันว่า “เขามีมารสิงอยู่และเสียสติ ท่านจะมัวแต่ฟังเขาอยู่ทำไม”
21บางคนพูดว่า “นั่นไม่ใช่คำกล่าวของคนที่มีมารสิง มารทำให้คนตาบอดมองเห็นได้หรือ”
ความไม่เชื่อของชาวยิว
22ขณะนั้นที่เมืองเยรูซาเล็มเป็นเทศกาลอุทิศพระวิหารซึ่งอยู่ในฤดูหนาว
23และพระเยซูก็กำลังเดินที่เฉลียงของซาโลมอนในบริเวณพระวิหาร
24ชาวยิวจึงได้มาห้อมล้อมพระองค์และพูดกับพระองค์ว่า “ท่านจะให้เราสงสัยไปอีกนานแค่ไหน ถ้าท่านเป็นพระคริสต์ก็บอกเราตรงๆ เถิด”
25พระเยซูตอบพวกเขาว่า “เราบอกพวกท่านแต่ท่านไม่เชื่อ สิ่งที่เรากระทำในพระนามของพระบิดาของเรายืนยันอยู่
26ท่านไม่เชื่อเพราะท่านไม่ได้เป็นแกะของเรา
27แกะของเราย่อมฟังเสียงและติดตามเรา เรารู้จักแกะเหล่านั้นดี
28เราให้ชีวิตอันเป็นนิรันดร์แก่แกะเหล่านั้น และแกะพวกนั้นจะไม่มีวันพินาศ และจะไม่มีผู้ใดที่จะแย่งไปจากมือเราได้
29พระบิดาของเราคือผู้ที่ได้มอบแกะเหล่านั้นให้แก่เรา พระองค์ยิ่งใหญ่เหนือทุกสิ่ง ไม่มีผู้ใดที่สามารถแย่งชิงแกะไปจากมือของพระบิดาได้
30เราและพระบิดาเป็นหนึ่งเดียวกัน”
31พวกชาวยิวหยิบก้อนหินขึ้นอีกเพื่อจะขว้างพระองค์
32พระเยซูบอกพวกเขาว่า “เราได้แสดงให้ท่านเห็นผลงานดีๆ จากพระบิดามากมาย แล้วท่านจะขว้างเราเพราะการกระทำในข้อใด”
33พวกชาวยิวตอบว่า “พวกเราไม่ขว้างท่านในส่วนที่ออกมาดี แต่ขว้างในส่วนที่เป็นการพูดจาหมิ่นประมาทพระเจ้า เพราะว่าท่านเป็นมนุษย์ แต่กลับตั้งตนเป็นพระเจ้า”
34พระเยซูตอบพวกเขาว่า “ไม่มีบันทึกในกฎบัญญัติของท่านหรือว่า ‘เราได้กล่าวว่าพวกเจ้าคือบรรดาเทพเจ้า’10:34 สดุดี 82:6
35ถ้าพระองค์เรียกพวกเขาซึ่งเป็นพวกที่ได้รับคำกล่าวของพระเจ้าว่า บรรดาเทพเจ้า (และพระคัมภีร์เปลี่ยนไม่ได้)
36ทำไมท่านจึงพูดถึงผู้ที่พระบิดาได้อุทิศให้และส่งเข้ามายังโลกว่า ‘ท่านพูดจาหมิ่นประมาทพระเจ้า’ เพราะเราพูดว่า ‘เราคือบุตรของพระเจ้า’
37ถ้าเราไม่กระทำการงานที่เป็นของพระบิดาของเราแล้ว ก็จงอย่าเชื่อเราเลย
38แต่ถ้าเรากระทำการงานเหล่านั้น แม้ว่าท่านไม่เชื่อเรา ก็จงเชื่อในการงานเพื่อว่าท่านจะได้รู้และเข้าใจว่า พระบิดาอยู่ในเรา และเราอยู่ในพระบิดา”
39ฉะนั้นเขาเหล่านั้นจึงได้พยายามที่จะจับกุมพระองค์อีก แต่พระองค์ก็รอดพ้นจากมือของพวกเขาไปได้
40จากนั้นพระองค์ก็เดินทางข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปยังที่ที่ยอห์นเคยให้บัพติศมาก่อนหน้านั้น และพักอยู่ที่นั่น
41มีคนจำนวนมากมาหาพระองค์และพูดกันเองว่า “ยอห์นไม่ได้แสดงปรากฏการณ์อัศจรรย์เลย แต่ทุกสิ่งที่ยอห์นพูดไว้เกี่ยวกับชายผู้นี้เป็นความจริง”
42และทำให้หลายคนในที่นั้นเชื่อในพระองค์
New Thai Version Foundation